ความคิดเห็นที่ 1 ความคิดเห็นส่วนตัวคือ lamer เป็นครีมที่มีส่วนผสมดี มีคุณภาพนะค่ะ และก็เป็นแบรนด์ดังด้วย ส่วนตัวเราใช้ลิปมัน ของ lamer ดีมากๆค่ะ จากคุณ : punk_doll - [ 19 เม.ย. 52 14:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แพงได้เพราะ ยี่ห้อ (ขายแบรนด์) และคุณภาพ(ซึ่งก็แล้วแต่คน) บางคนใช้แล้วบอกว่าดี แต่ขณะที่บางคนใช้แล้วบอกว่าไม่ดี โดยส่วนตัว ครีมนี้เป็นครีมที่มีชื่อเสียง จากนักบินอวกาศที่หน้าไหม้ (นี้จึงเป็นการขายชื่อเสียงด้วย) และ เพิ่มความชุ่มชื้นแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน ตัวครีมก็ข้นแบบสุดๆ ผมจึงมองว่า ถ้าคนที่ไม่ได้ผิวแห้งงงงงงง มากๆๆๆ ก็ไม่น่าจะจำเป็นต้องใช้ และมันก็ไม่เหมาะกับอากาศในประเทศไทยด้วยครับ จากคุณ : คุณชายประกายเพชร (ToppingDS) - [ 19 เม.ย. 52 14:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แพงเพราะอะไรหรอ ผมก็ไม่รู้ เหอ ๆๆ แต่ผมว่าเรื่อง รีวิว ก็เป็นหลทางเลือกทางนึงนะคับ ในการตัดสินใจก่อนที่จะซื้อ แต่ถ้าใช้แล้วดี หน้ามีสุขภาพดี ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน หรือต้องลำบาก ก็ไม่เห็นเป็นไรนิคับ ส่วนตัวผมว่ามันอยู่ที่คนใช้มากกว่า ถ้าใช้แล้วดี ผมก็ใช้นะ ส่วน รีวิว ผมดูเป็นแนวทางมากกว่า ขนาดพอลล่าที่บอกว่า ดีมาก เทพ ผมใช้กับเพื่อนอีกหลายคน ยังไม่เกิดผลเลยครับ ของแบบนี้ มันอยู่ที่ "คนที่ใช้" ด้วยแหละ ว่าแต่ จขกท น่ะ บังเกิด Miracle อย่างที่เค้าว่ามั้ยคับ ปล. สินต่อให้ยี่ห้อหรูแค่ไหน ดีแค่ไหน หรือ มีรีวิว ว่ามันห่วยอย่างไร ถ้ามีคนใช้แล้วไม่ดี ไม่เห็นผล ก็คงไม่มีใครซื้อ และอยู่ในตลาดไม่ได้หรอกคับ >>> มาแก้คำผิดจ้า <<< แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 14:43:49 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 14:43:18 จากคุณ : animakung - [ 19 เม.ย. 52 14:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่า la mer เป็นครีมที่ดีเลิศอะไร ประกอบกับได้อ่านการรีวิวส่วนผสมแล้วก็ยิ่งไม่ได้รู้สึกว่าครีมมันจะดีมากมาย แต่ก็ยังมีความอยากรู้อยู่ว่าตกลงมันจะดีจริงมั้ย วันนึงก็ได้ลองใช้ดูแต่เป็นแบบเจลนะคะ ลองใช้แบบกลัวแพ้มากๆ พอใช้ได้ครบหนึ่งสัปดาห์ รู้สึกได้เลยว่าหน้าชุ่มชื้นมาก เมื่อก่อนผิวจะแห้งๆตึงๆเพราะผิวขาดน้ำ แต่พอลองใช้แล้วอาการนี้หายไปเลย ตอนนี้เลยซื้อมาใช้เอง 1 กระปุก เฮ้อ ใช้แล้วดีก็แย่เหมือนกัน เพราะมันแพงไปนิดนึง จากคุณ : mimirin - [ 19 เม.