ความคิดเห็นที่ 1 ไมเกรนไม่หายขาดหรอกนะค่ะ พี่สาวเราก้อเป็นอยู่เหมือนกัน ฉีดยาบ่อยๆเลยค่ะเค้าบอกว่าเวลาเริ่มปวดให้ทานยาแก้ปวดทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้จนกระทั่งปวดมากๆ เพราะฤทธิ์ยาจะไม่สามารถช่วยได้ ตอนนี้แนะนำให้เค้าทานอาหารเสริม น้ำมันรำข้าวมา 2 เดือนแล้ว เค้าบอกว่าอาการดีขึ้น ความถี่ของอาการปวดลดน้อยลง ปกติในเดือนนึงจะปวดบ่อยมาก ลองดูนะค่ะ จากคุณ : Jennifer's body เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:11:38

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นเหมือนกัน หลายปีแล้ว เคยไปอบรม หมอเขาบอกให้หาสาเหตุ ที่อาจจะนำไปสู่ไมเกรน แล้วพยายามเลี่ยงก่อน เช่น  ความเครียด เสียงดัง  การจ้องหน้าจอทีวี หรือ คอมฯ นานๆ   ติดกาแฟแล้วไม่ได้กิน ถ้าเลี่ยงได้ยาก (พยายามเลี่ยงหน่อย)  ควรจะกินเมื่อเริ่มมี อาการนำ  ปกติผู้ที่เป็นจะรู้ตัวอยู่แล้ว เวลาเริ่มแหม่งๆ เช่น เริ่มตื้อๆ ในหัว  เสียวๆ แปลบๆ  ที่ร่างกาย ฯลฯ   ข้อสำคัญคืออย่ารอให้ปวดมากๆ  แล้วค่อยกิน ยาแก้ปวดที่กิน มีหลายแบบ แต่ละคนได้ผลไม่เหมือนกัน  - กลุ่มพาราเซตตามอล  ใช้ง่าย หาได้ทั่วไป  ราคาถูก  พิษน้อย (อย่ากินติดต่อกันหลายๆวัน)  แต่ไม่ค่อยได้ผล  -  กลุ่มพวกแก้อักเสบด้วย  อย่าง  Ibuprofen (ชื่อการค้า เช่น Nurofen Profen ฯลฯ)  ราคาแพงขึ้นมาหน่อย  มีฤทธิ์กัดกระเพาะ คล้ายกับ แอสไพริน  ต้องกินพร้อมอาหาร อย่ากินตอนท้องว่าง (ผมกินตัวนี้แล้วได้ผล และไม่ได้กินทุกวัน  เืดือนหนึ่งอาจะ 3-4 เม็ด)  -   กลุ่มพวก Carfargot  ใช้ได้ หรือ ร่วมกันกันยาแก้ปวดอื่นๆ  อย่ากินติดต่อนานๆ  -    กลุ่มพวก ทริปเทน  ราคาแพงมาก (เม็ดละหลายร้อย) ได้ผลสุดๆ หรือเป็นแบบยาฉีด   ลองหาอ่านข้อมูลอื่นๆ ด้วยนะครับ (หรือ เข้า  www.google.co.th หาพวก ยาแก้ไมเกรน  ก็ได้) http://variety.teenee.com/science/10864.html http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/neuro/Headache/Migrain.htm จากคุณ : birdeyeview เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:17:12

ความคิดเห็นที่ 3 พยายามนอนให้พอค่ะ แต่นอนมากก็ไม่ดีนะคะ ปวดหัวได้เหมือนกัน สำหรับเรากินวิตามินบีกับน้ำมันปลาอะค่ะ ก็ช่วยได้นะ ไม่ค่อยปวดบ่อยนัก แต่ก่อนเราปวดแทบจะตลอดเลย พอเริ่มมีอาการนิดๆรีบกินยาก่อนเลย เพราะถ้ารอให้ปวดมากๆต้องกินยา 3-5 วันถึงจะหาย อย่างสมมติ ปวดมากแล้วกินยาไป 1 วัน มาวันที่ 3 ก็จะปวดอีก กินอีกวันหายอีก พอหยุดก็ปวดอีก แบบนี้อะค่ะ ตอนแรกๆที่เราเป็นเราไม่รู้รอปวดมากๆแล้วกินไปวันนึงแบบนี้ เราก็ปวดไปปวดมาตลอดเป็นเดือนๆอะค่ะ จากคุณ : โซ่แส้กุญแจมือ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:31:05

