ความคิดเห็นที่ 1 ผิวเป็นหน้าต่างของสุขภาพ  ปัญหาสุขภาพที่สำคัญและซ่อนอยู่มักปรากฏในรูปปัญหาผิวได้ Butterfly Rash เป็นผื่นที่เกิดจากโรค SLE((Systemic lupus erythematosus) ลักษณะเป็นผื่นแดง บวม และมีเส้นเลือดฝอยบาน Telangiectasia อยู่บนแก้มและดั้งจมูก ถ้าเป็นมากอาจจะเป็นตุ้มใส หรือเป็นแผล แต่อย่าเพิ่งฟันธงไป อาจไม่ใช้ก็ได้ อาจเป็นโรค Rosacea ทำความรู้จักกับ Rosacea Rosacea คืออะไร?? อ่าน ว่า โร-เซย์-ชา เป็นอาการที่เกิดได้บ่อย ๆ แต่มีผู้รู้จักและเข้าใจน้อย เป็นอาการผิดปกติของผิวหน้าและมีชาวอเมริกันผู้ที่เป็น rosacea อยู่ประมาณ 14 ล้านคน เป็นอาการที่เรื้อรังแต่สามารถรักษาได้ พบได้บริเวณกลางใบหน้า และบ่อยครั้งที่มีลักษณะคล้ายสิวเห่อ แม้ว่า rosacea อาจเป็นได้ในทุกวัย แต่การเก็บข้อมูลบ่งชี้ว่ามักจะเริ่มเป็นหลังอายุ 30 ปีไปแล้ว โดยจะมีผิวหน้าแดงที่แก้ม จมูก คาง หน้าผาก และอาการจะเป็นได้มากขึ้นและยาวนานยิ่งขึ้นจนสามารถมองเห็นเส้นเลือดฝอยได้ จากนั้นจะเหลือร่องรอยของสิวที่รักษายาก ในรายที่มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะผู้ชาย จมูกจะพองบวมจากการที่เนื้อเยื่อสร้างมากเกินไป หลายคนมีอาการที่ดวงตาร่วมด้วย โดยจะรู้สึกระคายเคืองตา ตาแฉะ เส้นเลือดฝอยในตาแตก แม้ว่า rosacea จะเกิดขึ้นได้กับประชากรทุกประเภท ผู้ที่มีผิวขาวจะมีแนวโน้มในการเกิดผิวหน้าแดงได้ง่ายกว่า อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่ความรุนแรงของอาการจะน้อยกว่าผู้ชาย ยังมีหลักฐานว่า rosacea นั้นมีแนวโน้มว่าเกิดขึ้นได้กับสมาชิกในครอบครัว ใน ขณะที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และไม่มีทางรักษา แต่อาการเหล่านั้นก็สามารถควบคุมได้ด้วยการทายาและการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ ชีวิต ผู้ที่สงสัยว่าตัวเองเป็น rosacea ควรรีบพบแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณเพื่อวินิจฉัยและหาวิธีการ รักษาที่เหมาะสม ก่อนที่อาการจะรุนแรงมากขึ้นแล้วสร้างปัญหาให้กับการดำเนินชีวิต) หรืออาจเป็น โรคผื่นแพ้จากการสัมผัส Contact dermatitis การแพ้ชนิดนี้เป็นแบบ T-cell mediated reactionโดยเฉลี่ยผู้ใหญ่จะใช้สารเคมีกับร่างกายอย่างน้อย 7 ชนิดได้แก่ น้ำหอม moisturizers, ครีมกันแสง, สบู่, ครีมนวดผมหรือแชมพูสระผม ครีมดับกลิ่น, และเครื่องสำอาง ที่พบบ่อยที่สุดคือแพ้น้ำหอมผู้ที่แพ้น้ำหอมควรใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีน้ำหอม ตำแหน่งที่แพ้บ่อยที่สุดคือ หน้า ริมฝีปาก ตา หู การแพ้จากการสัมผัสมีสองชนิดคือ   1. Irritant dermatitis เกิดจากการระคายเช่นการใช้น้ำหอม สบู่ ผงซักฟอก ครีมดับกลิ่น เครื่องสำอาง พวกนี้จะเกิดผื่นหลังจากสัมผัสไม่นานเช่นภายใน 1-2 วันหลังสัมผัส   2. Allergic contact dermatitis การแพ้เกิดจากการสัมผัสมักจะเกิดหลังจากสัมผัสเป็นระยะเวลามากกว่า 1 สัปดาห์ลักษณะจะเป็นผื่นแดง บวม คัน และอาจจะมีถุงน้ำ เช่นการแพ้สายรองเท้า สายนาฬิกา จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:16:40

