เราเองเป็นคนหนึ่งที่สนใจเครื่องสำอางมานานแล้ว ตั้งแต่ห้องนี้ยังไม่แยกมาดังเดี่ยว และติดตามอ่านข่าวสารจากโต๊ะเครื่องแป้งเป็นประจำค่ะ เรียกได้ว่าเราใช้เครื่องสำอางแทบจะทุกเคาน์เตอร์ในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น skincare หรือ make up 10 ปีที่ผ่านมาซื้อมาแทบจะทุกยี่ห้อ ลองผิดลองถูกมาก็เยอะ ทั้งจากความชอบของตัวเองและจากการแนะนำของคนในห้องนี้
ซึ่งจากประสบการณ์ของตัวเอง ตั้งแต่อดีตที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในเมืองไทยไม่เยอะมากเท่าขนาดปัจจุบัน เราว่า การบริการก็ค่อนข้างแตกต่างจากอดีตค่อนข้างมากค่ะ เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในอดีต มักจะมี BA แนะนำและเมื่อเวลาซื้อต้องให้ BA หยิบให้เท่านั้นจะหยิบเอง เลือกเอง ก็ลำบาก จะทดลองหรือทำอะไรก็ไม่ค่อยง่ายเหมือนปัจจุบันที่เคาน์เตอร์หลายแห่งจะทำแบบ open อยากจะทดลองอันนั้นก็หยิบมาดม ทา เทสต์อะไรก็ง่ายกว่า ทำให้การตัดสินใจในการซื้อก็ง่ายกว่ามาก
พฤติกรรม BA ในอดีตเวลาเดินผ่านตามเคาน์เตอร์ค่อนข้างเปลี่ยนไป นะคะ แต่ก่อน BA จะหน้าเริ่ดเชิดหยิ่งอยู่แต่เฉพาะเคาน์เตอร์ แต่เดี๋ยวนี้เวลาเราเดินผ่านจะมีพนักงานเดินออกมาจากเคาน์เตอร์เชิญชวนให้เข้าไปชมสินค้า(อันนี้ถือว่า ดี และการตลาดเปลี่ยนไป) ยกเว้นบางเคาน์เตอร์เท่านั้นที่จะยังหน้าเริ่ดเชิดหยิ่งเกาะเคาน์เตอร์ต่อไป เช่น เคาน์เตอร์ lamer, lancome, shisedo, skII, chanel (อันนี้ที่เคยเจอนะคะ ไม่ได้ว่าทุกแห่งเสมอไป) เคาน์เตอร์ที่เราไม่ค่อยชอบ พนักงานตอบไม่ตรงคำถามก็เช่น nars, bobbi brown, mac
สำหรับเคาน์เตอร์ที่เราไม่เคยผิดหวังที่อยากภูมิใจเสนอ เช่น origin เข้าไปทีไร พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส ต้อนรับเป็นอย่างดี ไม่มีเกี่ยงงอนที่เจอไม่ค่อยดีมีไม่กี่คน เร็วๆนี้เราเพิ่งไปเคาน์เตอร์ loccitane ที่เซ็นทรัลเวิลด์ พนักงานก็ดี แถมยังให้เราสติกเกอร์(ส่วนลด)กับเราไปซื้อเคาน์เตอร์อื่นอีก พนักงาน rmk ที่ เซ็นทรัลชิดลมก็ดี ขออะไรก็ให้ guerlain ก็ใช้ได้
สำหรับหลายๆท่านที่เคยเจอพฤติกรรมพนักงาน BA แย่ๆ อันนี้ขอวิเคราะห์จากตัวเองนะคะ ว่า เคยเป็นมั้ยค่ะ มันเหมือนกับว่า เราเองมีอคติต่อพฤติกรรมของ BA อยู่แล้วโดยจากการบอกเล่าของเพื่อนๆ หรือเจอมากับตัวเองหลายๆครั้ง ก็เลยทำให้เวลาพอเจอพนักงานพูดอะไรแย่ๆนิดนึงก็เลยหงุดหงิด เพราะมีปมในใจ และคิดว่า กุเจออีกแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เราไม่ค่อยชอบคนๆนี้ เพราะ หน้าตากวน teen เวลาพูดผิดหูเลยยิ่งหงุดหงิด ทำนองนี้เป็นต้น