ความคิดเห็นที่ 4 ต้องขอบคุณ จขกท ที่มาตั้งทู้นี้นะคะ เราก็เป็นอยู่เพิ่งดีขึ้นเมื่อเช้าเองค่ะ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่า ถ้าเริ่มปวดให้รีบกินยาเลย เราก็รอนึกว่ามันจะหายเองที่ไหนได้ ปล่อยนานเข้า กินยายังงัยก็เอาไม่อยู่แล้ว เราทานNurofen อยู่ค่ะ ช่วยได้บ้าง คือจะทำให้ง่วงด้วยอะตัวนี้ พอได้นอนตื่นมาก็ดีขึ้นค่ะ เราว่าโรคนี้หายขาดยากค่ะ อย่างที่บอกต้องหาสาเหตุให้เจอซึ่งยากมาก อย่างของเรา คิดว่าสาเหตุมาจากฮอร์โมนค่ะ เพราะจะเป็นไมเกรนก่อนเป็นประจำเดือนทุกเดือนเลย จากคุณ : สุภาพสตรีใส่ชุดสวยรวยอารมณ์ขัน เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:51:40

ความคิดเห็นที่ 5 ตามที่ได้อ่านและหาข้อมูลมา ว่ากันว่า Co-Q10 ช่วยลดการปวดได้ นั่นคือลดความถี่ในการปวดให้น้อยลงได้ ลองหามาทานดูนะครับ จากคุณ : Wanna be a Prince...ss* เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:20:58

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่หายขาดน๊า เราเป็นมาตลอด ฮ่าๆ กว่าจะหาสาเหตุได้ก็นาน เราจะเกิดอาการตอนเจอควันรถมากๆ กับกินคาเฟอีนอ่ะ ตอนแรกไม่รู้ ง่วงๆก็ซื้อกาแฟกินคิดว่าเราคงง่วงเลยปวดหัว พอมาสังเกตุๆเลยรู้ ต้องลองสังเกตุดูค่ะ บางทีไอแรงๆ ยังเป็นเลย เราก็กินไอบูอยู่ แต่กินมากไม่ได้นะ หมอบอกว่า ฤทธิ์แรง แต่หายจริงๆ ขนาดผ่าฟันคุดมา มันยังไม่เจ็บแผลเลย >< จากคุณ : blooperz เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:22:54

ความคิดเห็นที่ 7 ทรมานมากจริงๆค่ะ ตอนเราเป็นอาเจียนตลอดทานอะไรไม่ได้เลย ความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม เราทานยาคาเฟอีนรักษาตามอาการ พอดีมีโอกาสไปนั่งวิปัสนาที่ธรรมอาภาตามคำแนะนำของพี่เหมียว วรัตดาที่เคยออกเจาะใจ ไม่ได้ไปเพราะอยากรักษานะคะ ไปเพราะอยากรู้ว่าวิปัสนาเป็นอย่างไร ไม่ได้คาดหวังอะไรด้วย พอหลังจากการอบรมเราก็ไม่เคยปวดอีกเลย ท่านโกเอ็นก้าอาจารย์ผู้สอนก็ปวดไมเกรนแบบเริ้อรัง รักษามาแล้วทั่วโลกไม่หาย แต่มาหายได้ด้วยการนั่งวิปัสนา เราไม่ได้ชวนให้เชื่อแต่เสนอทางเลือกเผื่อรักษาทางใดก็ไม่หายอาจจะสนใจขึ้นมาบ้าง จากคุณ : อมราวดี เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:35:42

