ความคิดเห็นที่ 1 ผ่านไปซักสามสี่วัน อาการเริ่มแย่ค่ะหน้ามืดใจสั่น ไม่มีแรง จะทำอะไรก็ไม่มีแรง ตอนนั้นจำได้เรียนอยู่ชั้น4 เดินขึ้นบันไดไม่ไหว ต้องให้เพื่อนอุ้มขึ้นไป กินอะไรเข้าไปก็อาเจียน  แม้กระทั่งน้ำค่ะ  คือทานอะไรเข้าไปซักพักก็อาเจียนออกมาหมดเลย ร่างกายเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ไม่มีแรง จนสุดท้ายต้องไปนอนโรงบาล นอนโรงบาลหมอก็ไม่ได้ทำอะไรมาก ให้น้ำเกลือพร้อมกับตรวจเช็คร่างกายแบบวันต่อวัน  ให้ทานอาหารทีละนิด กินอะไรไม่ค่อยได้เหมือนเดิม เติมน้ำเกลืออย่างเดียว  ดีขึ้นบ้างแต่ก็นานเหมือนกันกว่าจะได้ออกโรงบาล  วันที่ออกโรงบาล ชั่งน้ำหนัก  เหลือ 47 -*- จากคุณ : รักอีกครั้ง...ก็ยังเป็นเธอ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 20:28:40

ความคิดเห็นที่ 2 เหตุการณ์ระทึกใจ เริ่มขึ้น วันหนึ่ง หลังจากที่ออกโรงบาล ก็นอนอยู่ที่บ้านมีคุณป้าดูแล  คุณป้าทำอาหารให้เราทาน เราก็ทานปกติ ไม่มีอะไร เสร็จเราก็นอนดูทีวี  ซักพักเริ่มชาที่ปลายเท้า  ปลายเล็บ เหมือนเป็นเหน็บ  ขยับไม่ได้  อาการเริ่มลามมาเรื่อยๆจนเราขยับตัวไม่ได้ มือหงิก ขาเกร็ง พูดก็พูดไม่ได้ ตอนนั้นป้ารีบโทรหาพ่อกับแม่ให้มาที่บ้าน เราเห็นและรับรู้ทุกอย่างแต่ทำอะไรไม่ได้เลย น้ำตาไหลอย่างเดียว พ่อกับแม่รีบพาเราไปที่โรงบาล ไปถึงห้องฉุกเฉินหมอเอาออกซิเจนมาครอบ แล้วก็ฉีดยา  พ่อกับแม่อยู่ข้างๆจับมือบอกว่าอย่าเป็นอะไรนะลูก  ซักพักอาการเกร็งดีขึ้นจนเป็นปกติ เราสามารถขยับร่างกายได้ แต่ก็ต้องนอนโรงบาลต่อ จากคุณ : รักอีกครั้ง...ก็ยังเป็นเธอ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 20:34:46

ความคิดเห็นที่ 3 เรานอนโรงบาลอยู่เป็นเดือนๆ เพราะหมอก็ไม่รู้จะรักษายังไง คือก็ให้น้ำเกลือ อาหารบ้าง เรื่อยๆ ให้ทานอาหารทีละนิด  พยายามให้้ร่างกายปรับสภาพเพื่อที่จะรับอาหาร ตอนนั้นที่อยู่โรงบาล เราลิสต์รายการไว้เลยว่าออกไปแล้วจะกินอะไรบ้าง เพราะด้วยความที่ไม่ได้กินอะไรมานาน นึกถึงอาหารที่ชอบก้อยากกินไปหมด  อาการโดยรวมดีขึ้นเรื่อยๆ พอเริ่มทานอะไรได้บ้างก็ออกโรงบาล   ทีนี้พอทานได้ เราก็ทานแหลก  ไม่ถึงเดือน  น้ำหนักจากประมาณ48ขึ้นมา56 นี่สินะ ที่เค้าเรียกโยโย่เอฟเฟค -*- จากคุณ : รักอีกครั้ง...ก็ยังเป็นเธอ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 20:38:55

ความคิดเห็นที่ 4 ปาดค่ะ~~ จากคุณ : Debutante เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 20:40:16

ความคิดเห็นที่ 5 เราวนเวียนอยู่กับการลดน้ำหนักอยู่หลายปีค่ะ  จนผ่านมาปีกว่าๆ ช่วงนั้นก็มีความสุขกับการกินมากๆๆ ทานเยอะ น้ำหนักขึ้น  แล้วก็เครียด จนทำให้เกิดเป็นอาการของโรคบูลีเมีย ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบหรอกค่ะว่าเป็นบูลีเมีย อาการก็คือ เราจะทานอะไรเยอะๆๆในเวลาอันรวดเร็ว แบบ ขนม น้ำ เยอะมากๆ กินเข้าไปแบบปอบลงเลยค่ะ  พอกินเข้าไปเสร็จ จะรู้สึกผิด แบบว่า กินไปทำไมเนี่ยก็รู้อยู่ว่าเดี๋ยวจะอ้วน เริ่มเครียด และต้องหาวิธีจัดการกับอาการที่เรากินเข้าไป ก็คือล้วงคอให้อาเจียนค่ะ  ล้วงอยู่นั้นจนไม่มีอะไรจะออก   แรกๆก็ล้วงคออย่างเดียว หลังๆมาเนี่ย รู้สึกว่ามันยังไม่พอ ยังกำจัดได้ไม่หมด  คือพออา้เจียนออก ก็ทานยาถ่ายซ้ำไปอีกค่ะ  คือพยายามเอามันออกมาจากร่างกายให้หมด เราทานยาถ่ายแทบทุกวัน เพิ่มปริมาณขึ้นอีก ส่วนอาเจียนหลังๆมาก็เหมือนตั้งใจที่จะกินให้เยอะๆ เพราะจะได้อาเจียนออกมาง่ายๆ กินน้ำเข้าไป แล้วก็ล้วงออกมาทีเดียว  สบายใจ  ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆ จนเข้ามาอ่านในอินเทอร์เนต จนรู้ว่าที่เราเป็นอยู่ มันคืออาการป่วยของโรคบูลีเมีย แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 53 21:41:07 จากคุณ : รักอีกครั้ง...ก็ยังเป็นเธอ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 20:45:38

ความคิดเห็นที่ 6 ป๊าดดดดดดดดดด ปาดทั้นมั้ย? แต่ชื่อโรคตอนแรกอ่านเป็นลูคิเมีย ตกใจนิดนึง แล้วก็ เอ๊ะๆ ชั้นอ่านผิด จากคุณ : mmzmay เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 20:46:24

ความคิดเห็นที่ 7 รอดูอาการอย่างใจจดใจจ่อ ^ ^ ^ แต่เอ....เคยได้ยินแต่ลูคิเมียนา จากคุณ : โบราณเรียกชื่อ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 20:48:13

ความคิดเห็นที่ 8 ปาดค่ะ อาการบูลิเมีย มีจริงๆ ค่ะ สาวๆ ที่อยากผอม ควรรู้จักชื่อโรคนี้ไว้ จากคุณ : none name เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 20:53:32

