ความคิดเห็นที่ 1 ...  ก็หนูอ่านเจอในเน็ท  หรือในหนังสืออะไรซักอย่างนี่แหละ   เค้าว่าการนวดหน้านี่มันเวริ์คอ่ะพี่   จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง   ริ้วรอยลดลง     หนูเลยซื้อคอร์สนวดหน้าคาเนโบ้ไว้   หมดไปหมื่นสอง   อันนี้   นึกๆดูหนูก็เสียดายนะพี่   คือหนูซื้อไว้เป็นเดือนแล้วแหละ แต่ยังไม่ได้ไปนวดซักกะทีเลยพี่   รู้งี้   เอาเงินไปซื้ออย่างอื่นก่อนซะก็ดีเนอะ จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ...  แล้วก็ซื้อคอร์สทำเลเซอร์ ที่คลีนิคผิวหนัง   ราคาก็ประมาณสองหมื่น มั้งพี่   อันนี้หนูปลื้มมากๆๆ ผิวหนูละเอียดยิบทันตาเห็นเลยพี่       ไงๆหนูก็จะซื้อคอร์สต่ออีก  ซื้อไปเรื่อยๆแหละ     คอร์สนึงมันมี 5 ครั้งมั้ง    หนูพึ่งทำไปครั้งเดียวเอง     อ้อ... หมายถึงของคอร์สนี้อ่ะนะ   แต่ก่อนหน้า   หนูเคยซื้อมาคอร์สนึงแล้ว   หนูชอบมาก แล้วก็  ซื้อคอร์สทำทรีทเม้นท์    พวกโฟโน  ไอออนโต ก็ซัก สี่พันนิดๆ  อันนี้หนูก็ว่าดีนะ   ทำแล้วรู้สึกเลยว่าผิวดีขึ้น  ผิวหายโทรมเลยแหละ ....  แล้วก็มีคอร์สนวดตัว  ก็ประมาณหมื่นนึง   อันนี้หนูก็ชอบนะพี่   นวดแล้ว โอ้โห ! สุดยอด จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ดิฉันไม่บรรยายแบบคำต่อคำแล้วนะคะ   มันเยิ่นเย้อ   ขอสรุปให้ฟังดังนี้เลยค่ะ ( ระยะเวลาการใช้เงิน หนึ่งแสนบาทของเธอ ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์  - ณ. ปัจจุบัน  ) แป้งฝุ่น 4 กระปุก   ราคารวมประมาณ 5,000 บาท รองพื้น 3 ขวด   รวมประมาณ   5,000 บาท เมคอัพเบส 3 หลอด  ประมาณ  3,500 บาท บรัชออน  8  ตลับ   ประมาณ   6,000  บาท แป้งผสมรองพื้น    2 ตลับ   รวมประมาณ   3,000  บาท ลิปสติค  7  แท่ง   รวมประมาณ  4,500 บาท ลิปกลอส  5   แท่ง  รวมประมาณ   2,000  บาท อายชาโดว์  3 ตลับ   รวมประมาณ  2,000 บาท มาสคาร่า  + อายไลเนอร์  รวมประมาณ   1,500 บาท น้ำหอม 3 ขวด รวมประมาณ  7,000  บาท คลีนซิ่ง   โทนเนอร์  โฟมล้างหน้า  รวมประมาณ  2,000 บาท แปรงปัดแก้ม +  แปรงปัดแป้ง   ราคาประมาณ  3,000 บาท ฉีดโบท๊อกซ์  ประมาณ  7,000  บาท mask + สครับ ต่างๆ   2,000  บาท ครีมทั้งกลางวัน กลางคืน บำรุงต่างๆนาๆ   รวมประมาณ 10,000 บาท ผลิตภัณฑ์ที่กินแล้วทำให้ผิวขาว (ไม่รู้เรียกอะไรค่ะ)   ประมาณ 2,500  บาท รองเท้า 7 คู่  รวมประมาณ  5,000  บาท   ( 7 คู่ที่ว่านี่  ไม่ได้หมายถึงซื้อทีละคู่นะคะ  ซื้อทีเดียวค่ะ   วันเดียว 7คู่ค่ะ ) หมดหน้าที่ของดิฉันแล้วนะคะ   ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของคุณค่ะ   ที่ต้องหยิบเครื่องคิดเลขมากดตัวเลขดูนะคะ ส่วนพวกต่างหู  เสือ้ผ้า  ยาทาเล็บ  ของกระจุกกระจิก  ไม่รวมอยู่ในหนึ่งแสนนี้ค่ะ เพราะดาวบอกว่า  ซื้อด้วยเงินเดือนที่เหลืออยุ่น้อยนิด   หลังจากผ่อนขั้นต่ำบัตรเครดิตค่ะ จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 '' แล้วดาวเอาเงินมาจากไหน  ถ้าบอกไม่ได้  ก็ไม่เป็นไรนะ '' ดิฉันเองในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่กว่าดาว   ยอมรับว่าลำบากใจที่จะถามเรื่องนี้ค่ะ   เพราะเท่าที่พอจะรู้ๆกันอยู่   ก็คือว่าเงินเดือนดาว ไม่ได้มากมายอะไรเลย '' แฟนหนูให้ค่ะพี่   เค้าให้เก็บเข้าแบ็งค์ไว้  เผื่อเวลาฉุกเฉินน่ะค่ะ  '' '' ห๊า !!  ให้ทีละเป็นแสนเลย ''   ดิฉันตกใจกับคำตอบจริงๆนะคะ '' ใช่พี่   จริงๆเค้าให้มาสองแสนห้า  หนูให้พ่อกับแม่ไปห้าหมื่นก่อนเลย   เพราะหนูรู้สันดาU ตัวเองไงพี่   ถ้าอยู่กับหนู    ต่อให้ล้านนึงก็ไม่เหลือค่ะ ความจริงไอ้สองแสนที่เหลือเนี่ยะ     หนูก็ตั้งใจจะฝากแบบไม่ถอนนะพี่   เพราะรู้ตัวค่ะ ว่าพ่อแม่ก็จน     อีกอย่างหนูเคยผ่านเหตุกาณ์แย่ๆมาแล้ว ตอนนั้นพ่อหนูเข้าโรงบาล    หนูเศร้ามากเลยพี่รู้ป่ะคะ     วันที่หนูไปเยี่ยมพ่อน่ะ     พ่อหนูนะ   นอนอยู่ในห้องรวม     เป็นภาพที่แบบ.... คือหนูบอกกับตัวเองเลยพี่     ชีวิตนี้หนูไม่อยากเห็นภาพแบบนั้นอีกแล้ว   หนูสงสารพ่อ '' จากที่รู้จักมักคุ้นน้องดาวมาสามปี   ดิฉันยืนยันได้เต็มปากค่ะ   ว่าเนื้อแท้ของเด็กคนนี้   แท้จริงเธอเป็นคนรักครอบครัวค่ะ จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 '' แล้วแฟนรู้รึเปล่า  ว่าเงินเหลือแสนเดียวแล้ว ''   ดิฉันใช้น้ำเสียงแบบนุ่มนิ่มที่สุด  เพราะเกรงใจเธอค่ะ '' ไอ้ห้าหมื่นที่ให้พ่อกับแม่  หนูบอกพี่เค้านะ   เค้าก็คงไม่พอใจนิดหน่อยแหละ  แต่ก็ไม่ว่าอะไร คือตอนนี้  เค้าคิดว่าหนูมีเงินเก็บอยู่สองแสนนะ   เค้าก็ถามๆแหละ   แต่หนูก็โกหกเค้ามาตลอด   ว่าเงินในแบ็งค์หนูเหลือสองแสน '' เธอหยุดพูดครู่นึง  หันมามองหน้าดิฉัน   เหมือนเธอกำลังมองหาความจริงใจในดวงตาของดิฉัน   ก่อนจะเล่าต่อ ''พี่เค้าอายุมากกว่าหนูยี่สิบปีได้     ส่วนความสัมพันธ์   หนูไม่ขอบอกนะคะ  '' ถึงตอนนี้ดิฉันเป็นฝ่ายนั่งนิ่งๆ   ไม่ได้ซักถามอะไรแล้วละค่ะ   เพราะเรือ่งแบบนี้สำหรับผู้หญิง มันค่อนข้างเป็นเรือ่งอ่อนไหวนะคะ เธอคงรู้ว่าดิฉันกำลังตั้งใจฟัง   เลยเล่าต่อไปเรือ่ยๆ ''พี่เชื่อป่ะ  บางคืนหนูนอนร้องไห้เลยนะพี่   หนูหยิบแป้ง  หยิบน้ำหอมขึ้นมาดูทีละชิ้นทีละชิ้น   แล้วหนูนึกถึงพ่อกับแม่ค่ะ '' เท่าที่รู้จักดาวมา  เวลาเธอพูดอะไรเกี่ยวกับพ่อแม่ เธอเหมือนจะร้องไห้แทบทุกครั้ง จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:08:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 '' น้ำหอม   สามพัน  มันก็แค่ทำให้ตัวหนูมันหอมขึ้น  ก็แค่นั้นเอง แต่สำหรับพ่อกับแม่   สามพันนี่  เค้าทำอะไรได้เยอะแยะเลยนะแหละพี่  '' ดิฉันคิดว่า เธอน่าจะยังพอมีสติบ้างนะคะ   เพราะดูเธอยังรู้สึกผิดอยู่บ้าง     ยังรู้ตัวว่ากำลังกระทำสิ่งที่ไม่ดีต่อพ่อแม่ และดิฉันก็ได้เห็นรอยยิ้มจากเธอ '' พี่รูป่ะคะ  เมือ่วันหยุดที่ผ่านมา  หนุไปหาพ่อกับแม่   วันนั้น  หนูมีเงินติดกระเป๋าไปสองพันกว่าบาท ก่อนกลับ  หนูให้เงินแม่ไว้สองพันเลยพี่   คือหนูคิดว่า   เอาไว้กับเรา  ก็ซื้อบรัชออนหมด จนได้แหละ สู้ให้พ่อกับแม่ไว้กินไว้ใช้ดีกว่า วันนั้นนะ   หนูเดินออกจากบ้านอย่างมีความสุขที่สุดเลยพี่ ไม่รู้สิ  ใจมันฟูๆ บอกไม่ถูก '' จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แต่เธอก็ยิ้มได้แป๊บเดียวเองค่ะ ''ตอนนี้  หนูเป็นหนี้บัตรสองใบ   เบ็ดเสร็จก็ประมาณ ใกล้ๆเจ็ดหมื่น ใบแรก  วงเงินน้อยหน่อย  สองหมื่นห้า    อีกใบวงเงิน ห้าหมื่น'' ''แต่ตอนนี้  หนูตัดบัตร วงเงินห้าหมื่นนั่น  ขาดเป็นสองท่อนไปแร๊ะ แต่ก็ผ่อนขั้นต่ำอยู่นะ  เดือนละห้าพัน    อีกใบก็ผ่อน สองพันกว่าๆ หนูมานั่งคิดๆดู ดอกเบี้ยเดือนละหลายตังค์   สู้หนูเอาเงินนั่น  มาซื้อบรัชออนดีกว่า  เนอะพี่เนอะ'' ( อ้าว!   พูดอยู่แหมบๆ  ว่าจะเลิกบ้าเครือ่งสำอาง ) น้องดาว   พูดโดยที่ไม่ได้มองหน้าดิฉัน   เธอนั่งจ้องเครือ่งสำอางในคอมพิวเตอร์ไม่ละสายตา ''หนูก็ไม่รู้นะพี่   ว่าทำไมหนูบ้าช็อปปิ้งขนาดนี้   เหมือนคนบ้าเลย ไอ้แสนนึงน่ะ  หนูก็เสียดายนะพี่   ทุกวันนี้   หนูก็หลอกตัวเองข้างๆคูๆว่า   ช่างเถอะ คนเรามันก็ต้องมีการทำผิดกันมั่งแหละ   ....เนี่ยะหนูบอกตัวเองแล้วแหละ   หนูจะไม่ยอมไปเบิกเงินในแบ๊งค์อีกแล้ว   หัวเด็ดตีนขาดหนูก็ไม่เบิก  หนูตั้งใจจะเก็บไว้ให้พ่อกับแม่  '' ดิฉันแอบเห็นว่า  น้ำตาเธอคลอๆอีกแล้วค่ะ     ดิฉันเอง  ไม่มีคำพูดใดๆปลอบใจเธอสักคำในตอนนั้น ได้แต่คิดเงียบๆอยู่ในใจ   ดีแล้วดาว  ดีแล้วดาว   พี่เอาใจช่วย จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ปากเธอก็พูดเจื้อยแจ้ว   แต่สายตาเธอก็จับจดอยู่กับเครือ่งสำอาง ที่ซื้อขายทางอินเตอร์เน็ท ''พี่รู้ป่ะคะ   หนูเป็นคนคนบ้ายอค่ะ   เวลาหนูเอารูปเครือ่งสำอางไปโพสต์   แล้วมีคนเข้ามาชื่นชม หนูจะปลื้มมากเลย   ประมาณว่า เฮ้ย  เราก็เจ๋งเหมือนกันเนอะ   แล้วมันทำให้หนูยิ่งอยากไปซื้อเครืองสำอางตัวใหม่ๆ  มาลองอยู่เรื่อยๆ .... บอกตรงๆ อย่างไม่อายเลยพี่ หนุรู้สึกดีนะ   เวลาที่มีคนชมหนูน่ะ   ไม่รู้สิ   มันเหมือนว่าเราเป็นคนสำคัญ   ไรเงี๊ยะ เวลาไปไหนๆ แล้วมีคนมอง  มีคนชมว่าหนูสวยนะพี่   หนูแทบจะลอยเลยแหละ ชีวิตนี้หนูตั้งใจเลยว่า  หนูจะไม่ยอมไม่สวย   หนูต้องสวย  ต้องสวยๆๆๆๆ อดข้าวก็ยอมพี่  ขอให้สวยเถอะ  หนูยอมได้จริงๆพี่ '' ดิฉันเห็นท่าทีการพูดของเธอแล้ว   ดิฉันคิดว่าเธอรู้สึกแบบที่พูดจริงๆค่ะ ก็ไม่เป็นไร  เป็นความชอบ  ความสุขส่วนตัวของเธอ   เธอชอบที่จะหมดเงินไปกับความสวย  ก็เรือ่งของเธอนี่นา จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:11:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดิฉันยังตั้งใจ  และอยากที่จะฟังเรือ่งที่เธอเล่าค่ะ '' พี่   ... หนูบอกพี่ตรงๆเลยนะ  บางทีไอ้เรือ่งในเน็ทอ่ะ   บางทีมันก็หลอกลวงนะพี่   หนูก็หนึ่งในนั้น  ''   เธอหัวเราะ แบบเจ้าเล่ห์นิดๆ ดิฉันได้แต่นั่งคิ้วขมวด   งงเป็นไก่ตาแตก ....   พี่เชื่อป่ะ  หนูโรคจิตแหละพี่   หนูขอสารภาพเลย     อย่างเวลามีคนมาโพสต์รูปเครือ่งสำอาง แล้วมีคนมาถาม  หรือมาบอกว่า ... ''  อยากได้เครือ่งสำอางตัวนี้จัง    ใช้ดีมั้ยคะ  '' หนูก็จะเข้าไปป่วนเลย   ประมาณว่า   ''  เราก็ใช้อยู่นะคะ  เราชอบมากๆๆ  หมดแล้วก็จะซื้อต่อค่ะ '' .... ทั้งๆที่หนูใช้แล้ว หนูรู้สึกว่า ไม่ได้เรือ่งเลย   หนูโค-ตรเสียดายตังค์น่ะพี่   พอโพสต์เสร็จ  หนูก็นั่งหัวเราะคนเดียว       แถมมีคนเชือ่ที่หนูโพสต์อีกค่ะพี่  ว่าเครือ่งสำอางนั่นมันดีมากๆ   พี่ว่าหนูเลวป่ะล่ะ   ( เลวค่ะ   ดิฉันตอบแบบไม่ต้องคิดค่ะ แต่ตอบในใจ  ) ''  ตอนนั้นก็ไม่รู้หนูคิดอะไรน่ะพี่   สงสัยหนูเจ็บใจที่ตัวเองเสียเงินฟรี   หนูก็เลยมาหลอกคนอื่นให้เสียตังค์เหมือนหนูมั่ง '' โอยยย !  ฟังถ้อยคำนี้แล้ว   ดิฉันแอบถอนใจ   และสะเทือนใจนิดๆค่ะ ได้แต่หวังว่า  คงมีแต่น้องดาวคนเดียวนะคะ  ที่เป็นแบบนี้ แต่ดิฉันเชือ่ใจ  และเชื่อมั่น  ในความจริงใจของเพือ่นๆในห้องนี้ค่ะ ( ขอโทษด้วยนะคะ  ที่ดิฉันหยิบเรื่องนี้มาพุด   แต่ก็พูดด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆค่ะ) แต่เรือ่งที่น้องดาวเธอพูดมานี้   เธอยืนยันหนักแน่นว่าเป็นเรือ่งจริงค่ะ   เธอทำแบบนั้นจริงๆ     เธอพูดจาโกหกพกลมในอินเตอร์เน็ทจริงๆ จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:12:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ''  แล้วเค่รืองสำอาง เสื้อผ้าที่ซื้อๆมาน่ะ    ดาวใช้ทันเหรอคะ  '' '' หนูก็บริจาคไงพี่   ยกให้คนอื่นมั่ง ก็มี '' ( งั้นดิฉันต้องขอโทษน้องดาว ที่เคยพูดในกระทู้ก่อนหน้าว่า เธอทิ้งๆขว้างๆข้าวของ ) '' เร็วๆนี้   หนูก็บริจาคให้มูลนิธิยุวพัฒน์   เกิดชาติหน้าหนูจะได้สวยๆไงพี่ '' ( โถ! ชาตินี้   ดาวก็จัดว่าเป็นคนสวยจัดๆคนนึงแล้วนะคะ   ในสายตาพี่ ) '' หนูไม่รวยก็จริงนะพี่   แต่เงินไม่ใช่คำตอบของชีวิตหนูไง   หนุไม่เคยเอาของที่ไม่ใช้แล้วไปขายเลยค่ะ   สาบานได้ หนูบริจาคหมดแหละ  ไม่ก็ยกให้คนอื่น   แม่บ้านที่คอนโดมั่ง   แม่ค้ามั่ง เพราะคนเหล่านั้นชีวิตเค้าแย่กว่าหนูเยอะเลยพี่ หนูหวังแค่อย่างเดียวแหละพี่   เกิดชาติหน้า  หนูจะได้สวย(กว่านี้)ไง ... จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สิ่งที่น้องดาวทำ  มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องทั้งหมด   แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายในทุกมุม ท้ายนี้   ขอขอบพระคุณทุกท่าน ที่เข้ามาร่วมแบ่งปันความคิดเห็นกันอย่างสุภาพ  และน่ารัก ดิฉัน  ต้องขอตัวไปอาบน้ำ แต่งหน้า ไปทำงานก่อนนะคะ เพราะดิฉันก็กลัว '' ไม่สวย '' เหมือนๆกับน้องดาว เหมือนกันละค่ะ จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ้อ ! แสนนึง  ท่องไว้นะคะ   แสนนึง ... แสนนึง    ซื้อแหวนเพชร ได้วงนึง แสนนึง   ซื้อโรเล็กซ์ได้  เรือนนึง แต่น้องดาว   เธอเลือกที่จะซื้อความว่างเปล่าให้ตัวเอง ... คุณว่า ... ถึงเวลาหรือยัง   ที่ผู้หญิง (อย่างน้องดาว)  ต้องหยุดสวย   ซะที     สวัสดีค่ะ จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 13 มิ.