ความคิดเห็นที่ 1 ทาหน้าโดยเว้นตรงสิวอักเสบไว้น่ะค่ะ เพราะ retin A มันทำให้เกิดระคายเคือง จะยิ่งทำให้สิวอักเสบเข้าไปใหญ่ พอสิวอักเสบยุบก็ทาทั่วหน้าได้เหมือนเดิม จากคุณ : ยาธาตุน้ำแดง เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 10:51:01

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าสิวอักเสบขึ้นเยอะ  คงต้องไปหาหมอ เพื่อให้คุณหมอจัดยาที่ช่วยลดการอักเสบมาช่วยอีกทางนึงแล้วล่ะครับ จากคุณ : wisdom of social เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 11:20:05

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ใช่แรกๆก็มีอาการสิวเห่อแบบนี้นะ ต่อไปจะดีขึ้น คงต้องหายาแก้อักเสบมาทานด้วย สิวอุดตันที่เป็นอยู่ก็เป็นสาเหตุของสิวอักเสบได้ครับ ^^ จากคุณ : pangka เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 11:46:39

ความคิดเห็นที่ 4 ใช่ครับๆ สิวอุดตันบางเม็ดที่ไม่ยุบ จะกลายเป็นสิวอักเสบ เหอๆ ตอนนี้คงต้องทาซิกแซกๆ หลบสิวอักเสบไปใช่มั้ยครับ จากคุณ : Sympathique เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 11:58:34

ความคิดเห็นที่ 5 เคยใช้ค่ะ สิวอักเสบบุกมากมาย เลยหยุด ยอมเป็นสิวอุดตันดีกว่า 55. แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 52 12:12:00 จากคุณ : FakeOVER เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 12:11:15

