ความคิดเห็นที่ 1 อืม แต่มันก้อฮิตจิงๆ จากคุณ : supergaye (supergaye) - [ 26 พ.ย. 50 15:53:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขออนุญาตให้เพื่อนๆ ช่วยโหวตทู้นี้นะคะ เห็นทู้บาชิมีทุกวันเลย บางทีผู้ที่มีข้อมูลก็ตามไปตอบไม่ทัน ขอให้โหวตให้เห็นกันเลยค่ะ จะได้เลี่ยงไม่ใช้ ใครมีเพื่อนใช้ ก็เตือนๆ ส่งกระทู้ให้ด้วยนะคะ มันไม่ใช่เรื่องสนุกที่อยากสวยแต่ต้องป่วยอีก 5 ปี 7 ปี ทุกวันนี้ อากาศมันแย่ มลภาวะเยอะ เสี่ยงเป็นโรคอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะแล้ว อย่าเสี่ยงเพราะห่วงสวย ไปเพิ่มโรค(มะเร็ง, ไต ฯลฯ) ให้ตัวเองอีกเลย ไม่ขาวไม่ตาย แต่การอยากขาวโดยไม่หาข้อมูลก่อน อาจจะทำให้ตาย... จากคุณ : นู๋ ม. - [ 26 พ.ย. 50 16:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โหวตตตตตตตต จากคุณ : s.o.s - [ 26 พ.ย. 50 16:28:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตามเสียงเรียกมาจ้า เห็นด้วยกับนู๋ ม.อีกแล้ว (ลอกคำตอบชาวบ้านประจำ) ว่าแล้วก็คลิกโหวต จากคุณ : มิถุนายน - [ 26 พ.ย. 50 16:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แป่ว ขายซะแพง จริงๆแล้วไม่ได้ต่างอะไรกะครีมขมิ้นไพล ผสมสารปรอทของไทย เลยเนอะ 5 555 น่ากลัวจริงๆ จากคุณ : kornna - [ 26 พ.ย. 50 16:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 Vote ka อย่าตายก่อนสวยเลยค่ะเพื่อนๆ อีกอย่างหนึ่งการฉีดกลูต้าที่กำลังฮิตอยู่ อาจจะยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าอันตรายต่อสุขภาพแค่ไหน แต่อยากให้เพื่อนๆสวยจากภายในตามธรรมชาติกันค่ะ ทานน้ำ ทานผักเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้แจ่มใสนะคะ เห็นผลช้าหน่อย แต่ได้สุขภาพนะคะ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 50 17:38:39 จากคุณ : เป็นห่วงค่ะ (Essie) - [ 26 พ.ย. 50 17:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แถมอีก กระทู้เกี่ยวกับการฉีดกลูต้าฯ http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q5984324/Q5984324.html เตือนภัยการฉีด Glutathione สาร Glutathione สำหรับทำให้ผิวขาวที่กำลังเป็นที่นิยม นพ. สมนึก อมรสิริพาณิชย์ อเมริกันบอร์ดทางผิวหนัง สารตัวนี้มีลักษณะ เป็นอณูของโปรตีนที่เกิดจาก กรด อะมิโน 3 ชนิด มาประกอบกันคือ Cysteine Glutamate และ Glycine โดยปกติเซลล์ในร่างกายสามารถสร้างเองได้ จากกระบวนปฏิกิริยา ชีวเคมีในเซลล์ทั่วไป แต่ที่ทำงานสร้าง สารนี้มากที่สุดก็คือ ที่ตับของเรา การสร้างสารนี้ต้องอาศัย เอนไซม์ อย่างน้อย 2 ชนิด ดังนั้น หากมียีนผิดปกติเกี่ยวกับเอนไซม์ ทั้ง2 ชนิดนี้ก็จะไม่สามารถสร้างสารตัวนี้ได้ สารชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมสารอณุมูลอิสระในร่างกาย การสร้างสารซ่อมแซม เซลล์ และ ทำปฏิกิริยาขจัดสารพิษที่เกิดในร่างกาย หากการสร้างสารนี้ผิดปกติหรือไม่สร้าง จะทำให้เสียชีวิตใน1-2 เดือนหลังคลอดได้ สารชนิดนี้เมื่อถูกสร้างก็จะถูกใช้ไปเป็นลำดับ หาก การใช้มีมากก็ต้องทดแทนมากขึ้นโดยการสร้าง ถ้ามีการวัดสาร Glutathione ว่าถูกใช้ไปเท่าไรก็จะสามารถบ่งบอกสภาวะความเครียดของร่างกายได้ การให้สาร Glutathione ทดแทนและเสริมนั้นสามารถทำได้โดยการรับประทาน สารที่เป็นวัตถุดิบคือ N-acetyl cysteine หรือรับประทานอาหาร ที่มีสารวัตถุดิบหลักนี้ตามธรรมชาติ เช่น รับประทาน yogurt, granola, duck, oatmeal flakes, toasted wheat germ, cottage cheese แต่การกินสาร Glutathione โดยตรงจะไม่สามารถดูดซึมได้ดีเท่าที่ควร ความนิยมทีใช้สาร Glutathione เพื่อให้ผิวขาวขึ้นนั้น อาจจะมาจาก ความพยายามที่จะให้สาร Glutathione ไปยับยั้งการสร้าง เม็ดสี เพราะสาร Glutathione สามารถกดการทำงานของของเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีได้ชั่วคราว แต่ทำไมถึงต้องนำมาฉีดกัน คำตอบง่ายๆก็คือ พยายามทำให้ซับซ้อนขึ้นจะได้ต้องมาพบแพทย์ เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้นเอง เพราะ เราสามารถรับประทานอาหารที่เสริมสร้าง Glutathione ได้โดยตรงหรือ สามารถรับประทาน N-acetyl cysteine เสริมก็ได้ มีราคาประหยัดว่า และ ปลอดภัยกว่า โทษของการฉีดสาร Glutathione มีหรือ ไม่ น่าจะต้องมีเพราะ ปฏิกิริยาในการสร้าง สารนี้ถูกจำกัดด้วยเอนไซม์โดยตรงที่ต้องหยุดสร้างเพื่อรักษาสมดุล ดังนั้นสารนี้จึงห้ามมีมากเกินไปในธรรมชาติ หากจะอ้างเรื่องการฉีดเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วย คงต้องมีการเจาะวัดระดับ สารตัวนี้ว่าอยู่ในระดับที่สมดุลหรือไม่เป็นการควบคุมโดยตรงในทุกครั้งที่มีการฉีดจึงจะมีเหตุผล การฉีดสารนี้มีการทำกันเฉพาะกรณี ฉุกเฉินและเป็นกังวลต่อชีวิต เช่น การฉีดเพื่อรักษากล้ามเนื้อ หัวใจขาดเลือดเพราะมีเส้นเลือดอุดตัน หรือ ฉีดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ระหว่างการผ่าตัดทำ cardiopulmonary bypass ทั้งนี้เพราะสาร Glutathione สามารถกระตุ้นการสร้าง Nitric oxide ซึ่งมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดได้ แต่การขยายตัวของเลือดจะทำให้เกิดความดันต่ำและทำให้หัวใจเกิดปัญหาได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกร็ดเลือดไม่จับตัวกันทำให้เลือดหยุดช้ากว่าปกติ มีผู้รู้หลายท่าน มีความกังวลว่าหากมีสาร Glutathione ในร่างกายมากเกินไปจะสามารถทำให้มะเร็งลุกลามได้เร็วกว่าปกติ เพราะเลือดสามารถไปเลี้ยงมะเร็งได้มากขึ้น และกระบวนการทำลายมะเร็งก็จะลดประสิทธิภาพลง บทความนี้จึงมีไว้เตือนผู้บริโภคที่กำลังสับสนกับการบริการของแพทย์ที่ ด่วนสรุปและเห็นแต่ผลดี แต่ยังไม่รอบคอบที่จะมองอะไรอะไร ในระยะยาว ตามหน้าที่ของตนเอง เครดิตจากเวบ http://svjclinic.com/html/Glutathione.htm เจอมาเลยเอามาให้อ่านนะคับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 50 01:20:16 จากคุณ : 2nd_Love  - [ 4 พ.