ความคิดเห็นที่ 1 เรามาเท้าความกันก่อน ว่ายาสลบคืออะไรกัน ยาสลบคือยาที่ทำให้สิ่งมีชีวิตสลบไงครับ ฮ่าๆ ถ้าจะเอาเบื้องลึกก็คือ ยาสลบนั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. General Anesthetic นี่คือยาสลบนั่นเอง ถ้าใช้แล้ว อาการที่บ่งบอกได้ว่าสลบแล้วมีหลักๆ 3 อย่าง คือ - Unconsciousness ไม่รู้สึกตัว - Loss of response & painful เสียการถูกกระตุ้นให้เจ็บปวดไป คือทำไงก็ไม่เจ็บนั่นแหละ - Loss of reflexes เสียระบบ reflex ไป คือนิ่งไปเลย ต่อให้แมงสาบมาไต่บนหน้าก็ไม่ตกใจ อ้าว แล้วถ้าใช้ต่อไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่มี 3 อาการนี้แล้วล่ะ ก็นอนครับ แต่นอนในโลงครับ ฮ่าๆ 2. Local Anesthetic ภาษาบ้านเราเรียกว่ายาชาเฉพาะที่ครับ โดยอาการคือ - Loss of sensation in body part คือความรู้สึกของร่างกายหายเป็นบางส่วนครับ - Without Unconsciousness ไม่สูญเสียการรู้สึกตัวครับ และ Reflex ต่างๆของร่างกายปกติครับ เอาล่ะครับ ได้พื้นฐานกันมาแล้ว ทีนี้เราจะมาเจาะกันถึงเรื่องมอมยา ซึ่งจากผู้เสีย หายอ้างว่า มึนหัว ขาชา ซึ่งจากอาการมึนหัวจะเจาะลึกได้ว่า ยาที่ Taxi ใช้ มีผล กับ สมอง ในทางที่ทำให้ไม่รู้สึกตัว ซึ่งยาที่มีผลกับสมอง (CNS) จะมีเพียงแค่ General Anesthetic เท่านั้นครับ ฉะนั้นเราตัด Local Anesthetic ออกได้เลยครับ   อ้อ CNS ย่อมาจาก Central Nervous System เป็นประสาทส่วนกลางที่อยู่ที่สมองครับ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 53 17:34:13 จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:33:24

ความคิดเห็นที่ 2 เอาล่ะ เมื่อได้เป้าหมายแล้ว เรามาดูกันว่า General Anesthetic นั้น เข้าไปร่างกายได้จากทางไหนบ้าง ยาสลบ(ขอเรียกสั้นๆนะครับ ให้เข้าใจว่า มันคือกลุ่มยา General Anesthetic นะครับ) เข้าไปในร่างกายได้ 2 ทาง คือ 1. ทางเส้นเลือดดำ (I.V. , Intra Venous) ฉีดยานั่นแหละครับ 2. ทางการสูดดม (Inhalation) ส่วนใครที่คิดว่า อ้าว แล้วแผ่นแปะล่ะ ยาป้ายล่ะ ผมขอบอกว่า มันไม่มีครับ ที่เห็นขายกันตามเวป คือหลอกลวงครับ ยาสลบไม่ใช่อะไรที่ใช้ง่ายขนาดนั้นครับ ถ้ามันมีจริงละก็ ท่านชายทั้งหลายก็ไม่ต้องจีบสาวแล้วครับ แปะปุ๊บได้ปั๊บเลยล่ะ อ่ะ ทีนี้ เราก็ได้ตัวการแล้วครับ มันคือยาสลบแบบให้ทางการสูดดม ใช่มั้ยครับ เพราะว่า ถ้าอยู่ๆ Taxi ทะลึ่งเอาเข็มปักเรา ผมคงไม่ตั้งกระทู้หรอกครับ ยิงทิ้งเลยดีกว่า ป่ะ เราไปดูกันมามันมียาอะไรบ้าง(ผมยกมาเท่าที่พอจะหาได้ในไทย) จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:35:13

ความคิดเห็นที่ 3 ยาสลบ แบบให้ทางการสูดดม 1. Halothane ตัวแรกครับ ตัวนี้ แม้ใช้ในขนาดต่ำ ก็จะมีฤทธิ์สูงมากครับ ซึ่งนอกจากจะกดการหายใจแล้ว ยังกดการทำงานของหัวใจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะด้วย พอได้รับไปแล้ว ฟื้นยากมากครับ เพราะ การขับทิ้งออกจากร่างกายจะใช้เวลานานพอสมควร ตื่นมา มีงงก่งก๊ง หรือ อาจจะไม่ตื่นเลย ถ้าโดนขนาดสูงเกินไป ** ตัวนี้ตัดออกเลยครับ ต่อให้เปิดกระจกด้านคนขับด้านเดียว ก็สลบครับ ตายยกคัน 2. Enflurane ตัวนี้ มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับตัวข้างบนครับ แต่ระยะเวลาการฟื้น จะไวกว่า และ สลบช้ากว่านิดๆ โอกาสเสี่ยงต่อไตก็ยังน้อยกว่า แต่ถือว่ามากอยู่ดีครับ อันตรายน้อยกว่าเมื่อกี้หน่อย อ้อ ยาตัวนี้อาจทำให้เป็นลมชักได้ครับ ** ตัดออกเหมือนกันครับ ตายยกคัน แถมอาการชักด้วยนะเอ้อ จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:36:13

ความคิดเห็นที่ 4 3. Isoflurane ตัวนี้ เป็นกลุ่มเดียวกะ Enflurane ครับ ตัวนี้ จะเป็นยาสลบที่นิยมใช้ในผ่าตัดผู้ป่วยที่มีอาการ Cerebral Ischemic ร่วม เนื่องจากเมื่อใช้แล้ว จะไม่มีอาการชักครับ แต่จะมีผลกับผู้ป่วย COPD (โรคเกี่ยวกับปอด) และระคายทางเดินหายใจ  ครับ 4. Desflurane & Sevoflurane เหมือนกับข้างบนทุกประการครับ เพียงแต่ว่า Desflurane onset & recover ไวกว่า Sevoflurane จะไม่มีอาการระคายเคืองทางเดินหายใจ **  ทั้ง 3 ตัวนี้ไม่มีขายในร้านขายยาทั่วไปครับ มีใช้ใน รพ. เท่านั้น การจะเอาออกมาต้องใช้เส้นสายหรือพลังมืดเพราะต้องเช็คสต๊อกตลอด ว่าใครเอาไปทำอะไร ที่ไหน กับใคร ซึ่งผมคิดว่า Taxi ไม่น่าจะมีได้ ส่วนพวกเส้นใหญ่ หรือ รวยๆ เค้าไม่จำเป็นต้องมอมใครครับ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 53 12:54:13 จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:36:53

ความคิดเห็นที่ 5 5. Nitrous Oxide ตัวนี้มักจะไม่ใช้ เดี่ยวๆ ครับเพราะฤทธิ์ค่อนข้างต่ำ จะใช้ในการนำสลบครับ(คือให้ดมก่อนใช้ยาสลบจริง) เพราะงั้นตัดออกไปได้เลย คงไม่มี Taxi คันไหนติด ไนตรัส นะ ฮ่าๆ 6. Ether ตัวสุดท้ายแล้วครับ อันนี้ขอเล่าแทนเลยละกัน ผมเคยทำแลปที่ทำเกี่ยวกับ cell มะเร็งเต้านมในหนูครับ พอทำเสร็จจะต้องฆ่าหนูทิ้ง ผมเป็นคนทำเอง โดยจับหนูใส่โหลใหญ่ประมาณ เกือบ20 ตัว แล้วเอา Ether ชุบสำลีเอาไว้(ไม่ใหญ่มากครับ) หย่อนลงไป ประมาณ 5 นาที ผลคือหนูตายยกโหลครับ (อาจดูโหดร้ายแต่จำเป็นครับ ปล่อยหนูไปไม่ได้) ** สำลีเดียวหนูเดี้ยงยกโหล ถ้าเป่าใส่แอร์ก็คงตายยกคัน - -* เพิ่มเติมที่ คห.39 ครับ Ether กลิ่นแรงมาก เรารู้ตัวก่อนชัวร์ครับ ถ้า Taxi นำมาใช้ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 53 12:00:11 แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 53 18:37:53 จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:37:26

