ความคิดเห็นที่ 1 *ขอบคุณมากค่ะ ps. ยังงี้pantip ก็โดนแฮกข้อมูลได้สิคะเนี้ย ?? จากคุณ : iceji เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 00:22:01

ความคิดเห็นที่ 2 Oop! จากคุณ : baybee เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 00:24:49

ความคิดเห็นที่ 3 ก็เคยสงสัยอย่าง scb มี s ต่อท้าย ยังคิดเลยค่ะ ว่าจะต้องมี s ไปทำไม.. ตอนนี้รู้แล้ว.. โอนเงินได้สบายใจหายห่วง.. จากคุณ : oilstory (ตราบทะเลยังคงความงดงาม) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 00:26:35

ความคิดเห็นที่ 4 ก็ไม่จำเป็นเสมอไปหรอกนะจ้ะ ว่ามีsแล้วจะปลอดภัย หายห่วง อยากให้ตระหนักด้วยว่า อินเตอร์เน็ตไม่มีที่ไหนที่แฮ็กไม่ได้ มีแค่ ง่ายกับยากเท่านั้นค่ะ ฉะนั้น จะทำธุระกรรมทางการเงินต้องระวังด้วยนะ ^ ^ จากคุณ : Tatjang เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 00:40:25

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณสำหรับความรู้ที่นำมาบอกกันค่ะ ^^ อยากจะบอกว่าไม่เคยสังเกตอารายเร๊ยยย อิอิ จากคุณ : เห้อ..ทั้งเอ๋อทั้งเหม่ง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 00:48:30

ความคิดเห็นที่ 6 ^________________^ ขอบคุณนะคะที่นำมาบอกต่อ จากคุณ : Pimya_P เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 00:54:31

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่งจะสังเกตเอาวันนี้แหล่ะค่ะ...แห่ะๆ ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะคะ จากคุณ : oui_wikanda01 เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 01:54:55

ความคิดเห็นที่ 8 เหวอ เพิ่งรู้ ความรู้ใหม่ ขอบคุณนะคะ ^^ จากคุณ : -‘•[I]dentity•’-[22] เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 02:23:27

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากค่ะ เพิ่งจะรู้นะเนี่ยมันมีความต่างด้วย แฮะๆ จากคุณ : janangle เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 04:18:41

ความคิดเห็นที่ 10 อ่า ขอบคุณค่า ความรู้ประดับสมองแต่เช้าเลย จากคุณ : โอวันติลเย็น เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 07:40:33

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากค่ะ อยากบอกว่าไม่เคยสังเกตุเลยค่ะ จากคุณ : ต้นข้าว_ต้นนั้น เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 08:54:31

ความคิดเห็นที่ 12 เพิ่งรู้เหมือนกันเลย ขอบคุณ จขกท.ค่ะ ^___^ จากคุณ : โฉมสะคราญอันดับหนึ่ง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 09:38:50

ความคิดเห็นที่ 13 voted จากคุณ : Bhind`hazeL`eyeS เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 10:18:54

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นสิ่งที่เห็นทุกวัน แต่ไม่เคยสังเกต ขอบคุณมากค่าที่นำมาบอกกัน *-* จากคุณ : ~PooMiKo~ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 10:28:09

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ นั่นสิคะ เห็นอยู่บ่อยเชียว แต่ไม่ค่อยได้สนใจ ได้ความรู้ก็วันนี้ค่ะ ขอบคุณ จขกท นะคะที่นำสิ่งดีดีมาแชร์ จากคุณ : ::: Momo-SnoWy ::: เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 10:39:42

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่เคยสังเกตเลย ความรู้ดีๆ ขอบคุณมากๆจ้า จากคุณ : แม่ดุกน้อย เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 11:24:13

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากค่ะ ^^ จากคุณ : mswis เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 12:27:03

ความคิดเห็นที่ 18 โอ้ ขอบคุณมากเลยค่ะ ได้ความรู้ดีๆ จาก คุณ จขกท. คราวหน้าจะสังเกตก่อนค่ะ จากคุณ : เด็กน้อยหูกาง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 12:41:06

