ความคิดเห็นที่ 1 อ้อ  พรีมซีหาซื้อได้จากที่ไหนหรอครับ ขอทราบราคาโดยประมาณด้วยนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : wisdom of social เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 20:19:48

ความคิดเห็นที่ 2 จัดให้ค่ะ อยากไปลอง OP ดูบ้างเหมือนกัน ค่อยๆใช้ไปละกัน จากคุณ : CeVil... เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 20:50:12

ความคิดเห็นที่ 3 อยากทราบที่ซื้อเหมือนกันค่ะ จากคุณ : มนุษย์ดี_ManUtd เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 20:54:42

ความคิดเห็นที่ 4 พรีมซี ซื้อที่ร้านขายยาค่ะ จากคุณ : กรวด หิน ดิน ทราย เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 21:20:33

ความคิดเห็นที่ 5 อุตส่่าห์เปลี่ยนสูตร เพิ่ม ไฮยารูลอน เข้ามา แต่ว่าใ้ห้มาจึ๋งเดียว อยู่ตัวสุดท้าย ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่ส่วนประกอบอื่น ๆ ขอไปแกะก่อน ขอบคุณนะคะสำหรับ ข้อมูลส่วนผสม จากคุณ : phukboong69 เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 21:38:26

ความคิดเห็นที่ 6 ให้กิฟไปเล้ยยยย ขอบพระคุณมากคร้าบบบบบ จากคุณ : wisdom of social เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 21:40:12

ความคิดเห็นที่ 7 กล่องและกล้องวางอยู่หน้าคอมพอดีค่ะ อิอิ จากคุณ : CeVil... เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 22:29:04

ความคิดเห็นที่ 8 พรีมซี ที่ร้านขายยา แถวศิริราชมาขายมั๊ยค่ะ แล้วมันมีกี่แบบหลอ เราใช้ op อยู่ค่ะ  เพิ่งขวดแรกเอง เลยยังไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงค่ะ จากคุณ : cousteau เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 22:57:40