ความคิดเห็นที่ 6 ครับ จบไปแล้ว ถึงการสรุปนะครับ การใช้ยาสลบนั้นต้องกระทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครับ เราเรียกผู้ที่ควบคุมการให้ยาสลบว่า วิสัญญีแพทย์ ลองคิดตามดูครับ ถ้ายามันใช้ง่ายขนาดนั้น ก็ไม่ต้องมีผู้ควบคุมก็ได้ครับ แปะเอา อังแอร์เอา มันไม่ใช่ครับ ยังไงๆ ถ้าคนขับใช้ คนขับก็ต้องโดนด้วยแน่นอนครับ ถึงเปิดกระจกด้านคนขับด้านเดียว ยังไงลมก็ต้องตีกลับมาหาคนขับอยู่ดี ยาสลบแรงๆมันใช้ได้ครับ แต่ว่ามันอันตราย ยิ่งอยู่ในรถ ยิ่งอันตราย มีโอกาส สลบคู่ รถชน แถมรอดอาจไม่ฟื้นจากฤทธิ์ยา กระทู้ที่ผมเขียนไม่ได้ตั้งใจประชดใครนะครับ ข้อมูลที่นำมาเขียนก็เอามาจากที่ร่ำเรียนมา(ตอนนี้ยังไม่จบครับ แค่อยากแบ่งปัน) อาจจะไม่แน่น เป๊ะๆๆๆ เหมือนคุณหมอ หรือ เภสัชกรตัวจริง แต่หวังว่าจะทำให้เพื่อนๆสาวๆในห้องนี้ได้เข้าใจ เพราะผมอ่านข่าวแล้วสงสาร Taxi ครับ เค้าก็คนทำมาหากินสุจริตเช่นกัน แต่กลับต้องเป็นเหยื่อให้คนบางคนปลุกกระแสตัวเอง อาจจะจริงที่บางคนบอกว่า กันไว้ก่อนดีไหม อาจจะเป็นจริงก็ได้ แต่ผมพูดจริงๆครับ โอกาสที่จะโดนมอมด้วยวิธีนี้ มีน้อยกว่าโอกาสที่ผมจะได้เป็นดาราซะอีกครับ ที่ควรระวังคือการโดนข่มขู่แบบ ชักมีดชักปืน หรือต่อยท้อง ลากเข้าที่เปลี่ยว ต่างหาก อันนี้ผมก็ขอร่วมประณามด้วยเลยครับ ดูตอนเวลาลงข่าวสิครับ ที่ก่อนหน้าดาราสาวจะโดน ที่มี ญ 2 คนอ่ะครับ อันนั้น ลงชื่อ Taxi ป้ายทะเบียน ที่อยู่ ครบ จริงอยู่คุณอ้างได้ว่าคุณกันไว้ก่อน แต่กว่าจะรู้ว่า Taxi ไม่ได้ทำ เค้าก็กลายเป็นฆาตกรไปแล้วล่ะครับด้วยสมัยที่สื่อขายข่าวเอาสะใจเข้าว่า สุดท้ายนี้ มีคนเค้าบอกว่า ถ้าผมตั้งกระทู้แบบนี้ รับรองโดนด่าเละกลับมาแน่นอน แต่ผมก็หวังว่า อาจจะมีคนเชื่อผมซัก 2-3 คนก็พอแล้วละครับ อ้อ ส่วนเรื่องนาตาลีนั้น ผมว่า เค้าจิ้ม BB แล้วเมารถครับ พอถามเพื่อน เพื่อนบอกให้ระวัง ทีนี้ยิ่งจิตตก ระแวงมากไป เรื่องเลยออกมาเป็นแบบนี้แหละครับ วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีคร้าบบบ จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:38:47

ความคิดเห็นที่ 7 การเขียนอาจจะไม่ได้สลักเสลาสวยงามอะไรนะครับ เพราะผมก็พึ่งเคย เขียนเป็นครั้งแรก ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:39:42

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณที่เอาความรู้มาแบ่งปันกันค่ะ จากคุณ : Bowling26 (Bowling26) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:47:40

ความคิดเห็นที่ 9 อืมม.... จากคุณ : kaewnam เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:47:57

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ ส่วนเรื่องนาตาลีนั้น ผมว่า เค้าจิ้ม BB แล้วเมารถครับ >>เออ เป็นไปได้ค่ะ..วันนี้นั่งรถเมล์ เห็นเด็กนั่งอ่านการ์ตูนก็ว่าน่าจะปวดตาแล้ว แต่มีผู้ชายคนนึง ยืนค่ะไม่ได้นั่งเหมือนเด็ก..และอ่านหนังสือคล้ายๆพอคเกตบุคอีก..ทำได้ไงนะเนี่ย....ตัวหนังสือก็เล็กมากๆด้วย ส่วนเรื่องนาตาลี เราตั้งกระทู้นั้นขึ้นมาเองล่ะค่ะ อ่านในไทยรัฐมา เลยอยากให้คนอื่นอ่านด้วย....ส่วนเรื่องสร้างกระแสหรือไม่นั้นขอ no comment ค่ะ จากคุณ : แจ๋ว อู่70 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:53:37

ความคิดเห็นที่ 11 อ้อ สร้างไม่สร้างผมไม่ได้สนใจครับ แค่แขวะเล่นๆครับ แค่อยากให้ทุกๆคน หาข้อมูลก่อนที่จะเชื่ออะไรกันครับ ^^ จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:56:13

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะ เอะใจตั้งแต่อ่านแล้ว แต่ไม่รู้จะพูดไง ไม่มีความรู้เรื่องยาสลบ แต่ส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่าจะมียาสลบอะไรที่ใช้ง่ายดายขนาดที่เค้าเล่าๆกันด้วยอ่ะ จากคุณ : ~นางสาวมารร้าย~อักษรานรี~ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:57:36

ความคิดเห็นที่ 13 อ้อ สร้างไม่สร้างผมไม่ได้สนใจครับ แค่แขวะเล่นๆครับ แค่อยากให้ทุกๆคน หาข้อมูลก่อนที่จะเชื่ออะไรกันครับ ^^ จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว   ==============================>เห็นด้วยค่ะ..เพราะเราเองก็ยอมรับว่าเป็นคนนึง ที่อ่านข่าวปุ๊บ ตกใจปั๊บ ตามด้วยเชื่อไปก่อน..เสร็จละมานึกๆๆ ว่าเออ เป็นไปได้แค่ไหนหนอ แล้วก็ตามด้วยหาๆๆข้อมูล... และก็ได้รับรู้ข้อมูลหลายอย่างอันมีประโยชน์....ขอบคุณ จขกท.หลายๆอีกครั้งเด้อค่ะ..อุตส่าห์พิมพ์ซะยาว... ว่าแต่แท๊กซี่มันเป็นแท๊กซี่แน่เหรอ จะไปไหนทีต้องโบกมากกว่า1 คัน พอบอกทางก็บอกไม่ไปๆ..เฮ้อ..เพ่บอกมาเลยดีกว่าว่าพี่จะไปไหน ผ่านทางที่หนูจะไป หนูขอนั่งไปลงนั่นด้วย.. - -' จากคุณ : แจ๋ว อู่70 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 18:10:27

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าจะสลบในรถแท็กซี่นี่ ควรจะเป็น คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) เพราะว่าจะรถใช้แก๊ส หรือรถใช้น้ำมัน (ยกเว้นรถไฟฟ้ามาหานะเคน) การจุดเชื้อเพลิง จะเกิด CO ออกมา แล้วถ้าหากระบบแอร์ หรือระบบระบายอากาศของรถไม่ดี ก็รับเอาควันนี้เข้ามาในรถ ซึ่งพอสูดดมนานๆ มันจะง่วงเองโดยอัตโนมัติ ที่ว่ายาสลบแท็กซี่ มันก็เจ้านี่แหละ และที่คนขัับไม่มีมีอาการ อาจจะเพราะเพราะเขาขับทุกวัน ร่างกายเขาเริ่มปรับตัวได้เลย อาการข้างเคียงจึงเกิดช้ากว่า จะให้ดี คุณผู้สาวแถวนี้ ลอง อ่านกระทู้นี้ นะครับนะ http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q8663923/Q8663923.html จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 18:14:23

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ ไปโพสในห้องสวนลุมก็ดีเหมือนกันนะค่ะ จากคุณ : guinsang เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 18:23:45

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณท่าน bbiggy ครับ อิอิ อุตส่า ตามมาจากเฮฮา อิอิ จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 18:25:46

ความคิดเห็นที่ 17 มาวันเสาร์ คนไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ โหวตไว้ก่อน เก็บเข้าคลังกระทู้ไว้แล้ว จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 18:35:28

ความคิดเห็นที่ 18 ในข่าวเห็นนาตาลีบอกว่า เห็นแท็กซี่ทาครีมอะไรก็ไม่รู้ที่มือ เอ่อ...ถ้ามันเป็นยาสลบจริง เราว่าแท็กซี่คงสลบตั้งแต่ครีมสัมผัสผิวหนังแล้วล่ะ จากคุณ : ^ คุณหนูคิขุจังจอมซน ^ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 19:18:12

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ ใช่ครับ ถ้า Taxi เอาป้ายมือจริง Taxi อาจจะสลบก่อนครับ แต่ไม่ใช่เพราะซึมเข้านะครับ แต่จะโดนไอจากการเปิดขวด หรือ ไอที่ระเหย บริเวณมือครับ แต่ก็อย่างที่บอกครับ มันไม่ได้ใช้ง่ายขนาดนั้น จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 19:34:23

ความคิดเห็นที่ 20 ชิอ๋ายล่ะสิทีนี้   ชั้นไม่มีบีบีใช้คงต้องเอา 3310 โทรบอกพ่อแม่ขายบ้านขายนามาซื้อให้ได้แชทบอก จส.100 ซะแระ ชีวิตหนูดาวอยู่ในกรุงเทพชักจะไม่ปลอดภัย พกบีบีไว้ อุ่นใจค่ะ (ตึ่ง โป๊ะ.) เราว่าพกโป๊ยเซียนไว้จะอุ่นใจกว่าค่ะ ยิ่งได้รุ่นทวินเทอร์โบยัดจมูกไว้ยิ่งปลอดภัยไม่ต้องดมยาสลบ : P เราเห็นด้วยกับ จขกท.นะ รู้สึกว่าตั้งแต่ FW-Mail เรื่องนี้มันระบาดผู้คนจะไม่มีใครเมารถกันเลยค่ะ โดนรมควันกันอย่างเดียว กรรมก็ไปตกที่แท๊กซี่ อยากให้สาวๆอ่านกระทู้นี้เยอะๆ ระวังตัวเอาไว้เป็นสิ่งดีค่ะสมัยนี้ภัยมันมีรอบตัวจริงๆได้ข้อมูลอะไรมาก็ใช้สติพิจารณาดีๆ(อย่าตกเป็นทาสโฆษณาแฝง 555 ข่าวนี้ขายได้ทั้งบีบีทั้งดารา) ขึ้นรถเดินทางไปไหนมาไหนก็มองดูผู้คนถนนหนทางเอาไว้ ไม่ใช่มัวแต่ก้มหน้ากดบีบีจนตาลาย ใครใครมีก็มี ใครใคร่ใช้ก็ใช้ ถ้าไม่เบียดเบียนใครก็ตามสบายเต็มที่ค่ะ แต่ขอให้ใช้อย่างมีสติก็แล้วกัน ^^ จากคุณ : นักคุ้ยกระบะ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 19:38:45

