ความคิดเห็นที่ 1 แรงบันดาลใจ  ชอบกลิ่น เคนโซ ฟลาว์เวอร์มากค่ะ แต่ไปดูราคา ที่ถูกสุดก็  1700  บาท  แพงสุดยอด  แค่ 50 มล. ไม่มีปัญญาซื้อมาเลยค่ะ เลยจัดการทําเองซะเลย  งบไม่เกิน  300บาทด้วยซํา  น้ำหอมก็เกรดดีมากกกกกกกกกก  หัวเชื้อนําเข้าจากต่างประเทศเลยค่ะ  ที่อยากทําเองเพราะ ไปซื้อมันแพง สงสารพ่อแม่ นี่เราผสมเองงบอย่างตําไม่เกิน 200ด้วยซํา ถูกกว่า  ซีๆ ละ 3ถึง 4 บาทเป็นไหนๆ ที่บ้านก็ภูมิใจ ที่ลูกทําใช้เอง  ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อ ราคาแพงๆ มีทุกกลิ่นเลยค่ะ ส่วนผสมก็ไม่ยุ่งยาก  เเค่เตรียม ใจกายให้พร้อม เปิดเเอร์ในห้องให้เย็นเจี๊ยบ  แล้วดื่มดํากับ ความหอม ที่ชวนฝัน สูตรอย่างง่ายๆเลยนะคะ ผสม แอลกอฮอล์( เอททิล  อัลกอฮอล์) 3 ส่วน น้ำหอม 1 ส่วน โดยมีวิธีคิดง่าย ๆ คือ น้ำหอมขนาด 25 G 1 ขวด ผสม แอลกอฮอล์ ที่มีขนาดขวด 25 G ประมาณ 3 ขวด ผสมให้เข้ากัน แล้วนำไปแช่เย็น ประมาณ 2 -3 วัน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้น้ำหอมที่มีคุณภาพ และมีราคาถูกมาใช้ได้แล้วค่ะ จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 12:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แต่นแต๊นๆๆๆๆ เมื่อวานไปเดินดุ่มๆ ที่แหล่งขายหัวน้ำหอม ที่ดีที่สุด เก่า แก่ที่สุดของประเทศเลยค่ะ ตั้งมา 70ปีแล้วบอกแล้วว่า ต้องแนะนําให้เพื่อนๆใช้ของดีคุ้มค่ากับเงินที่เราเสียไปใช่ไหมคะ ออกจากบ้านไปเที่ยงกว่า กว่าจะถึงรถติดสุดๆเลยค่ะ ด้วยความ อยากทําน้ำหอม จัด เพราะเเค้นซื้อ เคนโซ ฟลาวเวอร์ มา11 มล. ตั้ง120 บาท  ฉีดแป๊ปปปเดียวก็หมดแล้ว เซ็งค่ะ ไม่หนําใจ เลยหาแหล่งข้อมูลที่จะไปซื้อหัวน้ำหอม และอัลกอฮอลล์ รวมทั้ง white musk เพื่อนๆ คงไม่รู้จักตัวนี้ตัวwhite musk เป็นตัวลดกลิ่นอัลกอฮอลล์มีMUSK 10 %,MUSK 60 %,MUSK COFIX ตามนี้เลยค่ะ ต่างตรงความเข้มข้นของแต่ละตัวค่ะ  เริ่มทํากันดีกว่านะคะ จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 12:36:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1. หัวเชื้อ น้ำหอม  ...  25 กรัม ราคา 106  บาท อันนี้ทําให้คุณแม่และตัวเอง แต่ป๊ะป๋าแอบใช้ บอกว่าหอม  มากกกกก ซะงั้น ก็ลูกผสมให้ เลยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ปลื้มจังค่ะ 2.หัวเชื้อ น้ำหอม ...ของผู้ชาย 25 กรัม  ราคา180 บาท กลิ่นนี้ดังสุดๆเลยค่ะ สําหรับ คนมีอายุ  แป่ว   น้ำหอม กลิ่นนี้สร้างชื่อเสียงให้  ปาโก้ เมื่อ 25 ปีก่อน  กลิ่นนี้ใช่เลยของป๊ะป๋าแน่นอนค่ะ หอมแบบแก่ สุดยอด  ออริจินอลเลยค่ะ  ตอนนี้กลิ่นยังไม่หายไปจากห้องนอนตัวเองเลยค่ะ  แงๆๆ กลิ่นมันแก่ๆๆๆ  แต่เราก็ชอบ  น่าจะไปทําในห้องนอนหม่ามี้ นะนี่ 3. หัวเชื้อ น้ำหอม  ...สําหรับผู้หญิง 25 กรัม  125 บาทค่ะ  กลิ่นหอมจรุงใจสุดๆเลย  ถ้าเอามาผสมจะหอมไปกี่กิโลเมตรละนี่  เราไปเลือกหัวเชื้อ น้ำหอม  ประมาณ 2-3 ชม.จน คนขายจําได้  คนซื้อเขาจะกลับบ้านกันหมดแล้ว แบบว่า ดมตัวอย่างทดลองมันทุกกลิ่นจนมึนค่ะ 4.หัวเชื้อ น้ำหอม  .... สําหรับผู้หญิง  25 กรัม  ราคา... บาท กลิ่นนี้หอมเย็นๆมีเสน่ห์  ลึกลับชวนให้หลงไหลมากกกค่ะ  ดมครั้งแรก  ใช่เลย 5.