ความคิดเห็นที่ 1 อุปกรณ์สำหรับคนจัดฟัน 1 แปรงสีฟัน ใช้แปรงสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะก็ดีค่ะ สำหรับเราใช้ Systema OD เพราะขนแปรงนุ่ม เรียว หัวแปรงเล็ก ใช้แปรงสีฟันธรรมดาก็ได้ค่ะ แล้วแต่ผู้แปรงมากกว่า แปรงดีแค่ไหนแปรงไม่ถูกวิธี แปรงไม่สะอาดมันก็สกปรกเหมือนกันค่ะ เรามีแปรง 2 อัน ไว้ใช้ตอนเช้าอันนึง ก่อนนอนอันนึง เพราะแปรงที่ดีควรจะแห้งก่อนการใช้ ลดการสะสมเชื้อแบคทีเรียค่ะ 2 ยาสีฟัน ตามสบายเลยค่ะใช้อะไรก็ได้ 3 น้ำยาบ้วนปากแล้วแต่ชอบค่ะ เราใช้ออรัลบีค่ะ ไม่แสบปาก ใช้ยี่ห้ออื่นไม่ได้เลยค่ะ แสบปาก 4 ไหมขัดฟัน เราใช้ไหมขัดฟันของออรัลบีสำหรับจัดฟันค่ะ ใช้สะดวกดี 5 Interdental Kit อันนี้ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ขนแปรงเล็กๆค่ะ สามารถเปลี่ยนหัวแปรงได้ แปรงตามซอกเหล็กค่ะ 6 End-tufted Brush แปรงในส่วนที่แปรงธรรมดาเข้าไม่ถึงค่ะ 7 ที่ขูดลิ้น ลดกลิ่นปากได้ดีเลย แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 03:24:13 จากคุณ : papiyongy - [ 3 ก.ค. 51 02:54:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อไปนี้ก็เป็นการจัดฟันของเราค่ะ เอามาเล่าให้เพื่อนๆฟัง ตอนแรกเรากะจะไปจัดกับคลีนิคทันตกรรมในมหาวิทยาลัย เราก็ไปพบหมอ X-ray พิมพ์ฟันเรียบร้อยแล้ว เค้าก็ถ่ายรูปด้านหน้า ด้านข้างของเราไว้ด้วย แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้ไปจัดที่นั่นค่ะ เพราะพี่เราเป็นทันตแพทย์แล้วก็เป็นอาจารย์ในมหาลัยด้วย แล้วก็เคยจัดฟันมาก่อนด้วย พี่เราแนะนำให้ไปจัดที่คลีนิคดีกว่าเพราะใช้เวลาเร็วกว่า หมอฟันก็มีฝีมือดีกว่าด้วย เพราะหมอฟันที่เราจะไปจัดด้วยตอนแรกเป็นนักศึกษาปริญญาโทสาขาจัดฟันที่กำลังศึกษาต่อในมหาลัยนั่นแหละค่ะเราก็เหมือนไปเป็นหนูทดลองให้เค้าประมาณนั้นค่ะ ฝีมือก็อาจจะเทียบกับอาจารญ์หรือทันตแพทย์ที่จบมาเฉพาะทางไม่ได้ค่ะ หลังจากนั้นเราก็เลยยกเลิกคิวจัดฟันที่มหาลัยไปแล้วไปจัดที่คลีนิคแทน ซึ่งหมอฟันที่เราไปจัดฟันด้วยก็เป็นอดีตอาจารย์ที่มหาลัยนั่นแหละค่ะแล้วก็เปิดคลีนิคด้วย แต่ตอนนี้ลาออกมาทำคลีนิคอย่างเดียวแล้วค่ะ แล้วแกก็เป็นหมอฟันที่จบมาทางสาขาจัดฟันโดยเฉพาะค่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องฝีมือไม่มีปัญหาเลย คุณหมอน่ารักมากเลยค่ะ ใจดี พูดเพราะ เราชอบมากๆเลย ที่สำคัญ พี่เราเคยเป็นลูกศิษย์แกค่ะ เราก็เลยให้พี่พาเรามาที่คลีนิคเลย พอเจอหมอ หมอก็เลยลดค่าทำฟันให้เรา 5% ค่ะ ลดเฉพาะค่าเครื่องมือนะคะ หลังจากนั้นก็ราคาปกติค่ะ ร้านที่เราไปจัดคนเยอะมาก จองคิวยาวเลย เพื่อนเราเพิ่งโทรไปจองคิวจัดฟัน ทางร้านบอกว่าอีก 5 เดือนค่ะ รอกันลืมเลย 5 เดือนนี่คือรอพบหมอครั้งแรกนะคะ ตอนพบหมอครั้งแรก หมอก็พิมพ์ฟันให้เรา แล้วก็ดูว่าเรามีปัญหาอะไรบ้าง