ความคิดเห็นที่ 21 เรื่องนาตาลี จริงๆแล้ว ไม่เชื่อค่ะ ครั้งแรกที่อ่านก็คิดว่าเหมือนสร้างกระแสจริงๆแหละ แหะๆ คงจริงว่าเล่นBBมากไปจนเมารถ แต่เรื่องยา อืม นะ ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ แต่จริงๆแล้ว มิ้นก็ไม่รู้ว่ามันมีหรือเปล่านะ แต่มิ้นเชื่อไว้ก่อนว่ามี เหมือนยาป้ายที่เคยมีข่าวว่าป้ายแล้วคนคล้อยตามถึงกะไปกดเงินให้เค้านั่นแหละ หลายฝ่ายออกมาพูดว่า ไม่มี หลายฝ่ายออกมายืนยันว่ามีโดนกันมาเยอะแล้ว เรื่องแบบนี้ถ้าเราไม่เจอเอง เราก็พิสูจน์ไม่ได้ (ถึงแม้จะทางการแพทย์ก็เถอะ ) เพราะคำว่าเทคโนโลยี่ มันพัฒนาเสมอ ดูอยางเวปใต้ดินสิ มีอะไรๆที่เราไม่รู้อีกเยอะ ไม่ได้อยากขัดแย้งนะคะ มิ้นไม่ได้เรียนทางด้านนี้มา ไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ แล้วก็เปนคนไม่ชอบกินยา เกี่ยวมั๊ยเนี่ย 555+ แต่มีคนใกล้ตัวมิ้น ใกล้มากๆ เจอตัวเป็นๆแทบทุกวันโดนยาป้ายมาสองคนแล้วค่ะ มิ้นเลยเชื่อว่ามันมีจริง ส่วนเรื่องแท๊กซี่ อันนี้ไม่เคยเจอ แต่ก็ขอไม่เจอแหละดีแล้ว เพราะมิ้นใช้บริการประจำ กลัวเหมือนกัน ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าจะมาเสียใจทีหลังค่ะ จากคุณ : ความทรงจำดี~ดี เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 19:46:41

ความคิดเห็นที่ 22 ผมไม่เคยได้ยินเรื่องยาสลบเป็นครีมทามือ เผยแพร่ใน FWD หรือการบอกเล่าทางใดแม้แต่ครั้งเดียว หรือใครเคยได้ยิน เคยได้อ่าน ก็กรุณาบอกให้ทราบด้วย แต่ผู้ที่อ้างว่าเคยรับรู้และกำลังจะเป็นเหยื่อนี้ กลับอ้างว่ารู้ และเพื่อนก็รับรู้... จนสามารถรอดจากเหตุการณ์มอมยามาไ้ด้... เรื่งนี้มีข้อสังเกตบางประการที่น่าสนใจครับ ข้อแรก ถ้ามั่นใจทำไมไม่แจ้งความ ข้อสอง เจ้าของเรื่องสนใจอริยาบทของแท๊กซี่ทุกอย่าง และกำลังใช้ BB คุยกับเพื่อน ทำไมไม่แจ้งเลขทะเบียนให้เพื่อนรู้ ทั้งที่เลขทะเบียนก็ติดอยู่ที่หน้าต่างนั่นแหละ ข้อสาม... ทำไมเรื่องนี้ไปลงในหน้าบันเทิงแทนที่จะเป็นข่าวธรรมดา สรุปเรื่องนี้ง่ายๆ ครับ คงไม่ต้องบอกหรอกนะ... จากคุณ : หมู4X เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 19:46:52

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณจขทกมากคะ จากคุณ : M-AgrO เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 19:47:41

ความคิดเห็นที่ 24 ^-^ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 20:39:53

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ให้ข้อมูล เห็นด้วยอย่างมากค่ะ ว่าเรื่องนี้คงเป็นการสร้างกระแสมากกว่า อ่านข่าวทีแรกเราตลกมากเลย ยังคุยกับที่บ้านว่าสงสัยจะเมารถเพราะแชท BB เคยทำแลบเกี่ยวกับสัตว์ทดลองมาเหมือนกันค่ะ และเห็นด้วยว่าไอ้ยาสลบแบบป้ายเนี่ย ไม่มีหรอก ถ้ามีจริง เวลาทำสัตว์ทดลองที คงสบาย ไม่ต้องมานั่งฉีด นั่งรมยากันให้เสียเวลา เสี่ยงต่อ over dose สัตว์ตายอีก ส่วนพวกยาสลบที่เจ้าของกระทู้ลิสท์มา ก็ไม่ได้ซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดนะคะ ขนาดเราจะเอามาทำการทดลอง เวลาจะจัดซื้อทีนึง ยังต้องผ่านตามระบบราชการเลยอ่ะ แบบว่าต้องระบุหน่วยงานให้ชัดเจน ว่าจะเอามาทำอะไร ที่ไหน อย่างไร แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 53 21:14:22 จากคุณ : b-butterfly เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 21:10:33

ความคิดเห็นที่ 26 เราคิดว่าอาจจะมึนพวกแก๊สอย่างคห. 14 ว่ามากกว่าค่ะ เพราะเราเองก็เคยเป็น มันทั้งมึน เวียนหัว แล้วก็ง่วง อยากจะลงไปอาเจียนมากๆ ทั้งที่คนขับ ก็ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ตอนนี้มึนกับชื่อเฉพาะที่ (ว่าที่) คุณหมอเอามาแบ่งปันมากๆ จำได้ยังไง เจอ G ตัวแรกก็งงแล้ว (แอบแซว) ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันนะคะ ^^ จากคุณ : ~บุลภรณ์~ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 22:04:14

ความคิดเห็นที่ 27 พูดถึง ether วันก่อนทำแลปสกัดสารกัน ไม่เข้มข้นมาก กลิ่นลอยไปลอยมาในแลปนิดหน่อย แต่เรากลับน๊อกกลางอากาศ ล้มตึงไปเลย มาตื่นอีกที..อ้าว..บ่ายแล้ว?? เกิดไรขึ้น 55+ จากคุณ : Missbunnyjung เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 23:18:30

ความคิดเห็นที่ 28 คุณรถม้า-ปาแอ่ว  มาจากห้องหว้ากอรึเปล่าคะเนี่ย เมื่อกี้เพิ่งเข้าไปเล่นในหว้ากอมาเห็นเป็นประเด็นกันใหญ่เลย  อ่านไปอ่านมาชักฮากับนาตาลีจริงๆ ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยเอามากระจายในห้องนี้ละกันนะคะ ปล. สาวๆห้องแป้งก่อนเชื่อ fw mail  ไปเสิร์ชหาตามห้องอื่นก่อนก็น่าจะดีนะคะ จากคุณ : jib_ak เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 23:22:31

ความคิดเห็นที่ 29 มีหลักการและเหตุผลมากค่ะ อย่างที่บอกถ้ามอมยาโดยอังยาไว้กะแอร์ สงสัยได้ตายหมู่ จากคุณ : skins fever เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 23:43:07

ความคิดเห็นที่ 30 ขนาดอ่านหนังสือบทรถเค้ายังจะไม่แนะนำให้ทำเลย แล้วนับประสาอะไรมานั่งจิ้ม BB ตัวมันใหญ่เท่า คีย์บอร์ด qwerty ในโน็ตบุคไหม มันอ่านง่ายไหม? ไม่ปวดตา ไม่เวียนหัวสิแปลก ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ น่าไปแปะห้องเฉลิมไทยด้วยนะ อิอิ จากคุณ : MzChewiize เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 00:00:54

ความคิดเห็นที่ 31 เราคนนึงที่นั่งแทกซี่มีอาการ แต่น่าจะเกิดเมาแก๊สที่เข้ามาในรถมากกว่าคะ เพราะอ่านจากในเวบพันทิพเลยคิดว่า เมาแก๊สแน่ๆ จากคุณ : hiyoko_j เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 00:40:59

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นข่าวแล้วสงสารแท็กซี่มากเลย ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ในเมื่อเป็นแท็กซี่ที่โทรเรียกจากศูนย์ ยังงัยก็ต้องตามตัวเจอได้อย่างง่ายๆ อยู่แล้ว ถ้าคนขับมีเจตนาร้าย จะใช้วิธีนี้ทำไมให้ถูกจับ แล้วถ้าสาวสวยคนนั่ง มั่นใจจริงๆ ทำไมไม่แจ้งความล่ะครับ แต่มาใช้วิธีปลุกกระแสแทน เห็นใจ คนทำมาหากินมั่งเถอะครับ จากคุณ : ตุ้ยอ้วน เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 01:24:51

ความคิดเห็นที่ 33 อิอิ พึ่งสอบไปเลย General anesthesia จากคุณ : อ่านแทบอาเจียน (พระแสงของ้าวมีดดาบกรรไกรหอก) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 03:01:07