ความคิดเห็นที่ 9 มาแล้วค่ะ พยายามไปแกะมาจากเว็ปของคุณฟีบี้ เท่าที่ดูส่วนผสมที่ระคายเคือง มีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเน้นส่วนผสมที่เป็น moisturizer ส่วนผสมที่ทำให้อุดตันก็ น้อยมาก ๆ เช่นกัน สารแอนตี้ออกซิแดนซ์ก็มีแค่ตัวเดียวคือ Ascorbyl tetraisopalmitate ตัวนี้ก็คือวิตามินซีอีกรูปแบบนึง สเถียรมากน้อยแค่ไหนแอนไม่เชี่ยวชาญแต่ คุณสมบัติคือ antioxidant ทำให้ผิวชุ่มชื่นและทำให้ผิวดูเนียนขึ้น แต่ก็ใส่มาไม่ มากเท่าไหร่ อยู่ในระดับกลาง ๆ ของส่วนผสมทั้งหมด ซึ่งส่วนผสมส่วนต้น ๆ จะ เป็นส่วนผสมที่ให้ความชุ่่มชื่นแก่ผิว ทำให้ผิวดูเนียนและเป็นฟิล์มเคลือบผิว ตัวนี้ถ้าจำไม่ผิดบอกว่าปราศจากน้ำหอม แต่ถ้าดูให้ดีไม่มีส่วนผสมที่บ่งบอก ว่าเป็น fragrane เลย แต่มันมีส่วนผสมที่ให้กลิ่นหอมอยู่ค่ะ นั่นก็คือ Ammonium glycyrrhizate มีคุณสมบัติให้กลิ่นหอม ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว แต่ก็ระคายเคืองผิวมากเช่นกัน มีแอลกอฮอล์นิดหน่อยใครไม่แพ้ก็ไม่ต้อง ใจ มีส่วนผสมที่่ช่วยสมานผิว ป้องกันการระคายเคืองอยู่หลายตัว มีสารกันเสีย อยู่แต่เป็นสารกันเสียที่ยอมรับได้ว่าปลอดภัย ถ้าเปรียบเทียบกับ OP boosting serum แล้ว มี Ascorbyl tetraisopalmitate เหมือนกัน อยู่ในลำดับกลาง ๆ ของส่วนผสมทั้งหมด เหมือนกัน แต่ตัวไหนจะมีมากมีน้อยกว่ากันแอนก็บอกไม่ได้ แต่ preme จะ สู้ OP ไม่ได้ตรงที่ OP มีส่วนผสมที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์เยอะกว่า โอกาสที่จะทำให้ผิวระคายเคืองพอ ๆ กัน แต่ทั้งสองยี่ห้อมีสารต้านการระคาย เคืองมาให้ สารให้ความชุ่มชื้นก็พอ ๆ กัน แต่ pream ดูแล้วเยอะกว่านิดหน่อย สรุป สองตัวนี้มี Ascorbyl tetraisopalmitate เหมือนกันทำหน้าีที่เป็นแอนตี้ ออกซ ิแดนท์ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เชื่อว่าทำให้ผิวขาวใส ช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลาเจนได้ถ้าใส่มามากกว่านี้้ OP ได้เปรียบ Preme ตรงที่มีส่วนผสมที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์มากกว่า ไม่ ว่าจะเป็น niacinamide ที่อยู่ในลำดับต้น ๆ และ วิตามินอี ใส่มาให้นิดหน่อย เพราะทำให้ผิวอุดตันได้มาก Preme มีส่วนผสมที่เป็นตัวเคลือบผิวทำให้ผิวดูเรียบเนียนอยู่หลายตัวรวมทั้ง เป็นส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวซะเป็นส่วนใหญ่น่าจะ 70% ของส่วนผสมทั้ง หมดเป็นส่วนผสมกลุ่มนี้ เราว่าสองตัวนี้สูสีกันในปริมาณวิตามินซีที่ใส่ไปค่ะ เวลามีโหวตเกี่ยวกับสองตัว นี้มันก็เลยให้ผลการโหวตไม่ค่อยเด็ดขาดเท่าไหร่ ดังนั้นตัวไหนจะดีกว่ากันก็ ต้องลองกันเอาเองค่ะ ว่าผิวใครจะชอบตัวไหนมากกว่ากัน ข้อมูลที่แอนกล่าวมาทั้งหมดอาจไม่สมบูรณ์ทั้งหมด แต่คิดว่าโดยรวมแล้วน่า จะช่วยแก้ข้อสงสัยให้เพื่อน ๆ ได้ว่าตัวไหนดีกว่ากันตรงไหน ถ้ามีอะไรเพิ่ม เติมไม่ครบถ้วนตรงไหน ผิดพลาดตรงไหน เพื่อน ๆ แย้งได้นะคะ ช่วย ๆ กัน ดู แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 52 22:58:49 จากคุณ : phukboong69 เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 22:58:20

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นมีเพื่อนทักมาขอแก้ไข แล้วรู้ได้ไงว่าเข้าใส่มากี่ % ( ถามแบบคนไม่รู้ แต่เห็นเพื่อนๆบอกว่าดูตามลำดับของส่วนผสม) แล้วทำมั้ยเขาต้องใส่มาแค่นั้น (นั้นดิครับทำมั้ยเขาไม่ใส่ส่วนประกอบที่ดูดีเยอะๆ หรือเพราะประหยัดงบ หรือเพราะการทดสอบใส่แค่นี้ดีแล้วสำหรับผิว อันนี้ไม่รู้) แล้วถ้ามันดีจริง ทำไมเขาไม่ใส่มาเยอะๆ (ตามข้อ 2 จะได้ขายได้เยอะๆ หรือเขาเน้นคุณภาพความปลอดภัย ) แล้วถ้าแค่ชื่อส่วนประกอบแค่นี้บ่งบอกว่าดีจริง แต่ละผลิตภันณ์คงใส่มาเยอะไว้ก่อนจะได้ขายได้หรอ (อาจจะเป็นคำว่า"หรอ" ที่ดูหวนๆไปหน่อย ขอโทดด้วยน่ะครับ แต่ไม่มีเจตนาว่าใคร เห็นแต่ละคนบอกว่าส่วนประกอบเป็นแค่การตัดสินใจเบื้องตนในการเลือกซื้อ ผมว่าส่วนผสมบางตัวมากน้อย แต่เมื่อมารวมกันอาจให้ผลที่ต่างกัน บวกกับผิวหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงอาจทำให้บางคนใช้แล้วได้ผล) คนหนึ่งบอกใช้แล้วดีได้ผล อีกคนบอกใช้แล้วไม่ดีไม่ได้ผล แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 52 17:42:57 แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 52 17:41:13 จากคุณ : jas (jasbil) เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 23:25:57

