ความคิดเห็นที่ 1 ถามก่อนว่า ให้ได้ผลสุด คือจะกินให้ใสหรือกินให้ได้เรื่องสุขภาพ ถ้าเรื่องใส? ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าจะเอาใสเอาแบบทามาทาหน้าเอาดีก่าเห็นผลดีก่า ถ้าเรื่องสุขภาพ กินแบบ 1000 ทีเดียวมันจะดูดซึมได้ไม่หมด ส่วนมากเห็นเขาหักครึ่งกินเช้า กับเย็น แล้วไอ่ที่หักไว้นิมันจะลดประสิทธิภาพลงไหม? อันนี้มะรู้อะ แต่ส่วนตัวแล้วกินเพื่อให้ร่างกายแขงแรงไม่เป็นหวัดง่าย เท่านั้นเอง ปล.อาจจะตอนไม่ค่อยตรง ความเห็นอื่นว่าไงอะ  ^ ^ จากคุณ : bluegleam - [ 8 ก.พ. 52 01:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กินวันละน้อยๆน่าจะดีกว่านะ เพราะว่า ร่างกายเรามันดูดซึมได้ทีละน้อยๆเอง ถ้ากินเยอะอย่างครั้งล่ะ1000 มันก็ดูดนิดเดียวแล้วขับออกไปทางปัสสวะเราอยู่ดีไม่ได้อะไรมาก   ตอนนี้ที่กินกินมื้อละ250 mg 4 เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอนค่ะ จากคุณ : เด็กดอยมีพุง - [ 8 ก.พ. 52 01:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรากินเช้าหลังอาหาร 1000 มก และเยน ก่อนนอนอีก 1000 มก ค่ะ ทานเยอะจริง เอาไปใช้ไม่หมดหรอก โรคจิตค่ะ 5555 แต่ตั้งทานแบบนี้ไม่เปนหวัดเลย คนรอบข้าวเปนหวัดกันหมด ไม่ติดเลยค่ะ สุขภาพดี หน้าใส และผิวดีขึ้นด้วยค่ะ จากคุณ : PopMizi - [ 8 ก.พ. 52 02:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตอบเท่าที่รู้นะครับ มื้อเช้า จะเป็นมื้อที่ร่างกายดูดซึมดีที่สุดครับ ฉะนั้น กินมื้อเช้าควรจะได้ผลกว่ามื้ออื่นๆครับ (ดูดซึมมากกว่า) กินหลังอาหารดีกว่าครับ หลังอาหารเช้าเย็น ครั้งละ 500 mg ครับ กิน 1000 mg ครั้งเดียวอาจดูดซึมได้ไม่เยอะอะครับ ฉะนั้นแบ่งกินน่าจะ work กว่า จากคุณ : vibrio_cholera - [ 8 ก.พ. 52 07:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เนื่องจากผมเองเป็นคนที่กิน Profimin อยู่(ตัว vite nice น่ะครับ) และได้ผลดีมาก ในขณะที่เพื่อนผมสีผิวเดียวกัน แต่กินแล้วได้ผลไม่เหมือนกัน เวลาในการกิน จึงมีผลมาก ก่อนอื่นต้องมาดูก่อนว่าตัว Profimin นั้นหลักๆ แล้วกินให้ขาว เพราะฉะนั้น จะขาวมาก หรือขาวน้อย ก็อยู่ที่ว่าร่างกายเราดูดซึมไปใช้ได้มากน้อยแค่ไหนใช่ไหมครับ   สิ่งหนึ่งที่ตัว Profimin เวิร์คมากๆ คือมีสารตั้งต้นกลูต้าไธโอน ย้ำว่าเป็นสารตั้งต้นน่ะครับ ไม่ใช่ตัวกลูต้าเพียวๆ  ซึ่งตัวกลูต้าเพียวๆ นั้นเมื่อลงกระเพาะไปแล้ว ก็จะถูกน้ำย่อย ย่อยให้เป็นอะมิโน ซึ่งสูญเสียสภาพ ทำให้กลายมาเป็นกลูต้าที่ร่างกายเราใช้ได้จริงๆ น้อยมาก  แต่เนื่องจากตัว Profimin นั้นเป็นสารตั้งต้น ร่างกายจึงดูดซึมไป และนำไปสร้างเป็นกลูต้าเอง  ผมกินมาหลายยี่ห้อ ยอมรับเลยว่า Profimin เป็นยี่ห้อนึงที่โอเคในเรื่องนี้มากๆ เนื่องจากเป็นสารตั้งต้นให้ร่างกายนำไปสร้างเอง ไม่ใช่กลูต้าเพียวๆ ที่จะถูกน้ำย่อย ย่อยจนเสียสภาพ  อันนี้จึงขอเน้นเลยว่าถ้าคิดจะกินกลูต้าไธโอนให้ได้ประสิทธิภาพ สิ่งแรกคือ ให้กินสร้างตั้งต้น ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหนก็ตาม เสียเวลาพลิกอ่านข้างกล่องซักนิดว่าเป็นกลูต้าเพียว หรือเป็นสารตั้งต้นน่ะครับ คราวนี้มาเข้าเรื่องต่อ ผมคงเข้าใจไม่ผิดว่าจุดประสงค์หลักของการกินวิตซี ของ จขกท. เพื่อที่จะให้มันเสริมฤทธิ์กับ กลูต้า ทำให้ขาวใช่ไหมครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นจะขอทำความเข้าใจว่า ลำพังตัววิตามินซีในปริมาณที่เพียงพอ จะทำให้กลูต้าถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้มากกว่าเดิมกว่า 40-50% เลย จึงเป็นเรื่องที่ถูกที่คิดจะกินวิตซีเพื่อเสริมฤทธิ์กลูต้าฯ แต่ร่างกายเราเองก็ไม่สามารถที่จะรับวิตซีได้ครั้งละเยอะๆ น่ะครับ ต่อให้คุณกินครั้งละ 500 mg หรือ 1000 mg ร่างกายก็จะรับได้ในระดับหนึ่งต่อครั้ง ซึ่งมันไม่ถึง 500 mg อยู่แล้ว ในการที่ร่างกายจะรับได้ต่อการทาน 1 ครั้ง  เพราะฉะนั้น หากคิดจะทาน ควรทานปริมาณ mg น้อย แต่ทานบ่อย จะดีกว่าทานปริมาณมาก แต่น้อยครั้ง เพราะส่วนเกินที่ดูดซึมไม่หมดอีกเยอะนั้นยังไงร่างกายก็ต้องขับออก ทำให้ฉี่คุณแพงขึ้น  และเป็นภาระให้ไตเปล่าๆ น่ะครับ เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีวิตซีอยู่ 1000mg คุณควรจะหักครึ่งมันใช่ไหม? มันอาจดูเป็นความคิดที่ดีน่ะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงคือ วิตซีนั้น ไวต่อแสง ความร้อน และเสื่อมสภาพได้ง่ายมากเมื่อเจอสิ่งเหล่านั้น เพราะฉะนั้นครึ่งนึงที่หักไป ย่อมประสิทธิภาพลดลงอย่างแน่นอน และอีกอย่างมีวิตซีอีกจำพวก ที่เรียกกันว่า วิตซี Buffered ซึ่งวิตซีพวกนี้ จะถูกเคลือบเม็ดยาด้วยสารที่จะทำให้เม็ดยาค่อยๆ ปลดปล่อยวิตซีออกมา ตลอดเวลาที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร ประมาณ 7-8 ชั่วโมง หากคุณไปหักเม็ดยา จะทำให้คุณสมบัตินี้สูญเสียไป เพราะฉะนั้นในการเลือกซื้อวิตซีครั้งต่อไป เลือกที่ปริมาณ mg น้อย แต่ทานบ่อย  และที่สำคัญเลือกวิตซีธรรมชาติ หรือ Bio Vitamin C จะทำให้ร่างกายเราดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่า วิตซีแบบที่สังเคราะห์ขึ้น ครับ ขอต่ออีกยาวหน่อยน่ะครับ ไหนๆ ก็อธิบายแล้ว เลยไม่อยากให้ครึ่งๆ กลางๆ ^ ^ คราวนี้สิ่งที่เรารู้แล้วว่า วิตซีนั้น ทำให้กลูต้าดูดซึมได้มากขึ้นนั้น จริง แต่ปริมาณวิตซีที่ร่างกายดูดซึมได้นั้น มันก็ไม่มาก ในเมื่อร่างกายดูดซึมวิตซีได้น้อย ก็เป็นลูกโซ่กัน ทำให้ดูดซึมกลูต้าได้น้อยตามลงไปด้วย ^ ^ เหมือนเรากินวิตซีเพื่อให้ร่างกายดูดซึมกลูต้าได้เยอะ เราก็ต้องมาหากันว่า แล้วเราจะกินอะไรเพื่อให้ร่างกายดูดซึมวิตซีได้เยอะบ้าง จึงค้นพบว่า หากเราทานวิตซีที่มีส่วนผสมของ ไบโอฟลาโวนอย จะทำให้ปริมาณวิตซีที่ถูกดูดซึมสู่กระแสเลือดนั้นมากขึ้นและตัวมันเองยังช่วยเสริมประสิทธิภาพของวิตซีด้วย เพราะฉะนั้น สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยเมื่อเลือกซื้อวิตซีน่ะครับ คือพลิกดูข้างกล่อง เลือกส่วนผสมที่มีไบโอฟลาโวนอย ครับ คราวนี้จบเรื่องการดูดซึมแล้ว มาดูเวลาในการทานน่ะครับ ปกติ ช่วงเช้านั้นเป็นเวลาที่ร่างกายพร้อมจะรับวิตามิน หรือสารอาหารได้ดี แต่ตัววิตซีเองนั้น เราจะทานตอนไหนก็ได้ เพราะตัวมันเองละลายในน้ำ จึงไม่เป็นอุปสรรคมากในการดูดซึม แต่ไม่นิยมทานตอนท้องว่าง เนื่องจากความเป็นกรดของวิตซีเอง จะระคายเคืองกระเพาะอาหาร แต่ในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่ผลิตโดยลดความเป็นกรดลง สามารถที่จะทำให้เราทานวิตซีในช่วงใดของวันก็ได้ แต่ถ้าเราไม่รู้ว่ายี่ห้อที่เราซื้อนั้น มีการลดความเป็นกรดของวิตซีหรือเปล่า ก็ให้ทานพร้อมอาหารเช้า หรือหลังอาหารเช้าก็ได้ครับ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ร่างกายดูดซึมวิตามินต่างๆได้ดี  แต่หากต้องการวิตซีในปริมาณมากในแต่ละวัน หลังอาหารช่วงอื่นก็สามารถดูดซึมได้ดีเช่นกัน ถ้าเราทานพร้อม ไบโอฟลาโวนอย ตามที่บอกไป  แต่อย่าลืมว่า ทานน้อยแต่บ่อย ดีกว่าทานครั้งละเยอะแค่ครั้งเดียวน่ะครับ  เพราะฉะนั้น เวลาเลือก ก็เลือกตัวที่ 1 เม็ดมีปริมาณวิตซีไม่เยอะ แต่อาศัยกินวันละหลายเม็ด เอาน่ะครับ เพราะฉะนั้นสรุปเลยน่ะครับ วิตซี ทานพร้อมกลูต้าฯ หลังอาหารเช้า แต่หากต้องการเยอะกว่านั้น ก็เพิ่ม หลังอาหารเที่ยง หลังอาหารเย็น หรือก่อนนอน เข้าไปครับ ความจริงไหนๆ ก็อธิบายแล้ว เลยอยากบอกเคล็ดลับอีกอย่างนึง เทคนิคนี้ไม่ได้ช่วยให้การดูดซึมวิตซี หรือกลูต้าดีขึ้น แต่มันจะทำให้วิตซีและกลูต้าที่ถูกร่างกายใช้งานไปแล้ว และเสื่อมประสิทธิภาพ กลับมาทำงานได้ใหม่อีกครั้ง  มันมหัศจรรย์ใช่ไหมครับ ^ ^ ตัวมหัศจรรย์ตัวนี้หลายคนยกให้เป้น Queen ของสารต้านอนุมูลอิสระเลย ก็คือตัว "กรดอัลฟาไลโปอิค"  ด้วยคุณสมบัติมันสามารถดูดซึมสู่กระแสเลือดได้ง่ายมาก เพราะสามารถละลายได้ทั้งในน้ำและในไขมัน โดยปกติเมื่อวิตซี และกลูต้าทำงานเสร็จแล้ว ก็จะสูญเสียสภาพ หรือเสียอิเล็กตรอนไป แต่เจ้าตัวกรดอัลฟ่าไลโปอิค นี้เองที่จะช่วยถ่ายอิเล็กตรอนให้ และฟื้นสภาพวิตซี และกลูต้าไธโอนให้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง เราจึงเหมือนได้สองต่อครับ เพราะฉะนั้นผมสรุปว่า ทาน Profimin ให้ได้ผล ต้องทานวิตซี ทานวิตซี ให้ได้ผล ต้องทานร่วมกับไบโอฟลาโวนอย และหากต้องการเสริมประสิทธิภาพของทั้งสองตัว ให้ทานกรดอัลฟ่าไลโปอิค ครับ ฟันธง !!  ^ ^ ** โอยกลับมาอ่านอีกทีเราเขียนยาวจัง ตาลายเอง T T แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 52 13:00:08 จากคุณ : xczar - [ 8 ก.พ. 52 12:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โอยยย นับถือคุณ xczar จริงๆค่ะ ได้ประโยชน์มากเลย ส่วนตัวเรา ตื่นมาเราก็ทานเลย ทานตอนท้องว่างค่ะ แล้วค่อยไปล้างหนน้าแปรงฟัน ส่วนอีกทีก็ก่อนนอน ตอนท้องว่างเหมือนกัน หรือว่าหลังอาหารประมาณ 30-1ชม ค่ะ จากคุณ : take me to the beach (babiimilo) - [ 8 ก.พ. 52 13:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขออนุญาตเจ้าของกระท้นะครับ ถามคุณ xczar คับว่า "กรดอัลฟาไลโปอิค" จริงๆแล้ววันนึงๆเราควรรับประทานกี่ mg ดีครับ เพราะเห็นในพวกอาหารเสริมสูตรรวม อย่างโปรฟิมีนไวท์ไนท์ใส่มาในปริมาณนิดเดียว แต่ก็เห็นมีแบบ อัลฟ่าไลโปอิค แบบเม็ดละ 500 mg เรยก้มี จากคุณ : Sympathique - [ 8 ก.พ. 52 14:46:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ^ กรดอัลฟ่าไลโปอิค ในอาหารเสริมทั่วไป มีทั้งผสมกับตัวอื่น และเป็นตัว อัลฟ่าไลโปอิคเดี่ยวๆ ส่วนใหญ่จะมีปริมาณ 50 mg / เม็ด นั่นคือโดสปกติของอาหารเสริม ถ้าสูงกว่านี้ จะจัดเป็นยา แต่จริงๆ ร่างกายเราสามารถรับได้โดยไม่เป็นพิษ อยู่ที่ไม่เกินวันละ 600 mg แต่โดยปกติแล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณเยอะมากขนาดนั้น วันละ 100-150 mg ก็ถือว่าเพียงพอแล้วครับ อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยของการกินกลูต้าไม่ว่ายี่ห้ออะไรก็ตาม คือการเลี่ยงแดดให้ได้มากที่สุด เพราะเม็ดสีเมลานินที่น้อยลงจะทำให้ผิวไวต่อแดดมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่คนหยุดกินมักจะคล้ำกว่าเดิม หากระหว่างทานและหยุดทานเลี่ยงแดด และทากันแดดอย่างสม่ำเสมอแล้ว จะช่วยแก้ปัญหาได้ครับ อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลย คืออย่าลืมออกกำลังกาย แล้วก็พักผ่อนให้เพียงพอ น่ะครับ อันนี้สำคัญมาก ต่อให้กินอาหารเสริมเยอะขนาดไหน แต่เราขาดการออกกำลังกายและการพักผ่อน มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีสุขภาพดีได้น่ะครับ ^ ^ จากคุณ : xczar - [ 8 ก.พ. 52 15:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วโปรฟิมีนไวท์ไนท์หาซื้อได้ที่ไหนค่ะ เออแล้วถ้าเรารุสึกร้อนแสบหน้านี่คืออาการไวต่อแดดรึป่าวค่ะ แล้วถ้านั่งหน้าคอมนี่มันจะเกี่ยวมั๊ยค่ะ และที่บ้านก้อเปิดไฟสว่างมากค่ะ เราต้องทาครีมกันแดดตลอดเวลาเลยรึป่าวค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : คนสวยมาเอง - [ 8 ก.พ. 52 16:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ^ ไวท์ไนซ์ผมคิดว่า ร้านขายยาทั่วไปที่ขายอาหารเสริมน่าจะมีน่ะครับ ส่วนตัวผมอยู่หาดใหญ่ หาซื้อยากอยู่เหมือนกัน T T คิดว่าที่กทม.น่าจะหาง่ายน่ะครับ ลองเดินดูน่ะครับ (ไม่ได้ช่วยไรเล๊ยย  T T) ส่วนเรื่องแสบหน้านี่ เป็นตอนเจอแดดหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ก็อาจมาจากการผิวไวต่อแดด แต่บางทีคนที่ขับมอร์ไซค์บ่อยๆ เจอลมปะทะหน้าทุกวัน ก็ทำให้แสบหน้าเพราะถูกเสียดสีจาก ลม ได้ ต้องดูว่ามันเป็นช่วงที่เราทำกิจกรรมอะไรน่ะครับ *นั่งหน้าคอม นานๆ นี่ น่าจะแสบตาก่อนแสบหน้าน่ะครับ T T  จอคอมก็ผลิตรังสี UV ออกมาได้เช่นกันครับ *ส่วนในที่ร่มเปิดไฟสว่าง หลอดไฟที่ใช้อยู่ตามบ้าน ก็ผลิตรังสี UV ออกมา  เช่นกันครับ สรุปแล้ว แม้อยู่ในร่มเราก็หลีกเลี่ยง UV ไม่ได้ ถ้าเราไม่ขี้เกียจก็ทาไว้ซักหน่อยน่ะครับ  แต่ก็เลือกค่า SPF ให้เหมาะกับกิจกรรมของเราน่ะครับ เช่นอยู่ในร่มเลือก SPF ซัก 30 นี่ก็เว่อร์ไป ^ ^ เอาซัก SPF 5-10 ก็หรูแล้วสำหรับที่ร่ม  ส่วนจะออกแดด ก็ค่อยทา ซัก 15-30 ถ้าผิวไวแดดมากๆจริง ก็เลือกที่สูงกว่านี้ซักหน่อย  แต่ค่า SPF ยิ่งมาก ผิวเรายิ่งระคายเคืองง่ายขึ้นน่ะครับ ^ ^ จากคุณ : xczar - [ 8 ก.พ. 52 17:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : คนสวยมาเอง - [ 8 ก.พ. 52 18:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ChiLdish - [ 8 ก.พ. 52 18:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 13 xczar นายสุดยอดวะ จบรายมาอะ จากคุณ : ponlapa - [ 8 ก.