ปัญหาของเรา ที่เราต้องการจัดฟันก็คือ ฟันล่างครอบฟันบน มีปัญหาตรงขากรรไกรด้วย เวลาอ้าปากตรงขากรรไกรมันจะดังกึกๆค่ะ ตอนนั้นหมอบอกว่าถ้าจะให้ได้ผลดีต้องผ่าตัดจัดฟันค่ะ เราเลยบอกว่า "หนูไม่ได้อยากสวยขนาดนั้นค่ะ" หมอก็บอกว่าขากรรไกรก็ไม่ได้ผิดปกติอะไรมากกมาย ไม่ผ่าตัดก็ไม่เป็นไร จัดฟันอย่างเดียวก็ได้ แต่ผลมันจะไม่ดีเท่าผ่าตัดร่วมด้วยเท่านั้นเอง หมอบอกว่าต้องใช้เวลา 2 ปีค่ะ หลังจากวันที่พบหมอครั้งแรกกับวันที่จะติดเครื่องมือครั้งแรก ห่างกันประมาณเดือนกว่าค่ะ เพราะหมอต้องนัด 2 อาทิตย์ติดกันค่ะ กว่าจะได้วันนัดก็รอเป็นเดือน ระหว่างรอเราก็ขูดหินปูน ซึ่งให้พี่ที่เป็นหมอฟันขูดให้ค่ะ ขูดฟรี ไม่เสียซักบาท หลังจากนั้นก็ถอนฟัน เราถอนฟันล่างไป 2 ซี่ค่ะ ฟันบนไม่ถอน ถอนก่อนจะติดเครื่องมือครั้งแรก 1 อาทิตย์ค่ะ ไม่อยากให้ฟันหลอนานๆ อายค่ะ ใส่ยางแยกฟัน 1 อาทิตย์ก่อนติดเครื่องมือครั้งแรก ฟันเราก็แน้น แน่น ตอนใส่ก็เจ็บไปตามระเบียบ แล้วก็มาถึงวันสำคัญ วันที่ติดเครื่องมือครั้งแรกค่ะ ติดเครื่องมือเฉพาะฟันบน ตอนใส่เครื่องมือครั้งแรก คำเดียวสั้นๆเลย "เจ็บ" ตอนใส่ไม่เท่าไหร่ แต่หลังจากนั้นค่ะ มันจะเจ็บเหมือนฟันจะหลุดออกจากปาก มันร้าวไปหมด กว่าจะหายเจ็บก็เป็นอาทิตย์ค่ะ ช่วงนี้เรากินอะไรไม่ได้เลย กินได้แต่โจ๊ค ขนาดหมูสับที่ใส่ในโจ๊คเราต้องใช้ช้อนบี้ๆให้ละเอียดค่ะ แล้วกลืนไปเลย วันแรกๆกินโจ๊คทุกมื้อ แทบไม่เคี้ยวเลย ใช้กลืนอย่างเดียว เพราะเคี้ยวแล้วเจ็บมาก เรานี่ไม่อยากกินอะไรเลย หิวก็ดื่มนมอย่างเดียวค่ะ ขอแนะนำว่าช่วงนี้ตอนนอนอยู่ห่างๆคนที่นอนดิ้นไว้เป็นดีค่ะ เพราะถ้าเค้าละเมอเอามือมาฟาดโดนปากเราล่ะก็ เจ็บสุดๆค่ะ เราโดนมาแล้ว น้ำตาแทบร่วง แล้วพอครบหนึ่งอาทิตย์ หมอก็จะนัดมาติดเครื่องมือข้างล่าง เจอหน้าหมอครั้งแรกหมอถามว่า กินข้าวอร่อยมั้ยคะ เราบอกว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาหนูไม่ได้แตะข้าวเลยค่ะ กินแต่โจ๊คกับนม ครั้งนี้เราไม่ได้ติดเครื่องมือข้างล่างนะ แค่ครอบแบรนด์อย่างเดียวค่ะ เพราะหมอยังไม่ติดเครื่องมือฟันล่างให้ ไม่งั้นมันจะชนกับฟันบนค่ะ หลังจากนั้นก็ต้องมาพบหมอทุกเดือนเพื่อขยับฟัน ซึ่งหมอก็จะเปลี่ยนเส้นลวดและยางให้ ตรงนี้เราก็บอกหมอได้ว่าอยากได้ยางสีอะไร สียางที่เราใช้บ่อยก็สีชมพูค่ะ กว่าเราจะได้ติดเครื่องมือฟันล่างก็ 3 เดือนหลังจากนั้นค่ะ ถึงตอนนี้ก็ไม่เจ็บมากแล้วค่ะ สงสัยมันชินแล้วก็เลยไม่เจ็บเท่าตอนติดครั้งแรก เราจะรู้สึกคันเหงือก ไม่รู้ใครเป็นเหมือนเราบ้าง บางครั้งหมอก็ใส่ยางดึงฟันให้เรา ซึ่งต้องใส่ตลอดเวลาถอดเฉพาะตอนกินข้าวกับแปรงฟัน ควรเปลี่ยนยางทุกๆ 12 ชม. ช่วงแรกที่ใส่เราต้องดูกระจกทุกครั้งเพราะไม่ชิน เคยไม่ดูแล้วมันเกี่ยวไม่ถึง มันดีดปาก เจ็บ ก็เลยต้องดูกระจกทุกครั้งเวลาที่ใส่ยางดึงฟัน