ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มกันเลยดีกว่า.... เรามาทำความเข้าใจถึงคำว่า “การเปลี่ยนสีผม” หรือ “การทำสีผม” กันก่อน ค่ะ การเปลี่ยนสีผม คือ การย้อมผม หรือการทำให้สีของเส้นผม เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากสีเดิม ซึ่งอาจจะเป็นสีธรรมชาติ หรือ สีที่มีอยู่แล้วก็ได้ การเปลี่ยนสีผม มีมานานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้วค่ะ  ซึ่งเริ่มจากการนำผงใบไม้ หรือผงสมุนไพร ที่มีสีสันต่างๆสวยงามตามธรรมชาติของมันมาป้ายย้อมเส้นผม  เช่น การใช้สีจากใบไม้ที่ชื่อ Henna  หรือ เฮนน่า  ซึ่งได้มาตั้งแต่อิยิปโบราณ    หรือ  สีสันสีเหลืองปนน้ำตาลจากดอก Camomild  หรือ คาโมมายล์ ที่ปลูกกันในแถบยุโรป      แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความต้องการของมุนษย์มีมากขึ้น  ก็ได้มีการพัฒนาสีเพื่อย้อมผมให้มีมากขึ้นตามความต้องการ  และหันมาใช้สารสังเคราะห์แทนการใช้สีสันที่ได้จากพืชเพียงอย่างเดียวค่ะ ชนิดของยาเปลียนสีผม  สามารถแบ่งได้คร่าวๆ ดังนี้ค่ะ - ครีม หรือ โลชั่น ทำให้ผมดำ   เป็นยาเปลี่ยนสีผมที่จะทำให้ผมค่อยๆเปลี่ยนจากสีขาว เป็นสีเทา  และสีเทาเป็นสีดำ  ภายใน 2-3 สัปดาห์  มักจะมีส่วนผสมของโลหะหนักอยู่ค่ะ   มีข้อเสียคือ ผมดำที่ได้จะดำแบบด้านๆ ไม่เงางาม  และทำให้ผมแตกหักง่าย หากทำเคมีอย่างอื่นร่วมด้วย  เช่นการดัด ค่ะ   - ยาเปลี่ยนสีผมชนิดชั่วคราว  ส่วนมากจะมาในรูปแบบครีม หรือ สเปรย์ค่ะ  มาในโทนสีแฟชั่นหวือหวา เจ็บๆ แรงๆ  หรือไม่ก็สีดำไปเลย  สีจะหายไป เมื่อสระผม 1-2 ครั้ง    เหมาะกับอีเวนต์ หรืองานชั่วคราว  เช่น คนที่ทำสีผมสว่างๆ แต่ต้องเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร   หรือไม่ก็ออกงานแฟนซี  รวมไปถึงเทศกาลรื่นเริง เช่นปีใหม่ที่จะถึงนี้ด้วยค่ะ - ยาเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวร   ชนิดนี้ก็จะมาในชนิด ครีมแว็กซ์ ที่เราใช้ทำการเคลือบเงาเคลือบสีผมนี่แหละค่ะ   สีที่ใช้จะมีส่วนผสมของสารเคมีน้อยกว่า ชนิดถาวร  และมีโมเลกุลใหญ่จึงไม่สามารถซึมแทรกเข้าไปในแกนผมได้   จะเริ่มหลุดลอกไปเมื่อสระผมได้ 5-8 ครั้ง   - ยาเปลี่ยนสีผมชนิดถาวร  ซึ่งก็คือ  ยาย้อมผมแฟชั่นทั่วๆไปตามท้องตลาดที่วัยหนุ่มสาวอย่างเรานิยมใช้นี่แหละค่ะ  จะมาในรูปแบบครีมในหลอด พร้อม ไฮโดรเจนเปอร์อ็อกไซด์ (PPD) เพื่อผสมก่อนใช้     และถึงแม้จะมีโทนสีให้เลือกมากมายหลายหลาก และเลออลังการแค่ไหน  ก็เป็นยาเปลี่ยนสีผมที่ทำลายเส้นผมเรามากที่สุดเช่นกันค่ะ - ยาเปลี่ยนสีผมจากสมุนไพร   ก็คือผงย้อมที่ผสมน้ำก่อนใช้  อย่างพวก เฮนน่า นี่แหละค่ะ  เป็นยาเปลี่ยนสีผมที่มีความปลอดภัยสูง  เพราะมาจากพืชพันธุ์ธรรมชาติ   สามารถซีดจางได้หากสระผมนานๆครั้งไปค่ะ  เฉดสีก็ไม่ได้เลิศเลออลังการ มากมายเหมือน  ชนิดถาวรที่สาวๆหนุ่มๆชอบใช้นะคะ  มักจะเป็นโทนสีธรรมชาติ  เพื่อให้คุณน้าคุณแม่เราใช้ปิดผมขาวกันมากกว่าค่ะ จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 14:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่ออยากทำสีผม! “ไปทำที่ร้าน”   คงจะเป็นคำตอบที่สั้น ง่าย ได้ใจความที่สุด  เพราะการไปทำที่ร้านนั้นมีช่างผู้ชำนาญงานและมากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษา และ ให้บริการอย่างช่ำชอง   รวมไปถึงมีอุปกรณ์ครบถ้วน ที่จะคอยทำให้การปฏิบัติการลื่นไหล   สะดวกสบาย   การทำสีผมนั้น  ดูเหมือนจะง่ายก็จริง  ก็จะง่ายแค่การป้ายสีลงบนเส้นผมค่ะ (แต่ช่างมือใหม่ทุกคนจะรู้ซึ้งว่า แค่การป้ายน้ำยาให้ไม่เลอะผิวหนัง และไม่ไหลหยด แปดเปื้อน   นั้นก็ไม่ได้ง่ายๆ เหมือนกันค่ะ)    แต่ก่อนจะได้ป้ายยาลงบนเส้นผมนั้น   ช่างจะต้องวิเคราะห์สภาพเส้นผม  วิเคราะห์ว่าจะต้องป้ายน้ำยาแบบไหน  รวมถึงต้องประเมินและคาดการณ์ถึงสีผมที่จะใช้ให้ผลลัพท์ออกมาใกล้เคียงมากที่สุด   บางครั้งเมื่อลูกค้าต้องการผมสีน้ำตาลอ่อน    ก็อาจจะไม่ได้ใช้ “สีน้ำตาลอ่อน”  กับผมลูกค้าโดยตรงก็ได้  ขึ้นอยู่กับสภาพผม และเทคนิคของช่างคนนั้นอีกทีค่ะ.... ถ้าพิมม์ถึงแค่นี้   คงจะมีแต่คนรุมด่า จขกท.แน่ๆ ค่ะ  T__T    .... เอาน่าๆ   ก็รู้น๊า...ว่าอยากประหยัดกันบ้าง   ไม่อยากจะออกไปเจอกับร้านและช่างทำผมที่ยียวนกวนประสาทและจ้องจะดูดเงินจากกระเป๋าบ้างใช่ม๊า...........   มามะๆ  ต่อไปนี้จะเป็นการหักหลังช่างทำผมจริงๆแล้วค่ะ เมื่อคิดจะทำสีผมเอง การทำสีผมด้วยตนเอง จะปลอดภัย หรือ เซฟตี้ ได้ที่สุดเรียงตามลำดับมากไปน้อย  ในเคสที่... 1.ทำสีปิดผมขาว ด้วย โทนธรรมชาติ เช่น สีดำ น้ำตาลเข้มๆ    อันนี้สามารถป้ายยาจากโคนจรดปลายได้เลย   ขอให้ป้ายให้ทั่วให้ได้ก็พอค่ะ    สามารถทำได้โดยปลอดภัยทั้งยาเปลี่ยนสีผมแบบถาวร หรือ เฮนนา เลยนะคะ  แต่ก็ต้องระวังอย่าให้หยดเลอะเทอะแค่นั้นเองค่ะ ^^ 2.ทำสีผม ด้วยยาเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวร คือ การเคลือบแว็กซ์เงา  แว็กซ์สีผม   สามารถป้ายจากโคนจรดปลายให้ทั่วได้เหมือนกัน  เพียงแต่อาจจะไม่ติดสีชัดเจนในกรณีที่พื้นผมดำสนิท   อาจจะเห็นแค่ประกายๆ เมื่อต้องแสง  รวมไปถึงการไปทำที่ร้านจะให้ผลลัพท์ที่ดีกว่า เนื่องจากร้านจะนำเข้าเครื่องอบไอน้ำ เพื่อให้สีแว็กซ์ละลายเคลือบแทรกซึม และทั่วถึงกว่า การป้ายทิ้งไว้เฉยๆเหมือนทำเองค่ะ 3.ในเคสที่ ผู้ทำสี รู้ตัวเองว่า  มีผมเส้นเล็ก  สีไม่ดำเข้มมาก     สภาพผมเช่นนี้ ทำสีติดง่ายค่ะ สามารถทำด้วยตนเองได้อยู่  เพียงแต่สีนั้นอาจจะไม่ได้ตามชาร์ตสีที่เลือก อันนี้ต้องวัดดวงเอง (ก็ไม่ได้ปรึกษาช่างนี่)   แต่การป้ายนั้น  ต้องเว้นโคนไว้1-1.5 นิ้ว  แล้วค่อยมาย้อมโคนนะคะ  วิธีย้อมอย่างละเอียดในเคสนี้ติดตามต่อได้ ตอนต่อๆไปค่ะ 4..ในเคสที่ผู้ทำสีผมด้วยตนเอง มีสีผมที่อ่อนกว่า สีใหม่ที่จะทำ    อันนี้ก็สามาถย้อมจากโคนจรดปลายได้เลยเหมือนกันค่ะ  แต่ต้องอาศัยความไวให้การย้อมให้ทั่ว อย่างรวดเร็วนะคะ  หากสีที่โคนผมออกสีชัดแล้วก็ล้างออกได้เลย ไม่ต้องทิ้งไว้นานเหมือน ทำสีผมเคสอื่นๆเท่าไร  สัก 15 – 20 นาทีก็สามารถล้างได้แล้วค่ะ  (แต่จะเอาใช้ชัวร์จริงก็วิ่งมาพบช่างก็ได้นะคะ ^^) วิเคราะห์สภาพผมตัวเองก่อน มาขั้นแรก ก็สำคัญมากๆแล้วค่ะ   หลายๆเคสที่การทำสีผมเกิดการ “พลาด” ขึ้นมา เพราะผู้ทำเองมองข้ามจุดนี้ไปค่ะ   ขนาดช่างเองบางครั้งก็ยังพลาดกับเขาด้วยได้ ตั้งคำถามนี้กับตัวเองไว้นะคะ.... แล้วตอบทุกคำถามนี้ให้ได้ 1.ผมเคยผ่านการทำสีมาก่อนหรือไม่     ทำมานานแล้วแค่ไหน? (ถ้า ได้คำตอบยังไง ทดไว้ในใจเลยนะคะ     สำหรับผมที่เคยทำสีแฟชั่น   หากเคยทำ  จะทำให้การทำสีผมติดได้ง่ายขึ้น  และจะต้องมีวิธีป้ายน้ำยาที่แยกออกมาเป็นเคสของมันเองเลย      แต่ถ้าหากสีที่เคยทำ คือสีดำ หรือน้ำตาลไหม้ น้ำตาลเข้มๆ  โอกาสที่ผมจะติดสีเกือบเป็นศูนย์ค่ะ   ควรจะหักใจ แล้ววิ่งออกไปพบช่าง เพื่อให้เขาล้างสีผมก่อนที่จะลงสีย้อม      อย่าคิดซื้อน้ำยาฟอกสีผมมาล้างสีผมเองเด็ดขาด      นอกจากโอกาสพลาดมีสูงจากการล้างสีไม่สม่ำเสมอกันทั้งศีรษะแล้ว  ผมก็ยังเสียระเบิดระเบ้อเลยคะ  แถมถ้าหยดถูกหนังศีรษะ หรือผิวหนังแล้ว รับรองแสบสันจากการกัดกร่อน  ต่างจากน้ำยาย้อมที่จะได้แค่เลอะเปื้อนล้างไม่ออกเลยนะคะ  ) 2.สีผมที่มีอยู่ หากดำธรรมชาติแล้ว  ดำแค่ไหน  ? (น้ำตาลแก่ๆเกือบดำ  หรือว่า ดำซีดๆ  หรือว่า ดำสนิท  สำหรับผมที่มีสีตามธรรมชาติของเรา   ถ้าแค่น้ำตาลดำ หรือ ดำซีดๆ มีโอกาสติดสีได้สูงค่ะ  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นกับเทคนิคและปัจจัยอื่นๆ อีกด้วย  ตามอ่านกันต่อนะคะ) 3..ผมเส้นเล็กหรือเส้นใหญ่   ผมแห้งเสียมากไหม? (มีผลต่อการติดสีค่ะ  ผมเส้นเล็กจะติดสีง่ายกว่า  กรณีที่ไม่ได้ดำเสียสนิท  ผมเส้นใหญ่จะติดสียากกว่า  อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์  (ต่อจากนี้จะเรียกว่า “PPD” ตามศัพท์ช่างนะคะ) ไปตามสภาพเส้นผมอีกทีค่ะ   ผมเส้นเล็กอาจจะลดเปอร์เซ็นต์ของ PPD ลงเพื่อถนอมผม  หรือ อาจจะต้องเพิ่มเปอร์เซ็นต์ไปสำหรับผมเส้นใหญ่ที่ต้องการสีผมเด่นชัดค่ะ) 4.มีผมขาวบ้างไหม   ถ้ามี มีกี่เปอร์เซ็นต์ของปริมาณผม? สาวๆบางคนก็อาจจะมีผมหงอกแซมขึ้นมาก่อนวัย  อาจจะด้วยพันธุกรรม หรือ การเจ็บป่วย ขาดสารอาหารก็ตามแต่   พึงระลึกไว้เสมอค่ะว่า   ผมหงอกจะไม่ติดสีโทนแฟชั่น  เว้นแต่สีโทนน้ำตาล  และสีมะฮอกกานี  โทนสีที่จะติดผมขาวได้ก็คือ สีโทนธรรมชาติ สีดำ น้ำตาลต่างๆ  ซึ่งหากอ่านข้างกล่องดีๆ เขาจะระบุไว้แลยว่าปิดผมขาวได้ไหม   แต่หากยังมีกิเลสที่อยากจะสวยงามตามแฟชั่น  ก็พอยังสมารถทำสีแฟชั่นได้แบบที่มาเป็นประกายกับพื้นผมสีน้ำตาล  ซึ่ง จขกท.จะให้สูตรให้การผสมน้ำยาย้อม สำหรับย้อมผมขาวด้วยโทนแฟชั่นไว้ด้วยค่ะ) 5.