ดังนั้นเพื่อ เป็นแนวทางก่อนที่จะไปซื้อของเคาน์เตอร์เครื่องสำอางอะไร (ทำยังกะไปสมัครงาน) ก็อยากให้ทำแบบนี้นะคะ
1. อยากให้เข้ามาหาข้อมูลจากห้องนี้ก่อนก็ได้ หรือเข้าไปดูทางเนตว่า ราคา ขนาด คุณภาพ คุณสมบัติ เป็นอย่างไร เพื่อที่ว่าพอเข้าไปซื้อสินค้าจากเคาน์เตอร์ จะได้ไม่เดินไปเดินมาเพื่อสำรวจ BA ก็อาจไม่แน่ใจว่า จะชวนให้ดูสินค้าดี (เดี๋ยวหาว่า เร่งรัด) หรือ ถ้าไม่สนใจก็หาว่า ไม่สนใจลูกค้า อันนี้เราพูดเป็นกลางๆนะคะ
2. เข้าไปคุยกับ BA ด้วยอารมณ์แจ่มใส ว่าเราสนใจสินค้าชนิดไหน และมีข้อมูลมาเพียงพอ เพื่อให้เข้ารู้ว่า เราตั้งใจเข้ามาซื้อสินค้าจริงๆ ไม่ใช่แค่เข้ามาดูเล่นๆ หรือ ถ้าคิดว่าจะเข้ามาเดินดูสินค้าก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ(ก็เรามีสิทธิ์) ก็ให้ถาม BA ว่าเราสนใจสินค้านี่จริงๆ ให้เขาช่วยอธิบายรายละเอียดให้หน่อย
3. มั่นใจในตัวเองหน่อย ไม่ต้องสนใจว่า เราแต่งตัวอย่างไร หรือมาในสภาพไหน ก็เรามีเงินซื้อสินค้าของเขา ถามในสิ่งที่อยากถาม เราเองไม่เคยสนใจเลยว่า จำเป็นต้องแต่งตัวดีหรือไม่ เคยไปทั้งแต่งตัวดีมาก และแย่สุดๆ แต่เราค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง เลยไม่สนใจว่า ใครจะคิดยังไง อยากจะซื้อก็ซื้อ ไม่อยากซื้อก็ไม่ต้องซื้อ เงินเป็นของเรา อย่าซื้อเพราะเกรงใจ เพราะไม่อย่างนั้นจะได้ในสิ่งที่ไม่อยากได้กลับมา แล้วจะงงว่า ซื้อมาได้ยังไงวะ
4. อย่าเห็นแก่ของแถม เพราะ เมื่อไรก็เมื่อนั้นเรามักจะไม่ได้ใช้ในของแถมที่แถมมาเท่าไร เช่น ซื้อครบ 5000 ได้ของแถม เราอาจจะอยากซื้อแค่ 1000 อาจจะเสียเพิ่มเพราะเห็นแก่ของแถมแล้วไม่ได้ใช้ ทำให้เสียเงินเปล่าๆ ให้ยืนหยัดไว้ เพราะ BA มักจะชอบกล่อมให้เราเคลิ้ม
5. อย่าจงใจจับผิดพนักงาน BA มากเกินไป จะหงุดหงิดเอาเปล่าๆ ถ้าเขาพูดไม่ดีทำนองดูถูกเรา เราก็บอกเขาว่า ทำไมพูดแบบนี้ เราเคยวีนพนักงานเพราะเขาดูถูกเรา บอกว่า อันนี้เหมาะกับเรา เพราะถูกดี เราเรียนหัวหน้ามาคุยและให้พนักงานขอโทษเราตรงนั้น หลังๆก็ชินกับพฤติกรรมพนักงานพวกนี้ ไปเลยถ้าพนักงานพูดไม่ดีถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ก็ออกจากเคาน์เตอร์ไป แต่ถ้า แย่มากๆเราก็ต่อว่า เขาเลย เราเคยพูดขนาดว่า ถ้าคิดจะเอาดีทางงานด้านนี้ ให้เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองเถอะ แล้วจะรุ่ง
