ความคิดเห็นที่ 1 ว่าแล้วเราลองมาดูกันดีกว่า ว่าทำไมมันน่าสนใจ อ่ะ ใครขนตาสั้นๆแล้วไม่น้ำลายไหลให้มันรู้ไป เครดิตรูป: http://www.minnesotamonthly.com/media/Blogs/Style-File/February-2009/The-Drug-Weve-All-Been-Waiting-For/ จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:02:38

ความคิดเห็นที่ 2 ใช้แล้วขนตายาวขนาดนี้เชียวนะ (จริงๆแล้วเราว่าอันนี้ออกแนวเยอะจนน่ากลัว) เครดิตรูป: http://www.splendicity.com/agingfabulous/my-eyelash-update-with-latisse/ จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:03:37

ความคิดเห็นที่ 3 เริ่มอยากได้กันแล้วล่ะเซ่ ยี่ห้อที่เห็นบ่อยๆก็พวกนี้ จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:04:38

ความคิดเห็นที่ 4 จริงๆแล้วเราอ่านเจอรีวิวยาพวกนี้ครั้งแรกที่นิตยสาร ShopSmart ตั้งกะปีที่แล้วละ อ่านครั้งแรกก็ไม่อยากซื้อละ จนลืม พอเห็นกระทู้สาวห้องแป้งใช้เลยนึกขึ้นได้ เราว่ามันน่ากลัวนะ อย่าโกรธเรานะ ไม่ได้จะหักหน้าอะไร อ่านให้จบก่อนแล้วจะรู้ว่าทำไมเราต้องมานั่งแปลด้วย บทความเยอะก็เยอะ          อ่ะนี่ล่ะ นิตยสารที่เราอ่าน +++++++++++++++++++++++++++++++          นิตยสาร ShopSmart เป็นนิตยสารของอเมริกาที่ทำพวกรีวิวข้าวของแบบจับฉ่าย แบบแกนึกจะรีวิวอะไรก็ทำ บางเล่มอาจจะมี รีวิวขนมแบรนด์เนมเปรียบเทียบกับขนมแบรนด์ตามซูเปอร์(แบบคาร์ฟูร์ โลตัสทำเอง) เครื่องตัดหญ้า E-Book Reader เครื่องซักผ้าและยางยืดกางเกงใน ในเล่มเดียวกัน และนิตยสารเจ้านี้ไม่รับทำหน้าโฆษณาของอะไรเลย (นอกจากหนังสือ ShopSmart ของตัวเอง ประมาณว่าขายเอง ชงเองซะงั้น) เพื่อพิสูจน์ว่ารีวิวยุติธรรม          ทำให้นิตยสารหัวนี้ค่อนข้างจะแพงซักหน่อยเมื่อเทียบกับนิตยสารเจ้าอื่น เล่มก็บางๆ (แต่เอาเข้าจริงๆ ดึงหน้าโฆษณาของเจ้าอื่นออก ก็คงบางพอกัน) เอาล่ะ มาเข้าเรื่อง ShopSmart รีวิวเจ้า Latisse เอาไว้ดังนี้.... จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:06:42

ความคิดเห็นที่ 5 น้ำยายี่ห้อ Latisse - ขายที่ราคา 120 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3,960 บาทไทย (ใช้ได้ 1 เดือนเท่านั้น!!) เหมาะกับผู้มีฐานะ สามารถเผาตังค์เล่นได้          เพียงแต่ปาดมันลงบนหนังตาเบาๆ วันละครั้งเท่านั้น ท่านก็จะมีขนตายาวสั่งได้ แต่รู้หรือไม่ว่า มันมีผลข้างเคียงที่น่ารักทีเดียว เพราะผู้ใช้บางคนอาจพบว่าสีตาเปลี่ยนไป (พระเจ้า!) จากคนที่ตาสีเขียว สีฟ้า ก็เปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาลได้          ไม่ใช่แค่ขนตาของท่านจะยืดยาวได้อย่างเดียว เรามีบริการเปลี่ยนสีตาโดยไม่ต้องพึ่งคอนแทกเลนส์ให้ด้วย (แต่เป็นคอนแทกที่ถอดออกไม่ได้ เป็นแล้วเป็นเลย ไม่หาย) แต่คนไทยอย่างเราๆคงจะ แล้วไง? ตาชั้นดำปื้ด ไม่กลัวหรอก แต่เท่านั้นยังไม่พอ เรายังแถมรอยคล้ำที่เปลือกตาให้ท่านด้วย (เริ่มสยองกันรึยังล่ะ พวกช่วงๆ หลินฮุ่ยทั้งหลาย) ไม่เชื่อลองกลับขึ้นไปมองภาพลูกกะตารีวิวด้านบนซิ เห็นตรงขอบตาแถบที่ทาตัวยานี่มั้ยว่ามันดำขึ้นจริงๆ!          ยังๆ ยังไม่จบนอกจากตาดำ(หมายถึงตาเขียว/ตาฟ้า)เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้ เรายังทำให้ตาขาวเป็นสีแดงได้อีกด้วย แถมคันอีกตังหาก          ด้วยคุณประโยชน์ดังต่อไปนี้ SmartShop ขอบอกว่า ใช้มาสคาร่าต่อไปเถอะพวกหล่อน!! เครดิต: นิตยสาร SmartShop ฉบับเดือนกรกฎาคม '09 จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:09:00

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องนี้ แม้แต่ป้าพอลล่าหรืออีกนามว่า Paula Begoun ผู้โด่งดังแห่งห้องแป้งก็เคยเขียนบทความเรื่องนี้เอาไว้ช่วงต้นปี 2009 ป้าได้กล่าวเอาไว้ว่า..... +++++++++++++++++++++          เซรุ่มบำรุงขนตาเนี่ย มีมานานแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งมี แต่ก็ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จซักเท่าไร จนกระทั่งแบรนด์ Jan Marini ได้ออกตัว Age Intervention Eyelash ออกมา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! ขนตาของเดี๊ยนยาวขึ้น สีเข้มขึ้น!! (ป้าพอลล่าก็ใช้) ยิ่งทามาสคาร่านะ ยิ่งเหมือนขนตาปลอมกันเลยทีเดียว ไม่อยากจะโฆษณาแต่สาวๆที่ทำงานของชั้น ทุกคนที่ใช้ก็ได้ผลเหมือนๆกัน โฮะ          แต่แล้วความลับของมันก็ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อส่วนประกอบของเจ้าตัวเซรุ่มนี่เป็นตัวที่ FDA คอยจับตามองอยู่ซะด้วย (ประมาณ อย.บ้านเรา) ส่วนประกอบที่ว่านั่นก็คือตัวยารักษาต้อหิน นามว่า Bimatoprost          Marini นี่ รู้ทั้งรู้ว่าตัวยานี้จะซื้อได้ต้องมีใบสั่งจากแพทย์เท่านั้น แต่ก็ยังพยายามแอบใส่ให้พ้นสายตา FDA จนได้โดยการแทนชื่อของตัวยาเป็นสูตรเคมีว่า 7-(3, 5-dihydroxy-2-(3-hydroxy-4-(3-(triflormethyl) phenoxy)-1-butenyl) cyclopentyl), N-ethyl, )1R-(alpha(Z), 2beta (1E,3R), 3alpha, 5alpha)) ทำไปด๊ายยยยยยย......          สูตรเคมีที่ว่านี้ ค่อนข้างจะคล้ายกับตัวยา Latanoprost, Bimatoprost (ตัวที่อยู่ในยี่ห้อของ Marini) และ Travoprost ตัวยาพวกนี้ใช้สำหรับรักษาโรคต้อหิน หรือไม่ก็ผู้ที่มีภาวะความดันตาสูง (หลายคนอาจจะงง มันคืออะไรwa? กูเกิ้ลดูเอาเองละกันนะตัว) แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 53 00:36:41 จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:10:55