ในช่วงที่ผ่านมา 6-8 สัปดาห์  ได้ทำการแว็กซ์สี หรือ เงาผม บ้างไหม ? (ถ้าเคย ให้อดใจรอไปอีกสัก 4 สัปดาห์ เพื่อความชัวร์ในการติดสีผมค่ะ  ถ้าใจร้อนก็คงต้องโร่ไปหาช่างให้ล้างสีผมอีกเช่นเคยค่ะ  เลือกเอาเองนะจ๊ะ... ) 6.ใช้น้ำมันใส่ผม   แฮร์โค้ท  หรือ ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงที่มีลักษณะ เป็นน้ำมัน ๆ  เป็นประจำมานานไหม ? (ถ้าใส่ประจำมาเป็นเวลานาน   ก็มีผลให้ทำสีไม่ติดค่ะ   ก็เหมือนกับข้อที่แล้ว  ถ้าไม่อดใจรอ งดใส่  สระๆ ไปสัก4-6สัปดาห์  ก็วิ่งหาช่างผู้ชำนาญงานค่ะ) edit :  มาเพิ่มข้อความที่ตกหล่นไปเยอะมากค่ะ  บึ่งรถมาจากโฮมสเตย์ที่พักเลย แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 19:15:27 จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 14:40:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โอเคค่ะ...เมื่อตอบคำถามทุกข้อได้แล้ว  วิเคราะห์สภาพผมตัวเองได้แล้ว  ก็มาดูหลักการป้ายน้ำยาไว้ก่อนเลยนะคะ    อาจจะต้องมีการซื้ออุปกรณ์เพิ่มบางอย่าง  เช่น PPD    เพราะที่ได้มากับกล่องยาย้อมผม อาจจะไม่เหมาะกับสภาพเส้นผมเรานะคะ   เราก็สามารถซื้อเปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมกับเส้นผมเราได้ (6 /  9 / 12 % )ที่ร้านขายอุปกรณ์เสริมสวยทั่วไปค่ะ  ราคาไม่แพงมาก ทั้งเกรด B หรือ เกรด A   มาดูกันเป็นเคสๆ แยกย่อยเลยค่ะ ว่า จะต้องผสมน้ำยา ป้ายน้ำยาแบบไหนบ้าง (1) ผมธรรมชาติ ที่ไม่เคยทำสีมาก่อนเลย -ผสม ครีมย้อมผม 1 ส่วน + PPD .....%   1 ส่วน   ตามที่ได้มากับกล่องได้เลยค่ะ  ในกรณีที่ผมเส้นเล็ก-ปานกลาง  (ที่ไม่ได้มีพื้นผมธรรมชาติดำมาก)   ป้ายน้ำยาลงบนเส้นผมทุกช่อ เว้นโคน 1.5 นิ้ว  ทิ้งไว้ 30 นาที  แล้ว  ค่อยป้ายส่วนโคนที่เหลือ  ทิ้งไว้15-20 นาที (คอยสังเกตว่าสีโคนเสมอกับสีส่วนที่ป้ายไปก่อนหน้าแล้วหรือยัง ) - ผสม ครีมย้อม 1 ส่วน + PPD 9-12%   1  ส่วน   ในกรณีที่ผมเส้นปานกลาง – ใหญ่    หรือ  ผมทุกเส้นที่มีพื้นผมธรรมชาติค่อนข้างดำสนิท   ป้ายน้ำยาเว้นโคน 1.5 นิ้ว  ทิ้งไว้ 30 นาที แล้ว ค่อยป้ายส่วนโคนที่เหลือ  ทิ้งไว้15-20 นาที (คอยสังเกตว่าสีโคนเสมอกับสีส่วนที่ป้ายไปก่อนหน้าแล้วหรือยังด้วยเหมือนเดิมจ้า... ) (2) ผมที่ผ่านการทำสีมาแล้ว  มีผมงอกใหม่จากโคน  ไม่เกิน 2 นิ้ว - ผสมครีมย้อมผม 1 ส่วน + PPD ....%  1 ส่วน (ตามที่ได้จากกล่องมา)  ป้ายลงบนเส้นผมทุกช่อ เว้นโคนที่ผมธรรมชาติงอกใหม่มา  ทิ้งไว้ 15-20 นาที  (ขึ้นอยู่กับความสว่างของสีผมที่เคยทำมาแล้ว  ถ้าสีผมเดิมนั้นสว่างมาก ก็จะทิ้งไว้ใช้เวลาน้อยหน่อยค่ะ)    จากนั้น ค่อยป้ายส่วนโคนที่เหลือ  ทิ้งไว้15-20 นาที (คอยสังเกตว่าสีโคนเสมอกับสีส่วนที่ป้ายไปก่อนหน้าแล้วหรือยังด้วยเหมือนเดิมจ้า... ) สูตรนี้ สำหรับผมเคสนี้  สามารถใช้ได้กับทั้งผมเส้นเล็กเส้นใหญ่เลยค่ะ.... (3) ผมที่ผ่านการทำสีมาแล้ว  มีผมงอกใหม่จากโคนเกิน  2 นิ้ว -  ผสมครีมย้อมผม 1 ส่วน + PPD .........% ตามที่ได้มากกับกล่อง 1 ส่วน   ป้าย เส้นผมดำธรรมชาติ ส่วนที่งอกใหม่    แต่เว้นโคนผมไว้ประมาณ 1-1.5 นิ้ว  ทิ้งไว้ 20-25 นาที    จากนั้นนำน้ำยาที่ผสมเหลือจากนั้นป้ายต่อตรงผมส่วนปลายที่ผ่านการทำสีมาแล้ว  ทิ้งไว้  15 นาที    จากนั้น  ผสมน้ำยาใหม่อีกครั้งในสูตรเดิม   ป้ายส่วนโคนที่เว้นไว้ 1-1.5 นิ้วตอนขั้นต้น ทิ้งไว้5-10 นาที   คอยดูสีให้เสมอกับผมส่วนแรกที่ย้อม แล้วรีบล้างออกค่ะ   สูตรนี้  สามารถใช้ได้กับผมเส้นเล็ก – ปานกลาง  แต่หากมีเส้นใหญ่   รวมไปถึงมีผมธรรมชาติที่มีสีดำมากหน่อย  ก็ให้เพิ่ม เปอร์เซ็น PPD  เป็น 9-12 %      ในการย้อมส่วน ผมงอกใหม่ส่วนแรก ที่เว้นโคนไว้1-1.5 นิ้วนี่แหละค่ะ     แต่กลับมาใช้ PPD  เท่ากับผมเส้นเล็ก-ปานกลาง ในตอนที่ย้อมโคนส่วนหลังสุดนะคะ   เนื่องจากหากใช้ PPD เปอร์เซ็นต์มากแล้วจะทำให้สีผมตรงโคนออกสีสว่างอย่างรวดเร็ว   หากทำช้าหน่อย ก็จะออกสีสว่างโร่  โดด  จะไม่กลมกลืนกับผมส่วนที่ย้อมไว้ก่อนหน้านี้ค่ะ (4) ผมผ่านการทำสีมาแล้ว  ต้องการเติมโคนส่วนงอกใหม่ด้วยสีเดิม ผสมครีมย้อม 1 ส่วน + PPD .......% ตามที่ได้มากับกล่อง  แต้มเฉพาะส่วนโคนทิ้งไว้ 10-15 นาทีให้ดูกลมกลืนกับสีผมเดิม แล้วล้างออกได้เลยค่ะ     แต่หากต้องการเพิ่มสีและประกายให้เด่นชัดกับผมที่ทำสีมาแล้วเพิ่มด้วยก็สามารถ ย้อมตั้งแต่โคนจรดปลายได้เลย  แต่ต้องอาศัยความไวด้วยนะคะ  เพราะเราจะทิ้งไว้แค่ 10-15 นาทีเท่านั้น และล้างออกค่ะ (5)   ผมขาว ต้องการทำสีปิดผมขาว ด้วยสีธรรมชาติ   ซึ่งก็คือ สีดำ  น้ำตาลไหม้    หรือน้ำตาลเข้ม- น้ำตาลกลาง (จะประกายอะไรก็แล้วแต่) - ผสมครีมย้อม1 ส่วน + PPD 3-6% ที่ได้มาจากกล่อง  ป้ายทิ้งไว้ตั้งแต่โคนจรดปลาย ทิ้งไว้ 30-40 นาทีค่ะ   เป็นการย้อมที่สุดแล้วค่ะ ^^”   (6) ผมขาวต้องการทำสีปิดผมขาวด้วยโทนน้ำตาลอ่อน (ประกาย....)   หรือ  โทนแฟชั่น สำหรับเคสนี้  จขกท.เคยบอกไว้ขั้นต้นแล้ว ว่าคงต้องมีสูตรยุ่งยากกันหน่อย  หลังจากที่เราวิเคราะห์ผมตัวเองแล้วว่า มีผมหงอกกี่เปอร์เซ็นต์  ก็มาดูสูตร การย้อมผมขาวด้วยโทนสีแฟชั่นกันเลยค่ะ ผมขาว 0 -20 %  ทำสีโทนแฟชั่นได้เลย  (ย้อนไปดูเคสข้างบนเองนะคะ ว่าต้องผสม ต้องป้ายแบบไหน) ผมขาว 20-50%   ให้ผสม  ครีมย้อมสีน้ำตาล 1 ส่วน + สีแฟชั่นที่ต้องกี  2 ส่วน  + PPD .....% (ที่ได้มากับกล่อง)   3  ส่วน ผมขาว 50-100%    ผสม ครีมย้อมสีน้ำตาล 1 ส่วน  + สีแฟชั่น 1 ส่วน + PPD 2 ส่วน   ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา  ไม่ว่าจะผมขาวกี่เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงการย้อมปิดผมขาวด้วยโทนสีน้ำตาลแฟชั่น  ให้ นำน้ำยาที่ผสมแล้ว ป้ายเว้นโคน 1.5 นิ้ว ทิ้งไว้25-30 นาที  แล้ว มาย้อมโคนผม  ที่เว้นไว้ ทิ้งไว้ 10 -15 นาที  คอยดูสีผมส่วนโคนให้ออกสีสว่างสม่ำเสมอกับส่วนที่ย้อมไว้แล้ว เหมือนเดิมด้วยค่ะ อนึ่ง  ยังมีอีกหลายเคส ที่ จขกท.จะไม่กล่าว ณ ที่นี้ค่ะ เนื่องจากจะเป็นเคสที่ทำค่อนข้างยาก และอาศัยความชำนาญงานสูง  เช่น เคสที่ต้องล้างสีผม  เคสที่ทำสีมากกว่า 1 สีในหัวเดียว  เคสที่มีการทำ ไฮไลท์ โลไลท์พร้อมกับการทำสี  อันนี้ พึ่งพามือาชีพดีกว่าค่ะ   เคสที่ จขกท.กล่าวมาขึ้นต้นนี้จะเป็นเคสที่เราๆ มือสมัครเล่นจะพอทำกันได้ค่ะ จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 14:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลืมแปะรูปสาวๆ หมวยๆ อึ๋มๆ  เอ๊ย...รูปสาวๆทำสีผมสวยๆ ใต้กระทู้อีกแล้ว ขอโทษค่า... แฮ่ก  แฮ่ก  แฮ่ก... (ยกมือขึ้นเสยผม ปาดเหงื่อ)  แค่คิดก็เหนื่อยแล้วใช่ไหมคะ  แต่เป็นคนสวยก็ต้องอดทนค่ะ  มาดูกันต่อตอนต่อไปเลยว่า  ต้องเตรียมอุปกรณ์อย่างไรบ้าง - การ เตรียมอุปกรณ์ เมื่อจะทำสีผมด้วยตนเอง  ก็ต้องเริ่มจากการเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมตั้งแต่ต้นนะคะ  ไม่ใช่ว่ากำลังจะย้อม  หรือ ย้อมไปแล้วครึ่งหนึ่ง แล้วค่อยวิ่งหาอุปกรณ์โน่นนี่  อันนี้ มีโอกาสเละสูงค่ะ   หากคุณรู้ตัวว่า พิศวาสการทำสี เปลี่ยนสีผมด้วยตัวเองและก็  หาติดบ้านไว้ได้เลยค่ะ อุปกรณ์เหล่านี้  หาซื้อได้จากร้านขายอุปกรณ์เสริมสวย และห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านค่ะ 1.ยาย้อมผม (ถ้าไม่มียาย้อมผม แล้วจะทำอะไรละยะ?  อ่อ...แชมพู ครีมนวด ก็เตรียมไว้เลยด้วย    อย่าสวยเอ๋ออีกนะหล่อน...) 2.ถุงมือยาง หรือ พลาสติค (ยาย้อมผมบางยี่ห้อ ก็ไม่แถมให้ในกล่องค่ะ  หรือแถมมาข้างเดียวก็มี T__T  ) 3.ถ้วยย้อมพร้อมแปรง   (หาซื้อได้เป็นเซ็ต  สนนราคาไม่เกินชุดละ 50 บาท  ยาย้อมผมบางยี่ห้อ จะให้ ขวด และหัวแปรงหวีมาด้วย  ก็ใช้ตรงนั้นเลยก็ได้ค่ะ สะดวกรวดเร็วดีกว่าเยอะ) 4.หวีอีโต้ หรือ หวีขนาดใหญ่ซี่ถี่ปานกลาง   ( ที่เรานิยมใช้หวีผมกันนี่แหละค่ะ  ซื้อถูกๆตามตลาดนัด  10-20 บาทก็พอ  ใช้หวีอันเก่า ๆ หรือ แอบจิ๊กของพี่ชายมาก็ได้    ขอแค่ซี่อย่าถี่มาก และ อย่าคมก็พอ เดี๋ยวครูดหนังศีรษะ แสบแย่แน่ๆ       แ ล้วก็อย่าเอาอันสวยราคาแพงที่ใช้ประจำมานะคะ เพราะมันจะเปื้อนสี  เสียไปเลยค่ะ   เอาอันไหนมาใช้แล้วก็เก็บไว้ใช้ทำสีผมครั้งต่อไปได้เลยนะคะ) 5.ผ้าขนหนูสำหรับรองคอ และเช็ดผม   (เหมือนที่ร้านทำผมใช้กับเรานี่แหละค่ะ  เลือกอันเก่าๆ ขาดๆ ใกล้หมดอายุมาก็ได้นะคะ  เผื่อเลอะเทอะซักไม่ออกจะได้ไม่เสียดาย    แต่หากมีแต่อันใหม่ๆสวยๆ ก็เลือกสีเข้มนิดหนึ่งก็พอ  หากที่บ้านมีโทนสีอ่อนอีกละก็.....ไม่ถึงต้องไปซื้อใหม่หรอกค่ะ    เดียวชั้นจะบอกเคล็ดลับการซักเสื้อผ้าที่เลอะสีย้อมผมให้เองทีหลังย่ะ! ) 6.