ความคิดเห็นที่ 9 พอทราบว่าเราป่วยปุ๊บ ก็เริ่มหาข้อมูลว่าเกิดจากอะไร  ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นอาการป่วยทางจิตค่ะ  คือเป็นความไม่มั่นใจของตัวเราเอง คิดว่าอ้วน ทั้งที่จริงๆตอนนั้นเราไปถามใคร ก็ไม่มีใครบอกว่าเราอ้วนซักคน  แต่เราน่ะคิดไปเองว่าชั้นอ้วน ชั้นน่าเกลียด  ด้วยความที่ว่ากลัวค่ะ เพราะขึ้นต้นคำว่าโรค มันก็น่ากลัวอยู่แล้ว จึงเลิกทานเป็นปอบลง พยายามทานให้พอดีๆ  แต่ความกังวลมันก็มีอยู่บ้าง  จนบางครั้งเนี่ยนั่งนับแคลลอรี่ที่ทานไปแต่ละวัน  แบบว่าพลิกดูทุกอย่างที่กินว่ามีกี่แคล  นั่งนับว่าวันนี้กินไปกี่แคล  คือเกือบๆจะเป็นอนอเร็กเซียอีกโรค แต่พอดีว่าเราชอบทานขนมจุกจิกค่ะอดไม่ได้จริงๆเลยไม่ได้อด เหอๆๆ หลังจากนั้นร่างกายก็เป็นปกติค่ะ  คือทานอาหารปกติ  แต่ผลข้างเคียงของการทานยาลดความอ้วน คือ ระบบขับถ่าย ระบบย่อยอาหารค่ะ คือเรารู้สึกว่าระะบบย่อยอาหารของเราไม่ปกติ คือทำงานได้ช้ามาก  เช่นเวลาเราทานอะไรไปจะย่อยช้ามาก  ปกติคนเราจะทานอาหารวันละสามมื้อใช่ป่ะค่ะ แต่สำหรับเรา วันไหนถ้าทานครบสามมื้อ  วันนั้นจะอยู่ไม่ได้เลยค่ะ เหมือนจะอาเจียนออกมา คือเหมือนว่ามันจะล้นคอ  คือเมื่อเช้าที่กินไปยังย่อยไม่หมด  อัดมื้อเที่ยง มื้อเย็นไปอีก  มันจะล้นออกมา  แล้วบางที อาเจียนออกมา เป็นอาหารที่กินไปเมื่อวานตอนเช้า หรือสองวันก่อน  ซึ่งระบบย่อยอาหารเราจะแย่มากๆค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 53 21:42:07 จากคุณ : รักอีกครั้ง...ก็ยังเป็นเธอ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 20:55:44

ความคิดเห็นที่ 10 ปาดค่ะ รออ่าน จากคุณ : Normal.Girl เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 21:02:21

ความคิดเห็นที่ 11 อีกอาการคือ ติดยาถ่ายค่ะ  เพราะเมื่อก่อนตอนเป็นบูลีเมีย จะต้องใช้ยาถ่ายตลอด กินงามระหง คนปกติทานกัน2-4เม็ด  เดี๊ยนฟาดไป15เม็ด ต่อวันค่ะ มีครั้งนึง กินไปทีเดียว60เม็ด คือทั้งกล่อง แบบว่าบ้าไปแล้ววันั้นทั้งวันไม่ทำไรเลยค่ะนอนอยู่หน้าห้องน้ำ พยายามไม่ใช้ยาถ่าย  ขออนุญาตนะคะ คือแบบว่าเคยไม่ถ่ายทั้งอาทิตย์เลยค่ะ   เพราะร่างกายมันเคยชินกับการใช้ยา   แบบว่าตอนนั้นก็แย่มากๆพยายามปรับร่างกาย หาวิธีรักษาต่างๆนานา  ก็ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ ณ ปัจจุบันนี้ ร่างกายก็ดีขึ้นเรื่อยแล้วค่ะ  ยาถ่ายก็ไม่ทานแล้ว อาจมีบ้างนานๆที เรื่องการกิน ปกติไม่ทานมื้อเช้าค่ะ  แล้วก็ไม่ค่อยชอบกินข้าว คือกินวันละมื้อ แต่ชอบทานผลไม่กับขนมจุกจิกแทน มีอาหารเสริมบ้าง ร่างกายจะไม่ค่อยเฟิร์มค่ะเพราะไม่ออกกำลังกาย จะเป็นเนื้อเละๆจับไปจะนุ่มนิ่ม ก็จะพยายามออกกำลังกายให้เฟิร์มไปกว่านี้ ปรับร่างกายให้เป็นปกติค่ะ อ้อ  ลืมบอกไป  จากการหาข้อมูลมา ยาลดน้ำหนักที่เรากินไปเนี่ย มันเป็นกลุ่มเดียวกับยาบ้าค่ะ  คือใจสั่น นอนไม่หลับ  แล้วมันจะมียากินก่อนนอนซึ่งคือยานอนหลับค่ะ วันไหนลืมกินยาก่อนนอนจะกระวนกระวายมาก  อันตรายจริงๆค่ะ อันนี้คือมาแชร์ประสบการณ์ที่เราเจอมาค่ะ อยากให้คนที่กำลังคิดจะทานยาลองอ่านดูนะคะ ว่ามันคุ้มมั๊ยกับการที่อยากผอมอยากสวยแต่เอาีืชีวิตเรามาเสี่ยง ค่ะ จากคุณ : รักอีกครั้ง...ก็ยังเป็นเธอ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 21:03:40

ความคิดเห็นที่ 12 สุดท้ายนี้ก็ขอให้สาวๆทุกคนที่กำลังคิดจะทานยาลดน้ำหนัก ก็ขอให้ศึกษาข้อมูลดีๆค่ะ ที่บอกเพราะเป็นห่วงจริงๆๆ ตอนนั้นยังเด็กยังไม่รู้อะไรอยากสวยอย่างเดียว ดีนะที่ยังไม่ตาย เหอๆ การลดน้ำหนักมีหลายวิธีที่ปลอดภัยค่ะ  ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดี สุขภาพดี นะคะ สงสัยอะไรถามได้ค่ะหลังไมค์มาก็ได้ค่ะยินดีให้คำแนะนำจากประสบการณ์ที่เจอมาค่ะ อ้อ  ปัจจุบันส่วนสูง173  น้ำหนัก 52 ขึ้นลงบ้างค่ะ  ไม่ผอมมา ไม่อ้วนมากกำลังพอดีๆ มีความสุขเลยค่ะ จากคุณ : รักอีกครั้ง...ก็ยังเป็นเธอ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 21:13:36

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องของ จขกท. เป็นข้อเตือนใจมากๆๆ คือเราว่าผู้หญิงก็อยากผอมทุกคนละค่ะ อยากดูหุ่นดี ใส่อะไรก็สวย เราก็พยายามลดอยู่ แต่อดของจุกจิกไม่ค่อยจะได้(ฮา) เคยคิดจะลองทานยาดูตั้งหลายครั้ง แต่ก็เคยอ่ายเจอว่ายาลดความอ้วนมันมีผลข้างเคียงหลายอย่าง ก็เลยใจไม่กล้าพอซักที เคยคิดจะล้วงคอ แต่แค่เอามือแหย่ๆ เข้าไป มันก็เจ็บๆ แล้วอ่า ก็ใจไม่กล้าพออีกเหมือนกัน เหอเหอ ส่วนใหญ่ถ้าช่วงไหนกินเยอะแล้วน้ำหนักขึ้นมาก เราจะลดอาหารเย็นอ่าค่ะ อดไม่ได้เลย พออดแล้วรู้สึกว่าโซ ไม่มีแรง มึนๆ ทั้งวันไงไม่รู้ เห็นไรก็หงุดหงิด อยากบอกทุกคนเหมือนจขกท. ว่า ความสวยมันก็สำคัญสำหรับผู้หญิงอย่างเรา แต่อย่าให้ถึงขนาดทำร้ายร่างกายที่พ่อแม่ให้มากันเลยค่ะ มาสู้ๆ ลดน้ำหนักกันแบบสุขภาพดีๆ กันดีกว่า :D ปล. จขกท. นั่นไม่เห็นอ้วนเลยยยย ขาก็เล็กกกก โฮกกกก สูงก็สูง อิจฉาค่ะ จากคุณ : none name เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 21:19:44