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากค่ะ เคยสงสัยเหมือนกัน  แต่ก็พึ่งทราบคำตอบ จากคุณ : pondpep เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 12:57:32

ความคิดเห็นที่ 20 บอกตรงๆ เลยค่ะ ว่าเพิ่งสังเกตนี่แหละว่ามันมีs กับ ไม่มี เหอๆ ขอบคุณค่ะ สำหรับกระทู้ดี จากคุณ : FaLiOnA เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 13:09:53

ความคิดเห็นที่ 21 ที่เจอจะเป็น http:// ไม่เคยเจอ https:// เลยค่ะ จากคุณ : The Best of Me เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 13:13:13

ความคิดเห็นที่ 22 HTTP ย่อมาจาก Hypertext Transport Protocol เป็นโปรโตคอลสื่อสารที่ทำงานอยู่บนระบบโปรโตคอล TCP HTTP ใช้ในระบบเครือข่ายใยแมงมุม (World Wide Web [www]) ซึ่งมีหน้าที่ต่างๆ     - เป็นกลไก หรือโปรโตคอลหลักที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่าง Server และ Client ของ World Wide Web(www)     - กำหนดที่ตั้งทรัพยากรที่สอดคล้องกัน (Uniform Resoure Locators : URLs)     - ผู้เขียนเว็บสามารถฝังจุดเชื่อมโยงหลายมิติ (Hyperlink) ในเอกสารในเว็บHTTP เป็น protocol ที่อยู่ในส่วนของ Application Layer โดย DATA ต่าง ๆ จาก Layer นี้จะถูกจากส่งผ่านไปยัง Layer อื่น ๆ ที่ต่ำกว่า     - มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในรูปแบบภาษา HTML (HyperText Markup Language) โดยทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันบน www     - HTTP จะทำงานที่พอร์ต 80     - ส่งข้อมูลเป็นแบบ Clear text คือ ข้อมูลที่ทำการส่งไปนั้น ไม่ได้ทำการเข้ารหัส ทำให้สามารถถูกดักจับข้อมูลนั้นได้โดยง่าย       - มาตรฐานของ HTTP ปัจจุบันคือ HTTP 1.1 ซึ่งใ้ช้กันอย่างกว้างขวาง คราวนี้ก็มารู้จักกับ "HTTPS" กันต่อ    HTTPS ย่อมาจาก Hypertext Transfer Protocol over Secure Socket Layer หรือ HTTP over SSL     - HTTPS ระบุถึงการเชื่อมต่อแบบ Secure HTTP  เรียกใช้ด้วยรูปแบบ https:"//     - HTTPS จะทำงานที่พอร์ต TCP443 ออกแบบโดยบริษัท Netscape     - ทำงานโดยการเพิ่มข้อมูลในการระบุตัวผู้ส่ง ( Authentication) และการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ภายใน HTTP กับ TCP     - ในการส่งข้อมูลจะเป็นแบบ HTTP แต่จะมีการเข้ารหัสเป็นแบบ SSL  128 bit โดยการเข้ารหัสนี้เปรียบได้กับการสร้าง VPN เพื่อไปหา Web Server     - โปรโตคอล HTTPS สร้างเพื่อความปลอดภัยสำหรับการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต     - การใช้งาน HTTPS  Administrator สร้าง Public Key Certificate สำหรับเว็บเซิร์ฟเวอร์     - สร้างโดยใช้ OpenSSL ssl-ca     - ทำการ Sign โดย Certificate Authority เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็น certificate จากเซิร์ฟเวอร์     - เว็บบราวเซอร์ตรวจสอบ certificate ได้จาก root certificate ซึ่งติดตั้งอยู่ในเว็บบราวเซอร์     - นิยมใช้กับ Web ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น พวก Web ของธนาคาร การเงินต่างๆ หรือข้อมูลส่วนของราชการ เป็นต้น     - https ส่งข้อมูลเป็นแบบ Cipher text คือ ข้อมูลที่ทำการส่งได้ถูกเข้ารหัสเอาไว้ โดยใช้ Asymmetric Algorithm ซึ่งถ้าถูกดักจับได้แต่ก็ไม่สามารถที่จะอ่านข้อมูลนั้นได้รู้เรื่อง โดยข้อมูลนั้นจะถูกอ่านโดยตัวเรากับเครื่อง Server เท่านั้น     - การมีระบบแบบนี้ถือว่าดี แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการเข้าดูข้อมูล เนื่องจากจะต้องระบุตัวบุคคล คล้ายๆกับการ login ข้อสังเกตุ     + เราสามารถสังเกตได้ว่า webpage ที่เรากำลังดูอยู่นั้น ได้ใช้ระบบการรักษาความปลอดภัยของการส่งข้อมูลหรือไม่(SSL) สังเกตจาก รูปกุญแจ ถ้ามีแสดงว่าใช้ เช่น Gmail ก็มีน่ะคับ     + SSL ย่อมาจาก Secure Sockets Layer     + SSL คือ เครื่องหมายรับรองความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่ออกหรืออนุมัติโดย CA (Certificate Authority) Credit :: http://blog.pupasoft.com จากคุณ : knocky เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 13:19:44

