ความคิดเห็นที่ 1 รู้จักยากันก่อน Aspirin ข้อบ่งใช้ (Therapeutic indications) ยานี้เป็นยาบรรเทาอาการปวด ลดไข้ บรรเทาอาการข้ออักเสบ และใช้เป็นยาป้องกันการรวมตัวของเกล็ดเลือด รูปแบบของยา (Dosage forms) ยานี้มีขายในรูปยาเม็ด และยาเม็ดเคลือบฟิล์มชนิดพิเศษ ที่ละลายได้ดีในน้ำย่อยของลำไส้เล็กเพื่อช่วย ลดการระคายเคือง หากเป็นชนิดเม็ดที่ไม่ได้เคลือบ ควรรับประทานพร้อมน้ำ 1 แก้วหลังอาหารทันที มีหลายขนาดเช่น 60, 300, 500 และ 600 มิลลิกรัม จากคุณ : ซังกุงตัวเล็ก - [ 18 ม.ค. 52 21:04:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราเคยบดผวมน้ำแล้วทาหน้า ก็ไม่แพ้นะคะ หน้ามันน้อยลง สิวยุบ ด้วย ทำตอนเป็นสิว หรือประมาณเดือนละ 2 ครั้ง ค่ะ จากคุณ : อยากให้โลกนี้ไม่มีเดือนเมษา - [ 18 ม.ค. 52 21:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ข้างบน เครดิต http://www.pharm.chula.ac.th/surachai/NSAIDs/aspirin.htm นี่เป็นข้อมูลจากลุงวิกค่ะ แอสไพริน (Aspirin) หรือ อะซิทิลซาลิไซลิก แอซิด (acetylsalicylic acid) เป็นยาในกลุ่มซาลิไซเลต (salicylate) นิยมใช้เป็นยาบรรเทาปวด ยาลดไข้ (antipyretic) และ ลดการอักเสบ มีผลต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulant) ในปริมาณการใช้ต่ำๆ และระยะยาวใช้ป้องกันโรคหัวใจ แอสไพริน มี acetylsalicylic acid ซึ่งมี salicylic acid 1% ค่ะ (จาก MUA) จากคุณ : ซังกุงตัวเล็ก - [ 18 ม.ค. 52 21:10:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค่ะ เข้ามาดูรายละเอียดน่ะค่ะ จากคุณ : noo_ting - [ 18 ม.ค. 52 21:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คนที่ผิวแห้ง หรือแพ้ง่ายมักจะต้องหลีกเลี่ยง แต่พอลองใช้ mask ด้วย Baby Aspirin แล้ว ก็พบว่า ไม่แสบ ไม่คัน ไม่แดง ไม่แพ้ Baby Aspirin คือ ยา Aspirin 60 mg ค่ะ เคลือบซะหนา เม็ดเป็นสีชมพู หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เป็นขวดเล็กมาก ขวดละ 60 เม็ด จากคุณ : ซังกุงตัวเล็ก - [ 18 ม.ค. 52 21:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มาลงชื่อด้วยคน :D จากคุณ : PuPe_so_Sweet - [ 18 ม.ค. 52 21:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เข้าสู่ขั้นตอน จบในหน้าเดียวค่ะ 1. ตอนแรกก็เตรียมอุปกรณ์ก่อน ในรูป คนผิวแห้งแพ้ง่ายต้องใช้น้ำผึ้งช่วยด้วย เนื่องจากยาเป็นตัวเคลือบบดยากมาก แนะนำให้ใช้ช้อน 2.ขั้นตอนการบดยา ก็หยดน้ำลงไปก่อนค่ะ รอให้ยาละลาย มันไม่ละลายหรอก เพราะมันเคลือบอยู่ ดังนั้นก็ใช้ช้อนบดๆๆๆๆๆๆ ที่เคลือบสีชมพูจะแตกออกค่ะ และตัวยาสีขาวข้างในจะละเอียดมาก เป็นครีมเลย ก็บดๆๆๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ ใส่น้ำนิดหน่อย 3.จากนั้นก็ผสมกับน้ำผึ้งค่ะ คนให้เข้ากัน 4.