ความคิดเห็นที่ 1 มาเข้าเรื่องกันดีกว่าคะ Step1 - - > จะพูดถึงอาหารเสริมจำพวก "Multi Vitamins" ก่อนนะคะ เริ่มด้วยการทาน multi vitamins ดีๆที่มีสารอาหารที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คิดว่าทานวันละ 2 ครั้ง ดีกว่าทานวันละครั้งเดียว เพราะร่างกายจะดูดซึมเข้าสู่ระบบได้ดีกว่า และทำให้ร่างกายรับสารอาหารได้ตลอดทั้งวัน ยังไงก็ตามทานตามที่คิดว่าเหมาะสมจะดีที่สุดคะ แต่พึงระลึกเอาไว้อย่าง!!! ว่าจำนวน RDA ใน Multi vitamins ส่วนใหญ่ เป็นปริมาณ “ต่ำที่สุด” ที่แนะนำให้ทานเพื่อป้องกันโรคขาดสารอาหารต่างๆ เช่น เลือดออกตามไรฟัน กระดูกเปราะ แลอื่นๆ... แต่ไม่ใช่ปริมาณที่แนะนำให้ทานเพื่อร่างกายที่มีสมรรถภาพหรือสุขภาพดี การทานวิตามินที่มีปริมาณสารอาหารมากกว่าที่ RDA กำหนดนั้นจะไม่เป็นอะไรเลยตราบเท่าที่คุณไม่ได้บ้าพลัง กินวิตามินที่มีปริมาณสารอาหารที่สูงมากๆ อาหารเสริมที่มีปริมาณสารอาหารที่ต่ำ(กว่า)จะไม่ทำให้คุณเข้าสู่ภาวะ megadose หรือการได้รับสารอาหารมากเกินความจำเป็น ถ้าคุณรู้จักทาน จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 01:10:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ... แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 01:26:52 จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 01:18:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 http://www.kroger.com/healthy_living/nutrition/Pages/default.aspx ลิงค์ในเว็บ Kroger มีข้อมูลที่จะบอกถึงปริมาณที่เหมาะสมกับตัวคุณไปจนถึงปริมาณที่สูง วิตามินที่คุณควรระวังในการทานก็คือ “วิตามินที่ละลายในไขมัน” (วิตามิน A,D,E,K) ส่วนวิตามินที่ละลายในน้ำนั้นไม่ค่อยน่าเป็นห่วง เพราะสารอาหารที่ร่างกายได้รับมากเกินไปจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ (สมมติในกรณีที่คุณมีตับและไตที่ทำงานเป็นปกติ และดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ ดังนั้นคนทานอาหารเสริมต้องดื่มน้ำมากๆน่ะคะ) การได้รับสารอาหารที่มากเกินไปจากอาหารเสริมแค่เพียงตัวเดียวมีผลกระทบต่อการดูดซึมทั้งหมดของร่างกายและก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านอื่นๆ ดังนั้นการทานในปริมาณที่สมดุล (Overall Balance) จะเป็นการดีที่สุด!!!! อาหารเสริมในปริมาณที่เหมาะสมของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ อาหารที่ทาน กิจวัตรประจำวัน และอื่นๆ ดังนั้นใช้ Common sense เอาค่ะ ในเว็บ Kroger จะแนะนำวิตามินที่ควรทานในปริมาณที่เหมาะสมของแต่ละคน และตรง Healthnote เว็บ Kroger จะบอกถึงผลข้างเคียงต่างๆ รวมทั้งบอกว่ามันคืออะไร ดังนั้นเพียงแค่คุณหยุดทานหรือทานในปริมาณที่น้อยลงเท่าที่ร่างกายต้องการจะทำให้ปัญหาการทานมากเกินไป หรือ megadose หมดไป คนเราหลังจากอายุ30ไปแล้วร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้น้อยลง ซึ่งทำให้อาหารเสริมและวิตามินมีความจำเป็นมากขึ้นเพื่อทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีดังเดิม ---------------- ***ต่อไปนี้เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับยี่ห้อที่พูดถึง (ถ้ามีก็ดีดิ่) แต่เราแปลตามข้อความต้นฉบับ ซึ่ง Tangel เค้าก็ไม่ได้มีส่วนได้เสียกับยี่ห้อที่พูดถึง เพียงแต่เค้าบอกสิ่งโปรแกรมการกินของเค้า เพื่อให้เราๆเข้าใจกันคร่าวๆ*** ---------------- ส่วนตัว Tangel เค้ากิน Multi vits คือ GNC Ultra Mega Women’s multi เป็นพื้นฐานเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีและไม่มีธาตุเหล็ก ขึ้นอยู่กับอายุและความต้องการของแต่ละคน นอกจากนั้นยังมีสาร anti-oxidants ผสมกับวิตามินพื้นฐานทั่วไปที่ร่างกายต้องการ ซึ่งทำให้เป็นทางเลือกที่ดีที่จะทาน (แต่เป็นทางเลือกที่ไม่ดีสำหรับเราอ่ะเพราะว่ามันแพ๊งแพงงงง ว่าที่เมกาแพงแล้วเมืองไทยแพงยิ่งกว่า) นอกจากนี้ เจ๊เค้าก็กิน GNC Women’s ultra nourish hair Tangel บอกกินทั้ง 2 ตัวนี้เป็น vitamin base แล้วค่อยเพิ่มวิตามินที่ควรจะกินขึ้นอยู่กับความต้องการของร่างกาย แล้วก็แนะนำอาหารเสริมจาก www.vitacost.com ยี่ห้อ nsi เพราะมีคุณภาพดีและราคาถูกมากกกก (ถูกจนเราไม่อยากไปซื้อวิตามินแถวศิริราชแล้วเพราะราคาถูกแบบไม่เห็นฝุ่น เราว่าสั่งมาเมืองไทยโดนค่านู่นนี่นั่นยังคุ้มกว่าเลย แต่...... เค้าไม่ส่งเมืองไทย แป่ว) จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 01:26:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Step2 - - > Start with the following base in your multi วิตามินพื้นฐานทั่วไปใน multi viatamins Vitamin A ---- ทาน 5000 ถึง 10000 iu ต่อวันกะลังดี และอย่างน้อย 50% ของ Vit A ควรมาจาก beta-carotene โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอ่านส่วนผสมดูแล้ว Vit A ทั้งหมดมีมากกว่า 5000 iu. ซึ่งนี่จะเป็นการป้องกันการทานVit Aมากเกินไป  เนื่องจากร่างกายจะไม่เปลี่ยน Beta-carotene เป็น Vit A ถ้าไม่จำเป็น สำหรับคนสูบบุหรี่ควรเลี่ยง Beta-carotene เพราะ Beta-carotene สังเคราะห์มีส่วนต่อการเพิ่มความเสี่ยง ในการเป็นโรคมะเร็งในปอดของคนสูบบุหรี่ และถ้าคุณทาน Accutane ก็ควรเลี่ยงอาหารเสริมที่มี Vit Aทุกชนิด นอกซะจากว่าจะได้ปรึกษากะหมอเรียบร้อยแล้ว ประโยชน์ของ Vit A คือป้องกันผิวแห้งแตก ลดริ้วรอย รอยย่น ลดสิวและผิวแตกลาย เป็น Anti-aging คนที่เป็นสิวหลายๆคนเพราะร่างกายมี Vit A ต่ำ ทาน 25,000 – 30,000 iu ต่อวันกะลังดี สำหรับคนที่อายุ 65 ขึ้นไปและมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่ควรทานเกินวันละ 15,000 iu สำหรับคนตั้งครรภ์ ควรทาน 10,000iu รึต่ำกว่า ( Tangel บอกเจ๊ไม่ได้ซื้อมากินต่างหาก เพราะVit A ในmulti vitamins ของแกก็เพียงพอแล้ว) Vitamin B ---- จำเป็นสำหรับผิว ผม และเล็บที่มีสุขภาพดี รวมทั้งเซลล์ต่างๆในร่างกายด้วย Vit B เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ  ประกอบด้วย thiamine (vitamin B1), riboflavin (vitamin B2), niacin (vitamin B3), pantothenic acid (vitamin B5), pyridoxine (vitamin B6), biotin, folic acid และ cobalamins (vitamin B12) คุณไม่จำเป็นจำต้องทานVit Bแต่ละตัวในปริมาณเท่าๆกัน เพราะแต่ละตัวทำงานไม่เหมือนกัน และบางตัวก็ทำงานร่วมกัน (Tangel บอกเจ๊ไม่ได้ซื้อมากินต่างหาก เพราะVit Bในmulti vitamins ของแกก็เพียงพอสำหรับเจ๊แล้ว) Multi Vits ส่วนใหญ่จะใส่ Vit B อยู่แล้ว แต่คุณจะทานเพิ่มก็ได้ถ้าร่างกายคุณต้องการ B-1, Thiamine – ดีสำหรับขจัดพิษ (Toxin) ในร่างกาย และช่วย antioxidants ด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้เซลล์ได้ทำงานได้ดีขึ้น และดีต่อระบบประสาทและคนที่เป็นโรคเครียด ควรทานวันละ 10-50 mg ไปจนถึง 100 mg แบ่งทานวันละ 3ครั้ง   B-2, Riboflaven – ผมสวย ผิวดี เล็บแข็งแรง ช่วยรักษาสิว ทาน10-100mg แบ่งทานวันละ 3 ครั้ง B-3, Niacin – ช่วยเก็บกักมอยซ์เจอร์ในผิว ผลัดเซลล์ผิว และช่วยเรื่องสิว  ทาน20-100mg หรือ กินถึง 200mg แบ่งทานวันละ 3 ครั้ง B-5, Pantothenic Acid. ช่วยเก็บกักมอยซ์เจอร์ในผิว ผลัดเซลล์ผิว ช่วยบรรเทารักษาผิว sensitive ทาน10-250mg แบ่งทานวันละ 3 ครั้ง B-6, Pyridoxine – ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี 50-100mg แบ่งทานวันละ 3 ครั้ง “Vit B6 ศึกษาโดย pennsylvania doctor ช่วยลดอาการสิว ได้50-75% ในวัยรุ่นหญิงที่เผชิญวันนั้นๆของเดือน” B-12, Cyancobalmine –overall skin health, cell division, จำเป็นสำหรับคนกินเจ กินมังสวิรัติเพราะวิตามินตัวนี้พบได้ในเนื้อสัตว์ ถ้าคุณกินเนื้อสัตว์เป็นประจำอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องทาน ทานวันละ 5-100 mg Vitamin C ---- (Ascorbic acid) ช่วยในการผลิตคอลลาเจน ปกป้องและช่วยรักษาการทำลายผิวจากแสงแดด ลดรอยบวมใต้ตา  ช่วยรักษาบาดแผล รักษาผิวและสิว ยับยั้งการผลิต melanin (อันเป็นสาเหตุให้เกิดจุดด่างดำ) ช่วยรักษา eczema, psoriasis และเป็น anti-oxidant ดีทั้งกินและทา  ทาน 1000-1600 mg ต่อวัน วันละ3ครั้ง (เจ๊ Tangel แนะนำอย่างต่ำ1000 mgทาน วันละครั้งถ้าจะทานให้ผิวมีสุขภาพดี เจ๊บอกแกทานวันละ 1000mg กะ Gnc 2ตัวที่บอกไปตอนแรกเท่ากับเจ๊แกกิน Vit C วันนึง 1500mg) ถ้าคุณอยากทานเกิน 1000mg. ให้ลดปริมาณลงแล้วแบ่งทานตลอดทั้งวัน ซึ่งร่างกายจะดูดซึ่มได้ดีที่สุด แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 02:04:15 แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 01:40:28 จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 01:39:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Vitamin D ---- Antioxidant และต่อต้านสารก่อมะเร็ง สามารถนำมาทาผิวได้ แนะนำทาน 400 ถึง 1000 iu ต่อวัน ควรหลีกเลี่ยง megadose Vitamin E ---- เติมความชุ่มชื่นให้ผิว ป้องกันการอักเสบ ปกป้องผิวจากรังสี UV ลดผิวหยาบผิวแห้ง ช่วยเยียวยาผิว เป็นantioxidant  สามารถนำมาทาผิวได้ ควรหลีกเลี่ยง megadose ทานวันละ 100 – 800 iu ต่อวัน ถ้าหวังผล anti-aging ควรทานอย่างน้อยวันละ 400 iu Vitamin K ---- ช่วยลดใต้ตาบวม รักษาแผลฟาช้ำ รักษาโรคเลือดไม่แข็งตัว ทานวันละ 65 – 80mcg ต่อวัน ควรหลีกเลี่ยง megadose   Calcium ---- 1000-2000 mg (Tangel บอกว่าเจ๊กินเพิ่มเพราะอยากให้ช่วยเรื่องความดัน) Magnesium ---- 500-600 mg ควรทาน 50% ของ calcium เท่านั้น (tangel บอกว่าเจ๊กินเพิ่มเพราะอยากให้ช่วยเรื่องความดันเหมือนกัน) Copper ---- 2-4mg มีประโยชน์มั่กๆกับผิว ช่วยเรื่องแผลเป็นกับช่วยให้ผิวฟื้นฟูตัวเอง (Tangel ไม่ได้กินเพิ่มเพราะ gnc ทั้ง2ตัวมี copper รวมแล้ว 4mg) Alpha-lipoic Acid (ALA) ---- เป็น Antioxidant ทำงานได้ดีเมื่อกินกับ Antioxidant ตัวอื่น และก็เป็นตัวช่วยให้ Antioxidant ตัวอื่นทำงานได้ดีด้วย เรียกได้ว่าเป็นการเสริมการทำงานซึ่งกันและกัน “Synergy affect” มีประสิทธิภาพทั้งกินและทาผิวโดยตรง ควรทานวันละ 30-200 mg ALA รูปแบบ R มีความเข้มข้นมากกว่า ALA เช่น ALA-R 100 mg มีค่าเท่ากับ ALA 200mg (tangle กินเพิ่ม) Chromium ---- ช่วยสู้กับสิว และช่วยลดการติดเชื้อที่ผิว ช่วยทำให้น้ำตาลในเลือดคงที่ คนที่เป็นสิวเรื้อรังส่วนใหญ่มีระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่ ควรทาน150-200 mcg ต่อวัน (tangle ไม่ได้ทานเพิ่ม) Selenium ---- ทำงานร่วมกับVit A และ Vit E ช่วยลดความรุนแรงของสิว และทำให้แผลเป็นลดลง ทาน 200 mcg (tangel ไม่ได้ทานเพิ่ม) Zinc ---- เป็น antioxidant ช่วยให้ผิวฟื้นฟูตัวเอง ลดรอยแผลเป็น ลดสิว ช่วยรักษาโรคเรื้อนกวาง (eczema) และ โรค Psoriasis 60%ของคนที่ทุกข์ทรมานจากการเป็นสิวรู้สึกว่ามีอาการดีขึ้นเมื่อทาน zinc และพบว่าการขาด zinc ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายเพิ่มมากขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ให้เกิดสิว ทาน7-30 mg ต่อวัน (tangleไม่ได้ทานเพิ่ม) ---------------------- Stepที่2 นี้จะช่วยให้คุณรู้พื้นฐานการจัดโปรแกรมทานอาหารเสริม ซึ่งคุณสามารถจัดโปรแกรมการทานอาหารเสริมส่วนตัวได้  ส่วน Step ต่อไป เป็นตัวเลือกเสริมอื่นๆ (ที่ไม่ใช่วิตามินพื้นฐาน) สามารถเลือกทานเพิ่มตามแต่ความต้องการได้เช่นกัน จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 01:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 