ความคิดเห็นที่ 8 ต้องหาสาเหตุให้ได้ก่อนค่ะว่าปวดจากอะไร เพราะบางคนไมเกรนจากความเครียด บางคนจากการโดนแสงจ้า เข้าตา (เราก็เป็น) บางคนเพราะอากาศหนาวจัด หรือ ร้อนจัด หรือหนักๆ หน่อยก็แพ้พวกคาเฟอีน (หรือส่วนผสมอาหารบางจำพวก) ถ้าหาสาเหตุพวกนี้ได้แล้ว ก็พยายามหลีกเลี่ยงค่ะ เรื่องหายขาดคงไม่ค่อยเห็นมีนะ มันเหมือนโรคกระเพาะอ่ะ เป็นเรื้อรัง จากคุณ : หนูนากระป๋อง เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:15:11

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นไมเกรนค่ะ...เราใช้ Excedrin ถ้า  Excedrin หมด  เราก็ใช้ panadol actifast แทนค่ะ... ส่วน cafergot กับ nurofen ใช้ไม่ได้ค่ะมีอาการข้างเคียง ต้องไม่เครียด.. พักผ่อนเยอะ ๆ  (เราชอบนอนแบบมืด ๆ ปิดม่าน ปิดไฟหมด) สวดมนต์ไหว้พระ...นั่งสมาธิ ก็ช่วยได้ค่ะ.... จากคุณ : แม่ลูกสองหัวใจสะออน เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:23:53

ความคิดเห็นที่ 10 เราก็เป็นค่ะ  แต่ของเรามันหาสาเหตุไม่ได้ว่าปวดจากเหตุใดเนื่องจาก ตื่นนอนตอนเช้าก็ปวดไมเกรนขึ้นมาเลย  ซึ่งเราคิดเองว่าน่าจะเกิดจากการที่เรา คอเลสเตอรอลค่อนข้างสูง เกือบๆ 300 เราก็เลยกินกระเทียมสกัด เพื่อลดคอเลสเตอรอล   อีกวิธีที่เราแก้ก็คือ  ฝังเข็มค่ะ  ที่ รพ.หัวเฉียว แผนจีนค่ะ ฝังประมาณ 15 ครั้งค่ะ ครั้งละ ประมาณ 500 บาทค่ะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : Tuesday April (Tuesday April) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:23:58

ความคิดเห็นที่ 11 เราพาแม่ไปฝังเข็มที่ รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน(ตรงข้าม รพ.พระมงกุฎฯ/ข้างๆ รพ.เด็ก) เห็นเขารับรักษาฝังเข็มรักษาไมเกรนด้วยนะคะ ยังไง จขกท.ลองหาข้อมูลดูอีกทีก็ได้ค่ะ http://www.tm.mahidol.ac.th/tmho/alternative_cure_chinese.htm จากคุณ : vicky_vicky เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:25:13

ความคิดเห็นที่ 12 -ขอบคุณพี่ๆทุกคนนะค่ะที่มาช่วยตอบและให้แนวทางในการแก้ไข- ไม่ผิดหวังจริงๆที่มาปรึกษาห้องนี้ เดี๋ยวจะลองให้แม่ทำตามคำแนะนำค่ะ จากคุณ : เที่ยวไปตามอำเภอใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:45:18

ความคิดเห็นที่ 13 ต้องหาสาเหตุ หรือต้นตอให้เจอค่ะ แต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่างเช่นน้องสาวเรา ปวดหัวบ่อยจนทนไม่ไหว เลยไปหาหมอทางสมองที่ รพ.ธนบุรี(พรานนก) คุณหมอวินิจฉัยว่า อาจเป็นไมเกรน หรือไม่ถ้ากินยาที่หมอให้ไปนี้ไม่หาย ก็อาจเกี่ยวกับสมอง เช่น เนื้องอก ต้องมาสแกนสมอง คุณหมอจึงให้ยาแก้ไมเกรนมาทาน และแนะนำน้องสาวให้ทานกาแฟบ้างนิดหน่อย ถ้ายังไม่หาย ให้มาสแกนสมอง เพื่อหาสาเหตุต่อไป เดิมน้องสาวไม่ทานกาแฟเลย แต่มีเรื่องเครียดบ่อย แต่พอทานยาคุณหมอ และเริ่มทานกาแฟบ้างแต่น้อยผสมกับนมผง.... ตอนนี้น้องไม่บ่น ปวดหัวอีกเลย ทั้งที่ยังเครียดเก่งเหมือนเดิม และไม่ต้องไปสแกนสมองด้วยค่ะ..... ขอให้คุณแม่(คุณเที่ยวไปตามอำเภอใจ) หาสาเหตุเจอไวๆ และพบยาที่ถูก กับโรคไมเกรน ที่เป็นอยู่ด้วยนะค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 13:49:52 จากคุณ : smr.l เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:49:15