ความคิดเห็นที่ 7 ผลข้างเคียงที่ได้จากการใช้ยาพวกนี้น่ะเหรอ? ก็ขนตายาวขึ้น เข้มขึ้น และหนาขึ้นยังไงล่ะ เอามาหาผลประโยชน์ทางด้านความงามซักหน่อย ก็แค่หาแปรงผอมๆมาจิ้มๆแล้วก็ทาแบบสิ้นคิด ประหนึ่งว่าทาอายไลเนอร์ วันละครั้งก็พอ แค่นี้ก็ขายดิบขายดี แถมพวกเซเลบก็ชอบซะด้วยนะ โชคดีชะมัด ก็ช่วยโฆษณากันไป          เจ้าตัว Bimatoprost นี้ Mirani อ้างไว้ว่าแล๊บของเจ๊ทำขึ้นมาเอ๊ง เพราะงั้นไม่ใช่ยาแน่นอน เพราะงั้นเจ๊ถึงไม่มีปัญหากับ FDA หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วชีก็มีสงครามเย็นกับบริษัทยา Allergen เนื่องด้วย Allergen ได้รับสิทธิบัตรใช้ตัวยา Bimatoprost ในผลิตภัณฑ์แบบเดียวกัน จะไม่ให้ Allergen เคืองได้ยังไง ก็ Allergen พยายามแทบตายเพื่อให้ผ่าน FDA จ่ายเงินไปก็เยอะ อยู่ๆ Mirani ทำตัวเป็นตาอยู่ คาบไปเฉยเลย          แต่สุดท้ายแล้ว เจ้าตัวปัญหาที่ว่าก็ไม่สามารถพ้นความเขี้ยวของ FDA ไปได้ พอปี 2007 FDA ก็สั่งยึด Age Intervention Eyelash มากกว่า 12,600 หลอด Mirani อดขายในที่สุด          ว่าไป....แค่ตัวยา.......ทำไมเรื่องแค่นี้ต้องโดนยึดด้วย ก็ถ้าใครที่ใช้ Age Intervention Eyelash แล้วต้องใช้ยาหยอดตารักษาต้อหินอยู่แล้ว มันก็จะไปเพิ่มความเสี่ยงให้ประสาทตาถูกทำลาย ทำให้ตาอักเสบ และอาจถึงขั้นตาบอดได้ น่ากลัวใช่มั้ยล่า.... แต่ว่า อ้าว....ของมันขายได้ดี คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รู้เรื่องที่โดนยึดของคืนหรอก มีคนอยากได้เยอะแยะไป ว่าแล้ว Mirani ก็จัดการเปลี่ยนสูตร เปลี่ยนชื่อใหม่ รอบหลังนี้ไม่มีตัว Bimatoprost หรืออะไรที่คล้ายๆมัน คราวนี้มี Peptides แทน ซึ่ง Mirani บอกว่า ดีกว่าของเดิมซะอีกนะจะบอกให้          แม้จะไม่มีผลการวิจัยใดๆก็ตามว่า peptides ช่วยให้ขนตายาวขึ้น หนาขึ้นหรือเข้มขึ้นแต่อย่างใด แต่เดี๊ยนพอลล่า บีเจี้ยนก็ไม่ขอแนะนำ จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:12:14

ความคิดเห็นที่ 8 ว่าไป....แล้ว Allergen ได้สิทธิบัตรจาก FDA รึยัง? อ่ะแน่น้อนนน.....Allergen ตอนนี้กำลังยินดีปรีดากับผลสำเร็จ ได้ตัวเซรุ่มในชื่อยี่ห้อ Latisse (ดูรูปได้ใน คห.3) ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือ bimatoprost 0.03% มาพร้อมกับแปรงแบบอายไลเนอร์ ซึ่งต่างกับเซรุ่มของ Marini ตรงไหนฟะ? อ้อ.....ต่างกันที่ว่า Latisse ถือเป็นตัวยา จะซื้อได้ก็ต่อเมื่อมีใบสั่งจากแพทย์เท่านั้น นอกจากยุ่งยากแล้ว ราคาก็ตั้ง 120 เหรียญ แถมยังใช้ได้แค่เดือนเดียวอีก          Marini เองก็ไม่ได้ขายถูกอะไร นั่นก็ราคา 160 เหรียญ เขี้ยวใช้ได้ (5,280 บาทไทย) แต่ใช้ได้หลายเดือนกว่า          เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Latisse ทำให้ขนตายาวจริง เข้มขึ้นจริง หนาจริง แต่ก็มีผลเสียเช่น ใช้แล้วแสบยิบๆบนผิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ และสีตาเปลี่ยนถาวร จริงๆแล้วผลข้างเคียงที่ว่านี่ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่ก็ชั่งน้ำหนัก ผลดีผลเสียไว้ให้ดี อะไรก็เกิดขึ้นได้ เวลาอ่านโฆษณาน่ะ เค้าไม่บอกหมดทุกอย่างหรอก เค้าก็แค่ย้ำคิดย้ำทำ แต่ส่วนดีเท่านั้น          แต่ชั้นยังสงสัยอยู่อย่างว่าทำไม Allergen กับ FDA ถึงไปไล่ตะบี้ตะบันแต่กับ Mirani ทั้งๆที่ยังมีอีกหลายบริษัทขายผลิตภัณฑ์แบบนี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น....          - Lashes to Die For ของ Peter Thomas Roth          - MD Lash Factor ของ PhotoMedex Inc.          - RevitaLash ของ Athena Cosmetic Corp.          - Lilash          - Neulash          ยี่ห้อทั้งหมดที่ว่ามา แพงก็แพง ยังไม่เห็นมีเจ้าไหนโดน FDA ยึดซักที หรือ Allergen สงสัยอะไรบ้างเลย ทำไมๆ....ทำไม Mirani ถึงโดนอยู่คนเดียวในขณะที่บริษัทอื่นกลับลอยลมหน้าตาเฉย เครดิต: http://www.cosmeticscop.com/BULLETIN/030509-full.htm?utm_source=Beauty_Bulletin&utm_medium=Email&utm_content=Article1ReadMore&utm_campaign=030509_BeautyBulletin&emc=el&m=322813&l=9&v=2c493e64cd#1 จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:14:23

