เราอยากทำเลสิกมานานแล้ว แล้วก็หาข้อมูลมามากพอสมควรค่ะ
ก็ตัดตัวเลือกไปเรื่อยย เหลืออยู่3ที่คือ
(อันนี้ถือว่ามาให้เป็นข้อมูลนะคะ)
1.รพ หูตาคอจมูก กับ คุณหมอมนพล (ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกมั้ย)
คุณหมอเป็นทหารค่ะ จบด้านเลสิกโดยตรงจากเยอรมัน อันนี้ลูกพี่ลูกน้องเราเคยไปทำมา
ให้ถอนcontact lens ก่อนไปตรวจ7วัน
2.TRSC ยอดฮิตของที่นี่ กับคุณหมอเอกเทศ (ยอดฮิตอีกเหมือนกัน)
อันนี้เดินทางลำบากค่ะ แถวนั้นรถติด แต่เห็นว่ายอดฮิตมากๆ ก็เลยเก็บไว้เป็นตัวเลือก
3.laser vision กับคุณหมออนันต์ (เหมือนว่าจะเป็นอาจารย์อยู่ที่ รามาฯด้วย)
ก็ฮิตรองลงมาจากTRSCนิดๆ แต่ใกล้บ้านมากกกกก
ให้ถอดcontact lens ก่อน 3 วัน
เราเลือกทำที่ laser vision ค่ะ เหตุผลไม่มีอะไรมากเลย เลือกที่เดินทางสะดวกค่ะ
เกริ่นก่อนนว่าาา
เราอายุ20ปีค่ะ
สัดส่วน 40-40- เย้ยยย!!
สายตาสั้น ใส่แว่นมาตั้งแต่ปอ3 (ตอนนั้นสั้น350ค่ะ)
และเริ่มมาใส่contact lens คู่ไปกับแว่นด้วยตอนมอ2ค่ะ
ปัจจุบัน สั้นประมาณ 800กว่า เอียงอีกข้างละ200กว่า T_T ครืดดด
เริ่มแรกก็โทรไปนัดค่ะ
((คือต้องเข้าไปตรวจสภาพตา ว่าสามารถทำเลสิกได้มั้ยก่อนค่ะ
ซึ่งถ้าเราพร้อมทำ และคุณหมอว่าง ก็สามารถทำเลสิกได้ในวันเดียวกันนั้นเลยค่ะ))
ก็ได้คิวมา แต่เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง ดั๊นนนน มีตากุ้งยิงงอกขึ้นมาก่อนถึงวันนัดแค่3-4วัน T_T (ซึ่งเราเป็นประจำอยู่แล้ว)
เราก็โทรไปที่นั่น เค้าก็บอกว่าไม่มีปัญหาค่ะ แถมบอกไม่ต้องไปหาหมอนะ ให้ไปพบคุณหมอที่นั่นทีเดียวเลย
พอถึงวันนัด เราก็แบกตากุ้งยิง เข้าไปตรวจเชคสภาพตาด้วยกัน
ก็มีประมาณ7-8ขั้นตอน ไล่ไปเลยนะ
1. ถ่ายรูปทำประวัติค่ะ อันนี้ชอบมาก ก็จะมีกล้องเสียบกะคอมฯตั้งไว้บนโต๊ะ (เหมือนตอนทำบัตรประชาชนอะค่ะ)
แต่ที่นี่ ยิ้มได้ เอียงคอ โนเนะ ชูสองนิ้วได้ตามใจชอบ และจนท ก็ไม่โหดร้ายทารุณเหมือนทำบัตรปชช
ก็เสร็จเราเน้อ เก็บกดจากการถ่ายบัตรปชช มา2รอบ
แนะนำว่าฉีกยิ้มไปเลยค่ะขั้นตอนนี้ เพราะว่าทุกกระบวนการที่เราต้องตรวจ
หน้าคอมฯของเจ้าหน้าที่แต่ละท่านนั้น จะปรากฏประวัติ พร้อมรูปถ่ายฉีกยิ้มของเราขึ้นมา
2. หลังจากถ่ายรูปทำประวัติเสร็จ ก็ไปวัดค่าสายตา(คร่าวๆ) ด้วยเครื่องค่ะ
ก็เหมือนกับเครื่องที่ตั้งอยู่ตามร้านแว่นอะค่ะ ที่มันมีรูปบอลลูนอยู่ตรงกลาง ให้เรามองไปที่บอลลูนง่ะ
อันนี้ใครเคยไปตัดแว่น คงต้องเคยผ่านเครื่องนี้มาแล้วทุกคน เพราะงั้นข้ามไปนะคะ
3. จากนั้นก็จะไปวัดอะไรสักอย่างต่อ จะเป็นคล้ายๆเครื่องแรกนั่นแหละค่ะ
แต่ว่าจะมีคล้ายๆจานดาวเทียมติดอยู่ตรงที่เราต้องยื่นหน้าเข้าไป แล้วก็จะสีไฟสีแดงเป็นวงๆ กระพริบๆๆ
อธิบายไม่ถูกค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวนะ ไม่เจ็บไม่ปวดใดๆค่ะ (ไว้ขั้นตอนไหนที่เจ็บแล้วจะบอก)
4. วัดอะไรซักอย่าง อีกเครื่องนึงค่ะ = ='' ไม่เจ็บเหมือนกัน
5. วัดความดันตา โดยเครื่องจะพ่นลมออกมาใส่ตาเราค่ะ
ขอเล่าความประทับใจ ที่นี่เค้าจะให้เราหลับตา แล้วทดสอบพ่นลมใส่หน้าเราก่อนค่ะ
แล้วก็บอกว่า เครื่องนี้จะทำงานแบบนี้นะ เพราะงั้น ไม่ต้องตกใจนะคะ ^^ น่ารักมาก
ถึงแม้ว่าเราเคยวัดความดันตาด้วยเครื่องนี้มาแล้ว (ณ รพ แห่งหนึ่งค่ะ)
แต่ครั้งนั้นที่ไปจนท. ที่วัดให้ ไม่บอกกล่าวใดๆทั้งสิ้น
พ่นลมปู้ดดดใส่ตาเรา เราก็ตกใจจิคะ ผงะถอยหลัง โดนด่ากลับมาอีก = =''
6. วัดสายตา (ด้วยคน) (รอบ1)
ก็จะเข้าไปในห้องที่คุ้นเคย มีกระเป๋า(คล้ายๆกระเป๋าเจมส์บอนด์)วางเปิดอยู่
ข้างในเป็นช่องๆ แต่ละช่องเสียบเลนส์กลมๆไว้
ที่ผนังก็จะมี แผ่นสีขาวตัวเลขสีดำ (สำหรับอ่านเพื่อวัดสายตา)
ที่มีแว่นขาเหล็ก หนีบๆหัวหน่อย((หรือเราหัวโต??)) ใส่แล้วหน้าเหมือนpowerpuff girl (น่ารักปานนั้น??)
ที่เค้าจะเอาเลนส์มาเสียบๆ แล้วก็ถามว่า ชัดขึ้นมั้ย อันไหนดีกว่า บลาๆๆ
อันนี้ทุกคนก็เคยผ่านมาแล้วอีกนั่นแหละ เพราะงั้นข้ามนะคะ
(แต่ขอบอกว่าวัดละเอียดโฮกกก)
7. วัดสายตาด้วยคน (รอบ2) (คนละคนกับรอบแรกนะ)
เข้าใจเอาเองว่า สายตาที่วัดได้เนี่ย จะต้องเอาไปเป็นสายตาที่จะใช้ทำเลสิกของเรา
ก็เลยต้องวัดละเอียดมากๆ
เดาเอาเอง(อีกแล้ว) ว่าคงให้สองคนวัด แล้วมาดูว่าค่าเหมือนกันมั้ย เพื่อความชัวร์ (มั้ง!!)
8. ไปดูมัลติมีเดียค่ะ (มันก็คือคลิปสั้นๆ ประมาณ20นาที) อธิบายเกี่ยวกับการทำเลสิกค่ะ
เข้าไปในห้องมัลติฯ แบบว่าเว่อมาก มีเก้าอี้โซฟา ปรับเอนได้ พร้อมที่วางเท้า
แล้วก็มีกลิ่นคล้ายๆน้ำมันหอม ฟุ้งทั่วห้องเลยค่ะ (เข้าไปทีแรกนี่คิดเลย ว่าจะดูจบมั้ยเนี่ยย หลับแน่ๆ)
ก่อนจนท. จะเปิดคลิปให้ดู จนท จะเอาใบคล้ายๆใบยินยอม มาให้เราอ่านก่อนค่ะ (แต่ยังไม่ต้องเซนต์นะ)
เนื้อหาก็จะประมาณว่า ...ข้าพเจ้าเข้าใจถึงความเสี่ยงที่จะเกิด บลาๆๆ ยาวประมาณ 3หน้าA4ค่ะ
เนื้อหาน่ากลัวมาก อ่านแล้วใจแป้วว = =''
จากนั้นก็นั่ง(นอน)ดูมัลติฯค่ะ ก็ดูๆเคลิ้มๆหลับๆ เหะๆ
9. พอดูเสร็จ จนท ก็จะมาหยอดยาขยายม่านตาค่ะ (แสบนิดๆ) (ที่เก้าอี้เว่อๆตัวเดิมนั่นแหละค่ะ)
แล้วให้เรานอนหลับตานิ่งๆ
ขั้นตอนนี้จะมีคนมานวดเท้าให้ด้วยค่ะ หลับไปเลยทีเดียว
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ จนท มาปลุก หยอดยาอีกทีค่ะ แล้วเราก็หลับไปอีกครั้ง= =''
ซักพัก จนท ก็มาตามให้ไปวัดสายตา (อีกที) ค่ะ
10. ก็เข้าไปวัดสายตาหลังขยายม่านตา (ด้วยคน) อีกที
11. พบคุณหมอ ...