ผ้าพลาสติคคลุมกันเปื้อน   รวมไปถึงเอี๊ยมผ้ากันเปื้อน   (เอาไว้กันเหนียวค่ะอันหลัง สำหรับผู้ที่รู้ตัวว่าซุ่มซ่ามมากหน่อย    สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์เสริมสวยทั่วไปค่ะ  ราคาไม่แพงหนักราคาเกิน 40-50 บาท   ส่วนผ้าเอี๊ยมกันเปื้อนก็ไปขโมยของคุณแม่ที่ใช้ทำครัวมาได้ค่ะ   หรือ สามารถใช้ผ้าคลุมโต๊ะ หรือ ผ้าเช็ดตัวเก่า เอามาอะแด็ปคลุมได้ แล้วใช้ไม้หนีบผ้าหนีบค่ะ ในกรณีที่ต้องการ pay save จริงๆ) 7.กิ๊บปากเป็ด จำนวนมากหน่อย   (อะไรนะ...ไม่รู้จักกิ๊บปากเป็ดอีกเหรอ?     ก็กิ๊บที่ร้านใช้หนีบแบ่งผมเราตอนไดร์ผมนี่แหละค่ะ   จขกท.ซื้อจากร้านทำผมมา โหลละ 49 บาทนะคะ  สาวๆลงทุนซื้อไว้ก็ไม่ต้องกลัวขาดทุนค่ะ  เอาไว้ใช้แบ่งผม ตอนหนีบ ตอนม้วนไฟฟ้าต่อได้เลย  สะดวกสบาย เนี๊ยบกว่าหยิบๆ ผมมาหนีบๆ ม้วนๆ แน่นอนค่ะ  และที่อยากให้จำนวนมากหน่อย ก็เพื่อจะสามารถแบ่งผมเป็นชั้นๆ ก่อนย้อมไว้ให้หมดก่อนป้ายน้ำยา   เพราะการทำสีผมนั้นต้องอาศัยความไวอยู่ระดับหนึ่ง  แต่เนื่อจากอะไรก็ติดตามอ่านต่อกันนะจ๊ะ )   8. เซรั่ม หรือ วิตามิน บำรุงเส้นผมก่อนทำสี (ถ้ามีอยู่แล้วนะคะ  หรือ ถ้างบเยอะจะซื้อไว้ก็ได้  แต่ถ้าต้องการประหยัดก็ข้ามข้อนี้ไปเลยนะคะ   เดี๋ยวจะหาว่า  รู้งี้ตูไปทำที่ร้านยังถูกกว่าอีก!! ) 9.วาสลีน  หรือ เจล แว็กซ์จัดแต่งทรง (อันนี้ไม่ใช่เอามาใส่ผมนะคะ   แต่ ของเหล่านี้ มีคุณสมบัติ มันย่องเยิ้ม  หากเรานำมาทาบริเวณหู  กรอบหน้า  ต้นคอ หรือ ผิวหนังที่เกรงว่าจะเลอะสีย้อมแล้ว  จะทำให้สีไม่ติดผิวหนังค่ะ     สังเกตว่าที่ร้านทำผมไม่ใช้กับเรา ก็เพราะช่างทำมีความชำนาญแล้ว การป้ายสีเลยไม่เลอะเทอะผิวหนัง   แต่เรามือใหม่แล้ว  สำคัญนะคะ  อุปกรณ์ข้อนี้    สำหรับสาวๆที่กลัวแพ้   ใช้วาสลีนก็ได้  แต่ จากประสบการณ์  จขกท.ว่าใช้เจลหรือแว็กซ์แต่งผมจะช่วยกันได้มากว่าเพียงแค่ทาบางๆ     เพราะวาสลีนจะต้องทาหนาๆ หน่อย ถึงจะกันได้ดี    และไม่เคยมีใครแพ้ด้วยค่ะ  จากการที่ จขกท.ใช้แว็กซ์จัดแต่งทรง ทาผิวหนังเพื่อกันเปื้อนจากการทำสีผม ตอนเป็นช่างใหม่ๆค่ะ ) กล่าวมาถึงแค่นี้   คงจะมีหลายคนเริ่มถอดใจ และเริ่มลังเลว่า ไปทำที่ร้านคงจะง่ายกว่าจริงๆ   อย่างที่ จขกท.แนะนำขั้นต้น   แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว  จขกท.ก็ต้อง go on ต่อจนจบแหละค่ะ    ใครจะ go on ไปกับ จขกท.ก็หอบข้าวหอบของ  ตามมาเร๊ว~*   อยากจะเสริมนิดนึงว่า  อยากจะให้อ่านให้จบ และอ่านอย่างละเอียดนะคะ  ว่าทุกข้อมูลที่ให้เป็นเทคนิคสำคัญที่พึงใส่ใจจริงๆ  เพื่อไม่ให้ พลาด หรือพลาดให้น้อยที่สุด  ค่ะ   เพราะนี่คือ  “หัวของเราเอง”    นะคะ จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 14:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ “เริ่ม” ทำสีผมด้วยตนเอง 1.สระผมให้สะอาดด้วยแชมพู  2 รอบ   ห้ามเกาค่ะ (สระให้สะอาดเลยค่ะ แต่อย่าเกา  และจำไว้เลยว่าทุกกาสรทำเคมีผม ห้ามเกาเด็ดขาดค่ะ  ควรจะนวดๆ ลูบๆ ให้สะอาดสัก 2 รอบ ค่ะ  เพราะหลังจากเราทำสี หรือ เคมีผมแล้ว  เราจะล้างผมเฉยๆนะคะ  ไม่ควรจะสระเพราะเส้นผมเพิ่งถูกเคมีจากน้ำยาย้อม น้ำยาดัด มาไม่ควรจะมาให้ถูกสารเคมีซ้ำซ้อนจากแชมพูค่ะ  ดังนั้นสระให้สะอาดๆเลยตั้งแต่ตอนก่อนทำสี หรือเคมีผมใดๆเจ้าค่ะ ) 2.เช็ดผมให้หมาด  จากนั้น เป่าผมให้  “แห้งสนิท” (ย้ำว่า แห้งสนิทนะคะ  เพราะหากผมมีน้ำอยู่ จะทำให้ การติดสีผม ด่างๆ ดวงๆ เป็นวงๆ ได้ค่ะ  ในขั้นตอนนี้ ใครมีเซรั่ม ใครมีเสปรย์วิตามิน  ผลิตภัณฑ์ปกป้อง และบำรุงผมก่อนทำสี   ชโลมใส่ให้เตาที่เลยค่ะ  ) 3.แบ่งผมเป็น 4 ส่วน ในขั้นแรก (แบ่งผมทั้งศีรษะเป็น 2 ส่วนครึ่งซ้าย ครึ่งขวาก่อนเลยค่ะ  จากนั้น ค่อยแบ่งกลางตามแนวขวาง คือ ครึ่งหน้าครึ่งหลังอีกที  จะได้เป็น 4 ส่วน หรือ  ครึ่งหน้าซ้าย   ครึ่งหน้าขวา  ครึ่งหลังซ้าย  ครึ่งหลังขวา) 4 .ผม 4 ส่วนนั้น   แต่ละส่วนให้แบ่งเป็นชั้นๆ   หนาประมาณชั้นละ 1 นิ้ว  จขกท.เลยแนะนำให้เตรียมกิ๊บปากเป็ดไว้มากหน่อย  เพราะจะได้สะดวกตอนทำ และทำได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากน้ำยาย้อมนั้น จะมีระยะเวลาการทำปฏิกิริยาแค่ 45 นาที หลังจากผสมกับ PPD แล้ว  รวมไปถึงเราต้องอาศัยความไวในการย้อมให้ย้อมหมดในเวลาไล่เลี่ยกันในแต่ละช่อ  เพื่อที่สีจะได้สม่ำเสมอกันทั้งหมดนะคะ  โดยเฉพาะช่วงโคนนี่ จะพลาดไม่ได้เลยล่ะ 5. ทาวาสลีน หรือ แว็กซ์จัดแต่งทรง บริเวณผิวหนังตรงกรอบหน้า    ชายผม   ใบหู  ท้ายทอย ต้นคอ หรือ ส่วนที่คิดว่าจะเลอะเปื้อนให้ทั่วเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวมัน กลัวเยิ้ม  กลัวไม่สวยค่ะ    เพราะก็ยังดีกว่าต้องมาเลอะสี ล้างไม่ออกอีกหลายวัน 6.เริ่มป้ายน้ำยา   แต่ละเคสมีวิธีป้ายน้ำยาแตกต่างกันออกไป ตามที่บอกไว้ขั้นต้นค่ะ  เริ่มป้ายจากช่อ  ของผมส่วน ครึ่งซ้ายหลัง กับ ครึ่งขวาหลังไปพร้อมๆกันก่อน  จากช่อล่างขึ้นมาข้างบนค่ะ     จากนั้นค่อยเลือกทำ ส่วน ครึ่งหน้าซ้าย หรือ ครึ่งหน้าขวา ก่อนก็ได้   ป้ายสีให้ทั่วถึงทุกๆช่อนะคะช่อนะคะ   พอป้ายน้ำยาหมดทั่งศีรษะแล้ว ใช้หวีอีโต้ หวีๆๆ เพื่อความทั่วถึงสุดๆ อีกสักหน่อย  แผ่ผมทิ้งไว้ จนได้เวลา 7.พรม หรือ ราดน้ำลงบนศีรษะเล็กน้อย ให้พอชุ่มๆ นวดให้ทั่ว รวมถึงบริเวณผิวหนังกรอบหน้า ชายผมใบหูให้ทั่วค่ะ    ทิ้งไว้ต่อ 5 นาที แล้วล้างผมให้สะอาดเลย ไม่ต้องสระนะคะ   ล้างให้สะอาดมากๆ แล้วลงทรีตเมนส์หมักไว้สัก 10-15 นาที แล้วล้างออกค่ะ   8.เป่าแห้ง  จัดแต่งทรงตามต้องการ  อาจจะมีการทำใจ  หรือ ทำใหม่ เกิดขึ้นบ้าง แต่จะน้อยลงกว่ามั่วๆทำเหมือนแต่ก่อน   อันนี้แล้วแต่บุญนำกรรมแต่งของแต่ละคนแล้วค่ะ   ก็แหม  เราก็ทำดีที่สุดแล้วนะ edit: มาเพิ่ม “หลัง”   จากทำสีผมแล้ว พยายามหลีกเลี่ยงการถูกความร้อนจากการไดร์ หนีบ   อย่างน้อย 1 สัปดาห์ค่ะ   หากจะอบไอน้ำ  ก็ทำได้หลังจากทำสีแล้ว 1 สัปดาห์ขึ้นไป    อย่าทำทันทีหลังทำสี  เนื่องจากผมเราจะแห้งกรอบเสียขึ้นอีก เพราะว่าเพิ่งโดนเคมีมาหมาดๆ    หากต้องการเพิ่มความเงางาม  เมื่อเห็นว่า ได้สีเป็นที่พอใจแล้ว  สามารถเคลือบเงาผมด้วย แว็กซ์เคลือบเงา ทับได้ค่ะ  แต่ไม่ต้องเข้าเครื่องอบนะคะ ( จขกท.แนะนำของดี ราคาถูก โลแลน กลอสซี่ แว็กซ์  หลอดสีขาวค่ะ  ทาทิ้งบนผมหมาด ทิ้งไว้ 15-20 นาที ล้างออก ไม่ต้องเข้าเครื่องอบก็นิ๊ง แล้วค่ะ ผมเรียบลื่น มีประกายดี)   อนึ่ง ไม่ควรทำสีซ้ำภายใน 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันผมแห้งเสียค่ะ    รวมถึงไม่ควรทำเคมีอื่นๆ ภายใน 6-8 สัปดาห์ นี้ ด้วย    ถ้าไม่อยากผมเสียนะจ๊ะ    หลังจากทำสีแล้ว  ควรจะทำการปรนบัติผมเพิ่มขึ้นกว่าปกติสักนิด    หมักผม อบเซรุ่ม  ดีท็อกซ์ ทำสปาเส้นผม บ้าง  เพื่อให้ผมฟื้นฟูคืนสภาพค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 14:47:53 จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 14:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เทคนิคการทำสีผม  ที่น่ารู้ ถ้าหากหักหลังช่างทำผมด้วยกันบ้าง ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ ^^” 1.การทำสีผม เพื่อปิดผมขาว ด้วย โทนสีดำ หรือ น้ำตาลแก่   สามารถใช้ PPD แค่ 3%  ก็พอค่ะ  เป็นการรบกวนเส้นผมให้น้อยที่สุด   ส่วนมาก PPD ที่ได้มากับ กล่องยาย้อมผม จะเริ่มต้นที่ 6%  นะคะ  แต่ถ้าต้องการแค่ 3%  ก็สามารถผมน้ำบริสุทธิ์ ในอัตราส่วน 1:1   ใช้ได้เลยค่ะ 2.PPD  หรือ ไฮไดรเจนเปอร์อ็อกไซด์  หรือ ครีมน้ำนม ที่เราใช้ผสมกับครีมสีย้อมผมนี้  จะมีทั้งหมด  4 สูตรนะคะ   3% 6%  9%   และ12% เปอร์เซ็นต์   เปอร์เซ็นต์น้อยๆ จะรบกวนเส้นผม ทำให้ผมเสียน้อยกว่า  และคุณสมบัติที่แตกต่างกันของแต่ละเปอร์เซ็นต์คือ PPD 3%    ทำให้สีผม สว่างขึ้น 1-2 ระดับ PPD 6%    ทำให้สีผม สว่างขึ้น 2-3ระดับ PPD 9%    ทำให้สีผม สว่างขึ้น 3-4 ระดับ PPD 12%    ทำให้สีผม สว่างขึ้น 4-5 ระดับ หากต้องการผลลัพท์ความสว่างมากกว่า 5 ระดับ กับผมที่จะทำสี  ต้องอาศัยการล้างสี  หรือ การฟอกสีผมแล้วค่ะ  และควรจะทำกับช่างผู้ชำนาญงานเท่านั้น   3.ผลลัพท์ของสีที่ได้จากการทำสี  คือ  สีทีได้หลังจากการล้างผมหลังจากการทำสีครั้งนั้นแล้ว    ส่วนความเชื่อที่ว่า เดี๋ยวสระไปก็จะออกสีไปนั้น  ไม่ใช่ผลลัพท์ของสีที่ได้จากการทำสีครั้งนั้นหรอกค่ะ  แต่เป็นการผิดเพี้ยน เปลี่ยนสี เนื่องจากการทำปฏิกิริยา  กับสารคลอรีนที่มากับน้ำประปาต่างหากค่ะ   4.แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ 2 กล่องในการทำสีผมที่ยาวกว่าระดับประบ่าค่ะ 5.