ย. 51 08:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เกินเยียวยาแล้ว น่าจะให้เธอไปเป็นบีเอเลยนะคะ อิอิ ได้อยู่กับของสวย ๆ งาม ๆ ที่เธอชอบทุกวัน จากคุณ : ชิฟฟอนคาปูชิโน่ - [ 13 มิ.ย. 51 08:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านแล้วอึ้งจริงๆ ไม่รู้จะพูดว่ายังไงเลยค่ะ จากคุณ : love_kt - [ 13 มิ.ย. 51 08:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณนะค่ะ จขกท สำหรับการแบ่งปันเรื่องราวที่ให้แง่คิดมากมาย กับผู้หญิงอีกหลายๆคน จากคุณ : loversgirl - [ 13 มิ.ย. 51 08:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตามมาอ่านต่อภาค 2 ค่ะ ขอบคุณ จขกท. มากๆค่ะ (ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วค่ะ) โหวตค่ะ จากคุณ : lilBee - [ 13 มิ.ย. 51 08:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อู้วววว แป้งฝุ่น 3 กระปุก เบส+รองพื้น+แป้งผสมรองพื้นเยอะๆ มีไปทำไมค๊า หนมปังว่าอย่างละชิ้นก็พอแล้ววว แต่ หนมปังเคยคิด ว่าจะซื้อแป้งผสมรองพื้นอีกตลับค่ะ (ตอนนี้มีอยู่ 2 อันนึงจะหมด อีกอันยังเต็ม) แต่ก็คิดได้ ซื้อมาทำม๊ายยย มีหน้าเดียว สรุป ตอนนี้รอหมดก่อนค่อยซื้อค่ะ ตลับนึงไม่ถูก เกือบ 2000 = ='' เอาตังไปกินข้าวดีกว่า อิ่มด้วยนะ ขอบคุณ คุณจขกท.มากนะคะ ที่มาให้ข้อคิดดีๆค่ะ จากคุณ : หนมปังช็อกโก้ - [ 13 มิ.ย. 51 08:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาอ่านต่อและโหวต ค่ะ จากคุณ : ขวัญหล้า - [ 13 มิ.ย. 51 08:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อืมม ไม่รู้จะพูด จะพิมพ์อะไรเหมือนกัน ไม่เคยบ้าขนาดนั้นงะ งืดดดด เคยบ้าซื้อกระเป๋า รองเท้า ไม่มีคนเบรคด้วย มาสำนึกได้ตอนไม่มีที่จะเก็บ สำนึกได้อีกครั้งตอนกระเป๋าหาย เงินหาย(จริงๆเงินสดก็ไม่ได้มาก ๒พัน แต่ก็เยอะสำหรับลูกพ่อค้าไม่ขีดไฟอย่างเรา) ต้องอายัติบัตร ส่วนบัตรเสริมโดยยึด(ที่บ้านเค้ากลัวเราเฟอะฟะไปเลยอะ อยากได้อะไรมาขอเอง) ตั้งแต่นั้นมา สำนึกได้เลย ๕๕ ได้ตังค์มา เอาเข้าแบงค์ก่อน เบิกมาใช้ทีละนิด ซื้อของก็ทำลีสไว้ ต่อให้มีบลัชสิบอัน เวลาใช้ก็ใช้ได้แค่ทีละอัน ไม่มีใครรู้หรอกว่า บลัชที่เราปัดวันนี้กับเมื่อวานมันส้มมันชมพูมากกว่ากันตรงไหน มีเราคนเดียวเท่านั้นหละที่รู้ แล้วจะซื้อไปทำไมมากมาย อย่างเคสน้องดาว เราว่าเกินเยียวยา เข้าข่ายหมกมุ่น ฟุ้งซ่าน แนะนำให้เข้าวัดคะ ไม่งั้นก็ลองพาน้องเค้าไปทำบุญบ้าง ไปดูคนที่เค้าป่วยเป็นโรคเอดส์ ดูคนที่เค้าลำบาก เผื่อจะคิดได้บ้าง ขอให้น้องเค้าดีขึ้นไวๆคะ ขอบคุณจขกท.ที่เอามาเป็นอุทธาหรณ์(สะกดถูกรึป่าวไม่ทราบ ขอโทษไว้ด้วยคะ) ^^ จากคุณ : หนูคิสเซอร์วิส (KissAhoLicGal) - [ 13 มิ.ย. 51 08:47:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สุดท้ายหวังว่าเรื่องน่าจะผ่านไปด้วยดีนะครับ จากคุณ : alwaysfluke - [ 13 มิ.ย. 51 08:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณ จขกท. ที่นำเรื่องราวมาแบ่งปันกันค่ะ เป็นประโยชน์ และเป็นอุทธาหรณ์ที่ดียิ่ง จากคุณ : แพท ภัทรียา - [ 13 มิ.ย. 51 08:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โอ้ว เกินจะยั้งแล้ว จากคุณ : แป้งเปียกรสแซ่บ - [ 13 มิ.ย. 51 08:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาอ่านคะ ขอบคุณ จขกท ที่แบ่งปันเรื่องราวดีดีคะ จากคุณ : aedomedream - [ 13 มิ.ย. 51 08:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โหวต ค่ะ จากคุณ : ปลาทองตัวกลมว่ายวนอยู่ในน้ำ (cooiydruj9ho) - [ 13 มิ.ย. 51 09:05:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เราว่า ดาว เขารู้ตัวในสิ่งที่ตัวเองทำดีเลยหล่ะค่ะ แต่เขาก็ "เลือก" ที่จะตกหลุมนั้นเอง เรานึกสงสัย ถ้าดาวเกิดเป็นลูกเศรษฐี   วันนี้คงไม่มีกระทู้นี้เกิดขึ้นในห้องแป้ง คงมีแต่คนชื่นชมปนอิจฉาในความงามและความรวยของเธอ จากคุณ : ImMuNoLoGy - [ 13 มิ.ย. 51 09:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จากที่ได้อ่านกระทู้ทั้ง ภาค 1 และ ภาค 2 แล้ว ทำให้สำเหนียกได้ว่า ควรรู้จักคุณค่าของเงินตราให้มากกว่านี้ ขอบคุณ จขกท. มากนะคะ ที่เข้ามากระตุ้นจิตสำนึกของสาวๆ ไม่ให้หลงเมามัวกับค่านิยมความสวยมากเกินไป ไม่ได้ห้ามให้สวย แต่อยากให้สวยแบบพอดี ไม่เดือดร้อนตนเอง กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ดีสุดยอดเลยค่ะ ขอชม... จากคุณ : maipleanjai - [ 13 มิ.ย. 51 09:25:07 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โหวตแล้วค่ะ อ่านแล้วก็นึกถึงตัวเองนะเนี่ย ช่วงหนึ่งที่มีอาการเหมือนกับดาว  ดีกว่าที่เป็นระยะสั้นไม่งั้นคงไม่ต่างกับดาวแน่เลย จากคุณ : wannee2w - [ 13 มิ.ย. 51 09:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านเรื่องคุณดาว สิ่งเดียวที่เราชื่นชมคือ ความรักที่คุณดาวมีต่อครอบครัว และความซื่อสัตย์ในความรู้สึกของตัวเอง (ยกเว้นเรื่องโกหกเวลาโพสในเนท) อย่างน้อยต่อจากนี้ไป ขอให้คุณดาวมีสติ และ รู้รับผิดชอบในตัวเองให้มากขึ้น (ชื่นชมเธอทีกล้าตัดบัตรทิ้ง เพื่อไม่เป็นดินพอกหางหมู) เป็นกำลังใจให้คุณดาว และขอบคุณ คุณจขกท.ด้วยค่ะ ทีนำเรื่องราวให้คนหลายคนได้ ตาสว่าง... จากคุณ : ปลากัดสีทอง - [ 13 มิ.ย. 51 09:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณ จขกท. ค่ะ ที่นำเรื่องเตือนใจดีๆมาให้อ่าน (เดี๋ยวเราต้องลากน้องสาวมาอ่านบ้างแล้ว) หลังจากอ่านจบ บอกตัวเองว่าถ้าอะไรยังใช้ไม่หมด จะไม่ซื้อมาเพิ่มเด็ดขาด(นอกจากจะใช้แล้วแพ้จริงๆ) เรื่องเงินเราใช้วีธีนี้ พอเงินเดือนออก แบ่งพ่อแม่ครึ่งนึง ที่เหลือเรารู้นิคะว่าเดือนนึงเราใช้เท่าไหร่ในค่ากินอยู่+ค่าเดินทาง+เหลือเท่าไหร่ไว้เป็นค่าช็อปปิ้งแต่ล่ะเดือน เงินที่เหลือจะการคำนวณ เข้าธนาคาร ฝากประจำเท่านั้นค่า(ยังไงก็ถอนไม่ได้ วะ5555+) ชอบค่ะ โหวตให้นะคะ ^^ จากคุณ : *~YUKI-KUNG~* - [ 13 มิ.ย. 51 09:41:54 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอโทษนะคะ จขกท  ทำไม เราอ่านแล้ว.... นึกถึงเรื่องของนักศึกษาที่หาลำไพ่พิเศษ แล้วมาซื้อของสิ้นเปลือง เช่น โทรศัพท์ หรือ กระเป๋าแบรนด์เนม เพียงแต่น้องดาวเธอโตกว่า เป็นผู้ใหญ่แล้ว ถ้า จขกท สนิท กับน้องดาว พอที่จะเตือนกันได้ก็ดีนะคะ ถือว่าช่วยน้องเค้าให้หลุดพ้นออกมา แต่ถ้าน้องเค้าไม่ฟัง  อันนั้นเค้าคงได้เลือกทางของชีวิตเค้าแล้ว... จากคุณ : ไม้ร่ม - [ 13 มิ.ย. 51 09:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ต้องขอบคุณทุกท่านะคะ  ที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น บางท่าน  อาจจะนึกตำหนิดิฉัน ว่าทำไม  ไม่เตือนน้องดาวเธอบ้าง ขอบอกตามตรงค่ะ ว่าดิฉันเองก็ลำบากใจนะคะ เพราะเท่าที่รู้จักกัน  ก็แค่ในฐานะเพื่อนร่วมงาน แล้วนิสัยใจคอในด้านอื่นๆของน้องดาว ก็ถือว่าเป็นคนนิสัยใจคอดีคนนึงเลยค่ะ รับผิดชอบงานในหน้าที่  แบบไม่บกพร่องค่ะ ไม่เคยมาทำงานสาย   ไม่เอาเปรียบใคร   ไม่เคยพูดจาให้ร้ายใคร   มันเหมือนน้ำท่วมปากจริงๆค่ะ  ที่จะไปเตือนเธอในเรือ่งส่วนตัวมากๆๆแบบนั้น ดิฉันเองก็จะพูด  จะเตือนได้เป็นครั้งคราวเท่านั้นเองละค่ะ จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา (สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา) - [ 13 มิ.ย. 51 09:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 32 โหวตค่ะ..... อ่านจากภาคแรกมาภาคสอง จขกท. น่ารักมากค่ะ สอดแทรกสาระเพียบบบ..เลย เอ๊....ไม่รู้ว่า  ที่น้องดาว  เข้าโพสต์ในเน็ทนั้น ใช่ในห้องแป้ง หรือเปล่าหนอ  ??????? จากคุณ : คิตตี้..เหมียว - [ 13 มิ.ย. 51 10:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มาตามภาคสองต่อ พอเห็นลิสต์แล้วโซเสียดายเงินแทนมากมาน T___T เงินแสนนึงนี่กินไอติมได้ตั้งหลายถ้วยนะคะคุณพี่ดาว T___T (ทำไมต้องไอติม? เพราะโซอยากกินนี่! ฮา) จากคุณ : SouSo (azuma304) - [ 13 มิ.ย. 51 10:05:37 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแล้วตกใจที่ว่า เธอซื้อที่เดียวเต็มวงเงินเลยเนี่ย น้องดาวคงต้องการเติมเต็มที่ที่เธอขาด สิ่งที่เธออยากได้มานาน อ่านแล้วน้องก็รู้สึกผิดนะคะ แต่เหมือนกับขาดสติไปนิดเพราะมีบัตรก็รูดๆๆ เพราะมันไม่ใช่เงินสด เลยไม่รู้สึกเสียดาย ควักจ่ายยากแบบเงินสด ขอบคุณ จขกท ที่เอาเรื่องดีๆ มาเตือนสติสาวทุกคนค่ะ รวมทั้งอิชั้นด้วยแฮะๆๆ จากคุณ : ชฎาแหลม - [ 13 มิ.ย. 51 10:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านแล้วแบบว่า อืม.. โดนค่ะ ขอบคุณจขกท. นะคะที่เอาเรื่องดีๆมาแบ่งปันกัน เรื่องนี้คงทำให้เราและอีกหลายๆคนคิดเยอะขึ้น จะเก็บเรื่องนี้ไว้เตือนตัวเองนะคะ ช่วงนี้เงินทองหายาก อะไรๆก็แพงเซฟๆกันหน่อยก็ดีค่ะ เพราะเวลาไม่มีจะกิน พวกบรรดาแป้ง บลัชออน ลิปสติกทั้งหลายไม่ได้ช่วยให้หายอิ่มได้เลย จากคุณ : ละมุดพุดดิ้ง - [ 13 มิ.ย. 51 10:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สำหรับภาคนี้... อ่านแล้วรู้สึกสลดหดหู่จริงๆ ขอบคุณที่นำมาบอกเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์นะคะ จากคุณ : แมวน้อยคอยปลาทู - [ 13 มิ.ย. 51 10:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ความสุขซื้อไม่ได้ด้วยเงินหรอกค่ะ .. สุดท้ายก็เหลือแต่ความว่างเปล่า อย่างที่ เจ้าของกระทู้บอกแหล่ะค่ะ .. อ่านแล้ว เศร้าจัง .. จากคุณ : bloodmoney - [ 13 มิ.ย. 51 10:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จขกท. ดำเนินเรื่องดี น่าจะลองเขียนหนังสือนะคะ จากคุณ : ยัยวุ่น - [ 13 มิ.ย. 51 10:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 39 กำ อ่านแล้ว อึ้งถึงเศร้า จากคุณ : mApLe:online: - [ 13 มิ.ย. 51 10:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอสวยกลางๆ ในราคากันเอง ดีกว่าเนาะ จากคุณ : น้องพอใจไม่พอใจ - [ 13 มิ.ย. 51 10:34:38 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ชอบจังคะ อ่านแล้วเกิดสติ ชั่งใจได้ในหลายๆเรื่อง จากคุณ : Little_Happiness (Little_Happiness) - [ 13 มิ.ย. 51 10:39:55 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อ่านมาตั้งแต่ทู้แรก ตามมาอ่านต่อทู้นี้ "สะเทือนใจ+สะท้อนใจอย่างแรง !!!" สีพิ้งค์เป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนกัน มีเงินน้อยเหมือนกัน แต่ก็ซื้อเครื่องสำอางค์อย่างบ้าคลั่งเหมือนกัน แต่...ที่ดีกว่า คือ แป้ง 10กว่าตลับ = ZA( ซื้อ1 แถม1)+Skinfood+Mistine+4U2 (ซื้อ 1 แถม 1 )+ In2it (แถมรีฟีล)+L'Oreal+Covermark+OP+Etude รวมกันยังไม่ถึงที่น้องเค้าซื้อเลย บรัชออนก็เป็น10 เยอะเหมือนกัน แต่รวมๆ กัน ก็ไม่ได้ครึ่งของน้องเค้า ลิปสติก ไม่ค่อยทา ทาแต่กลอส ไม่ซื้อ ก็เลยประหยัดไป กลอส ก็หลายอยู่ แต่ก็นิยมของถูก เพราะอยากลองเฉยๆ และเบื่อเร็ว หายก็บ่อย เบส+ครีมรองพื้น+อื่นๆ เลยละกัน ก็มีหลายอันเหมือนกัน อันไหนชอบก็ใช้ ลองแล้วถูกใจก็เก็บ แต่อันไหนไม่ปลื้ม สีพิ้งค์ระบายออกด้วยการ "ขาย" แบบมือ 2 ถูกๆ เพื่อไม่ให้สามีตำหนิได้ เพราะเงินเราต้องใช้ร่วมกัน เลยอยู่ในวัฏจักรแบบนี้ เคยถามเพื่อนๆ แบบปรึกษาอย่างจริงจัง เพื่อนเราก็ไม่ได้ตำหนิมาก เพราะก็ถือว่าเราซื้อมาขายไป ก็เป็นทางออกที่ดีนะ อ่านแล้วเครียดเหมือนกัน แต่ก็ยังถือว่าโชคดี ที่สีพิ้งค์ใจไม่กล้าพอ ไม่กล้าพอที่จะซื้อแป้งตลับละ 1800 ไม่กล้าซื้อบรัช ตลับละ 1150 [u]ถือว่าตัวเองโชคดีที่ยังพอจะคิดได้อยู่[u] สงสัยคงต้องชั่งใจ ยับยั้งใจตัวเองให้มากกว่านี้ ****************************************** ขอบคุณจขกท. มากๆ เตือนใจได้ดีจริงๆ สงสัยคงต้องไปนั่งบวกของที่ซื้อมา แล้วแปะหน้าตู้กระจกว่า "....