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณ จขกท.มากถึงมากที่สุดค่ะ เพื่อนในกลุ่มเราคนหนึ่งเป็นอยู่ ... มันทรมานมากค่ะ เข้าใจเลย ขออนุญาตนำไปเล่าให้เพื่อนคนนั้นฟังนะคะ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ ปล. จขกท.หุ่นดีเหอะ อิจฉาจัง *-* จากคุณ : kongous3kii เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 21:22:20

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกความเห็นเลยค่ะ และยินดีมากๆหากจะเอาเรื่องของเราไปเล่าเพื่อนเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่นๆได้ทราบ คุณพ่อเค้าขออยู่เสมอค่ะว่าจะทำอะไรก็ทำ ขออย่างเดียวอย่ากินยาลดความอ้วน-*- ตอนนี้ก็เข็ดสุดๆละค่ะ  ถ้าเพื่อนจะกินยาลดความอ้วนนี้เราห้ามสุดฤทธิ์ประมาณว่าข้ามศพชั้นไปก่อน เหอๆๆ ห้ามเพราะห่วงจริงๆค่ะ จากคุณ : รักอีกครั้ง...ก็ยังเป็นเธอ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 21:36:31

ความคิดเห็นที่ 16 จขกท.หุ่นดีค่ะ จากคุณ : ตุ๊กแกลายหัวใจสีชมพู เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 21:41:52

ความคิดเห็นที่ 17 ดีใจด้วยนะคะที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก... รักตัวเองให้มากๆนะคะ อะไรก็ไม่สำคัญเท่ามีสุขภาพที่ดีค่ะ... จากคุณ : Arlington Girl เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 21:44:09

ความคิดเห็นที่ 18 เคยอ่านชีวประวัติเจ้าหญิงไดอาน่า ท่าก้อเคยเปนโรคนี้เหมือนกัน น่ากลัวจริงๆเลย แต่ดีนะคะที่จขกท รักษาจนหาย ไม่งั้นคงจะมีผลต่อสุขภาพมากๆแน่ๆ จากคุณ : nann*kyu เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 21:47:14

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : หนูตุ่มกับน้าโป๊ะ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 21:51:15

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณค่ะ ตออนนนี้เราก็เป็นคนหนึ่งที่อยากผอมมากๆ แต่ก็กินไม่ยอมหยุด ... เรื่องล้วงคออาเจียร เคยลองตอนสมัยเรียน ปีหนึ่ง (นานมากมายละ) ทำอยู่ครั้งสองครั้งค่ะ เข็ด เสียดายค่าข้าว ดีจริงๆที่ไม่ติดเป็นโรคนี้ เลนเปลี่ยนมาเป็น "กินเยอะนักใช่ไหม ออกกำลังกายควบคุมแทนก็แล้วกัน" แต่ก็ไม่ได้ออกมากมายนะค่ะ แค่รู้สึกผิดวันไหนก็ค่อยออก เน้น กิจกรรมในร่มค่ะ อะๆอย่าพึ่งคิดไปไกล ปั่นจักรยานอากาศ และก็เต้นแอร์โรบิคค่ะ 3 วันต่อ 1 สัปดาห์ กินเยอะ ไม่อ้วนขึ้นมาก แต่ก็ไม่ลดค่ะ จากคุณ : ยืนงงในดงแมว เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 22:20:34

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ จขกท.ไม่ได้อ้วนเลยนะคะ หุ่นดีมาก คอนเฟิร์มค่ะ! จากคุณ : MyBlooD เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 22:35:08

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณ มากนะคะที่ เอามาลงเตือนใจสาวๆ เราเองก้อเคยกินเหมือนกัน กินๆหยุดๆอ่ะค่ะ นน ก่อนกินยา 52-53 ค่ะ กินไปก้อไม่ได้ลดเยอะเท่าไหร่ จำได้ว่าตอนกิน ผอมที่สุด ประมาณ 48-49 โล (เราสูง 170ค่ะ) ปัจจุบัน เลิกกินมานานแล้ว เข้าฟิตเนสทุกวัน แต่ยัง ห้าสิบปลายๆอยู่เลย บางทีก้อท้อใจน่ะ นน ลงช้าเกิน แต่ก้อ ดีกว่ากันยาค่ะ ไม่อยากมึนๆ จำอะไรไม่ค่อยได้ เหมือนเมื่อก่อน แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 53 22:43:53 จากคุณ : SoMe ThInG DeEp InSiDe เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 22:40:48

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณที่มารีวิวให้เราได้รู้ว่าการทานยาลดน้ำหนัก มันอันตรายมากๆ แต่ของจขกท.มันเป็นอนุพันธ์ของยาบ้า อันนี้หนักมาก ตกใจตรงกันยาถ่าย 60 เม็ด ตอนนี้ จขกท.หุ่นดีมากๆค่ะ จากคุณ : totoro_kawaii เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 22:52:39

ความคิดเห็นที่ 24 ตอนนี้ผอมแล้ว  สวยจิงๆค่ะ ดีใจด้วยค่ะ เพื่อนก้อเคยเป็นเหมือนกัน พอใจในสิ่งที่เราเป็น และทำมันให้ดีที่สุดก็น่าจะพอแล้วล่ะค่ะ ......เพิ่งรู้ว่ามันชื่อโรค บูลิเมีย นะเนี่ย โอน่ากลัวจิงๆ ยอมอ้วน ^^ จากคุณ : โบราณเรียกชื่อ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 23:07:02

ความคิดเห็นที่ 25 โรคนี้ เรารู้จักในนาม กินแล้วอยากอ้วกออกมา จากคุณ : archdrea เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 23:31:19

ความคิดเห็นที่ 26 เจ้เข้ามาโหวตให้กระทู้นี้ค่ะ สาวๆควรระวังนะคะอย่าทานยาซี้ซัวค่ะ อันตรายมากๆ จากคุณ : ชอบดื่มwineค่ะ เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 02:46:35

ความคิดเห็นที่ 27 น่ากลัวมากเลย จขกท เรียนอยู่แม่ฟ้าหลวงป่าวคะ ?? จากคุณ : ShAdOw's Panda เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:28:52