หัวเชื้อ น้ำหอม  กลิ่นดอกบัว  25 กรัม  ราคา  ... บาท ที่ซื้อเพราะชอบดอกบัวเป็นการส่วนตัว จะได้ไว้ฉีดเวลาไปวัดค่ะ  อุ๊ยล้อเล่น กลิ่น มันอ่อนดีค่ะ 6.ตัวจับกลิ่นมี 3 ประเภท  ใช้จับกลิ่นนําหอมค่ะ จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 12:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 MUSK 10%  เปรียบเทียบขนาด 25 G. แนะนำใส่ใน DEB (MUSK)  1 ขวด  ต่อ MUSK 10% 1 ขวด MUSK 60% เปรียบเทียบขนาด 25 G. แนะนำใส่ใน DEB (MUSK)  1 ขวด  ต่อ MUSK 10% ครึ่ง ขวด หรือ 1 ขวด MUSKCOFIX เปรียบเทียบขนาด 25 G. แนะนำใส่ใน DEB (MUSK)  1 ขวด  ต่อ MUSKCOFIX  1ส่วน4 หรือ 1ส่วน2 WHITE MUSK แนะนำใส่เพิ่มเติมใน   DEB  ขวดพลาสติก 7. เอททิลอัลกอฮอลล์ 1 ขวดใหญ่  65 บาทค่ะ ประมาณ 30ส่วนนะคะ เมื่อเทียบกับขนาดขวดนําหอม 25 กรัม 1 ส่วนค่ะ 8. ขวดน้ำหอมขนาดตามใจชอบราคา 10 -18 บาทค่ะ ถ้าซื้อเป็นโหลจะถูกมากค่ะ 9. บีกเกอร์เล็ก  50  บาท หลอดหยด  8-10 บาท ขวดแก้วสีชาแล้วแต่ขนาด จะใช้หรือไม่ขึ้นกับความละเอียดของแต่ละท่านค่ะ  อุปกรณ์เหล่านี่ ซื้อ ที่วิทยาศรมค่ะ แถวๆ กองสลาก   วิธีผสม   1.นํานําหอม กับ อัลกอฮอลล์ มาผสมกัน อัตราส่วน 1ต่อ 3 ค่ะ แอลกอฮอล์ 3 ส่วน น้ำหอม 1 ส่วน โดยมีวิธีคิดง่าย ๆ คือ น้ำหอมขนาด 25 Gm 1 ขวด ผสม แอลกอฮอล์ ที่มีขนาดขวด 25 G ประมาณ 3 ขวด ผสมให้เข้ากัน แล้วใส่WHITE MUSK ซึ่งเป็นตัวลดกลิ่น Alcohol MUSK 10 %,MUSK 60 %,MUSK COFIX สามารถลดกลิ่น และจับกลิ่นด้วย แต่จะแตกต่างตรงที่ ความเข้มข้นของแต่ละตัวจะต้องลดเพิ่มตามอัตราส่วน หรือตามสูตรของแต่ละท่านค่ะ จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 12:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เล็กๆน้อยๆค่ะ 1.  เราควรผสมน้ำหอม ในที่เย็นเปิดแอร์ให้แรง แล้วเริ่มทําการผสม ที่สําคัญต้อง อารมณ์ดีด้วยนะคะ เปิดเพลงคลอเบาๆก็ได้  กลิ่นออกมาจะได้หอมชื่นใจ เพราทํามาจากใจงัยล่ะ  ของเรา ปิดเพลง  พี่แจ้อ่ะ 2. น้ำหอม  ที่เขาขายขวดละ 500-1000 บาท ที่สภาพขวดชํารุด ไม่อยากให้เพื่อนๆซื้อค่ะ เพราะมันแพงไป  ถ้าทําเองงบก็ไม่น่าเกิน 300 บาทค่ะ ที่สําคัญ เราภูมิใจด้วยใช่ไหมคะ จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 12:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เคล็ดลับเล็กๆน้อยๆค่ะ 1. เอาเมล็ดกาแฟ ที่คั่วแล้ว กลิ่นฉุนๆหน่อย ไปด้วย ขณะ เลือกหัวเชื้อ นะคะ เพราะมันจะช่วยล้างกลิ่น ที่เราดมไป ไม่ให้ มึนนะค่ะ เมื่อเรา อยากดมกลิ่นใหม่ 2. เลือกกลิ่น ที่เรา ชอบ ใช่เลย อย่าเลือกตามกระแสมากนักค่ะ  เราต้อง มีเอกลักษณ์ แบบฉบับของตัวเอง 3. ก่อนไปเลือกที่นั่นจะมีกระดาษให้ติ๊กว่าเราต้องการกลิ่นไหน  ติ๊กก่อนแล้วนําไปแจ้งที่หน้าร้านนะคะ  กระดาษ เสียบอยู่ในช่องแถวๆ ที่ทดลองนําหอมค่ะ จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 12:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พูดถึงความปลอดภัย  ก็ลองพิจารณากันดูเดี๋ยวว่าเรา  เป็นม้าอีก  อ้อแล้วข้อเสีย  พร้อมรอรับฟังทุกความเห็นนะคะ  รับรองปลอดภัย ล้าน เปอร์เซนต์ค่ะ  ที่นี่เขาขายมา 70 กว่าปี แล้วไม่ดีจริงไม่บอกเพื่อนๆหรอกค่ะ  เขาส่งหัวนําหอมให้กับบริษัทต่างๆดังเช่น Johnson & Johnson (Thailand) Ltd. Shell Company of Thailand Kao Industrial Thailand Co., Ltd. Lion (Thailand) Co., Ltd. Hoechst Thai Ltd.   