ไม่ซื้อ ไม่จน " คนจะสวย ไม่ต้องแต่งมากก็สวยได้เน๊อะ จากคุณ : เมลานีนสี=Pink= - [ 13 มิ.ย. 51 10:41:24 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เฮ่ออออ... ไม่มีความเห็นค่ะ เอาไว้เตือนสติตัวเอง เวลาบ้าช็อป จากคุณ : คนสวยเมืองนนท์ - [ 13 มิ.ย. 51 10:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ต้องให้น้องดาว ตัดบัตรเครดิตทิ้ง แล้วก็เครื่องสำอาง ใช้แล้ว ไปขายต่อเอาเงินไปให้พ่อแม่ดีกว่าค่ะ เฮ่อ จากคุณ : la-la-bell - [ 13 มิ.ย. 51 10:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ฮืม..... น้องดาวจะหายได้ต้องพบจิตแพทย์ค่ะ.... มันเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง แบบบางที คนเราจะชอบจะคลั่งไคล้อะไรที่ไม่เหมือนกัน... แบบที่บางคนเป็นโรคบ้าช้อปปิ้งน่ะค่ะ (อันนี้เราก็เป็น) บางทีซื้อไปแล้วกลับมารู้สึกผิดอะไรแบบนี้ แต่ตอนนั้น อารมณ์อยากได้ อะไรก็ห้ามไม่ได้.... บางทีผู้หญิงจากต่างจังหวัดมาทำงานในกรุง.... นานๆเข้าความเหงามันเกาะกิน.... บางประเภทก็จะเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ.... แล้วบางประเภทก็พยายามซื้อสินค้า แล้วพยายามทำให้ตัวเองมีคุณค่า ให้ดูดี.... ยิ่งดีกว่าคนอื่นได้ยิ่งชอบ.... น่าสงสารนะคะ คนประเภทนี้..... เราเองก็เป็น แต่ก็ไม่ขนาดน้องดาวค่ะ.... ต้องหักห้ามใจค่ะ..... ที่บรรยายมาทั้งหมด เราก็เข้าบำบัดกับคุณหมอเหมือนกันค่ะ.... ตอนนี้ดีขึ้นเยอะเลย.... นั่งสมาธิกับออกกำลังกาย.... มันทำให้ความคิดหมกมุ่นบางอย่างลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ.... ฝากเพื่อนๆกับสาวๆในนี้ด้วยค่ะ.... ผู้หญิงอย่างหยุดสวย....แต่ต้องสวยใสไม่ไร้สมอง....สวยแบบมีสติค่ะ..... กับเศรษฐกิจแบบนี้.... ควรเรียนรู้คำว่าพอเพียง   เราเองก็กำลังเรียนรู้อยู่ค่ะ.... ถ้าน้องดาวได้บังเอิญมาอ่าน.... อยากบอกว่า ทำไม่ยากเลย.... วิธีสวยแบบพอเพียงกับฐานะตนเอง.... จากคุณ : CuTe PaTTy - [ 13 มิ.ย. 51 10:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 46 โหวต..............ด้วยคนค่ะ อ่านมาตั้งแต่ภาคแรกก็อึ้งแล้ว  มาอ่านต่อยิ่งอึ้งอีกไม่กล้าอ่านราคาของเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาเล่าสู่กันฟัง  ทำให้เรารู้จักคำว่า "การประมาณตน" และ   "การยับยั้งชั่งใจ "  ได้มากเลยค่ะ ยังไงก็ขอให้คุณดาวคิดได้(จริงๆ)ในสักวันหนึ่งนะคะ  ว่าสิ่งสำคัญของการมีชีวิตอยู่ของคนเรานั้นคืออะไร จากคุณ : ready-go - [ 13 มิ.ย. 51 10:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ได้ข้อคิดอย่างแรง  ว่าจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด สงสารพ่อแม่ ขึ้นมาทันใด ขอบคุณมากค่ะที่ยกเรื่องนี้มาพูด เพื่อเตือนใจ ขอบคุณจริงๆค่ะ จากคุณ : bee_kks - [ 13 มิ.ย. 51 11:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อยากให้คิดได้ไวๆ ก่อนที่อะไรมันจะสาย...เฮ่ออออ จากคุณ : VivaGlam - [ 13 มิ.ย. 51 11:11:56 ]

ความคิดเห็นที่ 49 น้องดาวหมกมุ่นเหมือนกันน่อ ที่จริงเราเองก็เป็นพวกเสพติดการคอมเมนท์ในอินเตอร์เนตนะคะ เมื่อก่อนเราเขียนนิยายลงเนต พอเห็นคอมเมนท์แล้วก็รู้สึกดี (- -ตอนหลังเรารวมเล่มนิยายขายเอง ได้เงินมาก้อนนึงพอเก็บไว้ก้นถุงด้วยล่ะ) ตอนบ้าเย็บตุ๊กตา เย็บกระเป๋า เราก็ทำแล้วเอามาลงห้องงานฝีมือ มีคนชมก็ปลื้มค่ะ (ทำกระเป๋าใช้เอง ทำตุ๊กตาให้เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อน - -ไม่เสียตังอีก) ตอนนี้บ้าแต่งหน้า ยอมรับว่าบางทีก็อยากเอาของที่มีมาอวด มาทำฮาวทูบ้าง แต่ไม่ใช่การซื้อเพื่อมาอวดแน่ๆ ล่ะ เพราะมันแพงเกินกว่าจะทำแบบนั้น วันก่อนยังเพิ่งบ่นกับคุณแฟนเลยว่า "ตอนบ้าแต่งนิยาย ได้เงิน แต่พอบ้าแต่งหน้า เสียเงินเนอะ" คุณแฟนก็บอกว่า "เสียเงินไม่เป็นไร แต่ต้องรู้จักใช้จ่ายให้เป็นนะ" ขอบอกอีกทีว่าน้องดาวซื้อของแพงค่ะ ดูจากรายการแต่ละอย่างแล้วหนาวแทน ถ้ามีแสนนึงเราคงเอาไปดาวน์คอนโดอ่ะ เรื่องคอมเมนท์ของดาว - - เราเป็นคนนึงที่เข้ามาอ่านคอมเมนท์หรือรีวิวเพื่อหาข้อมูลว่ามีอะไรน่าสนใจ แต่ยังไงเราก็ต้องไปลองเองที่เคาน์เตอร์ก่อน บางอย่างเช่น แป้งฝุ่น เราลองแล้วลองอีก จนกว่าจะแน่ใจว่ามันไม่หมอง ชอบใจจริงๆ ถึงค่อยซื้อ ที่สำคัญ เราไม่คิดจะเป็นหนี้บัตรเครดิตเด็ดขาด สมัยเด็กๆ บ้านเราเคยเจอภาวะหนี้ท่วมจนเกือบล้มละลายมาแล้ว - - รู้เลยว่า การเป็นหนี้มันทรมานแค่ไหน เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็นจริงๆ (เช่น อยากซื้อบ้าน) เราจะไม่ซื้อของเงินผ่อน หรือเป็นหนี้อะไรทั้งสิ้น แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 51 11:16:21 จากคุณ : นะโอ - [ 13 มิ.ย. 51 11:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ดีหน่อย ที่หนูนีเป็นทาสการกินมากกว่าความสวย หุหุ อ้วนตุ๊บค่ะ จากคุณ : นางมารหน้าใส - [ 13 มิ.ย. 51 11:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ตามมาอ่านต่อค่ะ อ่านแล้วนึกเป็นห่วงเรื่องบัตรเครดิต จะเล่าให้ฟังว่าเพื่อนสนิทของเราคนนึงก็ต้องตกอยู่ในภาวะนี้ น่ากลัวมาก ดอกเบี้ยบัตรเครดิตเนี่ย เริ่มจากบัตรสองใบ รูดเต็มวงเงินแบบนี้แหละ พอเราด่า มันก็เริ่มไม่บอกอะไรละ เมื่อต้นปีก่อน มารุ้ว่าทำไป 7 ใบ เต็มวงเงินทุกใบ เอาใบนั้นมาแปะใบนี้ กดเงินสดมาใช้ เพราะไม่มีเงินตัวเองแล้ว  สรุปเป็นหนี้ 3 แสนโดยไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ตอนนี้ก็ทำงานใช้หนี้อย่างเดียว กินยังแทบไม่พอ ยังไงถ้าคุณดาวได้อ่านก็ อยากให้ตัดไฟแต่ต้นลมนะคะ ก่อนที่ชีวิตจะต้องเป็นทาสดอกเบี้ย น่ากลัวกว่าทาสความสวยเยอะเลยค่ะ และไม่มีความสุขเลย และขอบคุณ คุณ จขกท ด้วยที่นำเรื่องราวดีๆ แบบนี้มาแบ่งกัน คิดว่าหลายๆ คน (รวมถึงตัวเราเอง) ได้อ่านแล้ว คงกลับไปเคลียร์โต๊ะเครื่องแป้ง เคลียร์กระเป๋ากัน ว่าซื้ออะไรมาทับถมมากมายแค่ไหน และเปลี่ยนพฤติกรรมการช้อปได้แล้วล่ะ ^__^ จากคุณ : Cat Slave - [ 13 มิ.ย. 51 11:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มีหลายคนค่ะ ที่หมดเงินเป็นแสนๆ ไปกะพวก makeup , skincare พี่ที่เรารู้จักก็มีค่ะ ชอปปิ้งกันวันละสองสามหมื่น เดือนนึงชอปทุกอาทิตย์ แต่ว่าพี่เค้ามีฐานะ เค้าสามารถแบกรับตรงนี้ได้โดยไม่เดือดร้อนเงินคนอื่น แล้วก็ไ่ม่ได้เป็นหนี้ด้วย แต่คุณน้องดาวเนี่ย ใช้เงินเกินตัวค่ะเลยเกิดปัญหานี้ขึ้น น่าจะลองหาทู้ของดีราคาถูกให้น้องเค้่าอ่านนะคะ อิอิ แต่ว่าก็เข้าใจน้องเค้า เพราะถ้าขึ้นไปใช้ของระดับสูงๆ แล้วคงทำใจยากที่จะมาใช้ของถูกๆ เหมือนมันไม่ได้ feeling แล้วก็ไม่ได้คำเยินยอจาก BA ด้วย ก็เอาใจช่วยน้องดาวละกันนะคะ (เอาใจช่วยตัวเองด้วย ๕๕๕ บ้าชอปเหมือนกัน) จากคุณ : เผือกหางหงอก - [ 13 มิ.ย. 51 11:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 53 โหวตค่ะ ชีวิตนี้ไม่อยากมีบัตรเครดิตเลย กลัวอดใจไม่ไหว กะอิแค่บัตรเดบิต เราก็รูดซะจะหมดบัญชี T^T อย่างน้อยเค้าก็ยังนึกถึงครอบครัว พุดยากค่ะเรื่องนี้ จากคุณ : มิสพรหล้า - [ 13 มิ.ย. 51 11:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ถ้าเราไม่รู้ว่าที่แท้จริงเราขาดอะไร เราก็จะหา อะไรต่อมิอะไรมาเติมไม่รู้จักจบสิ้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้ว่าเราขาดอะไร และเอาสิ่งนั้นมาเติมได้ ชีวิตเราก็จะครบ และไม่ต้องการสิ่งที่ไร้ประโยชน์อีกเลย ขออวยพรให้น้องเค้าได้เจอในส่งที่เค้าขาดเร็วๆนะคะ จากคุณ : klint77 - [ 13 มิ.ย. 51 11:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อ้าว ถึงเวลาโหวตซะเเล้ว ตามมาอ่านจากภาค 1 ค่ะ ยังดีที่น้องดาวรักครอบครัว เเละคิดได้ อย่างน้อยยังมีคนที่เธอรัก รั้งเธอไม่ให้บ้าคลั่งมากไปกว่านี้นะคะ เราโชคดีที่มีสามีที่พูดเสมอๆว่า "ผมรักในเเบบที่เป็นคุณ เเละชอบมากเวลาที่คุณเเต่งหน้าน้อยๆ หรือไม่เเต่งเลย" ก็เลยลดความบ้าคลั่งเครื่องสำอางไปได้เยอะมากค่ะ เเต่ธรรมชาติของมนุษย์อ่ะ โดยเฉพาะสตรี ต้องมีเผลอไผลไปบ้างอยู่เเล้ว ขอเเค่ตั้งสติเเละควบคุมได้ ^^ จากคุณ : iamjetski - [ 13 มิ.ย. 51 11:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ดีใจค่ะ ที่คุณดาว รักครอบครัว จากคุณ : chlorophylls - [ 13 มิ.ย. 51 11:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อืม อ่านแล้วได้คิดอะไรเยอะเลยค่ะ คนเราต้องมีสติ ไม่เพียงแต่พวกเครื่องสำอางหรอกค่ะ เราว่าไม่ว่าจะซื้ออะไรก็แล้วแต่ ก็ควรจะมีสติ ไตร่ตรอง คิดหน้าคิดหลังให้ดีๆก่อนซื้อ ซื้อเพราะอยากได้หรือซื้อเพราะจำเป็นจริงๆ มันก็ต่างกัน จากคุณ : jolika - [ 13 มิ.ย. 51 11:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สงสัยอีกอย่าง น้องดาว เล่นโต๊ะแป้งหรือเปล่าเนี่ย จากคุณ : la-la-bell - [ 13 มิ.ย. 51 11:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านแล้วนึกถึงพี่คนนึงที่เคยถ่ายรูปเครื่องสำอางเยอะมาก ๆ ของพี่เค้ามาลง เยอะอย่างกะอยุ่ในเค้าท์เตอร์ แหะๆๆ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 51 12:10:17 จากคุณ : หน้ากาก - [ 13 มิ.ย. 51 12:09:23 ]

ความคิดเห็นที่ 60 โหวตค่ะ สงสารประเทศชาติ เฮ้ออออ...... จากคุณ : ข้าวยำหมูตุ๋น - [ 13 มิ.ย. 51 12:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โอ้.. แอบงง.. มีจริงๆหรอที่มีคนเข้ามาโพสต์แกล้งว่าของดี ทั้งที่จริงมันไม่ดี เพื่อความสะใจเล็กๆน้อยๆ.. เฮ้อ ดูเหมือนว่าเราจะตกไปเหยื่อรายนั้นของเทอไปบ้างแล้วล่ะ จากคุณ : sweetstrawberryzz - [ 13 มิ.ย. 51 12:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ค่านิยม คำเดียว จากคุณ : -:GhosT_Princezz:- - [ 13 มิ.ย. 51 12:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 63 นั่นสิสงสัยว่าน้องดาวเล่นห้องแป้งป่ะคะเนี่ย แต่เท่าที่เราพบมา ในห้องแป้งส่วนใหญ่ก็จะเป็นแนวใช้ดีจริงๆจึงบอกต่อนะ ใครทำแบบน้องดาวนี่เราโกรธเจรงๆอ่ะ จากคุณ : กระต่ายลอยคอ - [ 13 มิ.ย. 51 12:38:59 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สงสัยเหมือนคุณล้าเบว คุณดาวเค้าจะเล่นห้องแป้งหรือป่าวน๊า ?? จากคุณ : jorjaejaa - [ 13 มิ.ย. 51 12:39:39 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อย่างนี้ ที่เขาเรียก  คนหลงทาง หลงเชื่อในวัตถุนิยม  เชื่อว่าดี ทำแล้วมีความสุข ถึงจะมีสำนึกเล็ก ๆ ใจ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เลือกเดินทางถูก เธอเป็นเด็กต่างจังหวัด (ใช่ไหมครับ) มาทำงานห่างพ่อแม่ ขาดคนค่อยแนะนำ ไม่แปลกถ้าความคิดเธอจะเปลี่ยนไปตามสังคมที่เธออยู่  เธอจึงเชื่อว่าที่เธอคิด และคนอื่นทำมันถูก ขอให้เธอเจอทางที่ถูกไวๆ ก่อนที่เธอจะล้มแล้วยืนไม่ได้ จากคุณ : 007 (panaratb) - [ 13 มิ.ย. 51 12:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 66 โหวตค่ะ จากคุณ : ป้าเอียด - [ 13 มิ.ย. 51 12:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำเรื่องดีๆมาไว้เตือนสติตัวเองค่ะ โหวตค่ะ จากคุณ : หมีดำ&หมีขาว - [ 13 มิ.ย. 51 12:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 68 หดหู่จัง อยากจะบอกว่าเป็นคนนึงค่ะมีความจำเป็นจะต้องแต่งหน้าบ่อยๆเวลาทำงาน แต่ว่าเรากลับยังรู้สึกว่าเครื่องสำอางค์ที่มีอยู่มันเยอะไปหรือปล่าว และบ่อยครั้งที่เครื่องสำอางค์หรือครีมหมดพร้อมๆกัน เราจะรู้สึกเสียดายเงินมากเพราะว่างานที่เราทำอยู่มานก็มีเป็นช่วงๆไม่ใช่งานประจำ แต่ก็จำเป็ฯต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อของเหล่านี้มาประโคมลงหน้าเวลาที่ต้องทำงาน แต่นอกเวลางาน เราแทบไม่แต่งหน้าเลย อยากมากปัดบลัชอ่อนๆเท่านั้น และรู้สึกว่าโชคดีจังที่แฟนเราไม่ชอบให้เราแต่งหน้า พาลทำให้เราประหยัดเครื่องสำอางค์ได้เยอะเหมือนกัน ********************************************* อยากบอกคุณดาวจังค่ะว่าให้รู้จักจดสิ่งที่คุณดาวจ่ายไป เพราะเวลาที่เราจดบัญชีการใช้จ่ายของเราบางครั้งเรารู้สึกเสียดายเงินมาก เพราะบางอย่างเมื่อกลับมาย้อนดูมันช่างไร้สาระเหลือเกิน รึไม่คุณดาวต้องพบจิตแพทย์แล้วค่ะ เพราะอาการแบบนี้มันเป็นโรคชนิดหนึ่งได้เลยนะ คล้ายกับการบ้าชอปปิ้งอ่าค่ะ ใครอ่านเรื่องนี้แล้วก้อเอามาเป็นอุทาหรณ์ด้วยนะคะ ผู้หญิงสวยได้แต่ต้องสวยแบบพอเพียง จากคุณ : น้องเต้าหู้กับปาท่องโก๋ - [ 13 มิ.ย. 51 12:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 69 โหวตด้วยอีกคนค่ะ น่าสงสารคุณดาวนะคะ เราเองก้อเป็นคนหนึ่งนะที่เชื่อกระแสการโพสในห้องนี้ แรก ๆ เข้ามา ใครว่าอะไรดีก้ออยากได้ไปหมด พอลองซื้อไปซักชิ้น สองชิ้น แล้วรู้สึกว่ามันไม่เข้ากะตัวเอง ก้อเริ่มมีสติ คิดได้ว่า บางชิ้นเหมาะกะคนอื่นอาจไม่เหมาะกะเราก้อได้ เสียดายตังค์ด้วยค่ะ เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าเก็บไว้หลาย ๆ ครั้งมันก้อเป็นเงินก้อนโตได้ เดี๋ยวนี้เน้นอ่านอย่างเดียวค่ะ และหาข้อมูลเฉพาะตัวที่จำเป็นและอยากได้จิง ๆ อย่างว่าแหละ เรื่องสวย ๆ งาม ๆ มันก้อต้องมีบ้างสำหรับผู้หญิง ถือว่าให้รางวัลกะตัวเอง แต่ต้องเป็นรางวัลที่อยู่ในขอบเขตและไม่เดือดร้อนเมื่อภายหลังด้วย จากคุณ : NoOmY88 - [ 13 มิ.ย. 51 12:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 70 โอ้ว แทงใจดำๆ จริงๆ จากคุณ : supergaye - [ 13 มิ.ย. 51 12:57:53 ]

