ความคิดเห็นที่ 1 รูปนี้เป็นวิธีการทำดีท็อกซ์ค่ะ ทำได้ง่ายๆค่ะ จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 23:48:49

ความคิดเห็นที่ 2 เวลาว่างๆดิฉันก็ทานนําดอกคำฝอยค่ะ จะช่วยเรื่องระบบการย่อยเราให้ดีขึ้น ดิฉันว่าเราต้องเริ่มตั้งแต่ปรับระบบการย่อยเราใหม่ค่ะ ปล.วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่อันตรายค่ะ เป็นวิธีที่แพทย์แนะนำค่ะ จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 23:50:40

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อๆเน่อะ จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 23:51:10

ความคิดเห็นที่ 4 โทดทีค่ะ ลืมวิธีต่อเนื่องจากการรูปแรก แหง่ว ขาดช่วงเลย 8. นำ ky เจลทาตรงรูทวารนิดๆแล้ว ก้อนำ ky เจลไปทาตรงปลายสายยางของถุงดีท็อกซ์ประมาณ 1 นิ้วอ่ะทาให้ทั่ว 9. นอนท่าที่เห็นในรูปนี่ล่ะแล้วก้อไปเอา สายยางของถุงดีท็อกซ์เอาเข้าทางรูทวารเราอ่ะประมาณ 2 นิ้วแล้วก้อก้อนอนตะแครงขวา เปิดวาวส์ปล่อยน้ำกาแฟในถุงเข้าท้องเราไปเลย รอแป๊ปเดียวจนน้ำมันหมดถุงดีท็อกซ์เสร็จแล้วเอาสายยางออกมา แล้วนอนหงาย 10. จับเวลาประมาณ 10 นาทีนะ นอนหงายนั่นล่ะคะ ทำใจสบายๆ แล้วเอามือหมุนวนท้องเราหมุนทวนเข็มนาฬิกา หมุนไปเรื่อยๆมันจะรู้สึกว่าอั้นไม่ไหวๆในวันแรกๆมันเหมือนจะไม่ไหวแล้วก้ออั้นอีกนิดส์ให้ครบ 10 นาทีให้ได้ แล้วไปเข้าห้องน้ำ 11. ถ่ายตามสบายอย่าเบิ่ง ปล่อยมันออกมาเอง 12. เสร็จก้อวิธีรักษาถุงดีท็อกเรา เราจะใช้เจ้าถุงดีท็อกซ์อันนี้จนจบคอร์สนะ 12 วันนี้ใช้ถุงเดิม 13. เปิดน้ำอุ่นๆไหลผ่านเจ้าถุงดีท็อกซ์นี่ล่ะ หลายๆๆรอบเปิดวาวส์ให้น้ำไหลผ่านมากๆๆ 14. แล้วก้อปิดวาวส์ถุงดีท็อกซ์ เปิดน้ำอุ่นใส่ลงในถุงดีท็อกซ์ประมาณครี่งถุงนั่นแหล่ะ แล้วหยดเดอร์มาพรอน(เจลอาบน้ำเด็ก)ลงไป 2-3 หยด แล้วเขย่าๆๆๆๆเจ้าถุงดีท็อกซ์มันจะเกิดฟองแล้วก้อไปเปิดวาวส์ให้น้ำที่มีฟองนี่ล่ะไหลผ่านถุงดีท็อกเราแล้วก้อเปิดน้ำอุ่นไหลผ่านถุงเราไหลผ่านมากๆๆๆ เอาให้รู้สึกว่าถุงดีท็อกเราสะอาดอ่ะ 15. แล้วล้างเน้นๆตรงปลายสายยาง(ตรงที่เราเสียบเข้ารูทวารเราอ่ะคะ)ล้างให้สะอาดๆๆๆ 16. เสร็จแล้วก้อสะบัดเจ้าถุงดีท๊อกซ์นี่ล่ะสะบัดสลัดให้น้ำกระเด็นออกแล้วใส่ไม้แขวนเสื้อเหมือนเดิมไปแขวนไว้ในห้องนอนเรานั่นล่ะ  แขวนไว้ที่สูงจากพื้นหน่อย แขวนในห้องนอนต้องสะอาดๆนะคะ อากาศถ่ายเทสะดวกไม่อับชื้น 17. พอวันที่เราต้องทำดีท็อกใหม่อีก  เราก้อทำความสะอาดถุงดีท็อกซ์เราโดยเปิดน้ำอุ่นไหลผ่านมันก่อนแล้วก้อเอาน้ำอุ่นออกร้อนหน่อยๆใส่แก้วแล้วนำเจ้าปลายสายยางที่เราจะเสียบทางรูทวารเราอ่ะ  เอามาลวกๆในน้ำร้อนไม่มากนี้ประมาณ 3 นาที แล้วก้อเริ่มทำแบบเดิมเจ้าเค๊อะ จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 23:52:48

ความคิดเห็นที่ 6 มาเขียดครับ อิอิ เหมือนผมเลยอ่ะ เมื่อก่อนแบบกินเท่าไหร่ไม่อ้วน กินอะไรทีนี่ต้องพิเศษ ใส่เพิ่มตลอด แพงก็ไม่เกี่ยง ขอเพิ่ม จนตอนนี้มันอ้วน ....... แล้วก็กลายเป็นว่า ติดนิสัยการกินเยอะ ประมาณอย่างที่ จขกท.ว่าคือเสพติดอาหาร กำลังติดตามอยู่นะครับ ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากคุณ : [:Rexagon:] เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 23:58:44

ความคิดเห็นที่ 7 อันนี้คือสู้ตรที่สองต่อจากสูตรแรกค่ะ สูตรลดความอ้วน 9 กิโลกรัม ภายใน 2 อาทิตย์ วันที่ 1 เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาล กลางวัน... ไข่ต้มสองลูก+ผักต้ม เย็น...สเต็กกับสลัดผักน้ำใส และผลไม้ วันที่ 2 เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาล+ขนมปังโฮลวีตปิ้ง 1 แผ่น กลางวัน... สเต็กหรือเนื้อหมู เนื้อวัวย่างก็ได้+สลัดผักเขียวและผลไม้ เย็น...แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าไรก็ได้ตามใจ วันที่ 3 เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาล+ขนมปังโฮลวีตปิ้ง 2 แผ่น กลางวัน...ไข่ต้ม 2ฟอง+สลัด+แครอท เย็น...แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าไรก็ได้ตามใจ วันที่ 4 เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาล+ขนมปังโฮลวีตปิ้ง 1 แผ่น กลางวัน..ไข่ต้ม 1 ฟองกับแครอทต้ม เย็น...ผลไม้และโยเกริ์ตรสธรรมชาติ วันที่ 5 เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาล กลางวัน...ปลาเผาหรือปลาย่างกับผักต้ม เย็น...เต็กหรือเนื้อย่างไม่ติดมัน+สลัดผักสดน้ำใส วันที่ 6 เช้า...ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้าตาล กลางวัน...ไก่ย่างไม่ติดหนัง เย็น..ไข่ต้มสองฟองและแครอทต้ม วันที่ 7 เช้า...กาแฟหรือชาบีบมะนาว ไม่ใส่น้ำตาล กลางวัน...ผลไม้อะไรก้ได้ในปริมาณที่ต้องการ เย็น..อะไรก็ได้ทุกอย่างที่อยากทานไม่จำกัดปริมาณ สูตรนี้มาจากหนังสือ looking goodของคุณภัทรียา ณ นคร ผู้เขียนบอกว่า เมื่อทานครบทั้ง 7 วันก็ให้เริ่มวันที่ 8 โดยย้อนกลับไปใหม่ ถ้าทำได้ตามสูตรเป๊ะ โดยไม่ดื่มน้ำอัดลม+แอลกอฮอลล์ จะลดความอ้วนได้ 9 กก.ใน 2 อาทิตย์ โดยไม่เกิดปฏิกิริยาโยโย่ ซึ่งพอหยุดแล้วอ้วนขึ้นมากกว่าเก่า ปล. เพื่อนๆระวังให้มากนะนะคะเรื่องนําตาล เพราะดิฉันเพิ่งไปค้นเจอมาว่า น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานมากถึง90-100แคลลอรี จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 23:59:39

ความคิดเห็นที่ 8 จริงๆแล้วดิฉันไม่เห็นเค้ากำหนดเรื่องสูตรที่2นะค่ะ บางคนทำแค่สูตรเดียว แต่ส่วนตัวดิฉันกลัวโยโย่มากค่ะ เลยจะลองทำ2สูตรต่อกัน ส่วนรูปอุปกรณ์เด๋วดิฉันจะถ่ายไปให้ดูค่ะ จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:01:50

ความคิดเห็นที่ 9 สู้ๆนะคะ จากคุณ : เกสรลำเจียก เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:05:11

ความคิดเห็นที่ 10 รูปแรก กล่องถุงดีท็อกช์ที่ดิฉันใช้ค่ะ จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:24:42

ความคิดเห็นที่ 11 อันนี้ข้างในกล่องคะ ดิฉันไม่กล้าเเกะเพราะอันนี้คุณเพื่อนฝากซื้อ ส่วนของดิฉันใช้เเล้วเลยมิกล้าอวด หุหุ ถุงข้างในคล้ายถุงนําเกลือทั่วไปอ่ะค่ะ จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:26:11

ความคิดเห็นที่ 12 อันนี้ ky เจล ของจอนสันแอนด์จอนสันค่ะ ราคา70บาท  ลืมบอกค่ะ ถุงดีท็อกซ์ดิฉันซื้อมา110บาทค่ะ ที่ร้านขายยาแถวศิริราช จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:27:50