เป็นอันเรียบร้อย เวลาเราผสมอะไรmask หน้า ไม่ค่อยใช้มือค่ะ อันนี้เลยใช้คัตตอนบัดปาดเอา แต่ไม่สะใจ เลยใช้หลังช้อนนั่นล่ะปาดสองทีทั่วหน้าเลย ภาพ 2 ภาพข้างๆ เป็น ขณะพอก 15 นาที และ หลังจากล้างออกแล้ว จากคุณ : ซังกุงตัวเล็ก - [ 18 ม.ค. 52 21:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 และนี่เป็น ภาพ ก่อนมาร์ค ขณะ และ ผลงานที่ได้ ถ่ายแบบ natural ไม่ได้ใช้ flash แต่ด้านซ้ายเปิดไฟอ่านหนังสือ ด้านขวา ไฟบ้าน ก่อนทำ และหลังทำ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เพื่อให้รู้ว่าเป็นผลจากการ mask จริงๆ หน้าไม่ตึงนะคะ นุ่มดี รู้สึกว่ายาที่บดเป็นครีมๆเลยมันซึมเข้าหน้า เพราะตอนล้างแอบชิม ไม่เปรี้ยวเลยอะ เราใช้แค่ 3 เม็ดเอง มากกว่านี้กลัวระคายเคือง แพ้ง่าย แต่ชอบลอง เอาประสบการณ์มาแบ่งกันค่ะ เอาหน้าจริงลงหมดไม่ได้ .... เดี๋ยวจะมีคนถามว่า มาร์คไปทำไม อิอิ จากคุณ : ซังกุงตัวเล็ก - [ 18 ม.ค. 52 21:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมนะคะ น่าจะจากสาวๆห้องแป้งนี่แหละ ติดตามได้ ขอเอามาลงให้ผู้ที่สนใจนะคะ หน้ามัน เป็นสิว ลองเข้าไปดูค่ะ ดีมากๆ ขอยืมเจ้าของblog มาลงนะคะ ลุง google ส่งมาให้ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=maewjomkuan&month=18-08-2007&group=2&gblog=11 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bellebell&month=07-2007&date=03&group=5&gblog=2 ข้อแตกต่างของ baby aspirin mask คือ 1.ตัวยาใช้น้่อย บดได้ละเอียดมาก ลดการระคายเคือง 2.เวลามาร์ค แค่  15 นาทีก็พอ 3.เวลาล้างออก หน้าไม่แห้งตึง 4.บดยากกว่า Aspirin เม็ดใหญ่ๆ สีชมพูนั่นคือตัวโคต ไม่เป็นอันตรายค่ะ 5.แอบรู้สึกไปเอง ว่าหน้าใสขึ้นนิดนึงมั้ง ใครลองทำแล้วเป็นไงมั่ง เล่าให้ฟังหน่อยนะคะ แต่ทุกอย่างมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย ลองหาข้อมูลและศึกษาดูก่อนนะคะ จากคุณ : ซังกุงตัวเล็ก - [ 18 ม.ค. 52 21:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ข้างหลัง จากคุณ : ซังกุงตัวเล็ก - [ 18 ม.ค. 52 21:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆจ้า เราใช้ตัวมาสก์ แอสไพริน ปกติ พวกแผลหนอง ไรงี้มาวันนี้แห้งแล้วจ้ะ เพิ่งลองเมื่อวานเริ่ดสุดๆ แต่เรื่องความมันยังไม่ค่อยเห็นผลนะคะ >W< แต่พอล้างออกมาแล้วหน้านุ่มมากเลย ชอบๆ จากคุณ : ขีดเขียนถาปัด - [ 18 ม.ค. 52 21:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราไม่มีสิวอะ ผิวแห้ง แพ้ง่าย หวังผลหน้าใสอย่างเดียว เลยไม่ค่อยกล้าลองแบบรุนแรง แค่เบบี้ๆ ก็โอเคละ ตู่ไปเองว่าใสขึ้นหน่อย มีเวลาจะลองทำอีกวันหลัง จากคุณ : ซังกุงตัวเล็ก - [ 18 ม.