เริ่มเป็นสิวตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ที่ผ่านมาค่ะ ไปหาหมอหลายที่แล้ว ไม่หายซักที จนสุดท้าย ต้นเดือนมิถุนายน ไม่ไหวจริงๆ เพราะสิวที่เป็นมันเจ็บมาก เวลานอนสิวจะแตกมีเลือดไหลเลอะหมอนแทบทุกคืน ผ้าขนหนูที่ใช้เช็ดหน้าต้องเปลี่ยนใหม่ทุกวันเลยค่ะ เสียเงินเป็นหมื่นกับคลินิกแพงๆหลายที่ โรงพยาบาลเอกชนก็ไปมาแล้ว มีประสบการณ์ยิง Laser รักษาสิวและแผลเป็นมามากกว่า 15 ครั้งแล้วค่ะ คิดว่าเชี่ยวมากละ จนสุดท้ายไปหาหมอที่ "สถาบันโรคผิวหนัง" มาค่ะ ตอนไปตรวจ หมอไม่พูดไรมาก สั่งยามาตรึมราคาแสนถูกแต่สรรพคุณเทพมากๆ หายจริงๆค่ะ ตอนนี้กำลังจะไปทำ Laser ที่ราชเทวีคลินิกเพื่อลบรอยแผลเป็นน่ะค่ะ ซัก 4 ครั้งคงกลับมาแจ่มเหมือนเดิม :-) แล้วจะมาลงภาพและข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ ยินดีให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการรักษาที่ดีและไม่สิ้นเปลืองกับทุกท่านค่ะ หลังไมล์มาเลย
(ต่อค่ะ)
ขอบคุณมากๆสำหรับทุกกระทู้ความเห็นนะคะ พอดีว่าตอนที่เขียนกระทู้และลงรูป รีบไปนอนน่ะค่ะ เลยไม่ได้ลงรายละเอียดมาก และเห็นมีหลายท่าน e-mail มาสอบถามรายละเอียดกันเยอะมากเลย คราวนี้ เลยขอตอบทุกคำถามที่หน้ากระทู้นี้เลยนะคะ จะได้เป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆอีกด้วย :-)
แต่ก่อนหน้านี้ 4-5 ปีที่ผ่านมา เป็นสิวเป็นๆหายๆปกติค่ะ ไม่รุนแรงมาก เคยไปแพน คอสเมติกมาก่อน ประมาณ 4-5 ครั้ง รู้สึกว่า ไม่ไหวค่ะ แพง และพอจะทำ Laser เค้าก็นับเป็นจุดๆ ซึ่งรู้สึกว่ามันคงจะแพงกว่าจะหาย เลยลองเปลี่ยนไปราชเทวีคลินิดตามคำแนะนำของเพื่อนค่ะ และก็ไปมาตลอดเลย คือไม่อยากโทษว่าเค้าเลี้ยงไข้หรืออะไรนะคะ แต่แค่รู้สึกว่ายาที่ใช้รักษาเค้ามีจำกัด มันก็คือยาเบสิกที่คลินิกรักษาสิวได้รับอนุญาตให้ขายได้น่ะค่ะ แต่คนเราเป็นสิวมันเป็นไม่เหมือนกันน่ะสิคะ เป็นมากเป็นน้อยต่างกัน แต่ยาเค้าก็มีแค่ในกระบะที่เค้าจ่ายให้เราได้ แต่ที่ตัดสินใจไปสถาบันโรคผิวหนังเพราะคิดว่า อือ...ไม่ไหวละ เราคงเป็นโรคอะไรซักอย่างแน่ๆ ถ้าไปสถาบันโรคผิวหนังคงหาย หรือถ้ายังไม่หาย คาดว่าก็คงไปที่ไหนไม่ได้อีกแล้วค่ะ