ความคิดเห็นที่ 71 โหวตค่ะ... จะนึกถึงคุณดาว เวลาอยากได้เครื่องสำอางที่แพงและไม่จำเป็น.. ขอบคุณ จขกท. ที่ทนไม่ไหวแล้วออกมาเล่าให้ฟัง ขอบคุณคุณ ดาวที่อนุญาตให้ใช้เรื่องของเธท มาเตือนสติ สาวๆ จากคุณ : AppLeInSep~ - [ 13 มิ.ย. 51 12:59:06 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอให้คิดได้ไว ๆ ก่อนที่จะสายนะคะคุณดาว จากคุณ : castellano - [ 13 มิ.ย. 51 13:10:17 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คิดว่าน้องดาวเค้าคงจะเปลื่ยนแปลงตัวเองยากซ่ะ แล้วอ่ะคะ ตัวเราเองยังไม่เคยซื้อของเยอะขนาดนี้เลย จะซื้อบ้างก้อพวกสกินแคร์ พวกเมคอัพนี้มิค่อยได้กินตังเท่าไร เพราะไม่ได้ต้องแต่งตัวออกไปทำงาน ทำออฟฟิตที่บ้าน จะมีแต่งบ้างก้อบ้างวันที่ต้องไปพบลูกค้า       โหวตให้ค่ะ จากคุณ : La Diable - [ 13 มิ.ย. 51 13:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ถ้าเสพติดก็ต้องบำบัดนะ เท่าที่อ่านเราคิดว่าแต่ก่อนดาวคงรักครอบครัวจริงๆ แต่ตอนนี้คิดว่ารักตัวเองมากกว่า ที่ดาวเป็นอยู่ตอนนี้เหมือนกับกำลังโดนล้างสมองหรือหลงกับสิ่งภายนอก วัตถุนิยม ประมาณชั้นต้องสวย ต้องขาว ต้องเด่น อยากเป็นที่สนใจ อยากมีอยากเป็น...ตอนเด็กๆอาจมีปมอะไรสักอย่าง ทำอะไรตั้งสติดีๆ ชีวิตจะพลิกตอนไหนก็ไม่รู้ จากคุณ : โครโมโซม X - [ 13 มิ.ย. 51 13:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 75 สะท้อนใจตัวเองค่ะ ถ้าเงินถึง..ก็คงไม่ต่างจากคุณดาวสักเท่าไหร่ ...ขอบคุณที่ทำให้คิดได้ค่ะ สวยอย่างพอเพียง..เคารพในคุณค่าของตัวเอง.. จากคุณ : รักหมดใจเจ้าชายแบด - [ 13 มิ.ย. 51 13:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 76 อ่านแล้วก็สลดเหมือนกันคะ เราก็เป็นอีกคนนึงที่บ้าช๊อป แต่ส่วนมากจะเป็นพวกเสื้อผ้านะคะ แบบซื้อมาใส่แค่ครั้งเดียวอ่ะ บางตัวยังไม่เคยใส่หรือใส่ไม่ได้ แต่ซื้อมาเพราะว่าชอบๆๆมันสวยดี   แต่ไม่รู้จะใส่ไปไหนหรือไม่เหมาะกะเราก็กองอยู่เต็มตู้ให้หลานๆๆญาติๆๆไปบ้างก็ยังเหลืออีกกองพะเนินอ่ะ อ่านแล้วก็สลดตัวเอง เศร้ามากมาย จากคุณ : ทำไงดีสวยเกินหน้าเกินตาเพื่อน - [ 13 มิ.ย. 51 13:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำเรื่องราวชวนคิดมาเล่าสู่กันฟัง อ่านแล้วทำให้คิดได้ดีทีเดียว ขอบคุณจริงๆค่ะ จากคุณ : LoveMeLoveManU - [ 13 มิ.ย. 51 13:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ต้องพาไปวัดค่ะ จะได้ระงับกิเลส มีสติขึ้นมานิดนึง เราน่ะกิเลสเยอะนะ อยากได้โน่นได้นี่เยอะแยะ เห็นในโต๊ะแป้งใช้ไรก็อยากได้มาใช้มากๆ เราระงับด้วยการ เข้าเว็บขายเครื่องสำอางค์ กดๆๆๆมันทุกอย่างที่อยากได้ลงรถเข็ญ แล้วตอนสุดท้ายก่อนจะกดตกลงซื้อ ดูตัวเลขที่เราต้องจ่าย โอ้วววว มากมาย แล้วเราก็กดยกเลิกค่ะ ไม่เอา 555 (จิตหน่อยๆเนอะ) แต่มันช่วยได้เยอะจริงๆนะ แล้วเราก็เดินไปส่องกระจก ดูหน้าตัวเอง ดูเครื่องสำอางค์บนโต๊ะ ที่มีไม่เยอะมากนัก แล้วก็มองมัน ดูซิว่ามีสิ่งที่เราต้องใช้ครบหรือยัง รองพื้น : มีอันนึง เมื่อไหร่จะใช้หมด เพราะไม่ค่อยได้ใช้ แป้งผสมรองพื้น : มีอันนึง ใช้มาแต่ต้นปีละตัวหนังสือบนแป้งยังไม่เลือนเลย ใช้ได้อีกนาน แป้งไม่ผสมรองพื้น : มีอันนึง ใช้มาแต่ต้นปีละตัวหนังสือบนแป้งเลือนไปนิดเดียวเอง ใช้ได้อีกนาน ลิปสติก : มีสามแท่ง โห แค่นี้ก็เลือกไม่ถูกละจะใช้สีไหน บลัชออน : มีสองอัน ชมพูกับส้ม ใช้ได้อีกนานเช่นกัน อายไลเนอร์ : มีแท่งเดียว อีกไม่นานคงหมด เพราะหัดกรีดใช้ไปซะเยอะ แต่ก็คงยังไม่หมดตอนนี้ เอ่อ เรามีแค่นี้ ก็พอแล้วสำหรับเรา แต่งตาอะไรพวกนี้ เคยเอาของแม่มาลองแต่งดู ไม่เวิร์ค เลยไม่ซื้อมาใช้เอง เรายังแต่งไม่เก่งมั้ง เราทำแบบนี้บ่อยๆนะ อยากได้จัดๆ เข้าเว็บขายไปกดๆๆๆๆๆ แล้วยกเลิก แล้วเดินมาดูเครื่องสำอางค์ตัวเอง แล้วก็คิดได้ว่า เฮ้อ ยังใช้ได้อีกนาน นี่ซื้อมาตั้งนานยังใช้ไม่หมดเลย ถ้าซื้อมาใหม่เพิ่มอีก เมื่อไหร่จะใช้หมดละ ส่วนพวกสกินแคร์ ที่คนอื่นเค้าเห็นว่าใช้ดี เราก็อยากได้ แต่เราระงับด้วยการ บอกกับตัวเองว่า ที่เค้าว่าดีมันอาจจะไม่ดีกับเราก็ได้ ที่เราใช้อยู่ ถูกกับผิวเราดีอยู่แล้ว จะไปสรรหามาทำไม แพ้ขึ้นมานะ ซวยอีก สิวขึ้นต้องหาหมอ อีกนานกว่าจะหน้าใสเหมือนเดิม ถ้าคุณดาวมาอ่าน อยากให้ลองคิด หรือลองทำแบบนี้ดูนะคะ เมื่อคุณคิดจะกลับใจ จะเลิกฟุ่งเฟือยเกินตัวแล้ว เราเป็นกำลังใจให้นะคะ มันไม่ยากถ้าเราจะทำค่ะ จากคุณ : น้องตัวยุ่ง - [ 13 มิ.ย. 51 13:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ว่าจะเข้ามาแอบอ่านอย่างเดียวซะหน่อย อ่านแล้วทนไม่ได้ เราว่านะคะ คุณดาว เนี่ยนะคะ มีปัญหาทางด้านสุขภาพจิต สุขภาพใจแล้วล่ะค่ะ มันเป็นอาการแนวๆคนต่างจังหวัดที่เข้าเมืองแล้วหลงแสงสีของเมือง เพราะเค้ารู้สึกว่า "ตัวเองที่มาจากต่างจังหวัดไม่มีอะไรมันเฉิ่ม" เลยต้องใช้เงินหาอะไรบางอย่างมาเติมคุณค่าของตัวเอง บางคนก็เสื้อผ้า กระเป๋า บางคนก็เครื่องสำอางค์ หรือบางคนก็เซ็กส์ มันเป็นช่องโหว่ในใจค่ะ เพราะงั้นเค้าเลยรู้สึกดีเวลามีคนมาชม เพราะเค้ารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากขึ้น เราเคยมีเพื่อนคนนึงค่ะ ไม่ได้หันมาหาเครื่องสำอางค์หรอกค่ะ แต่เพื่อนคนนี้เค้ามีปัญหาเรื่องความอบอุ่นในครอบครัวอยู่บ้าง แล้ววันนึงเค้าก็หันตัวเองเข้าโลกโอตาคุ (พวกบ้าการ์ตูน) เค้าก็มีอาการเหมือนคุณดาวค่ะ คือพยายามซื้อสินค้าพวกการ์ตูนจากญี่ปุ่นให้มากที่สุด ใครชอบเรื่องไหนเค้าก็จะพยายามทำตัวชอบตาม แล้วก็ซื้อของมาอวดคนอื่น เข้าอินเตอร์เน็ททำตัวเป็นผู้รู้ เอาของโน่นของนี่มาโพสแจก แล้วก็เริ่มมีความสุขจากการมีตัวตนที่มีคุณค่าในอินเตอร์เน็ท เพราะมีคนมาคอยชม คอยขอบคุณเค้า ทั้งที่ตอนนั้นที่บ้านเค้าเสียใจกันแทบแย่ (ตอนนั้นเพื่อนคนนี้อยู่แค่มัธยมนะคะ) เค้าถึงขั้นที่เอาเงินที่บ้านไปเที่ยวญี่ปุ่นกับเพื่อน (ตอนมหาลัย) ด้วยซ้ำไป หรือแม้แต่กระทั่งงานศพลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกับเค้า เค้าก็ยังนั่งเล่นเน็ทอยู่ที่บ้าน คนพวกนี้มีช่องโหว่ในใจค่ะ เค้ารู้สึกขาดอะไรบางอย่างไป เค้าเลยใช้เงินในการหาอะไรบางอย่างมาเติมเต็ม ซึ่งต่างคนก็ต่างกันออกไปว่าจะหาอะไรมาอุดช่องว่างนั้น แต่ของแบบนี้มันอุดได้ไม่จริงค่ะ พอความสุขชั่ววูบมันผ่านไป เค้าก็ต้องหาอะไรใหม่มาอุดอีกครั้ง มันจะเวียนไปเวียนมาไม่รู้จบ เพราะฉะนั้น ทางแก้ก็คือ ต้องทำให้เค้ารู้ว่า "เค้ามีคุณค่าในตัวเอง ในแบบที่เค้าเป็น" หวังว่าคุณดาวจะรู้ตัวในเร็ววันนะคะ คนเราไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ดูดีที่สุดได้ด้วยแค่การ "ยิ้มจากใจจริง" เท่านั้นแหละค่ะ ถึงจะแต่งตัวแต่งหน้างามขนาดไหน ถ้าสุดท้ายมีแต่น้ำตากับความทุกข์ มันก็ไม่สวยหรอกค่ะ ขอบคุณค่ะ... จากคุณ : wassery_harp - [ 13 มิ.ย. 51 13:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณ จขกท ที่มาเล่าให้ฟังอีกนะขอรับ   เมื่อก่อนปูเป้ก็ให้ความสำคัญเรื่องรูปร่างหน้าตามากเหมือนกัน และเคยคิดว่าของแพงต้องดี  เลยจะลองของที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่ทำได้  แต่ตอนนี้ก็บรรลุเห็นธรรมแล้วขอรับว่ามันไม่จริง เวลาตอนที่อยากได้ของเล่นใหม่ (เครื่องสำอาง) มาก ๆ เข้า  ก็จะไปเดินตาม Boots หรือ Watson  และตามแผนกเครื่องสำอาง อ่านส่วนผสมไปเรื่อยเปื่อย และจะไม่ซื้อถ้าหากของที่บ้านยังไม่ใกล้หมด  เพราะเมื่อก่อนจะซื้อบ่อยมากเปลี่ยนไปเรื่อย  แล้สุดท้ายก็จะมีครีมที่ใช้ไปได้อย่างละนิดอย่างละหน่อยกองเต็มตู้เย็นเลย จากเงินที่เคยเสียค่า Skincare เฉลี่ยปีละแสนกว่าบาท  ตอนนี้ลดลงมาเหลือแค่หมื่นนิด ๆ แล้วขอรับ แถมผิวก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย  นี่เป็นแรงดลใจส่วนหนึ่งที่ทำให้ปูเป้ออกมาทำบทความและรีวิวสับแหลก ณ Pantip ขอรับ จากคุณ : PuPe_so_Sweet - [ 13 มิ.ย. 51 13:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 81 มาโหวตต่ออีกรอบค่ะ .. อ่านแล้วอึ้งนะ .. คุณดาวเธอเสพติดการช้อปปิ้ง คสอ ไปแล้ว อ่านแล้วได้ข้อคิดดีมากๆเลยค่ะ .. ^^ จากคุณ : s.o.s - [ 13 มิ.ย. 51 14:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เข้ามาอ่านอีกรอบอย่างละเอียด เราว่าโดยนิสัยใจคอแล้วคุณดาวเธอก็เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง (คำพูดเธอน่ารักนะคะจากที่อ่านดู) แต่มาผิดพลาดตรงไม่รู้จักบริหารการเงินของตัวเองนี่ล่ะ ไม่มีเงินเหลือไว้สำรองจ่ายสำหรับอนาคตแล้วยังดันเป็นหนี้อีก เศร้าตรงนี้ล่ะ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 51 14:11:37 จากคุณ : ชิฟฟอนคาปูชิโน่ - [ 13 มิ.ย. 51 14:09:07 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เตือนสติได้ดีจริงๆ ให้ข้อคิดหลายอย่าง จะจำไว้เตือนตัวเองบ้าง จากคุณ : มะปรางริ้ว - [ 13 มิ.ย. 51 14:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ตามมาอ่านอีกรอบ รู้สึกหดหู่จริงๆ ยังไงซะก็ขอให้คุณดาว ใช้หนี้ให้หมดไวๆนะ   ปล. ลองไปนั่งสมาธิ แล้วก็เข้าวัดบ้างก็ดีนะ จิตใจจะได้สงบ เผื่อจะช่วยระงับกิเลสได้ เพราะนั่งสมาธิแล้วจะทำให้จิตใจสงบมีสติ (เวลาไปซื้อ คสอ.จะได้ยับยั้งชั่งใจได้) จากคุณ : ยัยใบเตย - [ 13 มิ.ย. 51 14:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 85 โหวตมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว มะวานยังส่งให้เพือ่นอ่านอยู่เลย เศร้าเนอะ เวลากลับหอเห็นรุ่นน้องใช้ครีมเยอะๆ แต่งหน้าจัดๆแล้วคิดถึงกระทูนี้อะ เปิดอ่านตั้งแต่มะวานเลย จากคุณ : ลิงคุง (ลิงคุง) - [ 13 มิ.ย. 51 14:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 86 หุหุ น่าสลดใจ ไม่อยากนึกถึงงงงง จากคุณ : HotTimE - [ 13 มิ.ย. 51 14:34:04 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ไม่ค่อยจะโพสต์ นอกห้องตัวเอง วันนี้ขอหน่อยนะคะ จากที่อ่านๆมา ก็เข้าใจในนิสัยของหญิงสาวคนหนึ่ง + พอมีเงินมีทองก็อยากสนอง need ตัวเอง ... แรกๆก็เข้าใจคะ กลางๆก็มากไป แต่พอตอนท้าย จากที่ว่า นั่งจ้องเครื่องสำอางค์ทางเนต เนี่ย ... เคยอ่านหนังสือเล่มนึงคะ ตอนนี้อยากคุณ จขกท. พาน้องไปบำบัด หรือปรึกษาคุณหมอดีกว่าคะ เพราะตอนนี้น้องดาว เนี่ยจะเข้าข่าย โรคจิตชนิดหนึ่งแล้ว ใช่คะ ไม่ผิด โรคจิต (ไม่ใช่ บ้า นะคะ) ไม่ทราบเหมือนกัน ว่าเรียกว่าอะไร เคยอ่านผ่านๆ แต่สาวๆต่างประเทศเป็นเยอะคะ ลองศึกษาข้อมูลอีกทีแล้วกัน นะคะ ** แค่ผ่านมาบอก ** จากคุณ : อ้อมแขนอันอบอุ่น - [ 13 มิ.