ความคิดเห็นที่ 9 (อนึ่ง บทความของป้าพอลล่านี่ตั้งแต่ต้นปี 2009 ถ้าอ้างอิงจาก Wikipedia แล้ว Jan Mirani, RevitaLash กับ MD Lash Factor โดน Allergen ฟ้องไปเรียบร้อยแล้ว ข้อหาละเมิดสิทธิบัตรตัวยา Bimatoprost นี่ล่ะ) ++++++++++++++++++++++++++++          บทความอันสุดท้ายนี้ที่กำลังจะให้อ่านก็น่าสนใจดี ในแง่ที่ว่า อย่างที่เราๆก็รู้กัน บาชิก็อันตราย กลูต้าก็อันตราย สุดท้ายก็ยังจะมีคนอยากลอง อยากใช้ ไม่สนต่อความเสี่ยง คราวนี้ลองมามองในแง่จิตวิทยาแล้ว เซรุ่มเร่งขนตายาวนั้นจำเป็นจริงๆหรือ? กันดีกว่า แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 18:20:25 จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:17:32

ความคิดเห็นที่ 10 เขียนโดย: Bryan Barron เมเนเจอร์ของเว้บ Beautypedia.com และป้าพอลล่าอีกหน          อาจจะดูซ้ำซากแต่เราลองมาคำนวณราคาของ Latisse กัน          Latisse ราคา $120 (3,960 บาท) และใช้ได้ 30 วัน นั่นก็แสดงว่า 1 ปี เราต้องจ่ายถึง $1,400 หรือ 46,200 บาทไทยเชียวนะ!! (ไม่ใช่ว่าใช้เสร็จ ขนตายาวๆมันจะคงอยู่กับเราตลอดไป ไอ่สีตาและสีขนตาเข้มขึ้นน่ะ เข้มตลอดไป แต่ขนตามันก็จะกลับไปสั้นเหมือนเดิมเมื่อเลิกใช้ฮ่ะ) ตัวป้าเองคิดว่า ราคาขนาดนั้น สู้ซื้อ Mirani คงใช้ได้ซัก 10 ปี          มาสคาร่าตามซูเปอร์ที่ป้าเชียร์นักเชียร์หนา ราคาก็ประมาณ $8 หรือ 264 บาทไทยเอง ใช้ได้ตั้ง 3-4 เดือน พวกเราเองก็ใช้เวลาทามาสคาร่าในวันๆนึงแค่แป๊บเดียวเองไม่ใช่หรือ? ลองเทียบดูกับ Latisse ที่ต้องใช้ทุกวันเช่นกัน แถมเปลี่ยนทุกเดือนๆ          คราวนี้ลองมาคิดดูกัน เมื่อไรที่เราคิดว่า ขนตาพอดีแล้ว พอแล้ว หยุดได้แล้ว ต่อให้เราใช้ Latisse แล้ว (ซึ่งช่วงนี้เราคนแปลขอรวมไปถึงเซรุ่มบำรุงขนตาทั้งหมดนั่นแหล่ะ) ไม่ได้หมายความเราจะเลิกใช้มาสคาร่า แม้แต่ Allergen ที่เคยจัดสัมมนาออนไลน์หนนึงก็เป็นคนพูดเองว่า 90% ของคนที่ใช้ Latisse บอกว่า จะยังคงใช้มาสคาร่าต่อไป แม้ขนตาจะยาวขึ้น หนาขึ้น เข้มขึ้นแล้ว          Allergen ก็บอกเองว่า ไม่ได้มีความตั้งใจจะไปแข่งกับธุรกิจพันล้านของบริษัทมาสคาร่าในอเมริกา ถ้าเปรียบเปรยก็เหมือนขนตาเป็นผ้าใบวาดรูป และมาสคาร่าเป็นสี Allergen แค่ต้องการจะทำให้ผ้าใบดูดีขึ้นเท่านั้นเอง          อืม....เป็นการอุปมา อุปมัยที่ฟังดูดีทีเดียว แต่ผ้าใบมันไม่น่าจะแพงขนาดนั้นนี่!!!!????? เครดิต: http://74.125.47.132/search?q=cache:BAnEWEFActEJ:www.paulabegoun.com/tag/lash-enhancement/+paula+begoun+lash&cd=4&hl=en&ct=clnk&gl=us แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 53 13:37:59 จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:19:55

ความคิดเห็นที่ 11 จบแล้วจ้าเพื่อนๆ โอย แปลตั้งวันเต็มๆ งานแปลนี่มันเหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย *ปาดเหงื่อ* ผิดถูกขออภัย ข้าพเจ้ามิใช่นักแปลมืออาชีพ (รีบออกตัวกันเลยทีเดียว) จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:22:39

ความคิดเห็นที่ 12 เฮอๆๆๆ เอาไงหล่ะทีนี้ - -" จากคุณ : โยเกิร์ตฟรุต เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:24:20

ความคิดเห็นที่ 13 แปลได้อ่านง่ายมากคะ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆแบบนี้นะคะ จากคุณ : totoro_kawaii เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:28:53

ความคิดเห็นที่ 14 ของอย่างนี้ฟังหูไว้หู ส่วนตัวเราก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้เซรั่มบำรุงขนตาอยู่แล้วค่ะ แต่ก็นะ เค้าว่ากันว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แล้วขนตามันก็ดั๊นช่วยทำให้ดวงตาเป็นหัวใจได้ด้วยสิเนี่ย แนะนำกินนมถั่วเหลืองของ lactasoy ที่ผสม collagen นะค่ะ เพื่อนเรากินทุกวันเลย แล้วขนตามันก็ยาวขึ้นด้วย อันนี้เพื่อนเราเฟริมมาเองเลย แต่อาจจะยาวสู้เซรั่มบำรุงขนตาไม่ได้ แต่มันยาวขึ้นจริงๆ นะ แถมนมถั่วเหลืองก็มีประโยชน์กับร่างกายอีกด้วยน๊า ปล. ขอบคุณ จขกท. มากๆ จ้า มันเป็นสัจธรรมค่ะ ของทุกอย่างย่อมมีข้อเสียค่ะ การใช้เซรั่มบำรุงขนตาในตอนนี้อาจจะเห็นผลชัดแค่ว่าขนตาย๊าว ยาวขึ้นจริงๆ แต่หากใช้ไปนานๆ แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ใครจะรู้ละค่ะ แล้วถ้าเกิดอะไรกับดวงตา มันก็คงจะแย่สุดๆ คงแย่กว่าการที่มีขนตาสั้น บางอีกนะค่ะ จากคุณ : jairm เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:37:02

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากๆครับ สุดยอดมากๆๆๆๆๆๆเลย จากคุณ : Fallen Joker เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:39:38

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากๆเช่นเดียวกันค่ะ อยากให้มีนิตยสารแบบนี้ในบ้านเราบ้างจัง T_T จากคุณ : รักหนักแน่น เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:42:43

ความคิดเห็นที่ 17 กระทู้แบบนี้ สมควรได้กีบ!! จากคุณ : bunnygirl เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:54:43