ย. 50 01:19:10 ] ++++ คห. อื่นๆ ทั้งเห็นด้วยและขัดแย้งไปตามอ่านเองเน้อ ข้าพเจ้าขอมาแปะไว้เฉยๆ พอ จากคุณ : นู๋ ม. - [ 26 พ.ย. 50 17:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q6063071/Q6063071.html อันนี้ด้วย อยากให้อ่านกันนะคะ ท้ายนี้ เป็นเรื่องของเฉพาะบุคคลค่ะ เราในฐานะเพื่อนร่วมบอร์ดไม่มีสิทธิไปห้ามไม่ให้คุณใช้ครีมที่ อย. บอกว่าอันตราย หรือไม่ให้ไปฉีดกลูต้าฯ ถ้าคุณเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ก็ไม่ใช่ความผิดของเรา คนที่รักคุณเองและตัวคุณเองที่จะเสียใจ (ถ้าไม่เป็นอะไรก็แล้วไปนะ) บอกเฉยๆ นะตัว ไม่ได้แช่ง อย่าเข้าใจผิด ที่บอกๆ กัน เพราะเราๆ เป็นห่วงคนอื่นค่ะ ไม่อยากให้มีความเสี่ยงอะไรเพิ่มขึ้น อีกอย่าง จะขาวจะดำ มันไม่ใช่เรื่องที่จะบอกว่าคุณสวยไม่สวย ทุกคนสวย ทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง อย่าเดินไปตามทางโฆษณา อย่าเดินไปตามค่านิยมมากนักว่า "ขาวจึงสวย" คุณสวย เพราะคุณรู้คุณค่าในตัวเองมากกว่าเพราะใครสักคนมาชี้นำให้คุณเป็นโน่นเป็นนี่ เป็นอะไรที่ขัดธรรมชาติของคุณ เคยคิดกันบ้างไหมคะ ค่านิยมความขาว ใครกำหนดกัน พวกบริษัท พวกธุรกิจความงามกำหนดไว้ พวกนี้สร้างค่านิยมปั่นหัวคุณ ให้คุณคิดเองว่าขาวจึงสวย ในประเทศที่คนผิวสองสีมากมายขนาดนี้ เพื่อพวกเขาจะได้เงินจากกระเป๋าคุณมากๆ นั่นเอง ให้ยาคุณใช้ ให้ยาคุณทาน ให้คอร์สคุณลง ถ้าเป็นประเทศฝรั่ง เขาก็จะแทนสวย เพราะฝรั่งขาว ออกผลิตภัณฑ์ผิวแทนมา เขาจะได้ขายได้ด้วย (โอเคมันก็มีปัจจัยทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจอื่นๆ ด้วย ไม่ขอกล่าวที่นี้ เด๋วยาว) ดำสวย ขาวสวย คุณคิดไปเองค่ะ สุขภาพที่ดีต่างหาก คือ ความสวยของผู้หญิงอย่างแท้จริง แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 50 18:04:32 จากคุณ : นู๋ ม. - [ 26 พ.ย. 50 17:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบมากๆๆๆ  โหวตให้ทู้นี้ค่ะ  จะได้เป็นข้อคิดเตือนใจสาวๆที่อยากสวยจนมองข้ามความปลอดภัย  หรือลืมนึกถึงอันตรายต่างๆ จากคุณ : Nu~pa-pEE - [ 26 พ.ย. 50 19:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โหวตด้วยคนค่ะ จากคุณ : mochi_momo - [ 26 พ.ย. 50 19:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9500000140331 อย.ชี้สารฉีดให้ผิวขาวเด้งสุดอันตราย เผย “สารกลูตาไธโอน” ที่ใช้ฉีดยังไม่ขึ้นทะเบียนกับอย. ประโยชน์ที่แท้จริงอิตาลีใช้รักษามะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ผลข้างเคียงทำให้ผิวขาวชั่วคราว จับตาเอาผิดแพทย์ที่ให้บริการ ฟันผิดมาตรฐานการรักษา สถานพยาบาลนำเข้า รักษาผิดกฎหมาย             วันนี้ (26 พ.ย.) นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวถึงกรณีที่คลินิกผิวหนังหลายแห่งนำสารกลูตาไธโอนฉีดเข้าสู่ร่างกายเพื่อทำให้ผิวขาวนั้น ว่า ขณะนี้อย.ยังไม่มีการอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนสารกลูตาไธโอน (GLUTATHIONE) เพื่อใช้ในการรักษาโรคใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าในประเทศอิตาลีจะมีการขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตถูกต้องแต่ก็มีการนำสารดังกล่าวในการรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งกระเพาะอาหารเท่านั้น ส่วนการทำให้ผิวขาวขึ้นถือเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาดังกล่าว             “การนำสารตัวนี้มาฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือเส้นเลือดเองในปริมาณที่มากตามที่เป็นข่าวคือประมาณ 600 มิลลิกรัมต่อหลอด ถือว่าเสี่ยงอันตรายมาก เพราะอาจทำให้เกิดการแพ้ยาถึงขั้นช็อคและเสียชีวิตได้ การฉีดสารดังกล่าวในปริมาณมากเกินไปไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะสารทุกอย่างต้องได้รับปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งในเครื่องสำอางทั่วไปพบว่ามีการผสมลงไปบ้าง แต่เพียง 0.000001-0.000005% เท่านั้น แม้ว่ายังไม่มีข้อมูลว่าใช้สารในปริมาณเท่าใดและนานเท่าใดจึงเป็นอันตรายแต่ก็ไม่ควรฉีดเข้าเส้นเพราะมีอาการเสี่ยง และที่สำคัญเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ เพราะไปหยุดการสร้างเอ็นไซม์เม็ดสีที่เป็นธรรมชาติของคนผิวเอเชีย ที่เป็นสีคล้ำ ทำให้ผิวคนเอเชียจากที่เคยกรองแสงอัลตร้าไวโอเลตได้มากก็ทำให้กรองได้ลดลง นอกจากนี้เม็ดสีในตาดำของคนเอเชียจะกรองแสงได้ลดลงมีอันตรายต่อจอประสาทตา”นพ.ศิริวัฒน์ กล่าว นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่คลินิกผิวหนังหลายแห่งให้บริการสารดังกล่าวนำสารดังกล่าวมาใช้นั้น ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลแต่อย่างใด หากพบว่ามีความผิดจริง โดย อย.