ความคิดเห็นที่ 1 แต่ความสำคัญของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ขาวจริงหรือไม่จริง แต่อยู่ที่เนื้อเรื่องในโฆษณาที่ทำเอาผู้หญิงอย่างฉันต้องกลับมาทบทวนตัวเองอย่างสำคัญ ภาพในโฆษณาเป็นคู่ผัวเมียนอนอยู่เตียงกว้าง ห่างไกลกันเกินเอื้อม แต่หลังจากที่หญิงสาวได้ลองใช้ครีมวิเศษที่ว่า สามีก็ค่อยกระเถิบเข้ามาใกล้ทีละนิด 7-5-6-4-3-3-2-1 ครบ 7 วัน ไอ้ตัวสามีก็กลับมานอนอิงแอบแนบชิด ได้ความรักกลับคืนมาอย่างน่าอิจฉา ...งานนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นเหยื่อใคร เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่ทำน้ำมันพราย อุ๊บส์ ทำยาอายุวัฒนะให้กับผิวพรรณและความงามแก่มนุษย์เหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้บอกเราตามตรงเหมือนโฆษณาที่บอกว่าใช้แล้วผัวรักผัวหลง ผัวที่เหินห่างจะกลับมาหาภายใน 7 วัน ฝ่ายผู้บริโภคและสื่อ เช่น นิตยสารผู้หญิงที่ชอบทำท่าว่า เข้าข้างผู้หญิง เป็นกระบอกเสียงให้ผู้หญิง เป็นข้อมูลสำหรับผู้หญิงจะได้รู้เท่าทันโลก รู้เท่าทันชีวิต จากคุณ : เช็งซิมอี๊ (เช็งซิมอี๊) - [ 24 ม.ค. 51 06:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทว่า น้ำเลี้ยงที่หล่อลื่นให้นิตยสารอยู่ได้สมหน้าสมตา คือโฆษณาจากเครื่องสำอางประดามี และเพื่อไม่ให้ถูกประณามว่า นี่คือสื่อที่ส่งเสริมให้ผู้หญิงที่ตกเป็นทาสของการบริโภคอย่างไม่ลืมหูลืมตา สื่อเหล่านี้จึงอ้อมไปพูดถึงการบรืโภคอย่างฉลาด และพยายามบอกว่าความงาม บุคลิกภาพที่สวยสง่า คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงก้าวไปสู่ความสำเร็จ ทั้งหน้าที่การงาน และครอบครัว ไม่บอกอย่างเดียว ยังเที่ยวไปถ่ายไปสัมภาษณ์ผู้หญิงที่เราควรจะดูเป็นเยี่ยงอย่าง ทั้งนักธุรกิจหญิงที่ทั้งสาว ทั้งสวย ทั้งมาจากตระกูลดี (แต่พ่อแม่จะโกงใครมาเป็นอีกเรื่อง) ผู้หญิงเหล่านี้ สวยหัวจรดเท้า งานก็เริ่ด ผัวก็รัก ลูกก็ฉลาด แต่ถ้าบังเอิญมีลูกออกมาโง่หรือพิการ นิตยสารก็จะให้ภาพคุณแม่ที่เสียสละ มีความรักอันท่วมท้น ไม่ระย่อต่ออุปสรรค เรียกว่าทำอะไรก็ดีไปหมด จากคุณ : เช็งซิมอี๊ (เช็งซิมอี๊) - [ 24 ม.ค. 51 06:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ...อ่านแล้วได้แต่ชื่นชมโสมนัส (แต่ฉันอ่านแล้วทั้งหมันไส้ ทั้งอิจฉา) มองและหมายตราว่านี่แหละคือ Role Model ของผู้หญิงรุ่นใหม่ที่ต้องได้ทุกอย่างในชีวติ ไม่ว่าจะเป็นทั้งความงาม จิตใจที่เสียสละ ความอ่อนโยน หน้าที่การงาน สามี ลูก จะให้สมบูรณ์แบบเข้าไปอีกต้องพ่วงงานการกุศลเพื่อคนจน โลกร้อน ธรรมะ วิปัสสนา โยคะ คือกูจะเอา:-)ทุกอย่าง Role Model ของเราจะมีกระเป๋าใบละแสน คนละหลายๆ ใบ ใช้เซรุ่มน้ำมันพรายจากสวิส กินน้ำแร่จากฝรั่งเศส สะสมนาฬิกาเรือนละเหยียบล้าน ...มีธุรกิจของครอบครัวนับร้อย-พันล้าน และอาจกำลังเดินอยู่ในงาน Millionaire Expo และตรองว่า จะซื้อพอร์ชที่ทำด้วยทองคำทั้งคันมาดูเล่นที่บ้านพอเพลิน แน่นอน Role Model ของเราจะบอกผู้อ่านว่า “ความสวยต้องเริ่มจากข้างในค่ะ ถ้าข้างในไม่ดี เครื่องสำอางแพงแค่ไหนก็ช่วยคุณไม่ได้” เท่านี้ “สาร” ที่อยู่ในสื่อชองผู้หญิงก็รอดพ้นจากข้อหามอมเมาสตรี จากคุณ : เช็งซิมอี๊ (เช็งซิมอี๊) - [ 24 ม.ค. 51 06:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถูกคะ ตอนนี้สื่อโฆษณาผลิตงานออกมาไม่ตรงกับหลัก "จรรยาบรรณ" กันหมดแล้ว ไม่คำนึงถึงผู้บริโภคเท่าไหร่ แต่ไปคำนึงถึงหลักการตลาดมากกว่า น่าเหนื่อยใจค่ะ ดูอะไรจะซื้ออะไรต้องใช้วิจรณญาณมากๆ จากคุณ : ขนมนึ่ง - [ 24 ม.ค. 51 08:20:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่รู้สิคะ เราว่าผิวขาวไม่ขาวไม่ค่อยสำคัญสำหรับเราเ่ทาไหร่ .... แต่จิตใจขาวสะอาดนี่สิ...มันทำยากยิ่งกว่าเปลี่ยนสีผิวให้ขาว.... จากคุณ : Herzspezialist - [ 24 ม.ค. 51 08:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คนไทยมีค่านิยมที่ผิดๆในเรื่องความงามกระมังคะ แต่อย่างว่า...คนเรามักไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ยกตัวอย่างก็เช่น เมืองไทย คนไทยแท้ๆผิวคล้ำก็อยากขาว ส่วนชาวตะวันตก ยุโรป ผิวขาวก็อยากคล้ำ เป็นต้น โดยส่วนตัวเราคิดว่า ไม่ว่าเราจะมีสีผิวสีไหน ถ้ารู้จักดูแลแล้วก็แต่งตัว คนเราก็งามได้ทั้งนั้นแหละค่ะ ส่วนเรื่องของจิตใจ...ขอไม่พูดถึงค่ะ เพราะว่าใจมนุษย์นั้นมันยากแท้หยั่งถึง เปลี่ยนไม่ได้ง่ายเหมือนสีผิวหรอก จากคุณ : จ่านรกแห่งเขาชนเป็ด - [ 24 ม.ค. 51 09:58:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราก็เป็นคนนึงที่รักสวยรักงาม อยากสวยอยากขาวเหมือนกันค่ะ แต่เราก็ทำเท่าที่กำลังเราจะสามารถทำได้  เวลาเห็นโฆษณาอะไรที่เค้าบอกว่าดี ก็บ้ากระแสตามเค้าไปเหมือนกัน แต่ก็ตั้งอยู่บนความสามรถของตนเองด้วยค่ะ (คือใจอยากแต่ก็งบไม่พอว่างั้น อิอิ) และก็แอบอิจฉาคนที่สวยกว่าเก่งกว่า แน่นอนค่ะ ก็แหม มันน่าอิจฉานี่นา อีกอย่างเคยทำงานในฐานะสื่อมวลชนมาก่อนค่ะ หนังสือหลายๆ เล่มก็มีจุดยืนเพื่อหวังจะสร้างเสริมอะไรก็ว่ากันไป แต่หนังสือก็ต้องมีภาระค่าใช้จ่าย เค้าก็เลยต้องมีโฆษณาน่ะค่ะ  เฮ้อ... มันก็ดูขัดแย้งกันในตัวเนอะ ว่าไหม? จากคุณ : nymphnim - [ 24 ม.ค. 51 10:09:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เคยคิดเล่น ๆว่า พวกที่ขาว ๆ เนี๊ยะ เค้าขาวแต่เกิดหรือเปล่า หรือเกิดมาที่บ้านให้กินแต่ Whitening -*-  เผื่อผมมีลูก จะให้ลูกกินบ้าง จากคุณ : TOSHy - [ 24 ม.ค. 51 10:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ที่บอกว่าเปลี่ยนภายใน 7 วันนี่ไม่จริงเล้ย เรานะเป็นคนอยู่บ้าน ไม่ออกแดดเลย ใช้มา สามขวดแล้วจุดด่างดำไม่หายซักจุด (และทำไมถึงใช้มาตั้งสามขวด )เพราะชอบเนื่อครีมข้น และไม่มีกลิ่นฉุน ราคาไม่แพงมาก ใช้ทีเปลืองมากๆ ทาทั้งหน้า คอ ไหล่ เพราะเราผิวแห้ง จากคุณ : กล่องของขวัญ - [ 24 ม.ค. 51 11:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เหอๆ นี่แหละค่ะ...โลกของเรา จริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องความขาวหรอกนะคะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นแบบนี้ เช่น เรื่องความอ้วน คิดว่าเป็นค่านิยมผิดๆ เหมือนคคห.7 น่ะค่ะ จากคุณ : มิถุนายน - [ 24 ม.ค. 51 11:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราก็เป็นอีกคนที่จัดว่าตัวดำเลยแหละ อยากขาวเหมือนกันค่ะแต่ก็เข้าใจว่าเกิดมาเป็นงี้ทำไงได้ เราก็เลยไม่คิดมากเลือกสวยในแบบของเรา ไม่คิดหา Whitening มาใช้หรอก มันเกินเยียวยา ที่สาวๆ อยากขาวกันมากๆ ก็เพราะค่านิยม แล้วที่สำคัญก็เพราะหนุ่มๆ จะชอบผู้หญิงผิวขาว ถ้าเราจะไม่มีแฟน ไม่ประสบความสำเร็จเพราะตัวดำก็ให้มันรู้ไปค่ะ ถ้าใครที่ไม่เห็นค่าของเราด้วยเรื่องนี้ เค้าก็ไม่มีค่าพอให้เราไปสนใจหรอกค่ะ (แอบประชดซะงั้น) จากคุณ : หากความรักเกิดในความฝัน - [ 24 ม.ค. 51 11:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นธรรมดาของชาวโลก คนไม่สวยก็อยากสวย คนผอมก็อยากอ้วน คนอ้วนก็อยากผอม คนดำอยากขาว คนขาวอยากดำก็มี ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ลองไปถามสิคะ ใครก็ได้ ถามว่าพอใจตัวเองตอนนี้หรือยัง ร้อยทั้งร้อยต้องตอบว่ายังชัวร์ๆ เอาหัวเป็นประกัน จากคุณ : หนมปังช็อกโก้ - [ 24 ม.ค. 51 12:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เราก้อไม่ขาวนะคะ แต่เน้นไปที่เนียนและใสมากกว่าค่ะ เพราะจนป่านนี้แล้วคงขาวยากแล้วล่ะคะ..อิอิ. ดำแล้วดูเนียน ผิวพรรณสะอาดน่าจะดีกว่านะคะ^^ จากคุณ : ยัยวายร้าย - [ 24 ม.ค. 51 12:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องการสร้างภาพผู้หญิง perfect มาครอบงำด้วยสื่อต่างๆ มันมีผลจริงๆ แหละ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ทำโฆษณากันอ้อมๆ แล้ว เล่นมันตื้นๆเลย ขาวสวยเพื่อให้สามีรัก หนุ่มกรุงเทพหลง แฟนเก่ากลับมา เพื่อนเก่าเข้ามาทัก ขาวสวยแล้วมั่นใจ ใครก็สนับสนุน ทำงานอะไรก็สำเร็จ...ความขาวสวยคือทุกอย่าง เราก็เคยอยากขาวนะคะ แต่ยีนและดีเอนเอมันกำหนดมาให้ผิวแทน อืม และตอนนี้เราก็พอใจกับผิวเราแล้ว เราก็อยากสวยนะคะ (ไม่งั้นไม่เข้าห้องนี้) และก็อยากเก่งรอบด้านด้วย แต่ไม่ได้ซื้อผลิตภัณฑ์เพราะโฆษณาแบบข้างบนนั่น สมการของเรา สวยขาว ไม่เท่า สวยเก่ง จากคุณ : After Sunset_Before Sunrise - [ 24 ม.ค. 51 12:57:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ค่านิยมเรื่องความขาวนี่เราเห็นมีมาหลายปีแล้วนะคะ สำหรับเราก็อยากขาว ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าอยากให้สีผิวสม่ำเสมอกันมากกว่า เวลาใส่เสื้อไม่มีแขนแล้วจะได้ไม่ดูเหมือนแขนสองสี ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาสำหรับผู้หญิงทั่วไป แต่ที่เราสงสัยมานานแล้วก็คือ "รักแร้ขาว"เนี่ยล่ะ เคยโดนเพื่อนผู้ชายถาม ตอนเห็นโฆษณาโรลออนยี่ห้อนึงว่า "เฮ้ย ทำไมผู้หญิงต้องรักแร้ขาววะ" เลยย้อนถามไปว่า "ไม่รู้ว่ะ แล้วแกชอบผู้หญิงรักแร้ขาวหรือเปล่าล่ะ" คำตอบที่ได้คือ "เฉยๆ ตอนคบกันก็คงไม่ไปบอกว่า น้องๆ ยกแขนขึ้นพี่ขอดูหน่อยรักแร้ขาวป่าว หรอก" จากคุณ : ธิดามังกรน้อย - [ 24 ม.ค. 51 13:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โฆษณาก็คือโฆษณาค่ะ อย่าตกเป็นเหยื่อการตลาด ยิ่งค่านิยมโฆษณาครีมผิวขาวสมัยนี้ ได้ดูทีไรเป็นต้องนึกอยากด่าทุกที ส่วน คำ ผกา เราชอบบทความของเธอมากๆ ค่ะ แรงดี สะใจดี แต่มีอะไรให้คิดอยู่เสมอนะคะ *^V^* จากคุณ : ริญดา - [ 24 ม.ค. 51 13:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นค่านิยมผิด  ๆ ค่ะ โดยสภาพอากาศประเทศไทยแบบนี้คงทำให้คนผิวไม่ขาว ทำให้ขาวได้นี่คงยากค่ะ  เพราะเป็นมาแต่กำเนิด แต่ถ้าทำให้ผิวดูดี มีสุขภาพแข็งแรง ก็ว่าไปอย่าง โฆษณาสมัยนี้ไม่สร้างสรรค์เอาซะเลยค่ะ แค่สรรพคุณเรื่องผิวขาว ต้องแย่งของรักของหวงกันด้วย ดูที่ไร้ อนาถใจทุกทีค่ะ  มีหลายเวอร์ชั่นอีกต่างหาก เออ... เก่งเนาะ  พยายามทำทุกอย่าง (ความขาว) เพื่อแย่งของรักของคนอื่นมา ผู้หญิงแค่แต่งตัวถูกกาลเทศะ  ผิวพรรณสะอาด  สะอ้าน ไม่ต้องขาว    ก็ดูดีได้ค่ะ จากคุณ : ดอกหญ้าสีน้ำตาล - [ 24 ม.ค. 51 13:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ชอบกระทู้นี้จัง ไม่อยากแสดงความคิดเห็น กลัว.... กลัวจะรู้ว่าเราอิจฉาเค้าแค่ไหนนี่สิคะ จากคุณ : nad (nadtha) - [ 24 ม.ค. 51 14:36:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ส่วนนึง .. ผู้ชายทำให้ผู้หญิงเป็นด้วยมั้งคะ รอบข้างทรายนี่ เพื่อนๆ หรือคนรู้จัก .. พอเจอผู้หญิงขาวสวย ก็จะหางตก ลิ้นห้อย กันเลยทีเดียวล่ะค่ะ เรายังแอบคิดในใจ ใช่ซี๊ .. ตรูมันไม่ขาวนี่ ! แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมายหรอกค่ะ เพราะ ถึงไม่ขาวก็สวยได้ อิอิ มั่นใจเข้าไว้ ^0^ จากคุณ : วัตถุแก่แดดตัวเล็กจิ๋ว (pbb01boss) - [ 24 ม.ค. 51 15:10:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่เคยเชื่ออยู่แล้ว ขาวได้ใน 7 วัน ตลกแล้ว ^0^ จากคุณ : พัชร์สิตา - [ 24 ม.ค. 51 16:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้ความคิดเห็นนะครับ ผมว่าเรื่องความขาว ความไม่อยากขาว ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลนะครับ เป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะพึงพอใจในความงามของตน แต่ผู้ผลิตสินค้าความงามทั้งหลาย ก็มองแต่ในมุมธุรกิจ สร้างภาพมายาให้สังคมเปลี่ยนค่านิยมได้ สะท้อนให้เห็นถึงอานุภาพของการโฆษณาและการตลาด โดยไม่(อยาก)คำนึงถึงผลที่มีต่อสังคมในด้านลบ ลองมองย้อนกลับไปนะครับ สักสิบปีที่แล้ว เราเห็นโฆษณาสินค้าเร่งขาวน้อยมาก เครื่องสำอางดูแลหน้าดูแลตัวมักเป็นการให้ความชุ่มชื้น ต่อมา ด้วยฤทธิ์การโฆษณาก็ทำเอาคนในสังคมชื่นมื่นกับความขาวใส และกรอกสมองผู้บริโภคตา ทั้งตัวดำๆ ตัวแดงๆ ตัวขาวๆ (อยู่แล้ว) โอม จงขาว จงขาว แล้วทุกอย่างจะตามมาทั้งอำนาจ (สยบผู้ชาย) เงินตรา (หาเงิน หางานได้มากขึ้น แถมเจ้านายอาจแบ่งปันความรักใคร่มาให้ด้วย) และชื่อเสียง (วู๊ยยย ขาวโอโม่จังนะ ยัยคนนี้ เป็นที่เลื่องลือในความขาวไปเจ็ดซอย) เดี๋ยวผมจะมานำเนื้อความอีกบางตอนที่คุณคำ ผกา เขียนได้ดีครับ เจาะใจเข้าไปถึงแก่นแท้ของสังคมไทยในด้านมืดๆ อีกด้านครับ จากคุณ : เช็งซิมอี๊ (เช็งซิมอี๊) - [ 24 ม.ค. 51 17:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พูดอย่างไม่มีอคตินะคะ ขาวมันดูดีจริง ๆ นี่นา ตากแดดแก้มก็เป็นสีชมพู ปากชมพูน่าจูบ  ส่วนเราตัวดำ ตากแดดกลายเป็นสีเขียว ปากก็คล้ำจนม่วง ถ้าเลือกให้ตัวเองขาวได้ก็ยังยืนยันว่าอยากจะขาว แต่เรามีสติพอที่จะรู้ว่าเครื่องสำอางค์ทั้งหลายแหล่มันช่วยได้แค่ไหน สว่นใหญ่ไม่เคยเชื่อที่โฆษณาเลย แต่ยอมรับว่าใช้เพราะยังไงก็ดีกว่าไม่ใช้แน่นอน ไม่เคยคิดว่ามันจะช่วยให้เป็นได้อย่างที่โม้ เคยมีคนมาจีบเราและบอกว่า  จริง ๆ ผู้หญิงในสเป็กเค้าคือผู้หญิงขาว คบแต่คนขาว แต่มีเราเป็นคนแรกนี่แหล่ะที่ไม่ขาว เชอะคิดว่าเราภูมิใจหรอที่พูดมา เราเลยอันเชิญเค้าไปหาคนขาวในแบบของเค้า คนดำอย่างเราไม่ต้องการมีเค้าแล้ว ใครว่าขาวเลือกได้ ดำก็เลือกได้ เราไม่ได้มีอคติกับคนขาวเลย ซ้ำยังชอบและอิจฉาด้วย เพียงแต่รู้สึกว่าไม่ชอบให้ใครมาวัดค่าของเราแค่ความขาวหรือดำ จากคุณ : น้องถ่าน (CarbonGirl) - [ 24 ม.ค. 51 20:13:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ ชอบจังเลยค่ะ ^^ จากคุณ : วัตถุแก่แดดตัวเล็กจิ๋ว (pbb01boss) - [ 24 ม.ค. 51 21:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เมลานิน มีไว้เพื่อป้องกันนิวเคลียสถูกทำลายจากแสงแดดด้วย ฉะนั้น คนที่มีเมลานินมาก จะมีโอกาสการเป็นมะเร็งลดลง!! ^^ คิดซะอย่างนี้ดีกว่า :D จากคุณ : ~~A new day has come. ~~ - [ 24 ม.ค. 51 22:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ส่วนใหญ่การทำโฆษณา...เค้าก็ได้ข้อมูลมาจากการทำรีเสริชของสาวๆ นั่นเองล่ะค่ะ....ว่าความต้องการของสาวๆสมัยนี้มีอะไรบ้าง ต้องการอะไรบ้าง.... เช่น...สาววัยรุ่นก็ต้องการให้ขาว ใส มีหนุ่มๆมาจีบบ้าง มีคนมาสนใจ ไม่โดนเพื่อนล้อ.... วัยสาว...ก็ต้องการให้ตัวเองดูดี..ผิวขาว..สวย...เป็นที่ยอมรับไม่ว่า เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่เจ้านาย.... วัยสาวใหญ่(คงไม่ถึงกะกลางคนมั้ง) ...ความต้องการมีมากขึ้นไปอีก และที่เด่นๆคงไม่พ้นเรื่องริ้วรอย อยากให้สามีรัก สามีหลง เป็นต้น... ....มันก็มาจากพื้นฐานความต้องการของสาวๆยุคนี้จริงๆนั่นแหล่ะ เค้าไม่ได้หลอกเราหรอกค่ะ แต่คิดว่าบางคนอาจจะหลอกตัวเองมากกว่า.. ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการเลือกสิ่งต่างๆ ให้กับตัวเราเองมากขึ้นค่ะ.... จากคุณ : UNSeeN ZeeDs - [ 25 ม.ค. 51 00:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ คห. บน ผู้ผลิตไม่น่าจะมีเจตนาหลอกลวงผู้บริโภค แต่พิจารณาให้ดีๆ ความอยากขาว ใส มาจากอะไรละครับ เพราะนอกเหนือจากความนิยมชมชอบของสังคมเองแล้ว การตลาด การโฆษณาก็มีส่วนสำคัญ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีบริษัทโฆษณาและฝ่ายวางแผนการตลาดหรอกครับ ผมมองว่าที่ผู้เขียนนำเรื่องราวเหล่านี้มาเสนอ เพราะต้องการกระตุกเตือนสังคม ไม่ให้ก้าวหลง เดินเร็ว และสะดุดล้มกับสิ่งเปลือกนอกมากจนเกินไป ผู้หญิงทุกคนมีความงามกันทุกคน งามจากจิตใจ งามจากความดี งามจากกิริยาและวาจาอันสุภาพ การเร่งสร้างผิวให้ขาวก็เป็นเพียงเปลือกนอก หุ้มห่อเราทุกคนไว้ ผู้เขียนยังตั้งคำถามต่อมาด้วยว่า และเราจะต้องการความขาว สวย ใส ไปทำไม สำหรับหลายๆ คน อยากใสขาวเพื่อดึงดูดเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน เพื่อก่อร่างสร้างครอบครัวเหมือนอย่างใครๆ เขา ทั้งที่ ณ ขณะนี้ ก็มีตัวอย่างเป้งๆ เห็นกันทุกวันว่า การมีครอบครัวไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต มนุษย์เรายุคสมัยนาโนครองเมือง ไม่ได้ต้องการแรงงานไพร่พลไว้ทำการเกษตรอีกต่อไป และเพศชายก็ไม่ได้เป็นแรงงานสำคัญเพียงคนเดียวในการหาเลี้ยงครอบครัวอีกแล้ว ผู้หญิงทุกคนควรน่าจะตั้งคำถามกับตัวเองอย่างที่คุณคำ ผกา ว่าไว้ว่า ...นี่เป็นปัญหาที่ผู้หญิงต่างกระทำกับผู้หญิงด้วยกันเอง พูดเอง เออเอง เดาเอาเองว่าผู้ชายชอบอย่างนั้น ต้องการอย่างนี้ โดยไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ฟังเสียงผู้ชายที่แท้จริงว่า ตัวผู้ชายเองก็ไม่ได้ต้องการอยู่ในยุคบุกป่าทำนาทำไร่ล่าสัตว์อีกต่อไป... จากคุณ : เช็งซิมอี๊ - [ 25 ม.ค. 51 04:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต่อครับ ...และจะมีใครถามต่อไหมว่า ในโฆษณาเหล่านี้ เราไม่ได้ยินเสียงผู้ชายพูดอะไรสักแอะ ในหนังโฆษณาน้ำมันพรายไวท์เทนนิ่งที่ว่า เราเห็นแต่หนุ่มหล่อ ยิ้มหวาน เงียบเชียบ เขาค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้หญิงสาวที่ขาวขึ้นที่ละนิด หรือผู้ชายเกือบทุกคนก็ตกอยู่ในอาการของคน "โดนเล่นของ" เลยนะจังงัง เห็นผิวขาวอยู่ทิศไหนก็พุ่งไปยังทิศนั้น เบลอๆ ไม่พูดไม่จา ดังนั้น เราจึงไม่อาจได้ยินเสียงของผู้ชายที่อาจจะอยากบอกผู้หญิงว่า อย่าไปเสียเงินกับความงมงายเหล่านี้เลย ขาวไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะผมชอบผู้ชายด้วยกัน [ฮา] ผู้ชายอีกหลายคนอาจจะอยากบอกว่า เอ่อ...ขาวก็ดีนะครับ ถ้าเงินที่เอาไปซื้อน้ำมันพรายแพงๆ เหล่านี้ ไม่ได้ฉกเอาไปจากกระเป๋าเงินผม จากคุณ : เช็งซิมอี๊ - [ 25 ม.ค. 51 04:59:33 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มีสาระ  ขอ vote ให้กระทู้ดี ๆ จ้า จากคุณ : cutemd - [ 25 ม.ค. 51 10:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นด้วยนะคะ ผู้หญิงกับความสวยงามเป็นของคู่กัน สาว ๆ อยากหน้าใส อยากจะขาว คงเป็นเรื่องธรรมดา คล้าย ๆ กับว่าเป็นค่านิยมไปแล้ว ทำให้ผู้หญิงกลายเป็นเหยื่อของโฆษณา ต้องมั่นเตือนสติตัวเองว่าคุณค่าของผู้หญิงไม่ได้อยู่ที่ความงามอย่างเดียว แม้ความดี ความเก่ง ถึงจะไม่ได้เห็นได้ด้วยตา แต่ก็เป็นสิ่งที่ยั่งยืนกว่านะ  คนจะงามงามน้ำใจใช่ใบหน้าจ้า จากคุณ : cutemd - [ 25 ม.ค. 51 11:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อือ น่าคิดๆ ดีค่ะ โหวตด้วย จากคุณ : middleme - [ 25 ม.ค. 51 16:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มายกมือโหวดอีกคน ฮับ จากคุณ : angelica0819 - [ 26 ม.ค. 51 08:59:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยค่าาาาา จากคุณ : Nettie - [ 28 ม.