ย. 52 15:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มันเป็น Position  ทางการตลาดครับ คนที่บอกว่ามันแพง  เพราะว่าคุณ ไม่ใช่ target group เขาไงครับ ส่วนผสมก็ส่วนหนึ่งครับ   เพราะคนที่มีเงิน เขาเลือกซื้อ เพราะมันแพง และคุณภาพที่ดีกับราคาที่เขาซื้อได้ครบ เพราะฉะนั้น ถ้ามีเงินซื้อ ไม่เดือดร้อน แล้วไม่แพ้ ก็ใช้ไปเถอะครับ จากคุณ : BIZZARE - [ 19 เม.ย. 52 15:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 lamer = ละเมอ ต้องละเมอไปซื้อไงคะ  ถ้ามีสติจะซื้อไม่ได้  แต่ถ้ามีสตังค์ก็จะซื้อได้เหมือนกัน แต่ชีวิตนี้ เราคงไม่ได้ละเมอไปซื้อแน่ๆ  เพราะไม่มีสตังค์ จากคุณ : Lonsdale - [ 19 เม.ย. 52 16:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Dior ก็ดีเหมือนกันนนะ จากคุณ : eve.nana - [ 19 เม.ย. 52 16:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วย กับคห.6 แพงได้เพราะ   น้ำวิเศษอะไรก็ไม่รู้ พิสูจน์อะไรก็ไม่ได้                     สะหร่ายหมักบ่มอะไรก็ไม่รู้  สุดแท้มันก็คือ antioxidiant ธรรมดา                     campaign โฆษณาหลายสิบล้านบาท                     การตกแต่ง counter ที่หรูเลิศอลังการ                     การจะจับ คนรวยๆ                           ค่าไปจ้างดารา ดังๆ นักแสดงนักร้อง ให้มาช่วยโฆษณา แก้ให้ตาม คห.ด้านล้างแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 17:23:24 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 17:20:36 จากคุณ : Anqueetas - [ 19 เม.ย. 52 16:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พี่ว่าน้อง  Anqueetas  พูดแรงไปเปล่า  ที่ไปว่าเขาโง่น่ะ เขาจะโง่กว่าน้องได้ไง ในเมื่อเขารวยกว่าน้อง  ก็แสดงว่าเขาหาเงินเก่งกว่าน้องไงครบ อย่าไปดูถูกคนอื่นครับ พี่ว่าน้องแก้คำพูดนิดหนึ่งดีกว่านะ จากคุณ : BIZZARE - [ 19 เม.ย. 52 16:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แม่ผมก็ใช้ lamer นะ คุณ Anqueetas ยังงี้คุณก็มาด่า แม่ ผมหรอคับ แล้วตัวคุณ มีดีอะไรนักหนา ไปด่าคนอื่นโง่ กะอีแค่การอ่านส่วนประกอบก่อนใช้เครื่องสำอางค์ ถ้าคนฉลาด ต้องใช้แบบที่คุณใช้ทุกอย่างหรอไง แม่ผมใช้ก็ไม่เห็นมีปัญหา คนรวยมีตังระดับซื้อ lamer  อยากผมถึงจะอ่านส่วนผสมไม่ออก แต่ ก็มีมารยาทพอที่จะใช้ถ้อยคำที่ไม่ดูถูกคนอื่นในสังคมหรอกคับ ผมเรียนหมอ เพื่อนผมเค้าก็ใช้กันตั้งมากมาย เพื่อนที่เป็นเภสัช เค้าก็ใช้ หรือคุณจะบอกว่าพวกผมไม่มีความรู้ อ่านไม่ออก ว่าส่วนผสมมีอะไรบ้าง อย่าคิดว่าตัวเอง คนอ่านส่วนผสมออก แล้วจะไปเที่ยวว่าใครต่อใครได้นะคับ มันไม่ได้วิเศษอะไรนักหนาหรอกนะ การใช้คำพูด ที่ดี มากจากการสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กนะคับ ทั้งทาง พ่อแม่ ครู อาจารย์ ผมว่าส่วนใหญ่ เค้าก็มีกันนะ หรือว่าคุณไม่ ? จากคุณ : animakung - [ 19 เม.