Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    น้ อ ง ดำ ด อ ต ค อ ม เรื่องขาว ๆ ดำ ๆ ในสังคมไทยและเขมร

    บังเอิญไปเจอมาน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าได้เคยอ่านกันหรือยัง เป็นเนื้อหาที่เขียนมานานมากแล้วค่ะ แต่ความเป็นจริงมันก็ยังมีปรากฏอยู่ในสังคมไทย..............

    ใน ระยะหลัง ๆ มานี้ดูโฆษณาทางทีวีของไทยจะมีแต่เรื่องขาว ๆ

    ออกมาให้เห็นจนล้นจอ เรื่องขาว ๆ

    ที่ว่านี้ก็มีตั้งแต่โฆษณาครีมหน้าขาว โลชั่นที่อ้างว่าจะทำให้ตัวขาว

    และยาปราบเต่าที่สามารถทำให้รักแร้ "ขาว" ได้อย่างน่ามหัศจรรย์

    ครีมหน้าขาวเหล่านี้อันที่จริงก็ไม่ใช่ของใหม่ ผู้หญิงไทยสมัยก่อน

    ก็เคยใช้ขมิ้นขัดตัวขัดหน้าให้ขาว

    หรือในยุคหนึ่งสาวไทยจำนวนไม่น้อย ก็นิยมใช้ครีมกวนอิม

    โดยเชื่อว่าจะทำให้หน้าขาว

    แต่ของใหม่ที่มาพร้อมครีมหน้าขาว มาพร้อมโลชั่น

    ที่โฆษณาว่าทำให้ผิวขาวขึ้นในยุคปัจจุบันก็คือ

    เนื้อหาสาระที่บรรจุอยู่ในโฆษณาผลิตภัณฑ์เหล่านี้

    ที่พยายามตอกย้ำอย่างเหลือเกินว่า

    ความดำเป็นสิ่งเลว เป็นของน่ารังเกียจน่าอับอาย

    เพราะฉะนั้นคุณสาว ๆ จะต้องหันมาใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกไวท์เทนนิ่ง

    ไลท์เทนนิ่งทั้งหลาย

    เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสังคม อันหมายถึงเพื่อไม่ให้ถูกนินทาลับหลังว่า

    "น้องดำดอตคอม"

    เพื่อให้มีผู้ชายมาขอนัดกินข้าวด้วย  และเพื่อไม่ให้แพ้เพื่อนที่ผิวขาวกว่า

    เลยมีผู้ชายมองมากกว่า
       
    ลองดูสักสองสามตัวอย่างของโฆษณาเหล่านี้ แล้วเราอาจจะมองเห็นได้ว่า

    วงการโฆษณากำลังเล่นเกมอะไรบางอย่าง

    กับความคิดเรื่องความขาวความดำของผู้หญิงไทย
         
    (โฆษณา) ชายหนุ่มสองคนเดินคุยกันมาตามทาง หนุ่มหนึ่งบอกเพื่อนว่า

       "เราเพิ่งไปถ่ายรูปน้องฟ้ามา"

       "น้องฟ้าเนี่ยนะ เปลี่ยนคนอื่นเถอะ ดำก็ดำ แล้วก็แบบ...เปลืองฟิล์มเปลือง
    แฟลช"

       "เดี๋ยวนี้เค้าหน้าใสแล้ว"

       เพื่อนยังไม่ยอมหยุด "เฮ้ย ! รู้หรือเปล่า ฉายาน้องเค้าน่ะ...น้องดำดอตคอม !"

       ...และแล้วน้องฟ้าก็เดินมา หน้าขาว ใสปิ๊ง

    สะกิดไหล่หนุ่มคนที่เรียกน้องฟ้าว่าน้องดำ ชายหนุ่มหันไปเห็นร้องคราง

    "น้องฟ้า" ด้วยความตะลึงในใบหน้าที่ขาวขึ้น จนสะดุดตาของเธอ

       เสียงซาวนด์เอฟเฟ็กดังเป็นเสียงคนหน้าแตกเพล้ง !

    ตัดเป็นภาพน้องฟ้าใช้โฟมล้างหน้า "พอนด์ สกินไลท์เทนนิ่ง"

    พร้อมเสียงอันน่าเชื่อถือระบุสรรพคุณว่า ใช้โฟมยี่ห้อนี้แล้วหน้าจะค่อย ๆ ขาวขึ้น

       สรุปว่าน้องฟ้าเดี๋ยวนี้เปลี่ยนเป็นน้อง "หน้าใสดอตคอม" ไปแล้ว

    ก่อนหน้านั้นผลิตภัณฑ์หน้าขาวยี่ห้อนี้ ผลิตหนังโฆษณาออกมาด้วยสารที่ค่อนข้าง

    "เบา" กว่านี้

    เป็นเรื่องของสาวออฟฟิศคนหนึ่ง ที่ชายหนุ่มซึ่งตัวเองปิ๊งอยู่ไม่ยอมสนใจเธอเอาเสียเลย

    เพราะเธอยังหน้าดำอยู่ แต่เมื่อเธอได้ใช้ "พอนด์ สกินไลท์เทนนิ่ง"

    หน้าของเธอก็ขาวขึ้น จนทำให้ชายหนุ่มคนนั้นยกป้ายขอนัดกินข้าวกับเธอทันที

       โฆษณาครีมหน้าขาวอีกชนิดหนึ่ง เลือกพรีเซ็นเตอร์เป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง

    อาภาพร นครสวรรค์

    โดยให้อาภาพรออกมาร้องเพลงโฆษณา ที่เลียนเนื้อร้อง และทำนองเพลง

    "ชอบไหม" ของเธอ

    หนังโฆษณาปล่อยให้อาภาพรเดินไปเดินมาสองสามรอบ

    เพื่อร้องเพลงชอบมะ ชอบมะ ขาว ๆ อย่างนี้

    จากนั้นก็มีเด็กสาวคนหนึ่งมาพูดจากับเธอเป็นทำนองว่า

       "ก็หนูไม่สวยอย่างพี่นี่"

       อาภาพรตอบด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่ว่า

    "สวยน่ะไม่เท่าไหร่หรอกน้อง แต่ขาวน่ะมันเร้าใจกว่า"

    นอกเหนือไปจากครีมหน้าขาว โลชั่นที่มักอ้างว่าใช้แล้วผิวจะขาวขึ้นในหกสัปดาห์แล้ว

    ผลิตภัณฑ์เพื่อความขาวอีกชนิดหนึ่ง ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้เองก็คือ

    ยาทารักแร้ ที่สามารถทำให้รักแร้ขาวได้อย่างมหัศจรรย์

    ก่อนหน้านั้นโรลออนพวกนี้ ไม่เคยเสนอสรรพคุณ เรื่องความขาวมาก่อน

    มีแต่โฆษณาว่า ใช้แล้วแห้งสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นหอมชื่นใจคนใกล้ชิด

    แต่เดี๋ยวนี้ก็กลายเป็นมาเน้น เรื่องความขาวไปได้ "เรโซนา ไวท์"

    เป็นตัวอย่างหนึ่งที่พยายามจะบอกคุณผู้หญิงทั้งหลาย ที่รักแร้ไม่ขาวว่า

       "โจรปล้นสิบครั้ง ไม่เท่าอาย (เพราะรักแร้ดำ) ครั้งเดียว"

       ลองจินตนาการดูว่า ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่หน้าตาพอไปวัดไปวาได้

    วันหนึ่งเกิดอยากใส่เสื้อแขนกุดไปชอปปิง

    แล้วก็ให้บังเอิญมีโจรหน้าตาน่าเกลียด เข้ามาปล้นแผนกซูเปอร์มาร์เกต

    บังคับให้คุณยกมือขึ้น คุณไม่กล้ายก

    โจรเข้ามาตะคอกว่า

         "บอกให้ยก ทำไมไม่ยก"

       เมื่อคุณจำใจต้องยกมือขึ้น ตามคำสั่งของโจรกระจอก คนทั้งห้าง

    ก็พร้อมใจกันหันมามองคุณเป็นตาเดียว

    คุณจะรู้หรือไม่รู้ ก็ไม่ทราบว่าเขามองคุณเพราะอะไร แต่ที่แน่ ๆ คนทั้งห้าง รวมทั้งเจ้าโจร

    ต่างก็ทำสีหน้าผิดหวัง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า รักแร้คุณจะดำขนาดนี้ !

       ใกล้ ๆ จุดที่คุณยืนอยู่ บังเอิญมีสาวนางหนึ่ง ใส่เสื้อแขนกุดเหมือนกัน

    แต่ต่างออกไปตรงที่รักแร้เธอขาวไร้ที่ติ

    เจ้าโจรจึงหันมาพูดกับคุณว่า

       "มันต้องอย่างน้องคนนี้ ขาวจังน้อง ทำไงน่ะ"