ค. 51 19:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นด้วยอย่างที่สุด จากคุณ : Tenjo_Utena - [ 28 ม.ค. 51 19:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขาวแล้ว ก้อยังไม่มีแฟน ครับ 55+ จากคุณ : Mg_field - [ 28 ม.ค. 51 19:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตั้งกระทู้ได้ถูกใจมากเลยค่ะ อยากบอกว่า เป็นตัวของตัวเอง ดีเริ่ดที่สุดเลย เคยบ้าบอไปเหมือนกัน ทุกข์กับทุกข์ เพราะมัวแต่เครียด ห่วงสวยมากเกินไป จนบางทีลืมสิ่งที่สำคัญ ที่ทำให้คนอื่นสบายใจเวลาอยู่ใกล้เรา เดี๋ยวนี้ตามยถากรรมค่ะ ถึงจะดั้งหัก ผิวคล้ำ และอวบไปทางอ้วน แต่ก็สุขใจที่เราอยู่ใกล้คนอื่นแล้ว ทำให้เขามีความสุข และเขาก็ยอมรับเราในสิ่งที่เราเป็นได้ แค่นี้ก็เฮฮาแล้วค่ะ  นั่งตีรัมมี่กับเพื่อน คีบหมูกะทะกับเพื่อนทั้งหลาย ขัดหน้าแต่งตัวเอาสนุกสนาน ดูหนังกับที่รัก และรักใครซักคน เรื่องแบบนี้ ไม่สวยก็ทำได้ ไม่เห้นต้องขาวกิ๊ก ผอมเพรียว หรือหน้าเรียวสวย ดั้งโด่ง อิฉันก็คนๆหนึ่งนะค๊า มิสิทธิที่จะรัก มีสิทธิที่จะมีความสุขเหมือนกันื ไม่อยากให้มาตัดสินว่า  คนๆนี้เป็นพลเมืองชั้น 2 เพียงเพราะ เขาไม่ขาว  ไม่สวย  ไม่รวย เลยทำเหมือน เขาไม่ควรมีใครรัก  เขาจะโดนทิ้ง เพราะ รักแท้ใน 7 วัน ต้องมีวงแขนขาวเรียบ หรือ เนียนประกายส่องแสงได้ทั้งตัวแบบนั้น บุคลิกมีส่วนในงานก็จริงค่ะ แต่ว่าความสามารถเองก็ไม่ได้แพ้กันหรอกนะ ผู้หญิงมีอะไรที่ดี และทำได้มากกว่าที่ผู้ชายคิด และวางไว้แค่ว่า สวยเท่านั้น ถึงมีสิทธิ แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 51 20:19:22 จากคุณ : ทาสรักลูกแยม - [ 28 ม.ค. 51 20:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โหวตค่าโหวต จากคุณ : มิสพรหล้า - [ 28 ม.ค. 51 20:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 โหวตค่า จากคุณ : s.o.s - [ 28 ม.ค. 51 20:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เคยคิดเล่น ๆว่า พวกที่ขาว ๆ เนี๊ยะ เค้าขาวแต่เกิดหรือเปล่า หรือเกิดมาที่บ้านให้กินแต่ Whitening -*-  เผื่อผมมีลูก จะให้ลูกกินบ้าง จากคุณ : TOSHy  - [ 24 ม.ค. 51 10:29:54 ] พวกนี้ขาวแต่เกิดครับ แต่ว่าเนื่องจากโดนแดดจึงทำให้ดำ แต่คนที่ดำแต่เกิด แล้วทำให้ผิวขาว คงยาก (ผมไม่รู้นะ) เพราะผมขาวตั้งแต่เกิด จากคุณ : the_puppylove - [ 28 ม.ค. 51 20:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ค่านิยมเรื่องความอ้วน ความผอม ผมว่าดีแล้วครับ เพราะว่า ความอ้วน ทำให้มีโอกาสเป็นโรคต่างๆ สูงมาก มากกว่าคนผอมหลายเท่า จากคุณ : the_puppylove - [ 28 ม.ค. 51 20:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เราผิวขาวเหลือง มีบ้างที่รู้สึกว่าอยากขาวอีก แต่ก็เฉยๆอ่ะ บำรุงไปตามเรื่อง กลัวแก่มากกว่า โฆษณาไม่ได้มีผลกับเรามาก แต่ยอมรับว่าสิ่งที่สื่อออกมามันดูน่ากลัวเหมือนกัน มันดูโต้งๆทื่อๆเกินไปว่าขาวแล้วจะอย่างโง้นอย่างงี้ ชอบคห.คุณ carbongirl กะคุณ ทาสรักลูกแยม จังเลยค่ะ ^^ จากคุณ : +++sLeEPYnOmORE+++ - [ 28 ม.ค. 51 21:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แรกๆ เจอกระแสขาวไข่ปอกก็มีคิดนะ แต่พอมานั่งนึกๆ ดู ถ้าให้กระผมตัวขาว แต่เอาความสามารถทั้งหลายแหล่ที่ใครต่อใครปลื้มชื่นชมไปหมด ก็ไม่ขอแลกดีกว่า ตัวดำมันไปงี้แหละ ดีเสียอีก จะได้มีคำนินทาประมาณว่า เห็นธรรมดาๆ ตัวดำๆ แต่กลับ...(แง่บวก) ดีกว่าคนนินทาว่าเห็นขาวๆ รูปร่างท่าทางดี แต่กลับ...(แง่ลบ) จากคุณ : BAHAMAS - [ 28 ม.ค. 51 21:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 43 โดยส่วนตัวรู้สึกอคติกับคนที่บ้าเรื่องความขาวมากๆๆอ่ะค่ะ เราเองเป็นคนผิวคล้ำ แต่หน้าตาก็ไม่ได้ทุเรดทุรังอะไรมากมาย พอเห็นคนที่ผิวไม่ขาวแต่กลับคลั่งในความขาว ทำให้เรารู้สึก แปลกๆกับคนๆนั้นเป็นอย่างมาก เราคิดว่า จำเป็นด้วยเหรอที่คนขาวเท่านั้นที่ดูดี เวลาเราเห็นผู้หญิงสองคนเดินมา คนนึงผิวขาว คนนึงผิวสองสี ทั้งสองคนแต่งหน้าแต่งตัวดี เรากลับชอบคนผิวสองสีเพราะดูเซกซี่ และหน้ามอง เพื่อนเราคนนึงเป็นคนใต้ ตอนเด็กๆหน้าตาน่าเกลียด แต่ตอนนี้ดูดีขึ้นมากๆ เพราะเค้าจัดฟัน ดูแลตัวเอง แต่มันก็ยังไม่พอใจในสิ่งที่มีอยู่ พยายามทุกอย่างที่ให้ตัวเองขาว ทั้งกิน ทั้งทา นี่ไปฉีดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผลที่ได้คือ ทุกคนกลับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันดำขึ้น และเราก็คิดว่า หน้ามันเทาๆขึ้นอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่มีใครกล้าไปทักเพื่อนคนนี้นะเพราะกลัวมันเสียเซล์ฟ เราเชื่อว่าไม่มีทางที่คนผิวคล้ำจาขาวได้ เราไม่เคยวุ่นวายกับความขาว ขอเพียงแค่ให้ผ่อง เนียน ใส แค่นี้ก้อพอใจมากแล้ว ถามเพื่อนๆหลายคนว่า เลือกเอาสิ ระหว่างขาวแต่ทุเรดกับดำแต่ดูดี จะเลือกอันไหน (เคยเห็นผู้หญิงหลายคน หน้าตาไม่ดีมากๆๆๆ ถามเพื่อนว่าเป็นไง เพื่อนตอบว่า ขาวดี) คำตอบของเราคือ ดำแต่ดูดี จากคุณ : ส ว ย ที่ มื ด - [ 28 ม.ค. 51 22:16:29 ]

ความคิดเห็นที่ 44 งืม เห็นด้วยค่า ยกมือโหวตโดยด่วน เราก็ดำนะ แฟนเราที่เพิ่งคบกัน ว่าเราทู๊กวัน ดำ  อ้วน น่าเกลียด แล้วมาเลือกตรูทำไมฟะ แถมบอกอีกว่า เธอคือ คนดำคนแรกเลยนะนี่ (ตรูจะบ้าตาย) ก็ว่าเค้าไป บอกว่าก็ไปหาคนขาวสิ ถ้าหาคนขาว ที่ดีเพียบพร้อม รักคุณเท่าฉัน หรืออะไรก็ตามแต่ เชิญคุณไปเลย มันก็มีคนดีทั้งขาวและดำแหละจ๊ะ แหมคนเรา อะไรมากมาย ถ้าจะหาเมียและแม่ของลูก ถ้าเลือกที่ขาวและสวยไม่เลือกที่จิตใจก็แล้วไป ปล. พอเขาพูดก็โกรธทุกที กะว่าจะเลิกแระ ถ้าคิดว่า ขาวและสวย ดีกว่า ดำ เด้งดึ๊ง ดูดี นิสัยดี มีสมอง จมูกโด่ง ตาโต ก็ตามใจ ใครว่าเราดำ เราไม่สน เพราะเราง่ะมีสมองสองมือ ช่างมันจิ คนดำยกมือขึ้น เราขอโหวตกระทู้นี้ชอบอย่างแรงฮิ ไม่ใช่พันธุ์ขาวแล้วจะแต่งงานไม่ได้ ไม่มีคนมาชอบให้มันรู้ไป สวยเลือกได้ซะอย่าง จากคุณ : ถั่วกระป๋อง (peanut_can) - [ 28 ม.ค. 51 22:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คำโปรยในโฆษณา ต้องใช้วิจารณญาณ แต่คนอยากสวย..............อยากขาว................ จังหวะนั้นอะไรก็เชื่อไปหมดแหล่ะค่ะ ปล. เห็นสาวๆหลายคนสั่งสมความขาวมาตั้งแต่เกิด...ยังเลือกไม่ได้เลย ไม่ใช่แค่ความขาวที่ทำให้สวยนิ อย่างอื่นก็ต้องประกอบกันไปด้วย จากคุณ : A Princess - [ 28 ม.ค. 51 23:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขาวแต่ไม่เนียนสวย ก็ไม่ไหวนะ บางคนไม่ขาวแต่ผิวเนียนสวยมากก็เยอะแยะครับ ถ้ามี 2แบบนี้ ผมเอา เนียนสวยครับ จากคุณ : penn's - [ 29 ม.ค. 51 00:30:36 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เราชอบคนขาวค่ะ ชอบแบบ บ้าคลั่งเอามากๆ ด้วยแม่บอกว่า ตอนที่เราอยู่ป.2 เราเก็บเงินไปชื้อ ครีมจอนห์สัน รุ่นผิวขาวแรกๆเลยอ่ะคะแม่ยังตกใจเลย 555+ แต่มันเป็นความชอบของเรา บังคับกันไม่ได้ ครั่นคุณจะไปสรุปว่า คนที่ชอบคนขาว เป็นคนไม่ดี เป็นพวกอคติคุณจะพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะคนบางคนเกิดมา เขาก็หลงใหลในความขาวแล้ว มันเป็นรสนิยมแบบหนึ่ง เหมือนกับ บางคนชอบคนผิวคล้ำๆ ก็ว่ากัน เกิดมา เราก็อยากขาวเลย เราไม่ใช่คนผิวคล้ำ เพราะ แม่เราเขาเป็นลูกครึ่งคนจีน แต่เราก็ไม่ใช่คนขาวจัดๆ  ถ้ากับเพื่อน ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ขาว แต่ยังไม่ได้ขาวขนาดลูกคนจีน เวลาใครถาม ถามว่าทำไมเราถึงได้ขาว เราก็จะตอบว่า เราเป็นคนดำ แต่เราอยากขาว เราก็เลยทากันแดด ประโคมครีม เพื่อให้ขาว แล้วก็เนี้ย ขาวได้อย่างเนี้ย ทำมาตั้งแต่จำความได้  ถ้าอยากขาว ต้องทำแบบเรา ส่วนใหญ่ เขาฟัง เขาก็มองแบบ อีประหลาด อีนี้มันโง่ อีนี้แบบ.. เป็นอะไรมากเป่าว่ะ บางคนก็พูดออกมากันตรงๆ ว่า มรึงเอาเวลาไปทาครีม ไปทำอะไรอย่างอื่นที่มีประโยชน์จะดีกว่าไหม? ขาวไป ก็ไม่ดีขึ้นหรอก?  (ก็กรูชอบขาวนิ ยุ่งไรล่ะ) เราไม่สนใจหรอกค่ะ เพราะเราชอบคนผิวขาว เรารักที่จะเป็นคนผิวขาว เราจะเป็นอย่างนี้ต่อไป หลายวันมานี้ เรานั่งคุยเล่นกับเพื่อนๆ ว่าทำไม๊..ทำไม เราถึงได้ไม่มีแฟน ทั้งๆ ที่ เราคุณสมบัติ ขาว หน้าอกโต หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่ต่ำเตี้ย กุลสตรี เรามีเต็มร้อย แต่ที่ไม่มี เพราะความห่าม พูดมาก ปากก็ร้าย ผู้ชายคนไหนจะทนไหวล่ะ555+ .. เขาก็ชอบแต่แบบนิ่มๆ พูดน้อยๆ ผู้ชายนะ ชอบผู้หญิงเชื่องๆ ไม่แปลกหรอกค่ะ ที่พวกผู้หญิงที่หลงใหลความขาวไม่รู้ลืมหูลืมตา เชื่องให้เขาจูงจมูกง่าย ถึงได้เป็นส่วนที่ผู้ชายชอบนะ ใครบอกว่า ขาวเลือกได้ มันไม่จริงเลยค่ะ .. เพราะ จากประสบการณ์ มันไม่เคยแม้แต่จะได้เลือก  555+ เราเคยอ่านเรื่องที่คุณผกาเขียน มานานแล้วค่ะ เคยเห็นรูปด้วย (ขาว ผมซอยสั้น ใส่เสื้อกล้าม ใส่แว่น ดูก็รู้เลยว่ามีความมั่นใจสูง) จะว่าไป คุณผกา เขาสรุปอะไรมั่วๆ เหมือนกันนะ คือ ตอนนั้น เขาตั้งคำถามว่า ทำไมนางเอกต้องผมตรง ตัวเล็ก นมแบน ในขณะที่ นางร้าย นมโต ผมหยิก แล้วเขาเขียนอธิบายประมาณนี้ล่ะคะ ว่ามันเป็นสัญลักษณ์ ผู้ชายชอบ แรกๆ เราก็เออเออ ไปกะเจ๊นะ หลังๆ ว่ามันไม่ใช่อ่ะ แต่เอาเข้าจริงๆ จะมีผู้ชายดูละครเหรอ? แล้วสมัยนี้ นางเอกนางร้าย ไม่ได้ต่างกันเลย  นางเอกน่าตบกว่าด้วยซ้ำไป จะหัวหยิก หัวตรง ก็ไม่ใช่ประเด็นแล้ว แล้วก็ อีกอย่าง มันเป็นแฟชั่นไป สมัยก่อน ตอนเราเป็นวัยรุ่น ใครหัวหยิก หัวหยักศก นี้ยังกะประชากรชั้นสอง ไปไหน ก็มีแต่คนเหยียด เดียวนี้ หัวยิ่งหยิก ยิ่งฟู ยิ่งดี หัวหยิกอย่างเรา เลยมีโอกาสได้โชว์ของแม่ให้มาบ้าง 555+ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าความสวยมันช่างได้เปรียบ ดูอย่าง อลิซาเบธ ที่แต่งกับมหาเศรษฐี อรุณ สิ ขนาดว่า ผู้หญิงเคยมีลูกแล้ว คนแขกถือนักถือหนา แต่สวยหยาดเยิ้มขนาดนั้น ก็หยวนๆ น้า กี่ยุคกี่สมัย ... ความงาม กับ ความดี ก็เป็นเรื่องที่ผกผันอยู่เสมอ คนจะงามงามที่ใจใช่ใบหน้า คนจะสวยด้วยกริยาใช่ตาหวาน คนจะดีดีด้วยใจสุนทาน คนจะรวยด้วยความขยันขันแข็งเอย แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 51 02:50:01 จากคุณ : หวานใจนายโหด - [ 29 ม.