ความคิดเห็นที่ 13 อันนี้ขมิ้นชันเเคปซูลค่ะ ราคา70บาท 100เม็ด จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:28:31

ความคิดเห็นที่ 14 ตามด้วยฟาร์มาตอน(วิตามินซีรวมค่ะ) 30เม็ด 320บาทค่ะ ยาสองตัวนี่จะช่วยในการดีท็อกช์ค่ะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นค่ะ จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:33:09

ความคิดเห็นที่ 15 สู้ๆค่ะ กำลังลดอยู่เหมือนกันแต่ถ้าให้ทำตามสูตรคงไม่ไหว เราเมื่อก่อนก็ตัวเล็กค่ะ ที่บ้านเป็นคนโครงร่างใหญ่ ผอมสุดๆซี่โครงขึ้นเลยก็ยังหนัก 50 โล สูงแค่ 157 เอง แต่ตอนนี้น้ำหนักมาจากไหนกันเนี่ย อาจจะเพราะกินเค้กทุกวัน และนอนดึกมากๆ อาจจะมีองค์ประกอบอย่างอื่นประกอบอีก เพื่อนบอกว่าเราเนื้อแข็งไม่นิ่มเลยลดยาก เพราะเพื่อนเนื้อนิ่มมากลดแปบเดียวก็ลงไม่ได้ออกกำลังกายด้วย เราออกกำลังกายแทบตายกว่าจะลงทีละขีด ตอนนี้อายุเริ่มเยอะ จากคนที่ร่างกายเผาผลาญไม่ดีอยู่แล้วเลยอาจจะยาก ตอนนี้อดเค้กเด็ดขาดค่ะ แต่อาจจะมีบ้างที่ให้เป็นรางวัลตัวเอง อาจจะสัปดาห์ละชิ้น จากเมื่อก่อนวันละหลายชิ้น ตอนนี้โรคเริ่มถามหา จากที่เป็นคนป่วยง่ายอยู่แล้วยิ่งแล้วใหญ่ มีโรคที่เราคิดว่าไม่น่าจะเกิดก็มี ตอนนี้เราเป็นคลอเรสตอรอลสูง ความดันต่ำบ้างสูงบ้าง(อันนี้ก็ไม่เข้าใจ เค้าบอกเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ) ตับเริ่มไม่ดี น้ำดีน้อย (ตรงนี้เค้าบอกเพราะนอนดึก นอนเร็วเราก็นอนไม่หลับนะ) โลหิตจาง 9% อ่อนเพลียมาก ฯลฯ อ้วนแล้วไม่ดีเลยค่ะ ก่อนลดน้ำหนักเราลองชั่งดู ตกใจว่าหนักถึง 70.1 จากเครื่องชั่งดิจิตอลซึ่งไม่น่าพลาด ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ชายเรามันด่าเราอยู่ทุกวันให้ออกกำลังกาย พ่อที่จากไม่เคยพูดยังออกปากว่าลดเถอะลูก เราปั่นจักรยานไฟฟ้ามาได้ 5 วันแล้วค่ะ ช่วงแรกๆปวดกล้ามเนื้อจนน้ำตาเล็ดนอนไม่หลับต้องกินยาเลยแต่ก็ทน แรกๆจะค่อยๆปั่น เราปรับระดับที่ต่ำสุดปั่นง่ายสุด แล้วปั่นเร็วๆ ก็ 5 นาที 2 รอบ แล้วทิ้งช่วงมา 10 นาทีให้มันชิน ตอนนี้ก็เริ่มปั่นได้มากขึ้นถึง 20 นาที เหงื่อออกเยอะสนุกมาก วิธีที่ทำให้เรารู้สึกว่าทำให้ปั่นนานของเรานะ ก็เสียบหูฟัง ฟังเพลงเพลงมันๆยิ่งดี เพลงลูกทุ่งก็โอนะแปลกไหม 555 และเราก็อ่านหนังสือด้วย เราเห็นพี่เราทำถึงว่าทำไมปั่นได้นานมันเพลินไง เลือกเล่มที่มันใหญ่หน่อยนะ เพราะเราจะวางที่เครื่องเลย ผลที่ได้ 5 วันมานี่ กล้ามเนื้อเริ่มไม่ปวดแล้วแต่ยังตึงๆบ้าง ขาเหมือนเริ่มกระชับ(จะปั่นให้นานกว่านี้ค่อยๆทำ) เราปั่นเสร็จก็มายกดัมเบลต่อ ใช้แบบ 1.5 ก.ก.แบ่งเป็นเซ็ต เซ็ตละ 10 ครั้ง แขนเราใหญ่มากถ้าดูรูปเราที่ blog มานั่งดูรูปตัวเองตอนนี้ ยังคิดเลยเป็นไปได้นะ พออ้วนแล้วดูมีอายุมากเลยเสื้อผ้าก้หาใส่แบบสวยๆยาก แต่ตอนนี้ไม่คิดอะไร ขอทำเพื่อสุขภาพตัวเองก่อนแล้ว เราโชคดีที่ออกกำลังกายเหนื่อยๆเสร็จจะหิวแต่น้ำ คือ ปกติไม่ค่อยดื่มน้ำเลย เพื่อนเราออกกำลังกายเสร็จซัดแต่ของหนักๆ สุดยอดไปเลย อยากไปว่ายน้ำเหมือนกัน ไปลงเรียนว่ายน้ำมา 2 รอบแล้วไม่สำเร็จเป็นคนชอบน้ำ แต่พออยู่ลึกๆจะกลัวค่ะ รอผอมก่อนจะออกไปวิ่งที่สนามกีฬา และอาจไปตีสควอชด้วย ตอนนี้ไม้สควอชนอนนิ่งอยู่ในตู้ มันเป็นกีฬาที่เล่นคนเดียวได้เลยชอบน่ะ ทำไมถึงต้องรอผอมกว่านี้ถึงจะออกไปออกกำลังกายข้างนอก ก็เพราะถ้าผอมเราก็จะใส่ชุดได้น่ารักๆไงเพิ่มความมั่นใจได้อีก เป็นคคห.ที่เราพิมพ์ยาวมาก คือ อยากแชร์ประสบการณ์ค่ะ คนที่พยายามลดอยู่จะได้มีกำลังใจ ลืมบอกสนับสนุนเจ้าของกระทู้เรื่องดีท็อกซ์ พี่ชายคนโตเราทำดีท็อกซ์ตลอดเลยนะ หน้าตาอ่อนและใสกว่าอายุมากเลย ใครอยากลองทำดูก็ได้ แต่เราบ๊ายบาย 555++ อั้นไม่เก่งอ่ะจ้า =^^= แก้คำผิดยิ่งดึกยิ่งตาลายสงสัยจะง่วง แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 00:37:17 แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 00:36:09 จากคุณ : ด.ญ.กิ๊บเก๋ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:33:21

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณสำหรับไอเดียดีๆค่ะ ขอให้ลดความอ้วนสำเร็จนะคะ เราเห็นทีจะต้องไปดีท๊อกซ์มั่งแล้ว จากคุณ : waddeejao เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:35:01

ความคิดเห็นที่ 17 อันนี้เป็นการคำนวนปริมาณแคลลอรีที่เราต้องการแต่ละวันคะ แต่ละคนใช้ไม่เท่ากัน ลองคำนวนดูเน่อะ  บางคนใช้วิธีนี้ลดนําหนักแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ ร่างกายเราในแต่ละวันก็มีการทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งล้วน ต้องการพลังงาน ที่มาจากอาหารที่เราทานเข้าไป ถ้าเราทานอาหารและได้รับพลังงานแคลอรี่ เป็นปริมาณมากกว่า พลังงานแคลอรี่ที่เราใช้ไปในการทำกิจกรรมแต่ละวัน พลังงานที่เหลือ โดยเฉพาะไขมันที่เผาผลาญช้ากว่าอาหารประเภทอื่น ก็จะถูกนำไปสะสมตามร่างกาย ทำให้เราอ้วนได้ เรามาดูกันดีึกว่าว่าทุกวันนี้ เราใช้พลังงานกี่กิโลแคลอรี่ต่อวัน 1.คำนวณพลังงานที่ใช้ต่อวันในภาวะร่างกายปกติ ด้วยสูตร BMR ในภาวะปกติถ้าเราอยู่เฉยๆ เพียงแค่เดินไปเดินมา นั่งๆ นอนๆ อ่านหนังสือ ดูทีวี ร่างกายเราจะใช้พลังงานประมาณ 1600-2400 แคลอรี่ โดยขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ส่วนสูง อายุ เพศ และโครงสร้างของร่างกาย เรียกการใช้พลังงานในภาวะปกตินี้ว่า Basal Metabolism Rate (BMR) โดยมีสูตรดังนี้ สำหรับผู้ชาย BMR = 66 + (13.7 x น้ำหนักตัวเป็น กก.) + (5 x ส่วนสูงเป็น ซม.) – (6.8 x อายุ) สำหรับผู้หญิง BMR = 665 + (9.6 x น้ำหนักตัวเป็น กก.) + (1.8 x ส่วนสูงเป็น ซม.) – (4.7 x อายุ) ตัวอย่างเช่น ผู้หญิง อายุ 35 ปี ส่วนสูง 165 ซม. น้ำหนัก 60 กก. BMR จะเท่ากับ 665 + (9.6 x 60) + (1.8 x 165) – (4.7 x 35) = 1373.5 แคลอรี่ 2.คำนวณพลังงานที่ใช้เมื่อมีการทำกิจกรรมเพิ่มเติมในแต่ละวัน เมื่อเราทราบพลังงานที่เราใช้ในภาวะปกติทั่วไปต่อวันจากค่า BMR แล้วหากเรามีีกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน หรือกิจกรรมการออกกำลังกายเพิ่มเติม ร่างกายก็จะมีการเผาผลาญพลังงานเืพื่อนำมาใช้มากขึ้น ซึ่งเราสามารถคำนวณพลังงานที่เราใช้เมื่อมีกิจกรรมเพิ่มเติมได้จากสูตรดังต่อไปนี้ 2.1 นั่งทำงานอยู่กับที่ และไม่ได้ออกกำลังกายเลย = BMR x 1.2 2.2 ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเล็กน้อย ประมาณอาทิตย์ละ 1-3 วัน = BMR x 1.375 2.3 ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาปานกลาง ประมาณอาทิตย์ละ 3-5 วัน = BMR x 1.55 2.4 ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนัก ประมาณอาทิตย์ละ 6-7 วัน = BMR x 1.725 2.5 ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนักทุกวันเช้าเย็น = BMR x 1.725 ตัวอย่างเช่น BMR ของคุณ = 1502.9 คุณเป็นคนออกกำลังกายเล็กน้อย ก็เอา BMR x 1.375 นั่นคือปริมาณ แคลอรี่ที่คุณต้องการต่อหนึ่งวัน คือ 1502.9 x 1.375 = 2066.49 แคลอรี่ ดังนั้นเพื่อที่จะลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนัก เราก็ไม่ควรทานอาหารมากเกินกว่าปริมาณแคลอรี่ ที่ร่างกายเราต้องการต่อวันนะจ๊ะ (^0^) ขอบคุณเว็ป http://www.wichitra.com ที่เอาข้อมูลดีๆมาให้อ่านนะคะ จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:37:15