6. ถ้าซื้อสินค้าแล้ว ให้ขอสินค้าทดลองไปด้วยจะได้เพื่อเอาไปทดลองใช้ เพราะถ้าดีจะได้กลับมาซื้อใหม่ เราขอประจำ และมักจะเลือกสินค้าที่เราไม่ซื้อเพราะถ้าแพ้จะได้ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องอาย ถ้า BA ดีๆจะยอมให้สินค้ากับเรา
7. พยายามซื้อสินค้าเป็น set ยิ่งเป็นช่วงเทศกาลต่างๆ สินค้าเป็น set จะราคาถูกกว่ากันมาก แต่ถ้าดูแล้วว่า สินค้าเป็น set ไม่ใช่สินค้าที่ตัวเองชอบเท่าไร ก็ให้แยกชิ้นซื้อก็ได้(แล้วแต่) แต่ให้สังเกตวันหมดอายุด้วย พยายามให้ BA เลือกสินค้าใหม่จากเคาน์เตอร์ให้เรา พูดถึงวันหมดอายุ ก็ให้ระวังสินค้าหมดอายุด้วย ดูใต้ฉลากให้แน่ใจก่อน ถ้ามันใกล้หมดอายุแล้วให้ BA เปลี่ยนให้ใหม่ เราดูเป็นประจำค่ะ
เราก็หวังว่า สิ่งที่ได้บอกมาเพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆที่ชอบเครื่องสำอางนะคะ ถ้าอันไหนไม่ถูกใจยังไงก็บอกกันมาได้นะคะ เพราะว่า เราเองก็พูดจากประสบการณ์ตัวเองทั้งนั้น อาจจะถูกหรือผิดก็ได้นะคะ
สุดท้ายนะคะ อยากฝากถึง พนักงาน BA ประเทศไทยทุกเคาน์เตอร์ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร หรือ คนที่ต้องฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ BA ว่า อยากให้เห็นว่า ลูกค้าเป็นผู้ซื้อ เขาตั้งใจจะมาซื้อสินค้าของคุณและพร้อมจะควักจ่ายเงินให้คุณอยู่แล้ว อยากให้พนักงาน BA ช่วยเปลี่ยนทัศนคติสักนิดนึงค่ะ ว่า ลูกค้า ไม่ได้เป็นพระเจ้าก็จริงแต่ถ้าคุณไม่ได้ลูกค้าอย่างเรา คุณก็อาจตกงานได้นะคะ ในเมื่อคุณอยากยึดอาชีพนี้ อยากให้ซื่อสัตย์และตั้งใจในการประกอบอาชีพนี้เถอะคะ ลูกค้าอย่างเราๆจะได้ไม่ต้องมานั่งชื่นชม(ปนแดกดัน) พวกคุณ เวลาเจอพนักงาน BA แย่ๆ กันแบบนี้ นอกจากนั้นก็จะได้ไม่ต้องยัดเยียดให้เราต้องไปซื้อสินค้าทางช่องทางอื่น ทั้งที่เราไม่อยากซื้อ ขนาดว่า ยอมจ่ายเคาน์เตอร์เพื่อซื้อของที่แพงกว่า คุณควรจะเคารพการตัดสินใจซื้อของเราบ้างนะคะ และต้องขอขอบคุณสำหรับพนักงาน BA ดีๆที่ตั้งใจทำงาน และให้ข้อมูลกับเราไม่เหน็ดเหนื่อย เราชอบใจค่ะ อยากเจอแบบนี้ทุกๆเคาน์เตอร์ เรายินดีอยากจ่ายตังค์เพื่อให้เราสวยนะคะ เพราะยังไงๆเราก็เป็นผู้หญิง ชอบให้ตัวเองดูสวยเสมอค่ะ
แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 51 13:02:48
แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 51 12:57:03
จากคุณ :
มนเกรซ 
- [
15 ก.พ. 51 12:29:19
]
แนวทางในการไปซื้อเครื่องสำอางตามเคาน์เตอร์
... เข้ามาดู
