แอร๊ยย์......ไม่ได้เข้ามาซุ่มอ่านกระทู้ในห้องแป้ง 3-4 วัน กระทู้ผุดเป็นดอกเห็ดให้อิป้านั่งอ่าน (แต่ไม่ค่อยได้โพสตอบเค้า) ทั้งค่ำเลยเจ้าค่ะ แล้วอิป้าก็ต้องมาสะดุดกับกระทู้
http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q6859612/Q6859612.html
ที่คุณ >>>:::jAm:::<<< ได้ระบายความคับแค้นใจในการใช้บริการร้านทำผมไว้ ตอนแรก อิป้าก็กะว่าจะแค่โพสตอบไว้ในกระทุ้คุณเค้า แต่!!! ด้วยวิญญาณของช่างทำผมคนหนึ่งที่ฝีมืออาจจะไม่เข้าขั้นอินเตอร์ แต่ก็มีจรรยาบรรณอย่างเต็มเปี่ยม วันนี้ อิป้าจะมาหักหลังช่างทำผมด้วยกันด้วยการ เสนอวิธี แก้สถาการณ์แย่ๆที่ในร้านทำผม
แด่ ช่างทำผม และร้านทำผม (แค่...บางร้าน)
ในฐานะช่างทำผมคนหนึ่ง อิป้ารู้สึกอับอายและเบื่อหน่ายกับกลยุทธ์การตลาดแบบเห่ยๆของร้านทำผมหลายๆที่ โดยเฉพาะร้านทำผมใหญ่ๆ ที่ต้องพยายามหาเงินมาโปะค่าเช่าห้าง ค่าแอร์ ค่าเด็ก ฯลฯ เราเข้าใจนะว่าการทำร้านใหญ่ใช้ทุนสุงมาก ดังนั้นทางร้านจึงต้องพยายามหาเพิ่มมูลค่าจากงานที่ให้บริการลูกค้า แต่....
หากไม่มีกลยุทธ์ในการโน้มน้าวจิตใจคนเพียงพอ ก็อย่าเลยค่ะ เพราะสิ่งต่างๆที่พยายามยัดเยียดให้ลูกค้านั้น มีแต่จะสร้างผลในแง่ลบต่อร้าน และทัศนคติของคน หากได้รู้สึกไม่ดีแล้ว ก็ยากที่จะเรียกศรัทธาคืนมา โดยเฉพาะผู้บริโภคที่เป็น"ผู้เลือก" ด้วยนั้น "ผู้ถูกเลือก" อย่างร้านทำผมนั้นแหละที่จะมีแต่เสียหาย
แล้ว กลยุทธ์ในการโน้มน้าวจิตใจคนนั้น เป็นอย่างไร และแบบไหนบ้าง คงจะต้องแนะนำห้ช่างทำผมไปหาหนังสือสามก๊กมาอ่านแล้วล่ะค่ะ เพราะอิป้าคงจะพูดที่นี่ไม่จบแน่ๆ เอาตัวอย่างไปเช่น...
ถ้าจะเชียร์อบไอน้ำ....
สมมติเปรียบเทียบในสถานการณ์ที่คุณเดินหลั่นล้า ช้อปเสื้อผ้าอยู่แถวแพลตตินั่ม อยู่ๆ แม่ค้าร้านที่คุณกำลังเลือกเสือ้เดินมาแล้วบอกคุณว่า...
"น้องคะ เสื้อที่น้องใส่น่ะ เสี๊ยว เสี่ยวเค่อะ พี่ว่า เสื้อร้านคุณพี่นี่จะเริ่ดกว่านะเค๊อะ" แบบนี้ แล้วใครมันจะไปยิ้ม แล้วอุดหนุนได้ลงล่ะ!!
ฉันใดก็ฉันนั้นกับร้านทำผม ในกรณีที่จะเชียร์อบไอน้ำ หากช่างเอาแต่ถากถาง ติเตียนผมลูกค้า (ซึ่งลูกค้าเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าผมเค้าเสีย จะตอกย้ำเค้าทำไม?) คงจะไม่มีลูกค้าคนใดยินดีปรีดารีบจกเงินใช้บริการเพิ่มจากคุณหรอก
ถ้าเป็นร้านอิป้าเอง อิป้าก็คงแค่เปิดฝาทรีสเมนต์ให้ลูกค้าดม (เป็นการใช้กลิ่นหอมล่อ อิอิ) แล้วบรรยายสรรพคุณของสินค้าเรา พร้อมกับคำแนะนำในการอบไอน้ำ รวมถึงความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย (ซึ่งอิป้าไม่มีหวง) ให้กับลูกค้า ซึ่งวิธีนี้ อิป้าไม่รับรองผลหรอกค่ะ !!! (แล้วจะมาแนะนำทำไมหว่าเรา) แต่...ลูกค้าส่วนใหญ่ถึงจะไม่ใช้บริการอิป้าตอนนั้นเลย เค้าก็กลับมาทำวันหลังเด้อค่า~
เอาไปแค่นี้ แค่แซมเปิ้ลๆ ก่อนพอ เพราะอิป้าไม่ใช่อยากจะมาคุยกะช่างด้วยกันเองเท่าไหร่หรอก แต่อิป้าอยากจะคุยกะสาวๆ ห้องแป้งนี้มากกว่า กับ....
"เทคนิคในการหลีกเลี่ยงสถานการณ์สุดเซ็งในร้านทำผม"
1.พกแชมพู ทรีสเมนต์ที่ใช้ประจำไปร้านทำผมด้วย
หรือถ้ากลัวเกะกะ ก็ซื้อขวดเล็กฝากไว้ในร้านประจำที่ไว้ใจได้ หรือ ซื้อแบบซองจากร้านโชว์ห่วยติดกระเป๋าไว้ (แชมพูสัก 3-4 ซอง ครีมนวดสัก2-3ซอง แล้วแต่ปริมาณผม) เพราะว่า โดยปกติ ร้านทำผมส่วนใหญ่ จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาถูก เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนร้าน แน่นอนค่ะว่า คุณภาพของผลิตภัณฑ์ก็ต้องแปรผันตรงกับคุณภาพอยู่แล้ว กล่าวคือ ผู้รับบริการจะได้แค่ความสะอาด แต่เรื่องการบำรุง ปกป้องเส้นผมก็ไม่ต้องไปพูดถึง ในกรณีที่คุณสระไดร์ไม่บ่อยนัก ก็อาจจะไม่มีผลอะไร นอกจากการแพ้สารเคมีในกรณีเจอแจ๊คพอร์ต แต่หากคนที่สระไดร์ประจำ มากกว่าอาทิตย์ละ 2 ครั้งขึ้นไป นี่แหละค่ะเป็นตัวการอย่างหนึ่งอย่าดีที่ทำให้ผมคุณแห้งเสียฟู ได้นะคะ ดังนั้นปลอดภัยไว้ก่อน อาจจะเกะกะนิด หนักแขนหน่อย แต่ก็คุ้มกว่านะคะ
2.พกวิตามินแคปซูล เซรั่ม แฮร์โค้ท ผลิตภัณฑ์บำรุงผม ก่อนเป่าไดร์ไปด้วย เพื่อป้องกันการต้องจ่ายเพิ่ม จากการใส่ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม (เช่น ใส่วิตามิน เพิ่ม 20 บาท) หากช่างข้องใจ ก็อ้างไปเลยว่า "พอดีได้มา"ฟรี" เหลือเยอะ เลยเอามาใช้นอกบ้านด้วย " หรือถ้าใส่ที่เราเอามาเองแล้ว ช่างมันยังจะยัดเยียดอะไรอีก ก็จิกมันไปเลยว่า "หัวก็มีอยู่หัวเดียวแค่นี้ จะใส่อะไรนักหนาล่ะคะ?"
3.เลือกรับบริการเป็นอย่างๆ จากร้านแต่ละที่
งานสระไดร์ ดัดลอนไฟฟ้า อบไอน้ำ เป็นงานพื้นฐานที่สามารถรับบริการได้จากร้านหน้าปากซอย หน้ามหาวิทยาลัยค่ะ ไม่จำเป็นต้องเข้าร้านใหญ่ให้ต้องปวดตับในสถานการณ์สุดเซ็งค่ะ ก่อนที่จะใช้บริการร้านเสริมสวย ลองตั้งโจทย์กับตัวเองก่อนว่า ต้องการอะไรจากการบริการนั้นบ้าง เช่น ถ้าต้องการสระไดร์ ก็ต้องบอกตัวเองให้ได้ว่าต้องการอะไรบ้างเช่น สระนวดดีๆ ไดร์เบามือแต่ตรงนาน แล้วค่อยคิดถึงร้าน ว่าร้านใดที่จะให้เราได้ หาร้านหน้าปากซอยที่ไว้ใจได้เป็นร้านประจำสักร้าน นอกจากจะทุ่นค่าใช้จ่ายแล้ว ยังหมดปัญหาเรื่องการยัดเยียดสินค้าและบริการได้ด้วยค่ะ เพราะคนกันเองน่ะ..มันพูดกันได้!
แต่ในกรณีที่เราต้องการ งานบริการขั้นสูง เช่น การซอยที่เน้นคัทติ้งเนี้ยบขั้นเทพ หรือ การทำสีผมที่ต้องการเทคนิคแพรวพราว หัวละเจ็ดแปดสีไล่เฉด เทือกๆนี้ แน่นอนค่ะ ว่าเราจะต้องมีการลงทุนกับร้านใหญ่ ชื่อดัง อยู่แล้ว ซึ่ง แน่นอนว่า คุณลูกค้าจะต้องไปผจญเวรผจญกรรมกับกลยุทธ์ทางการตลาดของร้านแน่นอนแล้ว แต่ อิป้าเอง ก็จะบอกทางหนีทีไล่ให้เองเจ้าค่ะ...
(อ่านต่อ คห.ถัดไปนะคะ ชักจะยาวยืดเกิน กลัวอ่านลำบากค่ะ)
ปล.ทิ้งคำถามไว้ได้ค่ะ ถ้าไม่เกินความสามารถต่ำๆอิป้า อิป้าก็จะตอบค่ะ
จากคุณ :
Miss Plastic
- [
4 ส.ค. 51 20:27:45
]