Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    @ @ เลือกกันแดดให้เด็กใช้อย่างไรดี (กระทู้นี้มีไว้ให้ผู้ปกครองอ่าน)@ @

    กระทู้นี้มีไว้ให้ผู้ปกครองอ่าน หรือใครมีน้องมีหลานก็อ่านได้ค่ะ

    เด็กอ่อน = เด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ
    เด็ก = เด็กที่ยังไม่โตเป็นวัยรุ่น ผิวยังแพ้ได้ง่าย
    ---------------------------------
    เมืองไทยไม่ว่าจะหน้าร้อนหน้าหนาว แดดก็แรงจับใจ เราเป็นพ่อแม่ ก็ต้องห่วงลูกเป็นธรรมดา อันที่จริงไม่ใช่เฉพาะเมืองไทยหรอกค่ะที่น่ากลัว พ่อแม่เมืองนอกก็ควรทราบไว้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะประเทศที่มีค่า UV Index เฉลี่ยสูง (ตรวจดูค่าของประเทศที่คุณอยู่ได้ที่นี่ http://i115srv.vu-wien.ac.at/uv/uv-index/uvi_gle.txt ) คุณจะเห็นว่า แม้แต่ตอนที่มีเมฆ รังสียูวีก็ยังผ่านมาได้อยู่ดี ค่า UV index มักจะลดลงไปครึ่งนึงเมื่อเทียบกับตอนที่ฟ้าใสๆ แต่มันก็ยังแรงมากอยู่นะคะ ดังนั้นไม่ว่าจะหน้าร้อน หน้าหนาว หรือฝนตก เราก็ต้องปกป้องลูกน้อยของเราให้ห่างจากรังสียูวีไว้ก่อนนะคะ

    แถม ตรวจค่า UV index ของสถานที่ต่างๆได้จากเวปเหล่านี้
    UV index ของ โลก http://www.temis.nl/uvradiation/UVindex.html
    UV index ของ ยุโรปและอังกฤษ http://www.metoffice.gov.uk/weather/europe/europe_uv.html
    UV index ของ สหรัฐอเมริกา http://www.epa.gov/sunwise/uvindex.html
    UV index ของ เมืองใหญ่ในอเมริกา http://www.weather.gov/view/national.php?prodtype=ultraviolet
    UV index ของ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ http://www.uv-index.ch/de/home.php
    UV index ของ ออสเตรเลีย http://www.bom.gov.au/weather/national/charts/UV.shtml
    UV index ของ โลกโดยรวม และดูเรื่องรูรั่วของชั้นโอโซน http://www.theozonehole.com/uvindex.htm

    โดนแดดบ้างก็ดีสำหรับเด็กๆ จริงหรือไม่?
    -จริงค่ะ แต่ต้องไม่ใช่โดนแดดแรงๆ หรือออกไปกลางแจ้งในช่วงที่รังสียูวีค่อนข้างมากในระหว่างวันซึ่งก็คือ ช่วง 10.00-16.00 น ในแต่ละวันนะคะ คนเราไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ต้องโดนแดดบ้าง เพื่อจะได้รับวิตามินดีค่ะ ถ้าไม่ได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ ก็จะทำให้ร่างกายอ่อนแอได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าแค่โดนแดดอ่อนๆในช่วงเวลาตอนเช้าสัก 10-20 นาทีก็เพียงพอแล้วในแต่ละวัน

    ดังนั้น ตอนเช้าๆ พาลูกออกไปเดินออกกำลังกายรับแสงแดดอ่อนๆบ้างนะคะ

    เข้าเรื่องกันสักที..."จะเลือกกันแดดให้เด็กอย่างไร"

    เมื่อเป็นกันแดดของเด็ก ก็ต้องขอย้ำว่าสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดก็คือ
    1) ต้องกันรังสียูวีได้ครบทั้งยูวีเอ และยูวีบี และ
    2) เด็กต้องใช้แล้วไม่แพ้

    ทำไมต้องเน้นย้ำเรื่องความสำคัญของการกันรังสียูวีได้ครบทั้งยูวีเอ และยูวีบี ? ทุกวันนี้ชั้นโอโซนของโลกซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกรองรังสีอัลตราไวโอเลตได้บางลงเรื่อยๆ โลกก็ร้อนมากขึ้นและรังสียูวีทั้งสองชนิดนี้ก็ผ่านมาสู่โลกได้มากขึ้น ทำอันตรายกับผิวทำให้เกิดเป็นผื่นแดง ไหม้ได้ เรื่องอันตรายที่สุดที่คนไม่ค่อยรู้ก็คือว่าถ้าคุณปล่อยให้เด็กๆถูกแดดเผาจนผิวไหม้ โอกาสที่เค้าจะเป็นมะเร็งผิวหนังเมื่อเค้าโตขึ้นก็มีมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่านัก เพราะฉะนั้นการใช้กันแดดในเด็กจึงมีความสำคัญที่จะต้องเลือกให้กันได้ครบจริงๆค่ะ

    ต้องกันครบ
    ทาได้มากในปริมาณที่ควรจะทา
    ถ้าเด็กเล่นน้ำ หรือเล่นกลางแจ้ง ควรทากันแดดซ้ำทุกชั่วโมง
    (ในกรณีที่ใช้กันแดดไม่ทนน้ำ ถ้าใช้พวกที่ทนน้ำก็ทาซ้ำทุก 2 ชมค่ะ)
    อย่าปล่อยให้แดดเผาจนผิวไหม้ และควรหลีกเลี่ยงเวลาเล่นกลางแจ้งช่วงระหว่าง 10.00-16.00 น.