ความคิดเห็นที่ 18 ดีใจจังเลยค่ะ มีเพื่อนๆมาเป็นกำลังใจ สู้ตาย!! แล้วจะมาอัพบ่อยที่สุดแทบทำได้เลยคร่า คุณด.ญ.กิ๊บเก๋ ค่ะ ดีท็อกช์วันแรก ดิฉันก็เกือบตายค่ะ อั้นไม่ไหวเหมือนกัน แอบอายตัวเอง....... แต่วันที่สอง เริ่มสบายค่ะ ดิฉันว่า ลองทำดู ช่วงเเรกลำบากหน่อย ส่วนวิธีที่คุณด.ญ.กิ๊บเก๋กำลังทำอยู่ดิฉันเป็นคนขี้เกียจเลยทำลำบาก -*- แต่ดิฉันว่าคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพค่ะ  ส่วนดิฉันเอง อยากรีบสวยเลยต้องทน - -*  สู้ๆนะค่ะ ขอบคุณคุณด.ญ.กิ๊บเก๋นะคะที่มาช่วยกันแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง เรามาสวยพร้อมกันเน่อะ ลำบากจังเลยเน้อ ดิฉันอยากสวยเลยต้องจำใจทน ^ ^ จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:45:22

ความคิดเห็นที่ 19 อยากลดได้บ้างจัง เคยทำตามสูตร สิบสี่วัน ลดไปหนึ่งกิโล กินตามทุกอย่าง แทบหมดกำลังใจ ลองอีกรอบ สูตรเจ็ดวัน ลดได้อีกเกือบสองกิโล แล้วก็เลิกทำ ไปเพราะ อดใจไม่ไหว ฮ่าๆ แล้วตอนนี้ก็กำลังจะอ้วนขึ้นอีกแล้ว แงๆ เป็นกำลังใจให้ จขกท หุหุ จากคุณ : jeedzz เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 00:57:26

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ CatPotter คะเก๋ก็คิดแบบนั้นบางทีการที่เรามีเพื่อนเป็นกำลังใจ อาจจะทำได้ดีกว่าคนเดียวจริงๆ ^^ เราต้องคิดเลยล่ะห้ามท้อนะ!! เพราะตอนกินไม่คิด มีความสุขกับการกินแท้ๆเชียว เลยต้องมาทรมานแบบนี้ แต่น้ำหนักตัวมันก็ค่อยๆขึ้นนะ แต่เราไม่สนใจมันเอง เรามาสนใจมันต่อเมื่อมันสะสมมากแล้ว เลยทำให้ลดยาก เก๋ก็ขี้เกียจค่ะ แต่ถ้าได้ออกกำลังกายแล้วจะติด เมื่อก่อนถึงได้โดนพี่ชายเก๋ด่าเช้า ด่าเย็นเลยนะ ตอนนี้พอเค้าเห็นเราทำทุกวัน 5 วันมาเนี่ยไม่มีเสียงบ่นเลย พี่ชายไม่พูดดีๆนะแต่ใช้ด่า เพราะเป็นห่วงตอนแรกเราไม่เข้าใจหรอก ต่อต้านพอสมควร แต่พอได้ทำติดกัน 5 วัน อาการท้องผูกที่ทรมานเป็นประจำดีขึ้นมากเลย และหน้าท้องที่อืดบ่อยๆ ชอบพองลมมันแฟบลงด้วยนะ ถึงได้มีกำลังใจฮึดไงคะ =^^= สู้ๆๆๆ มาอัพเดทบ่อยๆน๊า จะมารายงานผลเหมือนกันจ้า ใครถนัดลดแบบไหนทำให้เต็มที่ไปเล้ยยยย เราจะเป็นกำลังใจให้กับคนอยากผอมทุกคนที่เข้ามาอ่านด้วยจ้า =^^= แก้คำผิดตามันลายพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกอีกแล้ว แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 01:33:40 แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 01:33:20 จากคุณ : ด.ญ.กิ๊บเก๋ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 01:32:10

ความคิดเห็นที่ 21 มาให้กำลังใจค่ะ การลดน้ำหนัก จะไม่สำเร็จถ้าใจไม่สู้พอ  และขาดกำลังใจหรือแรงสนับสนุนจากคนรอบข้าง สู้ๆนะคะ ลดน้ำหนักด้วยการทานน้อยๆ ออกกำลังกายๆๆๆๆๆๆๆๆ  ดีที่สุดค่ะ จากคุณ : spearmint เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 01:39:27

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่กล้าทำ.... เมือก่อนกินข้าว 6 มื้อยังไม่อ้วน หลังจากที่เข้า 32 กินแค่ครึ่งจานก็ นน. ขึ้น จากคุณ : เด็กขายก๋วยจั๊บ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 01:59:58

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามาเป็นกำลังใจค่ะ ตอนนี้ก็กำลังควบคุมอาหารค่ะ   ทำมาได้ 3 วันแล้ว  ตบะแตกนิดหน่อย เมื่อก่อน เจ้าของกระทู้กินเก่งมาๆเลยคะ  เรายอมคาราวะเลย  เยอะมากๆ เราว่าเรากินเยอะแล้วนะ ที่สำคัญ เราได้แม่และเพื่อนคอยเป็นแรงพลักดันด้วยค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ สวนทวารแบบใช้คาเฟอีนนี่  กล้าๆกลัวๆมาก  หลอนเลยทีเดียว จากคุณ : ปุยหิมะ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 02:03:30

ความคิดเห็นที่ 24 มาเป็นกำลังใจให้ด้วยคนค่ะ  สู้ ๆ จากคุณ : ลีลิน~* (LeeLin Actually~*) เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 02:50:32