ก่อนวันไปก็โทรไปถามพี่ๆที่รู้จักที่เค้าเคยไปมา ก็ได้คำแนะนำมานิดหน่อยค่ะ ตื่นตี 4 เลยค่ะ ไปถึงสถาบันโรคผิวหนัง 6 โมงตรง มีคนยืนรออยู่ประมาณ 50 คนได้ เราก็ไปกรอกแบบฟอร์มคนไข้ใหม่ นั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ซักพัก 6.30 น. เจ้าหน้าที่ก็มาเปิดเค้าเตอร์รับลงทะเบียน เราก็วิ่งปรู้ดเข้าไปต่อคิวแถวของคนไข้ใหม่ทันที ได้บัตรคิวจากเจ้าหน้าที่มาคิวที่ 50 (ซึ่งจริงๆ ถ้าเราวิ่งเร็วกว่า ไปยืนคนแรก ก็ได้คิวที่ 1 ค่ะ งั้นแนะนำว่ากรอกแบบฟอร์มเสร็จไปยืนตรงช่องลงทะเบียนรอเลย) ได้บัตรคิวละ แต่หมอจะมาประมาณ 9.00 นะคะ โดยช่วง 8.30 โมงพยาบาลจะเรียกทุกคนเข้าไปฟังขั้นตอนการเข้าตรวจ ช่วงนี้ก็จะมีการซักประวิติคนไข้ใหม่ไปด้วย (ช่วงระหว่าง 6.30 น. - 8.30 น. เดินไปหาไรทานได้ค่ะ ฆ่าเวลา ของกินแถวนั้นเยอะมากๆ ไม่ต้องห่วง) ห้องตรวจ 40-50 ห้องค่ะ หมอมาตรวจพร้อมๆกันเลย เร็วมาก รอแป๊บเดียวถึงคิว 50 ของเราละ เข้าไปหาหมอ เราก็อธิบายยกใหญ่เลย หมอไม่ค่อยพูดค่ะ ได้แต่มองหน้าเราซ้ายขวาไปมา เราจะเอายาตัวอย่างที่เราใช้จากราชเทวีให้ดูก็ไม่ดูนะคะ หมอบอกแค่ไม่เป็นไร แล้วก็เขียนใบสั่งยาเร็วมากๆ แล้วก็ให้เราไปรอที่แผนกจ่ายยาได้เลย นาทีนั้นรู้สึกหงุดหงิดค่ะ ที่ทำไมหมอไม่สนใจเราเลย แล้วเราจะหายมั้ย?? ไม่ถามไม่พูดไรมากเลย พอไปรับยา ก็ตามที่แจ้งข้างต้นในกระทู้เลย ได้ของเยอะแต่จ่ายในราคาถูก จากค่ายาทั้งหมด เป็นค่าหมออยู่ 50 บาทค่ะ แต่ถ้าเราไปนอกเวลา จะต้องจ่ายค่าหมอเป็น 200 บาทเลย และอยากแนะนำว่า เป็นไปได้ควรไปเวลาปกติดีกว่านะคะ เพราะเป็นหมอของสถาบันจริงๆ ซึ่งเก่งๆกันทุกคน เชี่ยวชาญและเป็นของราชการค่ะ ส่วนหมอนอกเวลารู้สึกเหมือนเวลาปกติเค้าเป็นหมอที่อื่นมาก่อน แล้วมาแค่เช่าที่ของสถาบันมารักษานอกเวลาราชการเท่านั้นเอง เพราะเป็นหมอประจำช่วงเวลานี้เลย ตึกของสถาบันจะเก่าๆนะคะแต่พอขึ้นไปชั้น 4 ของศูนย์ Laser นี่อลังการมาก ไม่ต่างอะไรกะคลินิกตามห้างเลย เหมือนตกแต่งใหม่ พนักงานก็พูดไม่ดี ทั้งที่ราคาทำ Laser ก็แพงมาก ก่อนทำสอบถามราคาก่อนค่ะ ว่าทำ Laser คิดราคายังไง หมอดูหน้าแล้วบอกว่า ครั้งละ 2,500 บาท ระบุครั้งไม่ได้ เราก็มานั่งคิดว่างั้นก็คง 2,500+200ค่าหมอ=2,700 บาท ต่อครั้ง ตายแน่ๆ วันนั้นไปกะเพื่อน เพื่อนทำ Laser จี้ขี้แมงวันเล็กๆออก จ่ายค่ายิงอย่างเดียว 1,800 บาท ซึ่งเราทำ Laser มาหลายครั้ง เรารู้เลยว่าแพงมาก ยิงร้านข้างนอกไม่ถึง 1,500 บาทหรอก ก็เลยไม่เอาละค่ะ Laser ที่นี่ กลับไปราชเทวี หาหมอประจำของเราดีกว่า อย่างน้อยๆเค้ายิงให้เราบ่อย เค้ารู้หน้าเราด้วย และชอบยิงแถมให้ หุหุหุ อีกอย่างเราไปรักษามานานละค่ะ ค่ายาหรือครีมจะได้ลด 10% ด้วย และชอบหมอวันจันทร์ของที่ Central Bangna ค่ะ เพราะคุณเค้าทำดีมาก ชอบค่ะ
ส่วนตัวนะคะ คิดว่าที่คนส่วนใหญ่ไปคลินิกแพงๆ เพราะความนิยมค่ะ เพื่อนบอกต่อมาว่าที่นั่นดีที่นี่ดี เราก็ไป แพงแค่ไหนก็ยอม สะดวกดีเพราะไปได้ตามห้าง ปต่งตัวสวยๆไป แวะทำไรได้หลายอย่าง แล้วชอบมีแค่คนสวยๆหน้าตาก็ไม่ได้เป็นสิวเยอะแยะมากมายที่ไปกัน (ที่เห็นมานะคะ) เวลาเราไป เราก็รู้สึกว่า อุ้ย...มาแล้วต้องแจ่มแบบนี้แน่เลย ก็เฮกันไป แต่ไปสถาบันโรคผิวหนังนี้คนละอารมณ์เลยค่ะ แต่ละคนมาเนี่ยเขลอะเลยต้องว่างั้น มากันหลายโรคมาก เราเห็นคนที่เค้าเป็นหนักกว่าเราละ เราก็ฮึดนะคะ เราเป็นแค่สิวทำไมจะไม่หาย แล้วตอนไปรอรับยา เห็นห้องยาเค้าที่มียาอัดแน่นเต็ม 1 ห้องใหญ่ๆ เราก็คิดว่า ทำไมจะไม่มียาสำหรับเรา อีกอย่าง ที่จะมาคิดว่า ยาปลอม ยาหลอก ยาเถื่อน ก็มั่นใจได้เลย เพราะนี่คือโรงพยาบาลรัฐนะคะ ทุกอย่างคัดกรองมาอย่างดีแล้ว ถูกและดี เพียงแค่คุณตัดใจออกจากความสบาย ตื่นเช้าหน่อย ไปรอ เพื่อได้อะไรที่ดีที่สุดกลับบ้าน ไม่ลำบากไปหรอกค่ะ :-) ถ้าไปคลินิก เค้านัดไปทุกอาทิตย์เลย แต่ที่นี่ไม่ต้องค่ะ ให้ยาไปตามสภาพ หายแล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีก เพราะที่หาย คือ ไปมา 2 ครั้งเอง ครั้งแรกหมอให้ยามา 2 สัปดาห์ตามมาตรฐาน พอไปครั้งที่ 2 ยาได้ผลก็ให้มาอีกเดือนนึงไปเลย ขอนิดนึงว่า ตอนที่กินยาชุดแรกเนี่ย ต้องกินยา 14 วัน กินยามาอาทิตย์กว่าละไม่มีไรเกิดขึ้นเลย ท้อมาก นึกว่ายาคงไม่ work ละ แต่พอวันที่ 10 นี่ดีขึ้นเห็นๆเลยค่ะ สิวแห้งมากๆและเริ่มยุบ สิวแห้งๆก็หลุดๆออกมา ยาจะทำให้ผิวเราแห้งมากเลยต้องทาครีมให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ดิฉันเป็นที่ช่วงใต้กรามค่ะที่แห้งมากจนคัน ก็เลยทาครีม(ของหมอ)แต่ตรงนั้น ครีมก็ได้มาจากสถาบันนี่แหละ ตอนนี้นะคะผิวตรงใต้คางที่ทาครีม นุ่มกว่าผิวหน้าอีกค่ะ ครีมเค้าดีมากๆ