    กันแดดที่เด็กใช้แล้วไม่แพ้... จะเลือกยังไงให้ไม่แพ้ละ?

    ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ คุณไม่มีทางรู้หรอกค่ะว่าลูกของคุณจะแพ้กันแดดที่คุณเลือกให้เขาหรือไม่ จนกว่าเค้าใช้ไปแล้วมันจะแพ้ (บอกแล้วว่ากำปั้นทุบดินจริงๆเลย) แต่มันมีวิธีพยายามเลี่ยงและลดความเสี่ยงในการแพ้กันแดดให้ลูกของเราได้ค่ะ นั่นคือผู้เป็นพ่อแม่ต้องหัดเลือกสารกันแดดให้เป็น อาจจะฟังดูเหมือนยุ่งยาก แต่จริงๆแล้วง่ายมากค่ะ ลองอ่านดู

    สารกันแดดแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่

    1 physical sunscreen หรือสารสะท้อนรังสี จะกันรังสีออกจากผิวหนัง ได้แก่ zinc oxide และ titanium dioxide แต่เนื่องจากอนุภาคของสารจะค่อนข้างใหญ่จึงทำให้ทาแล้วเห็นเป็นสีขาวๆอยู่บนผิว ซึ่งก็เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง ข้อดีคือมันแพ้ยาก ไม่ได้ซึมเข้าผิวเราไปไหน ข้อเสียคือมันวอก ทาแล้วขาววอกแบบกันแด๊ดดด กันแดดน่ะค่ะ

    สารกลุ่มนี้ถึงแม้จะวอกแสนวอก แต่มันก็เป็นสารที่ดีสำหรับลูกคุณเนื่องจากใช้แล้วจะไม่เกิดอาการแพ้ แถมเอามาใช้ป้องกันผื่นผ้าอ้อมเสียด้วยซ้ำที่เมืองนอกน่ะเค้าใช้ zinc oxide ผสมในยาทาก้นเด็กด้วยนะ (ของไทยก็มียี่ห้อแนปปี้ฮิปโป้น่ะค่ะ) รำเพยเคยคิดจะเอายาทาก้นลูกมาทากันแดด แต่ท่าทางจะต้องขอผ่าน เพราะมันเหนอะหนะจนถ้าทาแล้วฝุ่นคงเกาะหน้าเหมือนทากาวบนหน้ากันเลย

    สำหรับเด็กอ่อนเล็กๆ มากๆ ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเอาไปออกแดดนานๆเลยค่ะ แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ และเด็กอายุยังน้อยอยู่ก็ควรเลือกกันแดดที่มีแต่สารในกลุ่มนี้นะคะ จะได้ลดความเสี่ยงในการแพ้สารกันแดดไปได้ส่วนนึง

    2 chemical sunscreen หรือสารกันแดดประเภทที่ออกฤทธิ์ทางเคมี สารกลุ่มนี้จะรวมตัวกันกับส่วนประกอบของผิวชั้นนอกสุด ทำให้สามารถดูดซับรังสียูวีได้ โดยการกระจาย..... ทำให้ผิวสามารถป้องกันรังสียูวีได้

    ข้อดีของสารกลุ่มนี้คือ ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่วอก ข้อดีเท่าที่รำเพยเห็นก็มีเพียงเท่านี้ละค่ะ ส่วนข้อเสียน่ะมีเยอะอยู่หรอก และเป็นข้อเสียที่อาจจะอันตรายสำหรับเด็กโดยเฉพาะเด็กอ่อน เพราะสารในกลุ่มนี้อาจจะทำให้ผู้ใช้เกิดอาการระคายเคือง หรือบางรายก็แพ้กลายเป็นผื่นแดงไปทั่วตัว เรื่องสำคัญอีกอย่างก็คือ สารดูดซับรังสีนี้"ส่วนมาก" จะเป็นสารที่กันได้เฉพาะ UVB จะมีก็เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่กัน UVA ได้ด้วย เช่น avobenzone tinosorb mexoryl ที่น่าปวดหัวกว่านั้นก็คือ avobenzone นั้นเป็นสารที่ไม่ค่อยเสถียร ยกเว้นว่าในกันแดดตัวนั้นๆจะใส่สารอื่นที่ทำหน้าที่เป็นตัวทำเสถียรไว้ด้วย