ย. 52 16:52:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เราว่า คุณ Anqueetas ใช้คำพูดแรงเกินไปนะคะ ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะอ่านส่วนผสมไม่ออกเหมือนคุณ หรือ ผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่าน แต่เค้าเป็นผู้บริโภคที่มีสิทธิ์ที่จะเลือกใช้สินค้าที่เค้าพอใจนะคะ ในเมื่อต่างคนต่างมีความต้องการที่ต่างกัน คุณจะไปคิดแทนเค้า ตัดสินเค้าจากป้ายราคาของผลิตภัณฑ์ไม่ได้หรอกค่ะ ด้วยความเคารพค่ะ จากคุณ : ~ @ Called ME LYDIA @~ - [ 19 เม.ย. 52 17:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ติดตามการตอบกระทู้ของคุณน้องกอฟท์ Bizzare มาตลอด กระทู้นี้ น้องตอบได้ใจพี่เต็มๆ จากคุณ : yebmon - [ 19 เม.ย. 52 17:27:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอโทษ คห. ด้านบนๆ ด้วยครับ บางทีผมพูดแรงเกินไป ถ้าไปกระทบใครก็ขอโทษนะที่นี้ด้วยครับ จากคุณ : Anqueetas - [ 19 เม.ย. 52 17:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าใช้แล้ว ผลลัพธ์ออกมาดี แล้วจะต้องแคร์ใคร ? จากคุณ : bellez_z - [ 19 เม.ย. 52 17:36:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อาร์ตฯ ไม่เคยลองค่ะ เพราะแพงเกินไป สำหรับพนักงานกินเงินเดือนอย่างอาร์ตฯ .. แต่ถ้ามีเงินเหลือใช้ ก็จะลองแน่นอนค่ะ .. ราคาถูก-แพงไม่เกี่ยง ขอให้ได้ผลเป็นพอ จากคุณ : Art of Illusion - [ 19 เม.ย. 52 18:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นคุณAnqueetasตอบกระทู้แนวนี้มาหลายทีแล้ว ทั้ง lamer ทั้ง sisley คุณคงไม่ถูกใจกับทั้งราคาและคุณภาพของมัน แต่อย่าลืมว่า ของเค้าก็ต้องมีดีในระดับนึง คนถึงได้ควักเงินหมื่นซื้อครีมของเค้านะคะ การที่คุณใช้แล้วไม่ถูกกับผิวคุณ ไม่ได้แปลว่า คนอื่นใช้แล้วจะไม่ดีด้วยนี่คะ เห็นคุณตอบมาหลายครั้งแล้วว่า sisley แพงเว่อร์แล้วยังห่วยอีก อันนี้คงต้องขอเสนอความคิดเห็นที่ต่างค่ะ เราคนนึงที่ใช้แล้วคิดว่าคุณภาพสมราคาเค้าล่ะค่ะ จากคุณ : JingleJ - [ 19 เม.ย. 52 18:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 น่าจะแพงเพราะตำแหน่งทางการตลาดเหมือนที่พี่กอฟพูดไว้จริงๆแหละครับ ไหนจะค่าโฆษณาอีก ค่าการตลาดอีก แต่ส่วนผสม มันก็ต้องมีดีของมันอยู่แน่ๆครับ ไม่งั้นคงไม่มีคนใช้มาจนทุกวันนี้หรอกครับ จากคุณ : ted_t1987 - [ 19 เม.