ความคิดเห็นที่ 11 บอก% ชัดๆคงไม่ได้ อาจจะเป็นสูตรของแต่ละเจ้า แต่สังเกตุจากการเรียงชื่อส่วนผสมต่างๆ ส่วนเรื่องที่ทำไมไม่ใส่เยอะๆ ส่วนผสมอาจจะแพง ใส่มากไประคายเคือง หรือ อ.ย.ไม่อณุญาต  หรือคุณภาพไม่เสถียร หลายสาเหตุขอรับ จากคุณ : ขอสอง เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 23:30:05

ความคิดเห็นที่ 12 การดูส่วนผสมผลิตำภัณฑ์ข้างกล่อง เป็นวิธีการเบื้องต้้นในการดูว่าผลิตภัณฑ์ นั้นมีส่วนผสมที่ดีอยู่หรือไม่ มีตัวไม่ดีอยู่ด้วยหรือไม่ เสี่ยงที่จะแพ้หรือไม่ มีแนว โน้มที่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีหรือไม่ การเขียนส่วนผสมที่ข้างกล่องก็มีมาตรฐาน การเขียนอยู่แล้วว่าจะต้องเรียงจากส่วนผสมที่มีมากไปหาส่วนผสมที่มีน้อย ถึง ไม่ได้บอกว่ามีกี่ % ก็สามารถประมาณได้ว่า มันมีมากหรือน้อย สารบางตัวมีรา คาแพงมาก ใส่ไปเยอะ ๆ ก็จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาแพงเกินไป ก็จะผิดกลุ่ม เป้าหมาย ผลิตภัณฑ์ราคาประมาณนี้ใส่มาเท่านี้ก็ไม่แปลก บางตัวเค้ามีข้อกำ หนดว่าให้ใส่ได้ไม่เกินเท่านี้ก็ใส่ได้เท่าที่กำหนด เรื่องคนนึงใช้แล้วดีอีกคนบอกไม่ดี เคยได้ยินลางเนื้อชอบลางยามั๊ยคะ ไม่มี อะไรเพอร์เฟ็คสำหรับทุกคนค่ะ ดังนั้นอะไรจะเหมาะกับใคร คนนั้นต้องลอง เองค่ะ การดูส่วนผสมเป็นแค่เพียงการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนซื้อว่าผลิต ภัณฑ์นั้นมีแนวโน้มว่าจะดี หรือไม่ดี จะแพ้หรือไม่แพ้ จะุุคุ้มค่าเงินที่เสียไป หรือไม่ หรือจะออกแนวไม่ใช่แค่รวยอย่างเดียวถึงจะซื้อได้ต้องฉลาดน้อยด้วย สุดท้ายอยากจะบอกว่าไม่ได้เก่งกาจมาจากไหน แต่อาศัยศึกษาเพื่อหาความ น่าจะเป็นแล้วเอามาแบ่งปัน ถ้าไม่เห็นด้วยก็ยินดียอมรับความคิดเห็นนะคะ จากคุณ : phukboong69 เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 23:39:40

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณค่ะ^^ ได้ความรู้เพิ่ม ตอนนี้วุ้นใช้พรีมซีรุ่นเก่าอยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าดีขึ้นหรือเปล่า (ดูไม่ออก หรือ ไม่มีผล ก็ไม่แน่ใจ) แต่มีคนทักว่า หน้าใสขึ้น (ก็ไม่รู้อีกว่าเพราะ นอนเยอะ หรือ พรีมซี - -) ตอนนี้กำลังจะหมดแล้ว กะว่าจะลองใช้ เซรั่มมะเขือเทศต่อ แล้วดูผลเหมือนกัน ^^ ก้ออ่านะ จากคุณ : นอกเรื่องแฮะ - - (วุ้นใสจ้า) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 00:48:10