ค. 51 02:44:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เมื่อก่อนเราก็อยากขาว ปัจจุบันก็ยังอยากอยู่ แต่ก็มีสติมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน      หลงเชื่อคำโฆษณาน้อยลง ยังเคยคุยกับเพื่อนเลยว่าความขาวเป็นค่านิยมที่ถูกสร้างขึ้นในประเทศไทย ที่เดียวรึเปล่า ทีชาวต่างชาติอาบแดดอยากมีผิวคมเข้มกัน ขนาดครีมยังมีแบบทาแล้วเป็นสีแทนเลย ตอนเรียนอาจารย์บอกว่าคนดำๆ อย่างเรานี่แหละที่โอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังน้อยกว่าคนผิวขาวกัน  อีกอย่างดำคมถ่ายรูปออกมาสวยกว่าด้วย เอาเป็นว่าจะตัวขาวตัวดำ ขออย่าใจดำแล้วกัน จากคุณ : ลิปมัน - [ 29 ม.ค. 51 10:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ผู้หญิงกับความขาวเป็นของคู่กัน ใครๆ ก็อยากมีผิวขาวสวยด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าผิวมีสุขภาพดี โครงสร้างผิวดีมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ผิวละเอียดมีความยืดหยุ่น ไม่ว่าจะผิวสีอะไร ก็ดูดีีมีเสน่ห์ได้ ดูอย่างนักร้องต่างประเทศหรือว่าดาราฮอลีวู้ดสิคะ ที่มีผวสีดำหรือว่าแทน หรือว่าสีน้ำผึ้งก็ยังสวยเด้งได้ ดังนั้นเราต้องบำรุงสุขภาพผิวจากภายในด้วยการรับประทานอาหารที่มีรประโยชน์ต่อผิว จำพวกผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูงและถ้าหากต้องการความสะดวกก็เลือกรับประทานอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงผิวจากภายในและพักผ่อนให้เพียงพอ หรือว่าถ้ามีเวลาออกกำลังกายก็ดีนะคะ จะได้สวยเด้งเป็น 2 เท่า เท่านี้ก็มีผิวสวยสุขภาพดีได้คะ จากคุณ : Princess of the wind (Jenny2425) - [ 29 ม.ค. 51 10:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เราไม่สนใจหรอกค่ะ เพราะเราชอบคนผิวขาว เรารักที่จะเป็นคนผิวขาว เราจะเป็นอย่างนี้ต่อไป จากคุณ : หวานใจนายโหด   - [ 29 ม.ค. 51 02:44:57 ] ^ ^ เห็นด้วยค่า เราก็เป็นคนนึงที่อยากขาว ทั้งที่เราก็ไม่ได้ดำคล้ำอะไร แต่แค่รู้สึกว่า ถ้าขาวได้ก็ดี อย่างน้อยถ้าไม่ขาวขึ้น ก็อย่าคล้ำลงก็แล้วกัน ไม่ได้ซื้อครีมขาวในเจ็ดวันแบบในโฆษณา แล้วก็ไม่เคยเชื่อโฆษณาเลย แต่ก็ใช้ครีมบำรุงผิวยี่ห้อที่ตัวเองชอบ ทาสม่ำเสมอ ทาครีมกันแดด กางร่ม การบำรุงผิวทำให้ตัวเองรู้สึกดี ได้ดูแลร่างกายตัวเอง พอผิวเนียนสวยก็สบายใจ มีความสุข ...ส่วนความขาวหลังทาครีมมันเป็นผลพลอยได้ จริงๆแล้วคนที่เริ่มเรื่อง "ความขาว" ก็คือผู้ชายไม่ใช่เหรอ ที่ชอบคนที่ขาวๆ เห็นใครขาวๆ ก็บอกว่าน่ารัก สวย ใส ... ทั้งๆที่บางคนไม่เห็นจะได้เรื่องเลย แต่เพราะชีแค่ "ขาว" กว่าชาวบ้านเค้า การมี "ค่านิยม" ไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่เพราะ "ค่านิยม" เลยทำให้เกิด "กระแสนิยม" ผู้ชาย(จะหน้าตาดีหรือไม่ดี) ถ้าเลือกได้ก็ชอบผู้หญิงขาวสวยน่ารักด้วยกันทั้งนั้นนี่นา จากคุณ : devilyee - [ 29 ม.ค. 51 10:30:16 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าขาวก็ดี ไม่ขาวก็สวยแบบเข้มๆ ได้ เราไม่มีปัญหาเรื่องนี้เพราะพ่อขาว ได้มาเต็มๆ แต่ว่าเพื่อนบางคนผิวเข้มแต่เนียน แล้วเค้ามั่นใจ ก็เห็นเค้าสวยนะ ขาวหรือดำไม่สำคัญอ้ะเราว่า แต่ขอให้ดูสะอาด เนียนๆ ก็โอเคแล้ว จากคุณ : KhongMing - [ 29 ม.ค. 51 11:12:34 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เราไม่ขาวเลย โดนล้อมาตลอด แต่ไม่เคยเก็บมาคิดมาก ไม่เคยอยากขาว เพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ดำตั้งแต่เกิด ทาครีมสามวันเจ็ดวันจะขาวได้ไง แต่ก้อไม่ได้ทิ้งการดูแลตัวเอง รักษาผิวพรรณให้ดูเนียน สวย แค่นี้ก้อมั่นใจแล้ว จากคุณ : ตุ๊กแกตาสก๊อต - [ 29 ม.ค. 51 11:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เราไม่ค่อยชอบค่านิยมอย่างนึงของคนไทย ที่ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกซะส่วนใหญ่ เพื่อนเราคนนึงอ้วนมาก เขาไปเรียนต่อและทำงานที่ต่างประเทศ เขาคิดอยากทำงานต่อ ที่นั่นไปเรื่อยๆ ไม่อยากกลับ เพราะรู้สึกว่าเขาได้รับโอกาสมากกว่าอยู่ที่นี่  อยู่เมืองไทยถ้าอ้วนมาก ไม่มีใครอยากรับเข้าทำงาน โดนมองว่าบุคลิกไม่ดี โดนหาว่ากินเยอะทั้งที่เขากินไม่เก่ง โดนล้อแซวและทำร้ายจิตใจนานาประการ เขามักจะบ่นเรื่องความอ้วนให้เพื่อนฝรั่งฟัง ซึ่งทุกคนประหลาดใจที่คนไทยกังวลเรื่องแบบนี้มาก เพื่อนเขาบอกเสมอว่า เขาน่ารัก เก่ง และสวย จงพอใจเพราะทุกคนมีความสวยของตัวเอง เราเองไม่อยากให้เขามองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้น แต่ก็เถียงเขาไม่ออก เราเชื่อว่าอะไรหลายๆ อย่างมันหล่อหลอมให้คนในสังคมเราเอาชนะกันด้วยรูปร่างหน้าตา แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็แทรกซึมอยู่ในจิตสำนึกลึกๆ ของเรา ไม่ใช่แค่วัยรุ่น เด็กเล็กๆ ก็เริ่มไดเอทกันแล้ว อาจไม่เกี่ยวกับความขาว แต่เราว่ามันเป็นประเด็นคล้ายๆ กันค่ะ จากคุณ : ผอมเลือกได้มากกว่าขาวนะ ว่าไหม (Mottinat) - [ 29 ม.ค. 51 11:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เราว่าคนที่ตัดสินคนจากภายนอกก็มีทุกประเทศอะแหละค่ะ ที่โฆษณาสินค้าเหล่านี้เยอะแยะ เราว่าเพราะกลุ่มผู้บริโภคเป็นหลักมากกว่า ถ้าไม่มีdemand ก็ไม่เกิดsupplyอะนะ กระแสไหนมาก็จับกระแสเพื่อยอดขาย ก็เป็นเรื่องของการตลาดว่ากันไป ช่วงชาเขียวฮิตๆ ผ้าอนามัยยังมีกลิ่นชาเขียวเลย   เรื่องความขาว เราว่าก็เป็นเรื่องของรสนิยมนะ ห้ามกันไม่ได้ ถ้าสาวคนไหนชอบก็บริโภคกันไป คนไหนไม่ชอบก็ซื้ออย่างอื่น เพียงแต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่คงชอบความขาวมากกว่า กระแสสังคมเลยเป็นแบบนี้ โอเค ว่าถ้าคิดว่าขาวขึ้นแล้วมั่นใจขึ้น ทำให้สร้างโอกาสได้มากสำหรับตัวเอง นั่นก็เป็นเรื่องดีนะเราว่า เพียงแต่โฆษณาสมัยนี้น่าจะสร้างค่านิยมให้ผู้หญิงรู้จักเลือกมากขึ้นด้วยเนาะ ไม่ใช่ว่า พอขาวก็ได้ความรักกลับคืนทั้งๆที่ไอ่นั่นมันนอกใจไปตอนแรกไม่ใช่เหรอ จากคุณ : แป้งเปียกรสแซ่บ - [ 29 ม.ค. 51 12:14:09 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่ขาวเท่าไหร่ สมัยเด็กก้ออยากขาวจั๊วๆ นะ แต่โตขึ้นก็เฉยๆ มาก ก็ภูมิใจในสิ่งที่เรามี ไม่แอนตี้คนอยากขาวนะ แต่เสียดายแทน เพื่อนบางคนผิวแทนสวย หน้าคมก้อเขากับผิวดี แต่ชอบบ่น ชอบอยากขาว กลัวแดด หาครีม มาทา เราคิดว่า ถ้าเขาเห็นคุณค่า เห็นความสวยของผิวสีนี้ำผึ้ง ชีวิตเขาจะเป็นอีกอย่างเลยนะ แค่มุมมองที่เปลี่ยนเท่านั้นเอง เราก็ไม่ต้องไขว่คว้าอะไรๆ ที่มันไม่ใช่ตัวเรา และปัญญาอ่อนๆ กระแสนิยม จากคุณ : นู๋ปิ๋มมี่ - [ 29 ม.ค. 51 12:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เคยเห็นคนผิวขาว ๆ เนียนแล้วคิดแบบนี้กันบ้างไหมค่ะ "คนนี้นะ ถ้าไม่ขาวเนี่ยดูไม่ได้เลย" แต่ถามว่าขาวแล้วมีสิทธ์เลือกได้ไหม ได้ค่ะ เลือกได้ เพราะคนที่เข้ามาหาคงมีมากกว่าเพราะความขาวมันสะดุดตา แต่ถามกลับกันว่า แล้วผู้ชายเค้าคบ ๆ ไปเค้าเลิกได้มั้ย ได้ค่ะ เลิกได้ ทำไมโฆษณาต้องเอาความขาวของผู้หญิงไปวางไว้บนความพอใจของผู้ชายคะ จากคุณ : ข้าวโพดซัง - [ 29 ม.ค. 51 13:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โฆษณา เรื่องประมาณนี้กลับไม่มีผลกับเรา Role Model ตัวเป็นๆที่เห็นในชีวิตประจำวันมีผลมากกว่า แต่โฆษณาบางอันเช่น เอาแขนไปเทียบ ทำไม่แขนขาวไม่เท่าขา ก็โดนนะ ยังว่า creative คิดได้ไง เพิ่งนั่งเทียบไปเมื่อวานเอง ^_^' (แต่ไม่ซื้อหรอกนะ) จากคุณ : balabongi - [ 29 ม.ค. 51 17:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่เข้าใจว่า "คนเขียนบทความ" เห็น ประชาชนคนไทย ไม่มีสมองคิดกันหรือไง การที่บอกว่า สื่อต่างๆ เอาแต่ประโคม ค่านิยม มอมเมา ประชาชน ไปในทางที่ผิด แต่ผมกลับคิดว่า "แม้ว่าสื่อจะทำเช่นนั้น" แต่หากคนไทย มีสมอง ที่จะไม่ถูกชักจูง สื่อเหล่านี้ ก็จะตายไปเอง ในทางกลับกัน หากเราปิดกั้น และต้องการจะทำลายแนวคิด marketing เหล่านี้ ไม่ให้เล็ดรอด ออกไปสู่สายตาประชาชน ก็เหมือนการฟังความข้างเดียว ผมว่า การศึกษา นั่นแหละ ที่จะช่วยให้ประชาชน "เลือก" ได้ถูกต้อง ว่า สารใด ที่มีประโยชน์ และเลือกที่จะไม่รับสารใด สรุปว่า ผมไม่เห็นด้วยกับบทความ ที่คุณไปว่า การโฆษณาของเขา ผมไม่ได้บอกว่า เส้นทางธุรกิจ การแสวงหากำไร มันสวนทางกับจริยธรรม เพียงแต่ว่า การแข่งขันในโลกความเป็นจริง มันไม่ได้สวยงาม เหมือนโลกในอุดมคติ ที่ผู้เขียนบทความตั้งใจไว้ครับ จากคุณ : ต่ายหมายจันทร์ - [ 29 ม.