ความคิดเห็นที่ 2 ลืม รูป Butterfly Rash ๕๕๕ มึนจริงๆ จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:17:27

ความคิดเห็นที่ 3 Velvet Plaques เกิดขึ้นรอบๆคอหรือรักเร้ อาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวาน ในกรณีนี้ "Acanthosis Nigricans" ถ้าใครคอดำ หรือรักแร้ดำแบบนี้ ไม่ต้องไปหาไวท์เทนนิ่งครีม หรือโรลออนมาใช้แต่อย่างใด แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพได้แล้ว เพราะคุณกำลังเสี่ยงกับโรคเบาหวานชนิดที่สอง และโรคความดันโลหิตสูง อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะคิดว่าไม่มีอะไร เพราะถ้าถึงตอนที่มันมีอะไรแล้ว อาจจะสายเกินแก้ หรืออาจเป็นเนื้องอกก็ได้ (benign) หรืออาจเพียงแค่อ้วนเกินไปเลยผิวแตกลาย แต่บ่อยครั้งที่เป็นสัญญาณบอกเหตุโรคเบาหวาน หรือเนื้องอกร้ายแรงที่ซ่อนอยู่ภายใน จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:18:35

ความคิดเห็นที่ 4 Leg Plaque: Red on Edge, Gold in Center ดูจากสภาพของผิวแล้ว แพทย์เรียกว่า โรค necrobiosis lipoidica diabeticorum เป้นลักษณะเฉพาะของโรคเบาหวาน และไม่ใช่เรื่องดีเลย สภาพผิวบอกว่าโรคเบาหวานที่ซ่อนอยู่ภายในนั้นอาจสร้างความเสียหายให้ตา หรือ ไตของคุณ แล้ว จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:18:48

ความคิดเห็นที่ 5 Itchy, Violet Bumps on Wrist Lichen planus เป็นลักษณะทางจุลพยาธิวิทยาที่สำคัญที่จะพบใน lichen planus คือ มีการทำลายของชั้น basal cell layer และมีการสะสมของ lymphocytes เป็นแถบอยู่ในเนื้อเยื่อ เกี่ยวพันใต้ชั้นเยื่อบุผิว จะเป็นรอยแดงๆม่วงๆ และคันแทบบ้า มักปรากฏทีข้อมือและข้อเท้า หรือส่วนล่างของหลัง คอ ขา และ อวัยวะสืบพันธุ์ สาเหตุไม่ทราบ แต่ถ้าคุณมี ควรไปทดสอบตรวจตับของคุณให้ดี อาจเป็นสัญญาณของ ไวรัสตับอักเสบ ซี Hepatitis C ท่าน ผู้อ่านคงคุ้นเคยกับไวรัสตับอักเสบ บี แต่ถ้าท่านติดตามโรคตับอักเสบท่านจะพบว่าไวรัสตับอักเสบ ซีเพิ่มขึ้นเนื่องจากพบได้บ่อยมากขึ้น พบได้ประมาณ 1-2% ของคนที่มาบริจาคเลือด หลังเป็นตับอักเสบแล้วก็มีแนวโน้มจะเป็นตับอักเสบเรื้อรัง  20% ของผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรังชนิด ซี จะเป็นตับแข็งภายใน 10-20 ปี บางส่วนกลายเป็นมะเร็งตับ ปัจจัยเสี่ยงและการติดต่อ ไวรัสตับอักเสบ ซี ติดต่อทางเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน แต่มีผู้ป่วยบางท่านได้รับเชื้อโดยไม่ทราบแหล่งที่มาปัจจัยเสี่ยงได้แก่    * ผู้ที่เคยได้รับเลือด และ สารเลือดก่อนปี คศ 1992 เนื่องจากยังไม่มีการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี    * เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ได้รับอุบัติเหตุถูกเข็มตำ    * ผู้ป่วยติดยาเสพติดใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน    * ทารกที่เกิดจากแม่ที่มีเชื้อ ไวรัสตับอักเสบ ซี พบได้ร้อยละ 5    * ผู้ที่สำส่อนทางเพศ หรือ รักร่วมเพศ    * ไดรับเชื้อจากการสักตามตัว จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:19:02

