|
ความคิดเห็นที่ 83 |
ผมฟังแล้วเจ็บใจ เราไม่ได้อยากจะเอาเด็กออก เราอยากจะมีลูก แต่หมอแนะนำให้เอาออกเนื่องจากเสี่ยงต่อความผิดปกติแล้วหมอก็ไม่รับเอาเด็ก ออกให้เนื่องจากเด็กยังไม่ตาย แต่คนที่นี่มองเราเป็นพวกใจแตกรักสนุก ผม กับภรรยาตัดสินใจขับรถไปอีกที่ย่านคลองตัน ที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ค่อนข้างซอมซ่อ เมื่อผมและภรรยาแจ้งต่อแผนกทะเบียนว่า “มารับคำปรึกษาปัญหาตั้งครรภ์” พวกเราก็ถูกพาไปยังด้านหลังตึกทันที
ที่แห่งนี้ยังพอรับได้มากกว่า ที่แรก ยังมีการเรียกผมและภรรยาเข้าไปนั่งคุยด้วย ไม่เหมือนที่แรก ที่ลับๆล่อๆมากและกันผมไปนั่งที่อื่นตั้งแต่ต้น
ผมไม่แน่ใจว่า ผู้หญิงคนที่อยู่ในห้องแต่ละห้องนั้นเป็นแพทย์หรือเปล่า แต่เค้าก็จะถามผมและภรรยาถึงอาชีพ, ระยะเวลาที่แต่งงานอยู่ด้วยกันมา, ประเภทที่ต้องการจะทำ (แบบขูดออกกับแบบดูดออก) ซึ่งผมและภรรยาเลือกแบบดูดออก
นาทีต่อมา ผมพบตัวเองชำระเงินค่าฆ่าลูกตัวเองเป็นจำนวน 7000 บาทแล้วก็ถูกพาไปยังห้องๆหนึ่ง เค้าให้ผมรออยู่หน้าห้อง แล้วให้ภรรยาเข้าไปทำความสะอาดร่างกายในห้องนั้น
ระหว่างนั้น มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนึงเดินมาบอกผมว่าให้กลับมาอีกทีในอีก 3 ชั่วโมงให้หลัง ผมก็บอกเจ้าหน้าที่ว่าผมต้องการรอ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ผมรอ ก็ไม่ทราบว่าทำไม สุดท้ายผมก็ต้องออกมาจากที่นั่นโดยบอกกับภรรยาว่า ผมจะมารับ
สามชั่วโมงให้หลัง ผมกลับมาที่หน้าห้องดังกล่าว ถามหาชื่อภรรยาว่าอยู่ที่ไหน แต่ไม่มีเจ้าหน้าคนไหนยอมบอก
ผมว้าวุ่น ใจอย่างแรงและเป็นห่วงภรรยาอย่างมาก เพราะไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมเดินไปทั่วตึก ขึ้นลงทุกชั้นถามหาภรรยาผม ไม่มีใครบอกว่าอยู่ที่ไหน
สุด ท้าย มีเจ้าหน้าที่ท่านนึงเรียกผมไปนั่งแล้วต่อสายโทรศัพท์ภายใน ให้ผมคุยกับเจ้าหน้าที่อีกคน
ผม : ผม XXX สามีคุณ XXX ที่มาเมื่อตอนเที่ยง ตอนนี้ผมมารับภรรยาผมกลับบ้าน เค้าอยู่ที่ไหน
เจ้าหน้าที่ : จัดการเรื่องให้เรียบร้อยแล้ว คนไข้กำลังนอนพัก คุณรอก่อนนะ
ผม : ผมอยากพบภรรยาผม เค้าอยู่ที่ห้องไหนครับ
เจ้าหน้าที่ : ไม่ต้องมาหรอก เดี๋ยวเค้าก็ฟื้นแล้ว
ผม : ทำไมถึงห้ามเข้าพบ ?
เจ้า หน้าที่ : คงต้องใช้เวลาอีกหน่อยให้คนไข้ได้พัก คุณกลับไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะติดต่อไปเอง
แล้วเจ้าหน้าที่ก็วางหูไป
กลับ ไปก่อน?? ให้ผมกลับไปก่อน???? แล้วภรรยาผมล่ะ????
ระยะเวลาจากนั้น คือการนั่งรอด้วยความทุกข์ทรมานใจอย่างที่สุด ผมไม่รู้ว่าภรรยาของผมอยู่ห้องไหน มีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า
แต่ หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง รวมเบ็ดเสร็จที่รอตอนแรกไป 3 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 4 ชั่วโมง ภรรยาผมก็โทรมาเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของผม แต่คนที่พูดปลายสาย ไม่ใช่ภรรยาของผม เป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิง
เจ้าหน้าที่ : คุณเป็นแฟนคุณ xxx ใช่หรือเปล่า
ผม : ครับ
เจ้าหน้าที่ : คุณชื่อนามสกุลอะไร
ผม : ไม่ทราบจะถามไปทำไมครับ
เจ้า หน้าที่ : เราต้องรู้ เพราะเผื่อแฟนคุณหนีออกไปแล้วเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เราจะได้มีหลักฐานว่าคุณเป็นคนพามาเอง
ผม : ……
ผม ก็ให้ชื่อและนามสกุลกับเจ้าหน้าที่ไป แล้วเค้าก็ส่งสายให้ภรรยาผมคุย
ภรรยา: ชั้นจะรออยู่ข้างล่างนะ ตรงที่จอดรถ (โรงพยาบาลนี้มีที่จอดรถอยู่ชั้นล่าง ด้านหน้า)
เมื่อพบภรรยา ผมค่อนข้างงง เพราะเธอดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลย เดินเหินตามปกติ ไม่เหมือนคนที่เพิ่งทำแท้งมา
ผม : เค้าทำยังไงบ้าง
ภรรยา : ให้ดมยาสลบ แล้วก็ดูดออก
ผม : เจ็บมั้ย
ภรรยา : ไม่เชิงนะ รู้สึกเหมือนตึงๆมากกว่า
จากคุณ |
:
Pon Pon Pata Pon!
|
เขียนเมื่อ |
:
3 พ.ค. 53 20:00:56
|
|
|
|
|