ความคิดเห็นที่ 18 อ้าวววว  มีกระแสกินแลคตาซอยผสมคอลลาเจน จะทำให้ขนตายาววว งอกมาอีก 1 กระแส  ....เฮ่อ.... ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่กระแสนี่มันเฮี้ยนมากสำหรับห้องแป้ง  มีตัวตายตัวแทนตลอด 555   เราว่าขำๆนะคะ  อย่าคิดมาก พรุ่งนี้จะไปเซเว่น ซื้อแลคตาซอยคอลลาเจนมากินดู 555 จากคุณ : โมจิไส้หนำเลี๊ยบ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 19:17:05

ความคิดเห็นที่ 19 เฮ้ย คห. 14 เราก็กินบ่อยนะ ว่าแล้วทำไมขนตามันไม่ค่อยหรอมแหรมเหมือนก่อน ตอนแรกกะกินเพราะนึกว่าบำรุงผิว จากคุณ : ladymay เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 19:20:20

ความคิดเห็นที่ 20 เขามายืนชูจุ๊กกุแระปรบมือให้ จขกท.โครมๆเลยค๊าาาา จากคุณ : Ryoichiro เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 19:26:47

ความคิดเห็นที่ 21 Once you stop using Latisse, your eyelashes will gradually return to where they were prior to treatment. แสดงว่า หยุดใช้เซรั่มบำรุงขนตา ขนตาเราก็กลับมาสั้นเหมือนเดิม สรุป เปลืองตังค์นะเนี่ย ต้องใช้ตลอด เสี่ยงด้วย ขอบคุณจขกท.มากนะคะ เกือบสั่งมาซะแล้ว จากคุณ : alexnpat เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 19:49:32

ความคิดเห็นที่ 22 ยังไงก็อยากบอกอยู่ดีว่าขอให้สวยอยู่ในขอบเขตดีกว่าค่ะ แล้วเราก็ตามคุณโมจิ ไปซื้อแลคตาซอยผสมคอลลาเจนมากินดีกว่า ไปแ้ล้วนะ               ฟิ้วววววววววววววววววววววววววววววววว จากคุณ : หะเมียวจอมซนพุงป่อง เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 19:49:37

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะคะ  ^^ จากคุณ : Love Cookies เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 20:10:24

ความคิดเห็นที่ 24 แปลแล้วมีประโยชน์มากๆเลยค่ะ แต่คห. 18 เราอ่านเป็น แลคตาสิดผสมคอลลาเจน โอ้ววว เดี๋ยวนี้น้ำยาล้างจิ๊มิ มีผสมคอลาเจนแล้ว ว้าววว... จากคุณ : oh_gift99 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 20:23:49

ความคิดเห็นที่ 25 แปลได้อ่านสนุกมากเลยค่ะ พอเลื่อนรูปขึ้นไปดู หนังตามันก็แปลกๆจิงๆด้วยอ่ะ บึ๋ยยย กลัว จากคุณ : กระต่ายลอยคอ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 20:35:39

ความคิดเห็นที่ 26 มาขำสาวๆ หยุดอย่างหนึ่งต้องวิ่งไปหาอีกอย่างหนึ่ง ก็มันมีความสวยเป็นแรงขับดันนี่เนอะ แต่ถ้าตัวเลือกใหม่มันไม่อันตราย แถมยังมีประโยชน์มากกว่าโทษ เราหนับหนุนค่ะ...ว่าแล้วก็วิ่งไปหาน้ำเต้าหู้โดยพลัน (ป้าข้างบ้านคั้นใหม่วันต่อวัน เข้มข้น ไม่ใส่น้ำตาล ขายถุงละ 5 บาท) ก่อนไป ขอขอบคุณ พีพี.พูพู (ชอบชื่อเป็นการส่วนตัว) ที่อุตส่าห์แปลและเรียบเรียงมาให้อ่านนะคะ ส่วนตัวชอบให้ขนตายาวเหมือนกัน แต่ไม่คิดจะใช้เจ้านี่อยู่แล้ว จากคุณ : After Sunset_Before Sunrise เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 20:39:50

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณที่สละเวลาแปลค่ะ จากคุณ : The Best of Me เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 21:03:23

ความคิดเห็นที่ 28 (i)"แต่แล้วความลับของมันก็ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อส่วน ประกอบของเจ้าตัวเซรุ่มนี่เป็นตัวที่ FDA คอยจับตามองอยู่ซะด้วย (ประมาณ อย.บ้านเรา) ส่วนประกอบที่ว่านั่นก็คือตัวยารักษาต้อกระจก นามว่า Bimatoprost" (/i) หมาน้อยที่บ้านเป็นต้อกระจกอยู่ ถึงว่าทำไมช่วงที่หยอดยารักษาต้อถึงขนตาคุณนายถึงยาวเร็วจัง 555+ จากคุณ : *+*ข น ม ผิ ง ข้ า ง เ ต า*+* เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 21:09:05

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นประโยชน์มากๆ เลยคะ ^^ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : อมยิ้มรสมะนาว เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 21:18:12

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากๆ ค่ะ ดีนะเราไม่สนใจอะไรพวกนี้ เพราะลำพังมาสคาร่าปัดขนตา มันก็ยาวจะแย่แล้ว ถึงเราจะขนตาบางสักเท่าไหร่ แต่มาสคาร่ามันก็ช่วยได้เหมือนกันนา - - น่ากลัวมากอ่ะ เอายาหยอดต้อหินมาใส่ไว้ ทำให้ตาเปลี่ยนสี แถมระคายเคืองอีก แบนตลอดชีวิตเลย... จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 21:31:49

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณมากมายที่นำสาระดีๆมาฝากจร้า เราเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหากับขนตาตัวเองมาตลอดชีวิต กว่าจะรูตัวว่าแพ้สารประกอบหลักในมาสคราราทุกชนิดก็เล่นซะตาช้ำตาบวมทุกครั้งที่ใช้มาสคราร่า แพ้มันทุกยี่ห้อตั้งแต่แท่งละ 99.- ยัง 1590.- ติดขนตาปลอมก็ไม่เป็น เล่นซะเคืองตาจนตาแดง น้ำตาคลอตลอด **ขนตาเด้ง แต่ตาแดงเหมือนเป็นโรคติดต่อ 555+ ฮิตไปต่อขนตาปลอมอยู่พักนึง ก็เล่นซะเกือบตาบอด คือขนตาปลอมที่ต่อไว้ มันทำให้ตาเราอักเสบ แล้วลามมาติดเชื้อเลยอาการหนักเลย คุณหมอตาที่โรงพยาบาลดุเอาว่า หาเรื่องตาบอดจริงๆ สาวๆสมัยนี้!! ตอนนี้ปลงแล้วหลังจากพยายามมาเป็นสิบๆปีกะเรื่องขนตา ทุกวันนี้แค่เขียนขอบตาอย่างเดียว แต่งหน้าแบบดูแล้วขาดๆ แบบสวยไม่เสร็จเพราะไม่มีขนตา แต่ก็คิดว่าดีกว่าไม่มีดวงตาโน๊ะ จากคุณ : maydaysayHi เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 21:52:23