แว๊บแรก หมอก็ดูตากุ้งยิงให้เราก่อนค่ะ ก็บอกว่าให้รักษากุ้งยิงให้หายก่อน แล้วค่อยทำจะดีกว่า
เดี๋ยวจะมีโอกาสติดเชื้อ แล้วก็สั่งยา พร้อมแนะนำวิธีปฏิบัติตัวค่ะ
จากนั้นหมอก็เริ่มตรวจ จอประสาทตาค่ะ
คุณหมอใช้เครื่อง ขยับๆ ก็ส่องๆที่ตาเราค่ะ
ส่องแว๊บแรก คุณหมอบอก เนี่ย มีรอยแผลเป็นจากการอักเสบเพราะcontact lensด้วยนะ
อื่มมมม รอยขีดข่วนจากcontact ก็เต็มเลย (ตกใจมาก!! ไม่รู้มาก่อนเลย)
แถมสายตาก็สั้นเยอะนะเนี่ย เอียงเยอะอีกตะหาก (คุณหมอพูดแบบธรรมดานะคะ ไม่ได้ดุ)
ฟังแล้วก็ใจแป้วเลยค่ะ กลัวว่าจะทำไม่ได้
แต่คุณหมอก็บอก โชคดีนะเนี่ย ที่กระจกตาเราค่อนข้างหนา สามารถยิงเลเซอร์ได้เยอะ
เพราะงั้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ทำได้ ไม่มีปัญหาอะไร ^^ เย้!!!!!
แต่หมอก็บอกว่า ของเราไม่มีทางเลือก ต้องทำแบบที่เว่อที่สุด(แพงที่สุด) อย่างเดียว
อันนี้เราก็เตรียมใจไว้แล้วล่ะค่ะ เพราะเข้าใจว่าเราสั้น+เอียง มากๆๆๆๆๆๆๆ
จากนั้นคุณหมอก็เปิดโอกาสให้ถามค่ะ
เราก็ถามถึงโอกาสที่ทำแล้ว จะกลับมาสั้นได้อีกเยอะแค่ไหน
คุณหมอก็บอกตรงๆเลยค่ะ ว่าด้วยอายุเรามีโอกาสที่จะสั้นขึ้นได้อีก ขึ้นอยู่กับแต่ละคน
ซึ่งก็สามารถมายิงเพิ่มได้ (เพราะกระจกตาเราค่อนข้างหนา) หรือจะไว้โตอีกหน่อยค่อยมาทำทีเดียวก็ได้ แล้วแต่เรา
แล้วก็ถามนู่นถามนี่ มากมาย หมอก็น่ารักมากค่ะ ตอบทุกคำถามละเอียดยิบ
12. ออกมาพบพี่ผู้จัดการค่ะ
ก็จะมาอธิบายรายละเอียดต่างๆ ค่าใช้จ่าย การเตรียมตัวก่อน-หลัง ผ่าตัด บลาๆๆ
แล้วก็นัดวันทำเลสิกค่ะ ได้คิววันศุกร์นี้
สรุปว่า ไม่มีขั้นตอนไหนเจ็บตัว หรือขัดใจเลยค่ะ
จนท น่ารัก พูดจาดีมาก ไม่เห็นว่าเราเป็นเด็ก ไม่แบ่งแยกชนชั้น (เหมือนBAบางคน <<เกี่ยวมั้ย??)
เรื่องค่าใช้จ่าย ไม่รู้บอกได้รึเปล่าอะค่ะ ถ้ายังไงหลังไมค์ก็ได้ค่ะ ^^ ยินดี
ไว้ทำเสร็จแล้วจะมาแชร์ใหม่นะคะ ^^
จากคุณ :
หมูสับไข่เค็ม 
- [
31 มี.ค. 52 13:13:32
]
แชร์ประสบการณ์ก่อนทำlasikค่ะ (ยาวมากกกกก ทำใจก่อนอ่านนะ^^)