ความคิดเห็นที่ 23 พวกเวบ e-banking อะค่ะ จะเป็น https:// เช่น https://www.krungsrionline.com พึ่งสังเกตเห็นหลังจากอ่านกระทู้เหมือนกัน อิอิ จากคุณ : ป่านน้อย เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 13:27:39

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ ^ ^ เรื่องการเข้ารหัสพึ่งสอบไปเทอมนี้เลยค่ะเนี่ย Asymmetric Algorithm จะค่อนข้างปลอดภัย เพราะข้อมูลจะถูกส่งในรูปของ  Cipher text หรือก็คือรหัสลับ แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้ Keys ที่นำมาใช้ในการเข้ารหัสก็จะรู้ได้เหมือนกันนะคะ เอิ้ก  แต่พึ่งรู้ว่าใกล้ตัวขนาดนี้  นึกเอาเองว่า www จะใช้ port 80 หมดเลยซะอีก ไม่ได้ A วิชานี้นี่ไม่แปลกเลยเรา /me เดินคอตกออกจากกระทู้ จากคุณ : โยธิกาหน้าหนาว เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 13:37:54

ความคิดเห็นที่ 25 โฮ่ ทีเดียวกระจ่างเลย ^^ จากคุณ : aiimable เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 14:34:46

ความคิดเห็นที่ 26 WOW ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ คะ จากคุณ : townthara เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 15:58:31

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : แก้วใส (keawsai2) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 16:44:32

ความคิดเห็นที่ 28 ข้อมูลดีมากเลย ไม่เคยสังเกตซักที กระจ่างวันนี้เอง จากคุณ : เหล้าปั่น เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 16:45:58

ความคิดเห็นที่ 29 โหย มีสาระมาก ขอบคุณนะคะ จากคุณ : Mei[m]ei (Pinkii-Minnie) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 16:51:51

ความคิดเห็นที่ 30 เพิ่งรู้นะครับเนี่ย กระทู้ความรู้จรริงๆเลยครับ ขอบคุณมากครับป๋ม จากคุณ : nuE+mUmuE~ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 19:56:37

ความคิดเห็นที่ 31 แล้วอย่างพวก หลัง wwwจะมีเลขและตามด้วยดอท คืออะไรอ่ะคะ Ex. แบบปกติ = www.pantip.com     แบบที่สงสัย = www13.บลาๆๆ จากคุณ : nemesiiz เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 20:11:17

ความคิดเห็นที่ 32 hotmail ก็มีการเข้ารหัสเหมือนกันนะ ตอนที่เรา login เข้าไปแล้ว จะมี https แวบนึง ซึ่งเป็นช่วงที่เครื่องเราส่ง password ไปที่ server ของ Hotmail นั่นเอง ดังนั้น คนที่มาแฮคพาสเวอร์ด ้hotmail ของเราไปได้ ก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้่ เพราะว่า ไม่มี key สำหรับ ถอดรหัส จากคุณ : คุณอาผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 20:46:31