ค. 52 21:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนเปิดกระทู้นี้ก็กำลังนั่งมาส์กหน้าแอสไพรินอยู่ค่ะ  555... แต่ใช้แบบเป็นแผงค่ะ   เราเป็นคนผิวผสม - มัน  มีสิวประปราย ทำแล้วชอบค่ะ  สิวลดลงด้วย  พอกเสร็จก่อนล้างก็นวดสักครู่  ทำเหมือนเป็นสครับไปในตัว จากคุณ : ready-go - [ 18 ม.ค. 52 22:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จะบอกว่าหน้าใสก็ตัวนี้เลยค่ะ ผสมกับน้ำผึ้ง ตอนนี้มีแต่คนทักว่าหน้าไปทำไรมา ตอนนี้พอกทุกวันค่ะขัดเบาๆสำหรับเราหน้าไม่บางนะ เพราะอาจจะใช้ผสมน้ำผึ้งกันแพ้ง่ายด้วยอ่ะ บางทีขี้เกียจก็เอาน้ำผึ้งผสมกับโฟมธรรมดา หน้านุ่มด้วยใสด้วย คิคิ จากคุณ : nicky_girl - [ 19 ม.ค. 52 10:08:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดีจังเลยคะ จากคุณ : prd (prd) - [ 19 ม.ค. 52 15:56:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาเก็บข้อมุลจ้า จากคุณ : nijatarae - [ 19 ม.ค. 52 16:30:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โหวตตต     แล้วจะชะแว๊บไปทำบ้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงง จากคุณ : First_giftset - [ 19 ม.ค. 52 20:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ว่าจะไปซื้อ แต่ร้านขายยาแถวบ้านปิดแล้วค่ะ พรุ่งนี้ยังไม่สาย จากคุณ : บักซ์มินนี่ - [ 19 ม.ค. 52 20:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เคยทำอยู่สักพัก แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว เพราะขี้เกียจ 555 เคยอ่านเจอในหนังสือเมื่อเร็วๆนี้ เค้าบอกว่าในตัวยาแอสไพริน มี BHA อยู่ด้วยเห็นในห้องนี้ กำลำงฮิตๆกันอยู่นะ เจ้า BHA เนี่ย จากคุณ : teaser - [ 20 ม.ค. 52 00:23:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แอสไพรินคือกรด ชิ่อสามัญ acetylsalicylic acid บอกชัดเจนว่ามีฤทธ์เป็นกรด ถ้ากินก็ต้องระวังเพราะมันกัดกระเพาะ แนะนำให้กินทันทีพร้อมหรือหลังอาหาร แต่ถ้าเอามาพอกหน้าก็ให้ระลึกไว้เสมอว่าแอสไพรินคือกรด มันกัดหน้าได้ ไม่ใช่อาการแพ้แต่อย่างใด ก็เหมือนเอาไวตามินซี หรือเอามะนาวมาทาหน้า ซึ่งอาจทำให้คัน แสบร้อน หน้าไหม้ได้ แต่ถ้าใช้แต่น้อย ก็มีคุณสมบัติผลัดเซลล์นั่นแหละค่ะ คิอง่ายๆว่า ทาน้อยผลัดน้อย ทามากผลัดมาก จากคุณ : ash the best - [ 20 ม.ค. 52 03:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หาข้อมูลมาตั้งนานแล้วเนี่ย เพราะเคยอ่านหนังสือเจ้าแม่ความงามเจอว่าชีก้อใช้สูตรนี้เหมือนกัน ตอนนั้นเรายังนึกเลยว่าทำได้จริงเหรอ  เพราะชีทำอะไรแปลกๆ หลายอย่างมาก   แต่บัดนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าชีพูดจริง ทำจริงและได้ผลจริงมาก่อน ซึ่งทุกวันนี้สาวห้องแป้งหลายคนก็ทำตามวิธีที่ชีได้กล่าวถึงเมื่อกว่า 10 ปี มาแล้ว   ไม่น่าเชื่อเร้ยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : nickybangkok - [ 23 ม.ค. 52 17:55:51 ]