ความคิดเห็นที่ 32 คราวนี้ลองมาคิดดูกัน เมื่อไรที่เราคิดว่า ขนตาพอดีแล้ว พอแล้ว หยุดได้แล้ว ต่อให้เราใช้ Latisse แล้ว (ซึ่งช่วงนี้เราคนแปลขอรวมไปถึงเซรุ่มบำรุงขนตาทั้งหมดนั่นแหล่ะ) ไม่ได้หมายความเราจะเลิกใช้มาสคาร่า แม้แต่ Allergen ที่เคยจัดสัมมนาออนไลน์หนนึงก็เป็นคนพูดเองว่า 90% ของคนที่ใช้ Latisse บอกว่า จะยังคงใช้มาสคาร่าต่อไป แม้ขนตาจะยาวขึ้น หนาขึ้น เข้มขึ้นแล้ว ู^ อันนี้เห็นด้วยมากๆค่ะ เพราะถึงไม่ว่าจะขนตายาวหรือไม่ยาว เวลาแต่งหน้าก็ต้องมีขั้นตอนปัดมาสคาร่าร่วมด้วยอยู่ดี มิเช่นนั้นจะรู้สึกเหมือนว่าแต่งหน้าไม่เสร็จ แล้วทำให้สวยไม่เสร็จนั่นเอง ดังนั้น เราจะสิ้นเปลืองตังทำไมน้อ เดือนนึงตั้งหลายพัน แถมยังเสี่ยงต่อดวงตาเปลี่ยนสีอีก (หรือจะมีคนที่มองโลกในแง่ดีมั้ยน้อที่คิดว่า ได้ทั้งขนตายาว แถมยังไม่ต้องพึ่งบิ๊กอาย ?) จากคุณ : JunoEsQ. Lady* เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 21:54:52

ความคิดเห็นที่ 33 ถูกใจประโยคนี้ค่ะ "90% ของคนที่ใช้ Latisse บอกว่า จะยังคงใช้มาสคาร่าต่อไป แม้ขนตาจะยาวขึ้น หนาขึ้น เข้มขึ้นแล้ว" ไม่เห็นด้วยกับเซรุ่มนี่เหมือนกัน ติดขนตาปลอม+ปัดมาสคาร่าให้สวยเด้งดีกว่าอีก(อิอิ) ตาไม่เปลี่ยนสี ไม่ดำคล้ำ ไม่คันยิบๆด้วย ^^ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 22:00:06 จากคุณ : เคโระน้อย * เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 21:59:02

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณนะคะ ได้ความรู้มากๆเลยค่ะ ดีเหมือนกัน เพราะเราควรจะต้องรู้ข้อดีข้อเสียของสิ่งที่เราใช้ พวกบำรุงหน้าใส ผิวขาว ขนตายาว มันก็อาจจะมีผลข้างเคียงได้นะ คห.14  พรุ่งนี้เราจะเริ่มกินแลคตาซอยผสมคอลลาเจนนะคะ 555+ จากคุณ : phungsilly เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 22:12:14

ความคิดเห็นที่ 35 มันจะคล้ายๆ ไมน็อกซิดิลไหมนะ เพราะก็ทำให้ผม ขน งอกเหมือนกัน แต่ในไทยใช้แพร่หลาย  เพราะสมัยก่อน คนก็เอา ไมน็อกซิดิล มาเป็นยาลดความดัน แต่มันมีผลข้างเคียง ทำให้ผมและขนงอก เค้าเลยปรับมาเป็นยาปลูกผม ตัวนี้ผสมในยาเร่งให้ผมขึ้นแทบทุกตัวเลย   เราเคยใช้สมัยผมร่วง แบบขนาดแค่ฉีดลงผม อันนี้ขอย้ำว่าแค่เรานะ ขนตา ขนคิ้ว หนวด มันขึ้นมาดกเลย สงสัยมันไปทั้งหัว  แต่ผมไม่ขึ้นมาเห็นได้ชัดเท่า ไมน็อกซิดิลหาซื้อได้ตามร้า่นขายยาทั่วไป ทุกหนแห่ง มีแบบกินด้วย แต่เรากินแล้วขนขึ้นทั้งตัว เลิกกิน แต่พอหยุดใช้ เค้าบอกว่าผมจะร่วงเหมือนเดิมนะ จากคุณ : .. (หมูยอใบตอง) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 23:15:18

ความคิดเห็นที่ 36 มีครั้งนึงเคยคิดจะซื้อใช้เหมือนกัน เพราะตอนนั้นไปคลินิครักษาตากับคุณยาย คุณยายไปผ่าต้อกระจกับทำเลสิก คุณหมอที่ทำให้บอกว่าร้านเค้ามียาเร่งขนตายาวขายด้วย ต้องไปถามพนักงานที่เค้าเตอร์ ปรากฏว่ามันดึกแล้วพนักงานกลับบ้านไปแล้ว เลยไม่ได้ซื้อ เหมือนเคยได้ยินมาว่าเป็นตัวยาเดียวกับที่ใช้ลดความดันตาหรืออะไรซักอย่าง น่ากัวเหมือนกันแหล่ะค่ะ เลยไม่คิดจะซื้อใช้ จากคุณ : ชื่อ คิ ค่ะ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 00:04:53

ความคิดเห็นที่ 37 อั๊ยยยย ได้ขึ้นแนะนำเป็นกระทู้แรกของชีวิต ><~ ต้องเซฟเก็บไว้เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล มิเสียหลายที่อู้ทำการบ้านมานั่งแปล 555+ (ขี้เกียจจริงๆเรา) ขอบคุณสำหรับทุกโหวต ทุกกิ๊ฟค่า (เสียดายจังเลย เราไม่เหลือกิ๊ฟแล้ว เลยให้คืนไม่ได้) ขำๆ....มีกระแสแลคตาซอย+คอลลาเจนมาแทนซะงั้น เสียดาย SmartShop กับป้าพอลล่ายังไม่เคยรีวิวแลคตาซอยนะคะ ไม่งั้นจะแปลมาให้อ่านกัน XD ปอลิง ถึง คห.28 (คุณ *+*ข น ม ผิ ง ข้ า ง เ ต า*+*) จริงๆประโยคนี้ "แต่แล้วความลับของมันก็ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อส่วน ประกอบของเจ้าตัวเซรุ่มนี่เป็นตัวที่ FDA คอยจับตามองอยู่ซะด้วย (ประมาณ อย.บ้านเรา) ส่วนประกอบที่ว่านั่นก็คือตัวยารักษาต้อกระจก นามว่า Bimatoprost" --- มันต้องเป็นต้อหิน ไม่ใช่ต้อกระจก แง่ว....เรานึกว่าเราแก้ไปหมดแล้วนะ ดันมีหลุดรอด --- จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 00:35:00

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆแบบนี้นะคะ เอาไปเลย 1 กีบ 3 คะแนน  สำหรับหยาดเหงื่อในการแปล เพื่อความรู้ คู่ ความงาม......... อิ อิ จากคุณ : ปณิชา เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 01:47:32

