หลายๆคน ที่เคยไปซื้อของในชอป Etude หรือ Skinfood แล้วถามเรื่องของจริงกับของปลอมต่างกันยังไง
BA ก็จะตอบว่า ถ้ามีสติ๊กเกอร์สีทองๆเป็นของจริง ไม่มีเป็นของปลอม ประมาณนี้ใช่ไม๊คะ
อ้าวววววว แล้วถ้ามันไม่มีล่ะ ไอ่สติกเกอร์ทองๆ เนี่ย !!
จะบอกว่าสติกเกอร์นี้ ที่เกาหลีเค้าไม่ติดกันนะคะ พี่ไทยเอามาติดเอง
ลูกค้าที่ซื้อในshop จะได้มั่นใจได้ว่า มีสติ๊กเกอร์ทองๆ เป็นของแท้
ด้านบนเป็นบทนำ
ต่อไปเข้าเรื่องค่ะ
นานมาแล้วซัก3-4เดือนก่อน
ตอนนั้นเรากำลังจะย้ายจากกรุงเทพมาต่างจังหวัด
มีโทรศัพท์มาหาเรา เป็นผู้ชายพูดค่ะ แทนว่า A นะคะ
A : ฮัลโหล คุณXXX ร้าน XXX นะครับ ผมชื่อ A ครับ
เห็นทางร้านคุณขายเครื่องสำอางค์เกาหลี สนใจขายสินค้า Etude Skinfood ของแท้ไม๊ครับ
เรา : เอ่อ... เราก็ขายของแท้นะคะ มาจากเกาหลีเลย
A : ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึงของแท้ที่มีสติ๊กเกอร์เลย เหมือนใน shopที่ไทยเลยครับ
ของแท้แน่นอน คุณสามารถ ขายราคาสูงกว่าเดิมได้มากเลยครับเพราะเป็นสินค้าจาก shop ที่มีสติ๊กเกอร์ยืนยัน
ลูกค้าก็วางใจได้ด้วย ว่าเป็นของแท้
เรา : อ่อ ค่ะๆ ขายยังไงอะคะ คิดเรทเท่าไหร่
A : ไม่ได้ขายเป็นเรทครับ คือของที่ผมขายเป็นของแท้จากชอปแต่ผมสามารถนำมาขายได้
ในราคาลดกว่าใน shop 35-40% แล้วแต่ประเภท บางอย่างลดได้ถึง 50%เลยครับ
คุณเอาไปขายลดจากในshop 30% เลยก็ได้ครับ ขายดีแน่นอนครับ
เพราะลูกค้ามั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน บลาๆ
เรา : อ่อ ยกตัวอย่างให้หน่อยได้ไม๊คะ อย่างครีมมะเขือเทศนี่ลดแล้วเหลือราคาเท่าไหร่คะ
A : ก็ราคา 6XX (จำราคาที่เค้าบอกไม่ได้ค่ะ นานมาแล้วจำได้แต่ประมาณนี้ )
เรา : โหวว ราคาสูงเหมือนกันนะคะเนี่ย แพงกว่าที่เราขายตอนนี้อีก
A : ไม่แพงครับใน shop ที่ไทยขาย 1XXX เลยนะครับ คุณขาย 800 ลูกค้าก็แย่งกันซื้อแล้ว
ใครๆก็อยากได้ของแท้ ที่ตัวเองมั่นใจครับ
เรา : อ๋อ พอดีกำลังจะย้ายกลับต่างจังหวัดอะค่ะ ถ้าส่งข้ามจังหวัดไปอีกมันก็ต้องมีค่าส่ง ทุนต้องเพิ่มแน่เลยค่ะ
หนักด้วยอะ skinfood เนี่ย เดี๋ยวยังไง ขอลองๆ ไปคิดดูแล้วกันนะคะ เดี๋ยวถ้าได้เรื่องจะติดต่อไปค่ะ
A : ได้ครับๆ ถ้าสนใจอย่าลืมติดต่อมานะครับ ของแท้มีตรารับรอง ยังไงก็ได้กำไรเยอะกว่าครับ