ความคิดเห็นที่ 6 ไปอ่านเจอเลยเอามาฝากจ้า การใช้ Retin-A Retin-A    อาจเป็นยาวิเศษที่ทำให้คนหน้าใส ถ้าใช้เป็น (เพื่อนใช้เกือบทุกคน ผิวเนียนกิ๊กเลย) และอาจทำให้หน้าไหม้ ทำใช้ไม่เป็น ราคา 100 บาท วิธีใช้         ยาตัวนี้นั้นผมขอแนะนำให้น้องๆใช้เฉพาะ เวลากลางคืนนะครับเริ่มจากการล้างหน้าให้สะอาด แล้วเอาผ้าขนหนูสะอาดๆซับหน้าให้แห้ง ซับแบบเบาๆนะครับอย่าเช็ดหน้ากันแบบรุนแรงมากเกินไปนะครับ เพราะจะเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายพอซับหน้าแห้งแล้วก็รออีกสักสิบนาทีให้ผิวหน้าเราแห้งสนิทจริงๆก่อนใช้ Retin-A นะครับเพราะถ้าหน้ายังชื้นๆอยู่เวลาทายาไปอาจจะทำให้ระคายเคืองมากขึ้นได้นะ หลังจากนั้นก็บีบ Retin-A ออกจากหลอดสักขนาดเม็ดถั่วเขียวนะครับ ไม่ต้องบีบยาออกมาเยอะมากเกินไป เพราะผิวหน้าคนเรานั้นมีความสามารถในการดูดซับยาได้เพียงแค่ระดับหนึ่งเท่า นั้นเองถ้าบีบมาเยอะมากเกินไปก็เปลืองยาเปล่าๆ แล้วก็อาจทำให้ผิวเราระคายเคืองได้มากขึ้นอีกด้วยต่างหากจากนั้นก็แต้มยานี้ไปที่สามจุด แก้ม หน้าผาก แล้วก็คาง จากนั้นจากนั้นให้ใช้ปลายนิ้วนางหรือปลายนิ้วก้อยเกลี่ยยาเบาๆให้ทั่วผิว หน้าโดยเว้นบริเวณส่วนที่บองบางไว้เช่น ใต้ตา มุมปาก มุมจมูก ไม่ต้องไปทามันนะครับเดี๋ยวผิวจะลอกจนแสบเอาเปล่าๆ วิธีดูว่าเราบีบยาออกมาเยอะเกินไปไหมก็ดูที่ว่า เมื่อหนูทายาแล้วมันซึมไปหมดไหม ถ้าซึมไม่หมด มีคราบขาวๆเหลืออยู่ ก็แสดงว่าหนูบีบยาออกมาเยอะเกินไปแล้วล่ะ แล้วก็ถ้าไม่เคยใช้ Retin-A มาก่อน พี่แนะนำว่า หลังทายาเสร็จแล้ว สักยี่สิบนาทีก็ให้ล้างออกด้วยน้ำแล้วก็เข้านอนไปเลย ยังไม่ต้องไปทาครีมอะไรเพิ่มเติม แต่ถ้าเคยใช้มาบ้างแล้ว ผิวเริ่มปรับสภาพได้แล้ว ก็ให้ทาทิ้งไว้แล้วเข้านอนได้เลยพอเช้ามาก็ล้างหน้าให้สะอาดกันอีกครั้งนะคะ แล้วคราวนี้ก็ลงมอย์เจอไรเซอร์กันได้เต็มที่เลย จากนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ทาครีมกันแดดเลือกสักเอสพีเอฟ 30 เลยก็ได้สำหรับแดดบ้านเรา แต่ถ้าใครไม่ค่อยได้เจอแดดก็เลือกสักเอสพีเอฟ 15 ก็ได้นะคะ แค่นี้ก็เป็นอันจบขั้นตอนการใช้เรตินเอแล้วครับ ข้อควรระวังนะครับ 1. Retin-A มีความระคายเคืองสูง หน้าลอกกระหน่ำมากๆในช่วงที่ใช้ ดังนั้นไม่แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ประมาณว่า สามสี่เดือนก็ใช้สักอาทิตย์สองอาทิตย์ แล้วก็หยุดใช้แล้วอีกสามสี่เดือนค่อยใช้ใหม่แบบนี้จะดีกว่า โดยส่วนตัวของพี่เองหกเดือนพี่ถึงจะใช้สักสองอาทิตย์ครับ 2. ช่วงกลางคืนที่ทาเรตินเอ ไม่แนะนำให้ใช้ครีมอื่นร่วมด้วยเลย ถ้าจะใช้ครีมอื่นๆเช่นพวกมอยซ์เจอไรเซอร์ให้รอตอนเช้า ล้างหน้าเสร็จแล้วค่อยใช้ดีกว่านะครับ 3. ช่วงที่ใช้เรตินเอ ห้ามใช้ครีมใดๆที่มีฤทธิ์ลอกหน้าหรือผลัดเซลผิวเช่นพวก AHAทั้งหลายเลยนะคะ รวมไปถึงครีมที่มี salisylic เป็นส่วนประกอบทุกชนิดด้วยครับ 4. ช่วงที่ใช้เรตินเอ งดใช้เครื่องสำอางค์ที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่นะครับ โดยเฉพาะพวกโทนเนอร์ทั้งหลายแหล่นี่งดไปเลยครับ 5. กันแดดเป็นมิตรกับความหน้าตาดีครับ อย่าลืมใช้กันแดดทุกวันก่อนออกจากบ้าน แล้วถ้าระหว่างวันเติมกันแดดได้ก็เติมหน่อย อาจจะไม่สะดวกทาครีมกันแดดเพิ่มพี่ก็ขอแนะนำให้น้องๆเลือกใช้พวกแป้งตลับ หรือแป้งฝุ่นที่มีเอสพีเอฟตบเพิ่มระหว่างวันซักหน่อยแล้วกันนะ โดยเฉพาะคนที่ทำงานหน้าจอคอมอ่ะ แม้ไม่ได้เจอแดดโดยตรง แต่รังสีจากหน้าจอก็ทำร้ายผิวหน้าหนูได้นะครับ 6. ตรงไหนที่ผิวมีการอักเสบอยู่ เช่นเป็นหัวสิวบวมแดงเป่งอยู่ ห้ามทาเรตินเอนะครับ เพราะจะยิ่งทำให้บริเวณนั้นระคายเคืองมากขึ้น ให้ทาบริเวณนั้นด้วยยาฆ่าเชื้อเฉพาะที่จะดีกว่า แล้วก็ไม่ต้องล้างหน้าบ่อยไปกว่าวันละสองครั้งนะครับ เพราะน้ำมันตามธรรมชาติมันจะสูญเสียมากเกินไป เดี๋ยวหน้าแห้งไปแล้วมันจะแย่เอานะ ผิวแห้งเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผิวมันนะคร๊าบบ เครดิตเวป http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=14676.0 จากคุณ : กระปุกน้อย (nangnaja) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 12:11:17

ความคิดเห็นที่ 7 ู^ ^ ^ เดี๋ยว นะคะ เดี๋ยว นะครับ อ่านแล้วแอบสับสน ^^" จากคุณ : jimkong เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 12:29:45

ความคิดเห็นที่ 8 ^-^ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 13:32:57

ความคิดเห็นที่ 9 ทำใจ...เอ๊ยยย ไม่ใช่ค่ะ ตอนนั้นเราหยุดใช้ไปพักนึงก่อน เพราะกลัวมันจะยิ่งระคายเคืองอ่ะ รอให้หน้ามันดีขึ้นก่อน แล้วก็ ระหว่างนี้ก็เอา Clinda-m แต้มๆตรงสิวอักเสบไป ตรงไหนมันลอกเป็นขุยก็จัดการโบกครีม+วิตามินอี แล้วก็ใจเย็นๆ พอหน้าดีขึ้นแล้วค่อยจัดการต่อ เอ้อ แต่ถ้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องหน้าลอกหน้าแห้งหน้าแสบ ก็แค่เว้นตรงที่มันอักเสบ หรือทำท่าจะกลายร่างเป็นสิวอักเสบ แล้วทาเฉพาะจุดที่อุดตัน และตามเสต็ปเดิมแต้มๆ clinda-m ไปที่สิวอักเสบ สุดท้ายก็คือ ต้องใจแข็งห้ามไปบีบนะคะ เดี๋ยวยาว เหอๆ ขอให้หายเร็วๆนะคะ (แต่อย่างเร็วสุดก็ 1-2 เดือนล่ะค่ะ) จากคุณ : OnzSW102 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 14:30:21