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาให้กำลังใจด้วยเหมือนกันค่ะ ...สู้ๆค่ะ ขอแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยคน ก่อนหน้านี้เป็นคนตัวเล็กมากๆ หนัก 39-42 กก.เองค่ะ มีช่วงปิดเทอมใหญ่ ไปช่วยคุณน้าที่ทำร้านเบเกอร์รี่ 2 เดือนค่ะ น้ำหนักพุ่งจาก 40 เป็น 49 กก.ตอนนั้นอยู่ในช่วงเจริญเติบโตมั่งเลยไม่คิดไรมาก ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยขึ้นมาเป็น 52 กก.ตอนปี 1 ไม่คิดอะไรมาก พอปี 2 เจอคนเยอะขึ้นทุกคนต่างหุ่นดีดูดีกันทั้งนั้น แล้วมองย้อนมาดูตัวเอง...อ้วน...อืด...แถมดำอีกต่างหาก เลยตั้งใจแน่วแน่ว่าจะลดน้ำหนักให้ได้ค่ะ เราใช้เวลา 2 เดือนลดจาก 52 มาเหลือ 43 กก.และไม่โยโย่ด้วยค่ะ ของเราใช้สูตรนี้ค่ะ เช้า - กาแฟดำ+แครกเกอร์ 2-3 ชิ้น (ช่วงแรกตะบะแตก 5-6 ชิ้น) กลางวัน - ทานทุกอย่างปกติแต่เลือกทานค่ะ แต่ทานแค่ครึ่งจาน (ย้ำต้องครึ่งจานเท่านั้นค่ะ ห้ามเสียดาย) ระหว่างวันทานผลไม้ไม่หวาน อาทิแตงโม มะม่วงดิบ สัปปะรด ฝรั่ง หาทานได้ง่ายๆทั้งนั้นค่ะ 1 ถุง 10 บาท ^^ เย็น - ทานข้าวปกติแต่เลือกทานเหมือนเดิมค่ะ ทานแค่ครึ่งเดียวเหมือนเดิม อาหารเย็นทำทานเองค่ะ เพราะเราเลือกได้ว่าจะใส่อะไรบ้าง บางวันก็แกงจืดผักกาดขาวใส่ใข่ บางวันก็สุกี้น้ำใส่ผักเยอะๆ บางวันก็เกาเหลา ตอนทำแรกๆรู้สึกสนุกค่ะ...แบบว่าเหมือนเป็นการท้าทายตัวเองว่าจะทำได้ไหม สัปดาห์แรกของการลดน้ำหนักเข็มตาชั่งแทบไม่กระดิกเลยค่ะ 1 สัปดาห์เต็มๆจาก 52 มาเหลือ 51 ลงไป 1 กก.(อดใจแทบตายได้แค่ 1 กก. ^^" ) ท้อค่ะท้อ... แต่ไม่ถอย แบบว่าสู้โว้ย... เลยลองทานแบบเดิมต่ออีก 1 สัปดาห์ คราวนี้สำเร็จค่ะ รู้สึกตัวสบายตัวขึ้นไม่ค่อยอึดอัดเหมือนแล้ว ชั่งน้ำหนักวันที่ 7 ของสัปดาห์ที่ 2 เหลือแค่ 48 ลงไป 3 กก. (ตอนนั้นดีใจมากๆ) กำลังใจเริ่มมาแล้ว จากช่วงแรกๆที่ค่อนข้างทรมาน กลายเป็นอยู่ตัวและทานแบบเดิมได้โดยไม่ต้องหักห้ามใจแล้ว ^^ ทานอาหารอย่างนี้อยู่ประมาณ 2 เดือนครึ่ง น้ำหนักเหลือ 41 และเหมือนทานอาหารได้น้อยลงมาก บางวันทานกลางวันอย่างเดียว มื้อเย็นแทบไม่ได้ทานเลย เพราะไม่รู้สึกหิว และน้ำหนักเหมือนจะลงไปเรื่อยๆ จนคุณแม่ต้องบังคับให้ทานข้าวเย็น และ มื้อเช้าเปลี่ยนจากกาแฟดำ+แครกเกอร์ 2-3 ชิ้น เป็นแซนวิช คุ๊กกี้ หรือขนงปังค่ะ (พรายชมพูนิสัยเสียไม่ชอบทานข้าวเช้า) กลางวันทานข้าวเต็มจานห้ามทานครึ่งจาน ช่วงแรกที่กลับไปกินปกติรู้สึกทรมานเหมือนตอนจะลดน้ำหนักเลยค่ะ มันอึดอัด แต่ไม่อยากให้คุณแม่ไม่สบายใจเพราะเห็นเราผอมลงทุกวัน เลยต้องพยายาม ^^ น้ำหนักกลับมาที่ 43 กก.รู้สึกมีความสุขมากๆค่ะ จากนั้นเลยเลือกทาน แต่ไม่ได้เคร่งครัดอะไรมากนะคะ ไม่งั้นจะรู้สึกกดดันแล้วทานเยอะกว่าเดิม แบบว่าเพื่อนไปทานพิซซ่า ไอศรีม เค้ก ก็ทานด้วยได้ แต่แบบยับยั้งชั่งใจบอกตัวเองว่าพอ เมื่อรู้สึกว่าอิ่มหรือเต็มที่แล้ว ไม่ได้ยึดติดกับรสอาหารแล้วค่ะ แบบว่าอันนี้อร่อยเหรอ... อืม...ดีนะ แต่พอก็คือพอค่ะ ^^ จากตอนนั้นถึงตอนนี้ผ่านมา 5-6 ปีแล้วมั๊งค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ 43-45 กก.ไม่เคยเกินนี้ค่ะ และอายุที่เพิ่มขึ้นแล้วเลยต้องดูแลตัวเองดีนิดนึง แบบว่าอยากหยุดเวลาไว้เท่านี้ค่ะ ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แต่ถ้ามีเวลาว่างเยอะๆ ก็ไปมันทุกวันเลยค่ะ ^^ กลายเป็นเสพติดไปซะแล้ว ลองพักไปนานๆ จะรู้สึกอึดอัดเหมือนร่างกายขาดอ๊อกซิเจนเลยล่ะค่ะ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้สาวๆทุกคนที่อยากสวยนะคะ ^^ ปล.เอ...ยาวไปไหมเนี่ย ^^ เข้ามาบอกส่วนสูงเพิ่มค่ะ พรายชมพูสูง 155 ค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 06:37:55 จากคุณ : พรายชมพู เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 06:31:57

ความคิดเห็นที่ 26 สู้ ๆ ค่ะ กะลังเคร่งครัดกับเรื่องน้ำหนักตัวเองอยู่เหมือนกันค่ะ พอเข้า 30 แล้วรู้สึกได้เลยว่าร่างกายและระบบต่าง ๆ เปลี่ยนไปเยอะทีเดียว เมื่อก่อนพิซซ่า 1 ถาด ทานคนเดียว ตาชั่งไม่กระดิกเลยค่ะ เดี๋ยวนี้ทานข้าววันละ 2 มื้อ มื้อละ 1 ทัพพี หิวโซแทบตาย น้ำหนักดันขึ้นเอา ๆ เริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง และเลือกอาหารแล้วค่ะ ....เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะคะ.... จากคุณ : เล่าปี่ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 06:43:06

ความคิดเห็นที่ 27 ^^ จากคุณ : เซ็งอูฐ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 07:24:23

ความคิดเห็นที่ 28 สู้ๆค่ะ เราเองก็กำลังพยายามอยู่เหมือนกัน จากคุณ : ลิเลียน เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 08:26:23

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาเพิ่มเติมทริคให้ค่ะ เช้า - กาแฟดำ+แครกเกอร์ อาจเปลี่ยนจากแครกเกอร์เป็นอย่างอื่นที่ให้แคลอรี่เท่ากันหรือมากกว่าไม่เยอะ จะได้ไม่รู้สึกเบื่อและฝืนจนเกินไปค่ะ ^^ กลางวัน - ทานได้ทุกอย่างแต่ทานแค่ครึ่งเดียว เลือกนิดนึงแกงกะทิช่วงนี้งดไปก่อนนะคะ และทานหมูให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อย่าฝืนมาก) แต่ต้องทานแค่ครึ่งเดียวจากจานปกตินะคะ สักสัปดาห์ที่ 4-5 ค่อยลดขนาดของจานลงให้เล็กลงอีก แล้วแบ่งทานแค่ครึ่งเดียวเหมือนเดิม ระหว่างวัน ทานผลไม้ไม่หวาน อันนี้แนะนำทานหลังอาหารกลางวันสัก 2 ชั่วโมงขึ้นไปนะคะ ไม่จำเป็นต้องทานทีเดียวหมด เก็บใส่กระเป๋าไว้ทานได้เรื่อยๆ ค่ะ สำคัญที่สุดคือต้องดื่มน้ำให้มากๆ สัปดาห์ที่ 1-3 ทานแบบไม่คิดอะไร พอสัปดาห์ที่ 4 เป็นต้นมาเริ่มมีไอเดียใหม่ๆ ค่ะ แบบว่าวันนั้นทานอะไรไปบ้างจดไว้ จากนั้นกลับมาค้นหาว่าวันนี้ฉันได้รับแคลอรี่ไปเท่าไหร่เนี่ย จากนั้นมานั่งนึกดูว่าทำอะไรไปบ้างน๊า (อันนี้ไม่จดค่ะ...หุหุ) ตอนนั้นจำได้ว่ารับแคลอรี่เข้าไปประมาณวันล่ะ 600 กิโลแคลอรี่เท่านั้นเองค่ะ... สรุปคือ 1.มีสติ เสมอ 2.ไม่ฝืน (อยากทานก็ทานแต่แค่ให้รู้รสแล้วพอ...ช่วงแรกจะยากนิดนึง) 3.เลือกทาน 4.มีความตั้งใจที่แน่วแน่ค่ะ ^^ จากคุณ : พรายชมพู เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 08:28:17

ความคิดเห็นที่ 30 กำลังไดเอทอยู่เหมือนกันค่ะ แต่เราจะลดไม่เยอะ 3-4 กิโลเอง มาเป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ ๆ ค่ะ (^_^)v จากคุณ : ทามามิ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 08:54:26

ความคิดเห็นที่ 31 สู้ๆ นะคะ จากคุณ : Wa-Oo เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 09:06:08