Procter & Gamble (Thailand) Co., Ltd. Colgate-Palmolive (Thailand) Co., Ltd. Lever Brothers (Thailand) Co., Ltd. Dutch Mill Co., Ltd. Gillette (Thailand) Co., Ltd. Government Pharmaceutical Organization Thai Petrochemical Industry Co., Ltd. Vinyl Thai Public Co., Ltd. Thai Polyethylene Co., Ltd. California Manufacturing Ltd. (AVON) Royal Canning Co., Ltd. Hi-Q Manufacturing Ltd. Narong Canning Co., Ltd. Charoen Pokaphand Group. LFD Manufacturing Ltd. Nikon (Thailand) Co., Ltd. Siam Waxy Standard Co., Ltd. จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 12:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราทํากลิ่น ทีโรส  ให้พ่อกับแม่ใช้ ท่านโปรดมากเลยค่ะ  ประหยัดดี หมดเงินไม่เกิน500-1000 บาท  แล้วขากลับ  แวะ วิทยาศรมซื้อบีกเกอร์ หลอดหยด  มาใช้ด้วย แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 51 12:46:34 จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 12:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หลอดหยด              หลอดหยดมีลักษณะเป็นหลอดแก้วที่ปลายข้างหนึ่งยาวเรียวเล็ก และปลายอีกข้างหนึ่งมีกระเปาะยางสวมอยู่ หลอดหยดใช้สำหรับดูดรีเอเจนต์จากขวดไปหยดลงในหลอดทดสอบที่มีสารอื่นบรรจุอยู่ เพื่อใช้ในการดูปฏิกิริยาเคมีของรีเอเจนต์นั้นๆ   แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 51 12:51:18 จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 12:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 บีกเกอร์มีหลายขนาดและมีความจุต่างกัน โดยที่ข้างบีกเกอร์จะมีตัวเลขระบุความจุของบีกเกอร์ ทำให้ผู้ใช้สามารถทราบปริมาตรของของเหลวที่บรรจุอยู่ได้อย่างคร่าวๆ และบีกเกอร์มีความจุตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรจนถึงหลายๆลิตร อีกทั้งเป็นแบบสูง แบบเตี้ย และแบบรูปทรงกรวย (conical beaker) บีกเกอร์จะมีปากงอเหมือนปากนกซึ่งเรียกว่า spout ทำให้การเทของเหลวออกได้โดยสะดวก spout ทำให้สะดวกในการวางไม้แก้วซึ่งยื่นออกมาจากฝาที่ปิดบีกเกอร์ และ spout ยังเป็นทางออกของไอน้ำหรือแก๊สเมื่อทำการระเหยของเหลวในบีกเกอร์ที่ปิดด้วยกระจกนาฬิกา (watch grass) การเลือกขนาดของบีกเกอร์เพื่อใส่ของเหลวนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณของเหลวที่จะใส่ โดยปกติให้ระดับของเหลวอยู่ต่ำกว่าปากบีกเกอร์ประมาณ 1 - 1 1/2 นิ้ว ประโยชน์ของบีกเกอร์   1. ใช้สำหรับต้มสารละลายที่มีปริมาณมากๆ   2. ใช้สำหรับเตรียมสารละลายต่างๆ   3. ใช้สำหรับตกตะกอนและใช้ระเหยของเหลวที่มีฤทธิ์กรดน้อย จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 12:49:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แท่งแก้วใช้สำหรับคนสารละลายให้ผสมกันเป็นเนื้อเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ หรือใช้เมื่อจะเทสารละลายจากภาชนะหนึ่งลงในภาชนะอีกชนิดหนึ่ง โดยจะเทสารละลายให้ไหลไปตามไม้แก้ว ไม้แก้วที่มียางสวมอยู่ปลายข้างหนึ่งเรียกว่า