รับผิดชอบในตัวของสาร หากเข้าไปตรวจพบสารดังกล่าวมีความผิดฐานมีการใช้ยาโดยไมได้อนุญาตตามพ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5 พันบาท และหากมีการโฆษณาสารดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดปรับไม่เกิน 1 แสนบาท แต่หากสถานพยาบาลมีความผิดก็ดำเนินการโดยกองประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และหากตัวแพทย์ที่ดำเนินการประกอบวิชาชีพเวชกรรมก็เป็นหน้าที่ของแพทยสภา             “เนื่องจากสารดังกล่าวยังถือว่าเป็นการปฏิบัติทางการแพทย์ที่ไม่ถูกต้อง เพราะยังไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ แพทย์ที่ฉีดสารดังกล่าวให้ถือว่าผิดจรรยาบรรณ สามารถฟ้องร้องแพทยสภาได้ ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมผิดมาตรฐานทางการแพทย์ แต่หากไม่ใช่แพทย์ก็ถือว่ามีความผิด ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้เป็นไปตามพ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 หากใครพบข้อมูลอย่างใดสามารถแจ้งมาได้ที่อย.”นพ.ศิริวัฒน์ กล่าว             นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า จากการสืบค้นข้อมูลทางวิชาการพบว่า หน้าที่หลักของสารกลูตาไธโอนประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ คริสทีอีน(Cysteine) ไกลซีน(Glycine)และ กลูตามิค เอซิด (Glutamic Acid) โดยสารดังกล่าวช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่างๆ เพื่อขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ทั้งยาฆ่าแมลง โลหะหนัก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ร่างกายได้รับ นอกจากนี้ยังช่วยในการสร้างเอ็นไซม์ต้านอนุมูลอิสระ โดยทำหน้าที่ร่วมกับวิตามินซี ซึ่งได้ร่วมกันซ่อมแซมสารพันธุกรรมที่อาจเปลี่ยนแปลงการเป็นมะเร็งได้ และยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ไทซิเนส(Tysinase) ไม่ให้สามารถเปลี่ยนเป็นโดปาควินโนน( Dopaquinone) ซึ่งมีผลทำให้สร้างเม็ดสีน้อยลง ทำให้มีผิวขาวชั่วคราว             “การที่สารดังกล่าวทำให้ผิวขาว ถือเป็นผลทางอ้อม เป็นการนำผลข้างเคียงมาใช้ ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของสารดังกล่าวโดยตรง และยังไม่พบว่ามีการหลักฐานทางการแพทย์ที่ยืนยันชัดเจน ขณะที่สารดังกล่าวก็มีอยู่ในธรรมชาติจากการบริโภคอาหารอยู่แล้ว โดยเฉพาะในเนื้อสัตว์ ผลไม้ เช่น อโวคาโด หากรับประทานอาหารในแต่ละวันอย่างหลากหลายครบทั้ง 5 หมู่ก็เพียงพออยู่แล้ว”นพ.ศิริวัฒน์ กล่าว             นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ข้อแนะนำในการรับประทานคือห้ามทานเกิน 250 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้น การที่มีโฆษณาในอินเทอร์เน็ตจำหน่ายตั้งแต่ 500- 1,000 มิลลิกรัมนั้นก็ไม่ควรเชื่อถือและซื้อมาบริโภค ขณะนี้ได้ประสานงานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในการตามหาตัวผู้ลงโฆษณาในอินเทอร์เน็ตที่จำหน่ายสารดังกล่าวด้วย             “การฉีดสารดังกล่าวเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรงนั้น ถือว่ามีอันตรายอย่างมาก เนื่องจากอาจเกิดอาการแพ้อย่างเฉียบพลันถึงขั้นช็อคและเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะหากฉีดในสถานที่ที่ไม่มีเครื่องมือช่วยในการช่วยชีวิต หากเกิดอาการแพ้ก็ทำให้เสี่ยงอย่างมาก ยิ่งหากซื้อสารดังกล่าวจากอินเทอร์เน็ตมาฉีดเองเป็นเรื่องอันตรายมาก”นพ.ศิริวัฒน์ กล่าว แล้วแต่บุคคลค่ะ ทาง อย. ออกมาเตือนแล้ว ยาที่เขาไว้รักษาคนเป็นมะเร็ง มาฉีดให้คนปกติ ลองคิดดูนะจะเป็นอะไร นอกจากนั้นการสร้างเม็ดสีในตาจะน้อยลงด้วย (ตามข่าว) ถ้าขาวสวยแล้วมองไม่เห็นนี่น่ากลัวนะคะ จากคุณ : นู๋ ม. - [ 26 พ.ย. 50 20:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตามป้ายโฆษณาของน้องมีนฉุดฉวยมาก  ก๊ากกกกกก มีประโยชน์มากๆจริงด้วยนะน้องมีน  ว่าแล้วพี่กดโหวตให้หนึ่งจึ๊กจ้า จากคุณ : ตัวเล็กอ้วน - [ 26 พ.ย. 50 20:21:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หน้าม้ามาเต็ม ก๊ากๆๆๆ จากคุณ : นู๋ ม. - [ 26 พ.ย. 50 20:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ชอบอ่านเวลาคุณหนูม.คอมเมนท์จัง..ดูหลายกระทู้แล้วช๊อบชอบ รู้ป้ะตะเองว่ามีคนแอบปลื้ม 555+ ป.ล. มาโหวตค่า จากคุณ : PaNDoRa-ParsellE - [ 26 พ.ย. 50 20:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Vote ค่า ขอเสริมด้วยว่า หลังจากได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับธุรกิจนี้ ถึงได้รู้ว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ไม่ใช่สารเคมี ที่กลัวกันนักหนาหรอ   ความโลภต่างหากที่น่ากลัวที่สุด  ผู้ผลิตที่ทำตัวว่าน่าเชื่อถือ มีสถาบันนู่นนี่รับรอง แต่เบื้องหลังแสนจะไร้คุณธรรม มีแต่ความโลภ หวังแต่กำไร ผู้บริโภคก็ไม่รู้เลยว่าเค้าเอาอะไรมาให้ตัวกิน-ใช้ รู้แต่ว่าอยากสวย นานไปตับพัง แถมจะเป็นเมร็งเมื่อไรก็ไม่รู้   เฮ้ออนิจจัง เมื่อความอยาก มาเป็นเหยื่อของความโลภ จึงเป็นโศกนาฏกรรมความสวย ด้วยประการฉะนี้...  คนซื้อตายคนขายอู้ฟู่ จากคุณ : jariris (jariris) - [ 26 พ.ย. 50 20:37:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอโหวตค่ะ   จะได้เป็นกระทู้เตือนใจสาวๆ ก่อนตัดสินใจไปฉีด จากคุณ : ladywitch - [ 26 พ.ย. 50 21:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 vote จากคุณ : pigpatp - [ 26 พ.ย. 50 23:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตามมาช่วยๆๆๆ จากคุณ : น้ำหวาน - [ 27 พ.ย. 50 01:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มะกล้าใช้ครีมที่ทาแล้วหน้าเด้ง..หรือขาววอกอ่ะค่ะ ขอดำเนียนๆ..กระชากใจใครบางคนก็พอ.. น่ากลัวๆ.... จากคุณ : ส้มน้อยน่ารักผู้พิทักษ์คุณธรรม - [ 27 พ.ย. 50 02:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เคยใช้แต่เลิกใช้มานานแล้ว น่ากลัวมากกก จากคุณ : kiku_mochi - [ 27 พ.