ความคิดเห็นที่ 32 มีแนวร่วมเยอะดีใจจัง ดีใจแทนคุณ CatPotter เจ้าของกระทู้ด้วยค่ะได้กำลังใจเยอะน่าจะทำให้ยิ่งฮึด ถ้ากระทู้นี้ตกไปแล้วตั้งใหม่รบกวนส่งข่าวด้วยนะคะ บางทีก็ไม่ได้อ่านทุกวันค่ะ ^^ วันนี้ตื่นเช้ายังไม่หิวเท่าไรปกติกินข้าวเช้าเที่ยงเพราะตื่นสาย เกิดอยากชั่งน้ำหนัก จากที่ชั่งมา 5 วันก้ไม่ได้ชั่งอีก เป็นโรคกลัวตาชั่ง เพราะรับไม่ได้ 5 วันที่แล้ว ชั่งได้ 70.1 ก.ก. เช้านี้ชั่งได้ 68.5 ก.ก. O_o" โอ..เป็นไปได้เลยอารมณ์ดีสุดๆ ไปชงกาแฟกิน กาแฟเราใส่น้ำตาลหน่อยหนึงค่ะ เมื่อก่อนจะใส่ครบเซ็ทเพราะทำร้านกาแฟ(อ้วนมาก) แต่ทานแบบไม่ใส่น้ำตาล และครีมได้จะดีมากนะ น้ำหนักดูเหมือนลงเยอะตั้ง 1.6 ก.ก.แหน่ะ อาจจะเพราะเราเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ถ้าเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนดึกด้วยแล้วคงจะเยี่ยมมาก!! นอนดึกอ้วนค่ะมันจะกักไขมัน พฤติกรรมที่เราเลิกคร่าวๆ งดกินเค้กวันละหลายชิ้น ถ้าอยู่นอกบ้านจะกินแหลก แม้ไม่หิว ดึกแค่ไหนก็กิน เลิกกินดึกๆ ถ้าหิวกินก็กินเป็นของเหลว เราต้องทนต่อความหิวในช่วงแรก ออกกำลังกายช่วยได้เพราะเราเหงื่อออกแล้วจะหิวแต่น้ำ พฤติกรรมที่ไม่ดีแต่ยังทำอยู่ ยังกินเยอะเหมือนเดิมแต่เลือกที่จะไม่กินเค้ก วันก่อนแม้อิ่มจนจุกแล้วยังกิน เพราะมีเพื่อนกินไปคุยไปมันเพลิน ตัวอย่างเมื่อวานก่อน(แต่อยู่ใน 5 วัน) เฉพาะตอนเย็นนะกินแบบนี้เกือบทุกวัน ^^" กินข้าวจานโตกับน้ำพริกกะปิ,ผัก,ไข่เจียว ต่อด้วยบาบีคิว 6 ไม้ โอเลี้ยง 1 แก้ว น่องไก่ทอดรสเผ็ด 1 น่อง ซูชิ 4 ชิ้น ชาเย็น เครปใส่ไส้เต็มที่ ลูกชิ้นทอดราดน้ำจิ้มชุ่มๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะต่อด้วยเค้ก และบัวลอย แต่กลับมาปั่นจักรยานต่อ 20 นาที ยกดัมเบลต่อ ตอนแรกก็ขี้เกียจ อย่างที่บอกคือ พอได้ทำแล้วมันติด นอนดึกเหมือนเดิม แต่การถ่ายดีขึ้นไม่รู้สึกอึดอัด สำหรับคนลดน้ำหนักนะคะ จากประสบการณ์เราที่เคยลดบ่อยๆแบบจริงจัง เพิ่งมาปล่อยตัวช่วง 7-8 ปีหลังน้ำหนักมันเลยสะสมขึ้นมาเรื่อยๆถึง 70 ก.ก. ช่วงแรกๆน้ำหนักจะลงเยอะมาก และช่วง 3 อาทิตย์หลังอาจจะเริ่มแผ่วๆ อย่าท้อใจค่ะ พยายามต่อไปพอพ้นช่วงที่น้ำหนักลงยาก(อาจจะเพราะร่างกายเข้าโหมดประหยัดพลังงาน) ทำต่อไปค่ะ พ้นช่วงนี้แล้วน้ำหนักจะค่อยๆลงอีก กินจำพวกแป้งได้แต่อย่าเน้นเยอะ แต่ไม่ให้อด ถึงไม่กินยาร่างกายก็โยโย่ได้ เพื่อนพี่ชายเราอ้วนมาก เค้าเป็นคนหน้าตาดีนะตี๋ๆ ไม่รู้ทำไมเกิดอะไรขึ้น ฮึดลดน้ำหนักขึ้นมา เค้าจะกินข้าวจบที่ตอนเย็น ค่ำไปแล้วไม่แตะเลย ใครมาชวนมีโกรธ ตอนนี้ผอมลงและหล่อมาก แบบสมบูรณ์แบบเลยล่ะ เราเป็นผู้หญิงอย่ายอมแพ้นะคะ ผู้หญิงอย่าหยุดสวยค่ะ เราจะเป็นกำลังใจให้กับคนอยากผอมทุกคนที่เข้ามาอ่านด้วยจ้า =^^= ปล.เรายังกินเยอะเหมือนเดิม แต่เลือกเวลากินและงดบางอย่างบ้าง ไม่ได้อดเลยนะ เดี๋ยวเครียด จากคุณ : ด.ญ.กิ๊บเก๋ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 09:14:10

ความคิดเห็นที่ 33 มาเป็นกำลังใจคะ...พี่ก้อกำลังทำสงครามกับความอ้วนอยู่คะ  สูง170 ซม หนัก 67    ถึกมาก ๆ จากคุณ : nakawin เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 09:18:34

ความคิดเห็นที่ 34 ขอเข้าร่วมด้วย 1 คนค่ะ น้ำหนักเริ่มต้นที่ 62 กก ส่วนสูง 158 สู้ๆ ไปพร้อมกันค่ะ จากคุณ : venas เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 09:56:03

ความคิดเห็นที่ 35 ของพี่ใช้วิธีเปลี่ยนวิธีการกินค่ะ ลดขนมและของจุบจิบ ตอนทำงานออฟฟิศทานขนมทั้งวัน แล้วงานนั่งกับที่ด้วยค่ะ ทานข้าวให้น้อยลง จากเดือนมกรา - กรกฎานี่ลดได้ 6 กก.แล้วค่ะ จากคุณ : deanie เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 10:03:38

ความคิดเห็นที่ 36 ขอสู้ด้วยอีกคน พยายามควบคุมอาหารเหมือนกัน แต่ทำไม่ค่อยได้ เพราะชอบซื้อของให้ลูกกินแล้วลูกไม่กินเลยกินแทน หุหุ ทุกวันนี้แค่น้ำหนักไม่ขึ้นไปกว่านี้ก็เป็นพระคุณอย่างสูงแล้ว มีเพื่อนๆมาลดด้วยกัน เผื่อน้ำหนักจะลดลงบ้าง สู้ๆ จากคุณ : UVA&UVB เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 10:45:12

ความคิดเห็นที่ 37 เรากินโฟโตไฟเบอร์อยู่ เป็นการล้างลำไส้เหมือนกัน ถ่ายออกมาหมดเลย และก็ควบคุมการกิน+การออกกำลังกายทุกวัน น้ำหนักก็ค่อยๆลดลง เพราะการสวนด้วยตัวเองมันอันตรายกลัวท้องไส้ระเบิด ทางที่ดีปรับเปลี่ยนการกินจะดีกว่า จากคุณ : เด็กไทย (nanotec_49) เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 10:53:58

ความคิดเห็นที่ 38 ย่องตามคุณกิ๊บเก๋เข้ามาอ่านวิธีลดน้ำหนัก (ย่องมาจากทู้ YKW) ตอนนี้ประสบปัญหาน้ำหนักพุ่งพรวด จาก 40 เป็น 48 ด้วยความสูงเพียง 150 ซม. เอิํ๊กกกกกกกกกซ์ แต่ก่อนก็เป็นคนที่กินเท่าไรก็ไม่อ้วน แต่พอต้องไปฉีดฮอร์โมนเพื่อหยุดการโตของซีสต์ในมดลูก หมอบอกว่าฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้เราอยากอาหารบ่อยขึ้น หมอก็เตือนแล้วนะว่าจะอ้วน แต่ไม่ได้ระวัง โดยคิดว่า ฉันนี่เหรอจะอ้วน หุหุ แล้วเวลาผ่านไปเพียงแค่ 3 เดือนหลับจากฉีดฮอร์โมนแล้วก็ อ้วนจริงๆ เฮ้ออออ ขอบคุณสูตรการลดที่คุณ CatPotter และสมาชิกท่านอื่นแนะนำมา จากที่อ่านมานี้ สงสัยอะคะ ว่าเราข้ามสูตรดีท๊อกซ์ได้ไหมคะ แล้วมาใช้สูตรสองเลย อิอิ ส่งกำลังใจให้กับการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ และความสวย คริคริ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 11:22:43 จากคุณ : มาดามกุ้ง เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 11:21:39

ความคิดเห็นที่ 39 ดีใจจัง เพื่อนเยอะดีค่ะ เราก็กำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่ ไม่ได้อ้วนมากมาย แต่ว่ามันมากกว่าเดิมเยอะ แล้วอีกอย่างพุงค่ะ มาจากไหนไม่ทราบ แงงง อยากจะร้องไห้ เราเป็นคนไม่กินชา กาแฟ น้ำอัดลม อยู่แล้ว เลยดีไปหน่อย แต่สูตรเราจะเป็น เช้า - cereal ค่ะ แต่กินกะนม fat free นะคะ กะ cereal bar อันนึง (ต้องเลือกหน่อย ไม่เอาอันที่มีชอคโกแลตนะคะ จะพยายามเลือกพวก low GI ค่ะ) กลางวัน - กินปกติ แต่เลือกกินนะ ส่วนตอนเย็นงดแป้งค่ะ กินแต่ผัก ผลไม้ หรืออาจมีเนื้อสัตว์บ้าง อยากออกกำลังกายทุกวันบ้าง แต่ทำได้แค่ ออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ ที่บ้านเอง ทุกวัน แล้วก็ซิทอัพ + กับตีแบดทุกวันเสาร์ 2 ชม. ทำได้แค่นี้อ่ะค่ะ ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่จำกัด โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน เพราะอยู่ต่างประเทศ หาอะไรกินเหมือนเมืองไทยไม่ได้ - -"  บวกกับที่นี่อากาศหนาวด้วย ยิ่งอยากกินไปหมด กินเท่าไรก็ไม่อิ่ม เฮ้อ เซ็งมากค่ะ เพิ่งทำมาได้อาทิตย์กว่าๆ แหะๆ ยังไม่ได้ชั่งน้ำหนักเลยว่าลงไปหรือป่าว แต่รู้สึกว่าพุงยุบไปนิดหน่อย (คิดไปเองป่าวหว่า) แต่รู้สึกดีขึ้นอ่ะค่ะ ไม่ค่อยอึดอัดแล้ว จะทำต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ สู้ๆ ค่ะ สาวๆ ^O^ จากคุณ : fany เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 11:57:53

