Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    :::แชร์ประสบการณ์การทำ Lasik & เรื่องแจกคอนแทคเลนส์ค่ะ:::

    จขกท จิตเหี่ยว หวังว่าเพื่อน ๆ ที่เคยมาแปะข้อความไว้ที่นี่
    >>> http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q7106102/Q7106102.html <<<
    จะเข้ามาดูอีกนะคะ จขกท  ไม่ได้หนีหายหรือโม้ว่าจะให้แล้วชิ่ง แต่ไม่สามารถติดต่อหลังไมค์ได้แล้วจริง ๆ (T-T)  
    (มีคุณ green kitty ที่ติดต่อมาแล้วคนเดียวเอง)

    จขกท ขออนุญาตแตกกระทู้ เผื่อมันจะเป็นการช่วยให้เพื่อน ๆ ที่เคยแปะข้อความไว้ในกระทู้เดิมได้เห็นนะคะ

    เรื่องเลสิค จขกททำที่ตึกตรงข้ามสวนลุมค่ะ (เลี่ยงชื่อได้เป็นเลี่ยง หลังไมค์หายไปแล้ว เดี๋ยวอมยิ้มหลุดลอยอีก >_<) ทำตามพี่สาวหลังจากพี่สาวทำมาได้สามปี จนแน่ใจว่ามันไม่มีผลข้างเคียงชัวร์ ๆ เพราะ จขกท เป็นโรคปอดแหกแต่เด็ก

    เล่ายังไงดี คือมันไม่น่ากลัวหรอกค่ะ แต่ตอนทำจะตื่นเต้น ๆ เหงื่อออกที่มือและเท้านิโหน่ย - -“

    จขกท วัดสายตาช่วงเช้า แล้วผ่าตัดช่วงบ่ายค่อนเย็นเลย ก่อนทำเขาให้ใส่แว่นแทนเลนส์ขั้นต่ำ 3 วัน แต่ จขกทล่อเป็นอาทิตย์ เพราะเห็นว่าเว้นว่างจากเลนส์ยิ่งนานยิ่งดี เอาจริง ๆ ตอนแรกไม่ได้นัดว่าจะตรวจตาเช้าผ่าบ่ายหรอกค่ะ แต่บังเอิญฤกษ์สะดวกมีคนไข้เลื่อนวันพอดี ก็เลยทำทีเดียวเพราะคุณหมอคอนเฟิร์มว่าไม่มีปัญหา

    เป็นคนลำดับเรื่องแบบเดี้ยง ๆ นะคะ ตอนตรวจทางศูนย์ฯ จับวัดค่าสายตา แรงดันตา วัดระดับแสงกระจาย เอ่อ...วัดอะไรก็ไม่รู้หลายอย่าง คือช่วงตรวจก็ไม่มีอะไรมากค่ะ ไม่เจ็บไม่ปวด แต่ใช้เวลานานนิดนึง เพราะก่อนจะตรวจ เขาจะให้เราดูรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับการทำในห้องคอมพิวเตอร์จนจบแล้วค่ะเซ็นสัญญาทำ ช่วงตรวจจะมีหยอดตาเพื่อขยายรูม่านตา อันนี้จะแสบตาแบบทนได้นะคะเพราะเขาหยอดให้บนเก้าอี้นวด (เกี่ยวไหม) เราจะรู้สึกผ่อนคลายสบายจิตขึ้นมาหน่อย

    หลังจากหยอดขยายรูม่านตา มันโฟกัสไม่ได้ค่ะ ผลของยาจะค้างเติ่งราว 4 ชั่วโมง  ช่วงที่ตาเบลอ ๆ เหมือนจะโดนจับวัดอะไรก็ไม่รู้ แล้วก็พบคุณหมอ ซึ่งจะเป็นช่วงที่เลือกว่าจะใช้เครื่องมือผ่าตัดรุ่นไหน  พอดีค่าเปอร์เซ็นต์ที่ จกขท ทำแล้วแสงจะกระจายในตอนกลางคืนอยู่ที่เกือบ 2% คุณหมอเลยแนะนำแบบ ultimate เพื่อลด % ความเสี่ยงได้ดีสุดค่ะ

    เนื่องจากคุยไปคุยมาแล้ว สามารถผ่าตัดช่วงบ่ายได้เลย คุณหมอเลยให้เจ้าหน้าที่พาไปหยอดตาเพื่อหดรูม่านตา  (อันนี้ไม่แน่ใจว่าเพื่อน ๆ ที่ทำคนอื่นจะได้หยอดให้รูหดหรือเปล่านะคะ) จากนั้นก็ให้ไปพักผ่อนฆ่าเวลากินข้าว เดินเล่น กลับมาตามนัดผ่าตอนบ่ายสามครึ่ง (ช่วงเช้า จขกท ไปตรวจตั้งกะเก้าโมง เสร็จ 11 โมงนิด ๆ ค่ะ)

    ถึงช่วงผ่าก็วัดตาอีก (เดาว่าวัดเพื่อเช็คว่ารูม่านตาหดสู่ภาวะปกติหรือยังมั้งคะ) ก่อนที่จะให้เปลี่ยนชุด ล้างหน้าล้างมือ จากนั้นก็พาไปหยอดยาชารอเข้าห้องผ่าต่อไป ระหว่างรอ คุณหมอมาพูดให้หายจิตตกด้วยแหละค่ะ น่ารักมาก ๆ เหมือนเราเป็นเด็กอนุบาลเลย