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณทุกๆคนมากครับ ที่เข้าใจความปรารถนาดีของผมครับ ผมไม่ได้เหมาว่า Taxi ทุกคนจะเป็นคนดีทั้งหมด ดีก็มีไม่ดีก็มีครับ เพียงแต่ ว่า การหลอกลวงในลักษณะนี้มันเป็นไปได้ยากมากครับ ที่นี้ขอตอบคำถามจากคอมเม้นต่างๆครับ #คห.21 - การระวังตัวเอาไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ว่าหากระวังมากเกินไปอาจเป็นผลเสียต่อผู้อื่นได้ครับ ดั่งเช่นกรณีที่ผ่านมา ผมแนะนำว่า ถ้าไม่มั่นใจให้บอกให้ Taxi จอดรถ ถ้าไม่จอดให้โทรเรียกตำรวจเลยครับ เรามีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้นครับ ส่วนยาป้ายนั้น ไม่มียาป้ายตัวไหนที่ควบคุมถึงระดับจิตใจของผู้ถูกป้ายได้ครับ ^^ และใช่ครับ เทคโนโลยีมันพัฒนาเสมอ ผมพูดได้เลยว่า ถ้าใครคิดค้นยาสลบที่มีฤทธิ์ดีหรือสูง แต่ใช้ได้ง่าย และปลอดภัย ไม่ต้องไปขายใต้ดินครับ จดลิขสิทธิ์แล้วขายบนดินนี่แหละครับ รับรอง รวยเละครับ ไม่ต้องหลบๆซ่อน คห.25 - ใช่ครับ ยาประเภทนี้ ไม่ได้เอามาง่ายๆครับ คห.26 - ผมเรียนเภสัชศาสตร์ครับ แพทยศาสตร์เค้าเรียนหนักกว่าผมเยอะ แหะๆ คห.27 - ใช่ครับ อันตรายมาก ตอนผมใช้ สูดเข้าไปนิดเดียวยังแทบน๊อคครับ คห.28 - มาจากห้องหว้ากอหล่ะครับ พอดีว่า มันมีข่าวนี้ มา ผมจึงอยากเขียนอะไรซักอย่างในเรื่องนี้เพื่อให้เพื่อนๆรู้ว่ามันไม่จริงครับ จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 03:05:22

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าตามธรรมชาติ เห็นว่าไม่ดีแล้วทำไมไม่เปิดกระจกรถ เอาหน้าโกรกลมล่ะ ยังมัวมานั่งจิ้มบีบีอยู่ทำไม อีกอย่างตอนเรียกแท๊กซี่ ศูนย์เค้าน่าจะรู้แท๊กซี่ที่ไปรับทะเบียนอะไร แจ้งความได้สบายเลย ทำไมไม่แจ้ง หากมันเป็นจริงจะปล่อยให้ลอยนวลทำไมง่ะ เป็นภัยต่อบุคคลอื่น ขอนอกเรื่องอีกอย่างนึง ทำไมอะไรๆก็บีบี คือเราไม่ได้ทันสมัยอะไรมากมาย ยอมรับว่ารู้จักบีบีเพราะลูกแม่บ้าน รบเร้าจะเอาแบบเอาเป็นเอาตาย ทั้งที่เงินเดือนแม่หลักพัน ลูกจะเอาโทรศัพท์หลักหมื่น แม่ก็บ้าจี้ กู้เงินนอกระบบมาซื้อบีบีให้ลูก สองหมื่นกว่า อ๊ากส์ บ้าไปแล้ว  ด้วยเหตุผลว่า กลัวลูกไม่ทันเพื่อน ราคานี้ซื้อคอมดีกว่ามั้ย เห็นแล้วหดหู่ใจกับกระแสบีบีของเด็ก มากๆๆๆๆๆ จากคุณ : หมีน้อยเทวดา เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 03:44:14

ความคิดเห็นที่ 36 มาลงชื่ออ่านคะ จากคุณ : เซ็กซี่เพราะมีพุง เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 06:35:39

ความคิดเห็นที่ 37 ก็สงสัยมาตั้งนานแล้ว Taxi อะไรจะเทพขนาดนั้น ถ้าจริง taxi มันก็ต้องหลับด้วย หรืออย่างน้อยมันก็ต้องง่วง 1.ง่วงจัดๆแล้วไม่มี Rรม ทำอะไรหรอกน่ะ 2.จะขับรถได้ยังไง ง่วงขนาดนั้น ได้แอ้ม ได้ตัง แต่ไปตกถนน ตาย มันจะเอาไหมนะ นาตาลี เขาชอบเป็นข่าวอยู่แล้วด้วยไม่ใช่หรอ จากคุณ : siwarut เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 07:45:13

ความคิดเห็นที่ 38 อ้าวกำ นึกว่าเป็นคุณหมอซะอีกค่ะ -*- จากคุณ : ~บุลภรณ์~ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 08:14:31

ความคิดเห็นที่ 39 เราว่าสำหรับคน ether ไม่น่าถึงกับตายและสลบอย่างรวดเร็วนะ เราทำวิจัย ดมอยู่ทุกวัน มัน saturated อยู่ในอากาศ เรากับเพื่อนๆอยู่ในห้องทั้งวัน ก็ไม่เห็นจะสลบ หรือน็อกเลย ในแลปเรามันเป็น solvent purity สูงด้วย ไม่เห็นมีผลอะไรเลย แต่สำหรับหนู"อาจจะ"ทำให้ตายได้เพราะปริมาณที่รับเข้าไปต่อน้ำหนักตัวของหนูมากกว่าที่คนได้รับเข้าไป (แต่เราว่าสำลีเดียวมันไม่น่าตายอ่ะ อาจจะสลบไปเฉยๆนะ คุณ จขกท. แน่ใจใช่มั๊ยว่ามันตายอ่ะ ถ้าจะเอาให้ตายจริงๆต้องเอาหนูลงไปแช่ใน ether เลยนะ) ส่วนเรื่องที่แท็กซี่จะเอามาใช้เป็นยาสลบ เราว่ากลิ่น ether มันแรงมากเลยนะ มันจะผิดสังเกตไปรึเปล่า ปล.ตอบความเห็นด้วยความเคารพ จขกท นะ เราทำวิจัยอยู่ ดมอยู่ทุกวัน มันอดแย้งไม่ได้อ่ะ เราไม่ได้จะมาจับผิดอะไรนะ จากคุณ : เพราะเชื่อในทางเดินแห่งรัก... เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 09:19:59

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณที่สละเวลามาแบ่งปันความรู้นะคะ จขกท. เขียนได้อ่านง่าย และใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายดีนะคะ ไม่ยาวไปและไม่สั้นจนเกินไป บางครั้งอ่านบทความแล้วมึนๆ งงๆ กับศัพท์เฉพาะไปเลยก็มี สำหรับผู้หญิง การขึ้น taxi คนเดียว หรือไปไหนที่เปลี่ยวๆ มืดๆ ต้องกลัว ระแวง อันนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะข่าวทุกวันนี้น่ากลัวมากจริงๆ แต่สำหรับเราแล้ว กลัวแบบที่จขกท.ว่ามากกว่า คือกลัวโดนปล้น โดนจี้ โดนแบบมีอาวุธนะ จากคุณ : linsey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 09:31:03

ความคิดเห็นที่ 41 โหวตให้ด่วนค่ะ.... เฮ้อ  ถ้ามันเป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆ   คนจนๆแบบเราไม่มี BB  คงจะไม่รอดแล้วล่ะ T__T จากคุณ : Miss Plastic เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 10:00:32

ความคิดเห็นที่ 42 คาดว่า เมา BB แล้วโทษแทกซี่เองเหมือนกันค่ะ ตัวเล็กเท่าหอยมด จะไม่เมาได้ไง ฮ่วย! จากคุณ : * ซั ง ก า บ๊ ว ย * เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 10:27:53

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านตั้งนาน นึกว่าทา BB แล้วสลบ โธ่ ที่แท้ black berry จากคุณ : ^Bloody_Brownie^ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 10:34:29

ความคิดเห็นที่ 44 ความเห็นผมว่าที่ขึ้น taxi แล้วมึนหัวและบอกว่าโดนยาสลบเนี่ย แท้จริงแล้วคือ แก๊สที่รถ taxi ใช้ เผาไหม้แล้วเล็ดรอดมาตามช่องแอร์ ตามร่องต่างๆในรถ ผสมกับคาร์บอนมอนที่พ่นออกจากท่อไอเสีย จะเห็นว่ารถบางคันก็มีจุดที่ให้ก๊าสเหล่านี้เข้าได้ แต่ปริมาณที่เข้ามาจะน้อย  เมื่อนั่งไปสักพักจะรู้สึกมึนๆเวียนหัว แต่ไม่สลบนะ ยังไงก็ไมสลบ ส่วนใหญ่ผู้ญ จะโวยวายและขอลงก่อน ถามว่าทำไม taxi ไม่เป็น 1. เค้าเป็นผู้ชาย ภูมิต้านทานเค้ามากกว่าและสามารถทนรับแก๊สพิษเหล่านี้ได้มากกว่าผู้ญ ที่ไม่ค่อยได้สูดดมพวกนี้อยู่แล้ว 2. เค้าชินเพราะวันๆสูดแต่กลิ่นเหล่านี้ ส่วนถามว่ายาที่ทำให้ผู้โดยสารสลบโดยปล่อยไปในอากาศและ taxi  ไม่สลบนั้น  ไม่มีทางเป้นไปได้ครับ ล้านเปอร์เซนต์ จากคุณ : NAN_KUNG เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 11:44:01

ความคิดเห็นที่ 45 คห.39 อ่อครับ หนูตายจริงๆครับ อาจารย์เค้าบอกให้สังเกต ตาแดงๆของหนูอ่ะครับ ถ้ามันหายไปก็ใช้ได้แล้ว เดี้ยงยกโหลเลยครับ ที่ผมเขียนคือเป็นประสบการณ์ล้วนๆ ครับ ผมไม่ได้คิดว่าใครจะมาจับผิดหรอกครับ มีอะไรก็แย้งได้เลย ^^ (อันที่จริงผมคิดว่า มันอาจจะผิดบ้าง นิดๆ แหะๆ) แล้วจะแก้ไขให้ครับ จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 11:56:48