ย. 50 03:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขาวจัดๆไม่ได้แปลว่าจะสวย แถมยังต้องมาตายผ่อนส่งเพราะใช้ครีมนี้อีก แย่จังวุ้ย ฝรั่งใครๆก็อิจฉาผิวน้ำผึ้งคนไทย เลิกทำผิวขาวมาทำผิวแทนดีกว่า คริคริ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 50 04:36:18 จากคุณ : BB (BungBing1986) - [ 27 พ.ย. 50 04:35:33 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Vote จ้า จากคุณ : yanglob - [ 27 พ.ย. 50 07:37:50 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ช่วยโหวตค่ะ จากคุณ : poojo_ke - [ 27 พ.ย. 50 09:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ช่วยโหวตด้วย จากคุณ : ohhnarak - [ 27 พ.ย. 50 09:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สื่อโฆษณาหลายๆ ตัวทำให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเรามีค่านิยมผิดๆ นะคะ เพราะเดี๋ยวนี้โฆษณาออกมาอะไรก็ขาวๆๆๆๆ  ขาวแล้วสวย ขาวแล้วหล่อ อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ แต่เราเห็นว่านะ ทุกคนมีความสวยอยู่ในตัวเองอยู่แล้วนะคะ ^-^ จากคุณ : dirtygirl - [ 27 พ.ย. 50 10:14:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กระทู้ดีมีประโยชน์ โหวตให้หนึ่งจึ๊ก จากคุณ : ทำไงดีสวยเกินหน้าเกินตาเพื่อน - [ 27 พ.ย. 50 11:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โหวตค่ะ จะสาวผิวขาวหรือสาวผิวคล้ำ เราก็ว่าสวยได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง จากคุณ : รมย์นารี - [ 27 พ.ย. 50 14:22:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โหวตให้แล้วจ้า ความสวยมาพร้อมกับอันตราย  เป็นห่วง จากคุณ : ชิฟฟอนคาปูชิโน่ - [ 27 พ.ย. 50 16:06:43 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตามมาโหวต พร้อมจะเล่าเรื่องตลกให้ฟัง (ขำมั่งไม่ขำมั่ง) วันนี้เพื่อนสาวชาวออสซี่ เล่าให้ฟังแบ่บว่า ทำหน้าตื่นเต้นตกใจมากมาย Kay : นี่ ๆ พิม ยูรู้มั้ย ที่พวกเราพยายามทำตัวให้แทนกันน่ะ ที่ฟิลิปปินส์เค้ามีครีมทำให้ขาวด้วยนะ (ว่าแล้วชีก็หัวเราะก้ากกกก ออกมาเลย) Pimmie : ทำไมชั้นจะไม่รู้ล่ะ ก็เหมือนประเทศไทยบ้านชั้นนั่นแหละ มีครีมไวท์เทนนิ่งออกมาเยอะแยะมากมาย ใคร ๆ ก็อยากจะขาว Kay: จริงเหรอ......... ตลกจังเลยอ่ะ จะอยากขาวกันไปทำไม น่าเกลียดจะตายพวกขาว ๆ ซีด ๆ Pimmie : ไอก็เคยอยากขาวนะเฟ้ย ครีมอะไรที่ว่าทาแล้วขาวน่ะ ลองมาหมดแล้ว เหอ ๆ แต่ตอนนี้ไม่ละ Kay : แปลกจริง ๆ ทำไมพวกยูอยากขาวกันนักนะ ก้ากกกกกกกกกกกกก (หัวเราะต่ออย่างบ้าคลั่ง คาดว่าชีคงจะไปเล่าให้คนอื่นฟังอีกแน่นอน) ภูมิใจในความดำของตัวเองกันเถอะค่ะ ถ้าคนจะมาชอบมารักเราเพราะความขาว ก็แสดงว่า เค้าไม่ได้รักเราที่ตัวเรา จากคุณ : BloodyHell - [ 27 พ.ย. 50 16:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มีข่าวมาเสริมค่ะ ที่มา http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9500000140745 บุกตรวจ “วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก” พบผิด 3 กระทง เจอหลักฐานมีการใช้ “ยากลูตาไทโอน” ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยากับอย. ถือเป็นการใช้เวชภัณฑ์ก่อให้เกิดอันตราย ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัย รวมถึงโฆษณาโอ้อวดเกินจริง สั่งระงับการโฆษณาและไม่ให้ใช้ยานี้ในสถานพยาบาลทุกแห่ง เผยแค่เดือนเดียวมีตรวจคลินิกเสริมความงามโฆษณาเกินจริง 24 แห่ง เตือนประชาชนอยากสวย ขาว ระวัง ระบุทำยังไงก็ไม่มีทางขาวถาวร วันนี้ (27 พ.ย.) นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ รศ.นพ.นภดล นพคุณ และ นพ.ประวิทย์ อัศวานนท์ จากสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการที่มีคลินิกเสริมความงามหลายแห่งนำสารกลูตาไทโอน (Glutathione) มาฉีดให้ลูกค้า โดยโฆษณาชวนเชื่อว่าช่วยให้ผิวขาวเรืองแสงได้ ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 26 พ.ย. อย.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเข้าตรวจสถานพยาบาลวุฒิ-ศักดิ์ คลินิกเวชกรรม สาขางามวงศ์วาน พบว่ามีแผ่นพับโฆษณาสถานพยาบาลในลักษณะโอ้อวดเกินความจริง             นพ.ศุภชัย กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสถานพยาบาลวุฒิ-ศักดิ์ คลินิกเวชกรรม สาขางามวงศ์วาน พบว่า สถานบริการแห่งนี้ มีแผ่นพับโฆษณาข้อความดังกล่าวระบุว่า โปรแกรมเรเดี๊ยนซ์ แอนด์ ดีท็อกซิฟิเดชั่น (RADIANCE DETOXIFICATION) เป็นวิธีการรักษาที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่าง สดใส ทั่วทั้งเรือนร่าง เหมือนดาราโดยไม่มีผลกระทบจากการใช้ยา ถือเป็นโฆษณาที่เข้าข่ายโอ้อวดเกินความจริง เนื่องจากการรักษาพยาบาลทุกอย่างมีทั้งผลดีและผลข้างเคียงที่จำเป็นต้องชี้แจงอันตรายให้ผู้บริโภคเข้าใจ ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 38 พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และหากยังมีการโฆษณาเกินจริงอยู่อีก จะมีโทษปรับวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะแก้ไขโฆษณาดังกล่าวให้เหมาะสม นพ.