จริงๆแล้ว  อัตราส่วนในการผสมครีมย้อมผม กับ PPD นั้น สามารถผสมได้ในอัตราส่วน 0.5 : 1  ค่ะ  นั่นก็คือ  ครีมย้อม 1/2  หลอด สามารถผสมกับ PPD  1 ขวด ได้เลย  ได้ผลลัพท์เหมือนการผสมในอัตราส่วน 1:1  ค่ะ  แต่เพื่อไม่ยุ่งยาก ก็แนะนำให้ผสมในอัตราส่วน ครีม 1 หลอด กับ PPD 1  ขวด   หรือ ครีม 1 หลอด กับ PPD 1 ขวด   ตามที่เขาให้มากับกล่องนี่แหละค่ะ   ส่วนสตร 0.5:1  นั้น เอาไว้ให้  จขกท. ใช้เวลาจัดโปรโมชั่นทำสีผมแล้วกันนะคะ    แฮ่ะๆ   (ลดต้นทุน แต่คุณภาพคงเดิม) 5.ครีมสีย้อมที่ผสมกับ PPD แล้วนั้น จะทำปฏิกิริยาครีมย้อม  แค่เพียง 45 นาทีหลังผสมกับแล้ว ดังนั้น  ควรแบ่งผสมให้พอกับการย้อมในแต่ละส่วนค่ะ   หากใช้มากกว่า 1 กล่องในการทำสีผม ก็ค่อยๆผสมที่จะกล่องนะคะ 6.และสืบจากข้อ 5  เมื่อ มีการทำปฏิกิริยาของน้ำยาย้อมเพียง 45 นาที  ดังนั้นการทำงานเต็มที่บนศีรษะคุณก็แค่นั้นค่ะ   ไอ้ความเชื่อที่ว่า ยิ่งทิ้งไว้นาน ยิ่งสีติดทน สีติดสว่าง นี่โยนทิ้งเถอะค่ะ  สารเคมีตกค้างบนศีรษะเราเปล่าๆ อันตรายระยะยาวนะจ๊ะ 7.การทำสีผมนั้น  ขณะที่รอเวลาให้ผมออกสี   ไม่ควรจะเก็บผม ใช้กิ๊บติดไว้นะคะ  (เว้นแต่การทำสีดำ  สีน้ำตาลเข้ม ที่มวยเก็บกิ๊บติดไว้ได้)   เพราะจะทำให้ออกซิเจน เข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำยาย้อมไม่ทั่วถึง  อาจทำให้สีผมด่าง  สีไม่สม่ำเสมอได้ค่ะ    ที่ถูกต้องควรจะแผ่พังพาน สยาย ปล่อยทิ้งไว้ดีกว่าค่ะ  ใครผมยาวๆ ก็ทนกันหน่อยนะจ๊ะ  อยากสวยนี่... 8.หากทำสีผมแล้ว  มีปลายผมที่แตกปลาย หยิกฝอย  เล็มทิ้งได้เลยค่ะ  เพราะไม่สามารถเยียวยาอะไรได้แล้ว เนื่องจากเซลล์ผมตรงนั้นเท่งทึงไปนานแล้วค่ะ 9.หากถึงเวลาที่ต้องล้างผม หลังจากทำสีแล้ว   อยากให้สีสว่างขึ้นอีกหน่อย  ให้ใช้น้ำอุ่นจัดล้างค่ะ  สีจะสว่างขึ้นเพราะโมเลกุลเม็ดสีจะแตกตัวละเอียดขึ้นมาอีกหน่อย 10.และสืบเนื่องจากข้อ 9  หากว่า “พลาด” สีผมสว่างกว่าที่ต้องการไปหน่อย (ประมาณว่าท้าทายสายตา ฝ่ายกิจการศึกษา  หรือ ผจก.ฝ่ายบุคคล )   ใช้น้ำเย็นล้างนะคะ  อย่าใช้น้ำอุ่นล้างล่ะ  เดี๋ยวจะแดงแจ๋ไปกันใหญ่ 11.ผมเส้นเล็ก  ที่ไม่ดำมาก ใช้ PPD แค่ 6% ก็พอค่ะ สำหรับการทำสีผม  ถ้าต้องการเด่ดชัด ก็ใช้ 9%   12..แต่สาวๆผมเส้นใหญ่ และแข็งแรง  ต้องใช้ PPD 9% ในการทำสีผมนะคะ ถึงจะออกสีให้เห็น  แต่ถ้าต้องการความสดใส เด่นชัด ใกล้เคียงกับชาร์ตสี ก็ต้อง 12% เลยค่ะ 13.หากสีผมส่วนปลายยังสดชัดอยู่ และต้องการทำสีผมแค่ส่วนโคนที่งอกใหม่  สามารถใช้ทรีตเมนส์หรือเซรั่มเคลือบปลายผมส่วนที่ไม่ต้องการทำ  ป้องกัน และบำรุง ขณะทำสีผมได้ค่ะ 14.การใช้วาสลีน  แว็กซ์ หรือ เจลทาบริเวณผิวหนัง นอกจากจะป้องกันการเลอะสีย้อมผมได้แล้ว  ยังป้องกันการระคายเคืองจากการแพ้น้ำยาย้อมผมได้ระดับหนึ่งด้วยค่ะ 15.ครีมย้อมผม  มีอายุ 2 ปีนับจาก วันเดือนปีที่ผลิต  หากเปิดใช้แล้ว สมารถเก็บไว้ได้ถึง 1 ปี  แต่ต้องเก็บไว้ในที่แห้ง และอุณหภูมิไม่สูงนะคะ   16.การทำสีผม   ควรสวมหน้ากากป้องกัน สำหรับผู้ที่มีการวิงเวียน จากการสูดดมสารแปลกปลอมค่ะ  ควรจะเปิดประตู หน้าต่างห้องให้อากาศถ่ายเทด้วยตอนทำ   หรือจะให้ดี   ระเบียงห้อง  หรือ  โต๊ะหินอ่อนหลังบ้านเลยก็ได้ค่ะ 17.สำหรับเสื้อผ้าที่เปื้อนน้ำยาย้อม  สามารถซักให้สะอาดได้ค่ะ  ถ้าหากเปื้อนแล้วให้รีบใช้สเปรย์จัดแต่งทรงผมแบบแข็ง  ฉีดอัดไปบริเวณรอยเปื้อนมากๆ  หลังจากนั้น นำไปแช่ผงซักฟอกไว้สักครึ่งวัน   แล้วก็ซักมือ หรือซักเครื่องตามปกติได้เลยค่ะ   จขกท.รับประกันว่าคราบเปื้อนหลุดออกแน่ค่ะ ถ้าไม่ออกหมดจด ก็เกือบหมด (ขึ้นอยู่กับว่า รีบฉีดสเปรย์ รีบแช่แค่ไหน)   เพราะ จขกท.ใช้วิธีนี้ประจำ เวลาชุดคลุมฝึกงานเสื้อน้ำยาย้อมผม (โดยเฉพาะช่วงเรียนแรกๆ) 18.สำหรับผู้ที่เกรงว่าจะแพ้น้ำยาย้อมผม ควรจะทดสอบการแพ้ก่อนใช้ค่ะ  ถ้าจะสังเกตให้ดี ผู้ที่แพ้น้ำย้าอมผม จะแพ้สีประเภท “พาราเฟนิลีนไดอามีน”    ซึ่งเป็นสีชนิดถาวร  หรือ “ไมโตรเฟนนีลีนไดอามีน”  เป็นสีชนิดกึ่งถาวรค่ะ    ลองอ่านดีๆที่ฉลากข้างกล่องดู นะคะ  ถ้ามี แล้วรู้ตัวว่าแพ้ก็เปลี่ยนยี่ห้อซะ 19.การทำสีผมโทนแฟชั่น  โดยเฉพาะสีสว่างๆ สีอ่อนๆ   ถ้าต้องการให้สีสดชัด  ใกล้เคียงชาร์ตสี  อีกเทคนิคคือ การผสมสีบลอนด์อ่อนที่สุด หรือสีสว่าง กับ สีผมที่เราต้องการในอัตราส่วน   สีสว่าง 1 ส่วน + สีที่ต้องการ 1 ส่วน + PPD  2 ส่วนค่ะ   เทคนิคนี้อาจจะไม่ได้สีเท่ากับการล้างสีผม  แต่ก็ให้ผลที่ดี และถนอมผมมากกว่าค่ะ 20.สาวๆ หนุ่มๆ ผมบาง ผมบีบ ขาดวอลลุ่มอยู่แล้ว  หลีกเลี่ยงการทำสีผมบ่อยๆนะคะ  เพราะการทำสีผม เป็นสาเหตุสำคัญผมแห้งกรอบ ฟูฟ่อง ยุ่งพันกันง่าย  เส้นผมบางลง ขาดง่าย  เพราะสารเคมีบางชนิดในยาย้อมผม จะทำปฏิกิริยา ทำให้เส้นผมลีบแบน และขาดความชุ่มชื่น แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 13:16:37 แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 15:31:04 จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 14:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สงสัยยังไม่เลิกงานกันเลย   ไม่มีใครมาปาดเลยนี่  T__T สารพันปัญหาที่มากับการทำสีผม เหมือนเดิมค่ะ  มาตบท้ายด้วยหัวข้อนี้จ้า....  มีหลายๆคนที่ตั้งกระทู้ถามไว้ในห้องแป้ง บ้านเรา  แต่ จขกท.เองก็ไม่ค่อยจะมีโอกาสเข้าไปตามอ่านตามตอบ  เนื่องจากเวลาไม่เอื้ออำนวย  และอีกเหตุผลคือ ต้องอธิบายกันยาวเลยค่ะ   นี่คืออีกเหตุผลที่ จขกท.ได้มาเขียนบทความเล็กๆนี้ฝากให้สาวๆหนุ่มๆอ่านกันนะคะ Q :  ยาย้อมผมราคา 50 บาท กับ500 บาทแตกต่างกันอย่างไร?? A :  ของถูกกับของแพงมันก็ย่อมมีข้อแตกต่างกันอยุ่แล้วค่ะ    โดยทั่วไป ของที่ราคาแพงกว่า มักจะมีเฉดสีให้เลือกมากกว่าอยู่แล้ว   มีลูกเล่น มีมิติ  มีสีวิจิตรพิสดารมากกว่า   และแน่นอนว่า ของเกรดดีกว่าย่อมสร้างความเสียหายให้กับเส้นผมน้อยกว่า  รวมถึงของราคาแพง มักมีผลิตภัณฑ์บำรุงผม  และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการทำสีผมให้มากกว่า  เช่น ถุงมือ หวีหรือแปรงย้อม   ขวดพร้อมหัวหวี   วิตามินแคพซูล  ทรีตเมนทบำรุง ฯลฯ   แต่ขณะเดียวกันของราคาสูงกว่ากันบางยี่ห้อ ก็กลับมีประสิทธิภาพด้อยกว่าเรื่องการติดสีอย่างสดชัด     ยกตัวอย่างเช่น  ณ เส้นผมสภาพเดียวกัน พื้นสีเดียวกัน   สีแดงอมม่วงของยาย้อมผมเบอริน่า  (อันนี้ติดดีจริง  จขกท.ใช้บ่อย  ) ก็กลับแสดงสีสดชัดมากกว่าเมื่อทำสีเสร็จแล้ว มากกว่า  ย้อมผมยี่ห้อล....... ราคาเกือบ 300 บาท  ซึ่งอาจจะออกแค่ประกายตามต้องแสง    แต่ขณะเดียวกัน น้ำยายี่ห้อแรกก็ย่อมทำให้ผมดูสากกว่า ต้องบำรุงฟื้นฟูมากกว่า.... Q: และหากถามว่า อันไหนควรใช้ถูก อันไหนควรใช้แพง?? A: เคสที่สามารถใช้ของถูกก็อย่างเช่น 1.ปกปิดผมขาวด้วยสีโทนธรรมชาติ เช่น ดำ น้ำตาลแก่    ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงค่ะ  เพราะดำ มันก็มีแค่ดำเดียว  อาจจะแตกหน่อนิดๆ เป็นดำขลับ ดำธรรมชาติ ดำสนิทอะไร  ของเกรดบีก็มีสีค่ะ   และไม่สร้างความเสียหายให้เส้นผมเท่าไรอยู่แล้ว เนื่องจากการย้อมปิดผมขาวใช้ PPD แค่3-6%   (ไปผสมเองนะจ๊ะ ถ้าจะเอา 3% น่ะ) 2.มีสภาพเส้นผมที่แข็งแรงอยู่แล้ว  รวมไปถึงผมที่ไม่เคยทำสี   อันนี้ โดยประสบการณ์”ส่วนตัว”     ในกรณีที่ไม่ต้องการฟอกสีผมด้วย   ใช้สีเกรดรองกลับผมสภาพดังกล่าว จะออกสีมากกว่า 3.มีผมสีอ่อนกว่าสีใหม่ที่จะทำ   และไม่ต้องการสีหวือหวา ไม่ประกาย ไม่เหลือบมาก    หรือหากมีหัวติสท์หน่อย ก็สามารถหยิบสีนั้นผสมสี้นี้ ตามหลักวงจรสีได้ค่ะ ฯลฯ แล้วเคสไหนที่ต้องการการลงทุน บ้าง ก็อย่างเช่น... 1.การทำสีที่ต้องล้างสีผมออกเกินกว่า 40%   นั่นก็คือตั้งแต่ฟอกสีผมออกไปจนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ไปจนถึงสีบลอนด์อ่อนเกือบขาว  อันนี้ใช้ของแพงหน่อยดีกว่าค่ะ  เพราะล้างสีไปขนาดนี้ไงก็ติดสีอยู่แล้ว  ถนอมผมหน่อย เพราะเขาโดนทำร้ายมาเยอะแล้ว 2.ต้องการสีแปลกใหม่   ที่ทำได้ยาก หรือหาได้ยาก  เช่นสีเทาอ่อน  สีเขียวขี้ม้าสด  สีชมพูช็อคกิ้งพิงค์ ฯลฯ  อันนี้ถ้าไม่แนวจริงก็ไม่มีใครกล้าทำอยู่แล้ว   อยากโดดเด่น (แบบสุดโต่ง) ก็ต้องลงทุนนะจ๊ะ ฯลฯ จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 14:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ข้อนี้ ดาเพิ่มให้ ในกระทู้ที่ขึ้นซ้ำนะคะ  ไม่อยากให้เสียพื้นที่ไปเปล่าๆ นะคะ ปัจจัยที่ทำให้การทำสีผม ไม่ติดสี 1.สีพื้นผมที่สีดำสนิท   ในที่นี้หมายถึงดำเข้มนะคะ  ถ้าดำซีดโอกาสติดสียังมีอยู่ (ชีวิตนี้ยังมีหวัง)  ถ้าคิดภาพไม่ออก ลองคิดถึงกระโปรง นศ.ที่ซื้อมาใหม่  กับ ตัวที่ใช้ประจำมา 2-3 ปีนะคะ     ไม่ว่าจะเป็นผมดำธรรมชาติ  หรือ ผมย้อมดำ ย้อมสีเข้มๆ อย่างน้ำตาลเข้ม  หรือน้ำเงินเข้มค่ะ 2.ผมที่ผ่านการทำแว็กซ์เงา แว็กสีมาใช้ช่วง 6-8 สัปดาห์ 3.ผมที่ทำเฮนน่ามา 4.ผมที่มีการใช้แฮร์โค้ท วิตามิน  ผลิตภัณฑ์บำรุงผม หรือจัดแต่งทรงประเภทน้ำมันๆ เป็นประจำ มาเป็นระยะเวลานาน 5.