ความคิดเห็นที่ 1 อยากจะกินเกิน 1000mg หรอคะ ปกติที่เรากิน เรายังไม่กล้ากินเกิน 500mg เลยอ่ะค่ะ กลัวอะไรหลายๆอย่าง รอคนมีความรู้มาตอบดีกว่าค่ะ จากคุณ : o_oishi - [ 2 มิ.ย. 52 22:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กินเกิน 1000 ก็อยู่ใช้ได้ไม่ถึงค่ะ ทานแค่ 500 ก็พอ เพราะอยู่ในอาหารด้วย จากคุณ : AuSi - [ 2 มิ.ย. 52 22:45:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปกติวันนึงร่างกายก็ดูดซึมไม่ถึง 1000 mg นะ ถ้าจำไม่ผิด และก็ตาม คห.2 ในอาหารก็มีอีก ก็น่าจะเพียงพอแล้ว คิดว่านะคะ จากคุณ : littleonion - [ 3 มิ.ย. 52 00:15:01 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราไม่แน่ใจนะคะ  แต่ ในการดูด ซึม วิตามิน แต่ละครั้ง จะ อยู่ที่ ประมาณ สองร้อย ถึง สองร้อย ห้าสิบ มิลลิกรัม และร่างกายของเราก็ จ้องการวิตามิน ประมาณ หนึ่งพัน มิลลิกรัม ก็ จริง แต่ในกรณีที่ร่างกายต้องการ จริงๆ ปกติก็ไม่ได้ต้องการถึงขนาดนั้น ถ้าต้องกาทาน เราว่า ทาน สัก ห้าร้อย มิลลิกรัม ต่อ วัน น่าจะดี กว่า เพระทานมากไป ก็ ฉี่  ออกมาหมด  ดุด ซึมไปแค่ที่ร่างกายใช้เท่านั้นเอง อย่าลืมว่าในอาหารก็มีอีก ด้วย ลอง ดู  คห  ต่อไปนะคะ  อาจจะ ดี กว่าที่เราทราบมา คะ จากคุณ : artchinese - [ 3 มิ.ย. 52 00:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ควรกินเกินกว่าที่กำหนด สำหรับคนปกตินะคะ และควรแบ่งกินค่ะ ไม่ควรกินทีเดียวในปริมาณมากๆ เพราะความสามารถในการดูดซึมวิตามินซีของร่างกายมีจำนวนจำกัดค่ะ กินเยอะเกินไปก็อาจจะไม่เกิดประโยชน์เพราะวิตามินไม่สามารถดูดซึมไปใช้ได้ทั้งหมดอยู่ดี ค่ะ จริงอยู่ที่หลายคนมักบอกว่าวิตามินซีมีความสามารถในการละลายได้ในน้ำ และขับของเสียออกมาในรูปแบบของปัสสาวะ แต่กระบวนการก่อนที่จะออกมาในรูปแบบของปัสสาวะนั้นต้องผ่านอะไรมาก่อนทราบกันมั้ยคะ ต้องผ่าน"ไต"ค่ะ  ในวันๆนึงไตก็ทำงานหนักมากพอแล้วนะคะ (ขับถ่ายน้ำและของเสียอื่นๆ ซึ่งเกิดจากเมแทบอลิซึมออกจากร่างกาย และที่ร่างกายได้รับเข้าไป / ควบคุมความเข้มข้นของสารต่างๆ ในร่างกาย  เช่น ควบคุมดุลน้ำ , ควบคุมดุลกรดด่าง / ช่วยสร้างสารบางอย่าง เช่น ฮอร์โมนแองจิโอเทนซิน (angiotensin)แอมโมเนีย) เพราะฉนั้นถ้ากินเข้าไปในปริมาณมาก(และสะสมในระยะเวลานาน)กลับเป็นโทษนะคะ คือไตจะต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น เพื่อขจัดวิตามินซีที่ได้รับมากเกินนี้ทิ้งออกไปจากร่างกาย อาจทำให้เกิดนิ่วที่ไตได้ ลืมบอกผลข้างเคียงอีกอย่างค่ะ  การที่ร่างกายได้รับวิตามินซีในปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลข้างเคียงได้ เช่น อาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งเกิดจากวิตามินซีไปสร้างความระคายเคืองให้กับกระเพาะอาหาร  การกินวิตามินซีในขนาดสูง จึงควรระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย อาหารเสริมชื่อก็บอกอยู่แล้วนะคะว่าอาหารเสริม คือเหมาะสำหรับผู้ที่ขาดจริงๆ(ผู้ป่วย)  ถ้าในชีวิตประจำวันปกติคุณทานผักผลไม้เป็นนิจอยู่แล้วก็ไม่อยากแนะนำให้ทานค่ะ ก่อนจะทานอะไรพวกนี้ อยากให้ตรวจเช็คร่างกายให้ดีก่อนนะคะ อย่างผู้ป่วยทาลัสซีเมีย (Thallassemia) และผู้ป่วยที่ขาดเอนไซม์ G-6-PD จะรับวิตามินซีในปริมาณมากไม่ได้ค่ะ เพราะจะก่อให้เกิดอาการผิดปกติต่อเลือดได้ อยากให้ดูผลระยะยาวนะคะ อย่าดูแค่ว่าวิตามินซีช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระบำรุงผิวพรรณเพียงอย่างเดียว ต้องดูให้ครบทั้งสองด้านค่ะ  ยาดีจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อใช้อย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์  ถ้าใช้ยานั้นมากเกินความพอดีจะก่อให้เกิดโทษได้นะคะ เหมือนไอติมถ้ากินเยอะเกินไปก็ทำให้อ้วน ฮ่าๆ (พอดีชอบกินไอติม อิอิ) ************************************* (คัดมาจากบทความ) ผู้ที่ต้องได้รับวิตามินซีมากกว่าปกติ ได้แก่ ชายที่มีบุตรยาก เนื่อจากภาวะเชื้อสเปิร์มบกพร่อง โดยวิตามินซีจะช่วยทำให้เซลล์สเปิร์มไม่เกาะติดกัน เพิ่มโอกาสผสมกับไข่ และลดความพิการของเซลล์สเปิร์มทำให้สเปิร์มแข็งแรง ผู้ที่ดื่มสุราจัด พบว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะขัดขวางการดูดซึมของวิตามินซีในร่างกาย ทำให้ร่างกายแสดงอาการต่างๆ ข้างต้นได้ในที่สุด (อาการขาดวิตามินซี) ดังนั้นผู้ที่ดื่มสุรา ควรได้รับวิตามินซีเสริมวันละ 1,000 มิลลิกรัม ผู้ที่สูบบุหรี่ เพราะการสูบก่อให้เกิดอนุมูลอิสระขึ้นในร่างกายมากมาย วิตามินซีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงต้องทำงานหนักและต้องใช้เป็นปริมาณมากๆ ผู้ที่สูบบุหรี่มักจะมีอาการขาดวิตามินซี จึงแนะนำให้รับประทานวิตามินซีเสริมวันละ 1,000 มิลลิกรัม ผู้ สูงอายุ เนื่องจากระบบการย่อยอาหารของผู้สูงอายุจะมีประสิทธิภาพลดลง ตามอายุที่มากขึ้น การรับประทานอาหารก็ลดลง จึงมักเกิดสภาวะขาดวิตามินซี ประกอบกับวิตามินซีมี ประโยชน์ในการปรับเพิ่มสัดส่วนของคลอเลสเตอรอลที่ดี เป็นอันตรายน้อยคือ เอชดีแอล ให้สูงขึ้น ช่วยลดการเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดตีบตัน และยังช่วยถนอมดูแลอวัยวะระบบอื่นๆ ตามที่กล่าวข้างต้น ผู้สูงอายุจึงควรจะได้รับการเสริมวิตามินซีเพิ่ม ผู้ป่วยทั่วไป ขณะที่ป่วยร่างกายจะอ่อนแอ ภูมิต้านทานโรคลดลง วิตามินซีจะ เข้ามามีบทบาทในการช่วยกระตุ้นและเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบภูมิคุ้มกัน ในร่างกายทำงาน โดยกระตุ้นให้มีการผลิตสารอินเตอร์เฟียออนและเพิ่มการผลิต เม็ดเลือดขาวมาทำลายเชื้อโรค และวิตามินซีเองยังมีประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อไวรัสด้วย ผู้ ป่วยหลังผ่าตัด นอกเหนือจากคุณสมบัติในการทำลายเชื้อไวรัส และกระตุ้นภูมิต้านทานต่อเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งทำให้แผลผ่าตัดมีโอกาสติดเชื้อน้อยลงแล้ว วิตามินซียัง ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเร่งรักษาบาดแผลด้วยการฟื้นฟูการผลิตโปรตีนคลอลาเจน และผลิตเนื้อเยื่อให้เซลล์ยึดติดกันเร็วขึ้นแผลก็จะหายเร็วขึ้น อ่านมาถึงจุดนี้ทุกท่านคงยอมรับได้ว่า "C" เป็นวิตามินที่ขาดไม่ได้ ก่อนอื่นผู้เขียนยังคงยืนยัน ให้ท่านรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูงๆ ก่อน เมื่อได้รับไม่พอเพียงจึงค่อยเสริมอาหาร หรือยาวิตามินซีในปริมาณที่เหมาสม โดยมีเคล็ดลับว่าการแบ่งรับประทานวิตามินซีทีละน้อยตลอดวันเช่น ทุกมื้อหลังอาหาร ดีกว่าการรับประทานครั้งเดียวจำนวนมากๆ เหตุผลเพราะเรื่องของความสามารถในการดูดซึมวิตามินซี