ความคิดเห็นที่ 14 จิ้มไปที่ ความเห็นที่ 10 ทำไมเหวี่ยงจังเลยคะ  ความเห็นดูห้วนๆยังไงก็ไม่รู้ คุณผักบุ้งเค้าก็อุตส่าห์อธิบายซะดี๊ดี อยากจะสวยต้องใจเย็นๆ บางคนใช้แล้วได้ผล บางคนใช้ไม่ได้ผล อยู่ที่ผิวของแต่ละคนค่ะ ไม่เห็นด้วยก็แสดงความคิดเห็นออกมาดีๆก็ได้น่า จากคุณ : WHITEDAHLIA เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 02:56:15

ความคิดเห็นที่ 15 ใจร่มๆ กันนะครับ เข้าใจครับว่า ที่ทุกท่านเข้ามา ย่อมมีจุดประสงค์ที่คล้ายกัน คือ อยากสวย อยากหล่อกันทั้งนั้นครับ   อาจจะมีใครที่การกระทำออกมาไม่ถูกใจคนอื่นบ้าง  แต่ยังไงเจตนาต้องเหมือนกัน คือ อยากสวย  อยากหล่อนั่นแหละครับ ขอเพิ่มเติมคุณ  phukboong69  นะครับ ใน line ของ OP มีตัว enriched serum ครับ ที่มีปริมาณของ VitC ที่เยอะที่สุด Cyclopentasiloxane / Dimethicone Crosspolymer, Cyclohexasiloxane, Ethylene / Acrylic Acid Copolymer, Ascorbyl Tetraisopalmitate, Tocopheryl Acetate, Glycerin, Propylene Glycol, Dicaprylyl Carbonate, Methyl Gluceth-10 , Bisabolol, Glycyrrhiza Glabra (Licorice) Root Extract, Macadamia Ternifolia Seed Oil, Glycine Soja (Soybean) Oil, Persea Gratissima (Avocado) Oil, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil, Triticum Vulgare (Wheat) Bran Extract, Calendula Officinalis Flower Extract, Chamomilla Recutita (Matricaria) Flower Extract, Fucus Vesiculousus Extract, Retinol, Polysorbate 20, Propylparaben, Disodium EDTA, BHT, BHA, Fragrance.   ส่วนผสมอยู่ในอันดับที่ 4  เห็นคุณปูเป้บอกว่าปริมาณคร่าว ๆ ก็คงอยู่ที่ 2 -4 % ครับ แต่ยังไงผมก็อยากได้ตัวที่มี Vit C มากกว่านี้อยู่ดี และคงไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะถอย  Kiehl’s : Dermatologist Solutions Powerful Strength Line Reducing Concentrate ที่มีวิตามินซีในรูป Ascorbic Acid สูงถึง10.5 % หรอกครับ ยังไงต้องหาตัวที่ใกล้เคียงต่อไปครับ จากคุณ : wisdom of social เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 09:09:35