ย. 51 14:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 88 อืมมมมมมมม   หดหู่ง่ะ  เหมือนไม่รู้สึกเลย จากคุณ : Plakud04 - [ 13 มิ.ย. 51 14:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ยิ่งอ่านภาคสอง ยิ่งยืนยันคำเดิมว่าน่าจะปรึกษาจิตแพทย์ค่ะ และทั้งหมดนี่ก็สอนเราได้ว่า บางทีรู้ตัวเองก็ไม่พอ บางคนรู้แล้วก็ยังทำ ต้องมีสติให้มากๆ รู้สึกหดหู่แทนคนที่ไม่มีสติยั้งคิดค่ะ จากคุณ : มิถุนายน - [ 13 มิ.ย. 51 15:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เฮ้อออออออ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะน้องดาว จากคุณ : thank u teacher - [ 13 มิ.ย. 51 15:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ว่าแล้วเชียว ต้องมีคนประเภทโกหก ว่าใช้แล้วดี ยังงั้นยังงี้ น่าสงสารจัง แต่ตอนนี้เขาก็เริ่มรู้ตัวเล้วนะเนี่ย ตัดบัตรทิ้ง จากคุณ : makeup - [ 13 มิ.ย. 51 15:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขอฝากเรื่องดีๆ ของคนที่ตรงข้ามกับคุณดาวอย่างสิ้นเชิงไว้ด้วยนะคะ เป็นเรื่องของคนที่มีเงินเก็บเป็นล้านได้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำงานเงินเดือนเยอะ และพ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวย เผอิญว่าดิฉันอาศัยกระทู้ 'อย่าตกเป็นทาสความสวย' ภาคที่ 1 เล่ารายละเอียดไปแล้ว รบกวนไปอ่านจากกระทู้ภาคแรกในความเห็นที่ 182 นะคะ แล้วคุณจะรู้ว่าถ้าเราใช้เงินแบบพอเพียงจริงๆ การมีเงินเก็บเป็นล้านในช่วงเวลาเพียงไม่นาน ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันค่ะ สุดท้ายคือ ขอเป็นกำลังใจ (อีกรอบ)ให้คุณดาวหลุดพ้นจากวงจรแห่งความลุ่มหลงนี้โดยเร็วนะคะ และหวังว่าถ้าคุณดาวได้อ่านเรื่องของคุณเจริญที่ดิฉันแนะนำไปในกระทู้ภาค 1 จะช่วยให้แง่คิดกับคุณดาวได้นะคะ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 51 16:02:31 จากคุณ : BBJane - [ 13 มิ.ย. 51 16:00:26 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เข้ามาอ่านและมาโหวตอีกทีค่ะ จากคุณ : catchy - [ 13 มิ.ย. 51 16:22:09 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ชอบสำนวนการเขียนค่ะ..   เป็นเรื่องจริงที่น่าอ่านจริงๆ.. แอบจิตนาการตามไปว่า ..ถ้าสมมุติคุณ จขกท. เป็นนักแต่งนิยาย จะต้องเป็นคนที่ วางพล๊อตเรื่องได้น่าสนใจ และ สร้างตัวละคร..ได้สนุกทีเดียว มีการนำข้อดี ข้อเสียมา ถ่วงดุลกัน..ไม่สร้างความเป็นดำ ขาวให้ตัวละคร เสียทั้งหมด.. ชอบค่ะ ตบมือให้.. จากคุณ : Phychexxx - [ 13 มิ.ย. 51 16:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 95 กระทู้นี้มีประโยชน์และสาระมากจริงๆ ขอบคุณ จขกท ที่อุตส่าห์นั่งพิมพ์ยืดยาว โดยเพื่อที่จะให้อุทาหรณ์สอนใจผู้หญิงหลายๆคน แบบนี้ไม่โหวตไม่ได้แล้ว กระทู้นี้จะได้อยู่นานๆ คนอื่นๆจะได้อ่านมากๆค่ะ *แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 51 16:27:52 จากคุณ : PaNDoRa-ParsellE - [ 13 มิ.ย. 51 16:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เฮ้อออ เกินเยียวยานะ แบบนี้   รู้สึกเหมือนมีบางคนเหมือนกันนะ ที่ชอบซื้อเยอะๆ  ซื้อเพื่อมาโพสท์  เพื่อให้มีคนชมไรงี้   ชอบ คห ของพี่เก้ Klint77 จัง ----ถ้าเราไม่รู้ว่าที่แท้จริงเราขาดอะไร  เราก็จะหา อะไรต่อมิอะไรมาเติมไม่รู้จักจบสิ้น---- ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ เค้าเล่นห้องแป้งป่ะนี่  อย่าให้มีเลยยยย คนแบบนี้   กลัวมาหลอกชาวเราๆจัง   เสียตังค์ให้สนุกไปคนเดียวเหอะน้า  อย่ามาหลอกคนอื่น ทำบาปเพิ่มเลย จากคุณ : LoveToBeLoved - [ 13 มิ.ย. 51 16:40:05 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ตอนที่เข้ามาเล่นที่ห้องนี้ใหม่ๆเราก็เห่อตามนะ เงินโบนัสที่ได้มาก็ค่อยๆหร่อหรอลงค่ะ ของเก่ายังมีเต็มแต่ก้อยากได้ตามที่เค้ารีวิวไว้ ซื้อมา แต่ตอนนี้เรามีเงินในบัญชีไม่ถึงพันด้วยซ้ำ จากที่เคยมีเป็นหมื่น ช่วงที่ผ่านมาเราแย่มากๆเรื่องการเงิน สารพัดเรื่องโถมเข้ามา เครียดจัดร้องไห้ทุกวัน นั่งมองของที่ซื้อมาแล้วแพ้ หรือไม่ดี..เสียดายมากๆถ้าเป็นเงินก็หลายพัน ตอนนี้ค่อยยังชั่วแล้ว ถึงจะได้เงินมาเยอะและพอที่จะซื้ออะรัยได้ เราก้ชั่งใจและก็คิดว่าจำเป็นไหม อะรัยที่มีก็ใช้ให้หมดก่อน อย่างลิป / บรัช / แป้ง เราก็ใช้อยู่แค่สีเดียว ประหยัดได้เยอะ เราสงสารพ่อกะแม่นะ ถ้าเราเอาไปซื้อของเราจะเอาให้ได้ แต่เงินไม่พอ ก็หักเงินในส่วนที่จะให้พวกท่านค่ะ แถมบางเดือนยังต้องไปขอท่านอีก อกตัญญูโดยแท้ TT แต่ก้เป็นบทเรียนสำหรับเราค่ะ ตอนนี้ก็มีสติมากขึ้นและ หวังว่าคุณดาวคงจะคิดได้เร็วๆนะ จากคุณ : รักนะ..พ่อพยูนน้อย - [ 13 มิ.ย. 51 16:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 98 น้องดาวนี่  เล่นห้อง โต๊ะเครื่องแป้งป่ะค่ะ จากคุณ : Neon_Leon - [ 13 มิ.ย. 51 16:58:20 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เป็นข้อคิดให้อย่างดีเลยค่ะ ตั้งสติก่อนควักตังค์จ่าย อ่านแล้วดูเหมือนคุณดาวเธอขาดที่พึ่งนะคะ จึงหาทางชดเชยด้วยการใช้จ่ายซื้อของจนเหมือนจะเสพย์ติดการช้อปปิ้งกลายๆ (สังเกตจากการที่เธอรู้สึกผิดหลังจากที่ขนซื้อของมามากมาย) น่าจะหาวิธีช่วยเสริมกำลังใจ ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นและมีสติรู้เท่าทันสิ่งที่ตัวทำ ก็น่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง จริงๆ แล้วก็รู้สึกเห็นใจเธอเหมือนกันนะคะ เพีบงแต่ความรู้สึกผิดชอบนี่จะต้องมาก่อนค่ะ ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดขึ้นแล้วจึงมาเสียใจในภายหลัง ปัญหาบางอย่างกันไว้ดีกว่าแก้นะ วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ คุณดาวน่าจะยกเลิกบัตรเครดิตทั้งหมดซะ แล้วค่อยๆ ทยอยจ่ายหนี้ที่เกิดขึ้นจากบัตรทั้งหลายให้หมด อาจต้องทำแบบ refinance น่ะค่ะ ทำอย่างไรก็ได้ที่จะล้างหนี้ทั้งหมดโดยที่ตัวเองเจ็บตัวน้อยที่สุด แล้วมาตั้งสติตั้งใจกับชีวิตใหม่ที่ไร้หนี้และไม่เสพย์ติดการช้อปปิ้ง... อืม... จู่ๆ ก็แว่บขึ้นมาว่าเคยอ่านเรื่องราวของสาวคนหนึ่งที่เป็นหนี้สินรุงรังจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เธอมีพฤติกรรมและความคิดคล้ายๆ กับคุณดาวที่ จขกท. ยกมาเป็นตัวอย่างนี่แหละ เธอเลิกใช้บัตรแล้ว re-finance หนี้กับสถาบันการเงินอื่น และหันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากครอบครัว หลังจากใช้เวลาลองผิดลองถูกและปรับปรุงตัวเองอยู่พักหนึ่ง เธอก็สามารถปลดหนี้และตั้งต้นชีวิตใหม่ได้ค่ะ อยากฝากกำลังให้คุณดาวและเพื่อนๆ ทุกคนที่ประสบปัญหา ว่าอย่าท้อถอยนะคะ ปล. แต่คุณดาวมีทัศนคติที่ไม่น่ารักเลยเรื่องการลากคนอื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ให้ต้องมาผจญการแพ้เครื่องสำอางและสกินแคร์เหมือนกันที่คุณเจอ... จากคุณ : SuiKyo - [ 13 มิ.ย. 51 17:02:44 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เพื่อนๆ เห็นด้วยกับเรามั๊ยคะว่าเกือบทุกคนที่เข้ามาเล่นห้องนี้ ต้องมีเสื้อผ้าและเครื่องสำอางค์ใหม่เพิ่มขึ้นเป็นกอง เราก็เป็นหนึ่งในนั้น เพียงแต่ว่าเรายังไม่ได้บ้าซื้อโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงรายได้ของตัวเองขนาดน้องดาว แต่เรื่องของน้องดาวก็เป็นอุทาหรณ์ที่ทำให้พวกเราพยายามห้ามปรามกิเลศของตัวเอง แต่บางทีก็ต้องใช้ความอดทนนะ อย่างถ้าออกไปเดินห้างนี่ยังไงก็ต้องซื้อของกลับมาให้ได้ซักชิ้น ห้ามกลับมามือเปล่า มีหลายครั้งที่พยายามสกัดกั้นความอยากของตัวเอง มีบางทีที่ทำได้เหมือนกัน แต่ขนาดยับยั้งตัวเองได้ เครื่องสำอางค์ที่เรามี ถูกบ้าง แพงบ้าง มีมากกว่าสมัยเรียนอีกไม่รู้กี่เท่า (สมัยเรียนก็แค่ถุงผ้าเคโระใบเล็กๆ ใส่แป้งจอห์นสันกะลิปนีเวียสีฟ้า) แต่ยอมรับอีกอย่างหนึ่งว่าห้องแป้งทำให้เราหันมาใส่ใจบุคลิคตัวเองมากขึ้น ผมเผ้า หน้าตา การแต่งกาย คือไม่ใช่ว่าตามแฟชั่นหรือว่าอะไรนะคะ แต่หมายถึงว่ารู้การแต่งหน้าทำผม ดูแลตัวเอง จนได้รับคำชมมาบ้างเหมือนกันว่าดูดีขึ้นกว่าสมัยก่อนนะ ทำนองนี้ ซึ่งตรงนี้ก็คล้ายกับน้องดาวที่ว่า พอมีคนชมเหมือนจะลอย บ้าซื้อเครื่องสำอางค์หนักเข้าไปอีก เคสน้องดาวนี้สะกิดต่อมช็อปของใครๆ หลายคนเลยค่ะ ใครไม่มีหนี้ ทำงานเงินเดือนเยอะ อยากซื้ออะไรก็ได้อันนี้ไม่ต้องห่วงอยู่แล้ว แต่คนที่เงินเดือนน้อย เหมือนทำงานได้เงินเดือนมาหมื่นนึง แต่ใช้เดือนละหมื่นห้า อันนี้ก็ตายกันพอดี ช็อปได้แต่ให้พอดี อย่าให้เกินกำลังตัวเองนะคะ จากคุณ : แม่โกลดี้ - [ 13 มิ.ย. 51 17:44:01 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ตอนแรกก็ว่าจะอ่านเงียบๆเหมือนกันค่ะ^^ แต่ก็อดแสดงความเห็นไม่ได้ รู้สึกเห็นความเป็นไปของโลกทุนนิยม ทำให้คนหลงทางและป่วยทางจิตมากขึ้น ต้องไขว่คว้าหาอะไรมาอุดช่องว่างในใจ ในหลายๆรูปแบบ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง หรือสังคมไฮโซๆได้รู้จักคนนั้นคนนี้ มีเพื่อนอยู่คนนึง คล้ายๆแบบนี้เหมือนกัน มาจากต่างจังหวัดที่บ้านรวยอยู่แล้ว แต่พอมาเรียนในกรุงเทพก็อยากเปลี่ยนตัวเอง สำหรับเค้าคือเป็นเรื่องผู้ชายแทน ต้องการเข้าหาลูกหลานนักการเมือง และทำทุกอย่างให้ได้อยู่ในสังคมแบบนั้น น่าจะไปวิปัสนานะคะ ให้เวลาหมุนช้าลง ทบทวนสิ่งต่างๆ หรือพบจิตแพทย์ ได้นับถือตัวเองในแบบที่ตัวเองเป็น และจัดลำดับสิ่งสำคัญในชีวิตซะใหม่ หวังว่าคุณดาวจะพบทางออกในเร็ววันนะคะ จากคุณ : *~~thymos~~* - [ 13 มิ.ย. 51 17:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ตามมาโหวตค่า รู้สึกเสียใจมากๆเลยที่ทำให้แม่ต้องเสียเงินเกินความจำเป็นกับเรื่องที่ไม่ได้จำเป็นมากมายในชีวิต เวลาแม่เห็นเรายืนเกาะเคาท์เตอร์เครื่องสำอางแววตาอยากได้ แม่เราก็ใจอ่อนเพราะรักลูกเลยซื้อให้ ต่อไปนี้เราจะซื้อที่จำเป็นท่านั้น วันนี้นอกจากอ่านกระทู้นี้แล้ว บวกกับเมื่อคืนเราได้ไปนอนโรงพยาบาลเนื่องจากตัวเองป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ แม่เราไปนอนเฝ้าตลอดเวลา เราแค่ขยับตัวแม่ก็ลุกแล้ว ซึ้งกับความรักของแม่มาก เราก็จึงคิดได้ว่าไม่ควรต้องให้แม่เหนื่อยไปมากกว่านี้อีกด้วยการต้องมาหาเงินให้เราฟุ่มเฟือย อีกสิ่งที่ทำให้เราได้คิดอีกอย่างก็คือ ตอนเราเดินออกจากห้อง เราเห็นป้ายชื่อห้องตรงข้ามเราเป็นคนแก่ที่มา แอดมิด ตั้งแต่ปี48แล้ว เห็นแล้วน้ำตาจะไหลเพราะ กลัวคนที่เรารักจะเป็นแบบนี้ เราจึงคิดในใจว่า ต้องเก็บเงินเอาไว้เยอะๆๆ เพราะอนาคตไม่แน่นอน เรานอนโรงบาลวันเดียว เป็นแค่ไข้หวัด เสียไป12000 แล้วคนแก่คนนั้นล่ะจะต้องใช้เงินเท่าไร รักแม่มากๆค่า แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 51 18:09:29 จากคุณ : lilo&stitch - [ 13 มิ.ย. 51 18:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 103 น้องเขาขาดการยอมรับมาหรือป่าวค่ะ พอได้รับการยอมรับจากทางเนท  ด้านความงาม  เลยไม่สามารถที่จะละทิ้งตรงนี้ได้ พอสวยก้ได้รับความยอมรับ   ก็เลยชอบ  พอชอบ เลยเลิกไม่ได้ เพราะคิดว่า พอเราไม่สวย เขาก็จะไม่ยอมรับเราอีก =_=  เรามาจัดค่านิยมกันใหม่ไหมค่ะ  =_= จากคุณ : MBA ฮาเฮ - [ 13 มิ.ย. 51 19:02:56 ]