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับคห.7 นั่นสิคะ เดี๋ยวครับ เดี๋ยวค่ะ แอบรำคาญนะเนี่ย เลยต้องตามลิงค์ไปเม้นซะหน่อย จากคุณ : Mara Jade เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 14:54:21

ความคิดเห็นที่ 11 คห6 คนเขียนคอลัมน์น่าจะเป็นผู้ชายแหละค่ะ แต่คิดว่าคอลัมน์นี้เค้าคงเอาไว้ให้น้องๆวัยรุ่น"ผู้หญิง" เค้าก็เลยติดพูด นะคะ กับน้องๆผู้หญิงล่ะมั้งคะ พอดีพี่ชายเราเป็นแบบนี้น่ะ :p จากคุณ : Cheriez เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 15:35:44

ความคิดเห็นที่ 12 ทาต่อไป ไม่ต้องหยุด  สิวอุดตัน มันกลายเป็นสิวอักเสบครับ เพราะ Ratin-A กำลังขับมันออกมา  Ratin-A มีคุณสมบัติ ยับยั้งการอักเสบติดเชื้อ แต่ตอนกลางวันก็ต้องทาแก้อักเสบตัวอื่นด้วย เช่น clindamycin, benzoyl peroxide จากคุณ : Adore เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 19:59:37

ความคิดเห็นที่ 13 ของเราใช้แล้วหน้าเน่าไปพักนึง สิวขีึ้นแบบแทบร้องไห้ ไม่อยากเจอคน ตอนนี้มีเม็ดสองเม็ดเอง จากคุณ : เลดี้มาเฟีย เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 21:06:15

ความคิดเห็นที่ 14 อันนี้จากประสบการณ์ตรงของเรานะ  ปีที่แล้วเริ่มเป็นสิวตอนเดือน มิถุนายน จากตอนแรกที่ไม่เคยเป็นเลย ตอนนี้อายุยี่สิบสามแล้ว  ขอบอกว่าตอนนั้นตกใจมาก แต่ก้อยังชะล้าใจไม่ทำอะไร คิดว่าคงหายไปเอง ยังคงทาวิตามินอีกต่อไป  อีกหกเดือนต่อมา มันก้อยังไม่หาย แถมเป็นมากขึ้น เครียดมาก อายด้วย ไปไหนก็มีแต่คนทักเรื่องสิว เรียกว่าเสียความมั่นใจไปเลย จึงตัดสินใจไปหาหมอ  ก็ได้clinda มาทากับ amoxy มากินสามเดือน แต่เราตัดสินใจไม่กินยา เพราะไม่ชอบอะ  พอทายาสิวหมด ก็ยังไม่ดีขึ้น เลยไปซื้อเรติน เอ มาทาเองซะเลย  หน้าแห้ง เหมือนคนหน้าไหม้อยูประมาณสองอาทิตย์ หลังจากนั้นจึงดีขึ้น ใช้ต่อมาอีกราวหกเดือน คราวนี้เกิดวิกฤตยิ่งกว่าตอนใช้ใหม่ๆอีก ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร  อาจจะเป็นเพราะเราทาหนาเกินไป  หรือว่าช่วงนั้นหน้าเราแห้งมากด้วย ปกติเป็นคนผ้วแห้งและเป็นภูมิแพ้อะ  คันตาบ่อย กลางคืนพดขยี้ตาเลยทำให้ยามันเข้าไปตรงเปลือกตาด้วย ขอบอกว่าตื่นมาตอนเช้า แสบมาก ทาครีมบำรุงอะไรไม่ได้เลย  ช่วงนั้นหน้าแดงไปทั้งหน้าเหมือนคนโดนแดดแล้วหน้าไหม้อะ  โดนทักตลอด ต้องใช้เวลานาน สามสัปดาห์กว่าจะดีขึ้น ระหว่างนี้เราเลิกทุกอย่าง ทาได้แต่โลชั่นเด็กที่หน้า ตอนนี้หน้าเริ่มดีขึ้น ไม่แดงแล้ว  สิวก้อหายไป เหมือนผ่านมรสุมในชีวิต แต่ยังคงไม่กล้าใช้ครีมอย่างอีกอยู่ดี  อุตส่าห์เล่าให้ฟังก็เพื่ออยากเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนที่เป็นสิว ว่าอย่าท้อ ต้องร่าเริงมั่นใจเข้าไว้ สิวมาได้ ก็หายได้ สู้สู้ จากคุณ : white dandelion เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:35:33