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องปริมาณส่วนผสมนี่ ของบางอย่างมันมีเพดานของมันอยู่ค่ะ ใส่เยอะไปอาจจะเป็นภัยต่อผู้ใช้ อย่าง Ascorbyl tetraisopalmitate เคยมีคนบอกเราว่าปริมาณการใช้ที่เหมาะสมอยู่ที่ 3-5% จริงเท็จอย่างไรก็ต้องศึกษาเพิ่มเติมกันต่อไป ดีใจมากที่เห็นส่วนผสมเต็มของ preme C ซะที ตัว OP Skin boosting serum นั้น ส่วนที่ดีที่สุดของมันคือการมี B3, C และ E ประกอบกัน ช่วยเรื่อง antioxidant ได้ดี และ "เชื่อได้ว่า" มีวิตามิน B3 ในรูปของ niacinamide ที่เป็นวิตามินสารพัดประโยชน์ต่อผิว โดยเฉพาะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบ niacinamide ได้ผลกับสิ่งนี้ ก็เลยชอบ OP Skin boosting serum เพราะว่านอกจากได้ niacinamide ในรูปแบบของซีรั่มเนื้อบางเบาแล้ว ยังได้วิตามินซี Ascorbyl tetraisopalmitate แถมมาในระดับที่นาสนใจ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ได้ผลดีกับ niacinamide เราไม่แปลกใจเลยว่า ถ้าเทียบกันสองตัวนี้ มีโอกาสที่คนจะใช้ OP skin boosting serum แล้วเกิดอาการผิดสำแดงบนผิวหน้ามากกว่าคนที่ใช้ preme c แต่ถ้าผิวถูกกับ niacinamide ก็นับว่าได้กำไรจากมอยเจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมตัวนี้ในระดับที่น่าสนใจ เนื้อบางเบา แห้งไว ส่วน preme c มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่นได้ดีทีเดียว มีวิตามินซี Ascorbyl tetraisopalmitate เหมือน OP แต่ดูจากส่วนผสม สารออกฤทธิ์ที่ให้ผลด้านอื่นกลับไปอยู่หลัง Methylparaben ซึ่งเป็นสารกันบูด (ถ้าจำไม่ผิด ของไทยบังคับให้ใช้ไม่เกิน 0.1%) ถึงกระนั้น ถามว่าเป็น moisturizer ที่ดีไหม ก็นับว่าดี และมีความระคายเคืองต่ำด้วย ตัวผลิตภัณฑ์ใช้แบบหลอดบีบ พกพาง่ายดี เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ สำหรับเราเวลาไปเที่ยว ตจว. เพราะพกง่ายนี่แหละ ไม่ต้องกลัวแตก ดูจากส่วนผสมแล้ว เราอยากบอกว่า preme c เหมือน neutrogena fine fairness มากกว่าแฮะ แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 52 09:16:22 จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 09:15:29

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าคุณเจ้าของกระทู้อยากได้ผลิตภัณฑ์ที่มี vitamic c concentration ที่เป็น ascorbic acid ถึง 10% ขึ้นไปล่ะก็ เป็นไปไม่ได้ที่จะเจอกับผลิตภัณฑ์ราคาไม่แพง จริงๆ ตัว ascorbic acid นั้นถูกมากกกกกกกกกกกกกกกก แต่ที่แพงเพราะค่ารักษาความเสถียร สารลดความระคายเคือง และต้องทำให้ค่าผลิตภัณฑ์มีความเป็นกรด ฯลฯ (และค่ายี่ห้อ) เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ผลดีอะไรกับ ascorrbic acid เท่าไหร่ (จากการใช้ tbs แล้วเท่าที่สังเกต ผิวหน้าเราทนอะไรที่ค่า ph ต่ำๆ ไม่ค่อยได้) นักวิทยาศาสตร์ด้านเครื่องสำอางก็พยายามผลิตวิตามินซีที่มีความเสถียรสูงออกมาหลากหลายรูปแบบ ก็กล่าวอ้างกันไปต่างๆ นานา ฝ่ายทีี่นิยมเฉพาะ ascorbic acid ก็เหมือนจะออกมาตีกัน และพยายามยืนยันว่า วิตามินซีอนุพันธ์อื่นนั้นไมไ่ด้ผล สู้ ascorbic acid ไม่ได้ บลา บลา บลา ก็ว่ากันไป ล่าสุด เราลองใช้ timedelay เพราะเห็นส่วนผสมมันเบสิคดี มีวิตามินซีอนุพันธ์ sodium ascorbyl phosphate ที่หลายๆ คนก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรดี ทำได้แค่ antioxidant แต่ผลจากการใช้มาเกือบสองขวด พบว่าผิวกระชับขึ้น ไม่ได้ใส แต่แข็งแรง อยากบอกว่าชอบมาก ที่พูดมานี่ไม่ได้ชักชวนให้ใครใช้ เพราะว่าอาจจะเป็นผลเฉพาะคน ที่พูดมาแค่อยากบอกว่า วิธีสวยและหล่อมันมีหลายวิธี จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 09:36:16

