แล้วเราก็ค้นพบ การออกกำลังกายที่ไม่เสียเวลาในชีวิตประจำวัน
|
|
ก่อนอื่น อยากขอบคุณกำลังใจของเพื่อนๆห้องแป้งมากๆค่ะ ที่มอบให้เมื่อเดือนที่แล้ว กระทู้เก่าของเราขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ เพราะเราออกมาเปิดเผยชีวิตหลังความน่ากลัว จากการใช้ยาลดน้ำหนักจนต้องหาหมอจิตเวช หลายคนอวยพรให้เราหายไวๆ หลายคนอวยพรให้เราเข้มแข็ง หลายคนอวยพรให้เราเนื่องในวาระวันเกิด เราต้องขอบคุณมากๆค่ะ
แล้วคำอวยพรของเพื่อนๆห้องแป้งก็เป็นผล เพราะมีคนโทรศัพท์มาหาเราเมื่อ3-4วันก่อน บอกว่าเราเคยส่งเมลล์สมัครงานกับเค้าไว้เมื่อปีที่แล้ว แล้วสนใจอยากเรียกสัมภาษณ์ เราเลยเข้าไปคุย แล้วก็เสนอตัวอย่างผลงานไป ปรากฏว่าเข้าตานายจ้าง เค้าเลย รับไว้ทดลองงาน 3 เดือน ในอัตราเริ่มต้นที่ 11000 บาท แล้วจะปรับขึ้นให้ตามที่ต้องการ เมื่อพ้นระยะทดลองงานไปแล้ว เราดีใจมากๆเลยค่ะ ที่เราพ้นวาระการเป็นคนว่างงานได้ จริงๆเราก็เคยทำงานมาก่อน แต่เพราะอาการทางจิตเวชของเรายังไม่หายดี ช่วงก่อน เราเลยทำได้ไม่นานเท่าไหร่ก็ต้องออก ประมาณ 2-3 ที่ ก่อนที่จะหยุดมาเป็นปี แล้วก็เพิ่งจะได้งานนี้เป็นงานใหม่ หลังจากที่ได้เริ่มทำมา 3-4 วัน ก็รู้สึกว่าสนุกกับงานมาก เพราะเป็นงานที่ชอบ ตรงกับความต้องการและตรงกับด้านที่เรียน แต่ในประโยชน์ ที่ได้มากกว่าการได้ทำงานอีกครั้งก็ืคือ เราได้เดินออกกำลังกายทุกวันเลยค่ะ
ความจริงงานที่เราทำเนี่ย เป็นงานนั่งโต๊ะกะคอมตลอดทั้ง 8 ชั่วโมงเลยนะคะ ไม่ได้กระดิกตัวไปไหนเลย ตอนแรกเราก็คิดว่า เราจะเอาเวลาที่ไหนไปออกกำลังกาย ลดความอ้วน (วะ) เนี่ย เพราะเพิ่งเสียเงินนวดสลิมเซ็นเตอร์ไป 3 หมื่น กลัวว่า จะไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป แต่ความกลุ้มใจของเราก็หมดไป เนื่องจาก เราได้คิดค้น วิธีการออกกำลังกายที่ไม่เสียเวลาในชีวิตประจำวันด้วยการ "เดิน"
ทำงาน 9 โมงเช้า เลิก 6 โมงเย็น กว่าจะออกจากบ้าน กว่าจะถึงบ้านก็มืดก็ค่ำ หมดเวลาเล่นเกมส์พอดี (แฮะๆ) แต่ด้วยการเดินทางของเรา ที่เราคิดค้นให้ได้ออกกำลังกายไปในตัว ก็ทำให้เราไม่เสียเวลาเล่นเกมส์ที่บ้านหลังเลิกงานเลยค่ะ (55555) เพราะว่า
" เช้า เดินจากบ้านไปขึ้นรถไฟ 200 เมตร " " ลงรถไฟแล้วเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า 300 เมตร " " แล้วเดินจากรถไฟฟ้าไปต่อรถเมล์อีก 100 เมตร "
" เย็น เดินจากที่ทำงานไปขึ้นรถไฟฟ้า 1200 เมตร " " ลงรถไฟฟ้าแล้วเดินไปขึ้นรถไฟ 200 เมตร " " ลงรถไฟแล้วเดินเข้าบ้าน 200 เมตร "
กดเครื่องคิดเลขกันล่ะสิ ไม่ต้องกดค่ะ เพราะเรารวมให้เลยว่าวันๆ หนึ่งเราเดินกี่เมตร
ผลลัพธ์ที่ได้ก็ืคือ " 2200 เมตร "
เราทำงานที่ สี่พระยาค่ะ คงจะทราบกันดีว่า ตอนเย็นที่นี่รถติดแค่ไหน เพราะทุกคน ก็ต่างพากันออกจากที่ทำงาน แล้วที่สี่พระยาก็ยังเป็นถนนแบบรถเดินทางเดียว ทำให้การจราจรคับคั่งมากๆ เราก็เลยเดินจาก สี่พระยา เลี้ยวขวามาที่เจริญกรุง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ซึ่งเป็นซอยที่มีปากซอยเป็นถนนสีลม แล้วเดินข้ามสีลม ข้ามไปจะเป็นวัดแขกค่ะ เดินในซอยวัดแขก เข้าไปด้านในเรื่อยๆ จนไปทะลุกับสาทร ตรงปากซอยด้านถนนสาทร จะเป็นโรงพยาบาลเซ็นหลุยส์ แล้วเดินเลี้ยวขวา เลียบถนนสาทรอีกนิดหน่อยไปที่รถไฟฟ้าสุรศักดิ์ แล้วก็ค่อยไปลงสถานีวงเวียนใหญ่ แล้วก็เดินไปต่อรถไฟ(ปู๊นๆ) ที่วงเวียนใหญ่อีกทีนึง แล้วก็ลงรถไฟแล้วเดินเข้าบ้าน
