หลังจากที่ได้อ่านกระทู้ของคุณระเบียงดาวเรื่องเตือนภัยการซื้อของ หรือทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบอินเทอร์เนต เลยคิดได้ถึงเรื่องนึงที่เคยเกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทมากของบุ๋มค่ะ
จริงๆแล้วเพื่อนๆคงเหมือนกันกับบุ๋มที่มักจะได้รับอีเมลเตือนเรื่องเหล่านี้บ่อยพอสมควร สนใจบ้างไม่สนใจบ้าง จริงมั้ยคะ แต่ระวังเถิดค่ะเพราะมันเกิดขึ้นกันบ่อยๆ แล้วก็จริงๆด้วย
วันนึงเพื่อนบุ๋มทักมาในเอ็มว่าเอ้ยแก ชั้นโดนโกงอะ..ประมาณว่าคุณเธอสั่งของผ่านอินเทอร์เนท สั่งไปแค่ไม่เท่าไหร่ค่ะ ไม่ได้ของราคาแพงมากมาย ของก็ได้รับปกติดี แต่ปรากฎว่าตอนหลังบิลมาเก็บเงิน คุณแม่เธอถึงกับช๊อคสินีม่ากันเลยทีเดียวค่ะ คือเธอใช้บัตรของคุณแม่ทำธุรกรรม เลยบิลตามไปเก็บที่คุณแม่เธอค่ะ บิลว่าเธอซื้อของเป็นเงินไทยเกือบแสนห้า o_O"
คุณแม่เธอตกใจอย่างแรงว่าลูกชั้นซื้อบ้าอะไรของมันเกือบแสนห้าหมื่นบาทไทย ไถ่ถามเอาความจริงกัน ปรากฎว่าโดนเจ้าเว็บนั่นโกงค่ะ เรื่องนี้เลยเป็นอุทาหรณ์สอนทั้งหญิงและชายค่ะ ไม่ได้แค่สอนหญิงอย่างเดียวว่า ซื้อของผ่านระบบอินเทอร์เนตมันสะดวกสบายก็จริงอะค่ะ แต่ทุกอย่างต้องกระทำด้วยวิจารณญาณอันสูงสุดขีดนะคะ กรุณา **เลือกเว็บที่น่าเชื่อถือจริงๆเท่านั้นค่ะ!!** โชคยังดีที่ตอนหลังเพื่อนบุ๋มทำอีท่าไหนไม่ทราบเบื้องลึกได้ ทางแบงค์ช่วยจัดการกับทางตำรวจที่อเมริกาจึงได้เงินคืนมาค่ะ ทำเธอฝังใจไปอีกนานเลยค่ะ
​ หากถามว่าจะทราบได้อย่างไรว่าเชื่อถือได้หรือไม่ อย่างแรก ก็ต้องเป็นเว็บที่มีคนบอกต่อมา และอีตาคนคนนั้น เราก็ต้องมั่นใจว่าไม่ใช่หน้าม้าหน้าหมามาหลอกเราด้วยนะคะ -..-" แบบ เอาจริงๆอะค่ะ หรือมีประวัติการค้าที่ยาวนานจริงๆ และมีลูกค้ามากมายให้การยอมรับ ต้องดูเอาหลายๆองค์ประกอบนะคะ
และอีกอย่างที่สำคัญมากคือ เพื่อนๆหลายท่านคงเคยได้รับอีเมลเตือนเรื่องนี้แล้ว แต่ขออนุญาตนำมาบอกกล่าวกันอีกครั้งเผื่อว่าบางท่านจะยังไม่เคยทราบค่ะ
หากจะทำธุรกรรมการเงิน (ซื้อของผ่านเนท ใช้บัตรเครดิตเนี่ยค่ะ) ขอใช้คำว่า "ต้อง/ควรจะ" เลยแล้วกันนะคะ ว่าเว็บนั้น คำนำหน้าเว็บจะต้องเป็น https://www.lablablabla...