ความคิดเห็นที่ 104 อ่านแล้วสงสารพี่ดาวจัง ไม่รู้จะทำยังไง ยิ่งอ่านตอนหยิบของมาดูทีละชิ้นแล้วน้ำตาไหล สงสารจริงๆ ย้อนกลับมาดูตัวเอง ทุกวันนี้เราใช้เงินฟุ่มเฟือยไป สำหรับเด็กที่ยังหาเงินเองไม่เป็น เห้อ อยากให้พี่ดาวมีความสุขจริงๆเร็วๆนะคะ จากคุณ : หนิง (New_JFC) - [ 13 มิ.ย. 51 19:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 105 มาสารภาพค่ะ ว่าเคยเป็นคนนึงที่คล้ายคุณดาวตรงที่บ้าเครื่องสำอาง  เมื่อวานจัดห้องเล่นๆค้นพบว่าตัวเองมีลิปสติกกับลิปกรอสร้อยกว่าแท่ง!! ค่ะพวกคุณฟังไม่ผิดหรอก ดิฉันเนี่ยแหละ เป็นโรคบ้าลิปสติกเห็นสีจี๊ดโดนใจก็ซื้อแล้ว แต่เวลาใช้จริงๆกลับใช้วนอยู่ไม่กี่แท่ง ส่วนเครื่องสำอางอื่นๆก็มีเยอะมากกกก จนแม่ค่อนขอดว่าไปเปิดร้านขายได้แล้ว (แต่โชคดีว่าเวลาที่จะซื้อคสอ.ส่วนใหญ่จะซื้อเวลามันลดนะคะ คือลดจริงๆไม่ได้คิดไปเอง)  อีกอย่างเป็นคนบ้าน้ำหอมมากค่ะ มีอยู่ตอนนี้สิริรวม30ขวดพอดิบพอดี ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนชอบใช้น้ำหอม แต่ชอบสะสมขวด(บ้ามั้ยล่ะ) แต่...หลังจากได้ไปปฎิบัติธรรมสม่ำเสมอ พวกคุณเชื่อไหมว่าคราวนี้เราได้สติเลย ไอ้ความอยากเนี่ยแหละ เป็นสาเหตุที่ทำให้เราหน้ามืดตามัวบ้าช้อปโดยไร้สติยั้งคิด  ตอนนี้เวลาเราอยากได้อะไรก็จะชั่งใจอยู่นานนนมาก คิดหาเหตุผลร้อยแปดมาหยุดไอ้ตัวอยาก  จนจากเมื่อก่อนที่ต้องช้อปบ่อยๆ(เราเป็นคนชอบสั่งของออนไลน์ มีพัสดุส่งถึงเราทุกวัน) กลายเป็นเดือนละครั้งสองครั้ง  ตอนนี้เราเลิกช้อปเครื่องสำอางโดยเด็ดขาด พยายามใช้ของเดิมที่มีอยู่แล้วให้หมดลงไปก่อน (ย้อนคิดถึงเมื่อก่อน แล้วสมเพชเวทนาตัวเอง) เมื่อก่อนเราจะคิดถึงความสุขเราเป็นหลัก คิดแต่ว่าก็ฉันใช้เงินตัวเองซื้อนี่หน่า (แม่เราไม่ว่านะคะ เค้าให้เกียรติเราตรงนี้มากเลย เพราะเราโดนเลี้ยงมาแบบเด็กฝรั่ง ที่อยากได้อะไรก็หาเงินซื้อเอง)  แต่ตอนนี้เราคิดได้แล้วว่าไอ้เงินที่เสียไปกับเรื่องพวกนี้  เอาไปทำบุญมันยังจะส่งผลให้เราดูอิ่มเอิบมากกว่าไอ้เครื่องสำอางที่เราโปะลงไปบนหน้าซะอีก ดังคติที่ว่า "คนจะงาม งามจิตใจใช่ใบหน้า คนจะสวย สวยจรรยาใช่ตาหวาน คนจะแก่ แก่ความรู้ใช่อยู่นาน คนจะรวย รวยศีล-ทานใช่บ้านโต" สุดท้ายนี้ เรายังถือว่าตัวเองโชคดีมากเลยที่ไม่เป็นหนี้บัตรเครดิต พอหวนกลับไปคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาเราก็ไม่เสียใจนะคะ ถือว่าเป็นช่วงชีวิตนึงของชีวิต เอาไว้สอนตัวเองว่าไอ้ความอยากเนี่ย ถ้าเราไม่รู้จักหยุด ไม่รู้จักพอ มันก็รังแต่นำความยุ่งยากมาสู่ชีวิตก็เท่านั้น.... จากคุณ : ปุ้มปุ้ยปลากระป๋อง - [ 13 มิ.ย. 51 20:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 106 น่าคิดมากๆค่ะ โหวตๆ บางครั้งไม่ต้องสวยที่ร่างกายก็ได้นะคะ สวยที่ใจนี่แหละ...สุดยอด! จากคุณ : ma_ko_ma - [ 13 มิ.ย. 51 20:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 107 โหวต   ไว้เตือนตัวเองด้วยค่ะ จากคุณ : woBBow - [ 13 มิ.ย. 51 20:10:23 ]

ความคิดเห็นที่ 108 พออ่านเรื่องนี้แล้วดีใจจังที่เราไม่ใช่คนที่ยึดติดกับอะไรมากมาย แล้วเพื่อนก็ชอบว่าเราขี้เหนียว แต่เราคิดว่าตังเราเราจะเก็บแล้วมันผิดตรงไหนอย่างน้อยเวลา ต้องการไช้เงินกระทันหันเราก็ยังมีเงินที่เก็บไว้ใช้ไม่ได้ ละลายไปกับอะไรหมด ขนาดเราเก็บเงินขนาดนี้แต่ถ้าช้อปที เงินไม่รุ้ว่าหมดไปกับอะไรก็มี เราว่าดาวเขาเหมือนคนโดนอะไรเข้าสิงไปชั่วขณะ มันเลยแบบว่าเอาใหญ่ ยิ่งซื้อๆๆล่ะมั้งค่ะ ตอนนี้เขาก็คิดได้แล้ว คนเรามันต้องมีบบทเรียนแหล่ะเนอะ ถึงจะมีวันนี้อ่า  อีกอย่างเราว่าคนสวยเขาใช้ของราคาเท่าไหร่ เขาก็สวยได้อ่า  เราว่าเน้นบำรุงจากข้างใน ดีกว่ากลบๆเกลื่อนๆมันไว้อีกนะ  แต่ก็อีกบางคนถ้าเขามีเงินถุงเงินถังจะซื้อ คงไม่ผิด แต่บางคนต้องอดข้าวเพื่อเครื่องสำอาง มันก็เกินไป และก็อีก ถ้าเขาพอใจที่จะอดเราก็ห้ามเขาไม่ได้หรอก เขาสมัครใจเอง เพราะฉะนั้นรอให้เขาได้บทเรียนเนี่ยแหล่ะดีที่สุด จากคุณ : RAR (IN VOGUE) - [ 13 มิ.ย. 51 20:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 109 อ่านแล้วก็อึ้งจริงๆค่ะ ต้องขอขอบคุณ จขกท. นะคะ ที่มาโพสต์ให้อ่าน บางที คนเรามันก็มีช่วงเวลาที่สติเตลิด  เห็นใครว่าอะไรดี ก็อยากได้ไปหมด ได้อ่านกระทู้แบบนี้  อย่างน้อยก็อาจจะช่วยเตือนสติใครได้อีกมากมาย โดยส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยกล้าซื้อของแพงเท่าไหร่  กลัวจนอ่ะค่ะ 555 ยังไงก็ตาม เราว่า ใช้ตามกำลังทรัพย์  ใช้จ่ายโดยที่เราไม่เดือนร้อนดีกว่า จากคุณ : เชอร์รี่ (chunny) - [ 13 มิ.ย. 51 20:23:30 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เข้ามาอ่านภาคสองค่ะ อย่าตกเป็นทาสความสวย สวยกายก็ไม่ได้สวยได้ตลอดไป สักวันก็ต้องแก่ทุกคน รู้สึกดีเหมือนกันที่เราไม่ได้ขวนขวายเรื่องความสวยความงาม ใช้แต่สิ่งที่จะเป็นจริงๆ ดำยังไงก็ดำอยู่แบบนั้น ไม่ได้ขวนขวายมากมาย แต่จริงๆ ก็นานาจิตตังเรื่องนี้ เพราะคนเราแต่ละคนมีความคิดไม่เหมือนกัน เพราะเวลาที่เห็นตัวเองสวย ก็คงรุ้สึกดีกันทุกคน ไม่ได้ใช้จ่ายในเรื่องแบบนี้เกินตัวก็พอ จากคุณ : bombik - [ 13 มิ.ย. 51 20:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 111 "....อันนี้   นึกๆดูหนูก็เสียดายนะพี่   คือหนูซื้อไว้เป็นเดือนแล้วแหละ แต่ยังไม่ได้ไปนวดซักกะทีเลยพี่   รู้งี้   เอาเงินไปซื้ออย่างอื่นก่อนซะก็ดีเนอะ ..." เหมือนจะรู้ตัว แต่เค้าก็อยังไม่รู้ตัวค่ะ  อ่านเเล้ว..เสียดายเงินแทน เงิน 1 แสนบาท เค้าใช้อย่างรวดเร็วได้ขนาดนั้น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีของพวกนั้นอยู่แล้ว.....เข้าขั้นควรไปปรึกษาแพทย์แล้วล่ะค่ะ นอกจากจะทำให้ตัวเองเดือดร้อน ยังทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย....ควรหาทางยุติให้เร็วที่สุดจะดีกว่านะคะ เป็นกำลังใจให้คุณดาวคิดได้ไวไวค่ะ...สงสารพ่อแม่และคนใกล้ตัวของเค้าจริง จริง จากคุณ : แตงโมหน้าร้อน - [ 13 มิ.ย. 51 20:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ตามมาอ่านภาค 2 เป็นกระทู้ที่ดีมากค่ะ จากคุณ : Mactopia - [ 13 มิ.ย. 51 21:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 113 กระทู้นี้เตือนสติได้ดีจัง เราก็รู้จักเพื่อนที่เป็นแบบนี้คนนึง แต่เค้าเงินเดือนเยอะอ่ะ ทางบ้านก็ฐานะปานกลางเลยไม่ค่อยรู้สึกผิดเท่าไหร่ตอนซื้อ แต่ก็เห็นมาบ่น ๆ บ้าง เราว่าของพวกนี้ถ้ามันมากไปจะเกิดโทษกับผิวมากกว่านะ ยกตัวอย่างเพื่อนคนนี้แหละ ใช้เกือบทุกชนิดทุกยี่ห้อ แพงๆ ทั้งนั้น ซื้อคอร์สหน้าไม่รู้กี่คอร์ส ตอนแรกก็หน้าใสดีนะพอนานไป ดูมันหยาบ ๆ บางลง ทั้งที่ยังใช้ของเดิม คอร์สเดิมอยู่ เหมือนหน้ามันชิน คิดแล้วก็เสียดายเงินแทน คือพื้นฐานเค้าเป็นคนหน้าตาดีอยู่แล้ว กลายเป็นคนติดเครื่องสำอางไปเลย เห็นออกใหม่ไม่ได้จะซื้อแล้วซื้ออีก สีเดิมซ้ำ ๆ ครีมเดิมไม่รู้กี่กระปุก คือผิวก็ดูดีนะ แต่ถ้ามาเห็นเครื่องสำอางที่เค้าใช้แล้วเทียบกับผิวเค้า ทุกคนก็จะคิดเหมือนกันว่า ใช้ของดีขนาดนี้หน้าน่าจะดีกว่านี้ไม่ใช่เหรอ แบบใช้เยอะเกินมันเลยตีกันมั่วไปหมดไม่เห็นผลซะทีล่ะมั้ง จากคุณ : norikaten - [ 13 มิ.ย. 51 22:18:57 ]

ความคิดเห็นที่ 114 น้องดาวสุดยอดมากๆ 55 เราก็เคยเป็นนะ แต่มีสิวคอยขัดใจ จะซื้ออะไรเลยต้องยั้งคิดนิดนิง สิวจะขึ้นมั้นว้าๆๆ (ในที่สุดก็เจอข้อดีของสิว) พอสิวหายก็บ้าต่อ สิวบุกก็หยุดไป จากคุณ : โกโก้คุง** - [ 13 มิ.ย. 51 22:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ผมเคยเป็นครับ ตอนอยู่ม.4 ม.5 ได้ตังมา ซื้อพวกนี้หมดภายในวันเดียว หมดไม่พอ ขอใหม่ โดยบอกที่บ้านว่าเอาไปซื้อหนังสือ เอาไปสอบนู่น สอบนี่ แต่วันนี้ ผมคิดได้แล้ว ว่าผมควรจะเอาเงินที่ผมมี หาความรู้ใส่หัว ให้มากๆ อนาคตจะได้มีเงินมีทองไว้ใช้ ดูแลพ่อแม่ ฯลฯ แล้วเมื่อเราหาเงินเองได้ คงจะรู้จักค่าของเงินไปเอง จากคุณ : Garlamare - [ 13 มิ.ย. 51 23:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ''  ตอนนั้นก็ไม่รู้หนูคิดอะไรน่ะพี่   สงสัยหนูเจ็บใจที่ตัวเองเสียเงินฟรี   หนูก็เลยมาหลอกคนอื่นให้เสียตังค์เหมือนหนูมั่ง '' อ่านแล้วรู้สึกกลัวนะคะถ้ามีคนอย่างคุณดาวอยู่ในห้องแป้งไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นยังไง คุณดาวอาจจะสนุกสะใจที่ได้หลอกคนอื่น แต่อยากให้คิดถึงผลที่ตามมาบ้าง บางคนใช้ตามแล้วไม่ดีอาจจะแค่เสียเงิน แต่บางคนอาจจะแพ้รุนแรงจนหน้าเละ บาปกรรมจริงๆนะคะ เราว่าถ้าคุณดาวยังทำตัวแบบนี้ไม่มีวันสวยได้หรอกเครื่องสำอางค์ก็ช่วยไม่ได้ เพระจิตที่ไม่ดีคิดร้ายกับคนอื่นหวังใจคนอื่นเจอสิ่งที่ไม่ดีเหมือนที่เราเคยเจอ ทำแบบนี้มากๆอีกหน่อยมันก็จะส่งผลออกมาทางหน้าตาหม่นหมอง ผิวพรรณไม่สดใส ความสวยที่เคยมีก็จะหายไปเพราะจิตใจที่เป็นอกุศล ปล.ถ้าคุณดาวมาอ่านเจอกลับตัวตอนนี้ก็ยังไม่สบายไปนะคะ จากคุณ : ยัยนู๋พลอย - [ 13 มิ.ย. 51 23:09:38 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ตามมาโหวตภาคสองต่อค่ะ เฮ้อ... วันนี้ก็แอบไปช็อปมาอีกแหล่ว ไม่น่าซื้อเล้ยยยยยย  (ยังดีที่เราไม่บ้าแบรนด์ค่ะ อะไรก็ได้ ) ขอให้คุณดาวลองอ่านหนังสือธรรมมะมาก ๆ ลองไปดูคนที่ลำบากกว่าเรา และคิดถึงครอบครัวมาก ๆ ขอให้ผ่านไปด้วยดีค่ะ จากคุณ : คะน้า (KaNa-IRC) - [ 14 มิ.ย. 51 00:03:11 ]

ความคิดเห็นที่ 118 อ่านแล้วเครียด สงสารน้องดาวค่ะ ถ้าซื้อแล้วมีความสุขก็ทำไปเหอะค่ะ แต่น่าจะจัด budget ให้เป็นส่วนๆด้วย สงสารแฟนน้องดาวจัง ยังโดนหลอก(ว่าเงินยังอยู่2แสน)อยู่เลยอ่ะ จากคุณ : A Princess - [ 14 มิ.ย. 51 00:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 119 น่าจะไปเป็น BA จริงๆค่ะ  เหมาะที่สุด ''  ตอนนั้นก็ไม่รู้หนูคิดอะไรน่ะพี่   สงสัยหนูเจ็บใจที่ตัวเองเสียเงินฟรี   หนูก็เลยมาหลอกคนอื่นให้เสียตังค์เหมือนหนูมั่ง '' อ่านแล้วเหวอเลยอ่ะ -A-" มานั่งคิดๆ เออ แฮะ มันอาจจะมีคนแบบนี้ก็ได้เนอะ ว้ากกก หลอนๆๆ ต้องใช้วิจารณญาณอย่างสูงในการชม จากคุณ : zepsil_27 - [ 14 มิ.ย. 51 00:49:59 ]

ความคิดเห็นที่ 120 อยากสวยไม่ผิดหรอกค่ะ แต่มาผิดตรงเดือดร้อนตัวเองและผู้อื่น เกินจะเยียวยาแล้วค่ะ เห็นด้วยกับคิสค่ะ อยากให้เค้าเข้าวัดก็ดีค่ะ การทำบุญให้เราได้บุญ (สวย)ยิ่งๆขึ้นไป มันต้องไม่ทำให้เราเดือดร้อนอ่ะค่ะ เริ่มนอกประเด็น ยังไงให้บุญรักษา ให้เค้ากลับมาเป็นคนเดิมนะคะ ** แก้ไขพิมพ์ผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 51 00:56:38 จากคุณ : 2fast2farious - [ 14 มิ.ย. 51 00:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ชักจะไม่ชอบน้องดาวแล้วแฮะ ... เตือนเขาหน่อยเถอะค่ะ ... จากคุณ : * Devil Outside * - [ 14 มิ.ย. 51 01:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 122 มาตามอ่านภาค 2 ภาคแรก คอมเม้น+โหวตแล้วค่า เป็นประโยชน์มากค่า เราก็เป็นบ่อย พอวิญญาณช้อปปิ้งเข้าสิง ก็ซื้อแบบวันเดียวรวดจริงๆ เสื้อผ้า เครื่องประดับ พยายาม ไปเดินช้อปแค่วันเดียวไม่งั้น ซื้อทีหลายบาท แต่ของบางทีชิ้นละ 100 หลายชิ้นก็หลายพันแหะ เลยตัดใจไม่ว่างไปช้อปซะงั้น นอนอยู่ ไม่ว่างว่ะ เพื่อนชวนบอกไม่ว่าง จะมีวันช้อปปิ้งแค่วันเดียวจริงๆ ถ้าลืมซื้อไรไม่สำคัญก็จะรอเดือนหน้าๆ ถ้าสำคัญก็ฝากแม่ ฝากญาติซื้อเอา ประหยัดเพิ่มเลยค่ะ แล้วก็มันก็จริงแหละใครๆก็อยากมีเงินเราเองยังคิดว่าจะเก็บให้ได้ แต่ก็ไม่ได้ซํกทีแต่เดี๋ยวนี้เจอวิธีเก็บแล้วคะ เป็นวิธีที่ไม่สงวนลิขสิทธิ คือถ้าจะหยอดกระปุกวันละ 20ก็อาจจะแบบเอ้อ ไม่มีแบ้งเนอะ เยอะเนอะ แต่เราเป็นคนชอบเหรียน 2บาทแบบมันดูสวยดีเงาๆไม่ดำ เราเลยใช้แบบนี้เลยเจอเหรียน 2บาทที่ใคร จะขอแลกมาหยอดกระปุกตลอดเลย แล้วก็ไม่เอาไปใช้ด้วยแบบว่าเสียดายกว่าจะได้มาเหรียนนึง เชื่อมั้ยคะ ตอนนี้มีเกือบพันเหรียนอะ เอามานับที โอ้เยอะมาก ยังตัดใจเอาไปฝากธนาคารไม่ได้เลยอ่ะ >< เสียดายๆ จากคุณ : blooperz - [ 14 มิ.ย. 51 01:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 123 โหวตให้อีก 1 ให้คนอื่นๆ ได้อ่านจะได้เตือนใจตัวเอง จากคุณ : kelojung - [ 14 มิ.