ค. 51 17:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอเพิ่มนิดนึง เห็นด้วยกับคุณหวานใจนายโหด ครับ จากคุณ : ต่ายหมายจันทร์ - [ 29 ม.ค. 51 17:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สงสัยว่าคิมจะสวนกระแสค่ะ   ไม่เคยคิดอยากขาวกับเขาเลย เป็นคนผิวสีน้ำผึ้ง    ไม่เคยใช้ไวเทนนิ่ง จากคุณ : Ms. Kim - [ 29 ม.ค. 51 18:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เราไม่สนใจหรอกค่ะ เพราะเราชอบคนผิวขาว เรารักที่จะเป็นคนผิวขาว เราจะเป็นอย่างนี้ต่อไป จากคุณ : หวานใจนายโหด   - [ 29 ม.ค. 51 02:44:57 ] เห็นด้วยอย่างแรงค่ะ สำหรับเราความขาวไม่ได้อยู่ที่ความนิยมเลยอ่ะค่ะ แม้จู่ๆเกิดฮิตผิวสีอื่นขึ้นมา เราก็ขอที่จะขาวต่อไปค่ะ แล้วคนประเภทที่ถูกแอบด่าว่า หน้าตาไม่ไหวดีแต่ขาว  มั่ง  ไม่ขาวแล้วดูไม่ได้ มั่ง เราว่ามันก็เป็นโชคของเค้านะคะที่แม้จะมีอะไรไม่ดีมั่งแต่ก็มีความขาวเป็นจุดเด่น นี่ถ้าเกิดไม่ขาวก็จะโดนด่าเละกว่านี้ป่าวเนี่ย แต่ยังไงไอ่การวิจารณ์เรื่องสีผิว รูปร่าง หน้าตานี่ผู้เจริญแล้วเค้าไม่ทำกันนะคะ มันเลือกกันไม่ได้นี่นา บางคนเราเห็นโดนคนอื่นว่าเรื่องพวกนี้ ไม่เข้าใจจริงๆว่าเค้าไปทำไรให้นักหนา เอาเวลาไปปรับปรุงภาวะจิตใจตัวเองก่อนดีมั๊ย ถ้าเป็นอิชั้นจะซื้อกระจกให้ส่องเลยเชียว มีขาวเนียน กับดำเนียนเดินผ่านมา เราก็ขอเลือกขาวอ่ะค่ะ ไม่รุง่ะ คนมันชอบ อิอิ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 51 19:36:03 จากคุณ : กระต่ายกลายพันธุ์ - [ 29 ม.ค. 51 19:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อุ๊ยย โดนใจฉัน * ไอ้เรื่องสีผิวเนี่ย อัดอั้นมานานละ เพื่อนชอบบอกเราว่า ... แกอ่ะ ก้ดีหมด ยกเว้นเรื่องเดียวคือ ดำ !!! ไม่งั้นนะ ผู้ชายมาจีบตึม เหอๆ คนเรามันเลือกเกิดไม่ได้นี่หน่า เราเกิดมาตัวดำก็น้อยใจไปส่วนนึงละ ยังจะต้องถูกคนรอบข้างล้อเลีอนอีก มันเป็นอะไรทีสุด ๆ มากจะบอกให้ " ถึงตัวจะดำ แต่เราก็ทำให้คุณมีความสุขได้ "   55555 จากคุณ : Schokoladii (Schokoladii) - [ 29 ม.ค. 51 21:41:23 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาดู  อิอิ จะว่าไป จะขาวจะดำ ไม่สำคัญ ขอให้หน้าตาถูกใจและนิสัยดี เป็นพอ จากคุณ : Future is on my hand - [ 29 ม.ค. 51 22:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เป็นคนผิวคล้ำค่ะ ไม่ค่อยสนใจเรื่องสีผิวนะ ตั้งแต่เด็กจนโต ก็จะมีคนคอยเหน็บเรื่องสีผิวบ้าง คงกะจะให้อิจฉา แต่เราไม่ เรามั่นใจว่าผิวเราเนียนนะ ยิ่งมาอยู่ต่างประเทศ จากที่เคยเฉยๆ กับผิวตัวเอง คนที่นี่กลับทำให้เราภูมิใจ ที่เรามีสีผิวแบบนี้ เคยมีคนมาถามด้วยซ้ำว่าเราทำแทนนิ่งมารึเปล่า แล้วทำที่ไหน ต่างที่ ค่านิยมก็ต่างกันไป แต่สรุปก็คือ อยู่ที่ใจค่ะ ลางเนื้อชอบลางยา ต่างคนต่างชอบไม่เหมือนกัน ส่วนตัวแล้วคิดว่า ไม่ว่าจะผิวสีอะไร ถ้าหากดูแลรักษาผิวให้ดี พยายามให้ผิวเนี่ยนชุ่มชื้นอยู่เสมอ ยังไงก็น่ามองน่าสัมผัสค่ะ ปล. ทำเพื่อให้คนอื่นสนใจมันยากไป ทำให้ตัวเองพอใจง่ายกว่าเยอะ ว่ามั้ย จากคุณ : จริงๆ นะ (Sniffy :)) - [ 30 ม.ค. 51 05:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้ที่ตัวเองตั้งครู่เดียว ขึ้นชาร์ตติดลมบน กลายเป็นกระทู้แนะนำไปแล้ว ฮ่าๆ ยินดีนะครับที่เพื่อนๆ มาร่วมแสดงความคิดเห็น มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ไม่แปลก เพราะนี่คือกระทู้สาธารณะ เจตนาของผมไม่ได้อยู่ที่ประเด็นว่า สิ่งคุณคำผกาเขียนจะจริงหรือไม่จริง แต่อยากได้รับมุมมองของสังคม โต๊ะเครื่องแป้งเป็นตัวสะท้อนสังคมของหญิงในเมืองอย่างย่อๆ สิ่งใดที่ที่นี่นิยม เพียงไม่กี่วัน มันจะกลายเป็น wishlist ของสาวๆ (ในเมือง) อย่างที่ผมเขียนไว้ตั้งแต่ตอนต้น เราในฐานะผู้เสพ ผู้บริโภค ได้อะไรจากบทความชิ้นนี้ มันดูจะไม่เป็นประโยชน์เท่าไหร่ หากเรามาจับผิด บอกว่าคนเขียนๆ มั่ว มองว่าคนในสังคมโง่ ประเด็นที่เราน่าจะตระหนักนั้น ไม่ใช่ว่าเราควรหยุดและไตร่ตรองหรอกหรือ ว่าสิ่งที่ผู้ผลิต นักโฆษณา โหมกระหน่ำ กระแทกใส่ผู้คนในสังคม ทั้งทางหน้ากระดาษนิตยสาร ในทีวี รวมทั้งเดี๋ยวนี้ ไปทางไหนก็หนีไม่พ้น ช่วงชิงทุกพื้นที่ แม้กระทั่งห้องน้ำ เราต้องแห่ เห่อเหิมกันไปจนไม่คิด จากคุณ : เช็งซิมอี๊ - [ 30 ม.ค. 51 08:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ขอต่อยอดจากคุณต่ายหมายจันทร์ครับ >>ไม่เข้าใจว่า "คนเขียนบทความ" เห็น ประชาชนคนไทย ไม่มีสมองคิดกันหรือไง การที่บอกว่า สื่อต่างๆ เอาแต่ประโคม ค่านิยม มอมเมา ประชาชน ไปในทางที่ผิด แต่ผมกลับคิดว่า "แม้ว่าสื่อจะทำเช่นนั้น" แต่หากคนไทย มีสมอง ที่จะไม่ถูกชักจูง สื่อเหล่านี้ ก็จะตายไปเอง ในทางกลับกัน หากเราปิดกั้น และต้องการจะทำลายแนวคิด marketing เหล่านี้ ไม่ให้เล็ดรอด ออกไปสู่สายตาประชาชน ก็เหมือนการฟังความข้างเดียว ผมว่า การศึกษา นั่นแหละ ที่จะช่วยให้ประชาชน "เลือก" ได้ถูกต้อง ว่า สารใด ที่มีประโยชน์ และเลือกที่จะไม่รับสารใด สรุปว่า ผมไม่เห็นด้วยกับบทความ ที่คุณไปว่า การโฆษณาของเขา ผมไม่ได้บอกว่า เส้นทางธุรกิจ การแสวงหากำไร มันสวนทางกับจริยธรรม เพียงแต่ว่า การแข่งขันในโลกความเป็นจริง มันไม่ได้สวยงาม เหมือนโลกในอุดมคติ ที่ผู้เขียนบทความตั้งใจไว้ครับ<< จากมุมมองหนึ่ง น่าสนใจครับ เราๆ ท่านๆ ทุกคนก็ล้วนอยู่ในสังคมนะครับ ผมมองว่า การกระตุกเตือนสังคมเป็นสิ่งที่ผุ้คนในสังคมอารยะพึงมี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนในวิชาชีพสื่อมวลชน อันไหนดีไม่ดี หรือบางอย่างมันตัดสินด้วยมาตรฐานดี-ไม่ดีลำบาก หากเห็นว่ามันล่อแหลม อาจชักพาสังคมลงเหวได้ ก็ต้องทำ สังคมจะดูเองละครับว่าสิ่งที่คุณกระตุกต่อมคิดผู้คน สิ่งนั้นมันเลวร้าย หรือถึงเวลาที่จะมารีวาย ย้อนดูและไต่รตรองหรือเปล่า ไม่ต้องรอโลกยูโธเปียหรอกครับ เพราะมันไม่มีจริง อย่างน้อยก็ไม่ใช่ชาตินี้ เราคงไม่อยากให้สังคมที่เราอยู่ หรือหากเราตายไปก่อน เราคงไม่อยากให้ลูกหลานมาอยุ่ในสังคมแบบนี้ สังคมที่ทุกคนต่างมองเป้าหมายแต่กำไร โดยขาดการยั้งคิดและมองข้ามผลกระทบที่มีต่อสังคม อันนี้น่ากลัวครับ การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญและช่วยคนให้กรองข่าวสารและข้อมูลต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจและกำหนดพฤติกรรมต่างๆ แต่การศึกษาก็ไม่ใช่คำตอบทั้งหมด จะเห็นได้ชัดว่า ไม่ว่าจะเรียนสูงกันมาขนาดไหน ความต้องการสวย ความต้องการหล่อ ไม่อยากแก่ มันมีกันทุกคนละครับ การกระตุกเตือนสังคมจึงมีความจำเป็น ถึงแม้จะไม่ใช่ทุกคนที่จะหยุดและไตร่ตรองว่าจริงหรือไม่จริง "เอ...จะลองลดการซื้อครีมต่างๆ ดูดีไหม? อือ....เก็บเงินค่าทำขาวทำใสไว้กินข้าวอร่อยๆกับแฟนดีหรือเปล่า?" แต่อย่างน้อย บทความนี้ได้กระตุกต่อมคิดสาธารณชน คงไม่ใช่ถึงขนาดก่อให้เกิดพุทธิปัญญา หรือออกฌาณบรรลุสู่นิพพาน ไม่อยาก ไม่เสพอะไรต่อไป แต่ให้เบรกบ้าง ไม่ใช่มัวแต่หลงกับกับดักบริโภคตลอดไป และอย่าคิดว่าคนในสังคมทุกคนจะมีวุฒิภาวะ รู้จักแยกแยะกันทุกคน หลายคนที่ปล่อยให้กระแสสังคมเข้าโจมตี สร้างมโนภาพขึ้นในสมองว่า "นี่แน่ๆๆ ชั้นจะขาว ขาวได้ภายใน 7 วัน" หรือแม้แต่ "ชั้นจะต้องขาวใสเหมือนเด็กกรุงเทพแน่เลย" (ซึ่งโฆษณานี้ผมว่ามันสะท้อนสังคมไทยได้ดีมากเลย) คงเห็นกันบ้างแล้วว่า ในสังคมไทยนี้มันมีจริงๆ มีเรื่องจริงผ่านจอให้เห็นเป็นระยะๆ ผู้หญิงอยากสวย อยากใส ยอมให้หมอที่ไร้จรรยาบรรณสร้างผลงานอันเลวร้ายบนใบหน้า หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผู้ผลิตเห็นแต่ได้ ใช้สารเคมีอันตรายเป็นส่วนประกอบ มีผลให้ใบหน้าคนใช้ ดำๆด่างๆ แทนที่จะขาว หรือไม่ก็ต้องแทบจะต้องเอาปีบคลุมหัวออกจากบ้านกัน เมื่อยเลยครับ แล้วจะเข้ามาแสดงความเห็นต่อนะครับ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 08:46:15 จากคุณ : เช็งซิมอี๊ - [ 30 ม.ค. 51 08:39:39 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตอนค่ำๆ กว่าจะได้เข้ามาอีก เลยขอนำบางส่วนของบทความมาลง เป็นส่วนจบที่คุณคำ ผกา หยอดท้ายในคอลัมน์ครับ ...ถึงที่สุดแล้ว พวกเขา [ผู้ชาย]อาจจะไม่ต้องการทั้งลูก ภรรยา ครอบครัว เพราะไม่เห็นมีความจำเป็นต้องผลิตแรงงานเพิ่มในครัวเรือน เพราะไม่ต้องขยายพื้นที่เพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ การเลี้ยงเด็กที่เคยเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะแรงงานเป็นสิ่งมีค่าแปรสภาพมาเป็นตัวดูดทรัพยากรส่วนเกินในครอบครัว เพราะเด็กสมัยนี้กินแพง อยู่แพง เรียนแพง แถมโตขึ้นมายังไม่รุ้ว่ามันจะกลายเป็นอะไร และไปสถิตอยู่ที่ไหนในโลก ไม่มีทั้งหลักประกันความกตัญญู และสัญญาในอนาคตว่าลูกเต้าจะกลับมาเลี้ยงดูพ่อแม่ ดังนั้น การมีลูกจึงเป็นการลงทุนที่เสี่ยงเสียจนต้องมานั่งเปลี่ยนค่านิยมกันใหม่ในหมู่พ่อแม่ว่า เราเลี้ยงลูกด้วยความรัก ความปรารถนาดีล้วนๆ จึงไม่หวังผลตอบแทนใดๆ จากลูก เมื่อเป็นเช่นนี้ พ่อแม่ทั้งหลายจึงต้องกระจายความเสี่ยง ด้วยการไปลงทุนในหุ้น พันธบัตร ตราสารหนี้ และกองทุนประกันชีวิตไว้ด้วย ตระหนักอย่างนี้แล้ว ผู้หญิงเองต้องคิดให้หนักว่า น้ำมันพราย ความขาว และผู้ชายสักตคนนั้น คือคำตอบของชีวิตทั้งชีวิตจริงหรือไม่ วันนี้ฉัน [คุณคำ ผกา] ไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีหรือโชคร้าย ที่ไม่มีทั้งโทรทัศน์และผู้ชายเป็นของตนเอง แต่อย่างน้อยก็รอดพ้นไปจากการตกเป็นเหยื่อของพ่อค้าน้ำมันพราย และไม่เชื่อว่าผู้ชายหน้าไหนจะกลับมาหาเพียงเพราะว่าฉัน ขาวขึ้น... จากคุณ : เช็งซิมอี๊ - [ 30 ม.