 |
ใครอยากรู้เรื่องการดัดผม มาทางนี้ครับ
ผมเป็นช่างทำผมคนหนึ่ง เคยไปอยู่ตามร้านดัง ๆ ตามห้างต่าง จนสุดท้ายมาอยู่ที่สยาม เจอปัญหาบ่อยครั้ง เกี่ยวกับการความเข้าใจในการดัดผมของลูกค้า อย่างที่เห็นในรูป เพื่อน ๆ คิดว่าเป็นการดัดผม หรือ การม้วน....... จริง ๆ แล้วผมในแบบเค้าม้วนผมด้วยแกนไฟฟ้าครับ การดัดผม ไม่มีทางที่จะดัดแล้วออกมาได้ลอนแบบนี้ ดูจากรูปนะครับ ลอนผมจะม้วนลงมาในลักษณะเป็นเกลียวใหญ่ ๆ แต่ถ้าเป็นการดัดผมไม่ว่าจะเป็นการดัดน้ำยา หรือ การดัดดิจิตอล ลอนที่ได้จะไม่ม้วนลงมาในลักษณะเป็นเกลียวแบบนี้ แต่ลอนที่ได้จะเป็นคลื่น ๆ เหมือนรูปตัว S
*** แล้วถ้าอยากดัดผมให้ลอนใหญ่ ๆ จะทำยังไง*** อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะเส้นผมของลูกค้าด้วย ถ้าลูกค้าผมเส้นใหญ่ ลอนที่ได้ก็จะออกมาใหญ่ แต่ถ้าลูกค้าผมเส้นเล็ก ลอนผมจะออกมาไม่ใหญ่เท่าในกรณีแรก การดัดผมขึ้นอยู่กับ แกนที่ใช้ ลักษณะการวางแกน และ เส้นผมของลูกค้า ต่อให้ถ้ามีลูกค้าเข้ามาพร้อมกัน คนหนึ่งผมเส้นใหญ่ คนหนึ่งเส้นเล็ก ปานกลาง-เล็ก ดัดผมโดยใช้แกนขนาดเท่ากัน ช่างที่ดัดก็คนเดียวกัน ขนาดของลอนที่ออกมาก็ไม่เท่ากัน แล้วการดัดผมที่สำคัญคือการเซท ดัดไปแล้ว ต้องมีการใส่มูส( บางคนเรียกว่าโฟม) บ้าง เพราะมูสจะช่วยจัดแต่งลอนผมไม่ให้แตก ฟุ้งกระจาย หรือ ถ้าบางคนชอบผมฟู ๆ เซอร์ ๆ ก็ใส่นิดหน่อย แล้วใช้ไดร์แรง ๆ เป่าให้ผมแห้ง ลักษระลอนที่ได้ก็จะ เซอร์ ๆ ยุ่ง ๆ
*** การดัดน้ำยา ต่างกับ ดัด ดิจิตอลอย่างไร *** การดัดน้ำยาถ้าใช้น้ำยาที่มีคุณภาพดี และตรงกับ สภาพเส้นผมของลูกค้า การที่ผมจะแห้ง เสีย ก็จะมีน้อย การดัดน้ำยาจะมีน้ำยาที่ใช้อยู่ 2 ตัว ขั้นตอนที่1 จะใช้น้ำยาดัดเป็นตัวเปลี่ยนสภาพเส้นผมให้โค้ง แล้วใช้น้ำยาโกรก ( หรือบางคนเรียกว่าน้ำยาล็อค) เป็นตัวล็อคเส้นผมให้คงรูปที่เราต้องการ *** การดัดดิจิตอล จะใช้แท่งเซรามิคม้วนผม แท่งนี้จะมีการต่อไฟเข้าเพื่อทำให้แท่งร้อน เมื่อม้วนผมเข้าแกนแล้ว ก็ใช้น้ำยาหยอด หลังจากนั้นเปิดเครื่องเพื่อให้แท่งเซรามิคร้อน การดัดแบบนี้จะโดนทั้งความร้อน และน้ำยา ซึ่งผลที่ได้คือ ผมแห้งกว่าการดัดน้ำยามากกว่า แถมลอนที่ได้ ก็ออกมาเป็นรูปตัว S เหมือนกัน มีคนเข้าใจผิดว่า การดัดดิจิตอลลอนจะออกมาสวยเหมือน การม้วนแกนไฟฟ้า
***แล้วดัดผมมาแล้วจะเซทยังไง *** ทางที่ดีที่สุด คือการถามกับช่างที่ดัดให้ ให้เค้าสอน แบบละเอียด ให้คุณเข้าใจจริง ๆ เพราะลูกค้าบางคน เวลาผมสอนการเซท จะทำเป็นไม่ค่อยสนใจ แล้วพอกลับบ้านไปก็เซทเองไม่เป็น ก็จะมาโทษช่างว่า ดัดยังไง ผมฟูหมดเลย หรือ บางคนก็ว่า ลอนคลายเร็วจัง การเซทผมจะช่วยให้ลอนเด้งขึ้น และไม่ฟุ้งฟู การเซทบ่อย ๆ ก็ จะช่วยรักษาลอน บางคนอยู่ได้ ถึง 1 ปี หรือ นานกว่านั้น เอาละ เรามารู้วิธีการเซทดีกว่า 1. หามูสสำหรับใส่ผมดัด ถ้าราคาไม่แพงก็เป็นของ Carring ขวดละประมาณ 70 กว่าบาท เวลาไปซื้อก็อ่านดูว่า รุ่นไหนที่มันใช้เซทผมดัด เพราะยี่ห้อนนี้ผมไม่ได้ใช้นานแล้ว ถ้าจะเอาดี ๆ ก็ของ ลอริอัล ไปหาได้ตามบูธ หรือ ร้านทำผมที่เคยผลิตภัทณ์นี้ ราคาไม่แน่ใจ อาจประมาณ มากกว่า600 แต่ไม่ถึง 1000 ( อันนี้ผมไม่ค่อยแน่ใจนะครับ) และจะมีอีกตัวของลอริอัล ชื่อว่า ดาวท์ครีม ตัวนี้ผมใส่ออกมาผมจะนุ่ม และดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ เหมือนว่าไม่ได้ใส่อะไรที่ผมเรย แต่ราคาจะสูงหน่อย
2. สระผมเสร็จแล้ว ใช้หวีซี่ใหญ่ ๆ ( เน้นนะครับ ว่าต้องใหญ่ ๆ ไม่งั้น ลอนจะออกมาไม่สวย ไปหาซื้อได้ตามประตูน้ำ หรือ ร้านขายอุปกรณ์ทำผม) หวีผมตอนเปียกนะครับ อย่าหวีตอนแห้ง แล้วคำพูดที่ว่า ดัดผมแล้วห้ามหวีผม ลืมไปได้เรย!!! หวีได้ครับ แต่ต้องตอนเปียกเท่านั้น ถ้าหวีตอนแห้ง ผมคุณจะฟู
3. หลังจากที่หวีผมแล้ว ซับผมให้หมาด ๆ ( อย่าขยี้นะครับ ใช้วิธีกำ ๆ ซับ ๆ)เสร็จแล้ว แบ่งผมเป็น 2 ข้าง โดยแบ่งตามที่เราแสกผม ยาวไปจนถึงท้ายท้อย
4. บีบมูส หรือ ผลิตภัทณ์จัดแต่งลอนต่าง ๆ ลงบนฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง เอียงหัวเพื่อให้ผมเทออกห่างจากตัว เอามือช้อนผม ตั้งแต่ปลายผม แล้วยกขึ้นพร้อมกับกำผม จนเกือบผมโคนผม แล้วค่อย ๆ ปล่อยลงไป ตอนทำขั้นตอนนี้ จะสังเกตเห็นได้ว่า ลอนผมจะดูชัดขึ้ทำเหมือนกันทั้ง 2 ข้าง เสร็จแล้วปล่อยให้แห้งเอง แต่ถ้าเซทที่ร้าน ช่างจะใช้ไดร์ที่มีตัวส่องผมดัด จะทำให้แห้งเร็วขึ้น แต่ถ้าใช้ไดร์ธรรมดาเป่า จะทำให้ผมฟู
5. เมื่อผมแห้งสนิทแล้ว เอาสาง ๆ ขยี้เบา ๆ แห้งผมกระจายออก เพราะ ตอนที่เราใส่มูส ผมจะจับลอมกันเป็นหลอด ๆ แข็ง ๆ แต่ถ้าเราเอามาสางออกแล้ว ลอนจะดูเป็นธรรมชาติขึ้น
**** ที่สำคัญสำหรับการดัดผมคือ ต้องเลือกร้านที่เราไว้ใจ ว่า เค้าไม่ได้ดัดผมสไตล์คนแก่ เพราะร้านพวกนี้จะไม่ค่อยมีแกนใหญ่ ๆ แต่ถ้าใครที่ดัดมาแล้ว และใช้แกนใหญ่แต่ลอนที่ได้ยังไม่พอใจ ให้ รอสักพัก 1-2 เดือน ลอนจะเริ่มคลายและสวยขึ้น ***
****ผมที่ยืดมา ให้ทิ้งช่วงสัก 6-8 เดือน ถึงจะดัดได้ ****
**** ดัดแล้วทำสีวันเดียวกันได้ไหม.... ได้ครับ ถ้าผมคุณแข็งแรง ไม่เสียมากจนเกินไป ****
//// สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็มีเท่านี้ ผมไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แต่ที่นำมาบอกคือประสบการ์ณที่ผมได้เจอมากับตัว หากใครมีความคิดที่ไม่เหมือนกันก็ขออภัยด้วย แต่หากใครมีอะไรจะเพิ่มเติ่มก็ มาบอกกันได้ แล้วใครที่มีข้อสงสัยก็โพสท์ถามได้นะครับ เพิ่มีผู้รู้ท่านอื่น ๆ เข้ามาอ่าน จะได้ช่วยกันให้ความรู้ครับ
จากคุณ :
เจ้าชายขี้เหงา 
- [
27 พ.ย. 51 18:33:58
]
|
|
|
|
|
|
