ดิฉันเป็นผู้ที่ถูกพาดพิงถึงจากกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q6752375/Q6752375.html
อยากจะเล่าเรื่องในอีกด้านหนึ่งให้เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านได้ลองฟังและคิดตามในมุมของเราบ้างนะคะ
คือทางเราได้หาช่างแต่งหน้าทางอินเตอร์เนต โทรไปตามเบอร์ที่เค้าให้และผู้ที่รับงานเป็นผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่า พี่ น. เราได้ถามถึงค่าใช้จ่าย พี่เค้าบอกว่าอยู่ที่1,500 ซึ่งราคานี้รวมทั้งแต่งหน้า และทำผม เราได้ถามถึงยี่ห้อเครื่องสำอางค์ที่ใช้ พี่เค้าบอกว่ามีทั้งBobbi Brown , Mac มีหลายยี่ห้อคะ (คือตรงนี้เราก็เข้าใจว่าพี่ๆที่เป็นช่างแต่งหน้ามักจะมีเครื่องสำอางค์ของหลายยี่ห้อ เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน) อยากให้มาเจอกันก่อน เราเองก็อยากเจอก่อนนะจะได้รู้จักหน้ากัน และในที่พี่ น .โพสไว้ระบุไว้ว่าทดลองแต่งน่าฟรี ซึ่งเราได้นัดเทสกันที่บ้านเพื่อนของเรา และเรายังได้บอกพี่น.ว่า อยากลองทำผมด้วย โดยที่เรากับเพื่อนจะจ่ายค่าทำผมให้เอง โดยไม่เกี่ยวกับการเทสการแต่งหน้า ซึ่งพี่เค้าก็โอเค อ้างอิงจากเว็ปนี้ค่ะ(http://www.stjohn.ac.th/department/university2007/smf/install/index.php?topic=222.0 )
เราก็นัดเจอกันโดยไปที่บ้านเพื่อนอีกคน ก่อนวันที่เจอกันหนึ่งวัน เราได้โทรConfirm พี่น .ก็ไม่ได้บอกว่าตนเองไปแต่งหน้าให้เราไม่ได้ วันที่นัดเจอกันพี่น.มาพร้อมกับช่างแต่งหน้าผู้หญิงคนหนึ่ง และสาวประเภทสองอีกคนนึ่ง แนะนำว่า พี่ผู้หญิงเป็นช่างแต่งหน้า พี่ที่เป็นสาวประภทสอง เป็นทั้งช่างแต่งหน้า และช่างทำผม แล้วค่อยบอกว่าตนเองติดธุระไม่สามารถไปได้ให้พี่สองคนนี้ไปแทน แล้วเค้าก็ค่อยมาบอกที่หลังว่าพี่มีเรื่องสำอางค์มาสองยี่ห้อ คือ Bobbi Brown และ Mti ความที่เราเป็นคนผิวแพ้ง่าย และก็ใช้เครื่องสำอางค์ของบ็อบบี้ บราว อยู่ เลยตัดสินใจเลือกใช้บ็อบบี้ บราว ถึงแม้ว่ามันจะแพงกว่า และไม่ใช่ราคาที่ตกลงกันไว้ เราก็เกรงใจพี่ๆที่เค้าต้องเดินทางมา ซึ่งในตอนที่ตกลงกันทางโทรศัพท์ พี่น.จะนัดเจอเราหางสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยจะไปลองกันตามร้านfast food ซึ่งเราเห็นว่าไม่ค่อยเหมาะสม และเราก็ไม่สะดวกใจในการทำ เราจึงได้บอกว่าเราจะเป็นผู้ออกค่าเดินทางให้ก็ได้ และให้มาเจอกันที่บ้านเพื่อน แต่พี่น.เค้าบอกว่าไม่เป็นไรมันอยู่ในช่วงการทดลองฟรี เรานัดเจอกันที่สถานีรถไฟฟ้าแห่งหนึ่ง