Policeman จะใช้สำหรับปัดตะกอนที่เกาะอยู่ข้างๆ ภาชนะและถูภาชนะให้ปราศจากสารต่างๆ ที่เกาะอยู่ข้างๆ ยางสวมนั้นต้องแน่น   อ้ออย่าลืมนี่ด้วย แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 51 21:26:45 จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 12:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นับถือคุณพร่างพราวจริงๆค่ะ แต่ละกระทู้มีแต่ความรู้มาฝากทั้งนั้น ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : Ms.eve - [ 20 พ.ย. 51 13:34:03 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รอชมค่ะ จากคุณ : nuchaipo - [ 20 พ.ย. 51 13:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 20 พ.ย. 51 14:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สุดยอด อยากทำได้บ้างจัง ปกติซื้อตลอดเลย ^^ จากคุณ : ผักรู้นอน - [ 20 พ.ย. 51 14:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เคนโซ ฟลาวเวอร์ 11 มล. 120 บาท ของปลอมชัวร์ๆครับ ฉีดแปปเดียวกลิ่นก็หาย จากคุณ : dorgchant - [ 20 พ.ย. 51 15:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เทพมากครับ จากคุณ : เอ็ม เชียงใหม่ - [ 20 พ.ย. 51 15:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เหนื่อยเกิ๊นนนนนนนนน!!!! จากคุณ : แม่มดน้อยจิโกะ - [ 20 พ.ย. 51 15:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 555 เคยทำด้วยละ กลิ่นก็หอมดีนะ เวลาใครถามก็บอกว่าผสมเอง ไม่ยากอย่างที่คิด จากคุณ : อุ๊ยตายคุณชายมาโปรด - [ 20 พ.ย. 51 17:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โอ้ น่าสน อยากทำได้บ้าง อิอิ ตอนนี้ จน แกลบ แต่ก็อยากหอม เฮ้อ จากคุณ : Lady_Panko - [ 20 พ.ย. 51 19:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เราเรียก glass rod ว่าแท่งแก้วคนอ่ะ เดี๋ยวนี้เด็กสมัยนี้ เค้าเรียกว่าไม้แก้วกันรึ งง หนูๆที่เรียนเคมีกันตอนนี้เรียกว่าอะไรคะ จากคุณ : all the time - [ 20 พ.ย. 51 19:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ^ ^ หนูเรียก .."แท่งแก้วคนสาร" ค่ะ คุณพี่  หึหึ จากคุณ : After Sunset_Before Sunrise - [ 20 พ.ย. 51 20:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่วายจิกกัดนะจ๊ะ จากคุณ : พร่างพราว - [ 20 พ.ย. 51 21:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 555+ จากคุณ : ผู้หญิงขี้เล่า - [ 21 พ.ย. 51 09:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อยากเห็นรีวิวมากกว่าบทความอ่า อ่านแล้วนึกว่า จขกท ทำเอง จากคุณ : เมมู๋ - [ 21 พ.ย. 51 09:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เรียก Glass rod ได้ครับ (ที่คุ้นหูน่าจะ stirring rod) เรื่องอื่นไม่คอมเมนต์แล้วครับ ไม่อยากเห็นคนทะเลาะกันครับ จากคุณ : Hot fresh milk - [ 21 พ.ย. 51 20:23:24 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เราเรียก stirring rod เหมือนกันค่ะ (Pharmarcy) จากคุณ : thankgodifoundu - [ 22 พ.ย. 51 18:49:47 ]

ความคิดเห็นที่ 28 น่าสนอ่ะ ขอบคุณนะที่เอาเรื่องดีๆ มาแบ่งปัน กำลังจนพอดีเลย จากคุณ : ไข่เจียวชุบชะอม - [ 7 ธ.ค. 51 05:05:00 ]