ย. 51 01:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 124 แอบจิตนาการตามไปว่า ..ถ้าสมมุติคุณ จขกท. เป็นนักแต่งนิยาย จะต้องเป็นคนที่ วางพล๊อตเรื่องได้น่าสนใจ และ สร้างตัวละคร..ได้สนุกทีเดียว มีการนำข้อดี ข้อเสียมา ถ่วงดุลกัน..ไม่สร้างความเป็นดำ ขาวให้ตัวละคร เสียทั้งหมด.. ชอบค่ะ ตบมือให้.. จากคุณ : Phychexxx    - [ 13 มิ.ย. 51 16:25:16 ] ---------------------------------------------------------------------------- แอบจินตนาการเหมือนคุณPhychexxx  เด๊ะ '-^ (ยกเว้นแต่ ตรงคำว่า เรื่องจริง) ไม่ได้จับผิดนะจ๊ะที่รัก แต่ทำไมไม่รู้.. เรารู้สึกตั้งแต่กระทู้แรกแล้ว ว่าแต่ ถึงจะจริง ไม่จริง ก็ไม่เห็นต้องสนใจ ยังงัย.. เราก็สัมผัสถึงความหวังดีต่อผู้อ่าน ของเจ้าของกระทู้จ้ะ :):):) จากคุณ : :):):) (มายะจัง) - [ 14 มิ.ย. 51 02:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ตามอ่านทั้งสองภาคเลยค่ะ ^^ เป็นกระทู้ที่ดีมากค่ะ บัตรเครดิตเนี่ยตัวร้าย ... บางคนคิดว่าการมีบัตรเครติดแสดงถึงความรวย ... เราไม่รู้ว่าเอาความเข้าใจผิดๆ มาจากไหน ... คนรวยๆ ต้องใช้เงินสดๆ ซิ คนรวยๆ น่ะ พวกบัตรเครดิตเค้าไม่สนหรอก เพราะเค้าไมไ่ด้กำไร ... เค้าสนแต่คนรายได้ต่ำ หาเงินเดือนชนเดือน ... เพราะเค้าต้องการให้คนพวกนี้ใช้เงินเกิน จ่ายไม่ทัน เก็บดอกเบี้ยแบบขูดเลือดขูดเนื้อ บางคนเป็นหนี้ขนาดที่ว่าจะล้มละลาย (จะได้ไม่ต้องจ่ายหนี้) ... เค้าทำกันขนาดที่ว่า ... มีหน่วยที่แสร้งเป็นผู้ช่วยเหลือคนที่เป็นหนี้บัตรเครติดเยอะๆ ... ทำทุกวิธีทางให้คนที่เป็นหนี้บัตร จ่ายหนี้ไปเรื่อยๆ ... เพราะถ้าล้มละลายเจ้าหนี้ก็อดได้ดอกเบี้ย .................................... ส่วนซื้อของเยอะๆ เราก็เป็นนะ ... แต่ว่าใช้หมดตลอด ... ส่วนมากจะเป็นพวก skincare ... ถึงจะซื้อหมดทุกตัวไม่เคยทิ้ง ... บางอันใช้แล้วไม่ชอบก็เอาไปคืนร้าน โชคดีหน่อยเราไม่บ้า makeup ... เพราะรู้สึกว่า มันทาแล้วสีมันก็เหมือนๆ กัน แล้วอันนึงมันก็ใช้เป็นปีก็ไม่หมด จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 14 มิ.ย. 51 03:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ตามอ่านกันยาวเลย ..ตกลงว่าน้องดาวเค้าเล่นห้องแป้งด้วยรึเปล่าคะ?.. จากคุณ : oHLa - [ 14 มิ.ย. 51 04:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 127 1 แสนบาท เงินเก็บก้อนแรกของเรา  ช่วยพ่อกะแม่ ต่อเติมบ้าน อ๋อ ... รองเท้า 7 คู่ในวันเดียว -*-  พูดไม่ออก จากคุณ : MoOไหมอ้วน - [ 14 มิ.ย. 51 04:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ขอบคุณสำหรับเรื่องเตือนสติดีๆเรื่องนี้คะ จากคุณ : ลูกกวาดสีแดง - [ 14 มิ.ย. 51 08:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เป็นกระทู้ที่ดีทั้งสองกระทู้....อ่านแล้วก็ต้องมาสำรวจตัวเองมั่ง เราชอบให้ตัวเองดูดี แต่ไม่ได้เป็นทาสความสวย เรื่องซื้อของ มีช่วงหนึ่งที่ซื้อเยอะเหมือนกัน แต่เราใช้ของไม่แพง และตอนนี้ก็พยายามลดๆ อยู่ โดยเขียน Diary ค่ะ จะว่าไป นี่ก็เลยเดือนแล้ว ช่วงก่อนยุ่งๆ เลยไม่ได้ up date เราว่ามันช่วยให้เรามีเป้าหมายว่าจะลดของที่มีได้กี่ชิ้น แทนที่จะมองหาของใหม่ๆ มาลอง อาจจะเป็นอีกวิธีที่ช่วยคุณดาว (หลายๆ คนในห้องนี้) พ้นจากวงจร shopping นะคะ จากคุณ : After Sunset_Before Sunrise - [ 14 มิ.ย. 51 08:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 130 เอ่อ คือ เราเองบ้าสกินแคร์ แต่ก้อไม่ได้มากมายขนาดนั้น เห็น คห. ข้างบนแล้วอึ้งไปเลย ดีนะเนี่ยที่เราแต่งหน้าไม่เป็น ไม่งั้น คงหนักกว่านี้   แต่พอดีสำหรับเรา เราไม่ชอบซื้อของแพง(เกินไป)อะนะ เวลาเราอยู่ญี่ปุ่น เราก้อจะซื้อ คสอ ที่มันขายตามร้านขายยา มันจะลด 27-33 เปอร์เซ็นต์ พวกคาเนโบ ชิเชโด โคเซ่จะถูกก่าที่นี่หลายรอยอยู่ ถ้ากลับมาเมืองไทยแล้วอยากได้จะฝากเพื่อนที่ที่ทำงานซื้อ ถ้าอยากได้ลังโคม ไบโอเธิร์ม ไรพวกนี้ก้อจะซื้อที่ดิวตี้ฟรีเท่านั้น อย่างครีมกันแดดลังโคมซื้อที่เคาท์เตอร์ 1900 ซื้อบนเครื่อง 1200 มันแบบทำใจไม่ได้จริงๆที่จะซื้อราคาแพงๆแบบนั้น(ที่สำคัญบีเอที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะใจดี เกือบทุกคนที่เราเจอให้ของแถมเยอะมากอะ ไม่หวงเลย)  เราไม่เคยไปเคาท์เตอร์พวกนี้ตามเมืองไทยเลย ถ้าหมดเราก้อจะหาอย่างอื่นที่ไม่แพงมากใช้ไปก่อน พวก โอเลย์ ลอรีอัล สมัยเรียนก้อเคยใช้อยู่ แต่ก้ออย่างว่าชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เราก้อสามารถจัดการวางแผนให้เราได้อย่างที่เราต้องการโดยที่ไม่ต้องจ่ายเยอะเกินไป ขอเอาใจช่วยดาวให้ได้ใช้ คสอ แบบที่ต้องการโดยที่ไม่ต้องไปจ่ายแพงขนาดนั้นก้อแล้วกันค่ะ จากคุณ : เจ้าตัวกลมกะปุ๊กลุ๊ก - [ 14 มิ.ย. 51 12:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ต้องเปลี่ยนชื่อจากน้องดาว(น้อย)เป็นน้องผ่อน(นาน) เฮ่ออออออออ จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) - [ 14 มิ.ย. 51 14:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 132 เวลาเราอยากได้เครื่องสำอางค์ เราจะกลับมาอ่านกระทู้นี้นะ ช่วยเตือนสติได้ดีเลย ขอบคุณ จขกท. มากมากเลยค่ะ จากคุณ : Mehndi Laga Ke Rakhna - [ 14 มิ.ย. 51 14:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 133 555+ ก็นะ  เขาก็ไม่ได้แย่นะ ฮ่ะๆ จากคุณ : GermanShapherd - [ 14 มิ.ย. 51 14:37:13 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ดีนะ เรายังมีเงินฝากประจำ เดือนละ 2,000 บาท หลานทำงานธนาคารกรุงเทพ เธอมาเก็บทุกเดือน ลืมไปเธอก็เอาเข้าให้ แล้วก็มาทวง 2-3 เดือนทีนึง ส่วนเราบังคับเธอทำประกันชีวิต แบบฝากเงินเดือนละ 1,300 บาท เจ๊ากันพอดี เธอมีเงินเดือนเก็บ เดือนละหมื่น เพิ่งทำงานได้สองสามปีเอง แต่เรามีเงินฝากประกันชีวิตเดือนละ 6,000 บาท เผื่อเอาไว้กินตอนแก่ หรือไม่อยากทำงาน   ท่องไว้ว่า เราจะสบายตอนอายุ 50 ปี จะมีเงินล้าน 5555555 จากคุณ : อนิลฑิตาแห่งอำมฤตาลัย (เด็กเกาะสมุย) - [ 14 มิ.ย. 51 14:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 135 คุณเจ้าของกระทู้คะลองหาอุบายแนะนำคุณดาวทำสิ่งเหล่านี้สิคะ 1 ออกกำลังกาย สุขภาพกายดีสุขภาพจิตจะดีตามค่ะ ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์แถมยังคงเกี่ยวข้องกับความสวยอีกวิธีหนึ่งที่ไม่ต้องยุ่งกะกระเป๋าตังค์มากนัก 2 ปฏิบัติธรรม ไปค้นหาความว่างอีกชนิดที่เป็นคนละขั้วกับความว่างที่คุณดาวเคยชิน แม้แต่คนที่ไปฝึกนั่งสมาธิแค่สามวันก็ยังได้ความรู้สึกสงบกลับมาเลยค่ะ และโดยเฉพาะคนที่ถูกจิตใจตัวเองรบกวนให้ต้องทุรนทุรายตลอดเวลายิ่งได้ผลใหญ่ มันมีความว่างชนิดหนึ่งนะคะที่เป็น "ความเต็ม" ในตัวมันเองต้องไปค่ะเคสคุณดาวควรไปมากๆถือเป็นการไปฝึกสติ 3 เอาชีวิตไปเชื่อมโยงกับภายนอกบ้างชีวิตจะได้กว้างขึ้น การหมกมุ่นกับตัวเองทำให้ชีวิตคับแคบ ไม่ได้ยากเย็นอะไร หาหนังสือดีๆมาอ่าน ไปที่ใหม่ๆที่ไม่เคยไป คุยกับผู้คนในเรื่องอื่นบ้าง เช่น แทนที่จะเป็นเรื่องเครือ่งสำอางก็เปลี่ยนเป็นเรือ่งการเมือง(ฮา...อาจจะเก็บกดกว่าเดิม 555) แทนที่จะเป็นห้างสรรพสินค้าก็ไปเป็นสวนสาธารณะ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ TCDC(ห้องสมุดนักออกแบบ) ไปเที่ยวเกาะเกร็ด ไปเดินแถววัดพระแก้ว วังเก่า พิพิธภัณฑ์จิม ทอมสัน ไปดูสวนเกษตรทฤษฎีใหม่ ไปเรียนกีร์ต้า ปั้นดอกไม้ โอ้ยเยอะแยะ แม้แต่ในพันทิปเองก็มีทั้งห้องก้นครัว ชายคา ห้องสมุด เอยะแยะไปค่ะ อย่าเอะอะก็เข้าแต่ห้องเครือ่งแป้ง เอะอะก็เข้าพารากอน ไม่เบือ่เหรอคะวันๆทำแต่งานกลับบ้านล้างเครื่องสำอางออก โบกครีม พรุ่งนี้ตื่นมาแต่งหน้าใหม่อีก วนเวียนเป็นวัฏจักรที่ว่างเปล่า แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 51 17:33:29 จากคุณ : ลายขวาง - [ 14 มิ.ย. 51 17:11:11 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เราคิดว่าเราเข้าใจคุณดาวอ่ะค่ะ อาจจะต่างกันหน่อยแต่ก็เข้าใจเลยแหละ เราคิดว่าเราเข้าใจถึงความว่างเปล่า ความเหงา ความรู้สึกที่ว่าไม่มีคนเข้าใจแล้วก็อยากเติมเต็มความเบื่อหน่ายให้มันดีขึ้นมั้งคะ มีอะไรที่คิดว่าเราทำได้ทำดีก็อยากจะยึดเอาไว้เป็นแรงบันดาลใจ ไปๆมาๆมันจะกลายเป็นอัตโนมัติไปเลยนะว่าเราจะหมกมุ่นกับตรงนั้น คิดถึงแต่ตรงนี้ มันกลายเป็นความเคยชินที่แก้ยาก และที่สำคัญมันก็จะยังว่างเปล่าอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่เราอาจจะโชคดีกว่าคุณดาวอยู่หน่อยที่บ้านเราไม่เดือนร้อนนะ เข้าข่ายมีตังค์พอประมาณ เราไม่ต้องส่งเสียพ่อแม่ แหะ แหะ ป๊ะป๋ากะหม่าม้าบอกว่ามีตังค์ก็เก็บเอาเองละกัน แถมเรากลัวเป็นหนี้ที่สุดเพราะบ้านเราทำธุรกิจก็กู้แบงค์ เราเคยเขียนใบเสนอกู้ เรารู้ว่าดอกเบี้ยมันบานเร็วค่ะ เรากลัวมาก เวลาจ่ายบัตรเครดิตคืนเราจ่ายเต็มทุกครั้ง เราเคยตกใจที่ไปจ่ายบิลที่เคาน์เตอร์แล้วเจอคนที่มาต่อคิวเราบอกว่าจ่ายแค่ขั้นต่ำก็พอ เราอยากบอกคุณดาวว่า เราดีใจที่เธอเลิกใช้บัตรไปหนึ่งใบแล้วและพยายามจ่ายหนี้คืน ขอให้เธอใช้หนี้หมดไวๆ แล้วก็พยายามอย่าไปซื้อเพิ่ม ถ้าอดไม่ไหวก็เอาแค่ไปเดินๆดู ลองๆแล้วกลับค่ะ เว้นสักสองอาทิตย์ อาการทุรนทุรายอยากได้จะเบาลง แล้วเราจะหันมาประยุกต์ของในสต๊อกให้มันเหมือนกับที่ไปดูได้เอง เราภาวนาขอให้เธออิ่มตัวกับความอยากช้อปตรงนี้ไวๆ แล้วก็หางานอดิเรกอื่นๆมาแทนตรงนี้ได้ หันไปออกกำลังกายแทนดีมั้ยคะ ทำให้สวยได้เหมือนกัน หุ่นดีด้วย หรือว่าจะวาดภาพ แต่งบ้าน คิดแผนสร้างบ้าน หรือพัฒนาสมองยังไงก็ได้ ในฐานะที่เคยช้อปใกล้ๆกับคุณดาวมาก่อน จะบอกว่า การเปลี่ยนงานอดิเรกมันช่วยเติมเต็มความรู้สึกได้อีกนิดนะคะ อ้อ.. แล้วก็อยากให้คุณดาวเริ่มเก็บเงินค่ะ เก็บแบบไม่ฟิกซ์จำนวนก่อนเล็กๆน้อยๆวันละสิบยี่สิบก็ยังดี แล้วพอลืมตาอ้าปากได้ค่อยเพิ่มจำนวนขึ้น เพราะถ้าตั้งใจเก็บจริงๆ แสนนึงเนี่ย ปีเดียวปีครึ่งหรือสองปีก็ทำได้นะคะ พอเห็นตัวเงินในบัญชีที่ทำได้เองมันจะตื่นเต้นค่ะ อยากให้มันเพิ่มขึ้นอีกไวๆ ถ้าจะแนะนำ เราอยากให้อ่านเรื่อง "สวย รวย งก" ค่ะ เราเมื่อก่อนช้อปใกล้ๆคุณดาวเนี่ยแหละ เครื่องสำอางไม่ยอมใช้แบบไม่มีแบรนด์เลยนะ เสื้อผ้าก็ต้องขึ้นห้าง (แต่อันนี้เพราะเราตัวใหญ่ค่ะ สมัยก่อนไม่มีเสื้อผ้าสาวตัวโตขาย) แถมยังบ้ากระเป๋าที่สุด พออ่านเล่มนี้ (สาวคนนึงในนี้แนะเรามา) เราช็อคมากเลย ปรับพฤติกรรมตัวเองทันที ทุกวันนี้เราช้อปพอประมาณ (ยังไม่เลิกซะทีเดียว แต่ลดลงเยอะ) มีเงินเก็บเกินแสนแล้ว แล้วชีวิตด้านอื่นๆก็ดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ ปรับพฤติกรรมตัวเองดูนะคะ เราเชื่อว่าคุณดาวเองทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นได้ค่ะ จากคุณ : vink - [ 14 มิ.ย. 51 17:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ขออนุญาตเขียนอีกครั้งนะคะ จากคุณ : สูญเสียทุกอย่าง เมื่อสร่างเมา - [ 14 มิ.ย. 51 17:55:40 ]