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านง่ายมากเลย แปลเป็นภาษาพูดแบบนี้เราว่าอ่านเพลินดีค่ะ เคยใช้บำรุงขนตาของDHCอยู่ช่วงนึง หวังว่าไม่ได้ใส่ยาตัวนี้ลงไปนะ แต่คิดว่าคงไม่ได้ใส่ เพราะราคามันไม่แพง เอาเข้าจริงๆ ใช้ไปไม่นานก็ขี้เกียจบำรุงค่ะ 555 มาสคาร่าเวิร์คสุด!! ปล. เคยได้ยินว่าเล็มปลายขนตาแล้วตอนขนตางอกจะยาวกว่าเดิม เลยลองทำดู ปรากฎว่า ต้องรอนานมากกว่าจะยาว ไม่รู้หรอกว่ายาวกว่าเดิมรึเปล่า แต่ไม่เอาแล้วค่ะ ต้องขนตาสั้นอยู่นานมาก ปล.2 หิวน้ำเต้าหู้ขึ้นมาเลย!!! จากคุณ : kowloon เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 01:53:15

ความคิดเห็นที่ 40 จะใช้เซรุ่มเซรั่มแพงๆทำไมให้เสียดายเงินล่ะค๊า น้ ำ มั น ม ะ พ ร้ า ว - __________- ยาวทิ่มลูกตาจริงๆค่ะ  เดี๊ยนคอนเฟิร์ม!! จากคุณ : Makeuplism เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 02:01:12

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณที่อุตส่าห์นั่งแปลบทความดีๆมาให้อ่านนะคะ ว่าแต่...คงจะใช้เวลาน่าดูเลยทีเดียว หุหุ จากคุณ : น้องงัว เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 03:15:13

ความคิดเห็นที่ 42 I've tried Latisse ka.   My lash did get longer, but not by much and no one but me noticed.   I still have to use mascara, etc.   You have to use it everyday for it to work. They said that once you reach the maximum lenght, only 2-3 times a week is okay.  It wasn't.   When I stopped using it everyday, my lash came back to normal lenght pretty fast.   Not worth the cost or effort. จากคุณ : earth after rain เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 03:26:21

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณสำหรับการแปลบทความดีๆ มาให้อ่านกันนะคร้าบผม จากคุณ : alwaysfluke เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 06:15:23

ความคิดเห็นที่ 44 แปลได้ฮามาก น่าจะลองแปลเป็นอาชีพดูนะคะ ^_^ แต่ก่อนเราก็อยากซื้อพวกเซรั่มบำรุงขนตามาใช้เหมือนกัน แต่....ขี้เกียจ ^^'' เราอยากให้ขนตาแค่ยาวกับงอนเท่านั้นไม่อยากให้หนา เลยปัดมาสคาร่าเอาดีกว่าอะค่ะ (หนามากมันหลอกๆตาอะ) แล้วเราก็ใช้เบบี้ออยเช็ดมาสคาร่า ซึ่งเราคิดว่ามันช่วยบำรุงขนตาอยู่นิดๆนะ เพราะเราปัดมาสคาร่าเกือบทุกวัน ขนตาก็ไม่ร่วงแล้วก็ยาวปกติเหมือนเดิม ถึงไม่มากกว่าเดิมก็เถอะ จากคุณ : ningpotter เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 09:10:20

ความคิดเห็นที่ 45 เยี่ยมกั๊บ ขอบคุณเจ้าของกระทู้กั๊บ เหมือนเคยได้ยินว่า ขนตายาวสั้นมันอยู่ที่ ฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนเพศชายเยอะ ขนตายิ่งยาวยิ่งหนา แต่ขนอื่นยาว หนาด้วย เหอะๆ จากคุณ : แมวอัดป๋อง เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 10:22:59

ความคิดเห็นที่ 46 เอร๊ย....พอดีมีน้องที่รู้จักกัน  ขายน้ำมันมะพร้าว เค้าบอกว่ามีลูกค้า(วัยป้า)เอาไปนวดตรงผมที่ร่วงไป ปรากฏว่าผมมันงอกมาใหม่แหล่ะ   เราใช้แค่หมักผมเท่านั้น   เดี๋ยวจะลองทาขนตาดู  เผื่อมันจะยาว จากคุณ : ข้าวผัดไหม้ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 12:43:09

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณสำหรับการนำความรู้ดีๆ มาแบ่งปันนะคะ จากคุณ : คนไม่สวยอยากเล่า เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 12:48:55

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ คห 40 Makeuplism น้ำมันมะพร้าวแบบไหนคะ แบบที่มาหมักผมหรือเปล่า จากคุณ : บรัชออนอ่อนสี เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 12:56:07

ความคิดเห็นที่ 49 อุ๊ย เราใช้วาสลีนทาตาแทนอายครีม ก็แอบรู้สึกว่ามันช่วยให้หนาขึ้นนิดหน่อยนะ (ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า) มีคนบอกว่าน้ำมันมะพร้าวได้ผล เดี๋ยวลองมั่งดีกว่า 5555+ ขอบคุณจขกท.สำหรับสาระดีๆนะคะ ^^~ จากคุณ : jaja12345 เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 13:02:13

ความคิดเห็นที่ 50 เราก็ทาอายครีม ของเกาหลียี่ห้อนึง ขนตาก็ยาวขึ้นนะ โดยเฉพาะขนตาล่าง จะยาวเท่าขนตาบนอยู่แล้ว -*- จากคุณ : Data_Me เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 15:00:18

ความคิดเห็นที่ 51 กินน้ำเต้าหู + ขาหมู(คอลลาเจน) ทุกวันมันคงยาวขึ้นเอง 555 ตอนลูกสาวเล็กๆเราตัดขนตาให้ค่ะ ตอนนี้ยาวพอสวย เราว่ามันจะยาวจะสั้นขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์อ่ะ อะไรผิดธรรมชาตินักมักจะอันตราย จากคุณ : แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 15:38:48

ความคิดเห็นที่ 52 ตอนที่เห็นคนมีรีวิวเรื่องเซรั่มตัวนี้ก็ให้แปลกใจ เพราะสรรพคุณที่เอ่ยมามันแค่เป็นผลพลอยที่ทำให้ขนตายาวขึ้นแต่จริงๆมันคือยารักษาต้อ!!!! น่ากลัวจริงๆค่ะ เลยไม่ได้สนใจ แต่พอจขกท.มาแปลให้ฟังเนี่ย ประทับใจมาก เสียสละมากๆค่ะ ขอบคุณนะคะ ยังไงสาวๆก็สวยอย่างสติกันสักหน่อยนะคะ จากคุณ : มนเกรซ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 15:54:28

