 |
ไปเรียนมาแล้วคร๊าสำหรับวันแรกการวิเคราะห์และดูแลผิว มาอ่านเร๊วววว สาวสวยทั้งหลายจ๋า{แตกประเด็นจาก Q8443118}
|
|
บทเรียนจากวันแรก เขียนโดย : ลักษณารีย์
จากที่ได้ไปร่ำเรียนมาในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ความรู้ที่ได้จากการไปนั่งเรียนเฉยๆ โดยผ่านกระบวนการซึมซับทางสมองที่เบลอๆ เพราะขี้เกียจตื่นแต่ต้องไปเพราะว่าคอสที่ใช้งบตัวเองน้อยๆ แบบนี้หายากมากๆ ค่ะ ที่รับรู้มาไม่ต่ำกว่า 1000 บาทเลย แล้วก็ต้องแบกของส่วนตัวไปเอง แต่คอสนี้ไปแบบวิชาตัวเบา กลับมาเลยไม่แน่ใจว่าหัวเบาไปด้วยหรือเปล่า แบบ 10.30 น. ถึง 13.00 น. เนี่ยะไม่ได้อะไรกลับมาเลยนอกจากความมึนงง 555+
แต่ก็ได้พยายามจะรวบรวมสาระความรู้ที่ได้มาในหนึ่งวันนี้ มาเล่าสู่กันฟังนะคะ หัวข้อของวันแรก เป็นการวิเคราะห์สภาพผิวหน้าด้วยตัวเอง การดูแลผิว ระหว่างวัน และระหว่างสัปดาห์
การวิเคราะห์สภาพผิวหน้าด้วยตัวเอง เริ่มจากการวิเคราะห์ว่าผิวของเรา มีสภาพแบบไหน ซึ่งปกติแล้วสภาพผิวจะมีอยู่ 3 แบบ แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ได้แก่ 1. ผิวมัน ลักษณะของคนผิวมันจะมองเห็นรูขุมขนได้ง่าย คือมองปร๊าดเดียวก็จะเห็นเลยว่ามีรูขุมขนที่ใหญ่ และหน้าจะเยิ้มๆ มันๆ และเป็นสิวอักเสปเม็ดใหญ่ๆ เป็นต้นค่ะ 2. ผิวแห้ง ลักษณะของคนผิวแห้งรูขุมขนก็จะเล็ก ละเอียด ไม่เป็นสิวเม็ดใหญ่ แต่สิวที่คนผิวแห้งจะเป็นก็คือ สิวเสี้ยน ซึ่งจะเห็นว่าที่บริเวณจมูก จะมีรอยสิวเสี้ยน ดำๆ 3. ผิวผสม ลักษณะของคนผิวผสม ที่บริเวณที-โซน (คือช่วงหน้าผากและดั้งจมูก) จะมัน สังเกตได้ง่ายๆ ในช่วงระหว่างวันที่คนผิวผสมจะมีจมูกที่มัน และ บริเวณ ยู-โซน (คือช่วงข้างแก้มและคาง) จะแห้ง ถ้าใบหน้าเรามีลักษณะแบบนี้แสดงว่าเราเป็นคนผิวผสมค่ะ เมื่อเราวิเคราะห์สภาพผิวหน้าของเราได้แล้ว ก็จะทำให้เราสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้กับผิวหน้าได้ถูกต้อง ซึ่งบางคนไม่แน่ใจตัวเองว่าจะแห้ง หรือจะมัน เพราะว่าสภาพผิวแปรปรวน(อันนี้ไม่มีนะคะ) ซึ่งบางยี่ห้อก็ไม่มีผลิตภัณฑ์สำหรับผิวผสม ถ้าเราคิดว่าหน้าเรามันมากกว่าเพราะสิวขึ้นตลอดเป็นๆ หายๆ ก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมัน แต่ถ้าหาก ผิวเราไม่มีปัญหาสิวแต่ขาดความชุ่มชื้นก็ให้ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้งค่ะ