ความคิดเห็นที่ 46 เค้ามาสนับสนุน เรือ่ง ยาสลบด้วยคนครับ ไม่คิดว่า จะเอามาใช้ได้ เพราะมันควรจะมีผล กับคนใช้ด้วย อย่างทีบอก หลับทั้งค้น จากคุณ : gre_t2w เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 12:00:07

ความคิดเห็นที่ 47 จขกท.เรียนเภสัชป่าวอ่ะคะ เก่งจังเลย เห็นด้วยว่านาตาลีชีเมารถแวระแวงมากไปเลยคิดไปว่าคนขับจะทำมิดีมิร้าย จากคุณ : ^^ Arm LoVe xiAh ^^ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 12:24:26

ความคิดเห็นที่ 48 ผมรู้ว่ามี ญ บางคน ก็ยังคงปักใจเชื่ออยุ่เช่นเคยว่ามันเป็นยาสลบ โดยเฉพาะในห้องนี้ เดี๋ยวอีกวันก็มีคนมาตั้งกระทู้เรื่องแท็กซี่อีกเหมือนเดิมล่ะคับ ก็เลยอยากจะฝากสาวๆทั้งหลาย ให้มีวิจารณญาณมากขึ้นคับ ตอนนี้อาจจะระแวงไม่ใช่ระวังไปแล้ว ผมเห็นห้องหว้ากอก็พูดกันมาตั้งนานแล้วด้วยคับ แต่ก็ยังมีคนเชื่ออยู่ ว่าแท๊กซี่นั้นมอมยาจิงๆ ผมสงสารแท็กซี่ดีๆ ที่เขาไม่ได้ทำ แต่กลับโดนกล่าวหาในทำนองนี้บ่อยๆ โหวตโลดคับ จากคุณ : คุณชายตี๋น้อย เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 13:00:47

ความคิดเห็นที่ 49 เราก็สงสารแท๊กซี่ดีๆน๊า เห็นข่าวออกบ่อยโจรปล้นแท๊กซี่ ฆ่าตายบ้าง  งี้แท๊กซี่ต้องใช้บีบี ช่วยชีวิตตัวเองด้วยปล่าวน๊อ  จิ้มๆ  จิ้มๆ จากคุณ : chocolate_white เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 15:01:01

ความคิดเห็นที่ 50 สวัสดีหนุ่มลำปางค่ะ  (คนลำปางเหมือนกัน อิ อิ) เหมือนจำได้ว่า ปีที่แล้วห้องแป้งมีกระทู้แนะนำที่มีผู้หญิงคนหนึ่ง ถูก taxi ปล่อยยาสลบมาตามช่องแอร์ ก็มีคุณหมอวิสัญญีห้องกว้ากอมาให้ข้อมูลเรื่องนี้เยอะมาก (จำชื่อคุณหมอคนนั้นไม่ได้แล้วค่ะ ขอโทษจริง ๆ ) แถมคุณหมอยังพูดติดตลกด้วยว่า ถ้าทำได้ง่ายแบบนั้นจริง ๆ หมอคงตกงานไปแล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี  ๆค่ะ จากคุณ : ราศีตุลย์ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 16:06:02

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าผมจะเป็นแท็กซี่ แล้วจะฉุดนาตาลี จริง คงหยิบ BB อันนั้นปาใส่หัวให้สลบยังง่ายกว่า มานั่งบี้ยา ซะอีก ทำไมคนส่วนใหญ่ชอบคิดว่า การบี้ยาสลบตรงช่องแอร์มันทำให้มึนแล้วหลับง่ายกันทั้งนั้น ไม่เข้าใจ แท็กซี่เองก็ได้สูดอากาศในรถเข้าไปด้วยนั่น ถ้าจะหลับก็หลับทั้งคู่นี่ล่ะ ปล. สงสัยเมื่อวานผมจะโดนรมยาสลบแหละ ไปงานสังสรรค์กับเพื่อน กินเรด ตามปกติไปลิตรนึง ขากลับโบกแท็กซี่ คนขับเอามือมาปรับช่องแอร์หลายรอบมาก คิดในใจโดนยาแน่แล้ว มองไปมองมาพี่ท่านปรับเพราะกลิ่นเหล้ามันแรงนี่เอง 555 :P จากคุณ : อาจจะแก่ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 16:08:51

ความคิดเห็นที่ 52 เคยมั้ยเวลาขับรถแล้วร้อน ๆ มือเหนียว ๆ เปียก ๆ แล้วเอามือไปอังกับแอร์ พี่ Taxi แกก็คงจะอารมณ์ประมาณนั้นก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม มิจฉาชีพก็ยังมีแทรกซึมอยู่ในแทบทุก ๆ วงการอาชีพ พวกเราก็ต้องคอยระวังตนเองมิให้ตกเป็นเหยื่อค่ะ จากคุณ : ข้าวโพดซัง เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 16:33:36

ความคิดเห็นที่ 53 เคยได้ยินว่าการให้ยาสลบแบบดมนี่มันต้องใช้เครื่องแบบเครื่องช่วยหายใจไม่ใช่เหรอคับ ถ้าจะมาใส่แอร์รถหรือหยดใส่ผ้าเช็ดหน้าแล้วแปะจมูกแบบในละครนี่คงไม่มีมั้งคับ ลองคิดดูถ้าเอาผ้าเช็ดหน้ามาแปะจมูกแบบในละครนี่เราจะหายใจออกกันได้เหรอคับ จากคุณ : ว่าที่สจ็วต เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 16:56:54

ความคิดเห็นที่ 54 เรื่องแทกซี่มอมยาสลบนี่มีมานานหลายปีแล้วก็ยังไม่หมดไปเสียที เคยมีหลายกระทู้เค้าพิสูจน์กันไปแล้ว แต่ก็ยังมีมาโพสเรื่อยๆ แต่ก็ยังดีที่จำนวนคนทีปักใจเชื่อเริ่มน้อยลงแล้ว ส่วนตัวเราไม่เชื่อเรื่องมอมยา เพราะเราเคยเจอมากับตัว ตอนนั้นนั่งแทกซี่ไปสยามกับแฟน ปกติเราไม่ค่อยนั่งแทกซี่ไกลๆ แต่วันนั้นไปกับแฟนก็เรียกแทกซี่กันไป เรามึนหัวมากตอนที่นั่งอยู่ในรถ เราก็บอกแฟนนะ จริงๆในรถก็มีกลิ่นเหมือนแก๊สอยู่นิดๆ พอลงรถมาเรานี่มึนมาก แต่แฟนเราไม่เป็นอะไรเลย... ในกรณีนาตาลี เราไม่รู้ว่าข่าวนี้มันเกิดขึ้นจากวัตถุประสงค์อะไร แต่ว่าเราว่าเธอคงเมารถเพราะเล่นบีบี เพราะเราเคย ตอนนั้นซื้อมือถือใหม่ นั่งอยู่ในรถแฟน เราก็ดูเบอร์จากเครื่องเดิมแล้วก็นั่งเมม กดมือถือไปมา มึนหัวมาก แทบจะอาเจียนออกมา เราว่าเล่นมือถือในรถนี่แย่กว่าอ่านหนังสือในรถอีก จอก็เล็กๆ แบบนี้ไม่เรียกว่าบีบีช่วยชีวิต เราว่าบีบีทำให้เป็นเรื่องมากกว่า จากคุณ : kypsan เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 17:21:26

ความคิดเห็นที่ 55 ช่วงนี้อะไรก็ BB อ่านเเล้วรู้สึกช่วงนี้คนคงเห่อกันสุดๆ ถ้าสมมติโดนมอมยา ตกลง BB หรือ เพื่อนที่ช่วย อยู่ๆ BB สงสัยมันขึ้นมาเตือนเอง BB กำลังฮิตกลายเป็น BB ช่วยชีวิตไปซะงั้น ผมอ่านข่าวนี้เเล้วขำมาก เพราะนึกถึงกระทู้แนะนำของหว้ากอที่เขียนเสียดสีไอเรื่องมอมยาเนี่ย จากคุณ : Lick-My-L-Ball เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 17:38:26

ความคิดเห็นที่ 56 เอาง่ายๆ ขึ้นรถเมล์ เรายังง่วงเลย นั่งรถส่วนตัว เราก็ง่วง แล้วนั่งแทกซี่ ก็ง่วงได้ เราว่าอาจจะเป็นอาการง่วง แล้วฝืนไม่ให้ตัวเองหลับมากกว่า แล้วทึกทักเอาว่าแทกซี่มอมซะงั้น ถ้ามอมจริง พี่แทกซี่ไม่สลบไปก่อนหรอคะ เขานั่งดมมาก่อนเราตั้งนาน เรายังเห็นสาวๆบางคน หลับแล้ว อ้าขา อ้าปาก ซะขนาดนั้น เห็นแล้ว กลัวว่าเธอจะโดนลวนลามเหลือเกิน ที่ไหนๆก็มึนได้ ที่ไหนๆก็จะอ้วกได้ เนื่องจากเมารถ เมากลิ่นแก๊ส หรือ เมาควัันไอเสีย อะไรต่างๆ เราต่อต้าน fwd mail แทกซี่มอมยามานานมากแล้ว พยายามจะอธิบายให้เพื่อนๆทุกคน แต่ก็หาว่าเราขวางอีก เออ ดีเว้ย จากคุณ : Angel in Big City เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 18:18:05