ทำอย่างนี้มา 3 วันแล้วค่ะ เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนเดินช้ามาก เพราะว่า จากการที่ เดินนับก้าวขาของตัวเองจะไม่พร้อมเพรียงกับคนที่เดินข้างหน้าเลย ก้าวขาไม่ทันเค้า ทำให้รู้เลยว่า ที่ผ่านมาที่เราไม่เคยออกกำลังกายเลยมันทำให้ร่างกายเราเชื่องช้า ทั้งๆที่เราคิดว่าเราเดินเร็วสุดๆแล้วนะคะ แต่ก็ยังเดินไม่ทันใครเค้าซักที T_T แต่พอเราทำอย่างนี้ได้ 3 วัน เรารู้สึกว่าเราสดชื่นขึ้น ไม่ปวดหลัง ไม่ปวดหัว ระบบขับถ่ายดีขึ้นมากๆ ไม่อุ๊ดจ้าตกค้าง เรียกได้ว่าหลับง่ายถ่ายคล่องเลย ที่บอกว่าหลับง่ายก็เพราะปกติเราจะเป็นคนนอนฝันทุกคืน แต่ตั้งแต่เราไปทำงาน เราก็ไม่ัฝันเลย นอนหลับสนิทตั้งแต่หัวถึงหมอนจนตื่นเช้า ตอนตื่นเช้าก็สดชื่นมากๆ จากอาการที่ปวดหัวตอนเช้า ตอนนี้ก็ไม่เป็นเลยค่ะ ทั้งๆที่นอน 6 ชั่วโมงเอง เมื่อก่อนไม่ได้ทำงาน นอนขี้เกียจทั้งวันแต่กลับปวดหัวอยู่แทบจะตลอดเวลา เพิ่งรู้ว่า การอดทนออกกำลังกายนิดๆหน่อยๆ ก็ทำให้สารพัดอาการไม่ปกติของร่างกาย หายเป็นปริบทิ้ง <เขียนอย่างนี้นะไม่ใช่ปริดทิ้ง> รู้อย่างนี้ไม่ต้องเสียเงินซื้อยาแก้ปวดหัว แล้วก็ไม่ต้องเสียเงินเข้าฟิตเนสด้วย ไม่ต้องเครียดกับรถติด เดินนับก้าวตัวเอง ก็ยังได้ฝึกสมาธิอีกต่างหาก ดีกว่าติดแหงกอยู่ในรถไม่รู้เมื่อไหร่รถจะแล่นไป รถส่วนตัวคงไม่เท่าไหร่ แต่คนที่ใช้บริการรถเมล์คงเมื่อยน่าดู เพราะคุณต้อง "โชคดีมากๆ" ถึงจะได้นั่งในรถเมล์ที่วิ่งผ่านถนนแถวนั้น กว่า 70% ของคนในรถเมล์ทั้งหมด ต้องยืนโหนไป เฮ่อ...แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ยอมเดินดีกว่า อย่างน้่อยก็ไม่ต้องเบียดใคร
เดินลงรถไฟฟ้าเห็นป้าขายผลไม้ตอนเกือบๆ 1 ทุ่ม เดินมาไกลชักจะกระหาย เลยแวะซื้อผลไม้รถเข็นคุณป้าซักหน่อย "ป้า แคนตาลูปชิ้นนึง" ป้าหยิบมาหั่นๆ แล้วยังใส่ชมพู่มาในถุงอีก 4 ลูก
" อ้าวป้าเอาแคนตาลูปอย่างเดียว " ป้าบอก " ได้เวลาเข้าบ้านแล้ว แถมให้จ่ะ ถือว่าช่วยๆกัน "
นอกจากได้ออกกำลังกายแบบไม่เสียเงินแล้ว ถือว่าเรายังได้ช่วยป้าปิดจ๊อปของวันนี้อีกต่างหาก ก็อย่างที่บอกว่าช่วยๆกัน เราไปช่วยป้าปิดจ๊อป เราก็ได้แก้กระหาย แถมป้าเค้ายังแถมมาให้อีกต่างหาก (หนูจุกเลยป้ากินผลไม้ป้าไปแทนข้าวเย็๋นเลย)
นี่แหละค่ะ ประโยชน์ที่มากมายของเรากับการออกกำลังกายเล็กๆ ส่วนใครที่ใช้รถส่วนตัว อันนี้ก็ต้องจัดเวลาออกกำลังกายของคุณเองแ้ล้วล่ะค่ะ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เราทุกคนก็ล้วนแต่มีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่วโมง อยู่ที่ว่าจะำทำยังไงให้ 24 ชั่วโมงนั้น ครบครันด้วยกิจกรรมที่มีประโยชน์ ทั้งการงาน และเรื่องสุขภาพ อ้อ!! อย่าลืมเผื่อซักครึ่งนาที
" เพื่อบอกรักคนที่คุณรักด้วยนะคะ "
แก้เว้นวรรคผิดรอบแรก รอบ 2 แก้คำผิด รอบต่อไป แก้ผ้าอาบน้ำแล้วเจ้าค่าาาา
แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 23:04:17
แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 23:01:31
จากคุณ |
:
hypnosis
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ม.ค. 53 22:55:18
|
|
|
|