Step3- - > ตัวเลือกเสริมแต่ก็แนะนำให้ทานน่ะ Optional but recommend add-on supplements จากที่ได้บอกไปการทานแค่ Multi Vits ส่วนใหญ่ไม่สามารถทำให้ผิว ผม และ เล็บ มีสุขภาพที่ดีที่สุดได้ และสิ่งนี้ยิ่งเป็นความจริงเข้าไปใหญ่เมื่อคุณอายุ 30 ขึ้นไป เพราะร่างกายดูดซึมสารอาหารได้น้อยลง ระบบต่างๆของร่างกายก็ทำงานได้แย่กว่าเดิมเพราะอายุที่มากขึ้น ซึ่งการทานอาหารเสริมเป็นอีกทางเลิอกหนึ่งที่สามารถช่วยได้ (ประมาณว่าเมื่อร่างกายดูดซึมอาหารได้น้อย ก็กินสารอาหารเพิ่มเข้าไปให้เยอะขึ้น ภายใต้ปริมาณที่ไม่มากเกินไป เพื่อให้ร่างกายคงสภาพเดิมนั่นเอง) จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 02:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 MSM (MethylSulfonylMethane) ---- 1000 ถึง 4000 mg ต่อวัน แบ่งทานทีละ 1000 mg หรือน้อยกว่าเพื่อการดูดซึมได้ดีที่สุด (Ultra nourish hair มี msm 500mg tangle กินเพิ่มวันละ 2500 – 4000 mg ต่อวัน) ****จากเราเอง อิอิ จริงๆ msm สรรพคุณเยอะกว่านี้มาก จนมีคนบอกว่าถ้าเกิดสามารถกินวิตามินได้ตัวเดียวจะเลือกกินอะไร หลายคนเลือก msm เพราะเป็นทั้ง anti-aging antioxidant ช่วยให้ผมยาวเร็วมากกก+สุขภาพดีด้วย แถมเล็บยังยาวตัดแทบไม่ทันแถมแข็งแรงแบบไม่เคยเป็นมาก่อน(ไม่เคยไว้ยาวได้ขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเพราะเล็บเปราะหักซะก่อน) ผิวนุ่ม ผิวแน่น ผิวกระจ่างใส ลดhyperpigmentation กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยdetox ช่วยลดความอ้วน ช่วยทำให้ฮอร์โมนสมดุล เสริมภูมิคุ้มกัน และอื่นๆอีกมากมายพูดง่ายๆคือได้ทั้งตัว แต่น่าเสียดายที่ msm เราไม่สามารถหากินได้จากอาหาร วันนึงๆเราได้msmน้อยมาก เพราะวิธีการทำอาหารทำให้msmลดน้อยลงไป ที่ Tangle พูดถึงmsm ไม่มากเพราะในทู้นั้นได้บอกถึงสรรพคุณ วิธีทาน วิธีเลือก msm ไว้อย่างละเอียดซึ่งยาวมาก (ถกกัน18หน้าได้) ไว้วันหลังว่างๆจะแปลมาลงให้ดู แต่ยังไงก็ขอcfเลยว่า msm อ่ะดีและคุ้มจริงๆ****   Silica ---- antioxidant ช่วยเรื่องผิว ผม ข้อต่อ ทำให้ผมนุ่นและเงางาม (GNC Ultra nourish hair มี 1mg) คุณสามารถกินเพิ่มได้ 500mg/วัน เพื่อผมนุ่นสลวยเงางาม พบได้ในอาหารเสริมจำพวก Horsetail แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 02:23:14 จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 02:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณค่า มีประโยชน์มาก แล้วคุณ แมงกะจุ้ย กินของไรบ้างอ่ะค่ะ จากคุณ : Patty^O^ - [ 19 ส.ค. 51 02:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอ่อ ช่วยสรุปอยากผิวสวยหน้าใสต้องกินอะไรบ้างค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : เด็กน้อยค่อยศึกษา - [ 19 ส.ค. 51 07:28:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ยังโพสไม่หมดเลยค้า จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 07:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 Omega3-6-9 Omega 6, GMA, Gamma linoleic Acid ---- 1 ใน EFAs (Essential Fatty Acids) ที่สำคัญ ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน (PMS) รักษาโรคเรื้อนกวาง (eczema) ช่วยให้ผิวโกลว์ๆเปล่งประกาย ช่วยลดริ้วรอย ลดคอเลสเตอรอล ช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญ ช่วยเรื่องผิวแห้ง ผมและเล็บ ช่วยเรื่องผมแห้ง แล้วก็ยังช่วยผมและผิวที่มันเกินไป (น่าจะอารมณ์ประมาณช่วยให้สมดุล) ช่วยลดการอักเสบ ช่วยเรื่องภาวะข้อต่ออักเสบ ช่วยเรื่องคนที่มีเม็ดเลือดแดงน้อย ช่วยขยายหลอดเลือด พบได้ใน vegetable oil เช่น Evening primrose, Borage oil, Black current seed oil “Borage oil” เป็นน้ำมันที่มี omega 6 