 |
ความคิดเห็นที่ 9 |
เราก็เคยเป็นค่ะ เป็นสาวหน้าใสมาตลอด พอไปเรียนเมืองนอกเท่านั้นแหล่ะ โอ้!สิวบุก จนเครียดร้องไห้เลย เพราะ เป็นแบบเม็ดใหญ่ๆ อักเสบเป้งๆ นอกจากไม่สวยแล้ว มันยังเจ็บมาก! ต่อไปนี้คือคำแนะนำค่ะ
1.ทำใจค่ะ ไม่ได้กวนนะ เรื่องใจมาที่หนึ่งค่ะ ยิ่งคนเคยหน้าใสๆอยู่ดีๆมาเป็นแบบนี้ มันก็เครียดจิตตกกันทั้งนั้น ต้องให้กำลังใจตัวเองค่ะ ว่าเป็นได้ก็หายได้ หรือถึงมันจะไม่สวยไปบ้างก็ช่างมันเป็นรสชาติของชีวิต จะได้เข้าใจว่าคนเป็นโรคผิวหนังเยอะๆเค้ารู้สึกยังไงกัน นี่แค่เป็นสิว ไม่ได้ไฟไหม้นำ้ร้อนลวกโดนน้ำกรด จะได้มีเมตตากับคนอื่นมากขึ้น พลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการฝึกจิตค่ะ (ธรรมะไปไหมเนี่ย ฮ่าๆ)
2.สังเกตตัวเอง ว่าสิวนี้ท่านได้แต่ใดมา คือ เป็นสิวจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาการแพ้สารเคมี หรือความสกปรก
3.กรณีฮอร์โมน ลองสังเกตว่าผิวหน้าคุณ ผลิตนำ้มัน ออกมามากกว่าปรกติ จากตอนอยู่เมืองไทยรึเปล่าคะ เช่นตอนอยู่เมืองไทย ผิวธรรมดา หรือมันบ้างแค่ทีโซน แต่พอมาเมืองนอกเจออากาศหนาวแล้ว ผิวมันตลอด ชุ่มฉ่ำไปเกือบทั้งหน้า ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ต้องทำใจเลยว่า เป็นเพราะฮอร์โมนที่กำลังปรับตัว อาจจะไม่หายขาดเพราะ มันไม่ได้อยู่ที่ปัจจัยภายนอก แต่อยู่ที่ฮอร์โมนภายใน และรักษาไปตามอาการค่ะ (เราก็เป็นสิวแบบนี้ สังเกตได้อีกอย่างสิวมักจะมาช่วงมีประจำเดือนและเป็นเม็ดมหึมา ราวกับอุกาบาต)
4.กรณีแพ้ อันนี้ต้องดูหลายๆอย่างๆค่ะ ทั้งแพ้นำ้ แพ้อาหาร แพ้อากาศ แล้วก็ไม่ใช่ปุบปับใช้แล้วจะแพ้ เลย หรือเลิกใช้แล้วจะหายเลย ของบางอย่างต้องกินต้องใช้สักสองสามทีแล้วก็ถึงแพ้ คุณต้องค่อยๆสังเกตตัวเอง ว่าใช้อะไรแล้วมีผลบ้าง แต่ที่เลิกทำได้เลย คือ ใช้น้ำอุ่นจากก๊อกล้างหน้าค่ะ ไม่ดีกับผิวด้วยประการทั้งปวง (น้ำอุ่นจากก็อก จะมีสารเคมีที่ช่วยรักษาอุณหภูมิผสมอยู่) ใช้น้ำเย็นดีกว่า ผิวกระชับด้วย ตื่นด้วย
5.กรณี ความสกปรก อาจจะมาจากความไม่รู้ เพราะ อยู่เมืองนอกมันหนาวๆเย็นๆ เสื้อผ้าใส่ซ้ำมั่งอะไรมั่ง เพราะรู้สึกว่ามันยังไม่สกปรก เหงื่อมันไม่ออกเหมือนเมืองไทย แต่เชื้อโรคมันไม่หยุดทำงานนะคะ อะไรที่เกี่ยวข้องใกล้กับหน้า เช่น ผ้าพันคอ หมวก ถุงมือ อาจจะต้องดูหน่อยว่ามันสกปรกรึเปล่า
6.พอสังเกตแล้ว จะได้แก้ที่ต้นเหตุค่ะ ส่วนเรื่องการรักษา ยาสิวมีขั้นตอนหลักๆสามประการค่ะ คือ รักษาอาการอักเสบ (การฉีดยา, การกินยาแก้อักเสบ. การกดหัวสิวออกแล้วทายา) ป้องกันการอุดตันและเกิดการอักเสบซ้ำ (ยาทาละลายหัวสิว จำพวกbrevoxyl ) และ ลดรอยแผลจากสิว(จำพวกวิตามินAและC) ถ้าคุณไปเรียนต่อ ที่มหาวิทยาลัยน่าจะมี Health Center สำหรับนักศึกษา ไปปรึกษาได้เลยค่ะ จะได้ขอยาฟรี ประหยัดไปได้อีก และหมอๆที่ประจำที่ศูนย์สุขภาพ ส่วนใหญ่เป็นอาจารย์หมอที่เกษียณแล้วของทางสถาบันนั่นแหล่ะ ก็น่าจะเก่ง แต่บางทีเขาอาจจะมองว่า โธ่ ! อีหนูเป็นสิวแค่นี้เอง อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ ก็ขอให้คุณบอกไปเลยว่ามันมีผลกับสุขภาพจิตของอิฉันค่ะ ทำให้การเรียนย่ำแย่ไปด้วย เดี๋ยวเขาก็ดูแลให้เอง แต่ถ้าไม่มี Health center ก็ลองไปปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยาดูก็ได้ค่ะ บอกข้อมูลด้วยว่าคุณสังเกตตัวเองมาแบบนี้ๆ เขาน่าจะให้คำแนะนำที่เหมาะกับคุณได้ หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างนะคะ
จากคุณ |
:
หงสบาท
|
เขียนเมื่อ |
:
24 มี.ค. 53 11:23:15
|
|
|
|
 |