[ความจริงเรื่องครีม"หมอจุฬา"] จากปากของ"นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ"และ"อย."
|
|
>> โรงพยาบาลจุฬาฯเซ็ง! ครีมหัวหมอ "อ้าง"ชื่อหากิน จากกรณีที่พบว่าครีมหมอจุฬากำลังเป็นที่นิยมและมีการนำใบรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มาเป็นหลักฐานประกอบการซื้อขายแม้ว่าจะไม่มีใบอนุญาตจากทางอย. ก็ตามทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าครีมยี่ห้อนี้โรงพยาบาลจุฬาฯเป็นผู้ผลิตส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก
**รองศาสตราจารย์ นายแพทย์นภดล นพคุณ** หัวหน้าหน่วยโรคผิวหนัง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และนายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า
1. การอ้างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มาเป็นหลักฐานในการขายสินค้าของครีมหมอจุฬาเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เพราะถึงแม้จะได้รับการตรวจสอบจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จริง แต่ก็ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเป็นมาตรฐานหรือเป็นหลักฐานในการตรวจสอบคุณภาพเครื่องสำอางได้ เนื่องจากการออกใบอนุญาตจำหน่ายยาหรือเครื่องสำอางเป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมทั้งต้องมีการเปิดเผยใบอนุญาตที่ชัดเจน ซึ่งในกรณีของครีมหมอจุฬาได้มีการตรวจสอบไปยังอย. ปรากฎว่าไม่เคยมีการขอใบอนุญาตมาก่อน และตามหลักของกฎหมายนอกจากเภสัชกรที่ต้องมีใบอนุญาตแล้ว แพทย์ก็ต้องมีใบอนุญาตด้วยเช่นกัน
2. ผลของคนไข้ที่ได้รับสารพิษจากครีมหมอจุฬาที่มีส่วนผสมที่อันตรายก็คือ ปัญหาหน้าด่างเพราะสารที่ทำให้หน้าขาว
**อย.** เปิดเผยว่า
1. ครีมยี่ห้อหมอจุฬายังไม่ผ่านการตรวจจากอย.และไม่มีการส่งเรื่องเพื่อขอเครื่องหมายอย. แต่อย่างใด ซึ่งในปัจจุบัน อย. ได้จัดให้เครื่องสำอางทุกชนิดให้อยู่ในประเภทเดียวกันคือเครื่องสำอางควบคุม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางชนิดใดยี่ห้อใดต้องมาขึ้นกับอย.ทั้งสิ้นโดยไม่มีข้อยกเว้นจึงจะถือว่าปลอดภัย
2. กรณีที่อ้างใบรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์นั้น ครีมที่ส่งไปพิสูจน์มีแค่ 1 ชิ้นซึ่งชิ้นนั้นอาจไม่มีส่วนผสมของสารปรอทหรือสารที่เป็นอันตรายอยู่ แต่ครีมตัวอื่นที่นำไปจำหน่ายต่อไม่สามารถทราบได้ว่าผสมอะไรลงไปบ้าง พิสูจน์ได้ยากเพราะมีครีมเหล่านี้อยู่มากมายตามท้องตลาด
3. จากการตรวจสอบของอย. พบว่าครีมหมอจุฬามีการปนเปื้อนของสารปรอทที่เป็นอันตรายอยู่ และปัจจุบันทางอย. ได้ประกาศให้ครีมหมอจุฬาเป็นหนึ่งในเครื่องสำอางอันตรายหากมีการจัดจำหน่ายและจับกุมได้ทางอย.จะทำการยึดทรัพย์และถอดถอนชื่อสินค้าออกทันทีพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย
>> ส่วนตัวผมไม่เคยใช้ครีมยี่ห้อนี้ แต่ผมข้องใจตั้งแต่ได้ยินชื่อครีม "หมอจุฬา"แล้ว สงสัยว่าแพทย์ของจุฬาฯเค้าเป็นคนคิดค้นหรือ? แล้วทำไมทำ Package ออกมาดูแปลกๆ ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ เหมือนครีมผลิตหลังบ้านมากกว่า
***อีกอย่างในข่าวข้างบนมีเขียนถึงคำกล่าวของเจ้าของเว็บไซต์ ครีมหมอจุฬาดอทคอมว่า***
1. การเซ็นเซอร์ใบรับรองจากกรมวิทย์ เพราะกรมวิทย์ฯสั่งห้ามเอาขึ้นหน้าเว็บ (สงสัยกลัวโดนคนเอาเลขที่ใบรับรองไปตรวจสอบมั้ง)
2. ที่ไม่เปิดเผยแหล่งผลิต เพราะเป็นข้อมูลทางการค้า (แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ของพวกสินค้าอันตราย)
3. ที่ใช้ชื่อว่า "ครีมหมอจุฬา" เพราะมีการใช้ชื่อนี้มานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมี (แล้วแกรู้จักกับแพทย์จุฬาคนไหนรึเปล่าล่ะ เค้าอนุญาตหรือยังครับ)
4. ที่ครีมหมอจุฬาไม่มีอย. เพราะ ครีมหมอจุฬาอยู่ในเครื่องสำอางประเภทที่ 3 สามารถผลิตได้เลย โดยไม่ต้องแจ้งกับทางอย. (เออดี คราวหน้าอย่าลืมใส่น้ำส้มสายชูผสมไปด้วยนะ จะได้ผลัดเซลล์ผิว)
>> ที่มา :: นสพ.รังสิต ฉบับที่ 53 ปีที่ 16 ฉบับวันที่ 11-20 ส.ค. 52 ราคา 10 บาท เจ้าของ : มหาวิทยาลัยรังสิต โดยคณาจารย์และนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ม.รังสิตครับ
แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 21:59:00
จากคุณ |
:
pinspin
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ก.ย. 52 21:58:24
|
|
|
|