ความคิดเห็นที่ 28 ขออนุญาตเจ้าของกระทู้เอาข้อมูลของโรค Anorexia และ Bulimia มาฝากสาวๆนะคะ Anorexia Nervosa และ Bulimia Nervosa จัดเป็นอาการทางจิตเกี่ยวกับความผิดปกติด้านการทานอาหาร พบมากในวัยรุ่นค่ะ โดยสาเหตุของทั้งสองโรคก็จะคล้ายๆกัน คือ ประกอบด้วย 5 ปัจจัย 1. ปัจจัยด้านพันธุกรรม ผู้ที่มีพ่อแม่หรือคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ ทำให้มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นค่ะ 2. ปัจจัยทางครอบครัว ผู้ที่ป่วยที่เป็นโรคทั้งสองอาจจะเกิดจากการที่พ่อแม่ เข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ รวมทั้งปกป้องและเข้มงวดกับบุคคลนั้นมากเกินไป การควบคุมการกินอาจทำให้ตัวเขารู้สึกว่าตัวเองสามารถควบคุมอะไรบางอย่างได้ 3. ปัจจัยทางสังคม ค่านิยมของสังคมสมัยนี้ ให้การยอมรับคนที่รูปร่างดี ผอมบาง รวมทั้งเสื้อผ้าที่ผลิตมาก็เหมือนจะทำมาแต่ไซส์ S เท่านั้น สาวๆหลายคนจึงพยายามลดน้ำหนักเพื่อให้ไม่รู้สึกแปลกแยกและได้รับการยอมรับจากคนในสังคม 4. บุคลิกภาพของตนเอง ผู้ที่มีระเบียบวินัยสูง ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ ก็อาจทำให้มีโอกาสเป็นโรคนี้สูงขึ้น 5. ปัจจัยทางพัฒนาการ พัฒนาการในช่วงวัยรุ่นของผู้หญิง จะเป็นช่วงที่ให้ความสำคัญกับรูปร่างของตัวเองมาก และคิดว่า ความรู้สึกมีคุณค่าของตนเองสัมพันธ์กับการรูปร่างดี หน้าตาน่ารัก ข้อแตกต่างระหว่าง Anorexia กับ Bulimia คือ Anorexia : ผู้ป่วยจะไม่ทานอาหาร เพื่อรักษาน้ำหนัก Bulimia : ผู้ป่วยจะทานอาหารมากผิดปกติเป็นช่วงๆ (Binge-eating) และใช้วิธีที่ไม่เหมาะสมเพื่อไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่ม เช่น อาเจียน ใช้ยาระบาย ออกกำลังกายอย่างหนัก โดยสิ่งที่ผู้ป่วยทั้งสองโรคเหมือนกัน คือ มีทัศนคติเกี่ยวกับรูปร่างและน้ำหนักตัวที่ผิดปกติ ดังนั้นวิธีการรักษาสองโรคนี้ที่ได้ผลที่สุด คือ การแก้ที่ทัศนคติค่ะ เราควรสร้างทัศนคติที่ดีกับตัวเอง คุณค่าของคนเราไม่ได้อยู่ที่การมีรูปร่างหน้าตาที่ดีเพียงอย่างเดียวนะคะ ความคิด ความสามารถ การพูด การกระทำต่างหากที่สร้างคุณค่าให้ตัวเราค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 53 09:45:04 จากคุณ : Muniver เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:44:19

ความคิดเห็นที่ 29 เอาคลิปโฆษณาเกี่ยวกับ eating disorder มาให้ดูด้วยค่ะ เราว่าสาวๆหลายคนเวลาส่องกระจกก็คงรู้สึกแบบนี้ ... จากคุณ : Muniver เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:45:32

ความคิดเห็นที่ 30 เคยทานยาลดเหมือนกัน แต่อยู่ในความควบคุมของแพทย์นะคะ 8week 8โล แต่มันทรมานมากกกกอ่ะ พอลดมาได้ก็แบบจะรู้สึกว่าไม่อยากอ้วนอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนั้นมันเหนื่อยเพลีย เดินไกลหน่อยก็หอบจะเป็นลม ง่วงทั้งวัน คิดว่าคงเพราะร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ตอนนั้นหมอสั่งให้ทานข้าวมื้อละทัพพี หรือประมาณไม่เกิน 300kcalต่อมื้อ ค่ะ (ขนมปัง 1 แผ่น ซาละเปา 1 ลูก เพราะฉะนั้นทานข้าวคุ้มสุด 55) งดน้ำหวาน แล้วก็ขนม โดยรวมแล้วให้ไม่เกิน 1000 kcal ต่อวัน แต่พอทานยา มันกินอะไรไม่ค่อยลงเลย จริงๆเอาสูตรนี้มาใช้ช่วงน้ำหนักขึ้นก็โอนะคะ จากคุณ : แป้งจี่ เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:51:14

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นกำลังใจให้ จขกท.นะคะ ขอบคุณที่เอามาแชร์ เราก็เป็นคนนึงที่อยากผอมค่ะ แต่ตอนนี้ เป็นกรดไหลย้อนได้ผอมสมใจ เพราะทานอะไรไม่ค่อยจะได้เลย มันจะออกหมด ข้อห้ามในการทานอาหารเยอะมาก แต่ก็ต้องทำเพราะว่าทุกครั้งที่อาเจียนออกมามันคือกรดในกระเพาะ ที่มากัดเนื้อเยื่อ ในช่องทางเดินอาหารรู้สึกได้ทุกครั้ง ทรมานเจียนตาย เป็นมา 2 อาทิตย์ น้ำหนักลดไป 3 โลแล้วอ่ะค่ะ ทรมานมากๆ จากคุณ : ชื่อแรกก็ซ้ำซะแล้ว เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 10:44:33

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นโฆษณาแล้วนึกว่าตัวเอง..เล่นเอง หุ่นเราเหมือนคนที่อยู่ในกระจกเลยอะ โชคดี...คุณแฟนไม่ว่าอะไร...คุณแฟนบอกว่าอวบดี...5555 ลดเท่าไหร่ก็ลดไม่ลงซะที...ได้แต่ปลง...ว่าแล้วก็หยิบขนมเข้าปาก.. จากคุณ : olala-aha! เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 11:10:48

ความคิดเห็นที่ 33 ยาถ่ายเราไม่เคยกินนะ เรากินแต่ฟิตเน่ แต่ตอนนี้เลิกแล้วค่ะ เริ่มกินฟิตเน่เพราะถ้าเรากินทุกเย็นก่อนนอนเลยค่ะ เราเห็นเค้าหุ่นดี(หุ่นอย่างงี้ตั้งแต่เกิด) เราก็เลยกินบ้าง พอกินเข้าไปมันทรมานมากๆ(ถ่ายบ่อยไปนิด) ตอนหลังเราเลิกกิน ก็ไม่ถ่ายเลยยย เราก็ไปออกกำลังกาย เพราะอ่านมาจากในเน็ตว่าออกกำลังกายจะทำให้ขับถ่ายดี แรกๆก็อยากผอมด้วย ขยันด้วย ไปฟิตเนสทุกวันเลยถ่ายทุกวัน แบบไม่ต้องบังคับกันเลย ดีมากๆ เราอยากแนะนำว่าใครที่กินชาฟิตเน่ ชาที่ช่วยให้ถ่ายต่างๆ ให้เลิกกินไปเลยค่ะ มันไม่ดีมากๆ ละ้ถ้าเลิกแล้วมันจะไม่ถ่ายเองแน่ๆค่ะ เพราะเราไปบังคับมันตั้งนาน ให้ไปออกกำลังกายค่ะ ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ หรือว่าฟิตเนสไกลบ้าน ให้หาผ้าหนาๆปูพื้นละทำโยคะค่ะ(ท่าโยคะ หาได้จากในเน็ตเลยค่ะ) คำว่าโยคะ บางคนอาจจะคิดว่ามันยากนะคะ แต่มันไม่ยากหรอกค่ะ ลองทำดูก่อน แล้วก็อย่าเพิ่งบอกตัวเองว่า โอ๊ยชั้นไม่ว่าง(เวลาทุกคนมีเท่ากันค่ะ 24 ชั่วโมง เจียดมาเพื่อตัวเองสักนิดนะ) และชั้นขี้เกียจนะคะ ถ้าบอกอย่างงี้ละก็จบกันพอดี ถ้าทำได้เพียงเท่านี้ถ่ายดียิ่งกว่ากินชาอีกค่ะ แต่ถ่ายจากการออกกำลังกกายกับถ่ายที่มาถจากการกินยามันต่างกันมากๆเลยนะคะ จากคุณ : BabiiColorFul เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 12:01:18

ความคิดเห็นที่ 34 ดีจังค่ะ จบลงด้วยการมีหุ่นและสุขภาพดี จากคุณ : เซนทาโร่ เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 13:03:09

ความคิดเห็นที่ 35 ตายแล้วสวยขนาดนี้ยังลดอีกหรือคะ แล้วตุ่มมังกรอย่างเราจะทำไงเนี่ยะ จากคุณ : Kally_narak เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 13:35:45

ความคิดเห็นที่ 36 จขกท น้ำหนักเทียบกับส่วนสูงตอนนี้หุ่นนางแบบมากๆ หุ่นดีค่อดๆ อิจฉา >O< ความสูงโบก็ 173 แต่ตอนนี้น้ำหนักเหวี่ยงมาที่ 66 แล้ว จาก 59-60 ฮ่าๆ ๆ ๆ พยายามลดอยู่เหมือนกันค่ะ จากคุณ : boscream เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 14:00:54

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นอุทธาหรณ์ที่ดีจริง ๆ ใครว่าผอมแล้วจะสวย ถ้าผอมแบบโทรม ๆ ตุ้ยนุ้ยน่ารักยังดีกว่าอีก จากคุณ : supertarokung เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 16:09:01

ความคิดเห็นที่ 38 เป็นกำลังใจให้ จขกท.ค่ะ ลองทานขมิ้นดูนะคะ เผื่อระบบย่อยในกระเพาะจะดีขึ้นค่ะ จากคุณ : Ja-E'Jr เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 18:21:40

ความคิดเห็นที่ 39 เป็นกำลังใจให้ จขกท อีกคนค่ะ เรากำลังอยากลดน้ำหนักอยู่พอดีเลย เลยชะงักเลยยยย  แฮะๆๆ  ออกกำลังกายกันดีกว่าเนอะ จากคุณ : นู๋น้ำหนาว เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 19:41:25

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านแล้วนึกสุภาษิตไทย คนในอยากออก คนนอกอยากเข้าเนอะ เพราะเราผอมเลยอยากอวบๆกว่านี้อ่ะ สลับกันเลย จขกท ดูดีแล้วค่ะ หุ่นๆพอดีๆนะเราว่า สูงด้วย ขายาวดีจัง จากคุณ : เห็ดอบวุ้นเส้น เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:32:17

ความคิดเห็นที่ 41 โอ้ว ฉากหลังคุ้น ๆ รุ่นน้องฉันแน่ ๆ ยาลด นน อันตรายจริงๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : castellano เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 12:05:27

ความคิดเห็นที่ 42 จขกท ผอมมากเลยนะ  ดูส่วนสูงกับน้ำหนัก แบบว่าเราน้ำหนักใกล้เคียง จขกท เลยแต่ส่วนสูงนี่ต่างกันกว่า 10 เซน ควรเครียดมากกว่าคะ555 จากคุณ : PINKHOLiC เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 12:16:43

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่ได้อ้วนเลยนะคะ สูง 173 หนัก 60 เนี่ย (ตั้งแต่แรก) จากคุณ : Freedom of Life เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 13:42:49

ความคิดเห็นที่ 44 เจ้าของกระทู้หุ่นดีมากค่ะ กำลังดีเลย ดีแล้วนะคะ ที่ยังผ่านช่วงนั้นมาได้  คนข้างบ้านแม่เราตายคายาลดความอ้วนเลยค่ะ เราแปลกใจจริงๆนะคะ คือยาพวกนี้มันอันตรายมากจริงๆ แล้วทำไมเค้ายังขายกันได้อยู่เลย   เราเมื่อสมัยเด็กๆก็ชอบทานยาลดความอ้วนเหมือนกันค่ะ ทานแล้วน้ำหนักก็ลดดี ไม่กินอะไรเลย แต่พอเลิกทานก็โยโย่กลับมาซะเกินของเก่าก่อนลดมาอีก  ก็กินยาใหม่ อยู่อย่างนี้ค่ะ จนวันนึงคิดได้ว่า ไม่ชอบตัวเองที่หงุดหงิดง่าย และโคตะระขี้ลืมแบบนี้  เรารู้สึกว่าเรากลายเป็นคนสมองปลาทองไปเลยค่ะ (ยาพวกนี้จะทำลายเซลล์สมองเราไปด้วยเพราะมันมีส่วนผสมตัวเดียวกับยาบ้าค่ะ)  ก็เลยตัดใจเลิกได้ ทีนี้ละ น้ำหนักพุ่งๆๆๆ  ไปถึงเกือบร้อยโลเลยค่ะ และวันนึงก็คิดได้อีก ว่าถึงเวลาแล้วแหละที่เราจะหัดพยายามด้วยตัวเอง ก็เลยเริ่มลดค่ะ แรกๆ ทรมานมาก ทั้งหิว ทั้งอยาก ทั้งขี้เกียจออกกำลัง แต่ก็ผ่านมาได้ค่ะ ตอนนี้น้ำหนักเราลดไปจะ 20 กิโลแล้ว  รู้สึกรักตัวเองมากขึ้น และชอบถ่ายรูปมากขึ้นค่ะ ก่อนหน้านี้จะไม่ชอบถ่ายรูปเลย  ถ่ายออกมาแล้วรู้สึกไม่ชอบตัวเองค่ะ เป็นกำลังใจให้สาวๆ อยากผอม สวยกันทุกคนนะคะ สู้ๆๆๆ จากคุณ : MinnieMoChi เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 14:48:55

ความคิดเห็นที่ 45 อยากถามจขกท.นะครับว่า ใช้เวลานานแค่ไหนในการบำบัดตัวเองให้หายจากโรคบูลิเมียนะครับ  พอดีว่าพี่สาวเป็นมาหลายปีแล้ว แต่เขาไม่ยอมรักษาตัวเอง  ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงแล้ว จากคุณ : Future is on my hand เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 17:05:27

ความคิดเห็นที่ 46 ดีจังค่ะ ที่เอามาให้อ่าน พี่ก็กำลังพยายามลดความอ้วนเหมือนกัน แต่ยังไม่ค่อยลงเลย เตี้ยอีกตะหาก ปล.เจ้าของกระทู้หุ่นดีแล้ว ขาสวยมากจ่ะ จากคุณ : แม่โอ๋เรนเจอร์ (NooPeeYa) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 19:09:45

ความคิดเห็นที่ 47 โหวตค่ะ ไม่ต้องผอมมาก แต่หุ่นดีอวบนิดๆมีความสุข ก็พอใจแล้วค่ะ จากคุณ : KarumDog เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 19:45:13