ความคิดเห็นที่ 57 พี่ที่ออฟฟิศเราก็เชื่อเป็นตุเป็นตะเลยนะว่าโดนยังงั้นยังงี้ เราก็อธิบายว่ามันเป็นเพราะการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของรถ แล้วก๊าซคาร์บอนมันเข้ามา ทำให้ง่วง มึน วิงเวียน เค้าก็เถียงแบบมั่นใจ    ไอ้เรามันผู้น้อย  เดี๋ยวจะหาว่าสอน เลยเงียบดีกว่า ปล่อยแมร่งงมโข่งต่อไป คาร์บอนอ่ะเราเจอมาเกือบตายเพราะก๊าซบ้าเนี่ย ซ้อนมอไซค์แฟนตอนรถติดอ่ะ   ไม่ถึง 2 นาที เราหลับเลยนะ หลับแบบไม่แคร์สื่อ  วูบเลย  แฟนเราก็ตกใจ รถเกือบล้มแน่ะ ล้มไปตายแน่ มันก็จอดแล้วหันมาปลุกเรา ตบๆๆๆ(หาโอกาสมานานมั้ง 555) พอเราตื่นก็ง่วง  จะหลับให้ได้ มันต้องจอดรถเรื่อยๆ  คอยปลุกเรา ทั้งเขย่า   ตบเบาๆ ตีๆๆๆ  ยังไงก็ขอหลับอ่ะ พอถึงที่หมายอากาศถ่ายเทสะดวกเราก็ตาใสปิ๊งเลย 5555 แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 53 18:54:12 จากคุณ : โมจิไส้หนำเลี๊ยบ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 18:51:30

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณมากค่ะ   ใครที่บอกว่า บีบีช่วยชีวิตนี่  ฮืม  ถ้าบีบีแบตหมดก็ช่วยไม่ได้นะคะ เราขึ้นรถก็จะโทรบอกเพื่อน ว่า เออ อยู่บนแท็กซี่แล้ว ตอนนี้อยู่ตรงแถวไหน อีกกี่นาทีถึง  พูดดังๆ ให้คนขับแท็กซี่ได้ยิน  อิอิ  (เป็นการข่มขวัญ) จากคุณ : i_am_ami เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 19:12:15

ความคิดเห็นที่ 59 เห็นด้วยค่ะ ไม่เคยเชื่อเรื่องข่าว การมอมยามานานแล้ว ได้อ่านข้อเท็จจริงวันนี้เสียทีค่ะ จากคุณ : chocolate chip cookies เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 19:55:28

ความคิดเห็นที่ 60 เราก็เป็นคนนึงที่เวลาขับรถแล้วชอบทาครีมที่มือ เพราะโดนแอร์แล้วมือมันแห้ง..-*- ... บางครั้งก็เพราะแอร์เวลาเปิดแล้วรุ้สึกผิวแห้ง เลยดื่มน้ำ.. เอ๊า กำจิง..เราจะกลายเป็นคนวางยาสลบคนในรถรึป่าวเนี่ย... จากคุณ : คุณหนูล้านนา เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 21:45:51

ความคิดเห็นที่ 61 6. Ether ตัวสุดท้ายแล้วครับ อันนี้ขอเล่าแทนเลยละกัน ผมเคยทำแลปที่ทำเกี่ยวกับ cell มะเร็งเต้านมในหนูครับ พอ ทำเสร็จจะต้องฆ่าหนูทิ้ง ผมเป็นคนทำเอง โดยจับหนูใส่โหลใหญ่ประมาณ เกือบ20 ตัว แล้วเอา Ether ชุบสำลีเอาไว้(ไม่ใหญ่มากครับ) หย่อนลงไป ประมาณ 5 นาที ผลคือหนูตายยกโหลครับ (อาจดูโหดร้ายแต่จำเป็นครับ ปล่อยหนูไปไม่ได้) ^ ^ ^ ทำไมต้องฆ่าด้วยคะ อยากทราบจริงๆ จากคุณ : landmee เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 22:50:01

ความคิดเห็นที่ 62 จากประสบการณ์ที่เคยเป็นคนไข้เข้ารับการผ่าตัด และต้องวางยาสลบมาก่อน ขอคอนเฟิร์มว่า มันเอามาปล่อย ๆ พ่น ๆ ในรถโดยที่คนขับไม่สลบไปด้วยไม่ได้หรอกค่ะ  เพราะขนาดจะวางยาเราให้หลับยังต้องมีหน้ากากครอบเลย เพื่อควบคุมให้หายใจเอายาสลบเข้าไปจริง ๆ  - -'' แล้วคิดดูว่าจะต้องปล่อยยาในรถเยอะขนาดไหนถึงจะทำให้คนในพื้นที่กว้างขนาดในรถสลบได้  คนขับมันไม่ง่อยไปด้วยเรอะ ตรองดูดี ๆ เถิดสาว ๆ จากคุณ : JingXi เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 23:00:18

ความคิดเห็นที่ 63 เราคิดว่าที่นาตาลีง่วงเป็นเพราะก๊าซคาร์บอนมันเยอะมั้งคะ แท็กซี่เก่าๆ ควันมันซึมเข้าไปในรถ ยิ่งแอร์ไม่ดีอีกต่างหาก พอเราสูดเข้าไปก็ได้รับออกซิเจนไม่พอ  เหมือนคดีที่สตาร์ทรถเปิดแอร์ทิ้งไว้แล้วหลับตายทั้งครอบครัว ซึ่งคุณคนขับเค้าชินกับสภาวะออกซิเจนน้อยแล้ว(ก็รถเค้า) เลยไม่รู้สึกอะไร จากคุณ : โยธิกาหน้าหนาว เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 23:27:19

ความคิดเห็นที่ 64 ตอบ คห.61 ครับ มันเป็นหนูที่เลี้ยงขึ้นเพื่อการทดลองโดยเฉพาะครับ จะเป็นหนูขาว ถึงปล่อยมันไป มันก็ตายอยู่ดีครับ เพราะมันจะหากินและเอาตัวรอดไม่เป็นครับ เผลอๆถ้าหนักกว่านั้น ดันไปผสมกับหนูที่อยู่ตามธรรมชาติ(ปกติหนู หื่นมากครับ ฮ่าๆ) เกิดกลายพันธุ์ ขึ้นมา ดันโหดกว่าเดิม อึดกว่าเดิม อายุยืนกว่าเดิม บลา บลา บลา ล้างบางหนูตามธรรมชาติไปหมด ทีนี้ บรรลัยเลยครับ ถึงโอกาสจะเกิดน้อยมาก แต่ว่าไม่เสี่ยงจะดีที่สุดครับ เลยต้องฆ่าทิ้งให้หมดครับ ^^ จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 23:58:02

ความคิดเห็นที่ 65 ปีที่แล้วคนห้องแป้งยังรุมด่าคนหว้ากอที่เอาความรู้เรื่องยาป้ายไม่มีจริงมาบอกอยู่เลย มาปีนี้กลับแทบไม่มีเลย แสดงว่าที่ยอมโดนด่านี่ได้ผล 5555 ตอนนี้กำลังพยายามกับคนเฉลิมไทยอยู่ บางคนโดนแช่งให้แม่พี่สาวน้องสาวหรือตัวเองโดนข่มขืนด้วย ไม่รู้จะคุ้มไหม...... แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 53 01:42:47 จากคุณ : HotSmile เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 01:41:06

ความคิดเห็นที่ 66 ไม่เชื่อตั้งกะเห็นข่าวแล้ว แม่เอามาให้อ่าน บอกให้เราระวังตัว เราอ่านแล้วเราก็อธิบายแม่ ตามที่เคยอ่านในหว้ากอบ้าง หมอแมวบ้าง ดูแล้วแม่ก็ยังไม่ปักใจ และเราก็คิดว่ามีคนที่ไม่เข้าใจอีกเยอะ พยายามกันต่อไป! * ที่จริงมันก็ตรรกะง่ายๆนะ คนขับแท็กซี่ก็คน ต้องหายใจเหมือนกัน ไม่ได้สังเคราะห์แสงเลยมีชีวิตซักหน่อย ที่จะเป่าลมไปทางผู้โดยสารแล้วตัวเองไม่เป็นอะไร หุหุ - -* จากคุณ : drenched เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 09:17:02

ความคิดเห็นที่ 67 ฮ่าๆๆ .... ขอหัวเราะดังๆ ให้กับการวางยาโดยเมารถเพราะจิ้ม บีบี อนิจจา !! สาวน้อย ....เธอช่างกล้าคิด ปีที่แล้วเราก็โดนด่าเรื่องไม่เชื่อ FWD ตอนนี้คิดว่ามันคุ้มจริงๆ ที่โดนด่าเมือ่ปีที่แล้ว จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 12:17:16

ความคิดเห็นที่ 68 เราเคยจิ้ม iphone ส่งข้อความหาเพื่อนตอนอยู่บนแท็กซี่ แล้วเมารถ พอเมารถสักพักก็เหมือนจะง่วงๆ แท็กซี่ก็กลิ่นแก๊สผสมกลิ่นอับ -*- ต้องควักโป๊ยเซียนขึ้นมาดมจนถึงบ้านเลย แหะๆ จากคุณ : Arcady เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 12:26:33

ความคิดเห็นที่ 69 ที่ว่าคนขับแทกซี่หยิบครีมมาทามือ เค้าอาจจะทาแฮนด์ครีมก็ได้ จากคุณ : Pon Pon Pata Pon! เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 12:56:29