    ทางที่ดี ถ้ามันยุ่งวุ่นวายนัก ก็อย่าเอาสารกลุ่มนี้มาให้ลูกเราใช้ดีกว่าค่ะ เพราะว่านอกจากเสี่ยงต่อการที่ผิวอ่อนๆของเด็กจะแพ้แล้ว ถ้าคุณจะเลือกกันแดดที่ใช้สารกลุ่มนี้มาใช้กับตัวคุณเองก็ไม่เป็นไร เพราะว่ามันก็เป็นสารกันแดดที่ดี ทาแล้วไม่เหนียวไม่วอก และคุณ(ซึ่งผิวหนังมีความทนทานมากกว่าเด็ก) ก็อาจจะไม่แพ้อะไรเลยก็ได้ค่ะ

    ปัญหาใหญ่....ความสับสนที่เกิดจากบริษัทผลิตยากันแดด ....คือการที่เค้าโฆษณาว่า กันแดดไร้สารเคมีดีกว่านะคะ ไม่แพ้ค่า

    จะบ้าาาาาาาาา

    สารกันแดดอะไรมันก็สารเคมีทั้งนั้นแหละฟะ เค้าไม่น่าทำให้คนสับสนด้วยการเอา"คุณสมบัติการทำงาน" ของสารกันแดดนั้นมาโฆษณา ลองดูดีๆนะคะ physical sunscreen กับ chemical sunscreen ตัวแรกทำงานที่ตัวสารมันเรียงตัวอยู่บนผิวเราเฉยๆ รังสียูวีโดนผิว มันก็สะท้อนออกไป ส่วนตัวที่สองออกฤทธิ์ทางเคมีทำหน้าที่ดูดซับรังสี

    มันก็ไอ้สารเคมีทั้งคู่นั่นแหละ แค่ว่ามันทำงานต่างกันและตัวที่สองมันใช้การออกฤทธิ์ทางเคมีก็แค่นั้นเอง เค้าก็เลยเอาจุดนี้มาทำให้เรางง

    มีที่ไหนเล่า กันแดดไม่มีสารเคมี

    สรุป....พักครึ่งก่อน
    เลือกกันแดดให้เด็กเล็ก ควรเลือกกันแดดที่เป็นสารสะท้อนรังสีล้วนๆ จะได้ลดความเสี่ยงของการแพ้สารกันแดด
    สารสะท้อนรังสีก็คือ titanium dioxide และ zinc oxide
    ถ้าเด็กอายุมากกว่า 1 ขวบแล้วก็จะลองแบบที่มีสารดูดซับรังสีก็ได้ แต่ควรสังเกตดูว่าลูกแพ้หรือไม่ ถ้าแพ้ก็ควรเลิกใช้ทันที

    ถ้ามีกันแดดอยู่แล้ว ไม่อยากซื้อใหม่ จะเอามาให้ลูกใช้ด้วยได้ไหม?

    ได้ค่ะ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ แค่ควรทดสอบดูก่อนว่าลูกจะแพ้หรือไม่แค่นั้นละค่ะ วิธีทดสอบก็ง่ายๆ คือทาบริเวณแขนและปล่อยทิ้งไว้ ถ้าเกิดอาการแพ้ก็ให้หยุดใช้ ยังไงก็ตามสารกันแดดกลุ่ม PABA เป็นสารที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นสารที่แพ้ได้ง่ายค่ะ

    แล้ว SPF ละสูงเท่าไหร่ดี เอาสูงสุดแบบ SPF 100 เลยดีมะ?

    ไม่ต้องงงงง อย่าหาเรื่องให้ลูกคุณทีเดียวเชียวนะ กันแดดที่ค่า SPF สูงๆนั้น จะต้องใส่สารกันแดดไว้เยอะ ยิ่งใส่สารไว้เยอะ โอกาสจะแพ้ก็มากขึ้น คุณเลือกกันแดดที่มีค่า SPF ไม่เกิน 30 ก็พอแล้วค่ะ ค่า SPF สูงๆ ไม่ได้กันได้มากกว่ากันเท่าไหร่เลย มันไม่คุ้มกันกับโอกาสเสี่ยงที่จะแพ้ ดังนั้นเลือกค่า SPF ตั้งแต่ 15-30 แล้วทาซ้ำบ่อยๆดีกว่า

    กันแดดทนน้ำ (water resistant) ทาให้ลูกก่อนลงน้ำแล้วต้องทาซ้ำอีกไหม ก็มันกันน้ำได้นี่นา

    คุณๆ กันแดดนะคุณ ไม่ใช่กาวตราช้างจะได้ติดแน่นทนนาน และมันก็ไม่ใช่พลาสติกเคลือบลูกคุณอยู่นะคะ ต่อให้มันทนน้ำ พอผ่านไปสักชั่วโมงกว่าๆ มันก็ต้องหลุดออกมาบ้างละค่ะ เพื่อความชัวร์เอาเป็นว่าเล่นไปสักพักก็ลากเอาลูกสุดที่รักมาทากันแดดซ้ำแล้วกันนะคะ อย่าปล่อยให้ซนนานๆกลางแดด 2 ชั่วโมงนี่"ต้อง"ทาซ้ำแล้วค่ะ

    หวังว่าคุณพ่อคุณแม่คงเลือกกันแดดให้ลูกของคุณใช้ได้อย่างเหมาะสมแล้วนะคะ

    จากคุณ : รำเพย - [ 17 ธ.ค. 50 09:43:54 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom