Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ผมเชื่อแล้วครับว่า เครื่องสำอางค์ของคุณผู้หญิงเนี่ย ใช้แล้วได้ผลจริงๆ

    เปล่าๆ ผมไม่ได้เอาไปใช้เองแล้วเห็นผลทันตานะครับ

    คือเรื่องมันมีอยู่ว่า... คุณพ่อผมเพิ่งเสียเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ก็เพิ่งจัดงานศพเสร็จไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และในช่วง 7-8 วันที่จัดงานนั้น ก็มีญาติสนิทมิตรสหายของคุณพ่อคุณแม่มาร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในบรรดาแขกที่มาร่วมงานนั้น ก็รวมไปถึง เพื่อนของคุณแม่ สมัยประถมและมัธยมด้วย คุณแม่ผมเป็นคนต่างจังหวัด แน่นอนว่าเพื่อนๆสมัยนั้นของเค้าก็เป็นคนต่างจังหวัดด้วย และหลายคนในกลุ่มนั้นก็ยังอยู่บ้านเดิมกัน ทีนี้ ผมก็สังเกตเห็นว่า คุณแม่ของผมซึ่งใช้เครื่องสำอางค์และครีมบำรุงผิวอยู่เป็นประจำนั้น ดูหน้ากระจ่างใสและอ่อนเยาว์กว่าเพื่อนรุ่นๆเดียวกันเป็นอย่างมากเลย อาจจะเกี่ยวด้วยว่าคุณแม่ผมทำงานเป็นอาจารย์มหาลัย วันๆอยู่แต่ห้องเลคเชอร์และห้องทำงาน ไม่ค่อยได้ออกไปกลางแจ้งโดนรังสียูวีสักเท่าไหร่ เวลาไปสอนหนังสือก็เผอิญโชคดี มีที่จอดรถใต้ตึกเลย ไม่โดนแดดแน่นอน จะโดนแดดบ้างก็ตอนตากผ้าที่บ้านกับตอนเดินไปไขกุญแจปิดประตูรั้วก่อนออกจากบ้านเท่านั้นเอง แต่สำหรับเพื่อนๆของคุณแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดหลายๆท่าน อาจจะต้องใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้งมากกว่า และก็อาจจะไม่ได้ใช้ครีมบำรุงผิวกันด้วย ก็เลยทำให้คุณแม่ผมดูสาวกว่าเพื่อนๆรุ่นเดียวกันประมาณ 6-7 ปีเลย

    ก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยสนใจและไม่เคยเห็นด้วยกับการที่ต้องหมดเงินทองไปกับเครื่องสำอางค์หรือครีมบำรุงผิวอะไรทั้งนั้น ผมเคยคิดว่ามันไร้สาระ ไม่เห็นต้องใช้เลย แค่ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าดีๆกับทาแป้งหรือลงรองพื้นก็น่าจะพอแล้ว และทุกครั้งที่เห็นคุณแม่ยืนหน้ากระจกและกำลังทาครีมหรือใช้เครื่องสำอางค์เหล่านั้น ผมก็มักจะถามปนแหย่แม่ว่า “แม่ๆ ไอ้ครีมชะลอความแก่ของแม่เนี่ย มันใช้แล้วได้ผลจริงเหรอ ดูแล้วไม่เห็นมันจะช่วยอะไรได้เลย ดูเหมือนป้ายังไงก็ยังดูเหมือนป้าอยู่ดี” แม่ก็จะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆนิ่งๆว่า “ช่วยได้สิ ใช้แล้วมันทำให้หน้าแม่ไม่มันและก็ไม่โทรมเร็วด้วย” ผมก็ถามต่อ “เหรอ แล้วแม่รู้ได้ไงว่ามันได้ผล” แม่ก็จะบอกว่า “ถ้าไม่ใช้ หน้าแม่ก็จะมีรอยมีอะไรเยอะกว่านี้ไง” ผมก็จะปิดท้ายว่า “โหย เหรอ งั้นใช้ไปเหอะ แค่นี้ก็จะแย่แล้ว ขีนไม่ใช้แล้วมีรอยเหี่ยวย่นเยอะกว่านี้เค้าคงคิดว่าเราเป็นย่าหลานกันนะ” แม่ก็จะกลั้วหัวเราะแล้วบอกว่า “ไอ้นี่ ว่าแม่เหรอ มาให้แม่ลงโทษด้วยการหอมแก้มซะดีๆ”

    ผมเริ่มต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเครื่องสำอางค์ของแม่ในช่วงที่ผมไปเรียนต่อโทที่อเมริกา ซึ่งทุกปีก่อนที่จะกลับมาเมืองไทย คุณแม่จะส่งอีเมล์พร้อมกับลิสต์รายการเครื่องสำอางค์ยาวเหยียด มาให้ผมไปซื้อแล้วขนกลับมาให้เค้า ซึ่งเครื่องสำอางค์แต่ละอย่าง ผมดูแล้วก็ได้แต่อุทานว่า “อะไรฟะเนี่ย!?” ชื่อก็ประหลาดไม่รู้จักเลยซักกะอัน บางอันก็ชื่อเท่มากเลย Dramatically Change อะไรเนี่ยแหล่ะ ซึ่งเวลาไปซื้อให้แม่ที่ห้างสรรพสินค้านั้น วิธีที่ผมใช้เป็นประจำก็คือ ใช้พรินเตอร์พิมพ์อีเมล์อันนั้นน่ะแหล่ะออกมา แล้วก็เดินตรงไปยื่นให้เคาท์เตอร์ยี่ห้อที่แม่ต้องการ (อย่างน้อยผมก็ยังพอแยกแยะยี่ห้อเป็น) แล้วก็บอกกับฝรั่งคนขายว่า ช่วยด้วย ฉันต้องการซื้อตามเนี้ยะ ฟอร์มายมัม จัดมาเลย ไม่ต้องถามอะไรฉัน เพราะฉันไม่รู้เรื่อง เค้าก็จะไปหยิบๆมาจัดให้ครบ แต่หลังๆก็เริ่มจำได้นะว่าอะไรเป็นอะไร อย่างเช่น Total Turnaround ของคลินิคเนี่ย มันจะมีสองขนาดใช่ไหมครับ ขนาดใหญ่มันจะคุ้มกว่าแต่มักจะไม่มีของ ถ้าของแม่ที่ไทยยังมีอยู่ก็ไม่ต้องซื้อ หรือไว้ค่อยไปดูอีกทีที่ Duty Free ก็ได้ นี่... เป็นไงล่ะ ถือว่ามีพัฒนาการไหมครับพี่น้อง

    แต่อย่างไรก็ดี ผมก็ได้เห็นกับตาตัวเองแล้วล่ะครับว่า คุณแม่ผมนั้น ดูเหมือนยังเพิ่ง 50 อยู่เลย ทั้งๆที่อีก 3-4 ปีจะเกษียณอายุราชการแล้ว ในขณะที่เพื่อนๆเค้าดูเหมือนคนใกล้ 60 แล้วจริงๆ ผมก็เลยเริ่มรู้สึกเข้าใจและเห็นด้วยกับการใช้เครื่องสำอางค์และครีมชะลอความแก่ของคุณแม่ และสำหรับภรรยาผม (หลายท่านคงจะพอจำได้นะครับว่าผมมีภรรยาแล้ว จากกระทู้เรื่องที่เค้าอยากได้กระเป๋า LV นั่นน่ะครับ) ตอนนี้ ถ้าเค้ามีความจำเป็นจะใช้เครื่องสำอางค์เพื่อรักษาผิวหน้าและบำรุงผิวพรรณล่ะก็ ผมก็คงจะไม่ขัดขวางหรือคัดค้านแล้ว และในบางโอกาสที่ตัวผมเองไปเมืองนอก ก็คงจะยอมจ่ายเงินค่าเครื่องสำอางค์ให้กับภรรยาบ้างก็เป็นได้

    ดังนั้น คุณผู้ชายทั้งหลาย ที่ยังรู้สึกคัดค้านหรือข้องใจอยู่ ว่าทำไมผู้หญิงทั้งหลายจึงต้องทุ่มเงินไปกับเครื่องสำอางค์และครีมบำรุงอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะด้วยนะ ก็โปรดเชื่อเถอะครับ ว่ามันช่วยได้จริง คือมันอาจจะยังไม่เห็นผลในวันนี้ แต่ในอีกสิบหรือยี่สิบปีข้างหน้า เชื่อเถอะครับว่า คุณจะได้เห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างแน่นอน

    ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านกัน และสำหรับสาวๆท่านไหนที่เปิดกระทู้นี้ให้แฟนอ่าน ผมขอหนึ่งโหวตได้ไหมครับ ขอบคุณนะครับ

    จากคุณ : Hed Question - [ 27 ก.พ. 52 15:08:19 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com