ยังไงติดต่อมานะครับ
แล้วววววว เค้าก็วางสายไป เราก็เมมชื่อเค้าไว้ว่า สตก.(ย่อมาจากสติ๊กเกอร์) แล้วก็ลืมเค้าไป ตามประสาความจำปลาทอง
แล้วเวลาก็ผ่านไป หลายวัน A ก็โทรมาหาเราอีกครั้ง
A : สวัสดีครับ เป็นยังไงบ้าง ย้ายบ้านเหนื่อยไม๊ครับ
ผม A นะครับ ที่เคยโทรมาเสนอส่ง Etude กับ skinfood ของแท้ให้ จำได้ไม๊ครับ
เรา : อ่อค่ะๆ จำได้ค่ะ ว่าไงเอ่ย
A : เป็นยังไงบ้างครับ ลองคิดดูแล้วบ้างรึยังครับ กำไรเยอะแน่ครับ บลาๆ
(วนไปมาว่าของแท้ ลูกค้าเชื่อถือได้ กำไรเยอะซัก3-4รอบ) แบบนี้ไปซักพัก
เรา : ไม่ไหวจริงๆค่ะ ราคามันสูง ค่าส่งก็แพงด้วย หนักอะค่ะ ของเราก็แท้อยู่แล้ว ลูกค้าเค้าใช้ก็รู้กันอะค่ะ
เราสั่งมาจากเกาหลีอยู่แล้ว มีพี่คอยซื้อให้อยู่แล้วด้วย ไม่ให้เค้าซื้อให้ เดี๋ยวเค้าเสียใจอะค่ะ
A : อ่อ ครับๆ เข้าใจครับ ลองแบ่งมารับจากทางผมซักครึ่งนึงก่อนไม๊ครับ กำไรเยอะกว่าจริงๆนะครับ
คุณลองบอกมาก็ได้ ผมคำนวณให้ (<--- ทุ่มทุนมากกกกก )
**แล้วเค้าก็คำนวณให้จริงๆ แบบคิดให้เลยว่าเอามาจากเกาหลีขายได้กำไรเท่าไหร่
รับจากเค้าแล้วได้กำไรเยอะกว่าเท่าไหร่
A : เห็นไม๊ครับ กำไรเยอะกว่าอีก บลาๆ (พล่ามไป....)
เรา : (คิดอะไรไม่ออก อยากวางสาย เมื่อยแล้ว ลูกค้าก็โทรมาเป็นสายซ้อนอีกเพียบ )
เออ... คุณ A คะ เราไม่ไหวจริงๆค่าส่งมันแพง มันหนักอะค่ะ ยาสระผม4ขวดก็1กิโลแล้ว
กำไรมันจะหายไปจากค่าส่งจากกรุงเทพมาบ้านเราอะ
A : ......... (เงียบไปวูบนึง) งั้นเอาแบบนี้ไม๊ครับ คุณรับสติ๊กเกอร์จากผมไปก็ได้ ผมส่งให้ได้แผ่นละ XXX บาท
(จำไม่ได้ว่ากี่บาท แต่จำได้ว่ามี 100 ดวงต่อ1แผ่น) ตกดวงละ10กว่าบาท แต่คุณอัพราคาได้เลยนะครับ
เรา : (โฮกกกกก ในใจ) อ่า จะดีเหรอคะ เดี๋ยว etude มาจับ กลัวอะ
(ตอนนั้นกระแส etude จับลิขสิทธิ์มาแรง)
A : ไม่ต้องกลัวครับ ก็ติดแล้วก็กลายเป็นของแท้เหมือนกัน
ทางบริษัททำอะไรไม่ได้ครับ (<-----ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย แล้วก็บอกแล้วไงว่าของเราก็แท้ ไม่ต้องมีสติ๊กเกอร์ก็แท้เฟ้ยยยย)
คุณขายของแบบนี้ ต้องศึกษากฎหมายลิขสิทธิ์ดูด้วยนะครับ
จะได้รู้ว่าเค้าก้าวกายเราได้มากแค่ไหน ( <--- อะ อ้าว มาสอนอีก)
ผมรับรองได้ว่าไม่มีปัญหาครับ