ความคิดเห็นที่ 40 ร่วมด้วยคนค่ะ อืดมาก อีตาแฟนก็ช่างเป็นจอมลวงโลก ถามว่า"อ้วนมั้ย" พี่แกเอาแต่ตอบว่า "ไม่จ้ะ ดีแล้ว น่ารักดี เค้าชอบ" อยากจะเอาหมอนข้างตีหัวให้ตาสว่าง ชั้นน่ะ อ้วนเป็นหมีขั้วโลกแ้ล้วนะว้อย!!! จากคุณ : sukh เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 12:05:12

ความคิดเห็นที่ 41 สงสัยได้ีอีก... โดยส่วนตัวรู้สึกว่ามื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ คือจะกินหนักในมื้อเช้า ถ้าเราปรับเปลี่ยนมากินพวก cereal bar แทนกาแฟ(ไม่ดื่มกาแฟเลย) หรือผัดวุ้นเส้นใสผัก หรือบุกใส่ผัก อะคะ ??? จากคุณ : มาดามกุ้ง (มาดามกุ้ง) เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 12:15:39

ความคิดเห็นที่ 42 คุณมาดามกุ้งคะ เราเองก็เห็นว่ามื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุดอ่ะค่ะ เพราะงั้นจะกินหนักในมื้อเช้า และค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ จนบางวันแทบไม่ได้กินมื้อเย็นเลย กินแค่นมแก้วนึงก่อนนอนเท่านั้น เราเองกิน cereal bar กะ cereal ใส่นม fat free เป็นอาหารมื้อเช้าค่ะ ไม่ก็โจ๊กซองหนึ่งอ่ะค่ะ อันนี้เป็นความเห็นกะพฤติกรรมส่วนตัวนะคะ ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดอ่ะค่ะ ^^ ช่วยได้มั้ยเนี่ย อิอิ *** เพิ่มเติม *** เราปรับเวลานอนด้วยล่ะค่ะ พยายามกินมื้อเย็นให้เสร็จก่อน 3 ทุ่ม และนอนประมาณ 5 ทุ่มอ่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 13:01:07 จากคุณ : fany เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 13:00:11

ความคิดเห็นที่ 43 มาให้กำลังใจค่ะ เราก็อ้วนเหมือนกัน แถมเตี้ยกว่า จขกทเยอะะ เราเคยเข้าสูตรลดความอ้วนมาประมาณล้านแปดแสนอย่าง แต่มันไม่ลดค่ะ แต่พอมีวันนึงใจเรามันอยากลด เราก็คิดเองว่าจะกินข้าวแค่วันละมื้อ เลิกกินขนม และน้ำอัดลม จนตอนนี้ติดเป็นนิสัยแล้วค่ะ คือ เช้าจะกินนม  เที่ยงกินข้าวที่อยากกินแต่ในปริมาณพอเหมาะ เย็นถ้าหิวก็ผลไม้บ้าง  เพื่อให้กระเพาะเราปรับขนาดให้รับอาหารได้ลดลงอะค่ะ ทำประมาณสองอาทิตย์กะเพาะก็ปรับขนาดได้ค่ะ แล้วหลังจากนั้น เราก็จะเคยชินในการกินแบบนี้โดยไม่ทรมาน และนน ลดลงค่ะ ตอนนี้เรา นน ลด 3โลแล้ว >< จากคุณ : แม่มดน้อยจิโกะ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 13:39:31

ความคิดเห็นที่ 44 เราก็อ้วนขึ้นค่ะ กำลังใจลดเหมือนกัน แต่คงใช้วิธีคุมการทานอาหาร ไม่กล้าทำดีท๊อกซ์เองอ่ะค่ะ อิอิ แวะมาให้กำลังใจและลดไปด้วยกันค่ะ จากคุณ : enusai เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 14:00:31

ความคิดเห็นที่ 45 พุงไม่มี น้ำหนักไม่เยอะมาก (สูง170 นน.50 + - ไม่เกิน5) แต่...ขาใหญ่มากกกกก T__T ลดยังไงมันก็ไม่ลดตามค่ะ ฮือ... เรากินเยอะเพาะช่วงก่อนเมนส์มาค่ะ แล้วกินเยอะมาก กินเยอะกว่าแฟน แถมหิวทั้งวันอีกต่างหาก แล้วอยากกินแต่ของหวานๆนะ เครียดเลย T__T แต่พอเมนส์มา ผหรือเก่อนมา 2-3 วัน) เราจะไม่อยากกินอะไรเลยค่ะ ในที่นี้คือ ไม่อยากกินเลยจริงๆค่ะ กินไม่ลงอ่ะ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 14:17:44 จากคุณ : SouSo (azuma304) เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 14:17:07