ย. 52 18:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ใจเย็นๆ กันนะ น้องเขาขอโทษแล้วอ่ะ ตอบ จขกท เราคิดว่าเป็นเพราะการวางตลาดของแบรนด์มากกว่าค่ะ และครีมต้องมีคุณภาพระดับหนึ่ง ให้ผู้ที่ซื้อไปพึงพอใจด้วย ถ้าเราคิดว่าแพงเกินไป เราคงไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเขาแล้วมังคะ แต่เราก็คิดว่า มีครีมในตลาดอีกมากมายที่สมราคาและดีไม่แพ้ละเมอค่ะ แต่อาจจะเป็นยี่ห้อที่ไม่ได้วางตลาดให้ดูไฮโซ ไม่มีการโฆษณามากมาย หรือคนไทยไม่คุ้นหูก็ได้ค่ะ จากคุณ : นู๋ ม. - [ 19 เม.ย. 52 18:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนผสมที่ระบุ ของเครื่องสำอางก็เหมือนกับฉลากอาหารค่ะ   แค่กุ้งทอดเกลือแต่ละร้านยังรสชาดต่างกัน  ที่สำคัญใครชอบร้านไหนก็ไปร้านนั้น จะโจมตีร้านอื่นให้คนเขาหมั่นใส้ทำไม......นิ    เราก็ใช้ lamer ค่ะ หลังจากลองมาสารพัด ก็ลงความเห็นว่า...อันนี้แหละ...คุ้มค่าเงินที่สุดแล้ว จากคุณ : แม่น้องฝัน (แม่น้องฝัน) - [ 19 เม.ย. 52 18:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นครีมทีคนมีเงินใช้กันไง เพราะคนรวยมันรวยมากมายเลยไม่รู้จะเอาไปทำรายเลยซื้อของราคาแพงๆ ผมว่า la mer คนระดับมีเงินถึงใช้กัน ถ้าเทียบกับประสิทธิภาพแล้วก็น่าเหมาะสมกับราคาแล้วก็ผิวหน้าด้วย ปล.ก็อยากใช้น่ะแต่แพงเกิน จากคุณ : ponlapa - [ 19 เม.ย. 52 18:43:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาใหม่  จริงๆ  กอฟท์ไม่ได้โกรธน้องเขานะครับ หึหึ  (เพราะตัวเองก็ไม่ได้ใช้) เพียงแต่ไม่อยากให้น้องว่าคนอื่นน่ะครับ แต่ที่อยากจะเตือนน้อง อยากให้น้องตอบกระทู้ดีๆ อยากให้น้องเอาความรู้ที่น้องมีมาแนะนำคนอื่นแบบสร้างสรรค์นะครับ     น้อง อย่าโกรธพี่ไปก่อนแล้วกันนะ   กลับมาเข้าเรื่องลาแมกันต่อดีกว่า จากคุณ : BIZZARE - [ 19 เม.ย. 52 18:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สำหรับเรานะคะ La Mer เป็นครีมตัวเดียวที่ใช้แล้วให้ผลลัพท์ที่ดีที่สุดกับผิวหน้า เนื่องจาก เราเป็นคนที่ผิวค่อนข้างจะแพ้ง่าย เพราะหาหมอสิว ทายามาตั้งแต่เด็ก ผิวหน้าเคยค่อนข้างบางมากๆ ใช้อะไรก็แพ้ เลยต้องพบหมอผิวหนังเป็นประจำ ค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 2000-3000 (ไม่รวมทำทรีทเม้นต์) ครั้งแรกที่ลอง La Mer ได้เพราะ ไปรับ Sample มาลอง ผิวเราแพ้ง่าย ผิวมัน แต่ขาดนํา เวลาใช้ Warm ครีม ตามที่ BA สอน ใช้ได้ประมาณ 1อาทิตย์ผิวหน้าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ผิวใสขึ้น รอยแผลเป็นจากสิวจางไปเยอะมาก ผิวชุ่มชื้นขึ้น