 |
ความคิดเห็นที่ 64 |
แต่ที่เราว่าแอบโหดสำหรับเราคือ Beverage หรือเครื่องดื่มนั่นเอง เพราะพวกอาหารหลักน่ะ ฝ่าย catering เค้าก็จัดมาให้เราอยู่แล้ว และเราก็มาเช็คๆและรู้ว่าอาหารมีอะไรบ้าง อะไรยังไงกันไป แต่เครื่องดื่มเราต้องเสริฟ์และทำให้สดๆร้อนๆ ณ เดี๋ยวนั้น แถมยังต้องจำเยอะด้วยเช่นกัน
นี่ขนาดเราต้องจำแค่ชั้น economy นะ เครื่องดื่มยังเยอะขนาดนี้ ไม่อยากจะนึกถึงพวกพี่ๆที่ทำชั้น business หรือ first class คาดว่าจำอ้วกเลยทีเดียว 5555
ลืมบอกไปว่าเราต้องจำพวก cart ต่างๆด้วยจ้า cart ก็จะมี meal cart (ใหญ่) , bar cart (เครื่องดื่ม จะขนาดเล็กลงมาครึ่งนึง) , clearance cart (สำหรับเก็บอาหารและเครื่องดื่มที่ทานเสร็จแล้ว)
ไอ้ bar cart นี่แหล่ะที่แอบยากนิดหน่อย เพราะเราต้องจำตำแหน่งต่างๆบน cart ให้หมด ซึ่งหลักๆบนนั้นก็จะมี น้ำผลไม้ น้ำเปล่า น้ำอัดลม เบียร์ เหล้า แอลกอฮอลล์ ไวน์ และไอ้ค็อกเทล ชิชิ
ที่จะมีปัญหาต้องจำหน่อยคือเรื่องเบียร์ ไวน์ และเหล้า
เบียร์ไม่อยากมากเพราะเราเสริฟ์แค่ Lager และ Peulsner คือแบบเข้มและแบบอ่อนนั่นเอง ส่วนใหญ่จะเป็นไฮเนเก้น แต่ไอ้เหล้ากับไวน์นี่สิ
ที่นี่เสริฟ์ไวน์ชั้นประหยัดด้วยจ้า.......มีไวน์แดงและไวน์ขาวอย่างสองแบบ คือแบบ New World และ Old World คือผลิตจากแถบใหม่ๆอย่างชิลี และ จากที่เก่าแก่อย่างฝรั่งเศสนั่นเอง ตรงนี้เราต้องจำทั้งวิธีการผลิตไวน์ ที่มา ไวน์แดง ไวน์ขาวตัวนี้ผลิตจากอะไร ที่ไหน แตกต่างกันตรงไหน แบรนด์อะไร กี่ปีแล้ว ใช้กินกับอาหารจำพวกไหนถึงจะดีที่สุด ความแรงกี่เปอร์เซ็นต์ และอื่นๆ เพื่อที่จะบอกให้ลูกค้าได้ เพราะเราต้อง treat ลูกค้าให้เท่าเทียมกันหมดแม้จะเป็นชั้นประหยัดก็ตาม ที่แตกต่างอย่างเดียวคือคุณภาพอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น
นอกจากนี้ก็มีเหล้า 4 อย่างคือ Vodka , Gin , Whisky และ Brandy ซึ่งก็เช่นกันที่ต้องจำยี่ห้อ แหล่งที่ผลิต ส่วนผลสม กรรมวิธีการผลิต อายุ ความแรง เป็นต้น
ส่วนเรื่องค๊อกเทลเองเราก็ต้องรู้ทั้งหมดเกือบ 20 อย่าง รู้จักชื่อ ส่วนผสม และต้องพร้อมที่จะผสมให้ลูกค้าได้ทันทีเมื่อเค้าสั่ง เช่นพวก Bloody Mary, Screwdiver , Tonic , Spritzer , บลาๆ อื่นๆมากมาย ที่ตอนนี้เราลืมไปหมดแล้ว ต้องมานั่งอ่านใหม่ก่อน 555555
แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 52 18:27:48
จากคุณ |
:
Sun Thou
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ต.ค. 52 18:18:22
|
|
|
|
 |