พ. 52 23:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 14 วันนี้เข้าร้านขายยา ถามราคา Profimine ... กล่องละประมาณ 800 โอ้ว เลยได้วิตามินซีองค์การ 500 มก และก็วิตามินอี 100 ไอยูมาแทน อย่างละ 100 เม็ด กินได้ 3 เดือน ราคา 235 อืมมม นี่สิ คุ้มของจริง เดี๋ยวครั้งหน้าจะถอย แบล็คมอร์ ที่เป็นตัวไบโอ วิตามินรวมที่เป็นตัวแอนตี้ออกซิแดนท์อ่ะ  น่าสนใจทีเดียว 120 เม็ด 560 บาท ก็ไม่แพงนะ จากคุณ : vahaha... - [ 9 ก.พ. 52 01:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ vahaha... อยู่ในกทม.ป่าวคะ ถ้าใช่ไปซื้อแถวศิริราช หรือร้านขายยาส่งดีกว่านะคะ ราคาที่ซื้อมามันแพงมากกกกกกกกกกกอะค่ะ Vite Nice แบบมีแถมแถวๆศิริราช ไม่เกิน 700 ส่วนวิตซีองค์การก็อยู่ประมาณ 100 นิดๆเองอะค่ะ แตุ่ถ้าอยู่ ตจว. หาซื้อจากร้านในเน็ทที่ไว้ใจได้จะคุ้มกว่าค่ะ จากคุณ : buttercup_123 - [ 9 ก.พ. 52 03:24:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อยู่กรุงเทพครับ แต่ 235 บาท นี่ 2 ขวดน่ะครับก็ตกขวดละร้อยนิด ๆ อย่างที่ว่าเลยครับ แต่ vite nice นี่ถามดูเฉย ๆ ครับ คงไม่กินหรอก ไม่รู้ว่ามันมีกี่เม็ด และราคาเกินเม็ดละ 10 บาทนี่ผมก็ไม่เอาละครับ ไว้กินนี่หมด (ถ้ากินหมดนะ) จะไปซื้อ แบล็คมอร์ Bio ACE มาลองดูครับ เห็นที่ขววดเขียนไว้ว่า easy to swallow ก็เห็นว่า 120 เม็ดแน่ะ แต่แถวศิริราชไม่รู้จะเท่าไหร่ ที่ร้านที่ไปซื้อมัน 560 น่ะครับ ที่ขวดมัน 900 กว่า ๆ แน่ะ ก่อนกลับจากอเมริกาซื้อวิตามินซี 1000 มก มาขวดใหญ่เลยครับ 500 เม็ด แต่เม็ดใหญ่มากกกกกกกก กินทีติดคอเลยเลิกกิน แต่มันถูกมาก ๆ ๆ จริงๆ ก็เลยซื้อ จากคุณ : vahaha... - [ 9 ก.พ. 52 23:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เพิ่งซื้อ Blackmores BIO C  1000mg มาคะ จากวัตสัน 150 เม็ด + 30 เม็ด 950 บาท เค้าจัดเป็นคู่คะ ก่อนหน้าเคยทาน Nat C แล้ว แต่พอเห็น Blackmores จัดรายการเลยลองดูซะหน่อย เห็นเค้าเขียนที่ฉลากว่า Low Acid ด้วยอ่ะ ตอนที่ทาน Nat C ช่วงหน้าหนาว คนที่บ้านไอทุกคน ไม่สบายกัน แต่เราไม่เป็นอะไรเลย  ไม่เป็นหวัดด้วย ดีจริง ๆ คะ จากคุณ : me2 (me2again) - [ 10 ก.พ. 52 16:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 .. จากคุณ : จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix - [ 11 ก.พ. 52 09:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรากำลังจะกินแบบ คุณ PopMizi อะ แต่ไม่รู้จะเยอะไปไหม แต่เพื่อนที่เรียนมาบอกว่าวิตามินซีละลายน้ำได้ดี จะไม่ค่อยตกค้าง แต่เราก้อจะหยุดกินทุกวันอาทิตย์ หยุดทุกอย่างเพื่อให้ร่างกายเราได้พักบ้างอะ จากคุณ : ~tkaoei~ - [ 11 ก.พ. 52 11:54:46 ]