มีครั้งนึงเรานั่งเรียนอยู่แล้วจะเปลี่ยนยางอันใหม่ ก็เอายางมาเกี่ยวไว้ แต่มันดันเกี่ยวไม่ติด ตอนนั้นเริ่มชินแล้ว รู้จังหวะแล้วว่าต้องเกี่ยวยังไง เลยไม่ดูกระจก ยางมันเลยดีดออกมาข้างนอก แล้วห้องที่เรานั่งเรียนมันจัดโต๊ะเก้าอี้เป็นรูปตัวยู เพื่อนที่เรียนด้วยกันก็หันหน้ามาทางเราเกือบหมดเลย พอเพื่อนเห็นยางกระเด็นออกมา มันก็หัวเราะกันทั้งห้องเลย ดีที่อาจารย์หันไปทางกระดานพอดี เลยไม่เห็น แต่ก็อายแทบตายเหมือนกัน โดนล้อไปหลายวัน ตอนนี้เราจัดฟันมาจะครบ 2 ปีแล้ว สิงหานี้ก็จะครบ 2 ปี พอดี ตอนนี้ฟันบนของเราเข้าที่แล้ว แต่ฟันล่างยังมีช่องว่างอยู่ค่ะ เลยยังต้องขยับฟันอยู่ แต่ก็น่าจะไม่นานแล้ว ฟันเริ่มจะสวยแล้ว เท่าที่ดูรูปหน้าเราเปลี่ยนไปนิดหน่อยค่ะ เมื่อก่อนคางเราจะยื่นเพราะฟันล่างเราจะยื่น แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้น คางเราจะเห็นรอยผ่าชัดขึ้นด้วย เราก็เพิ่งสังเกตเห็นหลังจากจัดฟันนี่แหละว่าเราคางผ่าด้วย ปกติไม่เคยสังเกต แถมคางเรียวลงนิดหน่อยด้วย จมูกมีดั้งขึ้นมานิดนึงด้วย ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า และตอนนี้ฟันล่างก็ไม่ครอบฟันบนแล้ว ดีใจๆ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 03:25:29 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 03:01:13 จากคุณ : papiyongy - [ 3 ก.ค. 51 02:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สรุปค่าใช้จ่าย พบหมอครั้งแรก ปรึกษา พิมพ์ฟัน 500 ค่า X-ray ทั้งปาก 800 ติดเครื่องมือครั้งแรก ฟันบน 6000 (ของเราลด 5%) ติดเครื่องมือฟันล่าง แบ่งจ่าย 2 งวดๆ 3000 ค่ารักษาทุกเดือนๆละ 1000 (ประมาณ 2 ปี) ค่ารีเทนเนอร์ 4000-4500 (ไม่แน่ใจเพราะยังจัดไม่เสร็จ ยังไม่ได้ใส่) จากคุณ : papiyongy - [ 3 ก.ค. 51 03:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับคนที่กำลังจะจัดฟันนะคะ ก่อนที่เราจะตัดสินใจว่าจะจัดที่ไหน ก็ดูให้ดีๆก่อนนะคะ ว่าที่ที่เราจะไปทำนั้นเค้าทำดีรึเปล่า พี่เราบอกว่าร้านจัดฟันนี่เดี๋ยวนี้มีเยอะมาก เปิดกันเกลื่อนเลย แต่บางร้าน หมอฟันก็ไม่ได้จบเฉพาะทางจัดฟันโดยตรง แต่แค่เข้าฝึกอบรมการจัดฟันก็มาเปิดร้านจัดฟัน บางทีเค้าก็อยากได้ตังค์อะไรงี้ ก็ต้องดูให้ดีๆ เอาที่น่าเชื่อถือ หรือถามคนที่เคยไปจัดมาก่อน พี่เราก็บอกว่าหมอฟันที่จบมาเฉพะาทางจัดฟันจริงๆในประเทศไทยยังมีน้อย ไม่รู้ถึง 200 คนรึเปล่า (เมื่อ 2 ปีก่อนอ่ะนะ ตอนนี้อาจจะเยอะกว่านี้) เค้าก็จะขึ้นทะเบียนสำหรับทันตแพทย์ที่จบมาทางสาขาจัดฟันโดยเฉพาะที่มีรายชื่อในสมาคมทันตแพทย์อะไรซักอย่าง (จำไม่ได้) สำหรับคนที่จะจัดฟันแฟชั่น เราก็เข้าใจนะว่ามันเป็นแฟชั่นหรือกระแสอะไรก็แล้วแต่ แต่ก่อนจะไปทำคิดให้ดี เพราะมันอาจจะมีผลเสียตามมา เพราะร้านบางร้านเค้าไม่มีการฆ่าเชื้อเครื่องมือก่อน