ของร่างกายมีจำกัด การให้คราวเดียวจำนวนมากๆ อาจไม่เกิดประโยชน์เพราะไม่สามารถดูดซึมไปใช้ได้หมด สำหรับปริมาณที่แนะนำในการเสริมวิตามินซี - สำหรับเด็กเล็ก 2-5 ปี คือวันละ 200-500 มิลลิกรัม - เด็กอายุ 6-12 ปี วันละ 500-700 มิลลิกรัม - ส่วนวัยรุ่น 13-19 ปี วันละ 500-800 มิลลิกรัม และ - สำหรับผู้ใหญ่วันละ 500-1000 มิลลิกรัม - และสำหรับผู้ที่ต้องการมากกว่าปกติตามอาการที่กล่าวข้างต้นควรเสริมวันละ 1,000-3,000 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับวิตามินซีที่ได้รับจากอาหารประจำวันด้วยว่ามากน้อยเพียงใด //////////////////////////// edit : เข้ามาแก้ใหม่ พิมพ์ตกไป1คำ -*- แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 01:06:47 จากคุณ : ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว - [ 3 มิ.ย. 52 01:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กินแบบพอดีๆ ให้ประโยชน์กว่า จากคุณ : ใต้แสงจันทร์มีเพียงเราสอง - [ 3 มิ.ย. 52 08:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ร่างกายดูดซึมได้วันนึงประมาณ 500 น่ะค่ะ ที่เหลือก็ขับออก แต่ก็อย่างความเห็น 5 น่ะค่ะ ว่าตับ-ไตจะต้องทำงานหนักขึ้น ทานแค่แบบ 500 ก็น่าจะพอ ไหนจะอาหารที่เราทานเข้าไปอีกน่ะค่ะ จากคุณ : enusai - [ 3 มิ.ย. 52 09:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เข้าใจว่าจะกินเกินไปทำไมคะ จากคุณ : olives - [ 3 มิ.ย. 52 13:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 วันๆนึงดูดซึมแค่ 500mg เองค่ะ จะกินเกินขนาดไปทำไมให้เปลืองทรัพย์ และไตทำงานหนัก ?? ^^ จากคุณ : Jankenpyon - [ 3 มิ.ย. 52 14:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถามสาวที่เคยกินว่าขององค์การเภสัช ตามร้านขายยาทั่วไปมีไหมคะ ขี้เกียจไปที่เภสัชน่ะค่ะ (จากที่ทำงานเดินไปไกล) ว่าจะไปแวะที่ห้างน่ะค่ะ อิอิ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : enusai - [ 3 มิ.ย. 52 15:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^^ ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ ส่วนตัวกินแค่ 100mg เท่านั้นเอง ช่วงเป็นหวัด แต่ปกติก็จะทานผัก ผลไม้เป็นประจำด้วยค่ะ เอาไว้เป็นอาหารเสริมดีกว่าเนอะ ไตจะได้ไม่ทำงานหนักเกินไป จากคุณ : Luku - [ 3 มิ.ย. 52 19:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทุกๆคนนะคะ สำหรับความรู้ อืม ห้าร้อยก้อห้าร้อย เห่อๆๆๆ จากคุณ : bynight - [ 3 มิ.ย. 52 21:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้หมด 100% ที่กินเข้าไป ถ้ากินครั้งละ 500 อาจจะดูดซึมได้ 100-200 ถ้าต้องการให้ดูซึมต่อวันมากกว่านั้น ก็กินครั้งละ 500 แต่เพิ่มมื้อในการกินเช่นเช้า 500 เย็น 500 จากคุณ : -=เหมือนจะใช่=- - [ 4 มิ.ย. 52 05:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็นหลากหลาย วิตามินซีนั้น ค่า safty ที่ร่ายกับรับได้คือ วันละ 2000 mg/day (เนื่องจากปัญหาสุขภาพของบางคนจำเป็นต้องได้รับ เยอะกว่าคนทั่วๆไป) แต่!!! ถ้าสุขภาพปกติแต่รับประทานเพื่อให้ผิวพรรณดีขึ้นนั้นรับประทานเพียง 1000 mg/day ก็พอแล้ว ควรรับประมาณเม็ดละ 500 วันละ สองครั้ง คะ จากคุณ : อ๋องน้อย (DoctorAong) - [ 4 มิ.ย. 52 18:17:19 ]