PANTIP.COM : Q7222607 [กระทู้จับฉ่าย] เรื่องเล่าสาวใช้ฯ ตอน อิขี้แพ้ [มินิรีวิวสกินแคร์+คลีนิกโรคผิวหนัง] [ความงาม]

ความคิดเห็นที่ 4

อยากรู้มั๊ย ว่าใช้แล้วได้ผลกับหน้าเน่าของเรารึเปล่า

หลังจากที่ทาไป 1 คืน หน้าไม่บวม ไม่แดงแล้ว เหลือตุ่มหนองอยู่ 2 กระจุก แต่เป็นกระจุกเล็ก พอใช้ต่ออีก 1 วัน หน้าก็กลับมาเป็นปกติ

เป็นอะไรที่ประทับใจเหมือนทุกครั้งที่เคยไปรักษา (ตอนรูขุมขนอักเสบ สิวเต็มหน้า รักษาประมาณ 1 สัปดาห์ สิวก็หัวหด หายหัวไปหมด)

สิ่งที่อยากบอกคือ

1. อย่าลืมว่าผิวหน้าบอบบาง มีโอกาสที่จะระคายเคืองและแพ้ เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะการใช้สกินแคร์และเมคอัพ

(มีเคล็ดลับมาบอกกล่าวด้วย แปะเอาไว้ข้างล่าง เพราะแอบก๊อปมาจากบล็อก เป็นข้อมูลที่เคยเขียนไว้) (ยังหน้าด้านเอามาเตือนได้อีก)

(หน้าตัวเองก็แพ้ ยังมีหน้ามาแนะนำแนวทางป้องกันการระคายเคืองและแพ้อีก ฟังดูเหมือนลิงตกต้นไม้เลยนะเราแต่ก็เอาเถอะ หวังดีน่ะ)

บอกตัวเองเสมอว่า เมื่อแพ้แล้ว เสียหน้า (หน้าเละ) เสียใจ เสียเวลา (กว่าจะรักษาหาย) เสียเงิน (เงินทองมีน้อย ใช้สอยอย่างประหยัด)

อึ๊ !!! แต่อย่าลืม สำหรับสาวไทย เสียสิวเม็ดเท่าหัว ไม่ยอมเสียตัวให้ใคร (เย่ย !!! บ้าาา เค้ามีแต่เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผะอั๋วให้ใคร)

2. คลีนิกเพื่อความงาม บางทีก็มุ่งหวังในเรื่องความงามมากจนเหมือนจะทำให้ความสวยไม่มีขีดจำกัด จนทำให้เราต้องวิ่งตามมันไม่ทัน

(หน้าต้องขาว ต้องใส ต้องไร้ริ้วรอย บางทีสิวเม็ดเดียวก็ทำให้เสียเซลฟ์เกินพอดี อย่าให้ถึงขนาดนี้เลย สิวก็เหมือนคนเรา มีเกิดก็มีดับ)

ท่องเอาไว้ ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง แล้วก็ปลงบ้าง อย่าถึงกับท้อแท้ สิ้นหวัง เพราะสิวแค่ไม่กี่เม็ด มันไม่อยู่กับเรานานซักเท่าไหร่หรอก

(อย่างมากมันก็อยู่กับเราถึงวันที่เราตาย ให้มันรู้ไปว่าเมื่อเราตายแล้ว สิวมันจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง แป่ว !!! จ๊าดง่าวอีกแล้ว ล้อเล่นเน้อเจ๊า)

แค่อยากบอกว่า บางทีเราก็ต้องเพิกเฉยกับเรื่องพวกนี้บ้าง ไม่ใช่ว่าอย่าไปสนใจเลย แต่อย่าเอามาทำให้รู้สึกทุกข์ใจ หรือทำให้เครียดจัด

เพราะความทุกข์และความเครียดเป็นบ่อเกิดของสิว ริ้วรอย และความชราภาพ (เดินทางสายกลาง ปล่อยวางบ้าง แล้วทุกอย่างจะดีเอง)

3. คนที่มีปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นสิว ริ้วรอยหรืออะไรก็ตามแต่ บางทีการไปคลีนิกเพื่อความงามชื่อดังก็อาจเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

เพราะคลีนิกโรคผิวหนังทั่วไปก็รักษาได้ดีไม่แพ้กัน ถึงจะไม่มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ไม่มีเลเซอร์ แต่ก็รักษาบนพื้นฐานของแพทย์ผิวหนัง

(แพทย์ทางนี้ คลีนิกประเภทนี้ มักจะไม่ค่อยยัดเยียดอะไรที่เกินความจำเป็น สวยได้เหมือนกัน ช้าช้าได้พร้าเล่มงาม ถูกตังค์กว่าอีกด้วย)

ถึงคลีนิกจะดูไม่หรูหราใหญ่โตไฮโซโห่ฮี๊ว ถึงแพคเกจยาจะดูธรรมดาและเชยไปหน่อย แต่ผลการรักษาก็ไม่ได้ด้อยลงไปด้วยเลยนะเนี่ย

4. สกินแคร์และเมคอัพหรือยาที่คนอื่นให้มา ต้องศึกษาดูก่อนว่ามันมีผลยังไง ใช้กับผิวหน้าแบบไหน เผื่อจะไม่เหมาะกับผิวหน้าของเรา

และอย่างน้อยต้องรู้จักเอะใจว่า ถ้ามันใช้ดี พี่สาวจะเอามาให้ทำไม ทำไมไม่ใช้เอง หรือว่ารักน้องสาว อยากให้น้องหน้าเนียนกิ๊กใสเด้ง

(อย่ามองโลกในแง่ดี หัดมองโลกในแง่ร้ายไว้เล็กน้อย คิดดูว่า ที่พี่สาวให้มา เพราะลองใช้แล้วไม่ดี จะทิ้งก็เสียดายเลยเอามาให้รึเปล่า)

5. ความสวยไม่มีขีดจำกัด แต่จะดีกว่าถ้าเราจำกัดมันไว้ในระดับที่ไม่สูงจนเกินไป เพราะถ้าเราคิดว่ามันไม่มีขัดจำกัด เราก็จะไม่สวยซะที

แต่ถ้ามีระดับที่จำกัดไว้ เมื่อถึงจุดนั้น เราก็จะรู้สึกพึงพอใจในความสวยที่เราพอจะมีได้ สบายใจกว่ามากังวลว่า อยากสวยกว่านี้ อยู่ร่ำไป

6. เราว่า สิวและริ้วรอยก็เหมือนเห็บหมัด เลือดไปหล่อเลี้ยงเห็บหมัดฉันใด ความเครียดและความกังวลก็ไปหล่อเลี้ยงสิวและริ้วรอยฉันนั้น

เพราะฉะนั้นเราต้องตัดไฟแต่ต้นลม อย่าให้เลือดไปเลี้ยงทั้งเห็บหมัดและสิว อย่าให้ความเครียดและความกังวลไปหล่อเลี้ยงสิวและริ้วรอย

(ว๋าย !!! เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเปรียบเทียบแบบนี้เหมือนเราเป็นหมาเลยยังไงไม่รู้ งั้นเปลี่ยนจากเห็บหมัดเป็นยุง พยาธิ เหา แล้วก็มะเร็งก็แล้วกัน)

หมายเหตุ : ทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นของเรา อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับคนอื่น โปรดใช้วิจารณญานในการตัดสินใจด้วยตนเองอีกทีค่ะ
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 51 14:18:41

จากคุณ : สาวใช้ ณ สแตมฟอร์ด บริดจ์ - [ 19 พ.ย. 51 14:08:16 ]