หรือการที่เราซื้อไปเปลี่ยนเอง ระวังไว้นะ เพราะเชื้อโรคทั้งนั้นแหละจ๊ะ ดีหน่อยก็แค่เหงือกอักเสบ แต่ถ้าโชคร้ายถึงตายนะ มีคนตายเพราะจัดฟันแฟชั่นมาแล้ว เค้าซื้อไปใส่เองที่บ้าน แล้วเปลี่ยนทุกวัน เครื่องมือมันก็ไม่ได้สะอาด สุดท้ายก็ติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิตเลยทีเดียว การรักษาความสะอาดสำคัญมากๆ เพราะฟันเที่ใส่เครื่องมือจัดฟันจะทำความสะอาดยากกว่าปกติ ต้องใช้อุปกรณ์เสริม แต่ถ้าเราใช้ของดีแค่ไหน ซื้อมาตั้งทิ้งไว้ก็ไม่ได้ผลเหมือนกัน มันอยู่ที่เราขยันแปรงฟัน จะให้ดี นอกจากเช้าและก่อนนอน ก็แปรงหลังอาหารทุกมื้อด้วยจะดีมาก ใช้ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปากด้วย และการแปรงฟัน ที่ว่าแปรงหลังอาหารก็ไม่ใช่ว่ากินข้าวไปแล้วหนึ่งชม.แล้วมาแปรง ก็ไม่ค่อยจะมีประโยชน์หรอก ต้องแปรงทันทีหลังกินอาหาร เพราะแบคทีเรียมันจะเริ่มทำงานตั้งแต่ 10 นาทีแรกแล้ว รอ 1 ชม.แล้วค่อยแปรงก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่แล้ว ถ้ามีอาการเสียวฟัน ปวดฟัน ก็ไปพบหมอฟันทันที อย่าทิ้งไว้นาน เพราะเราอ่านเจอมาว่า เชื้อโรคที่ทำให้เราฟันผุ ปล่อยทิ้งไว้นานๆจะทำให้เราเป็นฝีในสมอง (น่าสยองไม่ใช่น้อย) ถ้าฟันผุ รักษาทันก็ดีไป แต่ถ้ามันผุจนเกินเยียวยา ต้องถอนมันลูกเดียว เสียดายนะ พึงระลึกไว้ว่า ฟันอะไรก็ไม่ได้เท่าฟันแท้ๆของเราหรอกนะ เพราะฉะนั้นรักษาให้ดีๆ ฟันจะได้อยู่กับเราไปนานๆ เราเคยเจอผู้หญิงคนนึง สวย น่ารักด้วย แต่พอเค้ายิ้มที หมดเลย คือฟันเค้าเรียงตัวสวย แน่นอนว่าเค้าต้องผ่านการจัดฟันมาแน่ๆ เพราะเราเห็นเค้าใส่รีเทนเนอร์ แต่พอถอดเครื่องมือออกฟันเค้าเป็นคราบสีน้ำตาลเลยอ่ะ แสดงว่าตอนจัดฟันเค้าไม่รักษาความสะอาดเลย ปล่อยให้มันเป็นคราบขนาดนั้น พอยิ้มทีนี่หมดมุกเลย ตอนจัดฟัน บางคนก็สงสัยว่าทำไมบางคนใช้เวลาแป๊บเดียว บางคนสี่ห้าปีก็ยังจัดไม่เสร็จ มันก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของการเรียงตัวของฟันแต่ละคนด้วย การที่หมอฟันขยับฟันเราเร็วไป อาจทำให้เนื้อฟันเราตายได้นะ มันก็จะเป็นสีดำไปเลย แก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นเวลาหมอฟันขยับฟัน ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป จะได้ไม่เกิดปัญหาฟันตาย เพราะฉะนั้นใจเย็นๆ พอมีปัญหาอะไรเนี่ย รีบปรึกษาหมอทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ มีครั้งนึง ที่เดือนนั้นเราต้องใช้ยางดึงฟัน หมอก็บอกว่าต้องใช้ยางดึงฟันนะคะ แต่ตอนนั้นหมอไม่ได้เกี่ยวยางไว้ให้ แต่ให้ยางเรามาอย่างเดียว  เรากลับมาบ้านก็มานั่งเกี่ยวเอง ปรากฏว่าเหล็กที่ยื่นมาสำหรับใช้เกี่ยวยางมันสั้นไป ยางเกี่ยวไม่ติด วันรุ่งขึ้นต้องไปให้หมอเกี่ยวเลย ไม่ปล่อยไว้นาน เพราะเดี๋ยวฟันมันจะขยับช้า