ความคิดเห็นที่ 46 วันนี้ขออัพเดทค่ะ วันนี้ดิฉันตื่นแต่เช้า ตี5 เพื่อที่จะตื่นมาทานยาก่อนทำดีท็อกช์1ชั่วโมง แต่ หลังจากทานยา ดิฉันเพลอหลับยาวไปหน่อยค่ะ ตื่นอีกทีก็6โมงครึ่ง                                           -*- แล้วเรื่องร้ายก็เกิดขึ้นกับตัวดิฉันค่ะ (ไม่รู้ร้ายพอไหม) หลังจากทำดีท็อกช์ (นํากาแฟเข้าท้องหมดแล้ว) ปั่นป่วนอย่างมากค่ะ แบบวันแรกเลย แต่พออั้นได้นิดหน่อย ปล. วันแรกดิฉันทนได้แค่4นาที  วันที่สอง(เมื่อวาน)ได้10นาที ส่วนวันนี้ได้เพียงแค่5นาทีค่ะ (ทำดีที่สุดแล้วน้า) แต่เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ดิฉันปวดท้องมากค่ะ ปวดมากจริงๆ และดิฉันพอจะสันนิฐานได้ว่า  มันเป็นความผิดของดิฉันเอง ที่เมื่อวานทานอาหารแปลกไปหน่อย(ไม่รู้เกี่ยวหรือป่าว แต่คงใช่เน่อะ) คงเป็นที่รสชาติของนําจิ๋มปลานิ่งที่ฉันทานเข้าไป มันเลยทำให้กระเพาะเราที่กำลังปรับตัวเกิดการบีบขึ้น (มั่วแว้ว) ฟังดูทรมาณ แต่ดิฉันก็ปวดเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงค่ะ(ก็นานเน่อะ) แล้วกว่าท้องไส้จะอยู่ตัวก็ประมาณ4ชั่วโมงค่ะ อีกอย่าง วันนี้ดิฉันเเอบหลุดค่ะ  ตอนเช้าเเอบทานมะขามกวนไป5เม็ด กลางวัน อีก3เม็ด (รสชาติมันติดปากจริงๆค่ะ ถ้าปกติหมดกระป๋องไปนานแล้วว) +ต้มตำลึง(แอบมีหมูสับที่ทำเองเอาแต่เนื้อ+กระเทียม 1 ลูก)มะละกอ ครึ่งผลเล็ก -*- ฮือๆๆ ขอโทดนะค่ะที่ทำให้เพื่อนๆรู้สึกผิดหวังในตัวดิฉันบ้าง ........แต่ มันยากจริงๆค่ะ ดิฉันจะลงแดงเเล้ว หวังว่าเพื่อนๆคงไม่ว่ากัน แต่!!!(แอบมีข้ออ้างนิดหน่อย) มะขามกวนที่ดิฉันทานมีนําตาล6%ซึ่งดิฉันถือว่ามันคงน้อยมั้ง + กับการที่คิดว่ามันมีวิตามินซีเย่อะ เลยเเอบกินนิดหน่อย (เวลาทานแต่ละเม็ดใช้เวลาอย่างนานค่ะ เก็บเกี่ยวรสชาติ หุหุ) ส่วนต้มจืดตำลึง เนื้อหมู(ตามสูตรไม่มีเอาเสียเลยในอาทิตย์แรก) ต้องขอบอกว่า มันอยากจริงๆค่ะ เลยขอสักนิดก่อนตะบะแตก ส่วนวันนี้ดิฉันจะไปบ้านคุณแฟนหุ่นเกาหลีของดิฉัน(เพื่อชั่งนําหนัก) ปล. เครื่องชั่งบ้านดิฉันไม่ไหวค่ะ บ้าๆบอๆ แล้วจะมาบอกต่อนะค่ะ + วันนี้ตอนเย็นจะหาช่างกล้องถ่ายรูปพุงด้านข้างให้ดูด้วยค่ะ เห่อะๆ แต่หลังจากที่ลดมา วันนี้วันที่  3 แล้ว ดิฉันเห็นผลที่พุงของดิฉันลดไปมากค่ะ จากวันแรก แล้วรู้สึกหน้าใสขึ้น(ผลพลอยได้ เหมือนอย่างที่คุณกิ๊บเก๋บอกเลยค่ะ) รู้สึกดีค่ะ  มันรู้สึกได้จริงๆน้าว่าระบบภายในร่างกายเราสะอาดขึ้น แถมการได้ควบคุมอาหารสอนดิฉันหลายอย่างค่ะ(มันจะได้มาเอง) แบบว่า เมื่อหันไปในวันเก่าๆ ดิฉันไม่เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เลย เอาแค่อยาก (เสพติดอาหารจริงๆค่ะ) ถึงแม้จะอิ่มจนจะอ๊วกเพียงใด แต่แค่3วัน  พอได้เริ่มทำแล้ว มันทำให้ดิฉันกลัวที่จะกินอาหารเเย่ๆ ถึงแม้จะเเอบกินก็ต้องเลือกที่มีเเคลลอรีน้อยๆ แต่ดิฉันงดแป้งกับของทอดอย่างเด็ดขาดค่ะ (ซึ่งปกติเป็นอาหารหลักค่ะ) ดิฉันจะสู้ตายค่ะ (ตอนนี้ดิฉันรู้สึกดีมากเลย เพราะมีเพื่อนๆเป็นกำลังใจเพียบ แถมเอาวิธีดีๆมาเเบ่งปัน + แบ่งปันประสบการณ์) เราจะสวยไปพร้อมกันเน่อะ เมื่อเพื่อนบางคนกลัวการทำดีท็อกช์โดยวิธีดิฉัน ดิฉันแอบเอาวิธีจากกระทู้เก่าของคุณตุ๊กแกอ้วนมาฝากค่ะ อธิบายเพิ่มเติมนะคะ คือดีท็อกเนี่ยถ้าใครกลัวจิงๆๆในการทำเองที่บ้าน ก้อแนะนำให้ลองไปทำที่ศูนย์ตามโรงพยาบาลดังๆต่างๆนะคะ เค้าจะมีบริการให้อ่ะคะ เช่น รพ.ยันฮีเนี่ย(เอ่ยชื่อยกตัวอย่างได้อ่ะป่าวอ่ะคะ) เค้าสวนล้างพิษแบบกาแฟเนี่ย 400 บาทต่อครั้ง(จำราคาไม่ได้นะคะ) ส่วนการสวนล้างพิษด้วยด้วยน้ำเกลือของรพ.นี้ก้อ 800 บาทอ่ะคะ คือการดีท็อกเนี่ยสามารถทำเองได้ที่บ้านอ่ะคะ ค่าใช้จ่ายในการทำอย่างต่อเนี่องทำเองจะค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามากๆคะ แต่ก้อต้องรักษาความสะอาดนะคะ การดีท็อกเนี่ยมีวิธีหลายทางอ่ะคะ บางคนก็ไม่อยากทำdetox เพราะน่ากลัว ทานอาหารตามอย่างเดียวได้ไหม ตอบนะคะ ไม่ทำดีท็อกซ์ได้คะ แต่ทานตามนี้ไม่ได้อ่ะคะ เพราะการสวนกาแฟจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างพิษ เนื่องจากช่วยกระตุ้นตับในการใช้เอนไซม์ขจัดอนุมูลอิสระ แต่คุณยังสามารถดีท็อกด้วยวิธีการอดนะคะ อธิบาย..ถ้าไม่ทำสวนล้างพิษด้วยกาแฟแล้วก้อสมารถดีท็อกซ์ด้วยการอดอาหารตามหลักที่ถูกต้องได้คะซึ่งการอดอาหารนี้เป็นการอดเพื่อสุขภาพเป็นวิธีหนึ่งในการขจัดของเสีย หรือล้างพิษ สามารถปฏิบัติได้ง่ายและสะดวกสบาย สามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเองที่บ้าน ในปัจจุบันทางวิทยาศาสตร์ชีวภาพได้ค้นพบอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุหลักของความเจ็บป่วยมากมาย การอดเพื่อสุขภาพนับเป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการขจัดอนุมูลอิสระเหล่านี้ จะขอกล่าวถึง...การอดเพื่อสุขภาพ นะคะ ในการอดอาหารเพื่อล้างพิษนั้น จะต้องอดอาหารจำพวกโปรตีน , ไขมัน , และ คาร์โบไฮเดรต ทั้งข้าวและขนมปัง กินได้แต่เพียงผักและผลไม้ตามแต่ละจำนวนที่กำหนดให้ในแต่ละหลักสูตรการอดเพื่อสุขภาพมีหลายหลักสูตร ที่นิยมปฏิบัติกันได้แก่ 1.การล้างพิษ 10 วัน เป็นการอดด้วยผลไม้และผักสด เกิดผลในการรักษาโรคบางอย่างให้เห็นผลภายใน 10 วัน 2.การล้างพิษ 5 วัน เป็นการอดด้วยผลไม้และน้ำผลไม้ เป็นการย่นย่อหลักสูตร 10 วัน ใช้ได้กับผู้ที่ไม่มีปัญหาสุขภาพมากนัก เช่น ต้องการลดความเครียด หลบจากความเร่งรัดในการงานมาพักผ่อนและเพิ่มพูนความรู้เรื่องสุขภาพไปด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักที่ไม่มากนัก 3.การล้างพิษ 1 วัน เป็นการทยอยล้างพิษทีละน้อย ค่อย ๆ ปฏิบัติ การเลือกระดับของการอดเพื่อสุขภาพนั้น ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละบุคคล สามารถหัดปฏิบัติด้วยตัวเอง ได้ดังนี้ ขออธิบายนะคะ การล้างพิษ 1 วัน ระดับ 1 การกินผลไม้ชนิดเดียวตลอดวัน ระดับ 2 การอดด้วยน้ำผลไม้ ระดับ 3 การอดด้วยน้ำเปล่า ระดับ 4 การอดแห้ง ขั้นแรกของการอดเพื่อสุขภาพ : เตรียมอด เลือกวันที่จะทำการอดอาหาร ควรจะเป็นวันขึ้นหรือแรม 11 ค่ำ แต่ถ้าไม่สะดวกจะเลือกตามสะดวก เช่น วันหยุดก็ได้ ในตอนเช้าของวัน ให้เตรียมอดโดย ดื่มน้ำส้มและกินผลไม้เป็นอาหารเช้า ขั้นที่สองในการอดอาหาร : วันอด หลังจากอาหารเช้าที่เตรียมอดแล้ว ก็จำกัดอาหารตามแต่ละระดับของการอดอาหารที่กำหนดไว้ ในช่วงระหว่างวันควรจะมีการทำกิจกรรมต่างๆ และการสวนกาแฟเสริมด้วย กิจกรรมอย่าง เช่น เลือกกิจกรรมที่ช่วยในการพักผ่อนร่างกายและจิตใจ เช่น อ่านหนังสือที่ชอบ, การวาดรูป, การฝีมือ, การฟังเพลง, การทำสมาธิ, กิจกรรมออกกำลังกายบางอย่าง เช่น โยคะ , ชี่กง , ไท้เก็ก ก็สามารถทำเพื่อเสริมการล้างพิษด้วย การออกกำลังกายเหล่านี้จะเน้นการทำสมาธิกับลมหายใจ ช่วยขจัดสารพิษออกทางลมหายใจ และทำให้จิตใจสงบ ลดอาการอ่อนเพลียอีกด้วย ส่วนซาวน่าและ การอบสมุนไพรอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยขจัดสารพิษออกทางเหงื่อ การสวนกาแฟนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างพิษ เนื่องจากช่วยกระตุ้นตับในการใช้เอนไซม์ขจัดอนุมูลอิสระ ขั้นตอนที่ 3 : วันเลิกอด ในวันต่อมา ดื่มน้ำผสมน้ำมะนาว ในตอนเช้า วิธีผสมน้ำมะนาวมีสูตรดังนี้ คือ ใช้น้ำ 2 ขวด ขวดละ 800 cc. บีบมะนาวขวดละ 2 ลูก ใส่เกลือทะเล ขวดละ 1 ช้อนชาครึ่ง ผสมแล้วดื่มให้หมดในตอนเช้า วันนั้น จะทำให้เกิดการถ่ายอุจจาระ ควรอดบ่อยเพียงใด??? สำหรับคนที่มีสุขภาพดีควรทำทุก 2 สัปดาห์ อาจเป็นทุกขึ้น 11 ค่ำและ แรม 11 ค่ำ หรือทุกวันเสาร์ เว้นเสาร์ และผู้มีปัญหาสุขภาพ เช่น อ้วน ไขมันสูง ภูมิแพ้ ตลอดทุก 1 สัปดาห์ วิธีการปฏิบัติ เมื่อเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติทั้งหมดแล้ว ก็สามารถลงมือกระทำได้ด้วยตนเองเลย โดยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในหนังสือแนะนำหรือหาอ่านรายละเอียดได้ตามเวบต่างๆ หรือหากยังคงไม่มั่นใจที่จะปฏิบัติด้วยตนเองก็สามารถเข้าร่วมคอร์สที่ศูนย์ธรรมชาติบำบัดต่างๆได้จัดขึ้นนะคะ แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงหน่อย เหอๆ โรคที่สามารถใช้การอดเพื่อสุขภาพในการรักษา การอดอาหารเป็นขั้นตอนในการพักฟื้นและฟื้นฟูสุขภาพ มีประสิทธิภาพในการดูแลและบำบัดโรคต่อไปนี้ โรคอ้วน, ไขมันในเลือดสูง, รูมาตอยด์, SLE, ไมเกรน, เครียด, โรคนอนไม่หลับ, ภูมิแพ้, หอบหืด, ท้องผูก, โรคอาหารไม่ย่อย, โรคลำไส้ระคายเคือง ฯลฯ อาการบางอย่างที่ยังไม่สามารถระบุว่าเป็นโรคได้ ก็สามารถใช้การอดอาหารในการบรรเทาอาการของโรค คือ ปากเหม็น, อาการปวดกล้ามเนื้อ, อาการปวดข้อ, ปากเหม็น, กลิ่นตัวแรง, ท้องอืดเฟ้อ, ผิวพรรณหม่นหมอง ฯลฯ ***ข้อห้าม*** ข้อห้ามสำหรับการอดเพื่อสุขภาพ คือ งดปฏิบัติใน เด็กเล็ก, หญิงมีครรภ์, ผู้ป่วยโรคมะเร็ง, ผู้สูงอายุ, หรือผู้ที่ร่างกายอ่อนเพลียมาก - สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน สามารถที่จะอดอาหารได้ แต่ว่าควรที่จะอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญนะคะ สำหรับทุกคนที่ไดเอทอยู่ สู้ตายค่ะ สู้ๆ จากคุณ : CatPotter เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 14:45:22