ความคิดเห็นที่ 6 Flesh Colored, Orange-Peel Patches on Back เป็นจุดๆหรือแถบ ด้านล้างของหลัง มักเกิดพร้อมกับสัญญาณผิวหนังอื่นๆ เช่น สิวเป็นตุ่มหรือก้อนเนื้อปูดๆสีน้ำตาลหรือแดงแพร่กระจาย บริเวณแก้มไปยังจมูก  หรือมีก้อนหรือปานบริเวณลำตัว ใบหน้า มีปานขาวที่มีลักษณะเหมือนใบไม้ Ash leaf spot ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคทางพันธุกรรมที่หายาก เรียกว่า ทูเบอรัสสเคลอโรซิส(tuberous sclerosis)   ซึ่งทำให้เกิดเนื้องอกที่โตในสมอง และอวัยวะสำคัญอื่นๆ จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:19:26

ความคิดเห็นที่ 7 Tripe Palms เป็นสัญญาณของมะเร็ง ถ้าเป็นแค่ที่มืออาจเป็นมะเร็งปอด แต่ถ้าอาการปรากฏพร้อมกับ acanthosis nigricans ( ผิวหนังหนาและมีสีเข้มขึ้นบริเวณรักแร้ เยื่อบุช่องปาก ฝ่ามือและเท้า ) อาจเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:19:54

ความคิดเห็นที่ 8 Hardening of Skin in Extremities, "Wooden" Hands and Feet เป็นสัญญาณของโรค Nephrogenic Systemic Fibrosis โดยทำให้แขนและเท้า จะเป็นสีน้ำตาลและมีลักษณะเหมือนไม้ บางครั้งอาจมีจุดสีเหลืองเล็กๆปรากฏในลูกตาด้วย Researchers only recently found that the gadolinium contrast agent used during MRI exams triggers this condition in some patients with kidney failure. จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:20:05

ความคิดเห็นที่ 9 Scaly Rash on Buttocks, Red Tongue โชคดีที่โรค necrolytic migratory erythema  นั้นหายาก ทำให้ผิวแดง ผื่นคันตกสะเก็ด เหมือนผิวหนังโดนกัดกร่อน มักเจอในผู้ป่วยสูงอายุ อาจปรากฏบริเวณ สะโพก ก้น อุ้งมือ หรือส่วนอื่นๆตามร่างกาย เป็นสัญญานของ pancreatic tumor มะเร็งตับอ่อน จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:20:24

ความคิดเห็นที่ 10 Not All Skin Conditions Scary อาการที่เกิดกับผิวนั้นไม่ได้สื่อถึงโรคร้ายไปซะหมด เช่น granuloma annulare ตามรูป เกิดเป็นสีแดงๆกลมๆเหมือนวงแหวนที่เท้าหรือมือ แต่ไม่ได้เป็นอะไร มันจะหายไปเองภายในสองปี ^_^ จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:20:40

ความคิดเห็นที่ 11 Credit http://www.acnethai.com/ http://www.siamhealth.net http://www.webmd.com http://www.rachanont.com จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:20:53