เรา : เรากลัว ถ้าโดนจับอะ ถ้าทางบริษัทเค้าบอกว่าเราไม่ใช่ตัวแทนจำหน่าย
แล้วเค้ามาจับ มายึดของที่บ้านเจอของติดสติ๊กเกอร์ เราก็แย่อะดิคะ
A : ไม่มีปัญหาครับ สติ๊กเกอร์ยืนยันได้ว่าสินค้าเป็นของแท้แน่นอนครับ
ขายของแท้ไม่ผิดครับ (<---- อ้าว แล้วลิขสิทธ์ละ ไอ่สติ๊กเกอร์นี่มันเจ๋งจริงๆวุ้ย แล้วก็บอกไปแล้วว่าขายของแท้อยู่แล้ว
ไอ่บ้านี่ มันฟังกันบางไม๊เนี่ย แง่ง แอบโมโหในใจ)
เรา : อ่า... คุณ A เอามาได้ไงอะคะ ทางบริษัท Etude skinfood เค้าไม่ว่าเหรอคะ กลัวอะ (อยากรู้อยากเห็นมาก 555)
A : สติ๊กเกอร์จากบริษัทเลยครับ ผมเอาออกมาได้เพราะผมดูแลด้านนี้อยู่ บลาๆๆ
เรา : ติดแล้วเหมือนกันเลยเหรอคะ ต้องติดตรงไหน ตำแหน่งไหน ถ้าติดแล้วไม่เหมือนกัน เค้าจะจับได้ไม๊อะ
A : ตรวจสินค้าว่าติดสติ๊กเกอร์เหมือนใน shop ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ เหมือนกันเลยครับ
ผมรับประกัน ขนาดบริษัทใหญ่อย่างโนเกีย ยังจับไม่ได้เลยครับ สติ๊กเกอร์ติดโทรศัพท์ทีมาบุญครองผมก็มี
ติดแล้วเหมือนของแท้เลยครับ บลาๆๆ (<----เฮ้ยยย อ้าว อะไรเนี่ย ไหนว่ามาจากบริษัท etude skinfood อะไรเนี่ยกลัวอะ T T )
เรา : อ่า...เอ่อ... คุณ A คะ คือลูกค้าโทรมาแล้วอะ เดี๋ยวไว้ไปคิดดูก่อนแล้วกันนะคะ
ตู๊ดๆๆๆ
งือๆๆ น่ากลัวววววว
**นึกเรื่องนี้ขึ้นได้เพราะมีน้องคนนึงมาถามว่า ทำไมของร้านพี่ไม่มีสติ๊กเกอร์คะ
**เสี่ยงจะโดนยึดอมยิ้มไม๊คะ ไม่ได้มาขายของนะ มาบอกเล่าประสบการณ์
ถ้าของแท้ซื้อมาจากเกาหลีแล้วมาติดสติกเกอร์ทองเนี่ยก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้าเป็นของปลอมแล้วดันมีสติกเกอร์นี้ติดล่ะ
คนซื้อก็คิดว่าเป็นของแท้เพราะมีสติ๊กเกอร์ติดก็อันตรายน่ะสิ
** สรุปอีกครั้งว่า ถึงมีสติ๊กเกอร์ก็เชื่อไม่ได้นะคะว่าเป็นของแท้ ต้องดูหลายๆอย่างประกอบกันจ้า
**หวังว่าข้อมูลนี้คงจะเป็นประโยชน์กับสาวๆห้องแป้งบ้างนะคะ
ขอบคุณค่ะ
แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 52 01:00:44
แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 52 00:52:44
แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 52 00:50:13
แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 52 00:47:39