ความคิดเห็นที่ 47 เป็นกำลังใจให้นะคะ อ่านเจอเรื่องจขกท ทาน earthquake แล้วอย่างโดน เคยเป็นเหมือนกัน ^ ^' สูตรน่าสนใจค่ะ แต่เรื่อง detox ยังไม่กล้า เราขอเป็นออกกำลังกายคู่กับควบคุมอาหารไปก่อนนะคะ ลดด้วยกันเน้อ~ : ) จากคุณ : oceanus เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 15:19:36

ความคิดเห็นที่ 48 เราก็ไม่กล้า Detox เหมือนกันคะ ตอนนี้เราเลยถือคติที่เค้าว่ากันว่า กินอาหารเช้าเหมือนราชา กินอาเที่ยงอย่างเจ้าชาย กินอาหารคำอย่างยาจก หลัง2ทุ่มนี่ไม่กินแล้วคะ ทำมา3วันแล้ว 555 พร้อมทั้งไปฟิตเนส(ที่ไม่ได้ไปมาประมาณปี) ไปวิ่งสัก 20 นาที หวังว่าจะลดพุงใหญ่ๆของอิชั้นได้ สู้ๆคะ จากคุณ : on_the_box เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 15:48:01

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณคะคุณ CatPotter ที่ให้ข้อมูลสำหรับการอดเพื่อสุขภาพมาด้วย คืออันที่จริง เคยเจอเหตุการณ์สวนด้วยน้ำเกลือตอนผ่าตัดมันเลยเป็นการฝังใจอ่ะคะ มันทรมานสุดๆ อย่าไปพูดถึงว่า 5 นาทีเลย ถึง 2 นาทีป่าวก็ไม่รู้ 555555 เคยได้ยินมาว่าการที่ผิวไม่ผ่องใสเพราะว่า ระบบไหลเวียนของเลือดในร่างกายไม่ดี หรือไม่ก็ท้องผูก เราก็เป็นคนที่ไม่ได้ถ่ายทุกวัน 2-3 วันทีถึงจะได้ถ่าย เหอ เหอ อนาถมาก อ่านความคิดเห็นของคุณ CatPotter 46 แล้วก็นึกไปถึงประโยคที่ว่า you are what you eat แล้วก็ ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม (เกี่ยวไหม อิอิ) สู้ๆ คะ จากคุณ : มาดามกุ้ง เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 16:22:59

ความคิดเห็นที่ 50 ถามนิดนึงนะคะ กาแฟใช้เขาช่องเหรอคะ นึกว่าต้องใช้กาแฟสำหรับดีท๊อกซ์เท่านั้น เอาใจช่วยนะคะ พี่ก็กำลังลดเหมือนกันค่ะ ขึ้นมาสามกิโล เครียดๆๆ จากคุณ : ยุ่งจัง เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 19:51:15

ความคิดเห็นที่ 51 หลัง Detox แล้วดื่มกรดมะนาวแบบนี้ จะเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกในลำไส้มั๊ยคะ? จากคุณ : เสาไฟมุมถนน เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 20:22:01

ความคิดเห็นที่ 52 เราชอบ Detox มากๆ แรกๆเพื่อสุขภาพ หลังๆทำแล้วคลายเครียดดี เพราะว่าจะลืมเรื่องเครียดแล้วเอาเวลาไปจดจ่อกับการอั้นให้นานที่สุด ขอเข้าร่วมโครงการลดอ้วนด้วยคน เราต้องทำยังงัยบ้างอ่ะ จากคุณ : KiNky เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 21:14:42

ความคิดเห็นที่ 53 เพิ่งกลับมาถึงบ้านแวบมาดูนั่นแน่มีคนจากห้องหนังแวะมาดูด้วย เรามาเป็นกำลังใจให้กันเนอะ ผู้หญิงอย่าหยุดสวยค่ะ =^^= เรื่อง Detox ถ้าทำถูกวิธีก็ไม่อันตรายนะ แต่ย้ำว่าถ้าคนแพ้คาเฟอีนเราไม่แนะนำ คือ ที่บอกไม่อันตรายเพราะ พี่ชายเราทำ Detox ตลอดเลยทำมาหลายปีแล้ว เราก็เคยทำบ่อยนะเมื่อก่อนแต่ความพยายามไม่พอ สำหรับคนที่อั้นไม่อยู่ เราแนะนำว่าลองทำแบบเราสิ เราเข้าไปนอนในห้องน้ำเลย ก็ทำความสะอาดห้องน้ำเป่าให้แห้งจะได้นอนได้ ปกติเราเป็นคนชอบอยู่ในห้องน้ำอยู่แล้วน่ะ ทำโน่นทำนี่ไปเรื่อย ^^" และแรกๆไม่ต้องซีเรียสว่าเค้าให้ผู้หญิงใช้กาแฟ 1,300 cc. แล้วต้องฝืนให้หมด แต่อั้นไม่อยู่ เอาเท่าที่ได้พอนะ ค่อยๆพยายามอั้นให้ได้ ตรงสายมันจะมีตัวบีบให้น้ำหยุดไหล เราก็ค่อยๆปล่อยน้ำกาแฟ ถ้าอั้นไม่อยู่ก็กดบีบ หายใจเข้าลึกๆ ทำซ้ำแบบนี้ ช่วงหลังเราก็ทำได้แล้วค่ะ จากนั้นก็นวดท้องตามวิธี Detox พี่ชายเราทำ Detox สม่ำเสมอ หน้าใสมากค่ะ ทั้งๆที่ไม่ค่อยได้ใส่ใจใช้อะไรบำรุงผิวเท่าไร อายุเกือบ 40 แล้วนะ ^^ พี่เราก็บอกเราตลอดว่าให้ทำเราก็โอ้เอ้ ตอนนี้กำลังจะเริ่มทำใหม่อีกครั้ง อย่าท้อค่ะ แฟนน้องเราก็ทำ รายนั้นน้องเราบอกว่าขนาดมันนั่งอยู่ในห้อง ก็ยังนอน Detox เฉยเลย แฟนน้องอยู่หอพักน่ะ ^^" ................................................................... อัพเดทวันนี้ กินข้าวมื้อเช้าไปตอน 10 โมงกว่าแหน่ะ ไปธุระกว่าจะเสร็จเพิ่งได้กินข้าวทุ่มกว่าๆ ซัดไปเต็มที่ ส้มตำปูปลาร้าหมูย่าง ต้มยำปลาน้ำข้น ไข่เจียวหมูสับ น้ำพริกกะปิ+มะเขืออ่อน ชาดำเย็น 1 แก้ว แต่มีน้องๆมาร่วมช่วยกินเลยเบาไปเยอะ แต่แอบผิดสัญญาตัวเอง โดยกินเค้กลาน่าไปด้วย แต่ 1 ชิ้นแบ่ง 4 ค่อยยังชั่ว ปรากฏว่าเราท้องอืดทันที เรากินเค้กลาน่าทีไรเป็นตลอดสงสัยแพ้เค้กชอคโกแลต..แต่ก็ยังจะกิน เฮ้อ กลับเข้าบ้านมาเหมือนโดนบังคับกินกลายๆ พี่มันซื้อยำแหนมข้าวทอด กับไก่ย่างมา โอ้ยไม่ไหวกินเป็นพิธีจุกเลยทรมานมาก ตอนนี้รออาหารย่อยก่อน เดี๋ยวจะไปปั่นจักรยาน ห้ามผิดสัญญาตัวเองดึกก็ต้องทำไม่งั้นตัวขี้เกียจจะเข้าสิงค่ะ เราไปพยายามทำให้ท้องหายอืดไวๆก่อนนะคะ จุกมากไม่ไหวแล้ว สู้ๆนะทุกคน ไว้ผอมแล้วมาจัดมีตติ้ง ไปออกกำลังกายที่สนามกีฬากันไหม อิอิ =^^= แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 22:20:21 จากคุณ : ด.ญ.กิ๊บเก๋ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 22:18:50

ความคิดเห็นที่ 54 คุณยุ่งจัง : ให้ใช้กาแฟ Detox นะคะ มีขายตามร้านสุขภาพทั่วไปเยอะเลยค่ะ แบบที่ 1 จะเป็นกาแฟบดแล้วเราก็เอามาต้ม แล้วกรองรอให้เย็นหรืออุ่นให้ใช้มือเทียบดู อย่าอุ่นมากเดี๋ยวลำไส้พอง 55 แบบที่ 2 จะมีแบบเป็นซอง ไม่ต้องมานั่งต้มแล้วกรอง ซองแบบชา ก็ใส่น้ำร้อนรออุณภูมิได้เลยค่ะ คุณเสาไฟมุมถนน : กรดมะนาวอันนี้ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ รอคุณCatPotter มาแชร์ดูค่ะ คุณKiNky : ก็มาแชร์ประสบการณ์แบบนี้น่ะค่ะ ใครมีสูตรไหนก้เอามาโพสได้เลย เผื่อเพื่อนๆทำสูตรนี้ไม่ไหว ก็ลองสูตรใหม่ ไม่ก็เอาวิธีคนโน้นนิด คนนี้หน่อยมาผสมกัน =^^= ปล.ถ้าเพื่อนๆอยากแชร์ประสบการณ์และกระทู้เริ่มตก ถ้ามีการตั้งกระทู้ใหม่รบกวนส่งข่าวด้วยนะคะ เราไม่ได้อ่านกระทู้ทุกวันอ่ะ จากคุณ : ด.ญ.กิ๊บเก๋ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 22:28:09

ความคิดเห็นที่ 55 ออกกำลังกาย....สิครับ จากคุณ : ~ ~ (PantipNaja) เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 03:14:00