เปล่งปลั่งขึ้น เพื่อนๆก็ทัก เลยตัดสินใจไปถอยกระปุก 30ml มาเป็นกระปุกแรก ราคาเคาท์เตอร์ไทยตอนนั้น 5,000บาท ลด 10% เหลือ 4,500บาท กระปุก 30ml ใช้ได้ประมาณ 6 เดือน เฉลี่ยแล้วตกเดือนละประมาณ 800บาท และในระหว่างที่ใช้ ไม่เคยต้องไปพบแพทย์ผิวหนังอีกเลย หลังจากที่หมดกระปุกแรก ก็ไม่ได้กลับไปใช้อีก พยายามลองแบรนด์อื่นดู ที่ราคาย่อมเยากว่า La Mer ลองทุกแบรนด์ ทั้งอเมริกา ยุโรป เอเชีย ปรากฏว่าแพ้ และ ไม่ให้ผลที่ดีกับหน้าเลย รวมๆแล้วเสียเงินซื้อแบรนด์ต่างๆดังกล่าวไปไม่น้อยเหมือนกัน ไม่รวมค่ารักษาผิวหน้าให้กลับมาดีดังเดิมอีกที่รวมๆตลอดระยะเวลารักษาแล้ว ราคาก็น่าเป็นลมเหมือนกัน เลยตัดสินใจกลับมาใช้ La Mer อีก เพราะสะระตระดูแล้วว่าคุ้ม เหตุผลหลักๆก็คือ ไม่ต้องเอาผิวหน้าไปเสี่ยงทดลองกับสารพัดสิ่งอีก ไม่ต้องไปพบแพทย์ผิวหนังอีก และนี่คือเหตุผลที่เราลงทุนกับ La Mer ปล. ไม่ใช่หน้าม้าอะไรทั้งสิ้นนะคะ แค่อยากมาshare เหตุผลในการตัดสินใจซื้อ La Mer กรณีการเลือกบริโภคสินค้าตามความพึงพอใจ สำหรับเราไม่ถือว่าโง่หรอกค่ะ หากพึงพอใจ และ มีกำลังซื้อ เพื่อนที่ office เคยเหน็บแนมเราเรื่องกิน Starbucks ว่า คนกิน Starbucks นี่ นอกจากต้องรวยแล้ว ยังต้องโง่ด้วยนะแก (แล้วก็หัวเราะเยาะแบบสะใจ) โอโห งั้นคนโง่คงเต็มตึกสำนักงานนี้เลยมั๊ง แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 19:53:11 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 19:52:20 จากคุณ : being last on your list - [ 19 เม.ย. 52 19:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 LA MER ทำให้คนรู้จักของผมคนนึงสวยขึ้นมากๆๆๆ ปล คิดว่าสมาชิกห้องแป้งทุกคนตอบกระทู้ด้วยความหวังดี แต่อาจจะไม่เข้าหูกันบ้าง ยังไงก็ต้องอภัยให้กันอยู่แล้ว จากคุณ : ผมจะเป็นผู้รักษากฎหมาย - [ 19 เม.ย. 52 19:55:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ก็แค่ใช้แล้ว ไม่แพ้ ได้ผลดี  รอยแผล รอยสิว หายเร็วดี หน้าสว่างใส อะไรๆ ก็ดูดีขึ้น  ยกเว้นตอนช่วงเป็นสิว ต้องหยุดใช้ชั่วคราว ปล. ไม่ชอบคนที่ดูถูกคนอื่น หาว่าคนอื่นไม่ฉลาด เลือกใช้ข้าวของแพงๆ มีเพื่อนเคยเหน็บแนมว่า ผมว่าไม่ฉลาด ที่ซื้อเสื้อกอมลายหัวใจของแท้มา เสื้อยืดธรรมดา กับลายปริ้น ตัวละสามพันกว่า   แล้วมันก็ซื้อของจตุจักรมา ใส่ประดั่งของแท้  แบบนี้ผมว่าน่า สมควรประนามมากกว่า   นอกจากนั้นยังมีเรื่องสตาร์บัค  อาหาร รองเท้า กระเป๋า เครื่องแต่งกาย  เครื่องสำอาง ต่างๆอีกมากมาย สรุป ง่ายๆ ไม่ได้ลำบากต้องไปยืมทรัพย์คนอื่นมาใช้   ใช้แล้วมีความสุข จบ จากคุณ : Mr.Hahn - [ 19 เม.