Differin เป็นชื่อการค้าของ Adapalene 0.1% ใช้ทารักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ ในระยะที่เป็นน้อยถึงปานกลาง
โดย Adapalene เป็นอนุพันธ์ของ Napthoic acid ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายยากลุ่ม Retioniods โดยมีฤทธิ์ในการควบคุม เซลล์ Keratinocyte ในการปรับขบวนการแบ่งเซลล์ของผิวหนัง และมีฤทธิ์ต้านการแบ่งเซลล์ ทำให้ลดการอักเสบของสิวได้ด้วย โดยจะมีความเฉพาะเจาะจงกับ Receptor ในผิวหนังชั้นบน
Adapalene เป็นยาที่ละลายน้ำได้น้อยมาก การเตรียมยาจึงเป็นการนำให้แขวนเป็นผลึกเล็กๆ ในเจล (aqueous gel) ซึ่งมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก ในความเข้มข้น 0.1 % ทำให้เนื้อครีมเป็นเจล ซึ่งทำให้มีข้อดีคือ ปราศจากส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ และไขมันที่ทำให้เกิดสิวอุดตันและด้วยการมีผลึกเล็กๆ( microcrystal) ทำให้ยาแทรกซึมลึกเข้าผิวหนัง และละลายในต่อมไขมันที่ทำให้เกิดสิวอุดตันได้ดี ซึ่งต่างจาก Retin-A (Tretinoin gel) ที่มีแอลกอฮอล์เป็นองค์ประกอบจึงทำให้การใช้ Retin-A เกิดอาการระคายเคืองผิวได้มากกว่า Differin
ซึ่งมีวิธีการใช้ ข้อควรระวังและอาการไม่พึงประสงค์ คล้ายกับ Retin-A คือ
วิธีการใช้ - ควรทายาบางๆ วันละ 1 ครั้งก่อนนอน หลังการล้างหน้า
ข้อควรระวัง - หลีกเลี่ยงการทาบริเวณดวงตา ริมฝีปาก จมูก และ บริเวณเยื่อบุผิว (mucous membrane) เมื่อทายาแล้วควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดด รวมทั้งแสงจากหลอดไฟ
แต่จากการศึกษาพบว่า Adapalene มีความคงตัวต่อแสงแดด ไม่สลายง่ายเหมือน Tretinoin แต่ก็ยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงแดดเช่นกัน
อาการไม่พึงประสงค์ - แผลผุพอง (Blistering eruption), ผิวแห้ง (Dry skin), ผื่นแดง (Erythema), คัน (Pruritus), ผิวหนังตกสะเก็ด (Scaly skin) มีการศึกษาพบว่าการใช้ Adapalene ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์น้อยกว่าการใช้ Tretinoin
โดยสรุปข้อดีของ Differin คือ ได้ผลในการรักษาเร็ว มีโอกาสระคายเคืองต่อผิวหนังน้อยกว่า เนื่องจากปราศจากแอลกอฮอล์ และเกิดอาการไม่พึงประสงค์น้อยกว่า Retin-A อย่างไรก็ตามยาก็ยังมีโอกาสเกิดความไวต่อแสงแดดและแสงจากหลอดไฟได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงเมื่อทายาแล้ว
จากคุณ :
Kii-Kiie
- [
10 มี.ค. 51 19:49:19
]