การปฏิบัติตนตามคำสั่งหมอฟันอย่างเคร่งครัดสำคัญมากๆเช่นกัน เช่น การใช้ยางเกี่ยวฟัน ต้องเกี่ยวตลอดเวลายกเว้นตอนกินข้าวกับแปรงฟัน มันจะทำให้ฟันเราขยับได้เร็วขึ้นกว่าการที่หมอขยับให้อย่างเดียว บางคนก็เกี่ยวบ้างไม่เกี่ยวบ้าง เพราะบางครั้งการเกี่ยวยางมันก็ทำให้ฟันเราตึงๆ เจ็บๆเหมือนกัน บางคนก็ขี้เกียจบ้าง ลืมบ้าง มันก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ สุดท้าย ก่อนจะจัดฟัน ก็ตัดสินใจให้ดีก่อน เพราะมีขั้นตอนยุ่งยางมากมาย จัดเสร็จก็ต้องดูแลใส่รีเทนเนอร์ไปอีกหลายปี บางคนฟันมีปัญหาก็จริงแต่ก็ไม่ถึงขนาดต้องจัดฟัน ให้เสียตังค์เปล่า เพราะหมอบางคนก็อยากได้แต่ตังค์ ทำไม่ดีก็มีเยอะแยะไป แล้วอีกอย่างเลยอันนี้ พ่อแม่ ที่อยากให้ลูกดูดี เลยให้ไปจัดฟัน หรือตัวลูกเองที่อยากจัดฟัน โดยเฉพาะเด็กๆอายุน้อย บางทีเด็กก็ไม่ค่อยมีความรับผิดชอบ ไม่ชอบแปรงฟันงี้ ถ้าจัดฟันแล้วไม่ดูแล ไม่รักษาความสะอาด ก็ระวังไว้ว่าฟันของลูกจะผุก่อนมันจะสวยนะ จัดน่ะจัดได้ แต่ต้องรับผิดชอบที่จะต้องดูแลรักษาความสะอาดด้วย ที่เราเล่ามาทั้งหมดเป็นประสบการณ์ที่เกิดกับเราโดยตรง ฟังพี่เราเล่าบ้าง ฟังคนอื่นบอกมาบ้าง อ่านจากหนังสือบ้าง อาจไม่ตรงกับบางคนก็ได้ พูดมาซะยืดยาว ไม่รู้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างรึเปล่า อาจมีอะไรผิดพลาดไปบ้างก็แนะนำ คอมเมนท์ได้ แต่ขอแบบสุภาพนะคะ จากคุณ : papiyongy - [ 3 ก.ค. 51 03:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ papiyongy เป็นเหมือนเราเลยคะ เวลาที่อ้าปากกว้างๆ จะมีเสียงดังกึกๆ แต่หมอเราไม่ได้แนะนำให้ผ่าตัดจัดฟันคะ แค่บอกว่า เวลาทานอาหาร ให้ ฝึกหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ อย่ากินข้าวคำใหญ่มาก - -" แต่ทำไม่ได้ ลืมทั้งปี จากคุณ : akikosang - [ 3 ก.ค. 51 07:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ละเอียดดีจังเลยค่ะ ของเราใกล้จะเสร็จแล้ว ติดมาเกือบ 3 ปี จากคุณ : คนสวยเมืองนนท์ - [ 3 ก.ค. 51 10:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ชอบๆๆ มีประโยชน์มากๆ เลย เราเพิ่งติดเหล็กบนได้ประมาณเดือนนึงเอง ส่วนเหล็กล่างหมอนัดอีก 3 เดือนอ่ะ อ่อ.. เรามีปัญหาคือฟันบนเรามันครอบฟันล่าง^^ จากคุณ : najmee_nut - [ 3 ก.ค. 51 11:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ กำลังคิดว่าจะจัดฟันพอดีเลย จากคุณ : Anna_Molly - [ 3 ก.ค. 51 13:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เก็บเข้าคลังเลยดีกว่า จากคุณ : ป้าจะอิ๊บ (jipnaja) - [ 3 ก.ค. 51 21:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ละเอียดมากๆเลย ขอบคุณมากเลยค่ะ ตอนนี้กำลังคิดว่าจะจัดฟัน เพราะมีปัญหา ฟันมันสบกันไม่ดี แต่ก็กลัวเจ็บ แล้วเวลาจัดฟัน จะขูดหินปูนยังไงคะ (อันนี้สงสัยมากเลยค่ะ) หรือว่า รอให้จัดเสร็จตามระยะเวลาก่อน ค่อยขูด คือ ก่อนไปจัด ก็ขูด แล้วระหว่างจัดหล่ะคะ จากคุณ : Ji-N-oK - [ 3 ก.