ค. 51 09:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เห็นด้วยกับคุณต่ายหมายจันทร์และคุณเซ็งซิมอี๊ค่ะ ************************************************ เราคิดว่าที่ จขกท. เอาบทความมาแปะเนี่ย ไม่ได้เพื่อจะบอกว่า ขาวแล้วดีหรือขาวแล้วไม่ดีนะค๊า เราคิดว่าเค้าน่าจะเหมือนการเตือนให้สาว ๆ ตระหนักว่า ควรจะสวยอย่างมีสติมากกว่านะคะ (ซึ่งสาว ๆ ในห้องนี้ รู้จักคิดกันอยู่แล้ว) แต่คนที่เค้าบริโภคสื่อแบบขาดการไตร่ตรอง อันมาจากปัญหาการศึกษาหรือวุฒิภาวะใด ๆ ก็ตาม กลุ่มคนเหล่านี้จะขาดการใคร่ครวญก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ************************************************* จากที่"คุณกระต่ายกลายพันธุ์" มาบอกว่า คนขาวเค้าไปทำอะไรให้หนักหนาจึงต้องมาวิพากษ์วิจารณ์ ในที่นี้ไม่มีใครมาวิพากษ์วิจารณ์คนขาวไม่มีคนว่าว่าขาวแล้วไม่ดี เราพูดกันเรื่องการโฆษณาชวนเชื่อในทางที่มีแนวโน้มว่าไม่เป็นความจริง ส่วนเรื่องการวิจารณ์บุคลิกลักษณะภายนอกของคน ๆ นั้น ต้องขอยอมรับเลยค่ะ ว่าเคยทำจริงทั้ง Positive และ Negative แต่มิได้นำมาเป็นส่วนในการตัดสินใจในเรื่องลักษณะนิสัยค่ะ จากคุณ : ข้าวโพดซัง - [ 30 ม.ค. 51 11:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อื่ม..มาลงชื่อ..แต่ไม่ขอออกความเห็น เนื่องจาก...เป็นหัวข้อที่ถกกันไม่จบ จากคุณ : Phychexxx - [ 30 ม.ค. 51 13:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เห็นด้วยค่ะ ว่าเดี๋ยวนี้ โฆษณาต่างๆ มักจะจูงใจให้คนคล้อยตาม โดยเฉพาะเรื่องความสวย ความงาม ที่จริงก็ขายฝันกันทั้งนั้น ฝันว่าจะขาวเหมือนนางแบบในโฆษณา แต่อันที่จริง ขาว หรือ ไม่ขาว ก็ไม่ได้เป็นตัววัดความสวยซะหน่อย มันเป็นแค่ค่านิยม ที่คนขายของ เค้าพยายามสร้างขึ้นมา เพื่อให้ของเค้า ขายได้ต่างหาก ถ้าไม่สร้างค่านิยมแบบนี้ ของเค้าก็ขายไม่ได้ ฉะนั้นมันขึ้นอยู่กับผู้บริโภค ว่าจะเลือกรับอะไร แค่ไหนมากกว่า ############# อันนี้ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ ################# ช่วยตอบแบบ สอบถามหน่อยนะคะ เป็นเรื่องการเลือกซื้อรองเท้าของสาวๆ ค่ะ http://www.questionpro.com/akira/TakeSurvey?id=880158 จากคุณ : icy_D - [ 30 ม.ค. 51 16:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ฮิ้ว..............................!!!!!!!!!!!!!!! ความขาว ไม่เข้าใคร ออกใคร กรั่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : NuPangKo_CaWaiiZ - [ 30 ม.ค. 51 20:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เรามาขอลงชื่อค่ะ ว่าชอบที่จะมีผิวขาวมากกว่า แต่ไม่เคยคิดว่าผู้หญิงผิวคล้ำไม่สวย และไม่คิดว่าผู้ชายจะเลืือกแต่ผู้หญิงผิวขาวเป็นหลักด้วยค่ะ จากคุณ : kadook (kadook_talok) - [ 30 ม.ค. 51 21:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เหตุใดจึงเป็นผู้มีรูปงาม? นิยามของความงาม คนเราเห็นความงามต่างกัน ฉะนั้นจึงต้องตกลงกันให้ดีว่าความสวยคืออะไร ความงามคืออะไร จะได้ไม่ต้องพูดในเชิงปรัชญา เช่นความงามเป็นสิ่งลี้ลับ ความงามเป็นสิ่งฉายให้เห็นเฉพาะคน หรือความงามของที่ฉายออกมาจากจิตใจภายใน ฯลฯ ต่อไปนี้เมื่อพูดถึงความสวยหรือความงาม ขอให้เข้าใจว่าเราพูดจำเพาะถึงความงามในรูปร่างหน้าตาของมนุษย์ ความสวยงามของมนุษย์คือลักษณะที่ตาคนส่วนใหญ่เห็นแล้วเกิดความยินดี เกิดความสุข เกิดความพึงพอใจ ตลอดจนกระทั่งเกิดความติดใจใหลหลง แน่นอนว่ามีตาของคนส่วนน้อยที่อาจเห็นแย้ง มองแล้ววิจารณ์ว่าไม่เห็นสวยเลย หรือถากถางว่าอย่างนี้เหรอหล่อ? นั่นอาจเป็นอคติหรือพื้นหลังเฉพาะตัวของแต่ละคน เครื่องชี้ที่ชัดคือเจ้าตัวผู้มีรูปร่างหน้าตาเป็นสมบัติเอง ส่วนใหญ่ไปไหนต่อไหนได้รับความชื่นชม ทำให้ปลื้มเปรมกับสมบัติที่ติดตัวมาแต่เกิดหรือไม่ สำหรับเราเอง เมื่อเรารู้สึกดีกับการปรากฏตัวในแต่ละครั้ง จะเหมือนมีรัศมีแห่งความเชื่อมั่นฉายออกไปพร้อมกับพลังกระทบด้านดี ซึ่งถ้าดีจริงอย่างที่เรารู้สึก อย่างน้อยก็จะพลอยทำให้คนอื่นรู้สึกดีตามไปด้วย สำหรับสายตาคนอื่น ผู้มีรูปงามชนิดแลตะลึง หรือที่เรียกว่า ‘สวยจัด’ กับ ‘หล่อจัด’ นั้น เป็นบุคคลประเภทที่ปลุกเร้าให้เกิดความสับสนวุ่นวายใจ ความสวยหล่อจัดๆสามารถกระตุ้นให้เกิดความคิดหลากหลาย หรืออาจเรียกได้ว่ารบกวนให้คนเห็นกระวนกระวายใจผิดปกติ เพราะในหัวเกิดถ้อยคำพิเศษที่ไม่ค่อยปรากฏนักในการเห็นบุคคลทั่วไป เมื่อคนเราไม่สามารถอธิบายสิ่งที่ตัวเองเห็นออกมาเป็นคำพูดได้ถนัด ก็มักนึกถึงคำหรูๆเกินจริงเช่น ‘ความงามที่เหมือนเวทมนต์’ หรือ ‘หยาดฟ้ามาดิน’ เป็นต้น แม้ในความงามแลตะลึงอาจมีความต่าง คือสวยหล่อแต่หน้า รูปร่างเอวองค์ไม่สมส่วน บางคนเตี้ยม่อต้อ บางคนสูงชะลูด บางคนผิวหยาบไม่น่ามอง บางคนโครงกระดูกมีจุดปูดโปนประหลาดๆ บางคนมีรายละเอียดใต้ร่มผ้าน่ารังเกียจ ฯลฯ หาได้น้อยที่สวยหล่อพรั่งพร้อมไปทั้งสรรพางค์กายสมคำว่า ‘สวรรค์เสก’ ความจริงสวรรค์ไม่ได้ทำอะไรกับความมีรูปงามของมนุษย์ แต่ความมีรูปงามของมนุษย์ทำให้คนเรานึกถึงสวรรค์ต่างหาก นั่นแหละคือคุณของความงาม ช่วยปรุงแต่งให้ผู้พบเห็น หรือแม้แต่ผู้ครอบครองความงามเองได้รู้สึกชื่นชมยินดี และเหนี่ยวนำให้เลื่อมใสไปในทางมีจิตคิดเป็นกุศล น่าเสียดายในปัจจุบันคนสวยหล่อทั้งหลายเอาเครื่องหน้าและรูปร่างของตนไปเป็นสินค้าทางเพศกันมาก ทำให้คนมองเกิดความรู้สึกที่เพี้ยนไป คือเห็นความสวยหล่อมีไว้ขาย มีไว้ทำเงิน มีไว้หาประโยชน์ ไม่ได้มีเอาไว้จูงใจให้เกิดความเลื่อมใสว่าบุญมีจริง สวรรค์มีจริงเหมือนในสมัยโบราณเขามองกัน สรุปคือสำหรับคนราคะจัดส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ความสวยอาจเป็นเพียงสิ่งที่เอาไว้กระตุ้นความกำหนัด สำหรับศิลปินผู้มีความละเอียดอ่อนในหัวใจ ความสวยสามารถเป็นเครื่องปลุกเร้าจินตนาการสร้างสรรค์ให้บรรเจิดจ้า และสำหรับผู้แสวงบุญ ความสวยเป็นร่องรอยหลักฐานยืนยันว่าผลบุญมีจริงและทำให้มนุษย์ต่างกันได้เพียงใด! กรรมหลักที่ตกแต่งให้รูปงาม หลักง่ายๆคือคนตามใจกิเลสจะมีรูปทราม ส่วนคนงามจะงามเพราะสละกิเลส กรรมที่ตกแต่งให้รูปงามนั้น เป็นกรรมประเภทที่ปรุงแต่งจิตให้เกิดความผ่องใส มีความขาวสะอาดสว่างรอบปราศจากมลทิน และกิริยาที่จะก่อให้เกิดลักษณะดังกล่าว ก็ไม่พ้นเรื่องของการสละความตระหนี่ และการรักษาความตั้งใจไม่เกลือกกลั้วกับความชั่ว โดยตีกรอบความประพฤติทางกายและวาจาให้อยู่ในศีลธรรมอันดี นอกจากนี้ยังมีเรื่องของอาการทางใจและวิธีคิดต่างๆประกอบอยู่ด้วย ๑) ทำทานด้วยศรัทธา ขอให้ดูเถิด คนส่วนใหญ่แม้ชอบทำทาน ก็มักทำทานด้วยจิตที่แห้งแล้ง ทำแล้วก็ถือว่าแล้วกัน น้อยคนนักจะทราบว่าแม้อาการทางใจในขณะทำทานก็มีผลใหญ่หลวงกับรูปร่างหน้าตาได้ ดังเช่นที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผลของการให้ทานด้วยศรัทธา จะทำให้เป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก และเป็นผู้มีรูปงามชวนพิศ น่าเลื่อมใส ผิวพรรณงามยิ่ง การทำทานด้วยความศรัทธาเป็นประจำ ทำให้เจ้าตัวรู้สึกสวยแพรวออกมาจากภายในตั้งแต่ชาติปัจจุบัน http://dungtrin.com/whatapity/05.htm http://dungtrin.com/whatapity/00.htm จากคุณ : แวะมาแจม (I-FEEL-BLUE) - [ 30 ม.ค. 51 23:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ทุกวันนี้ก็ขาวขึ้น กว่าแต่ก่อนมาก ผู้ชายยังไม่กลับมาหาดิชั้นเลยค่า แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 51 00:20:10 จากคุณ : เจลาติน - [ 31 ม.ค. 51 00:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขาวเหมือนกัน  ไม่เห็นมีมาให้เลือกซักคน -__-" แต่ก็ชอบขาว มากกว่าดำอ่ะค่ะ แต่ถ้าเป้นไปได้  อยากสละเลเวลความขาวลงเล็กน้อย แบ่งไปให้ความสวยดีกว่า  เหอๆ ส่วนเรื่องโฆษณา  เห็นแล้วหมั่นไส้ค่ะ โอเว่อแทบทุกอย่างเลย พวกครีม แชมพู  โรลออน ฯลฯ   เรื่องอยากสวย ใครๆก็อยากสวย  นานาจิตตัง แต่ใช้สติกันมากๆก็ดีค่ะ จากคุณ : พยายามสวย~* - [ 31 ม.ค. 51 01:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เป็นคนผิวคล้ำโดยกำเนิดค่ะ แล้วก็ชอบอาบแดดมาก ใช้โลชั่นกันแดดที่ spf 2  ช่วงไหนผิวขาวกว่าเดิมจะรับตัวเองไม่ได้  แล้วเพื่อนๆ ก็ชอบผิวเรามาก  มีวันนึง เจ้าของร้านนาฬิกาที่รู้จักกัน พูดว่า "ผมว่าคุณดูเปลี่ยนไป สงสัยผิวขาวขึ้น แต่พูดจริงๆ นะ สีผิวแบบเดิมสวยกว่า" เออแหนะ ไม่ใช่ผู้ชายไทยทุกคนนะคะ  ชอบขาวๆ  ส่วนเราชอบมองทุกแบบ แต่จะชอบผู้หญิงที่มีความมั่นใจ บุคลิคคล่องแคล่ว เป็นพิเศษ ความสวยอยู่ที่คนมอง แล้วก็อยู่ตรงนั้นค่ะ ที่ ... จิตใจและความคิด จากคุณ : Mrs.Beblow - [ 31 ม.