เรายอมรับว่าช่วงนี้เราเป็นสิว เนื่องจากเป็นคนชอบลองเครื่องสำอางค์ใหม่ๆและเป็นคนผิวมัน ทำให้เป็นสิวได้ง่าย แต่มันก็ไม่ใช่ขนาดที่ไม่เหลือผิวหน้าที่ดีอยู่เลยนะ ในการเทสเราก็สังเกตว่าเครื่องสำอางค์ที่พี่เค้าใช้เหมือนเป็นของใหม่ ไม่ได้ผ่านการใช้มาก่อนเลย และพี่เค้าก็ทำเป็นเหมือนผู้เชี่ยวชาญนะ เหมือนเคยแต่งหน้าให้กับดารา หรือ มีเพื่อนเค้าเคยแต่งหน้าให้กับดารา และเค้าก็ไปทำด้วย พี่เค้าใช้คำพูดเหมือนเป็นการบิ้วให้เราคิดเอง ว่าเค้าเป็นมืออาชีพ แต่เค้ายังไม่รู้จักการใช้ศิลปะในการผสมสี บอกจะเอาตาวิ้งก็เอาสีขาวมาป้ายแค่นั้นจบ พอคุยๆกันไป พี่เค้าก็บอกว่าเค้าพึ่งลาออกจากการเป็นโปรแกรมเมอร์ได้สองอาทิตย์ แต่เค้ามีร้านทำผมมานานแล้วนะ ไปเรียนทำผมมาได้ประมาณ3-4เดือน แต่ในช่วงที่เค้าทำเค้าก็คุยกับเพื่อนเค้าเหมือนว่าเคยไปแต่งหน้ารับปริญญาเป็นประจำ มีลูกค้าเข้ามาให้เค้าแต่งให้ที่ร้านบาง รู้จักกับช่างแต่งหน้าที่แต่งหน้าให้กับดาราทั้งช่อง3 และกันตนา เราก็ไม่ได้คิดอะไร ด้วยที่ว่าพี่เค้าเป็นสาวประเภทสอง ซึ่งเราชอบ เพราะเราว่าสาวประเภทสองส่วนใหญ่แต่งหน้าสวยนะ เหมือนมีพรสววรค์ แต่เราว่าคนนี้ไม่ใช่ พอตอนที่เค้าแต่งหนาเราออกมานะเราตกใจมาก หน้าเราหนามากๆ เราเข้าใจนะพี่เค้าก็อยากให้หน้าเราดูเนียน พยายามกลบรอยสิวให้เรา แต่เราไม่ชอบเลย เราอยากได้ที่มันเป็นธรรมชาติ เค้าได้แต่พูดบลาๆๆว่าเด๋วตอนออกกล้องหักลบไปอีก20%แต่งอย่างงี้แระกำลังดีเลย และช่วงนี้เราแพ้ด้วยก็ไม่อยากให้ใช้เยอะ พี่เค้าวาดคิ้วให้เราดุได้อีก แต่งหน้าเหมือนแต่งหน้างิ้วเลย เป็นใครๆอยากเป็นงิ้วหรอคะถ้าไม่ใช่อาชีพ ครั้งสุดท้ายเราไปล้างออกให้พี่เค้าแต่งใหม่ เราอยากได้แบบใสๆๆ เบาๆ เห็นสิวบางก็ไม่เป็นไร ก็หน้าคนนะคะ ไม่ใช่กระดาษ เวลาถ่ายรูปก็สามารถรีทัชออกได้ไม่ใช่หรอ แต่พี่เค้าก็ยังทำออกไม่ถูกใจเรา และที่เราให้พี่เค้าแต่งให้หลายครั้งมันก็เป็นสิทธิของเราไม่ใช่หรอ เพราะเราคงไม่ไห้เค้าทำให้ฟรีอยู่แล้ว หากไม่ให้เป็นเงิน ก็ต้องเลี้ยงข้าวอยู่แล้ว และที่พี่เค้าบอกว่า2,500 แล้วต้องไปที่นครปฐมเป็นเรื่องจริงนะ แต่เราจองโรงแรมให้เค้าไว้1ห้อง และวันไปเราก็ให้พี่คนขับรถไปรับเค้านะ คืออาจจะไม่ใช่ที่ร้านแต่ก็ไม่น่าลำบาก คือนัดที่สถานรถไฟฟ้าหมอชิต ซึ่งเป็นที่ที่สะดวกทั้งเค้า และเรา หากได้ไปอยู่ที่นั้นด้วยกัน เราคงไม่เสียมารยาทพอที่จะให้พี่เค้าออกไปหาที่ทานข้าวเองหรอกนะ และอีกอย่างนครปฐมพี่เค้าเคยไปหรอ รู้หรอว่าต้องไปกินที่ไหน หรือจะอยู่ในโรงแรมตลอด และที่เราขอแต่งให้แม่ฟรีจริงนะ เราพูด ซึ่งพี่ที่เคยแต่งหน้าให้พี่สาวเราตอนรับปริญญา แต่งหน้าให้ทั้งบ้านเลยนะ ไม่ว่าจะ แม่ อาม่า ป้าเรา ตัวเรา แล้วเค้าคิดจริงๆก็แค่พี่เรา แต่เค้าก็ได้พิเศษจากพวกญาติเรานะ ได้เยอะเชี่ยวแหละ คนหนึ่งให้เค้า มากกว่า 500บาทอีกนะ แค่เค้าแสดงน้ำใจ และ เราให้เค้าไปสองวัน แต่งสองคนนะ เรามีรถรับส่ง นอนฟรี กินฟรี พี่เค้าเรียกเราคนละ2,500 ต่อคน ต่อวันนะ คนอื่นที่เราติดต่อหลังจากเค้าเรียกเรา2,500 แต่เค้าขับรถไปเอง และนี้ก็เป็นราคารวมทั้งแต่งหน้าทำผมนะ แต่เราก็ไม่เอาเพราะเราถือว่าเราตกลงกับพี่น.ไว้แล้ว แล้วเค้าก็พูดจาดีมาก เราไม่อยากทำลายน้ำใจกัน และเราก็ตกลงกันนัดเจอกันแล้ว
จริงๆแล้วเราจำเป็นต้องจ่ายค่าทดลองด้วยหรอ?