ย. 52 20:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาอ่าน คะ ^^ อิอิ อยากรู้เหมือนกาน แต่มันน่าใช้จิง ๆ จากคุณ : ลูกหมีฟันผุ ^^ - [ 19 เม.ย. 52 20:57:09 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอิบ ต้องเข้ามาขอโทษอีก รอบ กลายเป็นเปิดประเด็นยาวไปซะแล้ว ผมขอให้จบไปเท่านี้เถิดนะครับ ก่อนที่จะออกยาวไปกว่านี้อีก มาตอบโดยที่ไม่คิด เพราะตอนนี้ไปทำจมูกมาอยู่เพิ่งจะ 2 วันนะครับ บวม ปวด มึนอยู่เลย เลยอาจตอบกระทู้โดยขาด การ คิด วิเคราะห์ แยกแยะไป  ขอโทษทุกท่านจริงๆๆๆๆๆ ครับ อย่าสาวต่อยาวไปกว่านี้อีกเลย รู้สึกผิดมากๆ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 22:46:28 จากคุณ : Anqueetas - [ 19 เม.ย. 52 22:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ being last on your list มีปัญหาเหมือนผมเดะๆเลย แต่ผมแบบหน้าไม่ไหวแล้ว ตอนนี้สิวหายๆ กะว่าจะหาครีมบำรุงมาใช้ ตามอ่านเกี่ยวกับ La Mer มาหลายกระทู้   และได้สอบถามคุณ Mr.Hahn และคุณ Anqueetas ทางหลังไมค์ไปด้วย ก็ได้คำปรึกษาหลายๆด้าน ^^ ตอนนี้ไซโคแม่แล้ว แต่แม่จะเอาแบบ creme ไม่รู้หน้ามันๆของผมจะสิวผุดอีกป่าว -*- ไหนๆก็กระทู้ La Mer แล้ว ใครใช้แบบ creme, gel, oil absorbing ดีๆก็แนะนำผมได้นะ แม่ผมใช้แบบ creme ถ้าไม่เวิร์คกะหน้าผม ผมจะไปซื้อแบบอื่นมาใช้เอง (โครตลงทุน ๕๕) แต่นิดนึง ขอแจมเรื่องเพื่อนผมหน่อย เขาแนวๆเดียวกัน มีอยู่วันนึง เขาเห็นผมกิน starbucks เขาก็มาละ ... โย ถามหน่อยดิ ช็อคโกแล็ตปั่น 40 บาทมันต่างกะ starbucks ยังไงวะ (คือไม่สนิทมาก มันพูดแบบเกรงใจ) แต่ก็เออ น้ำเสียงแบบเหยียดๆอะ เหมือนว่าผมนี่โง่มากมาย ผมก็ตอบขำๆ ว่าช็อคโกแล็ตมันคนละเกรดกัน...ยิ้ม :D มันก็แบบ ส่ายหน้าๆ แล้วก็หัวเราะ ... แล้วเพื่อนผมอีกคนที่พอจะเข้าใจ(ช็อคโกแล็ตเกรดเดียวกัน ^^) เขาก็พูดออกมาว่า ..ก็ มึ_ไม่เคยกิน starbucks ไง มึ_เลยไม่รู้ความแตกต่าง ๕๕๕๕ (ผมแบบโครตซะใจ) แต่ก็ได้แค่ยิ้มเบาๆ :D เรื่องโทรศัพท์ก็แบบ ผมชอบเล่น internet ก็หาโทรศัพท์ที่มี wi-fi จอ touch ใช้งานง่ายๆ มาตอบสนองความต้องการของผม ไอ้คนนี้ก็จะมาแบบ โย กุว่านะ มึ_ไปซื้อโน๊ตบุคถูกมาใช้ สบายกว่าปะ (ผมก็พูดในใจว่า เอ่อ มี แต่ขี้เกียจหิ้ว ไม่ได้เล่นตลอด เอาไว้สนองนีด เวลาอยากเล่น หรือจำเป็น) ผมก็เงียบๆ ขี้เกียจพูด เปลืองน้ำลาย อีกอันเรื่อง GPS (ผมไม่ได้ต้องการใช้ แต่มันมี) เขาก็แบบ ไหนลองให้นำไปภูเก็ตดิ ... ผมก็ไม่เคยใช้ ลองๆจิ้มลองหา, มันก็จะแบบ โหยถึงนานละยังหาไม่เจออีกเหรอ .... เอ้าฮาา