ความคิดเห็นที่ 70 แบบในหนังที่ตัวร้ายเอายาสลบใส่ผ้าเช็ดหน้าแล้วปิดปากปิดจมูกนางเอก แล้วนางเอกก็สลบไป หลังจากนั้นก็.......................... พระเอกมาช่วยทันพอดี 5555 แบบที่ทำให้สลบในหนังทำได้จริงหรือเปล่าค่ะ จากคุณ : ขอเอี่ยวด้วยคนน่ะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 13:14:47

ความคิดเห็นที่ 71 นึกว่าครีมบีบีเกาหลีซะอีก อิอิ จากคุณ : เลดี้ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 14:44:33

ความคิดเห็นที่ 72 แอบฮา จิ้ม BB จนเมารถ เราว่า อันนี้ เป็นไปได้ จากคุณ : SuPerHyPerOverUltraGLUE เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 14:46:18

ความคิดเห็นที่ 73 สมัยละอ่อน เรียนแลปเจเนติก ต้องรมอีเทอร์ให้แมลงหวี่ในทิ้ว ดันทำกันในห้องแอร์ปิดหน้าต่างมิด พอสรุปแลปท้ายคาบ นิสิตพร้อมใจกับเข้าเฝ้าพระอินทร์โดยไม่ได้นัดหมายทั้งเซต  แต่อ.ไม่หลับเพราะตอนรมอีเทอร์อ.ไปเม้าท์อยู่นอกห้อง จากคุณ : *+*ข น ม ผิ ง ข้ า ง เ ต า*+* เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 14:51:31

ความคิดเห็นที่ 74 ขนาดผมนั่งดูรูปจากกล้องดิจิตอล ยังเมาหัวทิ่มเลย จากคุณ : buda เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 16:38:31

ความคิดเห็นที่ 75 เราว่าแอบแฝงโฆษณา เหมือนพ่อคุกกี้ยังไงก็ไม่รู้สิ (ความเห็นส่วนตัวจ้า) ^_____________^ จากคุณ : nongmuayka เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 17:45:46

ความคิดเห็นที่ 76 อันนี้เราขอบอกจากประสบการณ์ตรงของญาติเรานะคะ บอกก่อน เราเรียนแพทย์ค่ะ แต่เรื่องยาสลบของวิสัญญีนี่มันเฉพาะทางมากๆเลย (ผ่านมาได้ด้วยเกรดขำๆ) แต่พี่สาวเราเรียนวิสัญญีค่ะ อาของเราสองคนเคยไปธุระซื้อตั๋วที่หัวลำโพง ออกมารอรถแท็กซี่ ก็มีคนมาคุยๆด้วย เหมือนเอามือมาแตะๆที่ข้อศอกนิดเดียวเอง อาเราจำอะไรไม่ได้เลย รู้สึกว่าเขามาถามทาง เป็นผู้ชายแต่งกายดีงงๆ รู้ตัวอีกทีมานั่งที่ที่นั่งในหัวลำโพงค่ะ และสร้อยทองคำหนักห้าบาทหายไปจากคอ อาถามคนแถวๆนั้น มีคนเห็นว่าอามานั่งคุยกะเค้าแบบสนิทสนม แป็บนึงอาก็ถอดสร้อยคอให้เขาไปเลย ตอนสุดท้ายยังบ๊ายบายให้อีก อามั่นใจว่าโดนป้ายยาแน่ๆ(มีช่วงเอามือมาลูบๆ) เพราะอาบอกว่าง่วงมากๆ เบลอๆไปหมด เรากะพี่งงมากค่ะ บอกตรงๆ พี่เราถึงกะพูดว่า ถ้าหายาแบบนี้ได้ พี่คงดมยาสบาย ไม่ต้องบล็อกหลัง ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากแบบทุกวันนี้ และยาที่รู้จักมา มันก็ไม่น่ามีตัวไหน มีฤทธิ์ได้แบบนี้อะค่ะ ก็เลยคิดกันว่า น่าจะมีการใช้ยาจริง(ยาไรไม่รู้ละ)แต่คงต้องอาศัยอย่างอื่นด้วย จิตวิทยา หรือ สะกดจิต น่าจะเป็นไปได้มากกว่า ประสบการณ์ส่วนตัว จะเชื่อหรือไม่ก็ได้นะคะ จากคุณ : น้ำฝนหยดอ้วน เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 18:35:49

ความคิดเห็นที่ 77 โหวตให้ค่ะ เราว่าเรื่องที่นาตาลีให้ข่าวนี่เหลวไหลมาก ไร้เหตุผล หลักฐานก็ไม่มี แถมยังเป็นการกล่าวหาผู้อื่นอีก(คนขับ) ขอให้เรื่องนี้ได้ออกทีวีมั่ง คนทั่วไปจะได้รู้ซะที ว่ามันไม่มีจริง ทั้งแท๊กซี่มอมยาและยาป้ายรูดทรัพย์นี่ เซ็งจะแย่อยู่แล้วเวลาได้FWMail อยากให้คนไทยฉลาด ไม่หลงงมงาย มีเหตุผลมากขึ้น จากคุณ : นางเอกหนังไทย เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 19:32:24

ความคิดเห็นที่ 78 มีหมอออกมาบอกหลายครั้งแล้วว่า ไม่มียาสลบที่แท็กซี่จะมาใช้เป่าผ่านแอร์ได้ โดยที่คนขับไม่เป็นอะไร  แต่คนก็ยังไม่ค่อยเชื่อ  แต่กลับเชื่อ FW.mail ที่ใครเขียนขึ้นมาก็ไม่รู้ ข้อมูลที่อาจไม่มีใครรู้กันคือ กลุ่มองค์กรแท็กซี่ในไทยได้ร่วมมือกับองค์การนาซ่า คิดค้นยาสลบตัวใหม่ขึ้น และส่งให้กับคนขับแท็กซี่ในไทยได้ใช้ทดสอบ  โดยที่กลุ่มแพทย์และเภสัชกรก็ยังไม่รู้จักยาสลบตัวใหม่ที่ว่านี้ จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:27:56

ความคิดเห็นที่ 79 ตอนแรกที่ได้ยิน คิดว่าโอกาสเป็นไปได้น่าจะเป็นEtherไม่ก็ COที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ Etherนี่ จะทำให้สลบต้องโป๊ะเน้นๆนานๆไม่ได้สลบง่ายนัก แถมกลิ่นแรงมหันต์ สำหรับเรา ค่อนข้างชินชาเพราะใช้ในแล็ปบ่อย อิอิ^^ อาจารย์เคยเล่าว่ามีนักเคมีไปผ่าตัด แต่วางยาสลบแล้วไม่สลบ -*- ดังนั้นควรแจ้งแพทย์ก่อนว่าเราทนทาน ฮ่าๆ จากคุณ : ~*-BiNGU BUNNY-*~ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:29:14

ความคิดเห็นที่ 80 เห็นด้วยว่าEtherกลิ่นแรงมากๆ สมัยเป็นวัยรุ่น เราทำแลบเลี้ยงแมลงหวี่ จะต้องแยกลักษณะต่างๆของแมลงหวี่(เช่น ตาแดงปีกโค้งมีกี่ตัวไรงี้) ก็ต้องใช้etherเพื่อ"ทำให้มันสลบ"ก่อนค่ะ ก็ใช้สำลีจุ่มetherแล้วโยนไปในกล่องเลี้ยงแมลงหวี่ ซึ่งตอนเราทำก็รู้สึกเหม็น แต่ซักพักก็ชินอ่ะค่ะ(มันอาจจะปริมาณน้อยด้วย) จำได้ว่าเดินผ่านห้องแลบนี้ทีไร ก็ได้กลิ่นetherตลอด แต่อย่างที่บอก ชิน ค่ะ (((อ.เราเคยแซวว่าดมมากๆเป็นหมันนะ))) จากคุณ : Myguidingstar เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 22:15:58

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ จากคุณ : landmee เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 22:22:40