ค. 51 21:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบคุณ Ji-N-oK นะคะ คือก่อนที่หมอจะนัดติดเครื่องมือครั้งแรก หมอก็จะให้เราไปถอนฟัน (ในกรณีที่ต้องถอน บางเคสก็ไม่จำเป็นต้องถอนค่ะ) หมอก็จะเขียนใบสั่ง (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี) ในใบนั้นหมอก็เขียนเราต้องถอนฟันซี่ไหนบ้าง เราอาจจะถอนที่ร้านที่เราจะไปจัดฟันก็ได้ค่ะ หรือจะถอนร้านอื่นก็ได้ แล้วแต่สะดวกค่ะ ตรงนี้หมอฟันที่ถอนฟันให้เราเค้าจะต้องรอบคอบมาก เพราะถ้าถอนผิดซี่จะทำให้แผนการจัดฟันของเราที่หมอฟันวางแผนไว้ตอนต้นเสียหายค่ะ ตอนที่เราไปถอนนี่คนละร้านกับที่เราจัดฟันค่ะ หมอเค้าก็จะถามย้ำๆค่ะว่าซี่นี้ใช่มั้ยคะ ถ้าต้องถอนฟัน ควรจะถอน 1 อาทิตย์ก่อนการติดเครื่องมือครั้งแรกนะคะ ส่วนที่ถามเรื่องขูดหินปูน ต้องขูดหินปูนก่อนจะติดเครื่องมือนะคะ ในระหว่างที่จัดฟันถ้ามีหินปูนมากๆ หมอก็อาจจะขูดให้ค่ะ แล้วแต่กรณี และตอนที่เราจัดฟันเสร็จ หมอก็จะถอดเครื่องมือออก เราคิดว่าตรงนี้หมอก็น่าจะขูดหินปูนให้อีกครั้งค่ะ (ไม่แน่ใจนะคะ เพราะเราก็ยังไม่ถอดเลย) แต่ทางที่ดีในระหว่างที่จัดฟัน ก็ควรจะรักษาความสะอาด ดีที่สุดค่ะ การขูดหินปูนบ่อยๆไม่ดีนะคะ มันจะทำให้เนื้อฟันเรากร่อนค่ะ เนื้อฟันเราจะบางลงด้วย อาจทำให้เกิดการเสียวฟันได้ค่ะ แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ขูดออกเลย ปล่อยทิ้งนานๆคราบหินปูนจะทำให้ฟันผุค่ะ เพื่อนเราแนะนำให้เราใช้ยาสีฟัน Colgate Total 12 Professional Cream Gel เป็นเจลสีเขียวๆค่ะ เห็นเพื่อนเราบอกว่ามันช่วยลดคราบหินปูนได้ดีค่ะ ที่เราบอกมานี่เป็นแค่ประสบการณ์ที่เกิดกับเรานะคะ ซึ่งอาจไม่ตรงกับของคนอื่น มันแล้วแต่เคสแล้วแต่กรณีค่ะ อย่างถามว่าต้องขูดหินปูนมั้ย ขูดเมื่อไหร่ บ่อยแค่ไหน ถ้าเราไม่มีคราบหินปูนก็ไม่ต้องขูดค่ะ หมอก็จะบอกเเองว่าเราควรจะทำอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นการปรึกษาหมอ จึงดีที่สุดค่ะ ก่อนเราจะติดเครื่องมือครั้งแรก ก็ต้องขูดหินปูนค่ะ สำหรับเราให้พี่เราขูดให้ค่ะ พี่เป็นหมอฟัน พี่เราบอกว่าของเราไมค่อยมีหินปูนค่ะ ขูดแป๊บเดียวก็เสร็จ เราเพิ่งขูดหินปูนครั้งแรกก็ก่อนจัดฟันนี่แหละค่ะ ไม่เคยขูดมาก่อนเลย พี่เราก็บอกว่าเวลาขูดหินปูนต้องเจ็บอ่ะค่ะ ถ้าไม่เจ็บก็จะไม่สะอาด เพราะเค้าต้องใช้หัวกรอที่ค่อนข้างเล็กและแหลมค่ะ มันถึงจะเข้าถึงตรงโคนฟันที่อยู่ติดกับเหงือกอ่ะค่ะ แต่บางทีพอขูดๆไปแล้วมันไปโดนเหงือกมันก็จะเจ็บค่ะ แต่ก็เจ็บไม่มาก มันจะมีอาการสะดุ้งเล็กน้อยประมาณนั้นค่ะ หมอต้องมือเบาจริงๆค่ะถึงจะไม่เจ็บ พี่เราบอกว่าถ้าหัวกรอมันทู่เกินไปก็ทำให้เจ็บได้เหมือนกันค่ะ ส่วนที่ถามไว้หลังไมค์ว่าเราจัดฟันที่ไหน เราจัดฟันที่หาดใหญ่ค่ะ ร้านคลีนิคทันตแพทย์ทรงชัย จัดกับหมอฤทัยวัลคุ์ค่ะ ส่วนเรื่องร้านอื่นๆที่นอกเหนือจากหาดใหญ่เราก็ไม่รู้ล่ะค่ะ ว่าที่ไหนทำดีๆบ้าง ต้องลองถามคนที่เคยจัดดูอ่ะค่ะ คนที่อยากจัดที่คณะทันตแพทย์ในมหาลัยอ่ะค่ะ เราก็ว่าดีนะคะ เพราะยังไงในมหาลัยต้องมีอาจารย์หมอเก่งๆอยู่แล้วค่ะ แต่ก็ต้องเลือกที่เค้าจัดดีๆหน่อยค่ะ ฟันเราจะได้ออกมาดีๆไม่มีปัญหาค่ะ จากคุณ : papiyongy - [ 4 ก.ค. 51 02:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อธิบายได้ละเอียดมากเลยค่ะ คุณpapiyongy เพิ่งถอดเครื่องมือออกเมื่อวานนี้เองค่ะ ดีใจมากเลย เพราะเราเองก็จัดฟันมาเกือบ 3 ปี (ที่นานหน่อยเพราะบางครั้งแอบเกเร ไม่ได้ไปหาหมอตามนัด) มาช่วยเน้นอีกเสียงเรื่องทำความสะอาดค่ะ ว่าสำคัญมาก เพราะว่านอกจากตอนใส่เครื่องมือจะทำความสะอาดยากแล้ว หินปูนจะสะสมเยอะกว่าปกติด้วยค่ะ เพราะว่าช่วงที่จัดฟันจะไม่ได้ขูดหินปูนเลย จนกว่าจะถอดเครื่องมือ เราเพิ่งถอดมาคุณหมอก็ขูดหินปูนให้ ตอนใช้เครื่องกรอก็ไม่เจ็บเท่าไหร่ค่ะ แต่ตอนใช้ที่เป็นเหมือนตะขอขูดตามร่องฟัน ร่องเหงือก เจ็บมากกกก เลือดกระฉูดเลยค่ะ ยังกะขุดหาสมบัติแน่ะ แต่เราโชคดีค่ะที่สีฟันก็ไม่ต่างจากตอนก่อนจัดฟันเลย แต่หลังจากนี้คุณหมอจะเน้นให้ใช้เดนทัลฟรอสขัดตามร่องฟันทุกซี่หลังแปรงฟันก่อนนอนทุกวันค่ะ อ้อ พอถอดเครื่องมือแล้ว อย่าลืมใส่รีเทนเนอร์ทุกวันนะคะ เพราะคนที่เรารู้จักหลายคนไม่ค่อยได้ใส่แล้วฟันเคลื่อนค่ะ เด๋วจะเสียเวลาฟรีนะคะ จากคุณ : moonoidukdik - [ 4 ก.ค. 51 12:58:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ค่ารีเทนเนอร์ 4000-4500  แพงม๊ากค่ะ ของเรา 1,000 ถ้วน ฟันบน + ล่าง จากคุณ : mameaw_madcatzz - [ 4 ก.ค. 51 20:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 4 ก.ค. 51 20:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เราจัดฟันมาปีกว่าไม่เคยใช้น้ำยาบ้วนปากเลย แต่ว่าแปรงฟันบ่อย ต้องไปใช้มั้งแหละ จากคุณ : สลัดผักรวม - [ 5 ก.ค. 51 14:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ที่ถามไว้หลังไมค์ขออนุญาตมาตอบในกระทู้นะคะ ตอบคุณเอรินาค่ะ คลีนิคชื่อคลีนิคทันตแพทย์ทรงชัยค่ะ อยู่หลังลีการ์เดนท์พลาซ่าค่ะ ที่อยู่  199 ถ.แสงจันทร์ ค่ะ โทร 074-352165 คุณหมอเป็นผู้หญิงค่ะ ชื่อหมอฤทัยวัลคุ์ รู้สึกว่าที่ร้านจะมีหมอจัดฟัน 2 คนอ่ะค่ะ (ไม่แน่ใจค่ะ) ต้องแจ้งพี่ที่เคาน์เตอร์ค่ะว่าจัดกับหมอฤทัยวัลค์ ของเราฟันล่างครอบฟันบนเหมือนกันค่ะ ปากเบี้ยวนิดหน่อยด้วยเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ฟันล่างก็ไม่ครอบฟันบนแล้วค่ะ ตอนจัดฟันหมอบอกว่าหมอจะดันฟันล่างที่ยื่นออกมาเข้าไป แล้วผลักฟันบนออกมา