ผมก็ไม่ได้ว่าโหย รวย อะไรเลยยย แต่แค่ทำอะไรแล้วเรามีความสุข พอใจ ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือนร้อน ไม่ได้ผิดศีลธรรมอะไรเลย แต่ทำไมต้องมากัดกันด้วย ไม่เข้าใจๆ มันมีอีกแต่เอาแค่นี้ รู้สึกผมจะระบายเต็มที่เลย เพิ่งเห็นโพสด้านบน ^^ ขอโทษทีผมพิมพ์ไปแล้ว(ยาวมากมาย)ขอแชร์นิดนึงงนะครับ :) ย้ำว่าคืออันนี้ไม่เกี่ยวกับกระทู้นี้นะครับ เพราะเพื่อนผมไม่ได้เป็นตอนที่อารมณ์ไม่ดี ไม่ได้แบบรู้สึกขอโทษแบบที่เป็นประเด็นกัน แต่เพื่อนผมคนนี้แบบ "ได้ตลอด" เวลาใครใช้อะไรแพง หรือราคาสูงกว่าสินค้าที่มีสิ่งทดแทนในราคาถูกว่า -*- คุณ Anqueetas ทำจมูกมาสวยป่าวครับ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 23:05:54 จากคุณ : <YO> - [ 19 เม.ย. 52 23:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เอาจมูกที่ทำใหม่มารีวิวด้วยนะครับ รอชมครับ จากคุณ : BIZZARE - [ 19 เม.ย. 52 23:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เอ่อ เพื่อนคุณโยนี่.. เป็นผมคงเลิกคบนะเนี่ย เหอๆ จากคุณ : ted_t1987 - [ 19 เม.ย. 52 23:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ครับ ขอให้ยุบก่อน ตอนนี้ หน้าเป็นสิงโตนาเนียไปแล้วละครับ  เดี่ยวยุบสวยเมื่อไร จะเอารูป before กับ after มารายงานครับ จากคุณ : Anqueetas - [ 19 เม.ย. 52 23:31:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 การตลาดล้วนๆอะครับ เพราะผมก็หลงกลซื้อมาเหมือนกัน อิอิ ขนาดพี่นักบินโดนไปซะขนาดนั้นยังหายได้ เราหน้ารอยสะเก็ดสิวเบาๆแค่นี้ มันก็ต้องดีขึ้นมั่งล่ะน่า แต่แล้วได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจก้เลยบอกลากันไปครับ จากคุณ : @1stSight - [ 20 เม.ย. 52 00:10:54 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ : ted_t1987 เพื่อนของเพื่อนอะครับ พอเข้าเมเจอร์ ก็คงไม่ต้องเจอแล้ว ๕๕ จากคุณ : <YO> - [ 20 เม.ย. 52 00:35:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 Khun.YO ตอบเรื่อง La Mer : เราว่ามันอยู่ที่ปริมาณการใช้ และ การwarmครีมค่ะ ถ้าใช้มากไป หรือ warm ไม่ดี ก็คงจะมันเยิ้มอ่ะค่ะ แต่เราใช้ทั้งเช้า และ เย็น ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหน้ามันขึ้นนะคะ ตอบเรื่องโดนกัด : แหะๆ เรื่อง Gadgetนี่ โดนเหมือนกันเลยแฮะ ล่าสุดเพิ่งโดนแขวะไปว่า เออ คนจะพกทั้ง iPhone, iPod และ Blackberry ได้ด้วยนี่ต้องโง่ด้วยจริงๆหว่ะ ... แบบโครตเคืองเลยอ้ะ อันนี้ส่วนตัว: ปล.แอบให้ give เพราะชื่อ อิอิ ยิ่งเห็นชื่อก็ยิ่งอยากจะให้ซัก 100gives เลย 55555 จากคุณ : being last on your list - [ 20 เม.