เยอะที่สุดและเป็นแหล่งที่แนะนำในการทานเพื่อเอา GMA ควรทานวันละ 500 -3000 mg/วัน (Tangle กินวันละ 500 mg) Omega3, Fish oils, น้ำมันปลา (คนละตัวกับน้ำมันตับปลาน้า) ---- ในน้ำมันปลามี Eicosapentaenoic acid (EPA) และ Docosahexaennoic acid (DHA) ทั้ง EPA และ DHA ต่างก็เป็น Omega3 Fatty Acids อาหารเสริมน้ำมันปลาส่วนใหญ่มี EPA8% และ DHA 12% ซึ่งรวมแล้วเราได้ Omega 3 จากอาหารเสริมน้ำมันปลาอันนั้น 30% EPA และ DHA --- ช่วยต้านการอักเสบ และช่วยบรรเทาอาการโรคต่างๆหลายๆโรค ทั้งโรคทางกายและทางจิต นอกจากนี้ EPA และ DHA ยังช่วยบาลานซ์ Omega6 ให้สมดุล และ Omega6 ก็ทำให้ EPA และ DHA สมดุลเช่นกัน ซึ่งถ้าหากomegaทั้ง2ไม่ทำให้สมดุลจะทำให้คุณเกิดผลข้างเคียงคือ ความเครียดและความวิตกกังวล ดังนั้น Omega ทั้ง2 ต้องการซึ่งกันและกันเพราะร่างกายต้องการทั้งคู่เพื่อการทำงานที่ดีขึ้น ทั้ง Omega3 กะ Omega9 จำเป็นต่อสุขภาพ ร่างกาย ผิว และผม และยังช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำมันน้อยลงสำหรับคนที่ผิวและหนังศรีษะผลิตน้ำมันมากเกินไป ช่วยรักษาสิว โรคเรื้อนกวาง(eczema) และ psoriasis ควรทานวันละ 1000 - 5000mg ต่อวันหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคน (Tangel กินวันละ 5000 mg เพราะมีภาวะความดันโลหิตสูงและผิวมัน โดยกิน 1700 mg สามเม็ด โดยคุณจะแบ่งกินทั้งวันหรือว่าจะกินพร้อมกันก็ได้) ถ้าคุณเป็นพวกกินน้ำมันปลาแล้วเรอเป็นน้ำมันปลา (fish burps) ให้ทานปริมาณน้อยกว่านี้กับอาหาร แล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณทีละน้อย อาการ “เรอ” ก็จะหายไปใน 2 อาทิตย์ Flaxseed oil เป็นแหล่งของ Alpha-linolenic acid ร่างกายมนุษย์เราสามารถเปลี่ยนเป็น EPA และ DHA ได้ แต่ยังไงร่างกายก็มีขอบเขตจำกัดในการเปลี่ยน ดังนั้นคุณจะได้ EPA และ DHA ที่น้อยกว่า Fish oil (ต่อเม็ด)  Tangleโดยส่วนตัวแล้วจึงแนะนำ Fish oil มากกว่าเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สำหรับคนที่จะทาน Flaxseed oil แทน Fish oil จากการวิจัยพบว่าคุณต้องทาน Flaxseed oil เป็น 10เท่า ของ ALA เป็น EPA20 ซึ่งก็หมายความว่า  Flaxseed oil 7.2g มีค่าเท่ากับ Fishoil 1g. แต่ยังไงก็ตามการทาน Flaxseed oil ในปริมาณมากๆก็ไม่ก่อให้เกิดอาการเรอ (อันเป็นผลข้างเคียงโดยปกติของ Fishoil) จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 08:06:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ... แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 08:10:27 จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 08:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Fatty Acid composition of different seed & fish oils 1) Gamma-Linolenic Acid (GLA) is rare, with Borage Oil having the highest amount at 24%. 2) Linoleic Acid is common in all of these oils. However, only 5-10% of the Linoleic Acid is converted to GLA due to blockage by poor diet, stress, aging, alcohol, etc. Therefore, direct sources of GLA are preferable. 3) Alpha-Linolenic Acid is rare. Flax and Perilla have the highest amount (55%) and Hemp Oil the second highest (19%) 4) Black Currant Oil and Hemp Oil are the most balanced oils, with Black Currant Oil having more GLA and Hemp Oil more Omega-3. จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 08:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 Large variability in omega-3 content may exist amongst fish species depending on the waters they come from, wild or farmed, etc. จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 08:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Omega9 ---- คนโดยปกติส่วนใหญ่ไม่ต้องการ Omega9 เพราะส่วนใหญ่มีมากพอแล้วในร่างกาย Omega9 พบใน Olive oil, canola/rapeseed oil, mustard seed และ wallflower seed Omega9 ไม่ใช่ EFAs เพราะว่าร่างกายคนเราสามารถสร้างได้จากอาหารทั่วไปที่เรากิน แต่คนที่เป็นมังสวิรัติอาจจะขาด Omega9 ได้ Omega3-6 เป็นสิ่งที่ส่วนใหญ่เราขาด เพราะว่ามันไม่สามารถสร้างได้เองในร่างกายมนุษย์ทั้งหมด เพราะอย่างงั้นเราต้องกินจากอาหารที่มี Omega3-6 หรือทานวิตามินเข้าไปโดยตรง ซึ่งพบใน ปลา สัตว์น้ำประเภทที่มีเปลือก flaxseed/linseed, soya oil, canola oil (rapeseed) hemp oil, chia seed, เมล็ดฟักทอง, เมล็ดทานตะวัน, walnuts และผักใบเขียว Biotin ---- คือ วิตามิน B ที่ละลายในน้ำ เป็นวิตามินบูสเตอร์ที่สำคัญในการเร่งความยาวผมและเล็บ และยังมีประสิทธิภาพในการรักษาสิว และยังช่วยผิวฟื้นฟูตัวเองอย่างช้าๆ นอกจากนั้นยังช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรง, รักษาอาการผิวหนังอักเสบ, รักษาอาการจิตซึมเศร้าหดหู่, ลดผมร่วง, ร่างกายอ่อนแอ, คลื่นไส้, รักษาโรคที่เกี่ยวกับท้องและลำไส้, alcoholics การจะทาน Biotin ปริมาณเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ  ปริมาณที่แนะนำคือ 1000 – 5000 mcg ต่อวัน ถ้าอยากให้เล็บสุขภาพดีทาน 2500 mcg/วัน การทาน Biotin มากเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้เกิดสิว ดังนั้นให้ทานน้อยลงถ้าคุณมีสิวเห่อและภายใน 1-2 อาทิตย์ค่อยๆเพิ่มปริมาณมากขึ้น (Tangel ได้ Biotin จาก Gnc ทั้ง 2ตัว 1500 mcg และทานเพิ่มอีก 1500 mcg รวมวันนึงเจ๊T angel ได้ Biotinวันละ 3000 mcg) Protein ---- โปรตีน จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการให้มีผมสวยและผิวสุขภาพดี นอกจากนั้นโปรตีนยังดีต่อทั้งร่างกายคุณตั้งแต่หัวจรดเท้า การทานโปรตีน 22gr เป็นปริมาณที่เหมาะสมในการเริ่มทานโปรตีน จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 08:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โดยส่วนตัวเราไม่ได้ทาน Multi vits ค่ะ เราทาน แต่ว่าจะเริ่มทานล่ะ ที่ทานมี Vit c Biotin Msm Omega3-6-9 (เพราะผิวแห้ง และอื่นๆ) แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 10:04:13 จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 09:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 Step3 - - > Beneficial Antioxidants วิตามินเพื่อประโยชน์ด้านการต้านอนุมูลอิสระ วิตามินบางตัวข้างบนนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของ Multi vitsทั่วไปแล้วยังเป็นวิตามินที่ต้านอนุมูลอิสระด้วย สารAntioxidantsช่วยให้ร่างกายจัดการกับเซลล์ที่เป็นอันตรายอันเกิดได้จากความเครียด รังสีUV การใช้ชีวิตที่แย่ๆ อาหารทีไม่ดี อายุ และskincareที่ทำร้ายผิว และอื่นๆได้ โดยช่วยให้เนื้อเยื่อจัดการกับภาวะต่างๆนี้ได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้คุณดูหนุ่มสาวขึ้นไปตราบนานเท่านาน Tocotrienols, part of the Vitamin E family. 35-75 mg. Lutien – 20 mg Lycopene – 5 mg Grape Seed Extract – 50 mg Vegetable Extracts – 1000 – 2000 mg Melatonin – 1 to 3 mg (ช่วยให้นอนหลับ) จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 09:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Step3 - - > Other Anti Aging supplements commonly recommended วิตามินAnti Agingอื่นๆที่แนะนำ ส่วนใหญ่วิตามินพวกนี้จะไม่มีใน Multi vits Ginkgo Biloba – 60 mg daily (ช่วยในการทำงานของสมองและเส้นประสาท) N-acetyl-carnitine – 0.5 - 1000 mg ช่วยในการทำงานของสมองและเส้นประสาท) Choline/Inositol – 1000 - 2000 