ความคิดเห็นที่ 12 สนับสนุนให้ สาวๆใส่ใจสุขภาพกันด้วยนะค่า จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:23:51

ความคิดเห็นที่ 13 อา ดูแล้วน่ากลัว ขอบคุณที่มาแบ่งปันนะคะ จากคุณ : เซนทาโร่ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:37:34

ความคิดเห็นที่ 14 >< รูปสยองมากค่ะ อึ๋ย จากคุณ : YUKIss เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:42:05

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณที่เอามาให้ดูค่ะ งงๆ กะยาโรคผิวหนังตลอดเลย เวลามีคนมาถามไม่รู้จะแนะนำยังไง ตอนนี้จะได้บอกเพื่อนได้ละ จากคุณ : ไอแดดยามเช้า เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 18:49:35

ความคิดเห็นที่ 16 ว้าว!!เยอะจัง ผิวนี้บ่งบอกอะไรหลายๆอย่างจริงๆ โหะๆ มีอีกโรคหนึ่งน้องเราเป็น"ขนคุด"ตรงข้อสอกน่ะ ไปหาหมอเค้าบอกว่า เป็นเพราะน้องมัน ชอบใส่เสื้อแขนยาวพับแขนถึงข้อสอกแล้วแขนเสื้อมันสีกับผิวบ่อย ลักษณะหมอบอกว่า เหมือนขนปกติจะตรง แต่นี้มันคุดคดอยู่ในรูขุมขน **แต่ไม่เป็นโรคที่อันตรายน่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆน่ะค่ะ ปล.มาเป็นสมาชิกใหม่น่ะค่ะ ชื่อ ปู อายุ 20 ยินดีที่ได้รู้จักน้าค่ะ จากคุณ : Oh..PUKI เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 19:05:18

ความคิดเห็นที่ 17 เราเป็นแบบ คห ที่ 3 อ่ะ ที่รักแร้ T______T แต่ไม่ดำ และไม่เยอะขนาดนั้น จะเป็นไรไหมอ่ะ กลัวจัง :( จากคุณ : eyesmith เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 19:09:04

ความคิดเห็นที่ 18 เวลาตากแดดมาก ๆ จะชอบเป็น ผื่นแดง ๆ เหมือน Butterfly Rash แต่ว่าไม่มาก ทั้ง ๆ ที่ทาครีมกันแดด โอ๊ะ ชักเครียด ขอบคุณ คุณหมีโคอาล่าเก้าหาง นะคะ สำหรับกระทู้ดี ๆ จากคุณ : prince charming isn't coming เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 19:38:53

ความคิดเห็นที่ 19 Oh..PUKI  : ค่า เราอยู่มานานละ แต่ไม่ค่อยได้โพสอะไร อายุเท่ากันเลย ^_^ ขอบคุณที่มาบอกโรคเพิ่มนะคะ =_= เหมือนแฟนเรากำลังเป็นอยุ่เลยอะ ชอบพับแขนเสื้อมา มีขนคุดๆด้วย eyesmith : ถ้าไม่ได้เป็นมากๆ ก็อย่าเพิ่งเครียดไปค่ะ เพราะคนที่เป็น ค่อนข้างมาก แล้วก็แตกลายด้วยนะ มีรูปมาให้ดูเพิ่มค่ะ จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 19:48:44