ความคิดเห็นที่ 48 จะเข้ามาบอกว่า 173 น้ำหนัก 60 เนี่ยไม่อ้วนเลยนะคะ ^^ ดีใจด้วยนะคะ ที่คุณ จขกท ผ่านช่วงนั้นมาได้แล้ว ขอเล่าประสบการณ์เรามั่งนะคะ แต่ บางทีเราก็รู้สึกเหมือนคุณ จขกท นะคะว่าอ้วนอยากลด ๆ ๆ แต่ก่อนเราสูง 168 หนัก 47 นะคะ  แต่เดี๋ยวนี้น้ำหนักเราขึ้น มาเป็น 54 เราก็ไม่เคยรู้สึกว่าเราอ้วนเลยนะ แค่ว่าอวบเล็ก ๆ ให้กำลังใจตัวเองสุดฤทธิ์ 555 แต่จะบอกว่าบางทีคนรอบข้างก็ทำให้เราเครียดนะ   เราก็ไม่เคยคิดที่กินยาลดน้ำหนักเลย แต่มีมาวันหนึ่ง เจอคนรู้จักมาทักเราว่า " กำลังจะมีน้องเหรอ" โห!!  เราเครียดมากกกกกกกกกก ตายแล้ว เราเหมือนคนจะมีน้องขนาดนั้นเลยหรอออ คือเวลาเราอ้วนขึ้นเราจะออกที่หน้าก่อนค่ะ แล้วก็ที่ต้นขา แต่ส่วนอื่นแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พอโดนใครต่อใครทักปุ๊บเราไปคลีนิคชื่อดังแห่งหนึ่งเลยค่ะ (ที่รักษาสิวด้วย) จะไปซื้อยาลดน้ำหนัก - - เพราะเห็นเพื่อนบอกว่าที่นี่ยาลดน้ำหนักเห็นผลดี พอได้คุยได้ปรึกษาคุณหมอแล้ว คุณหมอไม่แนะนำให้กินเลยค่ะ แต่ได้แนะเราว่าให้ลองควบคุมอาหารดู คุณหมอฟังจากที่เราบอก ว่าวันๆหนึ่งเรากินอะไรไปมั่ง สรุป หมออึ้งงงงค่ะ 555++ หมอบอกว่าถ้ากินแบบนี้จริง ๆ นี่ขึ้นแค่นี้ถือว่าเป็นคน ที่อ้วนยากกกกกมากกกกก หลังจากนั้นมาเราก็ควบคุมอาหารกินครบทุกมื้อเหมือนตามปกติ แต่ไม่กินบ้าคลั่งเหมือนแต่ก่อน ออกกำลังนิด ๆ หน่อย ๆ เห็นผลเลยค่ะ ไม่ถึงอาทิตย์ น้ำหนักลงมา 3 โล ต้นขาเล็กลงเห็นได้ชัดมากกก โชคดีจริง ๆ ที่คุณหมอได้แนะนำแบบนั้นมา เราเกือบกินยาลดความอ้วนแล้วจริง ๆ อยากจะให้เพื่อนๆที่มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนัก อยากให้ลองควบคุมอาหาร ลองกินอะไรที่เป็นประโยชน์ ดื่มน้ำเปล่ามากก ๆ ออกกำลังกาย นิด ๆ ที่คิดว่าจะทำได้ อย่างเช่น ขึ้นลงบันได แทนลิฟท์ อะไรพวกนี้ ช่วยได้จริง ๆ ค่ะ  สู้ ๆ ๆ เล่าซะยาวเลยค่ะ แหะ ๆ จากคุณ : ตะลิงติงลี่ เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 20:22:59

ความคิดเห็นที่ 49 พี่สาวเราเคยบ้าลดน้ำหนักคล้ายๆ  แบบนี้เลยค่ะ แรก ๆ ทานยาลดตามคลีนิคหมอ แล้วก็หยุดไป   จากนั้นก็หันมาทานยาถ่าย วันนึงประมาณสิบกว่าเม็ด ทานข้าวเช้านิดหน่อย ทานกลางวันปกติ หลังหกโมงเย็นไม่ทานอะไร วันหยุดทานมาม่า ไม่ใส่กระทั่งน้ำมันที่ให้มา แค่ต้มมาม่าแล้วก็ทานเลย ผอมจนพ่อหาว่าติดยาอ่ะค่ะ  ผอมมาก เพราะพี่เรามีความเชื่อว่าผอมคือหุ่นดี และเค้าก็ดื่มหนักพอสมควร สุดท้ายก็เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการอาเจียนเป็นเลือด และทานอะไรไม่ได้เลย อาเจียนออกมาหมดเลยค่ะ เราเห็นแล้วกลัวมาก ๆ เลยค่ะ บางทีก็สงสัยทำไมน๊า สาว ๆ ถึงอยากผอมกันจังเลย ทั้ง ๆ ที่บางคนรูปร่างกำลังดี กำลังสวยไม่ได้อ้วนสักนิด เราสิอยากเพิ่มน้ำหนักจะแย่ แต่ทำยังไงก็ไม่ขึ้นเลย อิจฉาคนหุ่นดี สมส่วนค่ะ จากคุณ : หะเมียวจอมซนพุงป่อง เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 21:47:12

ความคิดเห็นที่ 50 เพื่อนเคยเป็น ขนาดน้ำลายยังไม่กล้ากลืนเลย มันผอมมาก ผอมน่ากลัว เวลาทานข้าว มันจะกินแต่กับข้าว แล้วก็ไปห้องน้ำ เพื่อไปล้วงคอ จนพ่อมันต้องพาไปพบจิตแพทย์อ่ะ จากคุณ : ladymay เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 21:58:42

ความคิดเห็นที่ 51 แง้ว แวะมาดูอีกทีเป็นกระทู้แนะนำแล้ว ขอบคุณมากๆเลยค่ะพอดีโมเด็มที่บ้านพัง ยังไงก็มาช่วยแชร์ประสบการณ์กันได้ค่ะ อันนี้แค่ส่วนหนึ่ง ตอนที่ทานมีบางช่วงเราถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย บางทีก็ซึมเศร้า ยาตัวนี้มันอันตรายจริงๆค่ะ ขอเตือน สำหรับคุณFuture is on my hand ตอนที่ป่วยเป็นบูลีเมียเนี่ย คือตอนแรกไม่ทราบค่ะว่ามันเป็นโรค แต่พอทราบปุ๊บก็กลัว เลยพยายามเลิกล้วงคอ จริงๆอาการของบูลีเมียเนี่ย ต้องรักษาทางด้านจิตใจอ่ะค่ะ อย่างตอนนี้ที่เราทราบว่าเราเป็นบูลีเมีย เราก็เสิร์ชหาวิธีการรักษาเอาเองเลย เพราะจริงๆโรคนี้หากเราเป็นนานจะเกิดอาการแทรกซ้อนอื่นๆอีกค่ะ ก๊อบมาให้อ่านจากเวปนะคะ อย่างเช่น มีการฉีกขาดของหลอดอาหาร หรือมีการฉีกขาดของเยื่อบุลำคอ ในระหว่างที่มี การกระตุ้นตัวเองให้อาเจียน อาจจะถึงขั้นเลือดออกในทางเดินอาหาร นอกจากนี้ ยังมีความผิดปกติในเรื่องของฟัน ฟันอาจจะผุหมดทั้งปากเนื่องจากกรดที่ขย้อนขึ้นมา จากกระเพาะ หรือว่าอาจจะมีความผิดปกติทางต่อมน้ำลายมีการบวมผิดปกติ หรือประจำเดือนมาผิดปกติ ไม่สม่ำเสมอ ตอนเราเป็นเนี่ยประจำเดือนเราไม่มาเลยค่ะ ช่วงลดน้ำหนักปจด.ไม่มา5เดือนก็เคยคือสารอาหารไม่เพียงพอ เรื่องฟันด้วยค่ะ  รู้สึกว่าฟันผุ มีกลิ่นปาก แล้วก็เยื่อบุลำคอเหมือนจะมีปัญหาเพราะเวลาอาเจียนบ่อยๆมันระคายเคืองหลอดอาหาร   บางทีพออาเจียนเสร็จก็ปวดท้องค่ะ เหมือนมันบีบรัดตัวให้เอาอาหารออกมาให้หมด ซึ่งตอนนั้นเราก็โรคจิตมาก อาเจียนจนกว่าจะปวดท้อง  คือบวดแบบบีบๆ จะคิดไปเองว่ากระเพาะไม่มีอะไรออกมาแล้ว ลั๊ลลา   -*- คิดไปได้เนอะเรา  ตอนที่เรารักษา แรกเลยคือ  เลิกกินเยอะค่ะ พอกินไม่เยอะจะได้ไม่อ้วน  วิธีของเราคือพยายามเห็นคุณค่าของอาหารค่ะ คือจะพยายามไม่อาเจียนอาหารที่ทานเข้าไปแล้ว หรือบางที เพื่อนพาไปกินนู่นนี่ ก็แบบว่า พยายามบอกตัวเองว่า ห้ามอาเจียนออกมานะมื้อนี้เพื่อนเราเลี้ยง เสียดาย ที่น่ารักที่สุดคือคุณพ่อค่ะ คุณพ่อชอบทำอาหารมากๆๆ อร่อยมากๆด้วยซึ่งปกติพ่อนานๆจะทำที   พอพ่อรู้ว่าป่วย ท่านก็ลงมือทำกับข้าวเองเลยค่ะ บางทีก็ไปตลาดแต่เช้าซื้อของโปรดมาให้ พอเราทานไปแล้วจะอาเจียนออกมาก็ทำไม่ลงค่ะเพราะคุณพ่ออุตส่าห์หามาให้เรา   จริงๆเรื่องแบบนี้อยู่ที่จิตใจค่ะแต่ถ้าตนรอบข้างเข้าใจและให้กำลังใจก็จะดีด้วยมากๆเลยค่ะขอให้พี่สาวหายไวๆนะคะ จากคุณ : รักอีกครั้ง...ก็ยังเป็นเธอ เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 22:55:39

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณค่ะที่เอามาให้อ่าน ตอนนี้เรากำลังห้ามเพื่อนอยู่ แต่ไม่รู้เทอจะเชื่อเรามั้ยย...ก็เอาพวกกระทู้เตือนต่างๆให้เทอดูเตือน สติ  แต่ก็เข้าใจนะค่ะผญ.คัยก็อยากดูดี  แต่คนรอบข้างก็เป็นห่วงนะจ๊ะ อิสรี  เข้ามาอ่านด้วยนะ เตือนร้อยที่ 100 ^^ จากคุณ : ที่รักของเทอเอง ฮ่าๆ (T เจ cat cat) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 23:02:55

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ ^_^ จากคุณ : Future is on my hand เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 03:44:40

ความคิดเห็นที่ 54 บูลิเมีย จริงๆคนที่เป็นโรคนี้จะรู้ตัวเองว่าเป็น แต่ก็ไม่ยอมรักษา เราเข้าใจนะ เพราะเราก็เคยผ่านจุดตรงนั้นมาแล้วเหมือนกัน ดีใจที่หายนะคะ ชีวิตคนเราต่างกัน แต่เป็นบูลิเมีย อาการเหมือนกันทุกคนเลย  T^T จากคุณ : บานาน่าทุตตี้ฟรุตตี้ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 07:57:47

ความคิดเห็นที่ 55 จขกท น่ารักออกค่า ^^ ไม่ต้องลดก็สวยแล้วหล่ะ ปล.เรียนที่แม่ฟ้าหลวงรึเปล่าเอ่ย แฮ่ๆ จากคุณ : hisari~ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 10:09:31

ความคิดเห็นที่ 56 เราเรียนจิตวิทยา สมัยที่เราเรียนเรื่องโรคอนอแรคเซีย กับบูลิเมียนี่ เราคิดว่า โอ๊ยยย อาการแบบนี้คงมีโอกาสน้อย ใครมันจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองผอม...พอเข้ามาในห้องแป้ง ก็พบว่ามันเกือบๆจะเป็นโรคระบาดอยู่แล้ว ...แค่กระทู้แนะนำก็มีทั้งสองโรคครบครัน... ขอบคุณ จขกท.ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ค่ะ จะโทรไปบอกให้อาจารย์เข้ามาอ่านห้องแป้งบ้าง เผื่อนำไปทำการวิจัยเพื่อป้องกันได้ ^ ^ จากคุณ : ฝอยทองน้อย เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 11:34:44

ความคิดเห็นที่ 57 กินยาเก่งมากๆ 60 เม็ด น่ากลัวจัง  เราทาน 3-4 เม็ดพวกแก้ไข้ แก้ปวด แก้อักเสบ ฆ่าเชื้อ เวลาป่วย  ยังแทบกลืนไม่ลง ปัจจุบันสวยแล้ว ผอมแล้ว  เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : sueki เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 20:48:57

ความคิดเห็นที่ 58 เราโดนโยโย่มา 30 โล ตอนนี้เป็นช้างแล้ว จากตอนเริ่มกินมันแค่เป็นคนมีเนื้อหนัง ตอนนี้ เป็นช้างมีลูกอ่อนๆ ในท้อง - -* ทำใจแระ แบ่บ มันยังมีคนชมว่าสวย น่ารัก มีคนมาจีบอยู่  ก้อโอๆ 5555 -*- จากคุณ : AzyGouS เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 13:02:40

ความคิดเห็นที่ 59 เป็นคนหนึ่งที่โดนพิษโยโย่มาเยอะ ตั้งแต่อายุ 16 กินมาเรื่อยเป็น 10 ปี จนน้ำหนักทะลุ 100 ซึ่งแต่เดิมก็จัดว่าอ้วนอยู่แล้วคือ 60 สูง 156 แต่พอทานยาลดความอ้วนก็ลงมา 50 บ้าง 47 บ้าง แต่พอโยโย่ที มันขึ้นปีละ 10 โลเลย จนมาวันที่เริ่มปวดหัวเข่าข้างซ้ายอย่างรุนแรงจนทนไม่ไหว ลงบันไดรถไฟฟ้าแล้วเข่าไม่ตามมากับขา สูงมาก มองลงไปใจสั่นหวิวเลย เลยเกิดอาการกลัวตายขึ้นมากระทันหัน ตอนนนั้นหยุดกินยาไป 3 ปีได้ ก็เลยมาเริ่มลดด้วยตัวเอง จากสูตรกล้วยหอม พอเริ่มอยู่ตัวก็มาเป็น Low Crab ก็ลงมาเรื่อยๆ แต่ยังไม่ออกกำลังกายอื่นนอกจากว่ายน้ำบ้างเพราะเท้าเราเล็กมาก เบอร์ 4 เอง  จากนั้นก็มาถึงที่ 86 โล คราวนี้ถึงเวลาพบแพทย์แล้ว ใช้แนวทางการรักษาที่ถูกต้อง เป็นที่ทราบกันดีว่าคนที่เคยใช้ยาถ่ายบ่อยๆจะถ่ายเองไม่ได้  เลยศึกษาเจอว่าตื่นเช้ามาปุ๊ปทานน้ำอุณหภูมิปกติแก้วใหญ่ ก็ลอง ปรากฎว่าได้ผลแฮะ บางวันก็สลับกับไมโล แอคทีฟกล่องเขียว ที่ปรู๊ดเลย (แต่ต้องทานทันทีที่ตื่นอนนอนนะ) เอาล่ะคราวนี้เป็นหน้าที่หมอ ให้อยู่ในความควบคุมอย่างใกล้ชิด ยาให้น้อยที่สุด ใช้เวลาถึง 4 เดือนถึงลงมาเหลือ 68 โล แต่จากนี้ล่ะ หมอไม่ยอมให้ใช้ยาแล้ว (กรณีเราต้องพึ่งหมอเพราะน้ำหนักเกินและเท้าเล็กมาก คุณหมอตรวจร่างกายประจำปีแนะนำเองว่าควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อใช้ยาร่วมด้วย) ตอนนี้ยังปวดเข่าอยู่เลย แล้วก็อยากกินแต่แป้ง  แต่ก็ทำได้แค่อยากกินทีนึงก็กินคำนึง ทรมานสุดๆๆๆๆ น้ำหนักก็จะเหวี่ยงขึ้นให้ได้ จากนี้ไป หมอจะไม่จ่ายยาให้แล้ว แต่ให้ทานส่วนเสริมอื่นๆแทนเช่นไฟเบอร์ และออกกำลังกายแทน เราเลยเลือกโยคะ วันละ 1 ชั่วโมง ถึงจะดูเหมือนว่าเราลดลงมาเยอะมาก แต่ปัจจุบันตอนนนี้ 68 กับสูง 156 ก็ยังเป็นยัยอ้วนอยู่ดี เฮ้อ หมอว่าถ้าใช้ยาแรงกว่านี้เราก็จะกลายเปนโยโย่ ให้เริ่มลดเอง ทรมานที่สุดก็ตอนนี้แหละ แค่ลำพังรักษาไอ้ 68 โลไว้นี่ก็ยากเหลือเกินแล้ว ยังจะมาต้องเอาออกอีก แค่คิดก็เสียววาบบบบบบบบบบบ ตอนนี้เลยต้องศึกษาเรื่องปลาทูต่อไปอีก เยอะได้อีกนะเนี่ย  แต่ขอให้หายปวดเข่าก็จะดีใจแล้ว จากคุณ : lynhui เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 14:13:33