mg (ช่วยในการทำงานของสมองและเส้นประสาท) Saw Palmetto Oil – 80-160 mg (ลดการผลิต DHT อันมีผลเกี่ยวเนื่องกับผมบางและหลุดร่วง ) Glucosamine Sulfate –500 - 1500 mg (ผิวหนังและข้อ) Chondroitin Sulfate – 400 -1200 mg (ผิวหนัง กล้ามเนื้อ และข้อ) จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 09:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Step3 - - > Hair Health สุขภาพผม Multi Vits --- มัลติวิตามินสักตัวนึงที่เหมาะสมกับคุณ (โดยอ่านฉลาก) Protein --- อย่างน้อย 22gr. ต่อวัน โดยผสมกับน้ำ หรือทานจากอาหารหรือcerealหรือนมถั่วเหลืองที่อุดมไปด้วยโปรตีน Kaschi Go Lean Crunch, Special K High Protein etc) ช่วยเร่งผมยาว หนา และแข็งแรง Biotin --- ช่วยเร่งผมยาว MSM --- เส้นผมเงางาม เร่งผมยาว เพิ่มความหนาให้แก่เส้นผม Silica --- เส้นผมเงางามและนุ่ม EFAs --- (Esscential Fatty Acids/oils) ช่วยผมแห้งเสีย ทำให้ผมนุ่ม ลดหนังศรีษะแห้ง Multi Vits, MSM, Biotin เป็นวิตามินที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพผม แม้ว่าโปรตีนจะเป็นสารอาหารที่จำเป็นแต่คุณควรเพิ่มสารอาหารตัวอื่น(ใน list) ลงไปด้วย และยิ่งดีที่สุดสำหรับหลายๆคนที่ลดน้ำหนักโดยการทานโปรตีนน้อยลง ผลลัพธ์ ภายใน 2 อาทิตย์คุณจะเริ่มเห็นว่าเส้นผมเงางาม และภายใน 6 - 8 อาทิตย์ คุณจะเริ่มเห็นว่าขนตายาวขึ้น ผมที่ขึ้นใหม่ยาวเร็วขึ้น  (สำหรับเรา เราสังเกตว่าผมที่มีอยู่แล้วก็ยาวเร็วขึ้นมากๆเลยนะ แถมยังมีผมใหม่ๆขึ้นแน่นเต็มหัวด้วย) จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 10:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จบแล้วค่ะ นั่งแปลซะเหนื่อยเลย หวังว่าจะมีประโยชน์กับใครหลายๆคน โดยเฉพาะคนที่สงสัยว่ากินยังไงและเท่าไหร่ดีน่ะคะ จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 19 ส.ค. 51 10:02:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากค่ะ สำหรับความรุ้จ้า คงต้องขออนุญาต ปริ๊นเปงโพยไปซื้อแล้วล่ะค่ะ จำไม่ได้ - -" ไปร้านยาสมัยนี้ก้อมีแต่เชียร์ยายี่ห้อที่ตัวเองอยากขาย ไปหลายที ก้อไม่ได้ยาอย่างที่ใจเราตั้งใจไปซื้อเลยงิ จากคุณ : Kanoko - [ 19 ส.ค. 51 10:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มีประโยชน์มากเลยค่ะ :) จากคุณ : SupeR GoRgeoUs - [ 19 ส.ค. 51 10:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สุดยอดเลยคะ  แปลเก่ง มีประโยชน์มากค้า ขอบคุณนะค้า จากคุณ : นางฟ้าน้อยคันซากิ - [ 19 ส.ค. 51 12:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : dogdogshop - [ 19 ส.ค. 51 15:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้เราก็กินวิตามินซี-บีรวม-สังกะสี-คอลลาเจน มาได้สักระยะแล้ว รู้สึกเรื่องหวัด+ร้อนใน+สิวลดลงจริงๆ จากคุณ : mimitang - [ 19 ส.ค. 51 15:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะ ได้ประโยชน์มาก ^^" อยากทาน Multi Vitamins มียี่ห้อไหนแนะนำไม๊คะ จากคุณ : pook_sb - [ 19 ส.ค. 51 15:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ยาวเหยียดสะใจ ปกติทานแค่วิตามินซี กับ วิตามินรวมเฉย ๆ ให้ไม่เป็นหวัดง่ายน่ะขอรับ จากคุณ : PuPe_so_Sweet - [ 20 ส.ค. 51 10:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มาก จากคุณ : bombik - [ 20 ส.ค. 51 13:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตามหามาาน ขอบคุณมากคะ น้ำใจงามสุดๆ จากคุณ : น้องวราลี - [ 23 ส.ค. 51 11:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ จากคุณ : pinky-tannie - [ 26 ส.ค. 51 09:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตามมาอ่านค่ะ  ทำให้เรารู้ว่าวิตามินนี่มันมีหลากหลายมากๆ เลยนะคะ ถ้าต้องทานเยอะอย่างนี้ คนเกลียดยาเม็ดแบบเราคงแย่  แฮ่ แฮ่ - -0 ขอบคุณนะคะ ^^ จากคุณ : pufpuf - [ 26 ส.