สังเกตว่าไม่ใช่แค่ http://www.lablablablabla...นะคะ เพราะเว็บที่มี s ต่อจาก http คือ (Hypertext Transport Protocol Secure) เว็บที่เค้ามีระบบป้องกันข้อมูลรั่วไหลไปยังมิจฉาชีพได้ค่ะ (ดูภาพประกอบนะคะ) และดังที่ขอคัดลอกมาให้อ่านดังนี้ค่ะ
ถาม: ผมเคยอ่านพบวิธีป้องกันตนเองให้รอดพ้นจากแฮคเกอร์ที่พยายามเจา ะข้อมูลขณะทำธุรกรรมออนไลน์ (เช่น การกรอกหมายเลขบัตรเครดิต) โดยบอกว่า เว็บไซต์ที่ใช้ติดต่อจะต้องแสดงคำว่า https แทนที่จะเป็น http ในช่องแอดเดรส หรือมีสัญลักษณ์แม่กุญแจที่ถูกล็อคบนหน้าเว็บ (ซึ่งผมมักจะสังเกตเห็นสัญลักษณ์ที่ว่านี้ตรงมุมล่างขวาของหน้า ต่างบราวเซอร์) คำถามก็คือ ผมจะมั่นใจได้อย่างไรว่า แฮคเกอร์จะไม่สามารถใช้ https หรือ ทำสัญลักษณ์แม่กุญแจปลอม เพื่อหลอกให้ผมตายใจ
ตอบ: ภายใต้เงื่อนไขของการป้องกันภัยดังที่คุณแจ้งมานั้น แฮคเกอร์ หรือผู้ไม่หวังดีจะถูกกีดกันออกไป เนื่องจากเว็บไซต์ที่ใช้เทคโนโลยี https (Hypertext Transport Protocol Secure) จะมีการเข้ารหัสข้อมูลด้วยกุญแจสาธารณะ (public key) ที่แข็งแรงมาก ซึ่งไม่สามารถปลดล็อคได้โดยเหล่าบรรดาอาชญากรคอมพิวเตอร์ ดังนั้น https จะช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญที่ส่งออกจากคอมพิวเตอร์ของคุณผ่านเครื อข่ายอินเทอร์เน็ตเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์ของหน้าร้านออนไลน์ สำหรับเว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่ไม่มีการป้องกันจะเริ่มต้นด้วย http (Hypertext Transport Protocol) ซึ่งแฮคเกอร์บนอินเทอร์เน็ตจะสามารถติดตาม (และขโมย) ข้อมูลที่ถูกส่งจากผู้ซื้อ (คอมพิวเตอร์ของคุณ) กับผู้ขาย (เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ไม่ใช้โพรโตคอล https) ได้อย่างง่ายดาย กล่าวโดยสรุปก็คือ ข้อมูลสำคัญต่างๆ จะไดรับการป้องกันหากมันถูกส่งออกไปจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุ ณด้วยโพรโตคอล https เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวได้รบการรับรองจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทา งด้านระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง VeriSign Inc. ดังนั้น ไอคอนกุญแจที่ถูกล็อก ซึ่งปรากฏอยู่มุมล่างขวาของบราวเซอร์จึงเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อถ ือได้ว่าการส่งข้อมูลออกไปปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ในขณะที่ https ช่วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระหว่างเดินทาง แต่มันไม่ได้ป้องกันแฮคเกอร์ที่อาจจะหลบซ่อนตัวอยู่บนเซิร์ฟเวอ ร์ร้านค้าในรูปแบบต่างๆ ก็ได้ (ซึ่งหมายรวมถึง คนภายในบริษัทที่คิดคดทรยศ) ซึ่งหากรูปการณ์เป็นเช่นนี้ การมี หรือไม่มีสัญลักษณ์รูปกุญแจในบราวเซอร์ก็ไม่อาจจะทำให้คุณสามาร ถไว้วางใจได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น หากคุณต้องการความปลอดภัยจริง แนะนำให้เลือกชอปปิ้งออนไลน์กับเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับเท่านั้นจะดีกว่าครับ
credits: http://www.arip.co.th ค่ะ
ขอบคุณที่ทนอ่านซะยาวนะคะ แต่ด้วยรักและเป็นห่วงเพื่อนๆในห้องแป้งทุกคนค่ะ เพราะเท่าที่สังเกต เราซื้อของผ่านอินเทอร์เนตกันมากกว่าแต่ก่อนมากค่ะตอนนี้ และบุ๋มเชื่อว่าในอนาคตจะยิ่งเพิ่มปริมาณการใช้จ่ายผ่านอินเทอร์เนตมากขึ้น มากขึ้น ต้องระวังเป็นเงาตามตัวนะคะ
ล้อมคอกก่อนที่วัว(ตังค์)จะหาย จะดีกว่าค่ะ
ขอให้สนุกกับการใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวังค่ะ ^^"
credits picture: Kapook.com
แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 51 08:59:06
เตือน~!! แตกประเด็นเรื่องการซื้อของผ่านอินเทอร์เนทค่ะ !!