ความคิดเห็นที่ 60 เคยดูรายการ Oprah เอาผู้หญิงที่เป็นโรคบูลิเมียมาออก ขอเล่านิดนึง เพราะเรื่องนี้หลอนเราไปทั้งวันเลย เพราะเค้าถ่าย VDO กิจวัตรประจำวันของผู้หญิงคนนี้มาด้วย คือเค้ากินอะไรเข้าไปแล้วจะรู้สึกผิด ไปล้วงคอเอาออก อ้วกใส่ถุง แล้วเค้าก็แอบสามี เพราะไม่อยากให้สามีรู้ เอาอ้วกเก็บใส่ถุง zip lock ใหญ่ๆ ได้ประมาณ 5 ถุงก็รวบรวมไปทิ้งที่ถังขยะไกลๆ เพราะกลัวใครมาเห็น เป็นอะไรที่หลอนมากๆ เค้าไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเลย ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเธอคนนั้นหายรึยัง เห็นแต่สภาพเธอโทรมมากเลยอ่ะค่ะ ขอร้องสาวๆ อย่าไปทำรา้ยตัวเองอย่างนั้นเลยค่ะ กินให้เรามีสุขภาพที่ดีดีกว่า ไม่ต้องไปกังวลว่าอยากจะผอมอะไรมาก มันทำลายสุขภาพเราเสียเปล่าๆ จากคุณ : พี่ปุย เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 18:17:37

ความคิดเห็นที่ 61 โอ๊ะ เด็ก มฟล หรอค๊ะ ? จากคุณ : ไม่มีความหมาย เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 00:53:35

ความคิดเห็นที่ 62 เคยลดน้ำหนักแบบไม่ตั้งใจน่ะครับ (อกหัก) ผสมกับกินเหล้าสูบบุหรี่จัดมากประมา๊ณสามเดือนน้ำหนักลงไป 20 โลครับ 70 - 50 /180 เมพไหมครับ ผอมทีเดียวเชียว วันนึงกินข้าวแค่จานเดียว หรือก๋วยเตี๋ยวถ้วยเดียว แล้วก็โค๊กหรือชากาแฟนิดหน่อยครับ (ก็มันกินไม่ลงเน๊าะ อกหัก) ได้เรื่องครับเข้าเดือนที่สามกินเหล้าไปสองแก้ว รู้สึกแปลก ๆ มันขย้อนอยากอ้วกเลยเดินไปอ้วกในห้องน้ำ เลือดสด ๆ ออกมาเยอะมากเลยครับประมาณ 4-5 แก้วกาแฟเห็นจะได้ สงสัยเองว่ากะเพาะอาหารจะเป็นแผล จากนั้นผมกลับมารักการกินทันทีเลยครับ สุขภาพสำคัญกว่ารูปร่างนะครับ อยากผอมต้องออกกำลังกายนะครับ จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 01:46:20

ความคิดเห็นที่ 63 - -" เราก็เคยนะไอ้ยางามระหงนั่น ตอนมอ ปลาย ทานก่อนนอน 20- 30  เม็ด จากเริ่มๆแค่สิบเม็ด จขกทซัดเข้าไปได้ไงหกสิบเม็ด มากกว่าเราอีก ฮ่าๆๆ แต่ช่วงนั้นผอมลงจริงๆแต่ไม่จีรังหรอก เนื้อมันไม่แน่น สู้ตอนนี้ไม่ได้อวบๆอ้วนๆหน่อย แต่เนื้อแน่น อิอิ เราก็เคยต้องเข้าโรงพยาบาลอาทิตย์นึงก็เพราะไอ้ลดอ้วนเนี่ย แบบว่าทานน้อยมากตอนนั้น หยุดเรียนอาทิตย์นึง เครียดเลย พอตอนอยู่มหาวิทยาลัยก็พยายามลดอาหาร จะบ้าตาย หวิวมาก เกือบเป็นลมคมคิวรถตู้ คนมาพยุงกันใหญ่ นี่คือไม่ได้ใช้ยาลดความอ้วนเลยนะแต่ก็ไม่ไหวล่ะ กินน้อยแต่ต้องใช้แรงใช้สมองเรียนเยอะ ร่างกายมันกดดันมากๆ ท้ายสุดนี้อยากฝากบอกสาวๆว่า อวบๆก็สวยได้นะคะ อย่าทรมานตัวเองเลยมันเครียดนะ คนรอบข้างก็เครียดด้วย วุ่นวายกันพาเข้าโรงพยาบาลลำบากคนอื่นอีก จากคุณ : แฟนสาวฮัตโตริคุง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 01:59:04

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์กับสาวๆ หลายคน จากคุณ : แก้วทราย เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 14:44:11

ความคิดเห็นที่ 65 เป็นประโยชน์กะหลายคนที่กำลังคิดจะลดความอ้วน ดีจริงๆ เด็กแม่ฟ้าหลวง จากคุณ : ไข่ดาวหมูทอด เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 21:53:26

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณนะค่ะ มีประโยชน์มากๆเลย ตอนนี้เราเองก็กำลังลดความอ้วนอยู่ พยายามออกกำลังกาย+ควบคุมอาหาร โชคดีนะที่เราปอด แบบไม่กล้ากินยาอยู่แล้วล่้ะค่ะ ไม่ว่าจะยี่ห้อไหน กลัวมีผลข้างเคียง - - จากคุณ : Aorairr_129 เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 00:02:32

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณนะคะ กำลังจะหันกลับไปกินยาลดความอ้วนอีกพอดีเลย น้อง จขกท.หุ่นดีแล้วค่ะ สูง 173 น่ะ โชคดีมากแล้วนะ จากคุณ : mm (bangkhen) เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 10:22:37