อันนี้คาดไม่ถึงแน่ๆ  ไรผม ผมบริเวณกรอบๆ หน้า ที่ไม่ค่อยติดสี  บางครั้งอาจจะเป็นเพราะ การละเลงเดย์แคร์ ไนท์แคร์ของคุณเลยเถิด เผื่อแผ่ไปที่ไรผมค่ะ 6.ผมเส้นใหญ่  จะติดสียากกว่าผมเส้นเล็กด้วยค่ะ ถ้าผมของคุณ  ใช่   มากกว่า 4 ข้อละก็  ปรึกษาช่างด่วน (อีกแล้ว) ค่ะ edit  ลบรูปค่ะ   สงสัยชั้นถูกฉโลกกับยัยเป้ยแน่ๆ กดซ้ำซะงั้น edit 2   เพิ่งมาเห็นด้วยว่ากระทู้ขึ้นซ้ำ เลยขอลบออก และเพิ่มเกร็ดเรื่องปัจจัยการทำให้การทำสีผมไม่ติดสีแล้วกันนะคะ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 12:55:25 แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 14:59:10 จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 14:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Q: มีงบไม่เงิน 200 บาทช่วยแนะนำยาย้อมผมให้ด้วยค่ะ ?? A: ไม่ได้เป็นม้านะยะ  แต่อันไหนฉันใช้ดีก็จะบอกต่อย่ะ   นอกจากเกรดรอง  เบสิกๆ  กล่องละ40-60 บาท อย่างเช่น  เบอริน่า โลแลน ดีแคซ  ที่ จขกท.ใช้ประจำแล้ว     อีโกล่า   ดีแคซ อินทัชและโลนแลน อโรม่า ก็ใช้ดีมากค่ะ  สีมีให้เลือกเยอะดี   มีอุปกรณ์แถมในกล่องด้วย   ไม่ทำร้ายผมมาก  ราคาก็น่าคบ  หากจะมีข้อเสียก็คือ โลแลน อโรม่านี่ กลิ่นเหมือนดอกซ่อนกลิ่นจริงๆค่ะ  ดมแว๊บๆก็หอมดีหรอก   แต่ถ้าให้มาอยู่ด้วยสักสิบนาทีขึ้นนี่    ต้องแจกหน้ากากปิดจมูกให้ทั้งคนทำสี  คนย้อมเลยค่ะ - - ส่วนสียี่ห้อไหน ราคาแพง ดัง แต่ใช้ไม่ดี   อะฮั้นไม่พูดนะคะ  เดียวจะดิสเครดิตเขาเปล่าๆ ที่บอกกล่าวมานั้นมันก็แค่ประสบการณ์ส่วนตัวด้วยค่ะ Q: สรุปว่าเคสไหนบ้างคะ  ที่ควรจะหลีกเลี่ยงการทำสีผมด้วยตนเอง? A: แน่ะ!  แสดงว่าไม่ตั้งใจอ่านแน่ๆ  ถ้ามีใครมาถามแบบนี้อีก  เอาเถอะค่ะ  วันนี้วันเกิดกิ๊กคนที่ 12 ของ จขกท. จะสรุปให้แล้วกันนะ - กรณีที่ต้องการทำไฮไลท์ โลว์ไลท์   ผมด้วย  ไม่ว่าจะทั้งทำพร้อมกับทำสี  หรือ ทำเองเดี่ยวๆ  แม้ว่า ไฮไลท์ โลว์ไลท์จะเป็นการทำสีแขนงหนึ่ง แต่เป็นวิชาที่ยาก    อย่าทำเองเลยนะคะ -กรณีที่ต้องการให้สีผมออกมาสว่างกว่าผมเดิม 5-6 ระดับขึ้นไป    ยังไงก็ต้องฟอกค่ะ   อย่าทำเองนะคะ  ผมที่ฟอกสี ล้างสีแล้ว เสียแล้วเสียเลยค่ะ  จะดัด จะยืด ต่อก็แทบไม่ได้เลย  ยังไงปรึกษาช่างดีกว่านะคะ -  เมื่อต้องการทำสีที่ค่อนข้างอ่อน  หรือสว่าง  ตั้งแต่ สีโทนน้ำตาลอ่อน หรือ บลอนด์กลาง ขึ้นไป   อันนี้ก็ควรคุยกับช่างก่อนค่ะ เพราะต้องล้างสีแน่ๆ   แต่หากไม่โลภมากไม่ซีเรียสว่าสีต้องอ่อนสว่างเหมือนชาร์ตเป๊ะๆ    จะไม่ล้างสีก่อน  สีก็ยังมีโอกาสติดเป็นประกายสวยงาม ได้อยู่ (ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วย)  แต่ยังไงก็ใช้บริการช่างบ้างก็ดีนะคะ   - กรณีที่ผมดัดต้องการทำสี    ควรเข้าหาช่างด้วยค่ะ เพราะ สีบางตัวจะทำให้ผมที่ดัดคลายตัว ลีบแบนขึ้น   ช่างเองจะมีเทคนิคการทำสี หรือการบำรุง เพื่อให้ลอนคงสปริงตัวดีอยู่ค่ะ - กรณีที่ผมแห้งเสียมากๆ  รวมไปถึง กรณีที่ คุณมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น  สิวผด  สิวอักเสบ  ผื่นแพ้  เชื้อราบนหนังศีรษะ  รังแครังควาน  ฯลฯ  ควรปรึกษาช่างก่อนทำสีค่ะ  หรือไม่หลีกเลี่ยงไม่ทำไปเลยจะดีกว่า  (แต่มันก็ทำได้ยากนะ   คนมันอยากจะสวยนี่) จากคุณ : Miss Plastic - [ 22 ธ.ค. 51 15:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เง้อ  เฟอะฟะ  ลืมเปลี่ยนสีแบ็คกราวน์  ลืม...ฯลฯ  ลงสัยต้องกินวิตามินบำรุงบ้างละ สมองเอ๋อๆ ไงชอบกล Q :  แง้....... ผมออกสีแต่โคน  แดงแจ๋เลยทำไงดี? A :  เคสนี้ก็เจอบ่อยค่ะ  เกิดจากความผิดพลาดจากการทำสีด้วยตนเอง หรือเมื่อเจอช่างมักง่ายค่ะ   สาเหตุหลักคือ   บริวเณหนังศีรษะ โคนผม จะมีอุณหภูมิจากร่างกาย ทำให้สีออกเด่นสว่างกว่า ส่วนกลางผม ปลายผม    เมื่อผู้ทำสีย้อมสีผิดวิธี เช่น  ย้อมสีที่ค่อนข้างสว่างทั้งๆที่พื้นผมอาจจะไม่ติดสี    สีก็จะติดแค่ตรงโคนที่เป็นส่วนที่ติดง่าย    หรือ บางกรณีที่ ผู้ย้อม  ไม่ได้สังเกตว่า สีบริเวณโคนผมที่ย้อมหลังจากย้อมส่วนปลายแล้วออกสว่างแค่ไหนแล้ว  ลืมทิ้งไว้ สีก็จะไม่สม่ำเสมอกับส่วนปลายที่ย้อมก่อน และติดสีน้อยกว่า  เลยเด่นแดงขึ้นมา วิธีแก้ที่พอจะทำได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้แล้วก็คือ  ไปพบช่างดีกว่าค่ะ  ช่างอาจจะมีวิธีทำสีผมส่วนที่ไม่ติดสีให้ติดสีขึ้นมา  และอาจจะต้องย้อมส่วนโคนที่แดงเด่นนั้นให้กลมกลืน   หรือ อีกวิธีที่พอจะทำเองได้คือ  หาสีโทนเข้มๆนิดหนึ่ง อย่าง น้ำตาลช็อคโกแลต  น้ำตาลเข้ม  มาแต้มส่วนโคนที่แดงสว่างนั้น ก็จะทำให้กลมกลืนกับผมส่วนอื่นที่ไม่ค่อยติดสี   หรือ  หากส่วนกลาง ส่วนปลายติดสีโทนไหน ออกมา ก็ใช้สีโทนนั้น ผสมสีน้ำตาลนิดหน่อย แต้มโคนให้ดูกลมกลืน   ฟังไปฟังมาก็ดูยุ่งยากอยู่ดี    พบช่างดีที่สุดค่ะ  นะ นะ นะ... (จริงๆมันก็ควรไปทำที่ร้านตั้งแต่แรกแล้ว) จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 15:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เหมือนพูดคนเดียวเลย ไม่มีคนมาปาด T__T แต่ไม่เป็นไรค่ะ  หน้าด้าน!!!  จะพูดคนเดียวต่อ อดทนนิดค่ะ ใกล้จบแล้ว แฮ่ะๆๆ Q :  ผิวคล้ำ ผิวสองสี ทำผมสีอะไรให้เกิดดีคะ ? A:   อันนี้คำถามท็อปฮิตการทำสีในห้องแป้งเลยนะ   ให้ยกให้ Beyonce’  หรือ jessica alba เป็นสรณะค่ะ   ดูชีๆเป็นเยี่ยงอย่างได้เลย   ไม่เคยเห็น พวกเจ๊แกย้อมผมโทนสี ม่วง  สีแดงเลยใช่ไหมคะ     ก็หลีกเลี่ยงสีโทนนี้ได้เลย  เพราะจะทำให้สาวผิวสี ผิวดูหมองคล้ำ มืดหม่นได้ค่ะ     ควรหันมาทำสีโทนน้ำตาลประกายทอง   สีบลอนด์  โทนทอง เหลือง  ส้มออกเหลือง  ไปทางนี้ค่ะ  จะทำให้หน้าตาสาวผิวคล้ำดูผ่องใส  ไบร์ทขึ้น   แต่ก็อย่าถึงกับเหลืองทองสด อร้าอร่ามนะคะ  จะเหมือนสาวสก๊อยไปได้อย่างไม่รู้ตัว หรือหากรักที่จะทำสีช็อคโกแลต สีน้ำตาลอ่อนเข้ม โทนพวกนี้ก็ถือว่าเสมอตัวค่ะ  อาจจะไม่ผ่องไม่ไบร์ท แต่ก็ไม่ได้ทำให้หมองค่ะ  ทำได้.... จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 15:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 Q :  ผิวขาว   ทำสีผมได้ทุกสีจริงหรือไม่ A:  ไม่จริงค่ะ  ไม่จริงมากๆ  (สาวผิวสองสี ปรบมือเกรียว)   สาวผิวขาวควรหลีกเลี่ยงสีโทนไปทางเหลือง  ทางทอง  ที่สาวผิวคล้ำทำแล้วขึ้นนะคะ    เพราะมันจะทำให้ผิวขาวดูซีดเซียว  โทรม ป่วย และ หมองแก่ ขึ้นได้  ยิ่งไม่ได้แต่งหน้า หรือแต่งหน้าอ่อนๆด้วยนี่ไม่มีทางเกิดค่ะ    (ถึงจะผิวขาว ก็ไม่ใช่ว่าสีบลอนด์อ่อนจะเหมาะ เหมือนสาวฝรั่งเขานะคะ)   ยิ่ง สาวๆที่ไม่ค่อยแต่งหน้า  ควรจะทำสีโคล่า  โทนแดง ม่วง อาจจะเป็นน้ำตาลออกประกายก็ได้    จะทำให้หน้าตาดูคมชัด มีชีวิตชีวามากขึ้น  และไม่ได้ดูแก่อย่างเจ้าป้าเลยนะคะ   แต่หากยังไงก็ไม่รักสีพวกนี้เอาเสียเลย   อยากทำโทนทอง โทนบลอนด์เหมือนสาวผิวเข้มเขา  ก็เอาเป็นสีบลอนด์อมเขียวหม่นๆ    บลอนด์ประกายทองแดง  หรือไม่ก็สีโทนค็อปเปอร์    โทนส้มออกแดง  จะเหมาะดีค่ะ   หรือถ้าเรื่องมากอีก ก็ทำสี  ที่เป็นกลางที่เข้าได้ทุกสีผิวอย่าง สีน้ำตาลต่างๆ  สีคาราเมล สีกาแฟ  พวกนี้ก็ได้ค่ะ      หรืออยากจะแนวกว่านี้อีก ก็ทำสีชมพูช็อคกิ้งพิงค์ไปเลยก็ได้นะคะ เกิดแน่ๆค่ะ สำหรับสาวๆผิวกลาง ไม่ดำ ไม่ขาว  ก็ตั้งคำถามกับตัวเองเลยคะว่าต้องการให้ลุคเราดูคมขึ้น  หรือ ไบร์ทขึ้น   ถ้าอยากคมก็ทำสีโทนแดง ม่วง   หรือถ้าอยากสว่างๆขึ้น โทนบลอนด์ โทนน้ำตาลทอง ก็คือคำตอบ   แต่ที่น่าจะเหมาะกับสาวๆ ผิวกลางที่สุด น่าจะเป็นสีโทนน้ำตาลส้ม  น้ำตาลชาเย็น  เหลืองออกส้ม ไปทางนี้ค่ะ.... ทุกๆสีผิว อยากได้สีแบบไหน  ที่กล่าวมาก็แค่เป็นแนวทางให้ลองไปเลือกสีในชาร์ตสีที่ร้านขาย ตามใจชอบเลยนะคะ  ว่าอยากได้สีเหลือบอะไร ประกายอะไร  อมอะไร  มันมีให้เลือกเยอะจนอะฮั้นไม่ไหวที่จะเคลียร์แล้วค่ะ จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 15:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สุดท้ายฝากไว้..... ปีใหม่นี้นี้ของให้สวยอย่างมีสติและสตางค์กันถ้วนทั่วค่ะ  ^^ จขกท.ตอนนี้อยู่ในที่ที่ห่างไกลกะเทยอยู่นะคะ (ความเจริญเข้าไม่ค่อยถึง)   เน็ตก็ต้องมาใช้ที่ร้านที่ไกลออกไป  อย่างไรถ้าไม่ฝากคำถามไว้ในกระทู้  ก็หลังมือมาได้ค่ะ  ช้าหน่อยแต่ก็ตอบแน่ค่ะ  จขกท.จะมาเช็คเมลล์ทุก2-3วันค่ะ ขอบคุณที่ยังติดตามอ่าน กระทู้เล็กๆนี้ค่ะ จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 15:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เปนคนผมดำ แต่ไม่ดำสนิท ออกแดดแล้วน้ำตาล+แดงนิดหน่อยเพราะผมเสียค่ะ - - อยากทำผมสีชอคโกแลต คือเอาเปนแค่ให้มันน้ำตาลๆนิดหน่อย ไม่ให้มันดำมาก ให้สีมันอ่อนลงนิดนึงน่ะค่ะ เหมือนไม่ได้ทำสีมากอะไรงี้ แล้วก็อยากใช้น้ำยาทำสีที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ไม่อยากได้พวกเคมีน่ะค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยนะคะว่าควรจะใช้อะไร ยี่ห้อไหน ยังไง สนใจอยู่คือ เฮนน่า กับ Bigenน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าbigenนี่ธรรมชาติรึเปล่าค่ะ ขอบคุนจขกทนะคะ ได้ความรู้มากเรยค่ะ จากคุณ : headcracking (headcracking) - [ 22 ธ.