การดูแลผิวหน้าระหว่างวัน สำคัญมากในขั้นตอนนี้ ถ้าเราไม่มีการดูแลผิวหน้าในระหว่างวัน หน้าใสๆ ก็จะไม่มีให้เราได้พบเห็นที่หน้ากระจกแน่นอน และยังจะมีสิวมาบึกให้เต็มใบหน้าไปหมด ส่วนคนที่คิดว่าดูแลดีแล้วแต่หน้าไม่เด้งไม่ไส อันนี้ก็มีเคล็ดแอบไม่ลับมาบอกด้วยนะคะ ขั้นตอนการดูแลผิหน้าระหว่างวันที่เราควรปฎิบัติอย่างเคร่งครัด 1. การล้างหน้าให้สะอาด -Cleansing Cream ถ้าเรามีการแต่งหน้า ไม่ว่าจะรองพื้น หรือแป้งเค๊ก เราควรใช้คลีนซิ่งครีม ทำความสะอาดให้หมดจดก่อนซึ่งบางคนอาจจะใช้ eye-remover and lip เฉพาะบริเวณตากกับปาก และมีอีกตัวที่ใช้ทั้งใบหน้าก็แล้วแต่ค่ะ แต่ต้องเช็ดให้สะอาดโดยสำลีสุดท้ายจะต้องไม่มีคราบเครื่องสำอางค์ติดอยู่ โดยการเช็ด ให้ใช้สำลีเช็ดแบบเบามือที่สุด ผิวหน้าต้องไม่ขยับยู่ไปกับสำลีนะคะ -Cleansing Foam (ผิวแห้ง) or Gel (ผิวมัน) ขั้นตอนนี้ถ้าสงสัยว่าในเมื่อเช็ดสะอาดแล้วทำไมต้องล้างหน้าด้วยโฟมหรือเจลอีกครั้ง ก็เพราะว่าที่เราเช็ดออกไปด้วยคลีนซิ่ง คราบสกปรกที่ติดอยู่ตรงปากรูจุมจน ยังไม่ถูกกำจัดออกไปในขั้นตอนนั้น จึงทำให้เราต้องมีการล้างหน้าให้สะอาดหมดจดต่อ โดยในขั้นตอนนี้ส่วนใหญ่ทั่วไปแล้วเราจะบีบโฟมหรือเจลลงบนฝ่ามือผสมน้ำแล้วถูอย่างเมามันบนใบหน้าเพื่อความสะอาดหมดจดหมดคราบใช่มั๊ยคะ แต่ว่าเรากำลังทำผิดมหันต์กับใบหน้าที่แสนจะบอบบางของเราค่ะ ซึ่งสิ่งที่ถูกต้องก็คือเราต้องล้างมือให้สะอาดก่อนที่เราจะทำการล้างหน้าตัวเอง โดยเราก็เอาโฟมหรือเจลที่เราจะล้างหน้าที่แหละค่ะมาล้างมือก่อน แล้วก็บีบใส่ปลายนิ้วมืออีกครั้งถูโฟมหรือเจลให้เกิดฟองนุ่มๆ ตรงนี้ถ้ามือไม่สะอาด มันจะไม่มีฟองนะคะ (แต่ถ้าใช้โฟมไม่มีฟอง ถูยังงัยก็ไม่มีฟองเนอะ) เมื่อเกิดฟองฟูอย่างที่ตั้งใจแล้วก็นวดเบาๆที่ใบหน้าของเรา ให้ฟองฟูๆ สัมผัสกับใบหน้าจนทั่วแล้วก็ล้างออก อย่าถูแบบรุนแรงนะคะค่อยๆ บรรจงนวดเบาๆ พอรู้สึกสะอาดแล้วก็ล้างหน้าออก เช็ดหน้าด้วยสำลีสะอาด หรือกระดาษทิชชู่ ไม่แนะนำให้ใช้ผ้าขนหนูเพราะว่าผู้สอนบอกว่าผ้าขนหนูก็คือแหล่งรวมสิ่งสกปรกนั่นเองค่ะ ไม่ใช่ล้างหน้าจนสะอาดแล้ว เราก็จัดการโปะสิ่งสกปรกอันใหม่ใส่เข้ามาอีกซ้ำ ประมาณนั้นค่ะ การเลือกใช้โฟมล้างหน้าเราต้องเลือกที่ ค่า pH 5.5± 5 นะคะ ถ้าเกินจากนี้ จะทำให้ผิวขาดความสมดุลได้ค่ะ วิธีทดสอบคือ เอาน้ำใส่แก้ว ใส่เกลือแกง(แทนความเค็มจากเหงื่อ) บีบโฟมลงไปแล้วคนให้ละลายจากนั้นใช้กระดาษลิสมัสจุ่มและวัดค่าค่ะ 2. ใช้โทนเนอร์ทุกครั้ง สงสัยหรือคัดค้านกันหรือไม่คะกับข้อนี้ (เราคนแรกที่ค้านว่าไม่เห็นต้องใช้เลย) แต่ว่าผู้สอนอธิบายว่า ถ้าเรารู้จักสังเกตเราจะเห็นว่าโทนเนอร์ มีราคาแพงกว่าครีมบางตัวเสียอีก แล้วก็ยังขายได้ ในเมื่อไม่จำเป็นทำไมต้องแพง (อันนี้เราไม่ได้สังเกตนะคะ) โทนเนอร์ จะทำหน้าที่เป็นตัวสุดท้ายที่ชำระความสกปรกบนผิวหน้าออกไปให้หมดอย่างล้ำลึกที่สุดค่ะและเป็นตัวเตรียมผิวหน้าของเราเพื่อรอที่จะรองรับครีมหรือโลชั่นที่เราจะใช้บำรุงผิวหน้าในขั้นตอนต่อไป มีคำแนะนำต่ออีกนิดนึงว่า โทนเนอร์ที่ดีต้องไม่ผสมแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ เนื่องจากโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะทำให้ความชุ่มชื้นของน้ำหล่อเลี้ยงผิวหน้าตามธรรมชาติถูกทำลายไปค่ะ 3. ทาครีม-โลชั่น บำรุงที่มี SPFแล้วแต่เราจะเลือกใช้ (เฉพาะกลางวัน) ครีม เหมาะสำหรับคนที่มีสภาพผิวหน้าแห้ง โลชั่น-เหมาะสำหรับคนที่มีสภาพผิวหน้ามันมากคะ 4. ทาครีมบำรุงก่อนนอน(เฉพาะกลางคืน) เพราะกลางคืนตามกลไกของการดูดกลืนวิตามินต่างๆ จากผิวตามธรรมชาติแล้ว ช่วงกลางคืนจะมีประสิทธิภาพดีที่สุด ดังนั้นครีมที่ใช้ทาก่อนนอนจะมีส่วนผสมที่บำรุงเข้มข้นกว่าครีมที่ใช้ทาช่วงกลางวัน
การดูแลผิวหน้าระหว่างสัปดาห์ การนวดหน้า ,Scrub ,การพอกหน้า ตรงนี้จับใจความได้ว่า เราควรทำภาระกิจเพื่อขจดเซลผิวที่เสื่อมสภาพแล้วออกไปบ้างเหมือนการขัดขี้ไคล ผิวหน้าก็ต้องการเช่นกัน ซึ่งให้นึกภาพว่า ถ้าหากเราปลูกต้นไม้มีใบไม้ตกอยู่ที่โคนต้นมากมาย และเมื่อเราจะใส่ปุ๋ย ปุ๋ยก็จะยังค้างอยู่ที่ใบไม้เหล่านั้น ทำให้ไม่สามารถให้อาหารกับต้นไม้ได้เต็มที่ ต้นไม้เปรียบเสมือนผิวหน้าของเรา ใบไม้ก็เปรียบเสมือนสิ่งสกปรก ปุ๋ยก็คือครีมหรือโลชั่นบำรุง ถ้าเราไม่ทำให้ผิวหน้าสะอาด พวกครีมหรือโลชั่นก็เข้าไปบำรุงได้ไม่ล้ำลึก (พอนึกภาพออกเลยใช่มะคะ) ก็อีกเช่นเคย การสัมผัสผิวหน้าไม่ควรแรงจนใบหน้าขยับนะคะ เพรานวดหน้าแค่กดจุดขมับ กกหู หัวคิ้วก็ช่วยให้ใบหน้าผ่อนคลายได้ส่วนหนึ่งค่ะ และหลังจากที่เรานวดหน้าเสร็จทุกขั้นตอนแล้วก็เอามืออุ่นๆ ของเราแปะลงเบาๆ ที่หน้า เราจะรู้สึกถึงความอุ่นของมือเราเอง และนี่ก็คือการผลักวิตามินเข้าสู่ผิวหน้าโดยที่ไม่ต้องไปซื้อเครื่องมือแพงๆใดให้เสียเงินเสียทองเลยคร่า
และแล้วก็จบด้วยการแต่งหน้าแบบเบสิค ที่ใช้แต่งในเวลาเร่งด่วน คือไม่มีการรองพื้นใช้แค่แป้งแข็งผสมรองพื้นธรรมดา ก็คิดว่าสาวๆ ก็คงแต่งการเป็นแล้วนะคะ สำหรับในอาทิตย์หน้าจะมีการเรียนรู้การวิเคาระห์รูปหน้า การแก้ไขใบหน้า และการแต่งหน้าแบบปกปิด ได้ความรู้และเคล็ดลับดีๆ จะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ
สำหรับวันนี้ขอจบเพียงเท่านี้คร๊า 0.0*
จากคุณ |
:
~@LuxSaNaRee@~
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ต.ค. 52 14:33:41
|
|
|
|  |