ความคิดเห็นที่ 33 เพิ่งซื้อแหนมเนืองผ่านเน็ตจากเว็บอร่อยทั่วไทยของไปรษณีย์ไทย ใช้บัตรเครดิตด้วยแต่เป็น http ธรรมดา ชักเสียว ๆ แฮะ จากคุณ : CutY-DoggY-KJ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:29:59

ความคิดเห็นที่ 34 ได้ความรู้มากเลย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ByBlythe เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 00:38:22

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ploy_romantic เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 01:43:25

ความคิดเห็นที่ 36 ก็ไม่จำเป็นว่า http จะไม่ปลอดภัยเสมอไปหนิครับ ในรูปอ่านแล้วเหมือนกับว่าถ้าใช้ http ต้องโดนแฮกทุกราย มันอยู่กับระบบรักษาความปลอดภัยในเครื่องเรา, ระบบรักษาความปลอดภัยของเว็บ, browser ที่ใช้, ฯลฯ และที่สำคัญคือผู้ใช้ครับ ต่อให้ทุกอย่างดีแค่ไหนแต่ผู้ใช้ขาดความรู้ก็อาจไม่ช่วยอะไร จากคุณ : encode-x เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 15:13:25

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุนมากนะค่ะ ข้อมูลดีมากๆ ค่ะ จากคุณ : กาแฟร้อนปั่น เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 15:38:59

ความคิดเห็นที่ 38 ขออนุญาตขยายความนะครับ เพื่อให้เห็นภาพ เอาภาพประกอบมาให้ชมด้วยครับ ให้ลองนึกตามนะครับ สมมติว่าผม ทำไงก็ไม่รู้หล่ะ แต่แอบเข้าไปในบ้าน แล้วเอาสายไฟไปจิ้มสาย Lan ในบ้านของเพื่อนสมาชิกได้ จากนั้นก็ทำอะไรนิดหน่อย นั่งรอเพื่อนๆ Login เข้าไปในเวบซื้อขาย หรือใส่ระหัสบัตรเครดิต เข้าไปในเวบ จากนั้นผมก็จะได้ข้อมูลแบบนี้ มดสามตัว (แอ่น แอน แอ้น) จากคุณ : De-Ace เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 20:17:21

ความคิดเห็นที่ 39 ในความคิดเห็นที่ 38 คือผลของการส่งข้อมูลด้วย HTTP ครับ จะเห็นว่า ข้อมูลที่ส่งไปเป็น Clear Text นั่นก็คือ มนุษย์อ่านรู้เรื่อง เพราะฉะนั้น ส่งอะไรไปมองเห็นหมดครับ ในทางเทคนิค การ แอบเอาสายไปไปจิ้ม ไม่จำเป็นต้องเป็นสาย Lan อาจเป็นสายโทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งดักจับข้อมูลจาก Wireless ที่เราๆท่านๆชอบไปนั่งชิลล์ๆ เล่นกันตามร้านกาแฟนั่นแหละครับ ตัวดี เพราะ Wireless เหล่านั้นมักเปิด Open ถ้าผมมีอุปกรณ์อะไรนิดหน่อย เห็นหมดเลยครับ ว่าส่ง/รับข้อมูลอะไรบ้าง ส่วนในความเห็นนี้เป็นผลจากการใช้ HTTPS นั่นก็คือ ถึงแม้ว่าผมจะแอบต่อสายไฟเข้าไปได้ เห็นข้อมูลที่ส่งไปมากับ Server ได้ แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าคุยอะไรกัน นั่นก็คือ ข้อมูลถูกเข้าระหัสอยู่นั่นเองครับ ตัวอย่างของ HTTPS จากคุณ : De-Ace เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 20:21:27