ค. 51 15:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ได้ความรู้มากมายค่ะ จขกท ถามนิดนะคะ เคยทำเฮนน่ามั้ยคะ สนใจอยู่ค่ะ จากคุณ : เด็กหญิงแก้มตัวน้อยๆ - [ 22 ธ.ค. 51 15:52:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากคะ ได้ความรู้มากมายเลย ตั้งใจจะเปลี่ยนสีผมอยู่พอดีเลยกะรับปีใหม่เลยคะ ขอบคุณอีกครั้งคะ จากคุณ : ~* มุก_ขำขำ *~ - [ 22 ธ.ค. 51 16:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 กระทู้ดี มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ จากคุณ : annie_gnd - [ 22 ธ.ค. 51 16:58:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดค่ะ จากคุณ : NaNo-NaNNie - [ 22 ธ.ค. 51 18:07:05 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านจนจบแล้ว วิ่งไปร้านดีกว่าค่ะ แหะ แหะ จากคุณ : +:+ D e l i C a t e +:+ - [ 22 ธ.ค. 51 18:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มา edit #2  ให้ตอนทุ่มนิดๆนี่นะคะ พอดี ดาโพสไปก็ไม่ได้ดูด้วย   บทความนี้ดาเขียนใน pc  ของที่พัก แล้วก็อปใส่ แฮนดี้ไดร์ฟ มา ลงกระทู้อีกทีน่ะค่ะ โพสเสร็จหมดก็ก็อปทั้งหน้ามาเปิดที่ที่พักอีกที  กรี๊ดดดดดด....... ข้อมูลหายไปเยอะมากเลย เลยบึ่งรถฝ่าหมอกลงดอยมาร้านเน็ตอีกทีเพื่อ edit เพิ่มให้นะคะ ขอโทษด้วยที่คืนนี้คงไม่ได้ตอบคำถามให้  เพราะเขารอทานข้าวอยู่ที่โฮมสเตย์ที่พักค่ะ จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 22 ธ.ค. 51 19:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กระทู้มีประโยชน์มาก ๆ ค่ะ จากที่ทำสีผมมาหลายครั้ง เราว่าทำที่ร้านดีที่สุด อยากประหยัดก็ซื้อสีไปให้ที่ร้าน (ที่ไว้ใจได้) ทำให้ เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับผม เค้าบอกว่าไม่ควรใช้เฮนนา เพราะมันจะเคลือบผมแล้วผมจะแข็งกระด้าง ไม่มีอากาศหายใจ จริงรึเปล่าคะ จากคุณ : แบ๊น แบน - [ 22 ธ.ค. 51 20:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบกระทู้นี้มากค่ะ ขอบคุณจขก.ค่ะ เป็นประโยชน์มากจริงๆ ^^ ขอเก็บเขาคลังกระทู้นะคะ จากคุณ : printcess of the moon - [ 22 ธ.ค. 51 22:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณมากๆ เลยค่า มีประโยชน์จริงๆค่ะ ส่วนตัวเคยแต่ย้อมเอง  ติดบ้าง เพี้ยนบ้าง ก็ขำๆ กันไป ไม่ซีเรียส ฮ่าๆ จริงๆ กระทู้พวกย้อมผมจะเยอะตอนช่วงใกล้ปิดเทอมอ่ะค่ะ เห็นพวกเด็กสาวๆ จะเข้ามาสอบถามเยอะเป็นพิเศษ อิอิ จากคุณ : M@y_Merry - [ 22 ธ.ค. 51 22:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณค่ะที่เอาความรู้ดีๆ มาฝากกัน เราน่ะได้บทเรียนจากการทำสีผมเอง ทั้งแบบ overall และแบบ (กระแดะ) อยากให้เป็น Highlight  แต่ไม่ยอมลงทุน ผลที่ได้คือผมไม่ได้สีตามต้องการ น้องน้ำเลอะเทอะ หัวหูดูไม่ได้ แถมนานวันเข้าผมที่เคยสุขภาพดีกลับแห้งเสียอีกต่างหาก หลายเดือนก่อนตัดใจยอมจ่ายไปทำ highlight ที่ร้าน ได้ผลลัทธ์เป็นที่น่าพอใจมากๆ ย้ำว่ามากๆๆๆ ค่ะ อิอิ ผมไม่เสียเลย พอโคนมันงอกออกมาหน่อย เราไม่อยากได้สีสว่างๆ แบบตอน summer แล้ว ก็ไป toner มาให้เข้มขึ้น จริงๆ ก็ยังเห็นโคนอยู่ดีแต่มันถูกกว่า highlight ตั้งครึ่งนึง ช่างเค้ายอมทำให้ก็โอเค มาเอารูปออกจ้า แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 11:24:23 จากคุณ : Crotte - [ 23 ธ.ค. 51 01:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นประโยชน์เหลือหลาย  ขออณุญาติเซฟเก็บเอาไว้อ่านเลยนะขอรับ XD โหวต + กิฟ + เก็๋บคลังกระทู้ลด :D จากคุณ : PuPe_so_Sweet - [ 23 ธ.ค. 51 08:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณจขกท.มากๆเลยค่ะ ให้ข้อมูลที่ละเอียดและเป็นประโยชน์สุดๆ จากคุณ : แม่ตะวัน - [ 23 ธ.ค. 51 09:20:40 ]

ความคิดเห็นที่ 27 รัก จขกท.จัง จากคุณ : -:GhosT_Princezz:- - [ 23 ธ.ค. 51 09:42:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากๆค่ะ แต่ตอนนี้ผมเราได้ตายไปแล้วจากการดัด และทำสีผมค่ะ  ปกติทำ 2 เดือนครั้ง นี่คงต้องเว้นสัก 3-4 เดือน จากคุณ : kitty_jeedy - [ 23 ธ.ค. 51 09:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทำโลว์ไลท์คืออะไรเหรอคะ ทำแล้วสวยกว่าไฮไลท์ไหมคะ จขกท.สุดสวย :) จากคุณ : Galilee - [ 23 ธ.ค. 51 10:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 กรี๊ด  ขอบคุณค่ะ  กำลังจะไปทำสีผม  อาทิตย์นี้พอดีเลย  อ่านแบบเก็บข้อมูลค่ะ ^_^ จากคุณ : mawantha - [ 23 ธ.ค. 51 12:41:53 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณสำหรับการติดตามกระทู้  ขอบคุณ กิฟ และ โหวต ทุกๆคนนะคะ ดามาตรวจทานเพจที่เซฟมาเมื่อคืน ยังพบข้อบกพร่องในกระทู้ของดาอีกเยอะเลยค่ะ กระทู้ขึ้นซ้ำก็มี คำผิดก็มี วันนี้เลยลงดอยมาแก้ให้อีกรอบค่ะ  แต่เห็นแล้วก็ยิ้มได้นะคะ   ดาดีใจมากเลย   ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถขึ้นกระทู้แนะนำได้ เพียงข้ามคืนแบบนี้... ตอบคำถาม # 15 # 16 นะคะ     รวมถึง # 21 ด้วย เกี่ยวกับ “เฮนน่า”     นะคะ เฮนน่า  นั้น  คือผงสีจากธรรมชาติซึ่งมีส่วนประกอบของเคมีน้อยมาก   ใช้ผสมน้ำสำหรับย้อมผมค่ะ  การย้อมสามารถย้อมโคนจรดปลายได้เลย   เหมาะสำหรับการปิดผมขาวค่ะ  จุดเด่นอีกข้อคือ กลิ่นไม่เหม็นฉุน    กลิ่นจะคล้ายๆหญ้าหรือฟางแห้ง (ได้อารมณ์คันทรี่ๆ มาก) ในท้องตลาดมีให้เห็นหลายยี่ห้อเหมือนกัน เช่น เฮนน่า  บีเง็น  คัลเลอร์เมท   ฯลฯ  ส่วนมากประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน  เพียงแต่ อาจจะมีโทนสีแตกต่างกันออกไปบ้าง แล้วแต่การพัฒนาของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ปัจจุบันนั้นเฮนน่าได้รับการพัฒนาให้มีโทนสีหลากหลายขึ้นบ้าง   แต่ก็ไม่ได้หลากหลายขนาด ยาย้อมผมประเภทถาวรที่มี PPD      จะเป็นโทนสีเบสิคๆ ที่ไม่ได้มีเหลือบ ประกายแพรวพราวอะไร  เช่น สีน้ำตาลแดง  น้ำตาลทอง  น้ำตาลอมม่วง   ฯลฯ   และสีแฟชั่นนั้น จะหลุดลอก ซีดจาง เพี้ยนไปได้เมื่อสระนานๆไป  แตกต่างจะสีดำ หรือสีน้ำตาลแก่ ที่จะติดผมเรานานเลย ถามว่าหนุ่มๆสาวๆ ทำเฮนน่าได้ไหม  ตอบว่า ได้ค่ะ  แต่เฮนน่านั้น รู้กันดีกว่า ไม่มี PPD  จะทำให้ติดสียากกว่าน้ำยาย้อมผมถาวรทั่วไป  (ซึ่งบางทีก็ยังติดยากเลย)    เฮนน่าจะออกสีได้ดี กับผมเส้นเล็ก ที่ดำซีดๆ ลงไปมากกว่า  ผมเส้นใหญ่ สีเข้มจะติดค่อนข้างยาก   เฮนน่า เลยไม่เป็นที่นิยมในการทำสีแฟชั่นค่ะ     แต่กลับเป็นที่นิยมในการปิดผมขาว เนื่องจากไม่มีสารเคมี  เหมาะกับผู้ที่ต้องย้อมผมหงอกบ่อยๆ  ไม่มีผลข้างเคียงกับร่างกายค่ะ มีทริค นิดหน่อยว่า หากสาวๆ อยากใช้เฮนน่าทำสีผม เนื่องจากอยากหลีกเลี่ยงสารเคมีที่มาใน PPD หรือ ครีมย้อม     หลังจากการทำเฮนน่าแล้ว   สามารถเคลือบแว็กซ์สีโทนเดียวกันซ้ำไปได้ค่ะ   อย่าง  ถ้าทำสีน้ำตาลทอง  ก็สามารถเคลือบแว็กซ์สีทองทับไป จะทำให้ประกายทองสดใสขึ้นค่ะ  แว็กสีนั้นก็คล้ายกับแว็กซ์เงา คือจะให้ความเงางามพร้อมกับออกประกายสีค่ะ   ไม่ได้ออกสีจัดขั้นมาทับสีของเฮนน่า ได้ เนื่องจากพื้นผมเราสีเข้มอยู่ แว็กซ์สีก็จะออกแค่ประกายสี  (หากล้างสี ถึงจะติดสีของมันเองได้)    แต่อย่างไรก็ตาม ควรจะหมั่นแว็กซ์ทุกๆ 2 สัปดาห์เพื่อความสดชัดของสีผมนะคะ อนึ่งแต่หากทำเฮนน่า รวมถึงการเคลือบทับในเทคนิคของ จขกท.  ต้องตัดใจในการทำสีแบบถาวร นะคะ เพราะไม่ติดแน่ค่ะ   เพราะทั้งผงเฮนน่าและแว็กซ์จะไปเคลือบเส้นผมจนไม่ติดสีค่ะ   หากจะแก้  คือการล้างสีผมชั้นนอกออกไป  อาจจะไม่ถึงกะกัดขาวเลยหรอกค่ะ  แต่ผมเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลๆ ก็ติดสีแล้ว แต่จะล้างสีออกอีกแค่ไหน ก็แล้วแต่สีถาวรที่ต้องการทำด้วยค่ะ และ  การทำเฮนน่า ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยสำหรับเส้นผม และร่างกายเราแล้ว  การทำบ่อยเกินไป ก็จะทำให้ผมกรอบกระด้างได้ อย่างที่ คห.21 ถามไว้จริงๆค่ะ จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 23 ธ.