ค. 51 02:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 77 สื่อ โฆษณา เป็นตัวกำหนดทิศทาง และกระแสของสังคมครับ ถ้าใครไม่เชื่อก็ลองคิดตามดูก็ได้ เมื่อก่อนคนไทยก็ดำกันทั้งประเทศ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้อยากขาวกัน? เพราะสื่อที่เอาคนขาวออกมาลงไม่ใช่เหรอ ทั้งลูกครึ่ง และตามมาด้วยลูกคนจีน ลูกคนรวยซึ่งชาตินี้คงไม่เคยโดนแดด -------------------------------------------------------------------------------- เมื่อก่อนไทยค่อนข้างเหยียดญี่ปุ่น เรียกยุ่น ต่อมาสื่อเอาเจร็อคเข้า เอาละครญีปุ่นเข้า ไอ้ยุ่น ก็กลายเป็น กรี๊ดดดด ญี่ปุ่น -------------------------------------------------------------------------------- ชาเขียวนี่คนไทยทั่วไปรู้จักแล้วอยากดื่มก่อน หรือว่ามีโฆษณาเอามาขายก่อน? -------------------------------------------------------------------------------- ตอนนี้กระแสเกาหลีมาแรง ทั้งที่คนไทยไม่เคยชอบคนเกาหลีเลย ไม่เคยดูละครเกาหลี ไม่เคย"ดู"นักร้องเกาหลี ไม่เคยกินอาหารเกาหลี แต่ปัจจุบัน ตามก้นมันไปเรียบร้อยแล้ว เพราะอะไร? ลองนึกย้อนไปถึงสมัยเมื่อ10ปีที่แล้ว ที่คนไทยไม่รู้จักเกาหลี เหมือนกับที่เราไม่รู้จักมาเลย์เซีย กับประมาณ5ปีที่แล้วที่ไอทีวีนำละครเกาหลีมาฉายเป็นเจ้าแรกสิ -------------------------------------------------------------------------------- เรื่องการตลาด ใครสร้างกระแสได้ คนนั้นดัง ใครเกาะกระแสถูกคนนั้นรวย บริษัทที่ฉลาดก็จ้องแต่จะสร้างกระแสใหม่ บริษัทเล็กบริษัทน้อยก็ขายตามๆเขาไป ผู้บริโภคอย่างเรามีอะไรที่สังคมเขาว่าดีก็ซื้อๆไป น้องสาวผมเมื่อก่อนเฉยๆกับเรื่องขาว แต่ตอนนี้สารพัดโฆษณาว่าคนดำเหมือนคนไม่มีค่าในสังคม น้องผมก็ต้องไปหาครีมมาสารพัด คอยดูและกันว่าต่อไปสื่อจะเอาอะไรมาขายอีก จากคุณ : super-OttO - [ 31 ม.ค. 51 09:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขาวเลือกได้ (จริงๆนะ) จากคุณ : .. (Hippygirl) - [ 31 ม.ค. 51 16:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 79 คนไทยชอบสร้างค่านิยมผิดๆให้แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น คิดดูสิ เอ๊ะอ๊ะไรก็ใช้แล้วขาวๆๆๆ ทำไมไม่มีแบบใช้แล้วผิวพรรณสุขภาพดี เนียนล่ะ คนขาวใช่ว่าจะดีซักกะหน่อย ผิวสีแทนๆนะดี เพราะโครงสร้างสีผิวจะแข็งแรงกว่าคนผิวขาว ขาวแล้วลำบากต้องค่อยหลบแดด เจอแดดแรงๆก็แพ้ เฮ้ออออ พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นดีที่สุดค่ะ จากคุณ : Mang_Field - [ 31 ม.ค. 51 21:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เรื่องขาว ไม่ขาว นั้นพูดยากครับ มันเป็นความชอบของปัจเจก และไม่ควรมาถูกตัดสินด้วยว่า คนที่ชอบขาว ไม่ชอบดำนั้นผิด และคนที่ชอบดำ ไม่ชอบขาวก็ไม่ดี เราประจักษ์แล้วว่าสื่อมีอานุภาพเพียงใด อย่างที่ คห 77 ว่าไว้ ผมก็เป็นอีกคนละครับ ไม่เคยคิดเลยว่าเกาหลีโดยรวมแล้วจะหน้าตาดีๆ ไม่เคยจริงๆ เพราะจากที่ได้เห็นนักท่องเที่ยวเกาหลีที่มาเมืองไทย และคนเกาหลีที่ได้รู้จัก ต้องบอกก่อนว่า คนไทยโดยรวมดูดีกว่า แต่หลังจากที่เกาหลีมีนโยบายสร้าง "เกาหลีนิยม" ผ่านทางวัฒนธรรม เพื่อปูทางและตอกย้ำ "แบรนด์เกาหลี" เพื่อขายของและยกระดับสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่า "กระแสสร้างได้" เหมือนกับ "อัจฉริยะสร้างได้" และผลมันส่งมาถึงสังคมไทยโดยรวมอย่างจัง แม่บ้าน แม่ค้า และสาวๆ ออฟฟิศ ติดแดจังกึม ดำจังแก กันใหญ่ และพลอยทำให้ "ลุคเกาหลี" กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของความหล่อ ความงาม ไล่ตาม "ลุคญี่ปุ่น" มาติดๆ และไอ้ความสวยความหล่อแบบเกาหลี และญี่ปุ่น คืออะไรละครับ ความขาวและความใสเป็นจุดเด่นของสองชาตินี้ จมูกสันได้รูป ตาโต ใบหน้ามีมิติ สองอย่างหลังนี้ ขัดกับชาติพันธุ์ไปนิด (สวยได้ด้วยมือหมอ) เพราะคนเอเชียตะวันออกโดยมากมีตาเล็กและใบหน้ากลม ทีนี้ทำไงละ เกาหลีมาแรง สินค้าก็ตามกระแส โหมสร้างคุณค่าที่คุณคู่ควร มอบธรรมนูญความงาม ประหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนต้องปกปักรักษา นั่นคือความขาว ความใส แล้วคุณจะงาม / หล่อ อย่างมีคุณค่า สื่อและผู้ผลิตไม่ได้มาสนใจหรอกครับ ว่าคุณผู้บริโภคที่รักทั้งหลายจะเสียทรัพย์ เสียใบหน้าจากการทดลองใช้ไปเท่าใด สิ่งที่มุ่งหวังคือเงินและกำไรจากการขายของให้คุณ ผู้บริโภคอย่างเราๆ ก็ถูกกรอกทุกวัน วันละ 3 เวลา และอาจบวกก่อนนอน ว่า ขาว ขาว ขาว ไปทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่รักแร้ จริงไหมครับ? แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 51 04:13:19 จากคุณ : เช็งซิมอี๊ - [ 1 ก.พ. 51 04:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 81 มาโหวตให้ค่ะ อ่านดีมากค่ะ ได้ข้อคิด จากคุณ : ชุติกาญจน์ - [ 1 ก.พ. 51 06:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 82 "ใครว่าขาวเลือกได้ ดำก็เลือกได้"   ชอบมากกก คำนี้ถูกใจค่ะคุณ CarbonGirl มาก ๆ ค่ะ เราเองขาวนะ  แต่ก็ยังชอบที่ทุกคนคิดว่า "เราเลือกได้" จริง ๆ นะคะ ไม่ว่าเราจะ "สูง ต่ำ ดำ เตี้ย ขาว อ้วน ผอม" - "เราทุกคนเลือกได้ค่ะ" จากคุณ : เลือกกันด้วยเน้อ (IrisGiRL) - [ 1 ก.พ. 51 12:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 83 อื้ม  เมื่อก่อนตอนวัยรุ่นเราก็บ้าๆตามเค้า อยากขาวอยากสวยอะค่ะ แต่พอมาตอนนี้ ขาวไม่ขาวก็ช่าง ก็ผิวเราไม่ใช่คนขาวตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่นา  (แต่อิชั้นว่าอิชั้นสวยนะ) ก็เลยไม่ได้พยายามไขว่คว้า หาสุดยอดครีมหน้าขาวอะไรแล้วอะค่ะ เอาแค่บำรุงให้หน้ามันดูดี ชุ่มชื้น ไม่มีสิว ฝ้า ก็พอแล้ว ที่สำคัญจะดำจะขาวแฟนก็ยังรัก ญาติพี่น้องก็ยังรัก เราก็เลยไม่แคร์ไรเท่าไหร่ พอเลิกซื้อก็เก็บตังค์ได้อีกเยอะเลยด้วยค่ะ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 1 ก.พ. 51 22:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 84 อ่านคห.26 แล้วบังเกิดมุมมองใหม่แฮะ ...จริงด้วยเนอะ เป็นคนหนึ่งที่เคยด่าโฆษณาพวกนี้ให้แฟนฟัง จนตอนนี้ก็ยังด่า (ทำอะไรไม่ได้หนิ) แต่มันก็จริง คนที่คิดแบบในโฆษณามันก็เยอะอยู่นา... ส่วนตัวก็อยากขาว เพราะตอนเกิด+ก่อนเดินได้นี่ขาวมาก ขาวโอโม่เลย แต่โตมาละมันดำ เพราะซนมาก ตากแดดทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะความซนมันสถิตย์อยู่กลางแจ้งงับ พอเริ่มแก่ ก็เริ่มหายซน เริ่มทากันแดด (แต่ทาจิ๊ดนึง ผสมบอดี้บัตเตอร์เอา อยากขาวนะแต่งก) ทุกวันนี้ ถูกคนพูดถึงว่าขาวบ่อยๆ ก็งงๆเหมือนกัน เพราะข้ะเจ้าว่าข้ะเจ้าไม่ขาว แต่ก็ดีละ แก่ลงปลงตก ช่างมัน ขาวก็ช่าง ดำก็ช่าง มีของตายละ แหะ แหะ คนเราคบกันต้องดูที่สันดานอันเปลี่ยนได้ยาก และยากที่จะเปลี่ยน ...เพราะความงามภายนอกมีแต่จะลางเลือนไป ...ส่วนสันดานนั้นไซร้ อยู่ยั้ง ยืนยง โฮ่ โฮ่ โฮ่ จากคุณ : มาตรฐาน - [ 2 ก.พ. 51 00:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 85 มุมมองของเรา สำหรับพวกโฆษณาขาววิเศษพวกนี้ ไม่ต่างอะไรกับการอ่านกระทู้ในโต๊ะเครื่องแป้งหรอกค่ะ ทุกการรับสื่อไม่ว่าจะจากทางใด แขนงใด ไม่ว่าสื่อจะดัดแปลงแต่งเติมเข้าไปมากแค่ไหน คนรับสื่อก็ต้องรับแล้ว คิด พิจารณา ดูก่อนว่ามันเชื่อถือได้มากแค่ไหน การที่โฆษณายิงเปรี้ยงออกมาบอกว่า ใช้แล้วสวยใสภายใน 7 วัน สามีที่เมินหมางนอนห่างกันสามวา จะเขยิ๊บเขยิ๊บเขยิ๊บเข้ามาสิ ภายในอาทิตย์เดียว ก็คงไม่ต่างอะไรกับเวลาที่ สาวๆ ห้องนี้มารีวิว ตัวนี้ใช้ดีค่า ตัวนี้โบ๊ะเนียนเลย ตัวนี้ใช้แค่สองอาทิตย์ผิวใสเลยค่ะ แฟนชมว่าทำอะไรมาสวยขึ้น เราไม่ได้บอกว่าการรีวิวเป็นเรื่องโกหก (ซึ่งการรีวิวบางอันเป็นเรื่องโกหกจริง เพราะมาจากการ แฝงตัวของคนบางกลุ่ม) แต่เราจะบอกว่าใจความสำคัญมันก็ไม่ต่างอะไรกัน อยู่ที่เราอ่านแล้วใช้วิจารณญาณแล้ว... เลือกที่จะเชื่อมากน้อยแค่ไหน คนรีวิวใช้แล้วอาจจะดี เพราะถูกกันกับผิว แต่เราซื้อมาใช้อาจจะให้ผลที่แตกต่างไปก็ได้ ในตัวโฆษณาแต่ละชิ้น เราว่า ครีเอทีฟก็คงไม่ได้ทำงานคนเดียว งานทุกชิ้นไม่ใช่ทัศนคติของคนๆ เดียว ล้วนต้องมีการวางแผนการตลาด การหาข้อมูลสนับสนุน ว่าโปรดักซ์ควรถูกนำเสนอเข้าตลาดแบบไหน อย่างไร ผลดีผลเสีย ประชุมกันไม่รู้กี่หนต่อกี่หน กว่าจะเป็นชิ้นงานทางทีวี ครีมที่ทำให้ขาวใสใน 7 วันอาจจะไม่มีจริง แน่นอนผู้บริโภคจำนวนหนึ่งต้องรู้อยู่แล้ว แต่การโฆษณาอย่างสุดโต่ง ก็ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งคิดเหมือนกันว่า มันน่าลอง... หรือ เอ๊ะ กล้าทำโฆษณาขนาดนี้ มันต้องมีดี หรืออาจจะทำให้ แบรนด์ของครีม ขึ้นสู่ชาร์ทการโฆษณาแบบปากต่อปาก ไม่ว่าจะในแง่ไหนก็ตาม เช่นว่า...  ครีมชนิดหนึ่งถูกให้ชื่อใหม่ว่า ครีมเรียกปั๋ว (อันนี้ยกตัวอย่างเท่านั้นนะคะ) พูดกันปากต่อปาก ไปเรื่อยๆ จนถึงท้ายที่สุด คนไม่เคยเห็นโฆษณา ไม่เคยรู้จัก ก็อาจจะรู้จัก เพราะคำว่า ครีมเรียกปั๋วนี่ล่ะค่ะ เราว่ามันเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดแบบหนึ่ง ซึ่งในสนามของการต่อสู้เพื่อค้าขาย จะมีผู้ประกอบการสักกี่รายที่คำนึงถึงคำว่า จรรยาบรรณ อย่างแท้จริง สุดท้ายก็อยู่ที่ผู้บริโภคนี่ล่ะค่ะ ที่ต้องเลือก และใช้สมองของเราไตร่ตรองให้ดีก่อนว่า สิ่งใดควรเชื่อ และสิ่งใดไม่ควรเชื่อ ที่จริงเรื่องนี้พูดกันมาแต่นมนานกาเลแล้วล่ะ ไม่งั้นพระพุทธเจ้าท่านคงไม่ออกพระสูตรไว้ เราคนไทย เป็นชาวพุทธ หากยึดถือและพิเคราะห์เรื่องต่างๆ ตามหลักกาลามสูตร ก็คงไม่มีผู้ประกอบการหน้าไหน สร้างโฆษณาออกมาหลอกดึงตังค์ในกระเป๋าเราได้ง่ายๆ หรอกค่ะ ฝากหลักกาลามสูตรไว้ให้อ่านเล่นๆ กัน ^-^ กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อ ไม่ให้เชื่องมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดี ก่อนเชื่อ มี ๑๐ ประการคือ ๑. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา ๒. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา ๓. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ ๔. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา ๕. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา ๖. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา ๗. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล ๘. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน ๙. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้ ๑๐.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน จากคุณ : Curiosity - [ 2 ก.พ. 51 02:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เราก็เป็นอีกคนนึงค่ะที่ไม่เห็นด้วยกับคำว่า ขาวเลือกได้ เพราะเราคิดว่า คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้อยู่ที่ความขาวเลยจริงๆ โฆษณาสมัยนี้เอาความขาวมาเป็นจุดขาย ... ก็ทำได้อยู่ แต่ไม่น่าจะออกมาในรูปแบบที่ว่า ขาวแล้วจะมีคนรัก อะไรทำนองนั้นอะค่ะ เราเองก็พูดไม่เก่งเหมือนกัน แต่เรารู้สึกเหมือนประเทศไทยจะให้ความสำคัญกับสีผิวมากเกินไปค่ะ ปล.เราเองก็ผิวขาวค่ะ ขาวแบบหมวยเลย แต่เราก็ยังไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาโฆษณาแบบนี้อยู่ดีค่ะ จากคุณ : Kate_Qty - [ 2 ก.พ. 51 22:06:21 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ผู้หญิงดูดีได้จากหลายๆปัจจัยค่ะ บุคลิก นิสัย เสียง วิธีพูด คำพูด กิริยา นิสัย แววตา ความสวยก้คงเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ก้ยอมรับนะว่าคนเรามันก้มองที่หน้าตาก่อน พยายามอย่าไปให้ความสำคัญกับการมองเพียงผิวเผินมากเกินไป ใครๆก้สวยได้จ่ะ เราเชื่ออย่างนั้น จากคุณ : honni - [ 2 ก.พ. 51 23:48:34 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ไม่รู้เข้าข่ายอันไหน คือไม่ได้อยากขาว แต่อยากให้สีผิวตัวกับหน้าและแขนมันเท่ากัน แล้วตัวมันขาวแต่หน้าดำ แขนดำ ไง จากคุณ : พฤหัส - [ 3 ก.พ. 51 19:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 89 อืม จากคุณ : Esprite - [ 3 ก.พ. 51 20:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขาวไม่ขาวไม่รู้ แต่อย่าลืมปกป้อง,ดูแล,บำรุง,ทะนุถนอมผิวของตัวเองด้วยนะคะ ประเทศไทยแดดแรง..เดี๋ยวจะไม่ได้ทันได้ขาว เป็นมะเร็งผิวหนังไปซะก่อน... ปล.เป็นคนผิวคล้ำ...พอเห็นเพื่อนที่ขาว ๆ (กว่า)พูดว่าตัวเค้าดำทีไร....มัน -*- จากคุณ : จันทร์ซ่า - [ 3 ก.พ. 51 22:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เจ๊คำ ผกา ศิษย์พี่ของเรานี่เอง(แต่เจ๊ไม่รู้จักเราหรอก) เจ๊แรงได้ใจอีกแล้วนะเคอะ . . . โดยส่วนตัวบอกเลยว่าตัวเองผิวขาว และมีแต่คนบอก(ไม่รู้จริงไหม)ว่าผิวสวย คือผิวเราจะขาวออกเหลืองแบบทาขมิ้นซึ่งเป็นลักษณะผิวของคนทางเหนือ เราไม่เคยเห็นด้วยกับโฆษณาเหล่านี้เลย มันไร้สาระมากๆ คนเราควรวัดกันที่จิตใจมากกว่าความขาวหรือไม่ขาว จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 4 ก.พ. 51 10:14:19 ]

ความคิดเห็นที่ 93 พวกทำสื่อเหล่านั้นไม่มีจรรยาบรรณ ดี-เลว ถูก-ผิด จริง-หลอก หลอกลวง creative เห็นแต่ผลประโยชน์ (จริงๆไม่ได้หลอก เขาบอกไว้แล้วว่าใช้เทคนิค แต่มันเป็นตัวเล็กๆ ที่อยูที่มุมใดมุมหนึ่งของจอ เพียงเสี้ยววินาที) ฟ้อง สคบ ก็ไม่ได้ จากคุณ : nuclearmedicine - [ 4 ก.พ. 51 11:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 94 อืม...มีผิวค่อนข้างขาวอยู่แล้ว เลยไม่สนใจจะใช้ไวท์เทนนิ่ง ถามว่าชอบมั้ยที่ตัวเองขาว ก็ชอบนะ เพราะว่ามันแต่งสีสันขึ้นดี ตามประสาคนชอบแต่งหน้า แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันจะวิเศษวิโสขนาดขาวเลือกได้ ให้ใครต่อใครมาอิจฉาหรือรุมรักได้เลย ชีวิตโสดของอิฉันเป็นพยานนนนน อ้อ แต่เชื่อมั้ยว่าเคาท์เตอร์เครื่องสำอางบางที่ยังอุตส่าห์แนะนำให้ใช้ไวท์เทนนิ่งเลยอ่ะ เรียกว่าเชียร์ไม่ลืมหูลืมตาหรือวิจัยมาแล้วว่าเป็นจุดอ่อนผู้หญิงไทยกันหนอ จากคุณ : F1ying H@ck3r - [ 4 ก.พ. 51 16:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เห็นด้วยกับกระทู้นี้ค่ะ สามีเป็นคนอังกฤษ เค้าจะมาเมืองไทย 2 เดือน/ครั้ง เค้ามักจะเห็น โฆษณาบ้านเราเน้นเครื่องสำอางที่เน้นพวก whitening ต่าง สามีเลยถามว่า ดิฉันนิยมใช้ whitening หรือเปล่า (เนื่องจากเป็นคนจีนเลยออกผิวขาว อมเหลืองนิดหน่อย) ดิฉันเลยตอบว่า ไม่เคยใช้   สามีเลยบอกว่า จริงๆแล้ว ผิวสองสีหรือผิวสีนำผึ้ง เป็น สีที่ เน้นคนที่มีสุขภาพดี มากกว่า คนผิวขาว ทำไมคนไทยไม่ชอบสีผิวตัวเอง ดิฉันเลยอึ้ง ตอบ ไม่ถูกเหมือนกัน แต่เห็นด้วยกับสามีว่า เราควรจะพึงพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ ความเป็นเราทั้งภายนอกและภายใน (ดูอย่างดิฉัน ผิวขาวอมเหลือง ยังมีสามีเป็นคนอังกฤษ ***หมายเหตุ ฝรั่งชอบคนผิวคลำค่ะ***) จากคุณ : Amy H.U. - [ 4 ก.พ. 51 21:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เราผิวแทนค่ะ และรู้มานานแล้วว่าไม่ว่าทาครีมอะไรก็ไม่สามารถทำให้ขาวได้ ตอนนี้ก็เลยเน้นบำรุงผิวให้หน้าใสมากกว่า ผู้ชายชอบผู้หญิงขาวเป็นส่วนใหญ่ก็ใช่ เราไม่ขาวแต่มีคนมาจีบทุกเดือน55+ เพราะเค้าว่าเรานิสัยตลกดี ความขาวทำให้ดูดี แต่สิ่งที่ทำให้ชอบคือตัวตน+นิสัย จากคุณ : นางเอกหนังไทย - [ 4 ก.พ. 51 21:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เราเป็นคนที่ท่อนแขนจะคล้ำกว่าต้นแขนค่ะ(ใช้คำถูกมั้ยเนี่ย) บางทีก็อยากให้สีผิวมันเสมอกัน แต่ก็ได้แค่คิดล่ะค่ะ เพราะเอาเข้าจริงก็ภูมิใจกับสีผิวที่มันไม่เท่ากันแบบนี้ ส่วนใบหน้า เราเป็นคนผิวออกจะขาวๆซีดๆค่ะ ก็ไม่รู้จะทำตัวเองให้ขาวไปอีกทำไม อีกอย่างก็คิดว่าพวกผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งเนี่ย ถ้าหยุดใช้มันจะมีผลเสียอะไรมั้ย ผิวหน้าจะบางกว่าเดิมรึเปล่า ..เมื่อวันก่อน แฟนนั่งดูทีวี พอมีโฆษณาไวท์เทนนิ่งเขาก็บอกว่า "จะขาวไปทำไมกันเนี่ย" ฟังแล้วปลื้มค่ะ อิอิ ความขาวก็แค่มายาล่ะค่ะ สมอง-กึ๋น สิคะของแท้และแน่นอน จากคุณ : little smile - [ 5 ก.พ. 51 12:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ^^" สู้ๆ จากคุณ : คนขาว (YuumiPu01) - [ 5 ก.พ. 51 15:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เราผิวคล้ำ  ดำนั่นเเหละ-*- แต่ชอบนะ ไม่อยากตัวขาว ดำๆแบบผิวสีแทน ดูสวยดี จากคุณ : เลดี้มาเฟีย - [ 5 ก.พ. 51 23:33:53 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขาวภายใน 7 วัน คงเป็นไปไม่ได้ อยากขาวเหมือนกันแต่คงยาก จงพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น จากคุณ : กล้วยไข่007 - [ 6 ก.พ. 51 18:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เคยเครียดและจิตตกอยู่นานเมื่อคนที่เราคิดว่าเข้ากันได้ทุกอย่าง แล้วเขาเองก็คิดแบบนั้น ลังเลระหว่างเรากับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เพียงเพราะว่า เราไม่ขาวไม่หมวยไม่สวยไม่เอ็กซ์  ตัวเขาเองมีภาพฝังหัวเลยว่า อยากได้แฟนแบบขาวหมวย ไม่ว่าเราจะดีแค่ไหนก็ตาม แต่ในเมื่อเราไม่ใช่สเป็คเขา ความรักและความดีของเรามันก็เลยไม่มีคุณค่าอะไร ตอนนี้ทางใครทางมันไปเรียบร้อยก็เลยหายเครียดแล้วค่ะ เพราะคนใกล้ตัวเราตอนนี้รักเราอย่างที่เราเป็น เขาบอกเราว่า คนเราถ้าสุขภาพดี ไม่ว่าจะมีผิวสีอะไรก็ดูดีได้ทั้งนั้น จากคุณ : ปลาทองอัลไซเมอร์ (zaida, film mania) - [ 7 ก.พ. 51 10:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 102 พี่สาวเราเคยถูกบอกเลิกด้วยข้อหาว่า "ดำ"นะคะ ผู้ชายบอกว่าถ้าเค้าแต่งงานกับพี่เรา เค้ากล้วว่าลูกเค้าจะออกมาดำอ่ะค่ะ คบกันมาสามปีแล้วนะ พี่สาวเราบอกว่าอยากจะเลิกก็บอกกันตรงๆ ไม่ต้องอ้างเหตุผลนี้หรอก จากคุณ : eitosuki - [ 7 ก.พ. 51 23:06:14 ]

ความคิดเห็นที่ 103 คิดอะไรกันมากมายค่ะ สวยในแบบที่เราเป็นนี่หละ ดีที่สุด สำหรับเรา...ขอให้ดูดีอ่ะค่ะ จากคุณ : หน่อยอ่ะนะ - [ 8 ก.พ. 51 11:59:45 ]

ความคิดเห็นที่ 104 อืม ๆ จากคุณ : djangel - [ 8 ก.พ. 51 14:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 105 อันนี้ลองพูดเล่นๆนะคะ ถ้าออนเอ็มแล้วมีคนมาคุยด้วย  แล้วโชว์รูปนี้ว่าเป็นรูปของเค้า คุณอยากคุยด้วยมั๊ยคะ จากคุณ : น้องแมวเหมียวจุ๊บจิ๊บ - [ 8 ก.พ. 51 16:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 106 กับอีกคนนึง  ถ้าโชว์รูปนี้ อยากจะคุยด้วยป่ะคะ   อย่างน้อยๆก็ไม่รังเกียจ ใช่มะคะ -*- เหอๆๆๆ อึ้งกันเปงแถวชัวร์ เอาใหม่ๆ รูปใหญ่เกินอายเปงเหมือนกัน เหอๆ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 51 16:10:25 จากคุณ : น้องแมวเหมียวจุ๊บจิ๊บ - [ 8 ก.พ. 51 16:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 107 รูปเล็กลงแร้ว จากคุณ : น้องแมวเหมียวจุ๊บจิ๊บ - [ 8 ก.พ. 51 16:12:26 ]