ศุภชัย กล่าวต่อว่า นอกจากตรวจพบการใช้ยาเตติโอนิล (TATIONIL) ซึ่งมีตัวยากลูตาไทโอน ซึ่งเป็นยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยานำมาใช้ในสถานประกอบการ ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 34 (2) พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541ที่กำหนดให้ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลมีหน้าที่ความรับผิดชอบควบคุมดูแลผู้ประกอบวิชาชีพที่ปฏิบัติงานตามกฎหมาย ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งทั้งปรับ รวมทั้งสถานพยาบาลได้อ้างว่าการรักษาพยาบาลเกิดขึ้นจากทีมวิจัยเทคนิกการแพทย์ของตนเองซึ่งเท่าที่มีการตรวจสอบข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ ไม่มีข้อมูลแสดงว่าการใช้ยาดังกล่าว เป็นกระบวนการที่ได้มาตรฐานและได้รับการยอมรับ และไม่มีข้อมูลเพียงพอที่ชี้ชัดความปลอดภัยในการรักษาเนื่องจากยายังไม่ผ่านการตรวจสอบ และไม่ได้รับการขึ้นทะเบียน ประกันคุณภาพ ความปลอดภัย จึงถือเป็นการกระทำผิดมาตรา 45 ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ในการใช้ยาเวชภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้รับการรักษา และกำหนดให้แก้ไขให้เหมาะสม ภายในระยะเวลาที่กำหนด             “ขณะนี้ได้สั่งการให้สถานพยาบาลดังกล่าวระงับการโฆษณา หรือการโฆษณาอื่น ๆ ที่มีลักษณะหรือมีข้อความที่เป็นเท็จหรือโอ้อวดเกินความจริง หรือน่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการของสถานพยาบาล และให้ระงับการใช้ยาดังกล่าวด้วย โดยจะมีผลรวมไปถึงสถานพยาบาลทุกแห่งที่มีการใช้วิธีนี้อยู่ เนื่องจากเป็นกระบวนการรักษาที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้หากพบว่ามีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมมีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการก็จะส่งเรื่องให้กับแพทยสภาพิจารณาต่อไป” นพ.ศุภชัยกล่าว             นพ.ศุภชัย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้รณรงค์ตรวจมาตรฐานการประกอบกิจการสถานพยาบาลคลินิกที่จัดให้บริการเกี่ยวกับการเสริมความงาม โดยในช่วงระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2550 ได้มีการตรวจคลินิกจำนวน 110 แห่ง พบว่ามีข้อความโฆษณาในเชิงโอ้อวดมากที่สุดถึง 24 แห่ง นอกนั้นพบว่ามีป้ายชื่อคลินิกไม่ถูกต้อง 2 แห่ง ไม่มีข้อความแจ้งให้สอบถามอัตราค่ารักษาพยาบาล ไม่แสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล และไม่แสดงใบอนุญาตประกอบกิจการและใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาลในที่เปิดเผย จำนวนอย่างละ 1 แห่ง ซึ่งทางกรมได้แนะนำและตักเตือนให้สถานพยาบาลดังกล่าวปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว             “ฝากไปยังคลินิกเสริมความงาม และคลินิกผิงหน้าทั้งหลาย ให้ระมัดระวังในการใช้ยา เวชภัณฑ์ วิธีการรักษาต้องเป็นไปตามหลักวิชาการ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้มาตรฐานได้รับการยอมรับ ไม่ควรนำคนไข้ไปเป็นตัวทดลองแถมยังเก็บค่ารักษาพยาบาลในราคาที่แพง ถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้องและผิดกฎหมายด้วย”นพ.ศศุภชัยกล่าว             ด้าน นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อได้บุกเข้าตรวจสถานพยาบาลแห่งนี้ พบว่ามีการใช้สารกลูตาไทโอน โดยไม่มีการขึ้นทะเบียนตำรับยาและไม่มีการนำเข้ามาในประเทศไทย ไม่ทราบแหล่งที่มาว่ามีการนำเข้าจากที่ใด แต่มีเอกสารที่รับรองการนำเข้าและการขึ้นทะเบียนกับอย.ถูกต้อง และเมื่อสอบถามไปยังบริษัท โรช (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตยาดังกล่าวได้แจ้งให้ อย.ทราบว่าไม่มีการนำเข้ามาในประเทศเช่นกัน จึงมีความเป็นไปได้ว่า ยาที่มีจำหน่ายอยู่อาจเป็นยาปลอม ซึ่งขณะที่นี้พบว่ามีการระบาดอยู่แถบอาเซียน ซึ่งจะมีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสืบหาเบาะแส และการเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างไร             นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนในการดำเนินคดีกับสถานพยาบาลขณะที่อยู่ระหว่างการให้นิติกรเป็นผู้รวบรวมข้อมูลประมวลหลักฐานเอกสารทั้งหมด เพื่อดูว่าจะสามารถตั้งข้อกล่าวหาใดได้บ้าง ถ้าหากต้องดำเนินคดีอาญาก็จะต้องผ่านคณะกรรมการอย.เพื่อพิจารณา หากมีโทษแค่ปรับก็จะสั่งการให้มีการปรับตามที่กฎหมายระบุได้ทันที            “ขอเตือนวัยรุ่น ผู้หญิง ไม่ควรหลงเชื่อโฆษณาที่อ้างว่าสามารถช่วยให้ผิวขาวขึ้น เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างถาวร ผลิตภัณฑ์ยาอาจช่วยได้ชั่วคราว แต่เมื่อหมดฤทธิ์ยาร่างกายก็ผลิตเม็ดสีตามปกติ ซึ่งการฉีดยาเข้าเส้นนั้นมีอันตรายมาก ผู้บริโภคที่ได้รับการฉีดสารตัวนี้อาจเกิดอาการแพ้ยา ช็อค หรือหยุดหายใจได้ สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็สามารถช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ชั่วคราวเท่านั้น โดยไม่มีผลกับโครงสร้างใด ๆ ของผิว ทั้งนี้ การที่ประชาชนในแถบเอเชียมีผิวคล้ำถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ เพราะสามารถป้องกันแสงอุลตราไวโอเล็ตจากแสงอาทิตย์ได้ ทำให้โอกาสการเกิดมะเร็งผิวหนังน้อยกว่าคนผิวขาว จึงไม่ควรมีค่านิยมที่ผิดในการเปลี่ยนสีผิวให้ผิดธรรมชาติ และหากมีผู้ได้รับผลกระทบจากการใช้สารกลูตาไทโอนก็สามารถแจ้งมาได้ทั้ง 3 หน่วยงาน คือ อย.สบส.และสคบ.”นพ.ศิริวัฒน์กล่าว             นพ.ประวิทย์ อัศวานนท์ กล่าวว่า ขณะนี้พบว่ามียาหลายประเภทที่มีผลข้างเคียงทำให้ผิวดูซีดจางลง แต่เมื่อใช้ไปนานๆ จะมีผลข้างเคียงอื่นๆ อีกหรือไม่ ขณะนี้ข้อมูลในระยะยาวยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเกิดผลเสียได้ในอนาคต แปะข่าวเพิ่มค่ะ ใครไปฉีดที่คลีนิกนี้บ้างเนี่ย จากคุณ : นู๋ ม. - [ 27 พ.ย. 50 17:17:53 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อกีไปตอบอีกทู้มา ขอเอามาแปะที่นี่ด้วย -------------- ตอบหลายๆ คห. ที่ถามเกี่ยวกับกลูต้านะคะ ที่เข้าใจคือ กลูต้าเอาไว้รักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและโรคความจำเสื่อมระยะเบื้องต้นค่ะ พูดง่ายๆ เป็นยารักษาโรค"ที่รุนแรง" ผลข้างเคียงคือทำให้ผู้ใช้ขาว เพราะร่างกายจะผลิตเม็ดเมลานินในผิวหนังได้น้อยลงค่ะ คิดดูว่าต้องฉีดเท่าไร กว่าคนผิวสองสีจะขาวได้ ยาที่สามารถระงับเซลล์มะเร็งได้ มาฉีดให้คนปกติเพื่อยับยั้งการสร้างเซลล์อะไรกัน? ทำไมทำกันเช่นนี้ ความโลภ? จรรยาบรรณ? ความรู้ผิดชอบชั่วดีของผู้ประกอบการค้าหายไปไหน? ต่อค่ะ ผลข้างเคียงคือ ผิวผลิตเมลานินได้น้อยลง ขาวขึ้นแต่ก็เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังอีกในประเทศแดดจ้าแบบนี้ และรวมไปถึงเมลานินในกระจกตาด้วย ตามที่นพ. บอก คิดง่ายๆ ว่า สมมติถ้าเราไม่เป็นหวัด แต่กินยารักษาหวัดเป็นกำๆ กินติดต่อกันสัก 3 ปี ตับ-ไตก็อาจจะทำงานหนักได้ค่ะ และระบบต่างๆ ในร่างกายอาจจะไม่ปกติได้ แต่ยาฉีดตัวนี้แรงกว่านั้นที่เข้าใจ ถ้าฉีดติดต่อกันนานๆ อาจจะแย่ได้ค่ะ - กลูต้าที่ไว้ฉีด ย้ำๆ อันนี้ขอแสดงคิดเห็นกับกลูต้าที่ไว้ฉีดอย่างเดียวนะ เหมือนเราฉีดยารักษามะเร็งให้ตัวเอง ทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่เป็นมะเร็งน่ะ ไม่ว่าจะลงคอรส์หรือซื้อในจากเน็ตมาฉีดเอง เอาคนปกติไปฉีดยาแรงๆ ถ้าคิดตามหลักตรรกะ ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ปลอดภัยและอาจจะอันตรายได้ค่ะ เราไม่ได้เรียนด้านยานะ รอคห. อื่นๆ ที่มีความรู้มาเพิ่มเติมล่ะกัน - ส่วนเรื่องทานยา อย่างที่ว่าไว้แล้ว ว่ามันเป็นอาหารเสริม แต่ถ้าทานมากไป ก็"อาจจะ"ไม่ดี ที่ใข้คำว่าอาจจะ ก็เพราะยังไม่มีผลวิจัยมารองรับ ใครอยากเสี่ยงเอง ตามใจจ้า ไม่เกี่ยวกับเรา (เราไม่ใช่พวกแฟนอาหารเสริมความงามอ่ะ) อาหารเสริมบางตัวเช่น วิตามืนสังเคราะห์บางตัว (จำไม่ได้ว่าตัวไหน เพราะปกตินู๋ ม. ไม่ทานวิตามิน เน้นอาหารมีประโยชน์แทน) ควรเว้นระยะการทาน ให้ร่างกายได้กลับสู่ระยะปกติบ้าง แล้วมาทานใหม่ ไม่เช่นนั้น จะเป็นภาระร่างกายเกินไป ทำให้ระบบผิดปกติได้ง่ายๆ ย้ำอีกทีค่ะ ใครอยากทานก์อทาน ใครคิดว่ามันไม่อันตรายก็ได้ค่ะ ใครจะไปลงคอร์สไหนก็ไป เราแค่มาเตือนๆ กันก่อนเท่านั้นค่ะ อยากให้อ่านข้อเสียมากๆ ก่อนฉีดหรือใช้อะไรค่ะ เท่านั้นเอง อย่าเข้าใจผิดว่า มาห้ามไม่ให้ทำ เราไม่เกี่ยวค่ะ เราไม่มีสิทธิ์ห้ามคุณด้วย ลองอ่านทู้อื่นๆ ที่มีคนไปฉีดกูลต้าจนตับมีปัญหาด้วยนะคะ จำชื่อล๊อกอินไม่ได้แล้ว จากคุณ : นู๋ ม. - [ 27 พ.ย. 50 17:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อีกอย่างอ่านเจอว่า มีคนเข้าใจว่า ยากลูต้าที่ไว้ฉีดนี่ได้ อย. จากต่างประเทศ คือ อิตาลี ที่อ่านข่าวมาคือ ที่อิตาลีได้ อย. ก็จริง แต่ในฐานะยารักษามะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งกระเพราะอาหารค่ะ ไม่ใช่ อย. ในฐานะยาฉีดให้ผิวขาว ฝรั่งที่อยากขาวแทบไม่มีค่ะ เขาอยากผิวออกอมแดด ดูสุขภาพดีทั้งนั้น ยกเว้นคนผิวแพ้ง่ายออกแดดไม่ได้ อย่างนั้นต้องขาวเพราะผิวไม่เป็นใจค่ะ อีกอย่างพวกยาทานกลูต้านี่นู๋ ม. ไม่ออกความเห็นนะคะ ขอออกแค่ยาฉีดพอ เพราะคิดว่ามันรุนแรงกว่า ถ้าคุณช๊อคหรือแพ้ยา เสี่ยงตายคาเข็มเลยค่ะ จากคุณ : นู๋ ม. - [ 27 พ.ย. 50 17:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เกือบไปแล้วกับกลูต้าฯ เพื่อนพึ่งมาบอกข่าววันนี้เลยแวะเข้ามาดูในห้องนี้ เพิ่งดูรายละเอียด เห็นพี่ที่รู้จักเขาเป็นมะเร็งเกี่ยวกับเม็ดเลือด ไม่เจอกันไม่กี่เดือนขาวเป็นอีกคนเลยค่ะ คาดว่าน่าจะฉีดกลูต้าฯ แต่ว่าพี่คนนั้นต้องถ่ายเลือดทุกเดือนเลย ตอนนี้ไม่อยากขาวผิดธรรมชาติแล้ว เพราะว่าดำๆ อย่างเราก็สวยได้ ไม่มีใครกำหนดออกกฎมาสักหน่อยว่าดำแล้วสวยไม่ได้ ฮ่าๆ ให้ผู้หญิงคิดบวกยิ่งสวยขึ้น จากคุณ : ลิปมัน - [ 27 พ.ย. 50 18:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแล้วน่ากลัวมากๆ แต่เห็นน้องคนนึงนะคะไปฉีดวิตามินซีมาน่ะ จากเดิมผิวสองสีเหมือนกันฉีดไปสองสามเดือนกลายเป็นคนขาวเหลือง หน้าใสมาก ๆ สิวไม่มี ขาวทั้งตัวเลยค่ะ เราก็มานั่งนึกว่าน้องเค้าฉีดที่คลีนิคประมาณวุฒิ-ศักด์เปิดในห้างเดอะมอลล์ ราคาตกเข็มละพันสองพัน มียาบำรุงให้กินอีกชุดละเป็นพัน มันจะมีส่วนผสมของ กรูต้าฯ รึเปล่าน๊า เค้าฉีดกันเดือนละเข็ม-2เข็มเลยค่ะ แต่เล่าให้น้องเค้าฟังเค้าบอกไม่ใช่ๆ นี่วิตามินซีจ้า เราก็เออๆ ขาวไวเนอะ แต่ก็ไม่กล้าอยู่ดีว่าจริงๆแล้วเค้าฉีดวิตามินซีให้เราจริงๆรึเปล่า ไม่รู้จริงๆว่าวิตามินซีกับกรูต้าฯ มันสรรพคุณเหมือนกันรึเปล่า คุณหมอแอบผสมมาให้เราก็ไม่รู้ เวชสำอางเดี๋ยวนี้อันตรายถึงตายเลยนะเนี่ย จากคุณ : rASpBErrY MeRIngUe - [ 27 พ.ย. 50 19:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เหอๆๆ น่ากลัวอ่ะ ของแบบนี้เห็นผลไว เเต่อันตรายก็ตามมาใกล้ๆกันเเหละค่ะ ข้างนอกดูขาวใส เเต่ข้างในตับไตเป็นไงมั่งเนี่ย ขอบคุณค่ะที่มาเตือน ^^ จากคุณ : ซาลาเปา ขาว อวบ เอ็กซ์ - [ 27 พ.ย. 50 20:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าอย่างนั้นแล้ว  เราจะไว้วางใจคลินิคต่างๆ  ได้อีกหรือ  ขนาดอันตรายอย่างนี้เขายังบอกว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้  แล้วยาตัวอื่นที่เขาจ่ายให้เรามันจะมีส่วนผสมอะไรเราก็ไม่รู้  จะดีกับเราจริงหรือเปล่า  เพราะเราเชื่อใจหมอ  คิดว่ามาหาหมอแล้วเขาจะรักษาให้เราเป็นอย่างดี  แต่พวกเขาก็หวังแค่เงินของเรา  สมัยนี้หมอไม่มีจรรยาบรรณเอาเสียเลย  (ว่าเฉพาะหมอที่ไม่ดีนะคะ) จากคุณ : คนเหงาๆหน้าจอคม (raina) - [ 27 พ.ย. 50 20:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จากกระทู้ครีมหน้าเด้งกลายเป็นกระทู้กลูต้าฉีดเพื่อขาวซะแล้ว 555 จากคุณ : อะจึ๋ยเคี้ยก - [ 27 พ.ย. 50 22:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ^ ^ นั่นจิ อุอุ เห็นกระทู้ได้โหวตเลยเอามาเเปะซะเลย จะได้อ่านๆ กันอ่ะจ๊ะ แถมคำคมวันนี้ ความดำไม่ใช่โรค ไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยการฉีดยา แค่รักตัวเองให้มากขึ้นก็หายแล้ว ธรรมชาติย่อมสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเรา เป็นแค่คนปกติไม่พิการ ก็โชคดีหนักหนาแล้ว ความสวยอะไรนี่แต่งเติมกันได้ คนเราสวยในแบบของตัวเองทุกคนค่ะ จากคุณ : นู๋ ม. - [ 27 พ.ย. 50 22:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 พวก blink ก็มีสารกลูต้าเหมือนกันน่ะค่ะ แต่ในปริมาณน้อย กินแล้วจะเป็นอะไรมั๊ยนี่ จากคุณ : bestbest - [ 27 พ.ย. 50 23:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามาโหวตคะ แต่เริ่มงง..ต้านบาชิ หรือ ต้านสาร... แต่กำลังเซ็งเพราะตนเองใช้บาชิด้วยอ่ะ... จากคุณ : vintage - [ 27 พ.ย. 50 23:43:35 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ดำอย่างมีคุณค่า แถมซ่าอร่อย 555 จากคุณ : ประยงค์สตูดิโอ - [ 28 พ.ย. 50 01:32:56 ]

ความคิดเห็นที่ 42 บ้านเราไม่ใช่อย่างเกาลีหรือญี่ปุ่นที่อากาศจะหนาวเย็นเกือบตลอด บ้านเรามีแดดมีความร้อน...เพราะฉะนั้นจะให้ผิวขาวอย่าง "เขา" ก็ยาก ทำไมยิ่งมีโฆษณาพวกไวเทนนิ่งมากขึ้น "การเคารพตนเอง" ก็ลดลงเรื่อยๆ อยากขาวใสเหมือนเขา อยากดูดีเหมือนเขา ต้องหาผลิตภัณฑ์ไวเทนนิ่งมาใช้อยู่เรื่อยๆ อยากขาวขึ้นเรื่อยๆ ทำไมไม่หันกลับมามองและยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น เข้าใจว่าใครๆก็อยากสวย อยากดูดี "แต่ความขาวก็ไม่ใช่คำตอบเสมอไป" โฆษณาชิ้นหนึ่งที่เคยดูบอกว่า หากขาวแล้วจะมีโอกาสที่ทางบริษัทจะรับเข้าทำงานมากกว่าคนไม่ขาว ขออนุญาตบอกตรงนะคะว่าดูแล้วตลกค่ะ คนเราจะรับไม่รับคนเข้าทำงานดูกันแค่ "สีผิว" หรือคะ เหมือนเป็นวงจรน่ะค่ะ ยิ่งโฆษณาไวเทนนิ่งออกมามากเท่าไหร่ คนจำนวนไม่น้อยก็พร้อมจะเชื่อคุณประโยชน์ของผิวขาว แล้วก็หาซื้อมาใช้ บริษัทโฆษณาและผลิตภัณฑ์ก็ผลิตโฆษณา-ผลิตสินค้าออกมาล่อความต้องการของลูกค้า เป็นอย่างงี้ไปเรื่อยๆ อืม...เอาเวลามาพัฒนาทักษะและความสามารถของตัวเองกันดีกว่ามั้ยคะ มันยั่งยืนกว่าการมานั่งกังวลว่า "ฉันอยากขาว...ทำไงดี" มากเลยค่ะ มีเพื่อนหลายคนที่ผิวสีคล้ำ แต่เขาก็มีความสุขของเขา และแต่งหน้าแต่งตัวอย่างไม่กังวล และเขาก็ไม่อยากขาวด้วยค่ะ เขาบอกว่าอย่างงี้ดีแล้ว ใครล้อเขาก็ไม่สน ป.ล.เขียนไม่ค่อยเก่งค่ะ แต่คิดอย่างงี้จริงๆ จากคุณ : little smile - [ 28 พ.ย. 50 10:52:42 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่อยากขาว แต่อยากมีผิวสุขภาพดี งิงิ ชอบหลายๆ คห. ที่แนะนำในเรื่องขาวๆ  เคยคิดว่าอยากขาวเหมือนแม่ แต่ทำไงได้ ลูกสาวต้องเหมือนพ่อ ชิมิๆ เลยดำได้พ่อจริงๆๆ  ฮ่า  พ่อนะพ่อ T______T  เราเลยเป็นอ้วนดำเลย กุริกุริ จากคุณ : มิสพรหล้า - [ 28 พ.ย. 50 11:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 44 โดยส่วนตัวแล้วไม่เคยใช้ เพราะ ขาวมากอยู่แล้ว แต่ไม่อยากให้คนอื่นได้รับอันตรายค่ะ โหวตให้แล้วค่ะ จากคุณ : beautiful dream - [ 28 พ.ย. 50 12:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตราบใดที่ยังให้คุณค่ากับความขาวกันมากจนเกินเหตุ ก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเรื่อย ๆ แหละค่ะ โหวตค่ะ จากคุณ : แบ๊น แบน - [ 28 พ.ย. 50 16:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ครีมเทวดาแบบนั้นไม่มีในโลกจริงๆ จากคุณ : brideofsatan - [ 28 พ.ย. 50 16:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 47 โหวต ด้วยจ้า จากคุณ : Jujube in Syrup - [ 28 พ.ย. 50 19:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 48 จากคุณ : แม่หมูหยอง และกาโม่ - [ 29 พ.ย. 50 02:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แวะมาช่วยโหวตอีกแรงนะจ๊ะ ^^ จากคุณ : แมวจอมกวน - [ 29 พ.ย. 50 02:57:40 ]

ความคิดเห็นที่ 50 โหวตด้วยจ้่า จากคุณ : +~sarakung~+ - [ 29 พ.ย. 50 11:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ++  เข้ามาอ่านฮ่ะ  ++ จากคุณ : JADE&GUY - [ 29 พ.ย. 50 16:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เคยสั่งบชิมาใช้นะ แต่ใช้ไปได้สัก3-4ครั้ง เห็นครีมกับกลิ่นมันแปลกๆ อ่านส่วนผสม"monostearate"แล้วไม่น่าไว้ใจ ไหนบอกไม่อันตราย เลยทิ้งไปเลย แพงแต่กลัวหน้าพังมากกว่า แทนที่สิวจะหายกลัวจะยิ่งแย่ ดูๆแล้วไม่น่าเชื่อถือ เสียดายเงินที่ซื้อไปจัง บรรจุภัณฑ์ก็แย่ จากคุณ : ลูกเป็ดแก้มแดง (ลูกเป็ดแก้มแดง) - [ 30 พ.ย. 50 04:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เคยใช้ทั้งบาชิ และยันโกะ ค่ะ ตอนใช้หน้าขาวใสดีมากๆอมชมพูประมาณเด้งเลยค่ะ ปกติไม่เคยโดนแดด แต่ทาครีมกันแดดspf 30 ตลอด มีอยู่วันนึง ยังไม่ได้อาบน้ำตอนเช้า แล้วต้องออกไปหน้าบ้าน(ดูคนงานทำสวนหน้าบ้าน) โดนแดดเกือบ 2 ชั่วโมงได้ หลังจากนั้นมาหน้าหมองลงเห็นได้ชัด กระขึ้นเพียบ ตอนนี้อยู่ระหว่างฟื้นฟูหน้า ทำยังไง ใช้ครีมอะไรก็ไม่ขาวขึ้นเท่าเมื่อก่อนเลยค่ะ เข็ดแล้วจิงๆกับครีมประเภทนี้ แล้วกินกลูต้ามา ครึ่งปีแล้วก็ไม่เห็นจะขาวขึ้นเท่าไหร่เลย จากคุณ : นู๋ปอย (omyima) - [ 30 พ.