ค. 51 13:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มาตอบเรื่อง โลว์ไลท์ (Low light)  ค่ะ โลว์ไลท์ เป็นการทำสีผมที่ตรงข้ามกับไฮไลท์ ที่คือการทำสีอ่อนกว่าพื้นผมเป็นช่อเล็กๆ หรือเป็นจุดๆ ตามแต่จะออกแบบบนศีรษะเราค่ะ   ตัวอย่างไฮไลท์ที่เรามักเห็นๆกัน  ก็เช่น ทำสีผมสีน้ำตาลอ่อนประกายทอง แล้วทำไฮไลท์แซมด้วยสีบลอนด์อ่อนๆ ค่ะ โลว์ไลท์จะเป็นการทำสีเป็นช่อๆ หรือจุดๆ โดยสีจะมีความเข้มกว่าพื้นผมนะคะ  อย่างเช่น   ทำสีผมสีบลอนด์อ่อนประกายทองแดง  และแซมด้วย โลว์ไลท์สีชาเย็น  เป็นต้นค่ะ ไลว์ไลท์สามารถเพิ่มมิติ และลูกเล่นให้ผมทำสีได้ เช่นเดียวกับไฮไลท์ทุกประการค่ะ  เหมาะสำหรับผู้ที่ทำผมสีอ่อนแล้ว ไม่อยากกัด หรือล้างสีผมให้อ่อนลงอีกเพื่อทำไฮไลท์  โลว์ไลท์จึงเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 23 ธ.ค. 51 13:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มีประโยชน์จังเลยค่ะ เก็บเข้าคลังเรียบร้อย อยากให้ จขกท เขียนเรื่องการบำรุงผม หรือ ฟื้นฟูผมที่เสียให้ดีขึ้นจะได้มั้ยคะ จะติดตามนะคะ จากคุณ : tasteless water - [ 23 ธ.ค. 51 14:14:51 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โห เก่งจัง จากคุณ : คนดีมีบ้านอยู่ - [ 23 ธ.ค. 51 17:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ดีจังเลยค่า อิอิ แอบมาเก็บข้อมูล จากคุณ : น้องเต้าหู้กับปาท่องโก๋ - [ 23 ธ.ค. 51 19:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณเจ้าของกระทู้มาก ๆ นะค่ะ สำหรับคำแนะนำดี ๆ เราก็เพิ่งทำไป เมื่อวานเองค่ะให้สามีทำให้ กระด่างกระดำเชียว สงสัยว่า ต้องพิมพ์กระทู้นี้ ให้เค้าอ่านแล้ว อิอิ จากคุณ : HoneyMoonBlossom - [ 23 ธ.ค. 51 21:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากค่ะ จขกท. น่ารักจังเลย จะจำไว้ลองทำเองค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : จุ๊จุ๊_อย่าเอ็ดไป - [ 23 ธ.ค. 51 21:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 38 หลงรัก จขกท. แล้วค่ะ จุ๊บ จุ๊บ ขอบคุณมากๆนะคะ จากคุณ : PrincssPussy - [ 24 ธ.ค. 51 10:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ได้ความรู้มากมายเลย ขอบคุณค่า จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง - [ 24 ธ.ค. 51 13:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอโหวตค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ที่เผยเคล็ดลับที่ไม่เป็นช่างผม ไม่รู้หรอก   ขอบคุณจริงๆ ค่ะ มีประโยชน์มากค่ะ มีปัญหา อยากจะขอคำปรึกษาค่ะ เพิ่งทำสี มาเมื่อวานค่ะ   เนื่องจาก ผมสีเดิม(บลอนด์อ่อนประกายเขียว โลแลนอโรม่า) แต่ไม่เขียวหรอกค่ะ ออกทองไปทางส้ม มีโคนงอกมาประมาณ สองนิ้ว ทนไม่ไหวค่ะ ตัดสินใจ ทำสีเข้มค่ะ เพราะไม่อยากทำสีบ่อย และไม่อยากได้สีที่ตัดกับผมจริงมากๆ อีกต่อไป (ทั้งชีวิต เคยทำ 3 ครั้งรวมครั้งนี้ค่ะ) ใช้เบอริน่า น้ำตาลเข้ม+ น้ำตาลอ่อนช็อกโกแลต ของดีแคชผสมกันค่ะ ผลออกมาคือ ไม่เป็นสีน้ำตาลค่ะ เป็นสีเกือบดำ มีประกายออกไปแดง ใจจริงอยากได้ สีน้ำตาล ค่ะ ตอนนี้สีผมมืดไป ยิ่งตรงปลายดูดำมากค่ะ ถ้าจะทำใหม่ ผมจะเสียมั้ย ควรใช้สีอะไร และ ควรจะล้างสีผมก่อนหรือเปล่าคะ ป.ล. เป็นคนผมเส้นเล็ก สีผมเดิมไม่ดำมากค่ะ ขอบคุณมากกกนะคะ ^_^ แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 51 16:50:33 แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 51 16:48:53 จากคุณ : sand (Sineshine) - [ 24 ธ.ค. 51 16:47:10 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาตอบ คห.40 ค่ะ  แว๊บมาตอบหลังจากทานข้าวเย็นแล้ว จริงๆแล้ว การทำสีก็เหมือนกับการซื้อหวยค่ะ  จะให้เป๊ะๆ โดนๆ น่ะยากเหมือนกัน  ต้องวัดดวงส่วนหนึ่งด้วย ดาว่าที่คุณ sand  ทำออกมาแล้วมันไม่ค่อยน้ำตาล  ก็เพราะว่า PPD  ที่ได้มากับกล่องยาย้อม เปอร์เซ็นต์ต่ำเกินไปค่ะ  และผมคุณก็คงสีไม่ได้อ่อนจริงๆเท่าไร PPD ที่ได้มากกับสีโทนน้ำตาลธรรมชาติ  คงแค่ 6%   ซึ่งเป็นประเภทที่เขาใช้ปิดหงอกกันน่ะค่ะ และสีน้ำตาลเข้มที่คุณใช้ก็จะเป็นสีปิดหงอกด้วย    มันเลยจะออกแนวเข้มเสียจนแทบดูไม่ออกว่าเป็นสีตามที่บอกที่กล่องจริงเหรอ    ถ้ามันจะติดเป็นสีตามกล่อง มันก็คือ สีที่ติดที่หงอกอะค่ะ - -" และประสบการณ์ที่ผ่านมา  ดาชอบใช้สีน้ำตาลเข้ม หรือน้ำตาลไหม้ ทำสีผมให้กับผู้ที่ต้องการย้อมผมดำ แทนที่จะใช้สีดำค่ะ เพราะสีน้ำตาลเข้มนั้น จะให้สีเกือบดำ  ซึ่งจะดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติกว่า ใช้สีดำย้อม หากคุณต้องการให้ผมออกประมาณน้ำตาลกลางๆ  ดาว่าหากไม่ใช้สีน้ำตาลอ่อน+PPD 9-12% ลงบนพื้นผมสีเข้มไปเลย ก็ผสมสีน้ำตาลกลาง  กับ สีบรอนซ์อ่อนที่สุด (สีสว่าง) ในอัตตราส่วน 1/4 : 1   +  PPD 6-9%   น่าจะออกมาใกล้เคียงกับความต้องการนะคะ  แต่ยังไงซะก็ต้องดูวิธีป้ายยา วิธีทำให้ดีก่อนนะคะ  จะได้ออกมาไม่พลาดจริงๆ สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ  ดายินดีมากค่ะ    พักนี้ก่อนปีใหม่ ดาจะมาเช็คกระทู้บ่อยขึ้นค่ะ เผื่อจะได้ตอบคำถามให้สาวๆ หนุ่มๆ ทุกคนได้สวยหล่อ ทันรับเทศกาลปีใหม่ค่ะ ^^ แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 51 19:57:18 จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 24 ธ.ค. 51 19:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 42 กระทู้นี้มาในช่วงที่กำลังต้องการเลยค่ะ แถมได้ความรู้เพิ่มอีกเพียบเลย ขอถามคำถามหน่อยได้มั้ยคะคุณดา คือว่าตอนนี้อยู่ในช่วงระหว่างตัดสินใจหน่ะคะ ตัดสินใจว่าจะยืดผมดี หรือว่าจะดัดผมดี สภาพผมตอนนี้ผมหยักโศกตามธรรมชาติ ยาวเลยบ่า ผมเส้นใหญ่ ผ่านการทำสีผมมาแล้วอย่างโชกโชน ปัญหาก็คือ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้โดยไม่ทำอะไรเลย ผมจะงอนกระจุยได้ทุกเมื่อเชื่อวันค่ะ ถ้าไม่สระแล้วก็ไดร์นะคะ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาอย่างมากมาย ตอนนี้ก็เลยกำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงดี จะดัดให้มันเป็นลอนสวยให้รู้แล้วรู้รอดไป หรือยืดให้มันตรงเลย จะได้หมดปัญหาตูดเป็ดซะที ในระยะยาวนี่ ทางเลือกไหนจะดีกว่ากันคะ เพราะว่าตอนนี้ก็กะว่าจะไว้ผมยาวไปเรื่อยๆ ยังไม่มีความคิดจะตัดหน่ะค่ะ แล้วก็ไม่เคยทำทั้งสองอย่าง ไม่มีไอเดียเลยจริงๆว่าอย่างไหนจะดูแลยากน้อยกว่ากัน ถ้าจะทำก็คงไปทำที่ร้านหล่ะค่ะ ทำเองคงไม่ไหว น่ากลัว ไว้จะแวะเข้ามาเช็คใหม่นะคะ ขอบคุณมากๆล่วงหน้าเลยค่ะ Merry Christmas and Happy New Year ka! จากคุณ : better in time - [ 25 ธ.ค. 51 12:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณ จกขท. มากๆค่า จากคุณ : ^Sakana no Ko^ - [ 25 ธ.ค. 51 17:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เป็นคนที่อยากทำสีผมอีกคนค่ะ แต่พออ่านเงื่อนไขในกระทู้นี้แล้ว.. ฮึๆๆ เราคงต้องพึ่งบริการช่างทำผมแล้วล่ะ ขอบคุณที่เขียนข้อมูลความรู้ดีๆ มาเผยแพร่กันนะคะ ^_^ จากคุณ : Everything_Is_Illuminated - [ 26 ธ.ค. 51 00:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ความรู้ใหม่ค่ะขอบคุณค่ะ อยากเปลี่ยนสีผมต้อนรับปีใหม่ อยู่พอดีเลยค่ะ จากคุณ : nam_minera007 - [ 26 ธ.ค. 51 08:40:15 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ว๊าว ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ว่าจะหนีแฟนไปทำสีผมอยู่ อิอิ จุ้บๆ ให้จุ๊บ จขกท. 2 ที ฮ๋าๆ จากคุณ : cAwaiizOm - [ 26 ธ.ค. 51 09:26:19 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ว้าวว้าววว เข้ามาเก็บความรู้ค่ะ ขอบคุณมากมายเลยคะ จากคุณ : blueista - [ 26 ธ.ค. 51 12:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขออนุญาิติเสริม จขกท.นะคะ เรื่องการย้อมดำ การย้อมผมดำ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ (กรณีจำเป็น เช่น เป็นคนสูงอายุแล้ว และต้องการปิดผมขาว และไม่ต้องการทำสีแฟชั่นอื่นใดอีกแล้วในชีวิตนี้) ก็ไม่ควรย้อมเด็ดขาดนะคะ เพราะสีดำถ้าย้อมแล้ว จะทำสีแฟชั่นอื่นไม่ติดอีกเลยในอนาคต แต่ถ้าเผลอพลาดทำสีดำไปแล้ว วิธีแก้เท่าที่มีตอนนี้ก็คือ ถ้าไม่ตัดส่วนที่ย้อมดำทิ้งไปจนหมด ก็ต้องฟอกล้างสีดำออก (ผมแห้งเสียอีก) ถ้าเลือกวิธีฟอกล้างสี ซึ่งไม่สามารถทำเองได้ที่บ้านหรือให้เพื่อนๆทำให้ได้อยู่แล้ว ก็ต้องไปทำที่ร้าน หากเจอช่างไม่ชำนาญ ผมที่ฟอกก็จะกระดำกระด่าง ไม่สวยงามอีกต่างหากนะคะ ถ้ามีเหตุจำเป็นให้ต้องย้อมผมกลับเป็นสีเข้มจริงๆ เช่น จะรับปริญญา จะฝึกงาน หรือจะเข้าทำงาน ฯลฯ ให้ไปใช้โทนสีน้ำตาลแทนสีดำจะดีที่สุดค่ะ โดยสีน้ำตาลเข้มจะเป็นสีที่ใกล้เคียงกับสีผมธรรมชาติของคนไทยมากที่สุด (ผมธรรมชาติของคนไทยไม่ใช่สีดำนะคะ เห็นผมใครดำมากๆ อย่างมากก็เป็นน้ำตาลเข้มจัด คนที่มีผมธรรมชาติเป็นสีดำจริงๆก็ได้แก่ ชาวอินเดีย หรือ พี่น้องชาวใต้ของเราบางคน เป็นต้นค่ะ) ถ้าไม่อยากให้สีผมดูมืดมากไป ก็เป็นเลือกสีน้ำตาลกลาง หรือ น้ำตาลช๊อคโกแลตก็ได้ค่ะ   ที่ให้เลือกใช้สีน้ำตาลแทนสีดำ เพราะนอกจากจะเป็นสีที่ใกล้เคียงกับสีธรรมชาติแล้ว สีน้ำตาลยังไม่ส่งผลกระทบในระยะยาว คือ เมื่อย้อมไปประมาณ 5- 6 เดือน สีน้ำตาลที่ย้อมมาก็จะค่อยๆหลุดลอกอกไป และเราก็จะสามารถทำสีแฟชั่นอื่นๆได้อีกค่ะ แก้ไขให้อ่านง่ายค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 51 12:31:43 จากคุณ : Nephthys - [ 26 ธ.