ความคิดเห็นที่ 14 อันนี้ขอยืม lon in คุณแฟนมาใช้ค่ะ ถ้าไมเกรนดิฉันเป็นมามากกว่า 10 ปีค่ะ มาดีขึ้นก็เพราะไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลประสาทค่ะ ที่ใกล้ๆ อนุเสาวรีย์ชัยค่ะ ลองไปหาดูนะค่ะ คุณหมอจะเช็คละเอียดดีค่ะ และยาที่คุณหมอให้มาก็จะมี Ibutofen, โซบิลีน และยาคลาดเคลียดค่ะ ซึ่งมีความแตกต่างดังนี้ค่ะ 1. Ibutofen เป็นยาแก้ปวด เวลาเริ่มรู้สึกว่าจะปวด ( สำหรับผู้เป็นไมเกรนจะทราบหรือรู้สึกได้ว่ากำลังจะปวดไมเกรน) ให้รีบกินยาทันที ถ้าปวดแล้วจะหายยากค่ะ 2. โซบิลีน อันนี้จะกินก่อนนอนค่ะ คุณหมอบอกว่าเป็นการแก้ที่ต้นเหตุค่ะ เมื่อกินติดต่อกันสักพักความถี่ของการปวดไมเกรนจะห่างลงค่ะ แต่ยาตัวนี้กินแล้วง่วงนอนค่ะ ต้องกินตอนก่อนนอนค่ะ ซึ่งแต่ก่อนดิฉันก็เป็นหนักมากค่ะ ถ้าเป็นแล้วทำอะไรไม่ได้เลย ปวดทรมานมาก และอาเจียนทุกครั้งที่ปวด แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ และตอนนี้อยู่ต่างประเทศก็พกยามาด้วยค่ะ  และมาเจอคนที่นี่ก็ปวดไมเกรนเลยแนะนำให้เค้ากินเค้าก็หายค่ะ อันนี้เห็นใจเจ้าของกระทู้ค่ะ เพราะทราบว่าความทรมานเป็นอย่างไรเวลาเจอใครเป็นก็จะแนะนำ จะได้หายค่ะ ขอให้คุณแม่เจ้าขอกระทู้หายไวๆๆ นะคะ จากคุณ : หมูชมพู (มหาเก่ง) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:54:17

ความคิดเห็นที่ 15 เอ่อ... เราไม่รู้ว่าตัวเองเป็นกรณีพิเศษรึเปล่า เริ่มปวดหัวไมเกรนตั้งแต่สมัยมัธยม ช่วง ม.ปลายนี่หนักสุดๆตอนใกล้จะสอบเอนทรานซ์ ปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ เป็นทีนึงก็ทำอะไรไม่ได้เลย ทั้งปวดหัวปวดเบ้าตาแถมอาเจียนอีก ต้องนอนอย่างเดียว  พึ่งยา carfergot ตลอด พอขึ้นมหาลัยตอนปีหนึ่งปีสองก็ยังปวดหัวอยู่ แต่พอเลิกสนใจเรื่องเรียน หันไปทำกิจกรรมมากขึ้น แม้จะเรียนแย่ลง แต่ก็ยังถูไถจนจบมาได้ และอาการปวดหัวเริ่มไม่ค่อยถี่แล้ว จบมาทำงานอิสระ ไม่มีเรื่องให้เครียดเท่าไหร่ นอนวันละ 9-10 ชั่วโมง กลายเป็นว่าทุกวันนี้แทบจะไม่เป็นอีกเลย แต่มีข้อยกเว้นคือ วันไหนนอนน้อยแล้วออกบ้านตอนบ่ายเจอแดดจ้าๆ ก็มาเหมือนกันแต่นิดๆ พอรับได้ ส่วนตัวเราฟันธงว่า มาจากความเครียดเป็นสาเหตุหลักค่ะ สาเหตุรองลงมาคือเวลานอนไม่พอ และเจอแสงจ้ากระทันหัน เพราะงั้นต้องลดสาเหตุนั้นให้ได้ก่อน นิสัยส่วนตัวของแต่ละคนก็ทำให้คนเราเครียดเรื่องเดียวกันไม่เหมือนกันนะคะ ถ้าสังเกตดู ส่วนใหญ่คนที่เป็นไมเกรนจะมีลักษณะเอาจริงเอาจังกับทุกเรื่อง ต้องลองปล่อยวางดูบ้างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือเรื่องครอบครัว เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : น้องงัว เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:19:26