ทั้งที่ตกลงไว้ว่าไม่ เราจะจ่ายให้ในส่วนที่พี่เค้ามาลองทำผมให้เรา แต่ที่มานี้ไม่ได้มาทำผมเลยนะ หวียังไม่เตรียมมาเลย จะลองทำทีก็ยีหัวที...ไหวไหม
จริงๆไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่อะไร พี่เค้าก็ได้เงินไปแล้ว1,000 ซึ่งเป็นส่วนที่เราไม่ต้องให้ด้วยซ้ำ เราว่ายังมากไปเลยนะ เพราะพี่เค้าไม่ใช่มืออาชีพนะ อายไลเนอร์ยังกรีดไม่ได้เลยอะ ต้องขอเวลาคิดก่อน? เป็นเพื่อนๆจะจ้างไหมคะราคา2,500แนะ เงินนะค่ะคุณจะจ่ายทั้งที่ก็ต้องซื้อความพอใจด้วยซิ ไม่ใช่จะมาอ้างอย่างเดียวว่าหมดเงินไป5หมื่น แล้ว5หมื่นเนี๊ยทำแค่เรากับเพื่อน2คนแค่นั้นหรือไง ช่วยคิดนิดนึงนะค่า ของแบบนี้มันก็ต้องลงทุนกันทั้งนั้นและค่า
อยากเตือนคนที่อยากจะลองหาช่างแต่งหน้ารับปริญญาทางเน็ต ว่าให้ระวังนะคะ อาจเจอกรณีแบบนี้ จะเสียความรู้สึกกันเปล่าๆ จากประสบการณ์นี้ขอแนะนำว่า ไปหาพีบีเอที่เคาน์เตอร์หรือช่างที่รู้จักเถอะคะ เพราะถ้าเราเชื่อแม่ตั้งแต่แรก คงไม่ถูกนำมาประจานอย่างนี้หรอกและยังทำให้ คนที่ดี มีความรับผิดชอบ ที่ต้องการจะหางานจริงๆ โดยการลงโพสทางเน็ต ก็จะถูกมองไม่ดีไปด้วย
ส่วนในเรื่องของคำพูดของผู้ที่ตั้งกระทู้ ที่ใช้ในกระทู้นี้ที่ด่าเราด้วยวาจาที่หยาบคาย เราขอไม่ถือมาเป็นอารมณ์นะค่ะ เพราะเราถือว่าเรากำลังจะเข้ารับปริญญาเป็นบัณฑิตเร็วๆนี้ เรามีการศึกษาค่า
และในส่วนที่จะเอารูปของเราลงBefore/After ด้วยเจตนาที่จะประจานเราหรือประจานฝีมือตัวเองก็ตามแต่ ก็เชิญทำเลยค่าถ้าหากว่ามันจะไม่มาเป็นหลักฐานมัดตัวคุณเอง
ท้ายนี้นะคะ อยากฝากบอกผู้ที่ตั้งกระทู้ดังกล่าวว่าถ้าไม่พอใจ หรือมองว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือเสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้นะคะ แจ้งความได้เลยคะ และอยากจะขอร้องให้พวกคุณช่วยหยุดพฤติกรรมที่ก้าวร้าวของพวกคุณได้แล้วไม่ว่าจะเป็นการโทรไปทำเป็นต้องการรู้เรื่องราวของเรา เพื่อต้องการขอรูปถ่ายของเรา และนำมาลงทางเนต ซึ่งการกระทำดังกล่าวของคุณทำให้เรารู้สึกว่า ที่แท้จริงแล้ว พวกคุณเป็นคนที่ต้องการหางานทางเนตโดยสุจริตใจ หรือ ต้องการหาเงินโดยใช้วิธีทางลัด โดยผ่านการข่มขู่ที่ใช้ภาษา และน้ำเสียงที่ไพเราะคะ
จริงๆแล้ว เรื่องมันน่าจะจบตั้งแต่ ที่มีเด็กสองคน ที่ตกเป็นเหยื่อ และยอมเสียค่าโง่ 1,000 บาท ให้พวกคุณ ที่เป็นปลิงค่อยดูดเลือดทางอินเตอร์เนต ทั้งที่มันยังอยู่ช่วงทดลองฟรี
จากคุณ :
zamurai_gift 
- [
7 ก.ค. 51 23:22:57
]
ผู้ที่ถูกพาดพิง