ความคิดเห็นที่ 53 น้ำมันมะพร้าว เห็นด้วยเลยค่ะ เคยเอามาเช็ดมาสคาร่า ช่วงที่ลืมซื้อน้ำยาล้างอ่ะค่ะ ขนตายาว เลยค่ะช่วงนั้น ยังงงว่าเป็นเพราะมาสคาร่าของมาจอ หรือว่าน้ำมันมะพร้าว กลับไปใช้น้ำมันมะพร้าวอีกดีกว่า ปล. น้ำมันมะพร้าว เช็ดได้ค่ะ แต่เช็ดมาสคาร่าตัวเบา ๆ ตัวหนัก ๆ แล้วมันไม่ค่อยออก ต้องใช้น้ำยาเช็ดอยู่ดี น้ำมันมะพร้าวแบบกลั่นเย็นอ่ะค่ะ เรียกแบบนี้รึเปล่าเนี่ย จากคุณ : kissaqua เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 18:42:25

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณ จขกท ค่ะ เข้ามาสนับสนุนน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นอีกเสียงนะคะ สารพัดประโยชน์ จากคุณ : อารับปัน เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 20:59:30

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านมาถึง ค.ห ที่ 6. คุณ : พีพี.พูพู   แต่แล้วความลับของมันก็ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อส่วนประกอบของเจ้าตัวเซรุ่มนี่เป็นตัวที่ FDA คอยจับตามองอยู่ซะด้วย (ประมาณ อย.บ้านเรา) ส่วนประกอบที่ว่านั่นก็คือตัวยารักษาต้อหิน นามว่า Bimatoprost ------------------------------------------------------------------------ เราว่าไช่เลยนะคะ........  เพราะสามีเราใช้ยาหยอดตารักษาต้อหิน  มีปัญหาเรื่องขนตายาวเร็วมากๆ จนต้องตัดออก เพราะขนตามันไปปัดกับเลนส์แว่นสายตา ทำให้แว่นไม่สะอาด ต้องคอยเช็ดเรื่อยๆค่ะ  อีกอย่าง ตาสีฟ้าเข็มก็เปลื่ยนเป็นสีเทาๆซะงั้น จากคุณ : UCF2007 เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 03:02:45

ความคิดเห็นที่ 56 พระเจ้าจ๊อด.....กำลังจะไปสอยมาลองอยู่พอดี ขอบคุณที่เอาให้อ่านกัน เห่อๆคงต้องต้องงดไว้ก่อนล่ะนะ อันที่จริงขนตาเราก็ไม่เลวนะ แต่ก้ยังไม่วายที่จะฮิตตามกระแส แต่ก็นะธรรมชาตินี่แหละดีที่สุด จากคุณ : ชอบดื่มwineค่ะ เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 04:22:27

ความคิดเห็นที่ 57 อยากรู้ว่าทำไมสีตาถึงเปลี่ยนไปได้คะ ทั้งที่แค่ทาตรงขนตานิดๆหน่อยๆ ไม่ได้เอาไปหยอดตา แปลกดี จากคุณ : scarlett เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 06:17:02

ความคิดเห็นที่ 58 ตอบ คห.57 อันนี้ก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นเฉพาะตัวยาหยอดหรือยาทาด้วยนะคะ เพราะ ShopSmart กับป้าพอลล่าบอกต่างกันนิดนึง ถ้าอ้างอิงเอาจากคำอธิบายของ SmartShop ตรง คห. 5 ที่ตาดำ(เขียว/ฟ้า)เปลี่ยนสีนี่ เค้าเขียนว่า "เป็นในกรณีคนใช้ยาหยอด Lumigan" (ชื่อยี่ห้อของยารักษาต้อหินน่ะค่ะ หรือตัวยา Bimatoprost นั่นเองค่ะ) แต่เอาเข้าจริงๆ ทาใกล้ๆตา มันก็เป็นไปได้ว่าจะย้อยลงตานะคะเราว่า แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เซรุ่มที่ว่า ตอนใช้ มันเยอะขนาดเยิ้มได้มั้ย หรือต้องทาเยอะขนาดไหน (ไม่อาจเอื้อมจริงๆนะราคา เลยไม่เคยได้เห็นตัวเป็นๆ) แต่ในวิธีใช้ส่วนใหญ่ก็เน้นๆว่าต้องทาให้ชิดขนตาจริงๆ +++++++++++++++++++ แต่ถ้าอ้างจากบทความป้าพอลล่า แกเขียนไว้ว่า However, there are still side effects to consider such as a stinging sensation on skin where Latisse is applied, potential skin discoloration, and a permanent change in pigmentation of the iris (the colored part of the eye). ป้าบอก เองว่า Latisse (ตัวทาขนตานี่ล่ะ) ที่ทำให้ม่านตาเปลี่ยนสี ไม่ใช่ Lumigan ด้วยซ้ำ ป้าอาจจะพลาด หรือมันก็อาจจะยังทำให้ตาเปลี่ยนสีอยู่ดี อันนี้ก็แล้วแต่จะพิจารณาค่ะ เราก็แค่แปลตรงตัวแด่วๆมา ไม่ได้มีความรู้อะไร ++++++++++++ แก้ไขข้อความไม่ให้ยืดเยื้อนิดนึง แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 53 14:29:44 แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 53 13:35:38 จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 13:32:51

ความคิดเห็นที่ 59 กระแสอื่นมาบานเลย ฮา มีทั้งกินแลคตาซอย+คอลลาเจน น้ำมันมะพร้าว เบบี้ออยล์ วาสลีน ไมน็อกซิดิล (!) อายครีมของเกาหลียี่ห้อนึง(?) กินฮอร์โมนเพศชาย (เย้อย) +++++++++++++++++++ .....ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันโหวต ให้กิ๊ฟและคอมเม้นต์จริงๆค่ะ เป็นปลื้มๆ *w* แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 53 14:33:57 แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 53 13:53:16 จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 13:49:08

ความคิดเห็นที่ 60 อาผมใช้ยาลดความดันตาอยู่ ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรเกี่ยวกับตา แต่ว่าขนตาขึ้นมายาวมาก ๆ และหนาด้วย เลยกลายเป็นว่าสวยไปเลย งงเหมือนกัน 555+ ... จากคุณ : artfromheaven เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 14:41:53

ความคิดเห็นที่ 61 เสร็จโจ๋ เพราะความดันตาสูงมาก แต่ไม่อยากกินยา และหยอด อาศัยเซรั่มขนตานี่ล่ะ 55 สวนกระแสไปมั้ยเนี่ย จากคุณ : tuniez83 เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 15:12:30

ความคิดเห็นที่ 62 มาอีกแระ.. คอลลาเจนแบบกินได้ -___-!... จากคุณ : น้องเหมียวสีสวาด เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 15:47:03

ความคิดเห็นที่ 63 ได้ความรู้ๆ อิอิ จากคุณ : Pinkspu เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 16:29:26

ความคิดเห็นที่ 64 สรุป เรามาใช้มาสคาร่าเหมือนเดิมเนอะ จากคุณ : Borpa เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 16:57:25

ความคิดเห็นที่ 65 อยากได้หนังสือเล่มนั้นมานั่งอ่านเล่นบ้างจัง > < เราก็ไม่มีขนตาค่ะ แต่คงไม่ใช้แล้วล่ะเซรั่มอะไรนี่ . . 5555 จากคุณ : Donald Pako เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 18:47:10

ความคิดเห็นที่ 66 แปลได้สนุกสนานมากๆ ค่ะ :) จากคุณ : SET49 เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 20:52:36

ความคิดเห็นที่ 67 ขอโทษนะค่ะไม่นึกว่ากระแสแลคตาซอยผสมคอลลาเจนมันจะมาถึงจะไม่แรงก็ตาม ยังไงสาวๆ คนไหนจะไปซื้อกินก็คิดว่าเพื่อสุขภาพแล้วค่ะ เพราะกินแล้วผิวสวยๆ ค่ะ แต่เรื่องขนตายาวขึ้นก็ต้องฟังหูไว้หูอีกนะค่ะ เพื่อนเรามันอาจคิดไปเองก็ได้ค่ะ มันอาจเป็นแรงปรารถนาอันแรงกล้า เลยทำให้เห็นเป็นเช่นนั้นก็ได้ค่ะ ปล.แนะนำยิ่งถ้าเป็นน้ำเต้าหู้ที่ขายทั่วไปแล้วก็ไม่ใส่น้ำตาลมันก็จะดีกว่าเลย ผิวสวยขึ้นจริงๆ กินทุกวันค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 09:57:23 จากคุณ : jairm เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 09:52:42

ความคิดเห็นที่ 68 อ่า อันนี้หมายถึงยี่ห้อนั้นยี่ห้อเดียวรึป่าวคะ เราเพิ่งซื้อของ OP มาลอง มันจะอันตรายมั้ยเนี่ย แต่มันยาวขึ้นจริงๆนะเออ !! - -" ที่ซื้อมาลอง ก็เพราะว่าไม่อยากติดขนตาปลอมนี่แหละ ขนตาปลอมก็อันตราย ไอนี่ก็อันตราย เฮ้อ T^T จากคุณ : Choco:Addict เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 13:07:36

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณสำหรับบทความนี้ค่ะ ^^ เรามีขนตาครึ่งเดียวยังไม่แคร์  อิอิ อะไรที่เป็นสิ่งแปลกปลอมบริเวณดวงตา หากไม่จำเป็นเราไม่สนใจเลยค่ะ เรื่องแลคตาซอยเรากินทั้งที่ว่า รวมทั้งเมจิโยเกิร์ตแบบบลิ๊งค์ ๆ ไบร์ท ๆ อะไรนี่ล่ะที่ผสมคอลลาเจนกระปุกชมพู ทุกวันนี้ขนตาเราก็ยังอาภัพเหมือนเดิม - -" จากคุณ : ชิฟฟอนคาปูชิโน่ เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 13:21:22

ความคิดเห็นที่ 70 อ่อ ไมน็อกซิดิล  นี่เป็นยารักษาอาการผมร่วงในผู้ชาย พอดีแฟนเราเคยใช้อยู่ช่วงหนึ่ง ผลข้างเคียงของมันก็คือขนดกเป็นลิง - -" จากคุณ : ชิฟฟอนคาปูชิโน่ เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 13:25:13

ความคิดเห็นที่ 71 เราตาชั้นเดียว แต่ติดขนตาปลอมไม่เป็น(แอบกลัว) เลยดัดขนตาทุกวันตอนนี้ยาวขึ้นกว่าเก่าจนเห็นได้ชัด ^^ จากคุณ : Elizabeth's เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 19:04:36

ความคิดเห็นที่ 72 กลับมาเห็น ความคิดเห็นที่ 59 แอบตกใจเล็กน้อย อาคือ เราไม่ได้บอกให้ไปกินฮอร์โมนนะคะ แค่อยากจะบอกว่าเคยอ่านเจอว่า ที่ขนตายาว ขนยาวมันเกิดจะฮอร์โมนเพศชายในตัวต่างหาก แต่ละคนมีไม่เท่ากันทำให้ขนยาวสั้นยาวไม่เท่ากัน ไม่แนะนำใครให้ไปหาฮอร์โมนกินนะคะ อันตรายมาก จากคุณ : แมวอัดป๋อง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 00:20:38

ความคิดเห็นที่ 73 ^ ^ 555+ อันนั้นเขียนแซวเล่นค่ะ แหม ก็ตอนนั้นคุณแมวอัดป๋องบอกอยู่เองว่า ขนอื่นก็หนาด้วย ยาวด้วย คงไม่มีใครกินหรอกค่า อีกอย่างได้ยินว่าฮอร์โมนเพศชาย ยิ่งเยอะ สิวยิ่งบาน (ไม่รู้จริงเปล่า) ไม่เอาล่ะค่ะ จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 00:45:08

ความคิดเห็นที่ 74 อยากให้ อย ไทย เขี้ยวเหมือน FDA ของเมกาจัง จากคุณ : arra เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 11:38:23

ความคิดเห็นที่ 75 น่ากลัวจัง จากคุณ : nu-nanniecute เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 21:11:04

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณมากนะคะ :   ) จากคุณ : อลิซ ในดินแดนไม่มหัศจรรย์ เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 22:14:43

ความคิดเห็นที่ 77 เป็นคนไม่แต่งหน้าอะค่ะ แล้วครั้งแรก ที่ได้จับมาสคาร่า เราเป็นคนขนตายาวมาก แต่ไม่งอน บวกกับอาการที่ดัดขนตาไม่เป็น ครั้งแรกที่ดัดขนตา มันเลยทำให้ขนตากระจุยหักๆอะั ชี้โด่ ชี้เด่ ปรากฏว่า ทำไงรู้มั้ยคะ คงไม่มีใครในโลกนี้ทำหรอก (เล่าใ้ห้แฟนเราฟังทีหลัง เค้ายังประนามอยู่ทุกวันเน้) คือ เราเข้าใจว่า เป็นเพราะขนตามัน "ยาวเกินไป" คิดได้ดังนั้น คว้ากรรไกรอันเล็ก มาฉับๆๆที่ขนตาทั้งสองข้างเลยค่ะ เหลือขนตาสั้นกุดกะพริบปิบๆ เหมือนขนตาหมาเลยอะ แล้วนับตั้งแต่วันนั้น จนมาวันนี้ ผ่านมา 4 ปีแล้ว อยากจะบอกว่า ขนตามันก็ยาวขึ้นนะ แต่ไม่ยาวเท่าเก่าีอีกต่อไป เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าตัดขนตาตัวเองเล่น (แบบเรา) และความคิดที่เชื่อว่า ผมคนเรายาวได้ ขนตาเราก็ยาวได้ มันก็ถูกอยู่ส่วนเดียว คือ มันยาวขึ้น แต่ยาวขึ้นช้ากว่าผมมากๆๆๆๆๆๆ อัตรา หนึ่งต่อหมื่นเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นก็ไม่คิดจะใช้ยาเร่งแต่อย่างใดค่ะ ไม่มีขนตายาวๆก็สวยได้อะเนาะ มั่นซะอย่าง ฮ่าๆ จากคุณ : mookiebear เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 15:17:06