ความคิดเห็นที่ 138 มากดโหวต เพื่อทำใจ แล้วค่อยอ่านต่อ ฮึ้บบบบบ จากคุณ : LadyDandeliOn - [ 14 มิ.ย. 51 18:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 139 (' '))/ ขอบคุณที่ จข.กท. นำมาบอกเล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์นะคะ เห็นด้วยกับหลาย ๆ ความคิดเห็นที่เสนอมา แล้วก็เห็นด้วยอย่างมากกับคุณ wassery_harp ค.คิดเห็นที่79 น่ะค่ะ (,'')/ ที่ว่าลักษณะแบบนี้ คือ คนที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพจิต สุขภาพใจ ~ เป็นลักษณะของคนที่มีช่องโหว่ในใจ ,, เหมือนแบบ.. เติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็มน่ะค่ะ (- -)/ โดยส่วนตัวก็เป็นคนชอบความสวยความงามเหมือนกันค่ะ แต่ก็ยังหาเงินด้วยตัวเองไม่ได้.. (ยังไม่ได้ทำงานค่ะ) ได้แต่เงินค่าขนม ,, ก็จะเก็บเงินค่าขนมไว้เพื่อใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องสวยๆ งามๆ เหมือนกันค่ะ แต่เวลาจะซื้อก็จะคิดแล้วคิดอีกนะคะ ..((- -)) ไม่ค่อยรุนแรงเท่าคุณดาวเท่าไหร่ค่ะ) ,, (,'')/ แล้วก็จะมีคนช่วยตัดสินใจอีกที ((- -)*ส่วนใหญ่จะคอยห้ามไม่ให้ซื้อน่ะค่ะ)  (' ')/แต่ก็ดีนะคะมันจะทำให้เราคิดหน้า-คิดหลัง-คิดให้รอบคอบดีค่ะ - - ((* *)) ถึงแม้ตอนโดนห้ามอาจจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจ - ผิดใจกันบ้าง ('_')/แต่ตอนหลังจะทำให้เราคิดได้ว่า ดีแล้วล่ะที่ไม่ซื้อน่ะค่ะ .. (' ') หรือไม่ก็ถ้าศึกษาแล้ว ว่ามันดีจริง น่าซื้อ ซื้อแล้วไม่ซ้ำกับที่มีอยู่ อยากได้จริงๆ ก็.. ซื้อเลยค่ะ ^^ 555++ (* *)/" เพราะเวลาอยู่หน้าเค้าเตอร์มันเหมือนมีแรงดึงดูดจริงๆนะคะ .. ความอยากได้มันจะครอบงำเรา ~ รวมทั้ง BA ที่คอยยุแยงเรา (* *)) ฮึ่มมม.. ต้องเดินออกมาห่าง ๆ  ออกมาเพื่อใช้เวลาในการตัดสินใจอีกที จะดีที่สุดค่ะ ..  อย่าไปตัดสินใจแถวนั้นเชียว .. ไม่งั้นถ้าเงินไม่หมด ใจไม่แข็งพอ มีหวังเสร็จทุกราย ที่สำคัญต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนมาซื้อนะคะ (ดูหลายๆทางนะคะ เผื่อโดนหลอก .. แบบที่คุณดาวทำน่ะค่ะ (o___O))* หึ๊ยย  น่ากลัววว) จากคุณ : Ma' HmeeeZ l'e'll ~* (Boku wa U_U KUMA ~*) - [ 14 มิ.ย. 51 18:11:47 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ขอบคุณคะ  จะเอาไว้เตือนสติตัวเอง บางทีมองๆๆดูคสอ.ของตัวเองที่มีอยู่ เวลาจะแต่งหน้าออกจากบ้าน แล้วมันแอบหลอนๆๆไงไม่รุอะค่ะ รุสึกว่าไม่รุจะหยิบอันไหนมาใช้ดี แค่เวลาทำอะไรๆในแต่ละวันก็ แทบจะไม่พอแล้วค่ะ เห้ออออออ จากคุณ : LadyDandeliOn - [ 14 มิ.ย. 51 18:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 141 สติกลับคืนอย่างแรงค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่เอามาให้อ่าน จริงๆข้าเจ้าก้อไม่ได้ซื่ออะไรมากมายหรอกค่ะ.. ส่วนใหญ่เน้นของลดราคาอิ อิ.. แล้วก้อลิปกลอสที่ไม่มีแพงก่า 400 อยุ่แล้วค่ะ + แต่งหน้าไม่ค่อยเนเรยได้ซื้อก้อแค่นี้ล่ะค่ะ ที่มีอยุ่ก้อยังใช้ไม่หมดเรยคงต้องอาศัยเวลา อีก 1 -2 ปีเหมือนกัน..จะพยายามลดค่ะ จากคุณ : midnite-angel - [ 14 มิ.ย. 51 18:53:16 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ตามมาอ่านคะ กระทู้นี้ร้อนแรงดีจริงๆ จากคุณ : austin_edge - [ 14 มิ.ย. 51 21:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 143 เออเข้ามาอ่านอีกทู้จร้า เออ..ถึงกะอึ้งที่คุณดาวเค้าแบบว่าหลอกให้คนอื่นซื้อตามเธอโอ้ววไม่น่าทำเลยนะคะ แต่เธอยังดีคะที่เอาไปบริจาคแรว่าถ้าเธอเงินไม่พอใช้จริงน่าจะเอา คสอ.ไปขายที่เวปต้องห้ามเป็น คสอ.มือ2มากกว่านะคะ  เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สนใจอย่างดีเลยคะ โหวตตตตต จากคุณ : Angel_pink... - [ 14 มิ.ย. 51 22:08:21 ]

ความคิดเห็นที่ 144 อ่านแล้วรู้สึกถึงความจริงที่เป็นอยู่ เหมือนมาช่วยเตือนสติ ให้คิด และรอบคอบกับการใช้เงิน จะท่องให้ขึ้นใจเลยว่าก่อนทำอะไรต้องมีสติ จากคุณ : SnOwrabbit - [ 15 มิ.ย. 51 01:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 145 อย่างนี้น่าจะปรึกษาจิตแพทย์ไม่ก็นักจิตวิทยานะคะ ไม่ได้ว่าเป็นบ้าอะไรนะคะ แต่เรื่องอย่างนี้  ถ้ามันห้ามด้วยตัวเองไม่ไหวแล้ว น่าจะลองปรึกษาดู จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาไม่ได้รักษาแค่คนไม่ปกติค่ะ คนปกติก็รักษา จากคุณ : Spellweaver - [ 15 มิ.ย. 51 02:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 146 อ่านแล้ว สงสารพ่อแม่คุณดาว ขอบคุณสำหรับข้อคิดดี ๆ นะคะ จากคุณ : กระเพรากุ้งไข่เยี่ยวม้า - [ 15 มิ.ย. 51 07:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 147 เราว่า คุณ ดาวนี่ต้องสวยพอตัวเลยล่ะ ไม่งั้น จะได้ สองแสนห้ามาฟรีๆ เหรอ  ไม่ว่า เขาจะให้เงินจากความรักหรือใคร่มันก็แล้วแต่ถ้าเก็บไม่อยู่แบบนี้ อนาคตพังแหงๆเลย จากคุณ : ความรักจับมือเขียน - [ 15 มิ.ย. 51 15:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ''  เราก็ใช้อยู่นะคะ  เราชอบมากๆๆ  หมดแล้วก็จะซื้อต่อค่ะ '' .... ทั้งๆที่หนูใช้แล้ว หนูรู้สึกว่า ไม่ได้เรือ่งเลย   หนูโค-ตรเสียดายตังค์น่ะพี่   พอโพสต์เสร็จ  หนูก็นั่งหัวเราะคนเดียว       แถมมีคนเชือ่ที่หนูโพสต์อีกค่ะพี่  ว่าเครือ่งสำอางนั่นมันดีมากๆ   พี่ว่าหนูเลวป่ะล่ะ   ( เลวค่ะ   ดิฉันตอบแบบไม่ต้องคิดค่ะ แต่ตอบในใจ  ) ----------------------------------------------------------- จขกท ไม่กลัวคุณดาวมาอ่าน แล้วโกรธเหรอคะ เห็นด้วยกับหลายๆค.เห็นว่า จขกท เขียนเรื่องเก่ง วางพลอตดี อะไรควรมาก่อน อะไรหลัง จบสวย น่าจะไปเป็นนักเขียนค่ะ แอบระแวงว่าเป็นนิยาย หรือดัดแปลงมาจากเรื่องจริง ที่อิงบุคคลจริงใกล้ตัวรึเปล่าคะ (สงสัยเฉยๆนะตะเอง) จากคุณ : mOnapOrn - [ 15 มิ.ย. 51 16:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 149 คุณ mOnapOrn เจ้าของกระทู้เค้าบอกไว้ ว่าเป็นเรื่องจริงอิงบุคคลใกล้ตัว ในตอนที่ 1 ก็นับว่าเป็นเรื่องสอนใจที่อยากให้ปักหมุดไว้ในห้องนี้นาน ๆ ถึงภาษาเขียนจะสละสลวย อ่านเพลินแนว ๆ นักเขียนพอคเกตบุค "เรื่องเล่าสาวไซด์ไลน์" หรือ "รักแชทเนตอันตราย" ก็เหอะ แต่ทุกอย่างที่เจ้าของกระทู้ถ่ายทอดออกมายืนอยู่บนพื้นฐาน ความจริงของโลกวัตุนิยมซึ่งคนแบบน้องดาวในเรื่องก็มีชีวิต ออกมาโลดแล่นเดินสวนทางกับพวกเราอยู่ทุกวี่วัน. แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 51 20:25:23 จากคุณ : ชิฟฟอนคาปูชิโน่ - [ 15 มิ.ย. 51 20:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 150 อ่านแล้วปลงตกเลยค่ะ T^T โหวตๆ จากคุณ : sueki - [ 15 มิ.ย. 51 20:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 151 โดยส่วนตัวเราจะซื้อเครื่องสำอาง ก็ต่อเมื่อมันหมด หรือว่าเกือบหมดเท่านั้นค่ะ เราใช้ของไม่แพง มาสคาร่าสองร้อยกว่าบาทก็คิดแล้วคิดอีกละ ไม่ได้งกนะแต่รายได้เรามันได้ประมาณนี้แหล่ะ แล้วเราก็ภูมิใจด้วย ที่ใช้อะไรไม่เกินตัว มีอยู่วันนึงหลุดไปในโซนเครื่องสำอางค์ของห้างดัง เจอ บีเอ เชียร์ซื้อของหมดไปสี่พัน เรายังรู้สึกเลยว่าซื้อไปได้งัยฟะ เป็นประสบการณ์ครั้งเดียว(ครั้งเดียวก็พอละเปลืองตังค์ หุหุ) เงินตั้งหลายบาทเก็บไว้ซื้อของที่จำเป็นดีกว่าม้า เผลอๆเอาไปซื้อทอง ก็คงได้หลายแล้วหล่ะ พอเราเริ่มจะลืมตาอ้าปากได้ เราก็อยากเก็บเกี่ยวทำตามความฝันของเรา  เราอยากได้ มือถือ  อยากได้โนตบุค เราก็ไปผ่อนมา  แต่เราซื้อทีละอย่างหง่ะ  ผ่อนแบบเต็มแม็กเลยด้วย มือถือเราผ่อน สามเดือน โน็ตบุค เราผ่อนห้าเดือน   หืดแทบขึ้นคอ  แต่ก็ภูมิใจยังได้ของเป็นชิ้นเป็นอัน  ไม่รู้สิ  ระหว่างเครื่องสำอางค์กับเทคโนโลยี เราเลือกอย่างหลังหง่ะ  (เพราะมันจำเป็นต้องใช้ด้วย) ก็แล้วแต่คนนะเน๊อะ นานาจิตตัง เอ้อแต่ว่าเพื่อนสนิทเรา ก็บ้าเครื่องสำอางค์เหมือนกันหง่ะ  อะไรที่เค้าฮิตๆ(ก็จากห้องนี้นี่แหล่ะ) ชีต้องแสวงหามา มันก็เรื่องของเค้าแหล่ะ เพราะฐานะเค้าทำได้  แต่เราเสียดายผิวสวยๆเค้าหง่ะ  จากเมื่อก่อนผิวใสนวลอ่องต่อง ใช้โน่นใช้นี่มั่วไปหมด  ทั้งสิว ทั้งหลุมสิว รูขุมขนกว้าง ไรก็ไม่รู้มัน  เห็นแล้ว สงสารผิว  ยังดีหน่อยเดี๊ยวนี้เริ่มคิดได้แล้ว ก็ดีใจกะเค้าด้วย จบละ ปล. เราว่าน้องดาวออกแนวเสพติดshoppingเลยหง่ะ  บำบัดด่วน จากคุณ : mylllsoul - [ 15 มิ.ย. 51 22:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 152 อย่างน้อยเราว่าเค้าก็พยายามแก้ไขแล้วนะคะ ตัดบัตรทิ้งไปแล้ว แล้วก็ยังไม่ลืมพ่อแม่ ยังไม่แย่ขนาดนั้นหรอกค่ะ เราว่าสักพักก็คงเบื่อๆไปเองมั้งคะ ขอให้คุณดาวคิดได้อีกไวๆนะคะ :) จากคุณ : ลูกลิง กลิ้งไปกลิ้งมา - [ 16 มิ.ย. 51 07:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 153 เมื่อ 2 เดือนก่อน หลงเข้าไปในร้านเครื่องสำอางค์ (ต้องใช้คำว่าหลงค่ะ เพราะไม่ได้ตั้งใจ) ต้องชำระเงินไปกับแป้ง 1 ตลับและ Tint สำหรับทาแก้มและปาก 1 หลอด ประมาณ 1,200.- ได้มั๊งค่ะ ยังนึกเสียดายถึงทุกวันนี้เลยค่ะ เพราะมันยังตั้งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนเลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรเข้าสิงเพราะปกติเป็นคนไม่แต่งหน้าค่ะ ใช้แป้งฝุ่นเด็กกับวาสลีนเจลและก้อสิปกลอสเท่านั้นเอง แค่นี้เรายังเครียดเลยค่ะ ที่ใช้เงินไม่รู้จักคิด เอาใจช่วยให้สาวๆ คนอื่นๆ มีสติก่อนช้อปนะคะ^^ จากคุณ : ยัยวายร้าย - [ 16 มิ.ย. 51 10:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 154 แต่ถ้าแพงเกินไปก็ไม่กล้าซื้อเหมือนกันนะคะ 555+ ซื้อเท่าที่กำลังตัวเองจะพอซื้อได้... ขอดีไม่จำเป็นต้องแพง...ทีใช้แล้วดีกับตัวเราเอง -----โหวตค่ะ------ จากคุณ : coffeemateP - [ 16 มิ.ย. 51 14:43:34 ]

ความคิดเห็นที่ 155 ไม่อยากบอกเลยว่า เคยเอาเครื่องสำอางค์ บนโต๊ะไปขาย มือสองในเน็ต ดูไม่มีอะไร จิ๊กๆจ๋อกๆ ได้เกือบสองหมื่นเลยนะเออ จากคุณ : น้ำตาลเปรี้ยว vs มะนาวหวาน - [ 17 มิ.ย. 51 09:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 156 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 17 มิ.ย. 51 14:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 157 ตามมาอ่านต่อ จากคุณ : supertarokung - [ 17 มิ.ย. 51 19:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 158 to be continue... จากคุณ : KarumDog - [ 17 มิ.ย. 51 20:38:05 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ตามมาอ่านต่อภาค 2 ค่ะ สาระดีมากๆ โหวตให้เหมือนเดิมค่ะ จากคุณ : น.ส.พังพอน - [ 18 มิ.ย. 51 18:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 160 ขอบคุณ จขกท มากนะคะ  ทำให้ตาสว่างดีจิง ๆ เรย บอกตรง ๆ ว่าตัวเองก็เป็นคนเงินเดือนไม่เยอะนักค่ะ พอเข้ามาในห้องนี้ก็แบบเห็นเค้าใช้เครื่องสำอางค์กันราคาสูง ๆ แล้วบอกว่าดี ตัวเองก็เลยจิตตก อยากได้บ้าง... แต่ยังโชคดีหน่อยที่แบบเป็นคนไม่มีตังค์ 5555 เลยทำให้พอจะหยุดการใช้จ่ายตรงนี้ลงได้บ้าง แต่ก็ไม่ทั้งหมด ก็นะ...ผู้หญิงกับความสวย มันก็คู่กันเนอะ ต่อไปนี้ ซื้ออะไร จะคิด คิด คิด คิดเยอะ ๆ แระกันเน้อออ จากคุณ : ainamta - [ 19 มิ.ย. 51 10:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 161 มีเครื่องสำอางอยู่ ไม่ถึง 5 ชิ้นเลยค่ะ แฟนยังบอกว่า น่ารัก เลย อิอิ จากคุณ : mizpla - [ 19 มิ.ย. 51 22:13:45 ]

ความคิดเห็นที่ 162 ช่วงก่อนนี้เราลองซื้อเครื่องสำอางแบรนด์แพงต่างๆ มาลองใช้ยี่ห้อละชิ้นสองชิ้นเพื่อจะลองดูว่ามันต่างกับคสอ.ราคาไม่แพงอย่างไร แล้วก็เรียนรู้ว่ามันไม่ได้แตกต่างกันมากมาย(เมื่อเทียบกับราคา) ของยี่ห้อถูกกว่าคุณภาพดีมีเยอะค่ะ ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงๆ แป้งตลับละร้อยกว่าบาทที่ดีๆมีมากมายให้เลือกซื้อ และอาจจะเหมาะกับผิวหน้าเรามากกว่าแป้งตลับพันสองพันอีก เรามีคสอ.เยอะก็จริงแต่ราคาจะไม่สูงค่ะ ชอบที่จะลองหาอะไรเหมาะกับผิวและสีสวยถูกใจ ใช้แล้วปลอดภัยก็เพียงพอแล้วค่ะ จากคุณ : ประยงค์สตูดิโอ - [ 20 มิ.ย. 51 08:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 163 เราว่าหลายๆคนในนี้ ก็คงเหมือนน้องดาวนะคะ เพราะเห็นหลายคนมีลิป บรัชออน สีเหมือนๆกัน หลายๆยี่ห้อ ตัวเราเองก็เป็นนะ แต่รู้สึกแย่เนอะที่มาโกหกว่า อันนั้นดี ทั้งๆที่ตัวเองใช้ไม่ดีอ่ะ แต่เสียใจด้วยค่ะน้องดาว เพราะคงหลอกใครหลายๆคนไม่ได้ แบบเราเนื่องจากไม่มีตังค์จะซื้อค่ะ = =' ใครๆก็อยากสวย เราก็อยากสวย แต่ก็ทำตัวโทรมไปวันๆ เพราะตื่นมาแต่งตัวไม่ทัน + เอาตังค์ไปทำอย่างอื่นค่ะ ยินดีกับน้องดาวที่สวยตามที่ตัวเองต้องการได้แล้ว อย่าลืมคนที่ให้กำเนิดมานะคะ ใจสำนึกได้อย่างเดียวคงไม่พอ ต้องกระทำด้วยค่ะ จากคุณ : vnv - [ 20 มิ.ย. 51 17:42:21 ]