ความคิดเห็นที่ 82 วันนี้เพื่อนผมก็โดนครับน่ากลัวมากๆ เหตุการณ์จริงสดๆร้อนๆเลยนะ พอดีวันนี้ผมนัดเจอเพื่อนคนนึงแต่เค้ามีธุระตอนเช้า ไม่แน่ใจว่าเลิกกี่โมง เลยบอกว่าเดี๋ยวเสร็จธุระแล้วจะนั่งแทคซี่มาหาแถวบ้านเอง ผมก็ไม่ได้คิดอะไร จนโทรศัพท์ดังมาแล้วเค้าบอกว่าแทคซี่ ที่นั่งมามีบางอย่างผิดปกติ ตอนนี้อยู่บริเวณนี้ๆ จะหาทางลงแล้วช่วยรีบออกมารับหน่อย   ยังโชคดีที่ผมรีบออกไปแล้ว เจอตัวทันที  เลยพาเพื่อนกลับมาได้ อาการเพื่อนตอนนั้นแบบว่ามึน ปวดหัวมากแทบจะไม่ได้สติ แต่ยังพูดจาตอบโต้ได้อยู่ แต่คือเค้ามึนแบบลืมตาไม่ขึ้น เดินไม่ไหวไปเลย เดินทีล้มทีอะครับ ผมจะพาไป รพ. เค้าก็ยังมีสติพอจะดุผมอีกว่าไม่ไป รพ. ผมเลยต้องขับพามาให้นอนพักที่บ้าน  คืออาการคร่าวๆ เหมือนคนเมาเหล้า แบบหนักๆ ปวดหัว คลื่นไส้ ไม่ค่อยได้สติ แล้วเหมือนตาจะพร่ามองอะไร ไม่ค่อยออกด้วย พอดีผมพอรู้จักคุณหมออยู่บ้างเลยโทรไปหาท่านว่า จะปฐมพยาบาลเพื่อนยังไง คุณหมอก็ถามว่า เค้าโดนมอมมาแบบไหน แค่สูดดมจากแอร์ หรือว่ามีเอายามาป้ายตัว/ให้ทานด้วย ถ้าแค่สูดดมมา ก็ให้ทานน้ำเยอะๆ แล้วนอนพัก เดี๋ยวตื่นมาก็จะขับพิษ ออกมาเองทางปัสสาวะ ไม่น่ามีอาการอะไรน่าซีเรียส ผมก็เลยให้เพื่อนทานน้ำ กับ นอนพัก นอนไปเป็นชั่วโมงๆ อะครับกว่าจะฟื้นแล้วคือเค้าบอกว่าเค้าจำอะไร ไม่ได้เลย   แม้กระทั่งตอนที่ผมไปรับเค้าก็บอกว่าเค้าจำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ว่าตอนนั้นคุมสติดุแทคซี่จนมันจอดให้ลงมาได้ แล้วเค้าก็เดิน ไปหาที่นั่งพักแล้วก็บอกว่าหลังจากนั้นมึนจนจำอะไรไม่ได้เลย [ผมยังตกใจ ว่าตอนที่ขึ้นรถมากับผมนั่นก็ไม่รู้ตัวแล้วนะ] พอเค้าเริ่มโอเคขึ้นแล้ว ก็เลยถามๆว่า ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างว่า แทคซี่คนนั้น ทำตามแบบที่เราเคยอ่านๆ กันใน Fwd Mailเลย พอขึ้นนั่งไปสักพัก ก็เริ่มมือไปแตะๆ หน้าปัดแอร์ แล้วปัดให้หันมาทางที่เพื่อนผมนั่งตัวเองยกน้ำ ขึ้นดื่ม แล้วมีเปิดกระจกรถนิดๆ แล้วก็เริ่มขับรถออกไปทางแปลกๆ โดยอ้างว่า มีทางลัดทั้งที่เพื่อนผมเค้ารุ้ทางแถวนั้นดี เค้าก็รู้ว่าทางที่มันพาไปมันไม่ใช่ ทางลัดแน่ๆ  ก็เลยจะขอลง แทคซี่มันก็อิดออด เหมือนว่าจะลงทำไมล่ะ อย่างน้อยขอไปยูเทิร์นรถส่งฟากนู้นก่อน เพื่อนก็แบบตั้งสติทำเสียงดุใส่ว่าจะลง มันเลยต้องจอดให้ลง แล้วคือหลังจากนั้นเพื่อนผมก็น๊อคไปเลย ผมยังเพิ่งอ่านข่าวของนาตาลีไปเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ไม่คิดว่า จะมีคนใกล้ตัวมาเจอเรื่องแบบนี้ ในเวลาใกล้ๆกันอีก ยังไงก้อยากเตือนเพื่อนๆ คุณผู้หญฺงทั้งหลายนะครับ สมัยนี้น่ากลัวจริงๆ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หรือ พบเห็นได้ยากเลย สำหรับอันตรายประเภทนี้ ยังไงๆ ไปไหนก็ระวังกันด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 53 22:40:03 จากคุณ : taeriyaki เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 22:31:30

ความคิดเห็นที่ 83 ยังจะสร้างกระแสอีกเหรอ #82 ไม่รู้ว่าต้องการอะไรนะครับ อยากให้คนเชื่อตามที่คุณเชื่อแล้วเอามาโม้เหรอ หลายๆกระทู้ทั้งที่ห้องนี้ หว้ากอ เฉลิมไทย ก็มีคนมาโพสว่า ยาสลบมันใช้ได้จริหรือ แต่ก็ยังไม่วาย............. ถามจริงๆเหอะ ทำไปทำไม คิดว่ามีความสุขเหรอ เวลาคนอื่นมาหลงเชื่อในสิ่งหลอกลวง จากคุณ : Mbell เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 22:51:39

ความคิดเห็นที่ 84 ให้กิ๊ฟคุณจขกท. 3 กิ๊ฟ 1 ขอบคุณที่เอาความรู้มาแบ่งปัน 2 อธิบายเข้าใจง่าย ไม่เยิ่นเย้อ 3 ข้อนี้สำคัญค่ะ *สุภาพ* ไม่พูดจาดูถูกผู้หญิงแบบพวกผู้ชายบางคนที่เชื่อวิทยาศาสตร์เต็มที่ แต่ดั๊นงมงายว่าผู้หญิงต้องโง่ดักดาน เวลาอ่านความเห็นพวกนั้นแล้วอยากจะตะเพิดกลับไปกราบแม่จริงๆ ขอโทษที่ขึ้นนะคะ นึกทีไรโมโหทู้กที จากคุณ : hoshikuzu เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 23:09:58

ความคิดเห็นที่ 85 กระทู้กลับมาแล้ว ดีใจจังเลย ยังไม่พังแฮะ แล้วผมก็ดันไปเขียนกระทู้ใหม่ ซะงั้น ฮ่าๆ ส่วน คห.82 เล่นมุขป่ะครับเนี่ย - -* ส่วน คห.84 เรื่องดูถูกผู้หญิงน่ะขอทีครับ ไม่ใช่ผมแน่นอน ทุกวันนี้โดนผู้หญิงข่มขู่ครับ ฮ่าๆ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 16:48:57 จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 00:42:53

ความคิดเห็นที่ 86 วันนี้พยายามอธิบายให้เพื่อนฟังว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพื่อนเถียงเราใหญ่เลย  เค้าอมน้ำไว้ก่อนไงเมิง บลาบลา เฮ้อ  งั้นก็แล้วแต่พวกแกเห๊อะ เอาเป็นว่าเราต้องมีสติตลอดเวลาอยู่บนแท็กซี่หรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่คนรู้จักแล้วกัน จากคุณ : โยธิกาหน้าหนาว เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 08:54:32

ความคิดเห็นที่ 87 ไอ้เราที่บางคนเจอจริงๆ มีหวังเป็น co2 แน่เลยๆ แล้วยังงี้เมา co2 จะแก้ยังไงอ่ะคะ - -'' จากคุณ : พี่เลี้ยงจำเป็น เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 10:43:52

ความคิดเห็นที่ 88 โหวตจ้าาาา เข้ามาอ่านกันเยอะๆ น้าา จากคุณ : ดาวน้อยใต้พระจันทร์ เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:31:45

ความคิดเห็นที่ 89 ดีมากเลยค่ะ บางคนจะได้ตาสว่างซะที ไม่ใช่มัวแต่เชื่องมงายโดยไม่ใช้สติก่อนจะตัดสินคนอื่น จากคุณ : สาวกโรตี เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 13:14:19

ความคิดเห็นที่ 90 เป็นคนเชียงใหม่คะTAXIไม่แพร่หลายนักคนมีตังค์เท่านั้นที่ขึ้นอะ มิเตอร์ขึ้นที่กริ๊ดดดซื้อKFCได้ตั้งชิ้นหนึ่งแหนะTT^TT แหมขนาดที่นี่เป็นระบบรถสองแถวเจอรถติดก็น๊อคคะหลับคอพับคอเหวี่ยงกันยกคันหน้าสวยระดับดาวมหาลัยยังอ้าปากค้างเติ่งไปเป็นกิโล555 +ยิ่งบ้านอยู่ไกลๆ เหอๆไม่ต้องถึงยาสลบร๊อกกก แต่ว่าชอบอ่านจังปกติเรื่องยาไรพวกนี้เบญไม่คอ่ยสนแฮะ(เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องจะสนเป็นบางเรื่อง)แต่อ่านทู้นี่แล้วเพลินดีคะมันมีเหตุการของคนดังเข้ามาเกี่ยวด้วยมั้งตอนนี้เลยสนใจเรื่องพวกนี้มากเลยหุหุยกความดีความชอบให้ จขกท.นะคะ เรียกเพื่อนมาอ่านกันมันส์ดีปีหน้าเข้ามหาลัยไปอยู่ กทม.จะได้ระวังไม่จิตตกจิตหลอน จากคุณ : FINDING_TRUTH เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:13:12

ความคิดเห็นที่ 91 คห.87 เมา Co2 เปิดกระจกไว้จะช่วยได้ในระดับหนึ่งครับ จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 16:47:46

ความคิดเห็นที่ 92 สังเกตมั้ยครับ มีแต่เรื่องเล่าจากคนที่ "เกือบไป" "รอด" ไม่เห็นมีเรื่องเล่าจากคนที่ "โดนไปแล้ว" เสียทรัพย์ เสียตัวไปแล้ว ไม่มีเลย การมอมยาในแท็กซี่ช่างเป็นวิธีการที่ไร้ประสิทธิภาพจริงๆ ครับ มีแต่คนรอด ไม่เคยรูดทรัพย์ได้เลย จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 05:28:17

ความคิดเห็นที่ 93 คนขับแท็กซี่พวกนี้ก็โง๊..โง่นะผมว่า ยาก็สุดแสนจะแพง หาก็ยาก ใช้ก็ยาก แถมไม่เคยใช้กับใครได้สำเร็จสักราย มันยังอุตสาห์พยายามใช้กันอีก เห็นใช้กันมาเป็นปีๆ แล้ว ไม่รู้ว่าหมดค่ายาไปกี่หมื่นแล้ว ไม่เห็นว่าจะสำเร็จสักราย ก็ยังไม่วายพยายามทำกันต่อไป สู้กันต่อไปนะครับคุณคนขับแท็กซี่สักวันหนึ่งคุณอาจจะทำสำเร็จสักรายก็ได้ ไหนๆก็เสียค่ายาเป็นหมื่นๆแล้ว อีกสักนิดถึงแสนจะเป็นไรไป จากคุณ : Shutter_M เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 23:25:28