    ตอนขึ้นเตียง หมอก็คอยพูดให้เราผ่อนคลาย แต่หารู้ไม่มันไม่ได้ผลหรอก คนมันปอดแหก ยังไงก็แหกอยู่วันยันค่ำ ในห้องนั้นมันมืด ๆ มีคนอยู่สี่คนได้ จากนั้นก็มีเครื่องมาลอคศีรษะเราไว้ไม่ให้เคลื่อน หมอก็ให้เงยหน้ามองไอ้จุดแดง ๆ แล้วก็เฉาะเอากระจกตาออก เอิ๊ก ๆ มันเบามากค่ะ ไม่ต้องกลัว ไม่ทันได้รู้สึกอะไร (ก็ยาชามันออกฤทธิ์อยู่นิ) แป๊บเดียวกระจกตาหายไปทั้งสองข้างแหล่ว แล้วความมัวก็เข้ามาแทนที่

    ระหว่างที่มัว ๆ นี่แหละค่ะ หมอก็จะเน้นย้ำว่าให้มองไอ้จุดแดง ๆ ข้างบน พยายามอยู่นิ่ง ๆ อย่ากรอกตาไปมา จขกท ก็พยายามมาก จำได้ว่าตอนนั้นมือเย็นเฉียบ ตัวก็เกร็ง กลั้นหายใจนานเท่าที่จะนานได้ เพราะไม่อยากให้ลมหายใจทำตัวเราเคลื่อน แต่ด้วยความที่กระจกตามันไม่อยู่ ภาพตรงหน้ามันเบลอ มองยังไงไอ้จุดแดง ๆ ที่ว่ามันก็เป็นดวงกระจาย ๆ  มองยังไงมันก็แดง ๆ ไปหมด สงสัยจะกรอกตามากไปหน่อย คุณหมอเลยต้องเตือนถี่ยิบว่าให้ทำตานิ่ง ๆ พอยิง ๆ เสร็จ ก็เอากระจกตาที่โดนเฉาะไปวางแปะคืนที่เดิม กว่าจะเสร็จมือเท้าเปียกเลยค่ะ  >_<

    พอทำเสร็จ เขาก็เอาที่ครอบตาอุลตร้าแมนมาแปะให้สองข้าง แล้วนัดเปิดตาเช้าวันรุ่งขึ้น ก่อนกลับเขาให้ยาหยอดตา คอตต้อนบัด เทป ยาแก้ปวด กับยาที่กินแล้วง่วงพ่วงมาด้วย  ระหว่างนี้ก็มองเห็นชัดแล้วนะคะ มองผ่านตาอุลตร้าแมน ก่อนจะถึงวันรุ่งขึ้นอึดอัดตัวเองมาก เพราะขี้ตามันเขรอะ ๆ เหนียว ๆ โสโครกตัวเองอ้ะค่ะ  พอศูนย์เปิดก็บึ่งไปทันที เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตาให้ แล้วไปตรวจสายตา พร้อมกับพบคุณหมอ

    สรุปว่า ประสบความสำเร็จดีค่ะ แต่ผลของการกรอกตาระหว่างทำเลสิคก็คือ เส้นเลือดฝอยตรงตาขาวของเรามันจะแตก  ของ จขกท ทำออกมา ตาขาวมันแดงเป็นเส้น ๆ กับเป็นปื้น ๆ แต่มันไม่เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นนะคะ  ไม่เจ็บไม่ปวดด้วย แต่เวลาคนอื่นมองเรามันดูน่ากลัว กว่าจะจางหายสนิทก็ร่วมสองหรือสามอาทิตย์ได้  ซึ่งระหว่างนั้น จขกท ขอลาป่วยหนึ่งอาทิตย์ไปตีพุงที่บ้าน เพราะเขินสายตาคนที่จ้องมองมาค่ะ เอิ๊ก ๆ แต่พอกลับมาทำงาน เพื่อน ๆ และหัวหน้าที่ออฟฟิศก็ทักด้วยความเป็นห่วง เลยทำงานได้วันนึงแล้วลางานต่ออีกสองวัน  ใครอยากลางานนาน ๆ ตอนช่วงมองจุดแดง ๆ พยายามกรอกตาเยอะ ๆ นะคะ ตาขาวมันจะได้แดงเป็นแผง ๆ  สะจายยยยย (จขกท ไม่รับประกันความปลอดภัยนะคะ อาจโดนคุณหมอเบิ๊ดหัวเบี้ยวได้)

    เรื่องแสงกระจาย ตอนแรก ๆ ตา จขกท ก็เห็นกระจาย ๆ เหมือนกันนะคะ แต่จะเกิดเฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้น มันเหมือนเห็นออร่าของหลอดไฟตามถนน หรือไฟท้ายของรถคันหน้า สภาพมันเหมือนดูละครเอกแซกท์สมัยก่อนที่ภาพเหมือนอยู่ในสวรรค์ ส่วนตัว จขกท ไม่ขับรถ เลยไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่เกินสามเดือน อาการแสงกระจายมันก็หายไปค่ะ เอาจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่ามันหายไปตอนไหนเหมือนกัน แต่กว่าจะรู้สึกตัวก็สามเดือนไปแล้ว

    ส่วนการดูแล ก็อย่าให้ตาโดนน้ำแค่อาทิตย์แรก เอาสำลีเช็ด ๆ รอบ ๆ ได้ อย่าขยี้ตา แล้วก็คอยหยอดยาหยอดตาและน้ำตาเทียมอย่างสม่ำเสมอค่ะ

    ป.ล. ตอนนี้ผ่านมาร่วมครึ่งปีแล้ว  สายตายังคมชัดเหมือนเดิมค่ะ  แต่สติยังไม่ค่อยเข้าที่ เพราะชอบหลับตาควานหาแว่นบนเตียงอยู่เลย

    (ทำไมมันยาวงี้นิ -*-)

    จากคุณ : เจี๊ยกค่อกลิงน้อย - [ 16 ต.ค. 51 11:25:13 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom