ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจากของเรานะคะ 1. พยายามอย่าเข้าไปอยู่ในสถานที่หรือเหตุการณ์ที่ทำให้เราอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการเป็นเหยื่อ เช่น  อยู่ในที่เปลี่ยวๆทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน  เวลาเข้าห้องน้ำไม่ว่าจะที่ไหนที่เราคุ้นหรือไม่คุ้น โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า  โรงหนัง  หรือปั๊มบางแห่ง  แม้กระทั่งตึกอาคารสำนักงานในช่วงเช้าหรือเย็น  ที่ค่อนข้างเปลี่ยว   ห้องน้ำตามห้างบางที่เหมือนเดินเข้าไปในเขาวงกต  เรามักหนีบเพื่อนไปด้วย  หรือถ้าต้องไปคนเดียวก็จะไม่โอ้เอ้เข้าเสร็จก็ออกเลย   ก่อนเข้าก็ดูๆอย่างรวดเร็วว่ามีใครอยู่ในห้องน้ำ  ไม่ใช่ว่าเข้าห้องน้ำหญิงแต่ดันเจอผู้ชาย  ห้องน้ำมืดไปหรือเปล่า   พกมือถือไปด้วยมีอะไรจะได้โทร.หาคนให้มาช่วย 2. มีสติตลอดเวลา  ข้อนี้ค่อนข้างสำคัญ พ่อจะบอกเสมอๆ  ไม่ว่าจะเดินไปไหน หรือไปที่ใด   ต้องรู้ว่าเราจะเดินไปไหน เดินมีจุดมุ่งหมาย  หรือถ้าไม่รู้ก็ต้อง “ทำท่า” ว่าเรารู้นะ  ว่าเราจะไปไหน  ไปอย่างไร   อย่าทำท่าเหมือนเราเอ๋อๆเป๋อๆเด๋อๆด๋าๆ  อันนี้ใช้กับการนั่งแท็กซี่ได้   แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 52 21:54:50 จากคุณ : pacta sunt servanda - [ 18 เม.ย. 52 21:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 3. ความเป็นคนดี  ขี้เกรงใจ  อาจกลับมาทำร้ายเราโดยไม่รู้ตัว  สาวๆหลายคนรวมทั้งเราคงเป็นคนขี้เกรงใจ   ข้อนี้ได้มาจากการดูรายการoprah รายการวันนั้นพูดถึงการป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อ มีแขกรับเชิญคนหนึ่งพูดว่า มิจฉาชีพอาจใช้ความเป็นคนดีของเรา  ในการทำร้ายเราก็ได้   จำเนื้อความไม่ค่อยได้  แต่เราว่าใช่เลยหละ  เช่น  ไปเที่ยวเมืองนอก  มีฝรั่งมาถามทาง   ลองคิดดูอีกมุมว่าเวลาเราอยู่ในเมืองไทยแล้วเราไม่รู้จักทางหรือไม่รู้สายรถเมล์  เราจะเลือกถามฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองไทยในมือถือแผนที่รึเปล่า   แต่ไม่ใช่ว่าจากนี้ไป ฉันจะไม่ทำดีกับใครแล้ว   เราเลือกที่จะเว้นระยะห่างในการคุยกับคนแปลกหน้าคือประมาณหนึ่งถึงสองช่วงแขน(กว้างไปมั้ยเนี่ย)   ไม่ได้รังเกียจแต่กลัวเขารู้ว่าไปกินอะไรมา  เอ๊ย  ไม่ใช่  ตามปกติเราเป็นคนมีพื้นที่หรือระยะห่างกับคนอื่นค่อนข้างมาก   มันเลยเป็นนิสัยไปโดยปริยายที่เวลาคนไม่รู้จักเข้ามาคุย เราจะถอยหลังไปหนึ่งก้าว  (มันเป็นโดยอัตโนมัติไปแล้ว) 4. บางทีต้องเชื่อสัญชาตญาณของตนเอง  ข้อนี้ก็ได้มาจากการดูรายการoprah วันนั้นเหมือนกัน   แขกรับเชิญผู้หญิงคนหนึ่งเล่าว่าตัวเขาอยู่คนเดียวในอพาร์ทเมนท์  มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พอกลับมาจากทำงาน   พอเข้ามาในห้อง  เธอจะรู้สึกว่าห้องของเธอมีอะไรผิดปกติเป็นอย่างนี้หลายวัน  ตรวจตราดูข้าวของก็ไม่มีอะไรหาย ห้องก็ไม่ได้โดนงัด  เธอเลยซื้อกล้องมาถ่ายไว้ในห้อง  เย็นกลับมาก็จะมาเปิดกล้องวีดีโอดู  วันแรกๆก็ไม่มีอะไร จนเธอไม่ได้ดูต่อ แต่มีอยู่วันหนึ่ง  เธอคิดว่าเอาวีดีโอมาดูบ้างดีกว่า  เธอกลับพบว่ามีผู้ชายเข้ามาในห้องของเธอ   ผู้ชายคนนั้นเป็นคนซ่อมเคเบิ้ลหรืออะไรซักอย่าง(จำไม่ได้ค่ะ)  เข้ามาก็มารื้อเสื้อผ้าของเธอ   แต่ที่เธอช็อคสุดๆคือ ผู้ชายคนนั้นเอาชุดชั้นในของเธอมาใส่  (สยองอะ)  แต่ที่ทั้งเธอและจขกท.ต้องช็อคไปอีก คือ  เอาชุดชั้นในมาใส่ไม่พอ  ผู้ชายคนนั้นช่วย...ตัวเองด้วย   หลังจากนั้นเธอเอาเทปดังกล่าวไปแจ้งตำรวจ  เธอบอกว่าถ้าเธอไม่เชื่อสัญชาตญาณของเธอ  เธอก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 52 22:40:43 จากคุณ : pacta sunt servanda - [ 18 เม.ย. 52 22:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 5. อย่าอายที่จะโวยวายหรือขอความช่วยเหลือค่ะ  บ่อยครั้งที่คนร้ายหรือคนโรคจิต  มักคิดว่าเหยื่อไม่กล้าโวยวายเพราะอายหรือคิดว่าเหยื่อไม่กล้าขอความช่วยเหลือ   แล้วถ้าจะตะโกนหลายคนบอกว่าให้ตะโกนว่าไฟไหม้เพราะถ้าบางทีตะโกนว่าช่วยด้วย  คนจะคิดว่าแอร๊ยส์  หลบดีกว่า  แต่ถ้าไฟไหม้คนจะต้องวิ่งออกมาจากบ้าน   (อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเวิร์ครึเปล่า) 6. อย่าไว้ใจคนแปลกหน้าคงไม่พอ  แม้กระทั่งคนคุ้นเคยก็ต้องระวัง  อ่านข่าวเจอว่า  สถิติของผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ  มักจะถูกกระทำโดยคนคุ้นเคยมากกว่าคนแปลกหน้า   เช่น  เพื่อน  เจ้านาย  เพื่อนร่วมงาน  แฟน  หรือแม้กระทั่งญาติ(เศร้าอะ)   คิดออกแค่นี้อะค่ะ  แต่ที่อยากจะแนะนำ คือ อยากให้ทุกคนดูแลคนรอบข้างของเราค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นคนที่บ้าน  ลูกเล็กเด็กแดง  คนข้างบ้าน   ที่เราเคยเรียนมาสิ่งที่จะยับยั้งไม่ให้เกิดอาชญากรรม  คือ  การมีสังคมเพื่อนบ้าน  เพราะถ้าเรารู้จักเพื่อนบ้าน  เวลามีคนแปลกหน้ามาป้วนเปี้ยน เราก็จะทราบได้ทันที   หรืออีกมุมหนึ่งคือ ลูกหลานเพื่อนบ้านก็เหมือนลูกหลานของเรา  ลูกหลานของเราก็เหมือนลูกหลานของเพื่อนบ้าน ดูแลซึ่งกันและกัน   ป้องกันไม่ให้ตัวเราและคนที่เรารักเป็นเหยื่อ  ลูกหลานบ้านไหนทำผิดก็ว่ากล่าวตักเตือนพอควรหรือจะส่งให้พ่อแม่เขาจัดการกันเอง   ข้อนี้ป้องกันไม่ให้ลูกหลานของเราและลูกหลานคนรอบข้างเติบโตขึ้นมาแล้วกระทำความผิดหรือทำความเดือดร้อนให้สังคม หรือแม้กระทั่งเพื่อนๆของเรา  เพื่อนสาวจะไปห้องน้ำ อุ๊ยๆเดี๋ยวไปเป็นเพื่อน  หรือเห็นเพื่อนเข้าไปนาน เข้าไปตะโกนหน่อยซิว่ายังโอเครึเปล่า ตกส้วมรึเปล่า รับทิชชู่เพิ่มไม๊ ^^     ไปเที่ยวด้วยกันมา ลองโทร.ไปหาหน่อยไม๊ว่าถึงบ้านรึยัง หรือว่าวันนี้น้องสาวพี่สาว คุณแม่  ญาติผู้หญิงของเรา กลับค่ำๆ  บ้านซอยเปลี่ยว(เช่นบ้านเราเป็นต้น)  คุณพี่ชายน้องชาย  นัดเวลากันไปรับที่หน้าปากซอยดีไม๊   เช่น  คุณพี่สาวโทร.มา  นี่ๆจะถึงหน้าปากซอยแล้วนะ  มารับหน่อยจ้ะ และที่สำคัญ  คือ สติจ้ะ  ไม่ว่าจะทำอะไรสติมา  ปัญญาเกิด ทั้งนี้และทั้งนั้นไม่ใช่ว่าอยู่ด้วยความระแวง  ถ้าระแวงก็อยู่ลำบาก  แต่ต้องระวังและมีสติตลอดเวลาจ้ะ แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 52 22:10:32 จากคุณ : pacta sunt servanda - [ 18 เม.ย. 52 22:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขาจรขอโหวตให้จ๊ะ จากคุณ : ซ่อนนาม - [ 18 เม.ย. 52 22:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กระทู้ดี มีสาระมากมายค่ะ จากคุณ : เลดี้ - [ 18 เม.ย. 52 22:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เง้อ   เดี๋ยวนี้คนน่ากลัวเยอะ  มีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป.. ต้องระวังตัวกันให้มากๆนะคะทุกคน... ^_^ จากคุณ : เต่าน้อยจงเจริญ - [ 18 เม.ย. 52 23:52:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เคยอ่านเจอ   เค้าบอกว่า  หากจะโดนขมขืนจริง ๆ     แบบว่าวินาทีนั้น  คงไม่มีทางรอด แล้วแน่นอน   ให้ปัสสาวะ  หรือ พยายามเบ่งอุจาระออกมาค่ะ  ไม่ต้องอายที่จะทำ  เพราะ อาจจะเป็นทางรอด ก็ได้ค่ะ      หรือ  อาจจะบอก  คนร้ายไป ว่าเราเป็นเอดส์  วิธีนี้ เคยมีเพื่อน ของเพื่อน ของเพื่อน อีกที (โดยเพื่อนเรามาเล่าให้ฟัง)  บอกว่า   ใช้ได้ผลค่ะ   โจรได้ยินคำว่า " เอดส์  "  แล้วหยุดเลย          แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็  ขออย่าให้เกิดขึ้นกันใครเลยค่ะ จากคุณ : Ansa - [ 19 เม.ย. 52 00:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โหวตคะ จากคุณ : ไค - [ 19 เม.ย. 52 00:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ช่วยเสริมหนึ่งวิธีสำหรับสาวๆ ที่ขับรถเองนะคะ อันนี้ทำอยู่เสมอค่ะ เวลาไปขี้นรถในลานจอดรถคนเดียว ก่อนจะมาที่ลานจอดรถ จะพยายามถือกุญแจรถไว้ในมือ เพราะถ้าไม่หยิบออกมาก่อน อาจจะต้องไปยืนค้นกระเป๋าอยู่หน้ารถ ซึ่งอาจเป็นการเปิดช่องให้คนร้ายได้ค่ะ ตอนที่เดินมาที่รถ ก็ต้องคอยดูรอบๆ ตัวอยู่เสมอว่ามีอะไรผิดสังเกตไหม พยายามดูรอบๆ รถด้วยนะคะว่ามีอะไรแปลกๆ หรือเปล่า (เคยได้หยิบว่ามีวิธีที่คนร้ายเอากระดาษไปแปะที่กระจกหลัง รอให้เราลงจากรถไปเอาออก) พอเปิดประตูเข้าไปในรถแล้ว ให้รีบล็อกประตูเลยค่ะ แม้จะยังไม่ได้ติดเครื่องเลย อย่างน้อยอยู่ในรถที่ล็อกแล้วก็น่าจะปลอดภัยกว่า อาจจะดูเหมือนคนหวาดระแวงสักหน่อย แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นนะคะ ผู้หญิงเราสมัยนี้้ต้องคอยระวังตัวกันเป็นพิเศษค่ะ จากคุณ : คาห์พัส - [ 19 เม.ย. 52 15:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โหวตคะ ภัยรอบตัวเลยนะคะเนี่ย ขอบคุณมากๆเลยคะ จากคุณ : white_valentine - [ 19 เม.ย. 52 15:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความเห็นที่ 9   อ่านแล้วนึกขึ้นได้ เคยดูรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง   ก่อนขึ้นรถให้ระวังด้วยค่ะ เป็นไปได้ลองตรวจดูรอบๆ รถว่ามีอะไรผิดปกติมั้ย เพราะรายการเอาภาพวงจรปิดจากตปท.มาให้ดู มิจฉาชีพแอบเอาประป๋องผูกเชือกห้อยเกาะไว้ท้ายรถของหญิงผู้เสียหาย  พอเธอมาถึงรถก็ไขรถเข้าไปนั่ง สตาร์ทรถตามปกติ พอขับรถออกไปได้นิดหนึ่ง เธอก็หยุดเพราะได้ยินเสียงไอ้กระป๋องเจ้าปัญหานี้แหละ แล้วก็ลงมาดู เท่านั้นแหละ เจ้ามิจฉาชีพ(ที่ซุ่มรออยู่แถวนั้นอยู่แล้วพุ่งเข้าไปนั่งในรถแล้วขับหนีออกไปเลย   กรณีนี้ยังไม่เคยเกิดในไทย  แต่ระวังไว้ก็ไม่เสียหลายค่ะ แล้วก็สาวๆ ที่มีรถขับ พอขึ้นรถแล้ว ควรจะล็อครถด้วยทันทีนะคะ ไม่งั้นโชคไม่ดี อาจะมีคนเปิดประตูมานั่งข้างๆ ได้ =___=!! จากคุณ : Razit_GenZo - [ 19 เม.ย. 52 16:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โหวตกันปายค่ะ จากคุณ : โซบะน้ำทะเลเย็น - [ 19 เม.