ย. 50 10:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เห้ออ... ต้องปรับกันเยอะ เรื่องขาว ไม่ ขาวเนี่ยย เพราะอะไร? คุณเคยเจอคนขาวโดนล้อว่า E- ขาว มั้ยค่ะ? แต่ที่เห็นบ่อยคือ คนดำ โดยล้อว่า.. E-ดำ บ้างหละ บลา ๆ ๆ เพราะว่าค่านิยมคนไทยมันเป็นแบบนี้ ในทีวี สื่อก้หลอกลวงคนไทยทุกวัน ว่า ลักแล้ขาว...หน้าขาว...ตัวขาววว...เห้อออ  ๆ ๆ จากคุณ : หน่อยอ่ะนะ - [ 30 พ.ย. 50 11:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตอนเด็กๆ โดนน้าๆ ล้อ  "อิดำ..... ตับเป็ด" 5 5 5  ขาดความมั่นใจไปเยอะเลยแหละเรา หุ หุ นี่แหละคนไทย !!! จากคุณ : SoulMate_Online - [ 30 พ.ย. 50 21:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 56 โหวตด้วยคะ จากคุณ : envylme - [ 30 พ.ย. 50 22:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 57 หน้าหนูพังไปแล้วกับครีมตัวนี้ สิวเต็มหน้าเลย ตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ ตอนนี้เลยหยุดใช้อะไรทุกอย่าง กลัวหน้าพังอีก จากคุณ : นางฟ้าน่ารัก (dollydream) - [ 1 ธ.ค. 50 21:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ดีนะเนี่ย ไม่หลวมตัวซื้อ เพราะของดีๆ ที่เมืองไทยก้อมี ทามไมต้องไปสั่งซื้อมาจากจีน อีก จากคุณ : Kii-Kiie - [ 2 ธ.ค. 50 23:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ขาว แต่ไม่เคยอยากไปทำร้ายตัวเองด้วยของอันตรายแบบนี้  เรื่องผิวขาวก็อย่างที่คุณlittle smile บอกสภาพอากาศที่เมืองไทย มันไม่เหมือนเมืองหนาว เมืองไทยแดดร้อน ร่างกายก็พยายามสร้างเม็ดมีมาช่วยปกป้องผิดจากการโดนรังสีทำให้เราไม่เป็นมะเร็งง่าย  แล้วเรายังจะไปหยุดการสร้างของมันอีก  ผิวเราแค่บำรุงให้สุขภาพดี ไม่สกปรก และไม่หยาบกร้าน เราว่าก็ดูดีแล้วนะ ดูดีกว่าขาวเหมือนกระดาษเป็นไหนๆ จากคุณ : New Brighton - [ 3 ธ.ค. 50 00:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เราเคยคิดอยากขาวนะตอนนี้ไม่เอาดีกว่าเรายอมแทนๆแบบนี้แต่ไปบำรุงให้มันเนียนๆผ่องวิ้งๆพอได้นะ สวยกว่าขาวแห้งๆ จากคุณ : Natthanuch1 - [ 3 ธ.ค. 50 13:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โหวตด้วยค่ะ จากคุณ : ชฎาแหลม - [ 3 ธ.ค. 50 14:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 3 ธ.ค. 50 17:46:35 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ไปซื้อ Lift Mint ที่เซเว่นมา เขาสมทบทุนให้มูลนิธิชัยพัฒนาด้วยค่ะ เป็นลูกอมรสมินท์ กล่องสีเหลือง สวยเชียวค่ะ   เพิ่งรู้ว่าเป็น Mint ต่อชีวิตให้คนอื่น เมื่อเราซื้อเหมือนได้ทำบุญค่ะ อยากชวนเพื่อนมาทำบุญร่วมกัน แถมยังได้กล่องสวย ๆ มาใช้อีก จากคุณ : suzie (Dkrab) - [ 4 ธ.ค. 50 10:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 64 คคห 46........ โดนใจมาก เคยได้ยินคนว่าไว้ว่า... ผู้หญิงไทยอยากเป็นทุกอย่าง ยกเว้นตัวเอง! เจ็บนะคะเนี่ย ความสวยไม่ได้วัดกันที่สีผิวจริงๆค่ะ จากคุณ : ไส้หมอน - [ 4 ธ.ค. 50 14:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ดีนะที่มาเปิดเจอก่อน กำลังจะซื้อแล้วเชียว จากคุณ : dolphin_moo - [ 4 ธ.ค. 50 18:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เม็ดสีเมลานิน มีคุณค่ามากมายเลยค่ะ อย่างน้อยก็ ทำให้มีริ้วรอยช้าลง (ริ้วรอยที่เรียกว่า Photo aging) แต่เพราะค่านิยม และมุมมองของคนในประเทศแถบเอเชีย จะนิยมผิวที่ขาว แค่ขาวก็ดูดีได้ ประมาณนั้น จึงมีผลิตภัณฑ์ที่ลดการผลิตเม็ดสีเมลานินออกมาเยอะมาก พวกสารออกฤทธิ์ทางเครื่องสำอางก็คิดค้นออกมามากมายมหาศาล เยอะมากแทบจะเท่าชนิดของแมลงในโลกนี้แล้วมั้ง  แต่หลายๆประเทศฝั่งตะวันตกก็หวงแหนเม็ดสีเมลานินนี้มาก และอยากจะเพิ่มเม็ดสีเยอะๆ ด้วยการไปอาบแดด เพื่อให้มีผิวสีน้ำผึ้งหรือสีแทนผ่องๆ เป็นค่านิยมที่เชื่อว่าคนมีผิวสีแทนๆคือคนสุขภาพดี ผิวขาวซีดคือผิวศพ   พวกสารออกฤทธิ์ทางเครื่องสำอางต่างๆ ไม่มีทางจะทำให้ขาวถาวรได้หรอก เพราะพื้นฐานสีผิวในร่มผ้าของแต่ละคนนั้นคือสีผิวส่วนที่คนเราจะขาวได้มากที่สุดในแบบปลอดภัย ถ้าขาวเกินสีผิวในร่มผ้า ก็แสดงว่าเริ่มมีการฟอกสีผิวมากเกินกว่าเหตุแล้ว     เช่นการใช้สารพวก ปรอท ไฮโดรคิวโนน เพื่อให้เม็ดสีมันหยุดทำงานไปเลย ซึ่งสารอื่นๆที่ปลอดภัยจะทำได้แค่ยับยั้งบางส่วนของกระบวนการ(การที่จะผลิตเม็ดสีก็มีหลายPathways) หรือ แค่ต้าน Age spot ได้บ้าง ด้วยการต้านอนุมูลอิสระที่ผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ   เวลาหยุดใช้สารประเภทไฮโดรควิโนนหรือสารปรอท  แม้จะขาวไวทันใจ ประมาณ7วันก็ขาวได้ แล้วไปโดนแสงแดดแรงๆ มันจึงเกิดการตีกลับ คือจะหลั่งเอนไซม์ไทโรซิเนสมากขึ้น เกิดการผลิตเม็ดสีมากเกินกว่าเดิม ทำให้เป็นฝ้าถาวร   เราอาจจะเป็นโรคด่างขาวเหมือนไมเคิล แจคสัน จึงต้องแก้ปัญหาผิวด่าง ด้วยการไปฟอกสีผิวด้วยสารเคมี จนขาวเสมอกันทั้งตัว แล้วก็จะต้องปกป้องผิวจากแสงแดดแม้แต่แสงนีออน อย่างยิ่งยวด ตลอดชีพ    ความงามอยู่ที่สายตาของคนมอง แล้วสายตาเราเองพอใจกับสีผิวของตัวเองหรือยัง จากคุณ : ชุติกาญจน์ - [ วันรัฐธรรมนูญ 03:25:58 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนมีให้คุณและโทษ ถ้าเกินความพอดีก็เกิดโทษ แค่นั้นเอง โชคดีนะที่เราขาวอยู่แล้ว เลยไม่สนใจกลูต้า เราดูแลตัวเอง ด้วยการทานวิตามิน เสริมบำรุงแต่พอดี ไม่มากกว่าที่แพทย์ แนะนำ ส่วนพวกบำรุงก็เน้นพวกครีมที่ช่วยชะลอวัย มีหลายชนิด ที่ช่วยได้ เราแค่เลือกให้เหมาะกับตัวเราแค่นั้น งามตามวัยคงเหมาะสุด ส่วนบาชิเพิ่งซื้อมาลองเลยแระ ต้องหยุดใช้ก่อน (กลัวเหมือนกันจ้า) รอฟังข่าวดีกว่าเน๊าะ จากคุณ : คนสวย (sandpandy) - [ 13 ธ.ค. 50 10:29:38 ]