ย. 52 00:47:12 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แพงได้เพราะ Marketing strategy and Brand position จากคุณ : yr_naughty_annie - [ 20 เม.ย. 52 09:36:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ^ ^ ชื่อผม...เหมือนชื่อแฟน ...คุณ being last on your list ตอบแยกเป็น part เลย ๕๕ จากคุณ : <YO> - [ 20 เม.ย. 52 09:37:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อย่าเถียงก๊านๆๆ  โลกมันร้อน v.v แพงเพราะเป็นภาษาฝรั่งเศสมั้งคะ ไม่รู้ ไม่เคยใช้ หาเงินด้วยตัวเองยังไม่ได้ ไม่กล้าขอแม่ค่ะ 555 จากคุณ : coffee-more - [ 20 เม.ย. 52 11:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เราเองเริ่มแรกซื้อเมื่อเกือบๆ สามปีมาแล้ว เพราะโดนเพื่อนบังคับแกมขอร้องให้ใช้ค่ะ :) เพื่อนมันคงสงสาร ปนสมเพช อยากจะให้เราดูเป็นผู้เป็นคนกะเค้าบ้าง อยู่ที่ US ขายกระปุกละประมาณ $200++ แล้วที่นี่จะมีห้างนึงที่ลด 20% ทั้งห้างปีละ 2 ครั้ง (ตอนนี้ลดแค่ 15% ละ) ตอนที่ซื้อครั้งแรกคิดอยู่พักนึงได้ เพราะไม่เคยใช้ครีมแพงขนาดนี้เลย แต่ก็ตัดสินใจซื้อ ลดไปลดมา บวก tax รวมแล้วจ่ายไป $190 นิดๆ คิดซะว่าทำงาน 2-3 วันก็หาได้ละ ปรากฎว่าซื้อมาใช้ได้พักนึง เห็นผลเลย ทั้งเพื่อนๆ ใกล้ตัว และคนที่ไม่สนิทต่างพร้อมใจกันทักว่าหน้าดีขึ้น แต่ใช้แล้วหน้ามันมากกกก ปกติก็เป็นคนหน้ามันอยู่แล้ว เป็นคนที่หน้าไม่ค่อยแพ้อะไร แล้วก็ไม่มีสิวด้วย แต่พอหมดกระปุกแรก (ใช้อยู่ครึ่งปีได้) ก็ ไปซื้อ ตัว Lotion มาใช้แทน เพราะไม่อยากให้หน้ามันเหมือนตอนใช้ครีม ปรากฎว่า หน้าเป็นผดๆ ขึ้นเต็มไปหมด ไนท์ครีมก็ใช้ตัวอื่น หือยี่ห้อทั่วๆ ไปที่ถูกลงไม่ได้ เพราะจะแพ้และมีผื่นขึ้น เลยคิดว่าคงต้องยอม trade off ตัวนี้มันถูกกับเรา เราใช้แล้วดี ก็ต้องยอมจ่ายในราคาที่แพงขึ้น แต่ยังไงซะ เราก็พอใจนะคะ ตั้งแต่กระปุกแรกที่ใช้ จนถึงตอนนี้ก็ยังใช้อยู่และจะใช้ต่อไปเรื่อยๆ แค่มันถูกกับหน้าเรา ไม่แพ้ และทำให้ผิวหน้าเราดีขึ้น แค่นี้ก็นับว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแล้วค่ะ ปล. ขอโทษด้วยที่พิมพ์ซะยาวเลย ^^ จากคุณ : Sniffy :) - [ 20 เม.ย. 52 15:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 38 Too expensive ... no money to grab! จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น - [ 20 เม.ย. 52 21:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 พูดซะอยากใช้เลยง่ะ จากคุณ : ดาวราตรี - [ 22 เม.ย. 52 07:58:42 ]