ความคิดเห็นที่ 16 ไมเกรน.. ไม่หายหรอกค่ะ แต่ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะมากระตุ้นให้เกิดไมเกรน เช่น อาหารที่มีกลิ่นรสจัด กระเทียม ควันบุหรี่  แอลกอฮอล์ อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเศร้า เครียด หรือดีใจมากเกินไป ไมเกรนก็ขึ้นได้ค่ะ นอนน้อย  แสงที่สว่างมากเกิน อากาศร้อน ช่วงก่อนมีประจำเดือน (ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง) เวลาไมเกรนจะขึ้น ให้รีบออกมาจากสิ่งกระตุ้นทั้งหลาย นอนพักในห้องที่มืดหน่อย อากาศเย็นๆ และรีบทานยาแก้ปวด อาการจะดีขึ้นค่ะ ส่วนใหญ่เวลาเป็นไมเกรน ถ้าได้อาเจียนอาการจะดีขึ้นค่ะ จากคุณ : VELEZ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 21:02:48

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่หายค่ะ แต่สามารถเลี่ยงไม่ให้เป็นได้ค่ะ ตัวเราเองก็เป็นเหมือนกันค่ะ เป็นมาตั้งแต่ม.ต้น แต่หลังๆมานี่ พยายามไม่นอนดึก ออกกำลังกาย กินผักผลไม้เยอะๆ เดี๋ยวนี้ ต่อให้เครียด หรือร้อนยังไงอาการก็ไม่ออกค่ะ ทั้งที่เมื่อก่อนนี้ ร้องไห้ก็ไมเกรนขึ้น ร้อนก็ขึ้น เครียดก็ขึ้น ค่ะ จากคุณ : indy_soul เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 21:42:18

ความคิดเห็นที่ 18 เราเมื่อก่อนก็ปวดบ่อยและปวดมากด้วยค่ะ บังเอิญไปหาหมอchiropracticเพราะปวดหลัง ทำให้อาการปวดไมเกรนนี้ดีขึ้นด้วยค่ะ ไม่ได้กินยาอะไรเลย ลองหาข้อมูลดูนะคะ มีหลายที่เลย และเบื้องต้นตอนกลางคืนลองเอาหมอนข้างเด็กอ่อน หรือผ้าขนหนูม้วนๆรองที่คอดูนะคะ หมอเค้าแนะนำมาค่ะ แต่ห้ามหนาจนดันคอมากขึ้นไปอีกนะคะ จากคุณ : Glitter1 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 23:48:57

ความคิดเห็นที่ 19 ของผม ออกกำลังกาย ทำให้อาการลดลงครับ ทานผักผลไม้ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ จากคุณ : มะลิ (Autx_mali) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 00:08:29

ความคิดเห็นที่ 20 เราเป็นคนหนึ่งที่เกิดมากับโรคนี้เลยล่ะ เริ่มปวดตั้งแต่เด็ก แต่ผู้ปกครองไม่ได้คิดว่าเด็กขนาดนี้จะปวดหัว คิดว่าปวดการเมืองมากกว่า เลยต้องทนเอาเองค่ะ  พอดตมาหน่อยก็คอยสังเกตอาการและหาข้อมูลว่ามันคืออะไร จนได้คำตอบ ไมเกรน ค่ะ ขั้นรุนแรงคือ ดวงตามันจะพร่า แบบมันสู้แสงไม่ได้เลยค่ะ แต่ไม่เคยอาเจียนน่ะ ก็ต้อง คอยสังเกตสิ่งกระตุ้นอาการ  และทานยา ไทลินอล  ตั้งแต่เริมมีอาการเตือนเล็กน้อย หากมีอาการมาก็ไม่ได้ผลน่ะ ยาเอาไม่อยู่  ต้องตอยสังเกตตัวเองดีที่สุดค่ะ ตอนนี้ก็ปวดและทานยาแล้ว ดีขึ้น  ทำงานต่อได้ค่ะ จากคุณ : กลิ่นจำปา (กลิ่นจำปา) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 14:17:52

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นมาเป็นสิบปีเหมือนกันค่ะ ทีแรกก็ไม่คิดว่าอะไรเป็นแรงกระตุ้น คิดว่าเป็นโรคอย่างหนึ่งกินทั้งยาแก้ปวดยานอนหลับยาคลายเครียด แต่ปรากฏว่าไม่ไดเแก้ที่ต้นเหตุ เลยน๊อค อาเจียนตลอดทานอะไรไม่ได้ต้องนอนโรงพยาบาลตรวจสารพัดไม่เจออะไรจนไปหาคุณหมอระบบประสาท หาไม่เจอเป็นเดือน คุณหมอเลยรักษาแบบไมเกรน กินยากลุ่มนอร์ทริปไทลีน กับยา วิตามินบี ช่วยการทำงานของสมอง หกเดือนถึงเริ่มดีขึ้นแต่ยังเป็นๆหายๆเลยไปซื้อหนังสือของด๊อกเตอรืที่เค้่ทำเรื่องไมเกรนโดยเฉพาะของอเมริกามาอ่านค่ะ ปรากฏว่า ตัวกระต้นไมเกรนมมีเยอะมากๆ เช่น กาแฟ ช๊อคโกแลต กล้วยหอม แสงแดดจ้าๆ อุณหภูมิ สัปปะรด ชา ยาที่เราทานที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมน หลายอย่างมากๆ เลยมาลองสังเกตุตัวเอง แล้วปรับพฤติกรรมการกิน ลดกาแฟ ชา ช๊อคโกแลตของโปรดทั้งนั้นค่อยๆลด แล้วออกกำลังกายที่ช่วยได้มากคือโยคะค่ะ และการนั่งสมาธิช่วยได้มากจริงๆ กินข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ให้มากขึ้น จนครบปีก็หยุดยาได้ปวดหัวน้อยลงมากกินยาพาราก็หาย แต่ช่วงประจำเดือนนี่เลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นฮอร์โมนของเราเองก็กิน บรูเฟน ดีที่สุด  คุณหมอเตือนเรื่อง คาฟากอตด้วยว่าผลร้ายมีมากกว่าอาจหายปวดได้แต่มันจะเกิดอาการย้อนกลับคือจะปวดมากกว่าเดิมเมื่อฤทธิ์ยาหมดเลี่ยงได้ให้เลี่ยงค่ะ จากคุณ : รักทะเล เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 21:46:50

ความคิดเห็นที่ 22 หายได้ค่ะ  นั่งสมาธิ (หลับตาหรือไม่หลับตาก็ได้) แล้วก็ออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องทำทุกวัน ทำไปเรื่อยๆ ความถี่เวลาเป็นจะน้อยลงๆๆๆ 1 ปีหายสนิทค่ะ   ลองหาข้อมูลเก่าอ่านได้จาก blog npmail นะคะ  น่าจะยังอยุ่ จากคุณ : บอกบุญ (npmail) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 22:50:09

ความคิดเห็นที่ 23 เราก็เป็นแต่เล็กค่ะ ส่วนหนึ่งจากภูมิแพ้ ของเราจะมีออรอร่านำก่อน วิบวับๆเลย เมื่อก่อนเราต้องหยุดเรียน นอนเป็นไข้อาเจียนบ่อยๆ โตขึ้น ก็ยังเป็น แต่พออายุมากนี้่นานทีปีหนถึงจะเป็น วิธีคุมของเราก็ไม่มี  แ่ต่เราเป็นคนที่ทำสมาธิเ่ช่นเดียวก้ับหลายๆคนค่ะ ยากินแค่พาราสองเม็ด จากคุณ : พฤหัส เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 01:52:46