ความคิดเห็นที่ 20 prince charming isn't coming  : มีการอักเสบบริเวณข้อทำให้เกิดอาการปวดข้อ  ข้ออักเสบ เกิดการอักเสบที่ไต มีบวมตามขาหรือหน้า ด้วยรึเปล่าคะ เพราะถ้าเป็นอาจเป็นโรคลูปัส ผู้ป่วยด้วยโรคแอส เอล อี ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง อายุระหว่าง 20-45 ปีโดยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 30 ปี   ผู้หญิงมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ชายประมาณ 9-10 เท่า   พบได้ในทุกเชื้อชาติ จะพบในคนผิวดำและผิวเหลืองมากกว่าผิวขาว   จะพบมากในบริเวณเอเชียตะวันออก   เช่น ในประเทศไทย , สิงคโปร์ , มาเลเซีย , ฮ่องกง , และจีน   จากความรู้ของ แพทย์ที่เพิ่มขึ้นประกอบกับความตระหนักรู้ของประชาชนทำให้พบผู้ป่วยโรคเอส แอล อี เพิ่มมากขึ้น มีข้อมูลเพิ่มให้คะ อะไรเป็นสาเหตุของโรค เอส แอล อี ในปัจจุบันเรายังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของโรค เอส แอล อี แน่ชัด   แต่มี หลักฐานที่บ่งบอกว่าจะเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ร่วมกัน คือ 1. กรรมพันธุ์ 2. ฮอร์โมนเพศหญิง 3. ภาวะติดเชื้อบางชนิด , โดยเฉพาะเชื้อไวรัส นอกจากนี้เรายังทราบว่ามีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นหรือมีโอกาสเป็นโรค เอส แอล อี มีอาการรุนแรงขึ้น   เช่น 1. แสงแดด   โดยเฉพาะ แสงอุลตร้าไวโอแลต 2. การตั้งครรภ์ 3. ยาบางชนิด อาการของโรค เอส แอล อี มีอะไรบ้าง โรค เอส แอล อี เป็นโรคที่มีลักษณะการแสดงออกได้หลากหลายลักษณะ อาจมีอาการเฉียบพลันและรุนแรงหรือมีอาการค่อยเป็นค่อยไปเป็นช่วยระยะเวลานาน หลายปี   อาจมีอาการแสดงออกของหลายอวัยวะในร่างกายพร้อม ๆ กันหรือมีการแสดงออกเพียงอวัยวะหนึ่งทีละอย่างก็ได้   มีอาการเป็น ๆ หาย ๆ ได้   แต่ลักษณะเฉพาะของโรค เอส แอล อี คือผู้ป่วยจะมีอาการในหลาย ๆ ระบบของร่างกาย   โดยจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่พร้อมกันก็ได้ เมื่อไรควรสงสัยว่าเป็นโรค เอส แอล อี 1. เมื่อมีไข้ไม่ทราบสาเหตุ นานเป็นเดือน 2. เมื่อมีอาการปวดบวมตามข้อ 3. เมื่อมีผื่นคันที่หน้า   โดยเฉพาะเวลาถูกแสงแดด 4. เมื่อมีผมร่วงมากขึ้น 5. เมื่อมีอาการบวมตามหน้า   ตามเท้า จะวินิจฉัยโรค เอส แอล อี ได้อย่างไร ในการวินิจฉัยโรค เอส แอล อี   แพทย์จะใช้เกณฑ์ที่ประกอบด้วยลักษณะอาการและการตรวจทางห้องปฏิบัติการดังนี้ 1. มีผื่นที่หน้า ( Malar rash) 2. มีผื่นเป็นวง ( Discoid rash) 3. มีผื่นแพ้แสง ( Photosensitivity) 4. มีแผลในปาก 5. มีข้ออักเสบ ( Arthritis) 6. มีเยื่อหุ้มปอด หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ 7. มีไตอักเสบ 8. มีอาการทางระบบประสาท เช่น ชัก , คลุ้มคลั่ง 9. มีอาการทางระบบเลือด เช่น โลหิตจาง , เม็ดเลือดขาวหรือเกร็ดเลือดต่ำ 10-11. มีผลการตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการเฉพาะอย่างให้ผลบวก 2 ข้อขึ้นไป ถ้าผู้ป่วยมีลักษณะเหล่านี้เกิน 4 ใน 11 ประการ   แพทย์จะให้การวินิจฉัยว่าเป็นโรค เอส แอล อี การป้องกัน เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด   การป้องกันไม่ให้เกิดโรค เอส แอล อีในขณะนี้ยังไม่มี   หากท่านสงสัยว่าเป็นโรคนี้ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยเสียแต่ในระยะแรก   และได้รับการรักษาที่ถูกต้อง   การล่าช้าในการรักษาอาจทำให้อาการเป็นรุนแรงขึ้น เช่น ไตวาย หรือถึงแก่เสียชีวิตได้ ในปัจจุบัน ผู้ป่วยโรค เอส แอล อี มีอัตราของความพิการหรือเสียชีวิตลดลงน้อยลง มากเมื่อเทียบกับ เมื่อ 10-20 ปีก่อน   ทั้งนี้เนื่องจากการที่เราสามารถพบและให้การวินิจฉัยโรค เอส แอล อี ได้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ ประกอบกับยาและวิธีการรักษาที่ดีขึ้นในอนาคต โดยอาศัยความรู้ ที่เพิ่มมากขึ้น   ประกอบกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะทำให้สามารถค้นพบสาเหตุที่แท้จริงของโรค เอส แอส อี   สามารถแยกแยะผู้ป่วยเป็นกลุ่ม   ปรับปรุงการรักษาให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ป่วย   ตลอดจนควบคุมและให้การป้องกันไม่ได้เกิดโรค เอส แอล อี ขึ้นได้ บางทีอาจแค่โดดแดดแล้ว ผิวแพ้ง่ายรึเปล่า เลยระคายเคือง ไม่ต้องกังวลไปค่า จากคุณ : หมีโคอาล่าเก้าหาง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 19:54:33