ค. 51 10:10:30 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณค้า รู้สึกมีกะลังใจแปลบทความดีๆต่อไป จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 26 ส.ค. 51 15:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เยี่ยมมากเลย เป็นบทความที่มีประโยชน์มากๆๆๆๆ ขอบคุณมากนะคะที่แปลมาให้อ่าน จากคุณ : เหลียนปอ - [ 26 ส.ค. 51 17:13:36 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มาติดตามอ่านค่ะ ดีจัง ชอบๆ :) จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) - [ 26 ส.ค. 51 20:25:45 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ดีจังค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : น้ำคั้น - [ 27 ส.ค. 51 11:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตามมาอ่านนะคะ ข้อมูลมีประโยชน์มากเลยค่ะ ขออนุญาตก็อปใส่เวิร์ดปริ้นส์ไปให้เพื่อนอ่านนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ ^^ จากคุณ : ค อ ป เ ต อ ร์ ไ ม้ ไ ผ่ - [ 27 ส.ค. 51 18:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านเพลินไปเลย ประโยชน์มากมายจริงๆ จากคุณ : ikatbha - [ 27 ส.ค. 51 20:11:00 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณคะ เป็นแนวทางให้เราเลือกกินวิตามินที่เหมาะกับเรามากขึ้น จากคุณ : นางงามรักเด็ก - [ 28 ส.ค. 51 12:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณ สำหรับข้อมูลดีๆนะคะ จากคุณ : เจ้าตัวกลมกะปุ๊กลุ๊ก - [ 28 ส.ค. 51 12:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณ จขกท. มากๆค่ะ ได้ความรู้เพียบเลย จากคุณ : cutybabe - [ 28 ส.ค. 51 15:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณ คุณ จขกท มากๆนะคะ สำหรับข้อมูล จากคุณ : Hera - [ 30 ส.ค. 51 14:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณมากๆค่ะ ข้อมูลแน่นดีจริงๆ ^ ^ จากคุณ : kisekimeru - [ 31 ส.ค. 51 19:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่ได้เข้ามาดูนาน ยังมีหลายคนได้เห็นทู้เราแหะ จากคุณ : ...แมงกะจุ้ย... - [ 1 ก.ย. 51 18:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : poojo_ke - [ 5 ก.ย. 51 15:35:42 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ได้ความรู้มากมายทีเดียว ตอนนี้ผมร่วงเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กำลังหาไวตามินทาน อยู่ จากคุณ : -=@Shi=- - [ 8 ก.ย. 51 22:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46 น้ำใจงามจริง จริง ค่ะ ขอบคุณมากกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ จากคุณ : Lou Story - [ 8 ก.ย. 51 23:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณมากๆค่ะ ได้ความรู้มากๆเลยค่ะ จากคุณ : NaughtyP (NaughtyP) - [ 17 ก.ย. 51 14:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ชอบที่สุดเลยค่ะ เราเปนคนใส่ใจสุขภาพอยู่แล้ว เลยชอบอ่านบทความที่มีเนื้อหาครบถ้วนอย่างนี้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ดีใจนะคะที่ได้เจอคนที่ชอบอะไรคล้ายๆกันค่ะ จากคุณ : naima (mautan17aug) - [ 23 ก.ย. 51 14:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย จากคุณ : *มุมหนึ่งของความทรงจำ* - [ 1 ต.ค. 51 16:14:39 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณมากมายค่ะ ได้ความรู้เรื่องวิตามินขึ้นเยอะเลย เห็นทีจะต้องไปสอย MSM มาลองกินบ้าง ^.^ จากคุณ : @ri - [ 16 ต.ค. 51 02:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณนะคะ เเวะมาอ่านเพิ่มความรู้ :) จากคุณ : idealist - [ 22 ต.ค. 51 11:12:03 ]