ค. 51 12:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สกินเฮด ... ทำสีผมเองได้มั้ยครับ -..- มันดูสั้นๆ มืดๆ   อยากทำสีผมน่ะ  ทำได้ ไม่ได้  ยาก ง่าย  ยังไง แนะนำบ้างนะครับ จากคุณ : o_extreme - [ 27 ธ.ค. 51 14:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้าเป็นผู้ชาย คงจะขอเจ้าของกระทู้แต่งงานแน่ ... ละเอียดทุกเม็ดขนาดนี้ ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว เรามาแต่งงานกันเถ๊อะ~~~~~!! ขอบคุณในความมีน้ำอดน้ำทนเพื่อชาวโลกที่อยากสวยทุกท่าน มันมีประโยชน์มากค่ะ  ตานี้มีคำถามสักหน่อยอยากทราบมาก เพิ่งไปทำสีผมมาเมื่อวาน แล้วทีนี้ มันออกสีดาร์คช๊อคโกแลต แต่ช่างเค้าก้อว่าเค้าทำไฮไลท์เป็นสีอ่อนให้ด้วย เพียงแต่เรากำลังคิดอยู่ว่ามันมองไม่เห็นเลยว่าเป็นไฮไลท์มันจะมองเห็นหลังจากสระอีกสัก ครั้ง2ครั้งมั้ยคะ   อีกคำถามๆ แล้วคิ้วเราที่ยังดำปี๋เนี่ย จริงๆแล้วเวลาย้อมผมขอให้เค้าเอาน้ำยาป้ายคิ้ว มันควรหรือไม่ควร =/  คือผมเดิมเค้าดำปี๋เลยล่ะแล้วเส้นใหญ่ ผมหนามากด้วย  เคยย้อมคิ้วเหมือนกันตอนย้อมผมเอง แต่ครั้งนี้เพิ่งจะไปทำกับช่างทำผมก้อเลย ... จากคุณ : เด็กที่รอคอย - [ 27 ธ.ค. 51 16:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 51 กระทู้นี้ดีจริงๆเลยค่ะ... มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ จากคุณ : yawarafos - [ 28 ธ.ค. 51 11:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 52 แวะมาดู มีเวลาแค่ 10 นาทีค่ะ พรุ่งนี้แวะมาตอบนะคะ จากคุณ : Miss Plastic - [ 28 ธ.ค. 51 20:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 53 รู้ว่าสีแฟชั่น ปิดผมขาวไม่ได้ แต่ แต่.....ก็ชอบสีแฟชั่น ประเภทบลอนด์อ่อนทอง ทำให้ต้องย้อมสีผมบ่อยบริเวณโคน กลัวก็กลัวอันตราย (มะเร็งอ่ะ) แต่ก็อยากสวยด้วย  บ่น ๆ มางั้นเอง ไม่ค่อยมีความหวังว่า จะทำไงให้สีแฟชั่นติดผมขาวนาน ๆ เฮ๊อ....กระทู้นี้ ระบายความทุกข์อ่ะค่ะ......ใครเป็นเหมือนเราบ้างน๊า......ขอบคุณ จขกท....ที่ให้ความรู้....น่ารักจังค่ะ..... จากคุณ : เหมียวจินนี่ (เหมียวจินนี่) - [ 29 ธ.ค. 51 15:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตอบ คุณ better in time ค่ะ ขอโทษด้วยที่ตอบช้านะคะ ถ้าผมเส้นใหย่ แข็งแรงอยู่แล้ว จะยืดจะดัด ก็ไม่มีปัญหาค่ะ ถ้าผมหยักศกแต่ไม่ฟู  ดาว่า ดัดก็สวยนะคะ  แต่อาจจะต้องหาแกนที่ดัดออกมาแล้ว ดูกลมกลืนกับคลื่นผมที่หยักศกธรรมชาตินะคะ  หากจะดัดแค่ปลาย....แต่ถ้าจะดัดให้เกือบถึงโคนเลย แกนแบบไหนก็เลือกได้ตามชอบเลยค่ะ ผมแค่บ่า ให้ช่างดัดม้วนเข้าจะโอเคกว่าม้วนออกค่ะ   แล้วถ้าหากในอนาคตผมยาวมากขึ้น   อาจจะปล่อยปลายที่ดัดแล้วสวยคงไว้ และยืดโคน  ก็สวยได้อีกค่ะ หากจะยืด  ก็โอเคค่ะ  ทำได้ จะลดปัญหาผมงอนไปได้  แต่หากวันไหนตื่นมาแล้วยังงอนๆนิดๆ แค่เอาที่หนีบลากๆลงหน่อย ก็แก้ปัญหาได้แล้ว  จะทำได้ง่ายกว่าตอนผมไม่ได้ยืดค่ะ จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 29 ธ.ค. 51 19:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตอบคุณ  o_extreme  ค่ะ ผมทรงสิกินเห็ด เอ้ย..สกินเฮด ทำสีได้ง่ายมากค่ะ  ย้ำว่าง่ายมาก ดาลืมเขียนด้วยว่าเป็นทรงผมที่ทำสีเองได้ง่ายสุดๆ  ติดทุกสีด้วย ก็แค่ล้างผมให้สะอาด แห้งแล้ว ป้ายสีที่ต้องการลงไปให้ทั่งศีรษะ อย่างเบามือ   ระวังอย่าให้สีไปถูกหนังศีรษะมากนัก รอเวลา(ไม่นาน) สังเกตดูว่าออกสีสว่างเท่าที่ต้องการหรือยัง   เสร็จแล้ว พรมน้ำศีรษะให้ทั่ว นวดๆๆๆ  แล้วก็ล้างผมออก  แค่นี้ก็จบ!!! ปลื้ม ด้วยค่ะ  ^^ จากคุณ : นางสาวพลาสติค (Miss Plastic) - [ 29 ธ.ค. 51 19:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ตอบคุณ เด็กที่รอคอย ที่บอกว่ามองไม่เห็นไฮไลท์นี่คือ เส้นไฮไลท์มันหลบๆ อยู่ข้างใน มองไม่ค่อยเห็น หรือ เส้นไฮไลท์ไม่ค่อยออกสีชัดเจนคะ^^" แต่ยังไง ก็แก้ได้วิธีเดียวคือ ไปทำเพิ่มค่ะ  ถามว่าสระครั้งสองครั้ง จะเห็นชัดขึ้นไหม  ก็ต้องตอบว่าสระไปสักเดือนก็เอาจจะริ่มแล้วค่ะ แต่จะออกแดง ออกสว่างเพี้ยนๆไป ด้วยการทำปฏิกิริยาจากคลอรีนในน้ำประปา หรือ สารเคมีในผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงเรานะคะ และการย้อมคิ้ว ย้อมเครา ย้อมขนตา  มันก็ทำได้ค่ะ แต่ไม่ควรทำ เพราะบริเวณผิวหน้าโดยเฉพาะรอบดวงตา เป็นที่เปราะบาง อาจจะเกิดการระหายเคืองตา แพ้ ได้ จากไอ จากกลิ่นของน้ำยา ที่ป้ายในตาใกล้จมูกเราค่ะ  และถ้าสีเลอะ หยดมาที่ตา ก็.... ไม่อยากคิดเลยค่ะ  >__< ดาแนะนำ  มาสคาร่าย้อมคิ้ว ของ kate ดีกว่าค่ะ  ฮิตนะ ที่ห้องแป้งนี้ ของเค้าดีจริง!! อนึ่ง  จขกท.เคยมีแฟนคนแรกเป็นทอมนะคะ   แหมๆ อย่ามาจีบ ระวังติดล่ะ  อิอิ... และ...ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ  ยินดีมากค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 51 19:41:00 จากคุณ : Miss Plastic - [ 29 ธ.ค. 51 19:38:39 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คือ ตอนนี้อยู่ในช่วงหางานอ่ะค่ะ ( พวกบริษัท ราชการ รัฐวิสาหกิจ ประมาณนี้อ่ะค่ะ ) แต่อยากสวย  อ่ะค่ะ เลยอยากให้พี่ช่วยแนะนำ สีที่เหมาะกับหนูหน่อยจะได้ไหมอ่าคะ อย่างหนูนี่ มีผิวสองสี ผมสีดำ ถ้าจะย้อม น้ำตาลอ่อนประกายทอง นีจะสุภาพไหมคะ ขอบคุณค่ะ และขอความกรุณาพี่ช่วยให้คำแนะนำ หนูในเรื่องนี้ได้ไหมอ่าคะ http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q7372484/Q7372484.html ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ T^T จากคุณ : HTK - [ 30 ธ.ค. 51 11:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณมากๆ เลยค่า : )) กำลังคิดจะทำสีผมด้วยตัวเองอยู่ กระทู้นี้ของคุณเจ้าของกระทู้มาช่วยเอ๋พอดีเร้ยๆๆ ^^ จากคุณ : น้องเอ๋ - [ 30 ธ.ค. 51 12:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เหนื่อย....เหอๆ ยาวมากค่ะ แต่ดีมากๆ ทำเองแล้วด้วยค่ะ อิๆ แต่มีปัญหาชีวิตแระค่ะ คือครีมมันเลอะเต็มตัว ฮ่าๆ เอาออกไงดีค๊า?? อีกอย่างค่ะ เลอะเฟอร์นิเจอร์ไม้ซะ (ด้วยหล่อนผมยาวและเฟอะฟะ ฮ่าๆๆ) ถ้าช่วยได้กรุณาบอกทีนะคะ ไม่งั้นโดนปรับบานเบอะค่าพี่น้อง ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ นะคะ จากคุณ : Handmade - [ วันปีใหม่ 20:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อ่าน คห. แปด มีครบทุกข้อเลย ยกเว้นเฮนน่า ผมเส้นใหญ่ ดำ ทาครีมเผื่อไปไรผม ใส่พวกแฮร์โค้ทบ่อยๆ แง๊............... ขนาดไปทำที่ร้าน ช่างยังบ่น งึมงำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณ จขกท. มากค่ะ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 2 ม.ค. 52 20:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อยากจะร้องไห้ เผลอทำเฮนน่าเพราะอยากรุ้อยากลองไปแล้ว ผมดำปิ๊ดเลย แง เค้าทำโทนทองๆ แล้วสวยง่ะ  อยากจะบ้า  ย้อมเองก้อไม่ติดแล้วสิแบบนี้ แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  ไม่น่าอยากรุ้จักเฮนน่าเลย  งืออออออออออ แล้วนี่ไปทำมาแล้ว ที่ร้าน เลือกบลอนด์อ่อนคาราเมล  สีออกมาเป็นด๊ากช๊อกกะแลตอ่ะ  T^T พลาดอย่างใหญ่หลวง  แง....  นี่ดีนะ ออกสีมานิดนึง ถ้าไม่ออกเลย จะร้องไห้จิงๆ เสียดายตัง  ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก นี่ก้อได้แต่ภาวนาให้สีที่ทำมา ทะเลาะเบาะแว้งกับน้ำปีระปา แล้วได้สีที่อ่อนลงกว่านี้อีกหน่อย  เท่านั้นก้อพอทำใจไม่เสียดายเงินมากเท่าไรแล้ว แง... ปล จขกท คะ เอาน้ำส้มสายชูมาหมักผมบ่อยๆ สีจะอ่อนลงไม๊คะ  กรั่กๆๆ  หรือจะเป็นแอปเปิ้ลไซเดอร์แบบที่เค้าผสมเฮนน่าโทนสว่าง  แหะๆ  พอมีวิธีไม๊คะ เอาแบบ ไม่ต้องไปร้าน ไม่เปลือง ไม่แพง  แบบ สว่างขึ้นซัก 1-2 ระดับ ก้อพอใจโขแว้วววววววววว ฝากตอบด้วยนะค๊า ถ้าจะกรุณา  ธุค่า* จากคุณ : AzyGouS (AzyGouS) - [ 4 ม.ค. 52 10:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ว้า เสียดายจัง ไม่ทันได้อ่านกระทู้นี้ก่อนไปทำสี ขนาดให้ช่างทำให้นะเนี่ย ดูไม่ด๊ายยย เลย กลางหัว เป็นฝรั่งหัวทองจ๋าเรย ปลายผมดันสีน้ำตาลทอง อย่างที่อยากได้ แหม ผมใหม่ก็งอกเร็วดีจังวุ๊ย ห้าวันเกือบครึ่งเซ็นแร้ว ต้องหาเวลารีบไปแก้อย่างแรงเรย จากคุณ : แม่ดอกโสน - [ 5 ม.ค. 52 18:52:45 ]