ย. 52 17:10:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 กระทู้มีสาระมากเลยคร๊าบ กลัวแบบว่าแกล้งเราเป็นเอดส์แต่ผุ้ชายคนนั้นดันบอกว่าก็เป็นเหมือนกันซะซวยใหญ่ ยังไงขอบคุณวิธีการต่าง ๆ นะคร๊าบ จากคุณ : ไอ้หมาน้อย (acoutic_life) - [ 19 เม.ย. 52 17:31:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โหวตให้ค่ะ ขอบคุณที่นำข้อมูลมาแชร์กัน จากคุณ : ลิเลียน - [ 19 เม.ย. 52 18:46:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณค่ะๆ จะจำไว้ให้ได้  หวังว่าเจอคนร้ายเข้าจริงๆ คงไม่ลืมหมดนะ - -"    เดี๋ยวนี้ยกมือไหว้น่ะ ไม่ได้ผลนะคะ  ขนาดอยู่บ้านกับครอบครัวยังไม่ปลอดภัยเลย    มะกี๊ดูข่าวมีบ้านหลังหนึ่งโดนปล้น  เค้าฆ่าไปหมดบ้านเลย โชคดี ที่บ้านเราดูแล้วไม่รวย(ก็คิดถูกแล้วแหละ55+)   โจรคงไม่เข้ามา  เพราะรู้ว่าคงไม่ได้ไรกลับไป จากคุณ : PeakyRasberryPie - [ 19 เม.ย. 52 19:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ที่ทำเสมอคือ 1. ล็อครถเป็นกิจวัตร  ถ้าเกิดเฉี่ยวชนในที่เปลี่ยว  ไม่ลงจากรถเด็ดขาด 2. เมื่อถือกุญแจรถไว้ในมือ  เพื่อเดินไปที่รถ  หรือเดินเข้าห้าง  เราจะถือโดยเอาด้านแหลมเสียบไว้หว่างนี้ว  ให้เหมือนลักษณะสนับมือ 3. ถ้าเจอเหตุผิดปกติ  บนถนนเปลี่ยว  เราไม่จอดเด็ดขาด  ชนอย่างเดียว 4. เวลาไปกดเอทีเอ็ม  หรือจำเป็นต้องเดินในที่เปลี่ยว (ซึ่งปกติไม่เดินอยู่แล้ว)  จะเหลียวซ้ายแลขวา  เหลือบไปมองข้างหลังว่ามีใครตามมั๊ย  มีทางหนีทีไล่อย่างไร 5. เวลาเดินริมถนน  เราจะสะพายกระเป๋า  โดยเอาแขนหนีบไว้ด้วย  กันโจรกระชากกระเป๋า  ถ้าเดินในที่ชุมชน  เอากระเป๋ามากอดไว้ด้านหน้าเลย 6. จะไม่เดินไป  คุยโทรศัพท์ไป  เพราะมันจะทำให้การระวังภัยของเราลดลง  และเป็นเป้าให้คนร้าย 7. ถ้าเจอคนโรคจิตตาม  เราจะเดินเข้าไปในที่ชุมชน  ร้านสะดวกซื้อ  อย่างที่ จขกท.ก่อนทำ  แต่เราจะแจ้งพนักงานด้วยว่าเราโดนคนโรคจิตตาม  เชื่อว่าถ้าคนร้ายรู้ว่ามีคนอื่นรู้การกระทำของตน  เค้าจะเปลี่ยนเป้าหมาย  และที่สำคัญที่นั่นมีกล้องวงจรปิด  ถ้าเกิดอะไรขึ้น  เรามีภาพเป็นหลักฐาน 8. ถ้าเจอโรคจิตลวนลาม  จะร้องตะโกนทันที  ไม่ต้องอาย  มันควรอาย  ไม่ใช่เรา  คนส่วนใหญ่เชื่อผู้หญิง  ไม่ต้องกลัว 9. ถ้าเห็นคนอื่นโดนลวนลาม  จะไม่ปล่อยผ่าน  บางทีเค้าไม่รู้ตัว  จะเดินไปบอก  เป็นลูกผู้หญิงเหมือนกัน (เดี๋ยวนี้ลูกผู้ชายก็อาจโดนด้วย)  ต้องช่วยเหลือกัน   ชีวิตทุกวันนี้มีภัยรอบตัว  นอกจากจะระวังตัวเราแล้ว  อยากให้ระวังภัยให้คนรอบข้างด้วย  ถ้าทุกคนช่วยกัน  ก็จะเหมือนมีหูตานับร้อย  ช่วยเราระวังภัยด้วยเช่นกัน จากคุณ : Makit - [ 19 เม.