       น้องรักแร้ขาวเลยถือโอกาสตอนที่โจรเข้ามาใกล้ ยกขวดไวน์ฟาดจนโจรสลบไป

    แล้วเธอก็ยกมือโชว์ใต้วงแขนขาว ยิ้มรับเสียงปรบมืออย่างผู้ชนะ

        ความสำเร็จของเธอในการปราบโจรได้ครั้งนี้ มาจากการใช้

    "เรโซนา ไวท์" ที่ทำให้รักแร้ขาวววว เสียจนโจรต้องหลง

       เชื่อได้ว่าหลังเหตุการณ์จบลงแล้ว คุณก็คงจะอายเสียจนต้องรีบไปหาซื้อ "เรโซนา ไวท์" มาใช้

    เพราะเผื่อครั้งต่อไปโจรปล้นอีก จะได้ไม่ต้องอับอายจากรักแร้ที่ดำของตัวเอง

    ก็อย่างที่สโลแกนโฆษณาเขาว่าไว้ "โจรปล้นสิบครั้ง ไม่เท่าอายครั้งเดียว"

        เรื่องทั้งหมดที่ยกมานี้ เป็นเพียงตัวอย่าง ของโฆษณาครีมหน้าขาว

    และโลชั่นที่คุยว่า

    ใช้แล้วทำให้ผิวขาวจำนวนมาก ที่ออกมาครอบครองพื้นที่ทางจอโทรทัศน์

    ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนให้หลัง นี่เป็นเพียงหนังตัวอย่างไม่กี่เรื่อง

    ซึ่งล้วนแต่กำลังเสนอสาร ต่อผู้หญิงไทยทั่วประเทศว่า

    ถ้าหน้าไม่ขาว ผิวไม่ขาว รักแร้ไม่ขาวแล้ว ชาตินี้ก็อย่าหวังว่า

    จะมีผู้ชายหน้าไหนมาสนใจเลย

       ปีสองปีหลังมานี้ โฆษณาผลิตภัณฑ์ ที่ทำให้ผู้หญิงสามารถขาวขึ้นได้

    ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

    ไม่ว่าจะเป็นหน้า ผิว หรือรักแร้ ดูจะแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงลูกค้าอย่างหนัก

    ยิ่งแข่งขันกันสูงเท่าไร เนื้อหาโฆษณาก็ยิ่งดุเดือด จากที่แต่ก่อนอาจจะเป็นเพียงแค่ขาวขึ้น

    แล้วทำให้มีคนมาชวนกินข้าว หรือขาวขึ้นจนหนุ่มต้องมองเหลียว

    ก็กลายเป็นความพยายามที่จะ

    สร้างความดำ ให้เป็นเรื่องน่ารังเกียจ เป็นความน่าอับอาย

    ดำอย่างนี้สมควรจะถูกเรียกว่า "น้องดำดอตคอม" (เพื่อให้เข้ากับยุคไอที)

    ดำอย่างนี้ใครจะอยากถ่ายรูปให้ เปลืองทั้งฟิล์มเปลืองทั้งแฟลช

    หรือดำอย่างนี้ใครจะมามอง

       มันต้องขาว ๆ ถึงจะเร้าใจกว่า

        ดูเหมือนเจ้าของผลิตภัณฑ์ จะมองเห็นตลาดของครีมหน้าขาว

    โลชั่นเปลี่ยนผิวขาวที่เพิ่มมากขึ้น

    และดูเหมือนคนทำโฆษณาจะหมดมุขใหม่ ในการชวนเชื่อ

    ให้หญิงสาวหันมาใช้ครีมหน้าขาวเสียแล้ว

    จึงต้องหันมาใช้วิธีเหยียดคนดำกันจะ ๆ ไปเลย เพื่อตอกย้ำความคิดที่ว่า

    ขาว-ดี ดำ-ชั่ว

    จนคนดำหมดความมั่นใจ หมดที่ยืนในสังคม และท้ายที่สุด

    ก็ต้องหันมาพึ่งพาครีมเหล่านี้ เพื่อให้ขาวขึ้นเหมือนคนอื่น ๆ

       ดูโฆษณาเหล่านี้ทุกวัน ผู้เขียนก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าสนใจ ที่จะมองย้อนกลับไปดูว่า

    ความคิดเรื่องดำเลว ดำน่าอับอายนั้น มีอยู่ในสังคมไทยมาตั้งแต่เมื่อไร

    และที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ความคิดเรื่องขาว-ดี ดำ-ชั่ว

    และความนิยมในการใช้ครีมหน้าขาว ไม่ได้กำลังเกิดขึ้นเฉพาะในสังคมไทยเท่านั้น

    มันแพร่ระบาดไปถึงประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่าง พม่า ลาว และเขมร

    แล้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    (มาแก้ไขให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ ตามคำเรียกร้อง ^ ^)

    แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 52 23:29:38

    จากคุณ : The Best In Me - [ วันเถลิงศก (15) 18:33:00 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com