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ ^^ จากคุณ : blanclapine เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 19:58:05

ความคิดเห็นที่ 22 อโรคยา ปรมาลาภา ขอบคุณความรู้ดีดีค่ะ จากคุณ : KarumDog เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 20:01:32

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณนะคะ อ่านไปสำรวจตัวเองไป...โชคดียังไม่มีตามที่บอกมา แต่รอยแตก เซลลูไลท์ยังอยู่เช่นเดิม- -" จากคุณ : Ashley_Mary kate เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 20:08:45

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาดูว่าเป็นโรคเดียวกับเราหรือเปล่า อ่านไปแล้วรู้สึกตัวเองโชคดีที่ไม่เป็นโรคขนาดนี้อ่ะ ตอนนี้เราเป็นผื่นแดงที่ข้อพับแขนด้านในและรักแร้(คล้าย คห.2) ผิวจะแดง แห้งมากๆ แล้วจะลอกเป็นขุยขาวๆ พอหายแดงก็จะดำเลยค่ะ หาหมอผิวหนังแล้ว หมอบอกว่าเป็นโรคที่เกิดจากภูมิแพ้ค่ะ จะเกิดตามข้อพับ ดีที่ไม่เกิดตรงที่เห็นง่ายๆ เช่นคอและขาค่ะ แต่พอหายแล้วจะดำเป็นวงทำให้ไม่กล้าใส่แขนกุดเลย หมอบอกว่าถ้าสุขภาพไม่แข็งแรงมันจะกลับมาด้วยอ่ะ เศร้า T_T แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 53 20:23:12 จากคุณ : anegi เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 20:22:22

ความคิดเห็นที่ 25 เราเป็นแบบรูป คห.10 บ่อยมากเลยอ่ะ เป็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ละ สังเกตตัวเองถ้ามันขึ้นแดง ๆ แบบนี้ แสดงว่าตอนนั้นร่างกายเราอ่อนแอ แต่มันไม่ได้แสดงถึงโรคร้ายอะไรใช่ป่าวคะ จากคุณ : ^ คุณหนูคิขุจังจอมซน ^ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 21:38:36

ความคิดเห็นที่ 26 น่ากั๊ววววววว U U เคยเป็นลมพิษพร้อมรูขุมขนอักเสบ สยึ๋มกึ๋ยมั่กๆ เจออันนี้แล้วใหญ่เลย -*- จากคุณ : PINKHOLiC เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 22:14:17

ความคิดเห็นที่ 27 น่ากลัวมากค่ะ  อ่านไปลุ้นไป จากคุณ : Indaz เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 15:07:51