ทีนี้มาถึงเรื่องที่หมอแนะนำค่ะ ... นี่คือ คำแนะนำจากหมอ จากสถาบันของรัฐนะคะ ก่อนอ่าน น่าจะลบเอาความคิดเดิมๆเกี่ยวกับเรื่องสิวของเราออกไปให้หมดก่อน หมอแนะว่า ช่วงเป็นสิว ไม่ควรใช้โฟมล้างหน้าสครับและครีม whitening เลยอย่างยิ่ง ห้ามล้างหน้าแรงๆ หรือบ่อยๆ ไม่ไปจับ ไปคลำ ไปคลึง เพราะการเป็นสิวคือการอักเสบ คุณลองมาคิดว่าถ้าเราหกล้มหัวเข่าอักเสบเป็นแผลช้ำเลือดช้ำหนองแล้วเราเอามือไปจับ ไปแคะ ไปบีบมัน มนัจะหายเร็วมั้ยคะ? หลีกเลี่ยงแดดจัด หรือที่มีฝุ่นควันเยอะๆนะคะ ช่วงเป็นสิวงดแต่งหน้าเลยค่ะ งดสวย เพราะหน้าเราอ่อนแอ ล้างหน้าสะอาดๆทาแค่ครีมบำรุงและครีมกันแดดก็พอนะคะ และถ้าเกิดเป็นหัวสิวปุ๊บ ไม่ต้องไปแตะต้องมันเลยค่ะ เพราะพอเราไปจิ้มๆมัน มันจะอักเสบ คราวนี้ล่ะเรื่องยาวเลย และถ้าอักเสบ หายแล้ว แผลเป็นแน่นอน เสียเงินๆๆๆๆๆๆ ค่ะ ท่องเอาไว้
ทีนี้เรื่องของ Laser นะคะ ไม่เคยทำ IPL หรือ V Beem ค่ะ เคยทำอย่างเดียว คือ YAG แต่รอยสิวแดง-ดำ หรือสิวอักเสบ ไปยิงทีไรก็หายไปหมดเลยนะคะ เคยถามหมอที่ราชเทวีเหมือนกัน ว่ามี Laser อย่างอื่นที่เราต้องทำมั้ย หมอเค้าก็ดีค่ะ บอกว่า อย่างอื่นมี แต่แพง และผลออกมาเหมือนกัน หมอเค้าปรับคลื่นความถให้ได้ และรู้ว่าจะทำยังไงให้เราหาย แบบ save ที่สุด ก็เลยไว้ใจหมอค่ะ แต่ก็ไม่เคยผิดหวังนะคะ ทำทีไรก็หายน่ะค่ะ แต่ตอนไปที่สถาบันโรคผิวหนัง (คลินิกนอกเวลา) หมอแนะนำ V Beem ครั้งละ 2,500 บาทมา (Laser เค้ามีหลายแบบมากค่ะ 4-5 แบบได้) เราเลยไม่เอา ราชเทวียิงครั้งละ 1,500-3,500 บาท/ครั้ง แต่ล่าสุดที่ดิฉันยิงนี่ ครั้งละ 1,800 บาทค่ะ (1,800+ค่าหมอ 100=1,900)
รายละเอียดของสถาบันค่ะ
สถาบันโรคผิวหนัง
Tel : 0-2354-8037-40
Fax : 0-2354-8042
เวลาทำการ
จันทร์ - ศุกร์ เวลาตรวจปกติ 8.30-12.00
จันทร์ - พุธ รับตรวจ 300 คนต่อวัน
พฤหัสบดี - ศุกร์ รับตรวจ 60 คนต่อวัน
คลินิกนอกเวลา
จันทร์/อังคาร/พฤหัส/ศุกร์ 16.00-20.00 รับ 120 คนต่อวัน
เสาร์ 08.30-16.00 รับ 280 คนต่อวัน
*** แต่แนะนำเวลาปกติ วันปกตินะคะ ดีกว่าเยอะค่ะ ***
แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 51 17:20:17
จากคุณ :
Miss Match 
- [
24 ก.ค. 51 22:36:03
]
จากการเป็นสิวที่หาสาเหตุไม่ได้มาเกือบ 4 เดือน ฝ่าฟันมาจนหายละคะ มีภาพให้ดูด้วย :-)