ความคิดเห็นที่ 40 เพราะฉะนั้น พึงระวังไว้เสมอนะครับ ว่าข้อมูลที่เราส่งไปใน Internet นั้น มีคนดูได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็น Plain HTTP. ดังนั้น จะทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะ Login ชำระเงิน ทำธุรกรรม สังเกตดีๆว่าเราใช้ HTTP หรือ HTTPS อยู่นะครับ แต่ก็ใช่ว่าใช้ HTTPS แล้วจะปลอดภัย 100% นะครับ แต่ถ้าพูดต่อคงยาว ยังไงซะกระทู้นี้ เอาแค่ HTTP vs HTTPS แล้วกันครับ จากคุณ : De-Ace เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 20:26:15

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณมากค่า จากคุณ : U-vita29 เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 22:14:26

ความคิดเห็นที่ 42 ช่ายๆ  เราก็เรียนมา ถ้ามี ตัว S     https:// นี่จะสังเกตุได้ว่า จะม๊รูปกุญแจ ตรงด้านล่างด้วยอ่ะ ลองสังเกตดู จากคุณ : ยายกินลำไยน้ำลายยายไหล เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 00:29:28

ความคิดเห็นที่ 43 เจอละ .. จากคุณ : ยายกินลำไยน้ำลายยายไหล เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 00:32:39

ความคิดเห็นที่ 44 เจ่งมากค่ะ ! จากคุณ : ~ ชื่อน้องทิพย์ค่ะ * เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 14:13:09

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณคร๊า จากคุณ : Hebihime เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 15:51:56

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับความรุ้ดีดีจ้า ^^ จากคุณ : doodek เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 17:30:11

ความคิดเห็นที่ 47 อย่าง น้อย ก็ เปง ความรู้ใหม่นะค่ะ แท๊งค์ๆๆๆ จากคุณ : Wa wave เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 20:23:50

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Melon (piyapan.d) เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 20:56:31

ความคิดเห็นที่ 49 สงสัยมานานแล้ว (แต่ทำไมไม่คิดจะหาข้อมูลก็ไม่รู้...) ขอบคุณค่ะ จากคุณ : pounggati เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 22:25:21

ความคิดเห็นที่ 50 อ้อ เป็นเยี่ยงนี้เอง ขอบคุณค่า จากคุณ : Recy เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 23:31:37

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณค่ะ สารภาพว่าไม่เคยสังเกตตรงนี้เลยจริง ๆ จากคุณ : princess of rock เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 03:17:41

ความคิดเห็นที่ 52 อืม เว็บบางเว็บที่ไม่มี S ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ปลอดภัยนะครับ เพราะถ้าเขาเขียนดีๆ มีวิธีการป้องกันของตัวเอง ก็สามารถทำให้ปลอดภัยได้ โดยไม่ต้องพึ่ง protocal (ประมานว่า standard) อย่าง https ได้เหมือนกัน จากคุณ : Cubery เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 11:04:35

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ กับคนที่มาขยายความด้วยนะคะ ที่เอาความรู้ดีๆมาแบ่งปัน จากคุณ : cawaii girl เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 15:02:48

ความคิดเห็นที่ 54 เคยได้รู้มายังงี้เหมือนกนค่า ขอบคุณนะคะที่เอามาบอกกัน จากคุณ : noknok เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 16:11:08

ความคิดเห็นที่ 55 มี https ก็ไม่ช่วยอะไรสำหรับ hotmail ของเรา เพราะโดน ้hack ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ --" ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร...สาระสำคัญในเมล์ไม่มีอะไรเลย แต่เราเสียดายมากค่ะ เพราะเป็นอีเมล์กันแรกที่ใช้เลย เศร้าา....ตอนนี้ก็ได้แต่ทำใจ พยายามตามหาเมล์เก่าๆของเพื่อนต่อไป T_T จากคุณ : น้ำเต้าหู้กับเฉาก๊วย เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 17:41:01

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณมากๆครับ จขกท.น่ารักที่สุด เผื่อแผ่เรื่องดีๆให้คนอื่น ขอบคุณอีกรอบครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 21:33:16