ย. 52 19:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นกระทู้ที่ดีมากค่ะ โหวตๆ ปกติถ้าเราเดินเข้าซอยกลับบ้าน จะแกล้งทำเป็นส่องกระจกค่ะ (ให้ใส่กระจกไว้ในส่วนที่หยิบง่ายๆ ของกระเป๋า) เหมือนว่ากำลังส่องหน้าตัวเอง แต่จริงๆแล้วแอบมองข้างหลังค่ะ บางทีถ้าหยิบกระจกตัวเองออกมาไม่ทัน ก็มองจากกระจกของรถที่จอดไว้ริมถนนค่ะ แล้วเวลาจะเข้าบ้าน ก็ให้เตรียมกุญแจไว้แต่เนิ่นๆเลยค่ะ เพราะเราเคยเจอเหตุการณ์ กำลังไขๆกุญแจประตูหน้าบ้านอยู่ แล้วได้ยินเสียงฝีเท้าคนวิ่งมาหาค่ะ ตอนนั้นตกใจมากๆ คิดว่ายังไงก็เข้าบ้านไม่ทัน ไม่รอดแน่แล้ว T_T แต่สุดท้ายผู้ชายคนนั้นวิ่งผ่านไป แล้ววิ่งไปที่บ้านหลังถัดจากเราประมาณ 3-4 หลังค่ะ ไอ้บร้าาาา ทีหลังไม่ต้องวิ่งก็ได้ T_______T ตกใจหมด หลังจากนั้นเลยเป็นโรคระแวง ต้องเอากุญแจมาถือไว้ก่อนตลอดเลย จากคุณ : PinGz (Kai-Au) - [ 19 เม.ย. 52 21:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยค่ะ ว่าสมัยนี้เราต้องสร้างเกราะคุ้มกันให้ตัวเองปลอดภัย จะรอความช่วยเหลือจากคนอื่นคงไม่ทันการ ไม่นำตัวเองไปอยู่ในที่เสี่ยงต่อชีวิต และทรัพย์สิน จากคุณ : นินทาชั้นอยู่ ชั้นรู้นะ - [ 19 เม.ย. 52 21:21:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมโดนในรถไฟฟ้า มันเป็นผู้ชาย แบบว่าดูก็ปกตินะครับ แบบว่าเอามามาแตะๆเจ้าจัมโบ้ของผม ผมก็ คิดในใจ ชักแปลกๆ ก็เลยเขยิบเข้าไปใกล้ๆแล้วรูดซิปลงโชว์เจ้าจัมโบ้ของผมครับ .... 555 ล้อเล่นครับ ผมก็เลยเขยิบออกมา มันก็เขยิบมือมาแตะตาม จังหวะรถไฟฟ้าถึงป้ายสยาม ผมเลยเดินชิดเข้ามาข้างใน มันก็เขยิบตามมา และยื่นมามาแตะเจ้าจัมโบ้ผมอีก ผมเลยจับข้อมือมันไว้แน่น มันก็ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ขนาดผมจับมือมันแน่นๆ มันก็เฉยเหมือนไม่มีอะไร ผมก็เลยปล่อยมือ มันก็เลยเดินหายไป แม่ม แค้นมาก น่าจะจับของมันกลับแล้วก็บีบๆๆๆ เค้นๆๆๆๆ ซะเลย ขอดีๆก็ได้ ไม่ต้องมาทำแบบนี้ ... เอ้ย ไม่ช่าย 5555 ป.ล. เล่าแชร์ประสบการณ์ แต่เหมือนเป็นคนโรคจิตซะเอง จากคุณ : เด็กชายป๊อบ - [ 20 เม.ย. 52 21:12:42 ]