ตอนนี้ปากก็ไม่เบี้ยวเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ แต่ถ้าฟันล่างยื่นมาก ก็อาจจะมีการผ่าตัดร่วมด้วยค่ะ ของเราตอนแรกหมอจะให้ผ่าตัดเหมือนกัน เพราะมีปัญหาที่ขากรรไกรด้วย แต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก เราก็เลยขอหมอว่าไม่ผ่าตัดได้รึเปล่า หมอก็บอกว่าได้ค่ะ ไม่ผ่าก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่มันจะไม่เนี้ยบเหมือนผ่าตัดร่วมด้วยเท่านั้นเอง ถ้ายังไงคุณเอรินาลองปรึกษาคุณหมอดูนะคะ โทรไปจองคิวไว้ก่อนก็ดีค่ะ เพราะคิวหมอฤทัยวัลค์ยาวมากค่ะ เพื่อนเราเพิ่งโทรไปเมื่อเดือนก่อนคิวเต็มไปจนถึงปลายปีเลยค่ะ จากคุณ : papiyongy - [ 9 ก.ค. 51 20:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบคุณ AllSTORY นะคะ เราถอนฟันล่างไปสองซี่ ตอนที่หมอบอกให้ถอนฟัน 2 ซี่ หมอก็จะอธิบายว่าที่ต้องถอนเนี่ย ก็เพื่อให้มีพื้นที่ให้ฟันมันเคลื่อนได้ค่ะ ถ้าไม่ถอนฟัน หมอก็ไม่รู้จะดันฟัน จัดฟันยังไง ก็เลยต้องถอนค่ะ เราเห็นบางคนจัดฟันทีถอนไป 8 เลย ฟันเราก่อนที่จะจัด ฟันล่างจะยื่นมาครอบฟันบนค่ะ ปากเบี้ยวนิดนึงด้วย หมอก็จะดันให้ฟันล่างเข้าไป แล้วดึงฟันบนออกมาค่ะ ช่วงแรกๆที่จัดฟัน แทบจะมองไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเลยค่ะ หมอก็จะค่อยๆขยับฟันให้เรา จะไม่แบบขยับที่เดียวฟันบนก็ครอบฟันล่างอ่ะค่ะ แต่พอผ่านปีแรกไป เราจะเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงค่ะ ตอนนี้ที่เห็นชัดเจนคือ ฟันล่างที่เคยยื่นออกไปก็ดันเข้ามาแล้วค่ะ แต่กว่าที่ฟันล่างจะเข้าไป แล้วฟันบนครอบฟันล่างแบบฟันปกติใช้เวลาปีครึ่งค่ะ ตอนนี้ฟันบนเราก็จัดเสร็จแล้วค่ะ เหลือขยับนิดๆหน่อยๆ แต่ฟันล่างยังมีช่องว่างตรงฟันที่ถอนไปอยู่เลยค่ะ ตอนนี้หมอก็เลยดันฟันล่างเข้าไปอีกค่ะ เพื่อให้ฟันมันเรียงชิดกัน เพราะฟันล่างเราถึงแม้มันจะไม่ครอบฟันบนแล้ว แต่มันก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางค่ะ เลยต้องจัดต่อไปอีก แล้วที่เห็นชัดเจนคือ ปากเราหายเบี้ยวแล้วค่ะ จากที่เมื่อก่อนปากเบี้ยวนิดหน่อย ฟันเราก็หุบลงด้วยค่ะ คือเมื่อก่อนเรารู้สึกว่าการเรียงตัวของฟันเรามันจะบานๆอ่ะ อธิบายไม่ค่อยถูกนะเนี่ย คือเวลาที่เรายิ้มเราก็จะเห็นเฉพาะฟันหน้า 6 ซี่ เห็นถึงแค่ซี่ที่เป็นฟันเขี้ยว แต่ฟันที่ถัดจาก 6 ซี่นั้นก็จะมองไม่เห็นค่ะ แต่ตอนนี้พอเวลาเรายิ้ม ก็จะเห็นฟันถัดจากซี่เขี้ยวด้วย งงมั้ยเนี่ย ตอนแรกหมอให้จัด 2 ปีค่ะ แล้วเราจัดมาเดือนหน้าก็ครบ 2 ปีแล้ว แต่ฟันเราตรงที่ถอนไปก็ยังไม่ชิดกันค่ะ ก็ต้องจัดต่อไปอีก เพราะบางเดือนเราแอบเบี้ยวไม่ไปหาหมอค่ะ แต่เราคาดว่าประมาณเดือนตุลาน่าจะจัดเสร็จค่ะ จากคุณ : papiyongy - [ 9 ก.ค. 51 21:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ จากคุณ : I'll get over you - [ 1 ส.ค. 51 21:05:13 ]