ความคิดเห็นที่ 18 Wow!!! ขอบคุณความรู้ดีดีจากคุณ AntiSpam (อันตราคนี) คนสวยค้าบบบ!!! จากคุณ : wisdom of social เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 09:45:28

ความคิดเห็นที่ 19 แทงไปที่ความเห็นที่ 10 อ่านความคิดเห็นคุณแล้ว รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยค่ะ อยากขอให้ปรับคำเขียน ให้นุ่มนวลอีกจิ๊ดดดดดนึงได้ไหมคะ จากคุณ : พี่สาวซิปโป้ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 09:29:23

ความคิดเห็นที่ 20 ดีแล้วครับที่พรีมรุ่นใหม่ระบุส่วนผสมออกมาเต็ม ๆ ผู้บริโภคจะได้รู้ว่ามีอะไรผสมเข้ามาบ้าง เพราะรุ่นเก่าไม่ได้ระบุละเอียด ส่วนตัวแล้วพรีมซีเคยใช้ครับ แต่ใช้แป๊บเดียว เพราะใช้แล้วรู้สึกว่าหน้ามันและผมเองเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรมัน ๆ บนใบหน้าอยู่แล้ว ก็เลยไม่สามารถบอกได้ดีหรือไม่ดีอย่างไร ตอนนี้ผมใช้ตัว OP Skin boosting serum ยอมรับความตรงกับความต้องการ เพราะเป็นเซรั่มบำรุงที่ซึมเร็ว หน้าไม่มัน และก็ทำให้หน้าใสและขาวขึ้นกว่าเดิม ผมเป็นคนผิวสองสีครับ แม้ว่าจะขาวขึ้นนิดนึงก็พอใจแล้วล่ะคับ ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้ เพราะคุ้มกับราคาที่จ่ายไป ส่วน #10 คนหนึ่งบอกใช้แล้วดีได้ผล อีกคนบอกใช้แล้วไม่ดีไม่ได้ผล ต้องขอบอกว่าผิวหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ ดังนั้นการสนองตอบต่อครีมที่ทาลงไปก็จะไม่เหมือนกันด้วยครับ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบางคนใช้แล้วหน้าใส และบางคนทำไมใช้แล้วหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย หรือทำไมใช้แล้วหน้ากลับแย่ลงกว่าเดิม จากคุณ : Vios mini เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 20:53:17

ความคิดเห็นที่ 21 มารับความรู้ค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ เก็บลงคลังกระทู้ไปแล้ว :) จากคุณ : ท้องฟ้าสีเงิน เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 22:04:25

ความคิดเห็นที่ 22 ซื้อ Preme C nobu มาวันนี้เองครับ ที่ซื้อเพราะว่าอยากรู้ว่าจะใช้ดีกับคัวเองหรือเปล่า ถ้าดีก็เป็นตัวเลือกอีกอย่างเพิ่มเข้ามา เพราะส่วนตัวใช้ OP  skin boostig serum อยู่ ใช้แล้วได้ผลดี ไม่ค่อยซีเรียสกับของราคาไม่มากมายครับ ถึงใช้ไม่ดี ไม่เหมาะกับเรา ผมก็คิดแค่ว่ามันคงไม่เหมาะกับผมเหมือนกับที่มันเหมาะกับคนอื่นเท่านั้นเองครับ ยังไงราคาไม่ได้มากมายที่จ่ายไปเราอาจจะหวังผลมากเกินไปรึเปล่าครับ ทาหน้าไม่เวิร์คก็เอาไว้ทาคอต่อก็ยังได้ ผมว่าเรื่องวิตามินซีที่ใส่มามันคงเป็นความเข้มข้นที่เหมาะสมกับรูปแบบของวิตามินซีที่ใส่มาแล้วล่ะครับ ไม่งั้นคงใส่มาเยอะกว่านี้ เพราะว่าเห็นเน้นคำว่าวิตามินซีซะขนาดนั้น ดูชื่อบริษัทแล้วผมนึกถึงแอนตาซิลทันที ไม่รู้ว่าเจ้าของเดียวกันหรือผมจำผิดก็ไม่รู้นะ ฮา ๆ จากคุณ : vahaha... เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 22:23:06