อวบใหญ่จะรับปริญญา หาโน่นนี่ใส่ไม่ได้? มามะ มาจัดไป (เอาความขื่นไปลงถุงช้อป)
|
|
สวัสดีค่ะ ป๋อมแป๋มนะคะ เคยมาตั้งกระทู้ถามเรื่องโน้นนี้เป็นระยะๆ ตอนนี้ก็กำลังจะรับปริญญาแล้ว (สี่ปีที่รอดตาย เปิดเพลง we are the champion) ได้เข้ามาถามเรื่องถุงน่อง รองเท้าสำหรับรับปริญญา และได้คำแนะนำดีๆจากพี่ๆเพื่อนๆ ขอบคุณมากๆค่ะ
วันนี้ก็เลยจะมาแนะนำเพื่อนๆที่กำลังจะรับปริญญา และน้องๆที่กำลังเตรียมตัวสำหรับปีหน้า
ประสบการณ์ตรงของคนหุ่นหมูอืด เท้าทั้งอูม ทั้งแบะ ขาไม่ต้องพูดถึง ทำให้การหาชุด รองเท้า ถุงน่องเป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก ไม่รู้ทำไมเขาถึงจงใจตัดกันแค่ไซส์มินิๆมาขาย
แต่แล้วฟ้าดินก็เป็นใจให้หาเครื่องแต่งกายมาได้
สำหรับผู้ชายไม่เท่าไหร่ค่ะ รองเท้าผู้ชายเท่าที่ดูก็มหึมาอยู่แล้ว ฉะนั้นเราจะปล่อยพวกเขาไปที่ชอบๆกันนะคะ
เริ่มจากถุงน่อง ต้องบอกว่าสาวๆอวบๆไม่ต้องกังวลเรื่องไซส์ถุงน่องนัก ขอให้ตรงไปแผนกถุงน่องของห้างที่ใหญ่หน่อย (อย่างเราไปเซ็นทรัลบางนา) บอกคนขายว่าจงจัดมาเสนอ เขาก็จะช่วยหาไซส์ที่เราใส่สบายๆ ของแป๋มใส่ Queensize ของ Cherilon ได้พอดี แต่ยังค่ะ ยังไม่หมด ใหญ่เบิ้มกว่านั้นก็ยังมี รุ่น Maxima นี่แบบ เอ่อ.....ใหญ่ไปถึงไหนคะ ส่วนคนที่ย่อมลงมาก็มี Extraที่เป็นใยบัว แต่แป๋มใส่ไม่ได้อะ (ฮื้อ)
เลือกแบบที่เป็นซัพพอร์ตจะช่วยกระชับและไม่ขาดง่าย เลือกสีเนื้อที่เนียนกับผิว ราคาสูงกว่าถุงน่องทั่วไปหน่อยค่ะ
มาถึงเรื่องเสื้อผ้า โชคดีหน่อยที่ยังพอหาเสื้อได้ ลองเดินหาที่ใกล้ๆมาบุญครอง มีหลายร้านที่ให้เลือก แป๋มซื้อร้านนึงในชั้นสามของโบนันซ่า ร้านนี้ซื้อตั้งแต่ชุดนิสิตตัวแรกเลย ท่ามกลางร้านที่ขายเสื้อแบบเข้ารูป กระโปรงจีบเล็ก ร้านนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่ขายเครื่องแบบซึ่งนิเทศปีหนึ่งใส่กัน ปรากฏว่าเสื้อได้....แต่กระโปรงไม่ได้อะ
เลยต้องตัด สนนราคาก็อยู่ที่ 450 หนึ่งอาทิตย์มารับได้ ราคาถือว่าแพงกว่ากระโปรงสำเร็จ แต่ก็ดีกว่าไปยัดให้ปลิ้น เสี่ยงกับการขาด แตก ระหว่างวัน แย่กว่านั้นคือเกิดมันปริบนเวที โอ๊ย ไม่คุ้ม
ทีนี้.....เรื่องที่ทุกคนกังวล ก็เจ้ารองเท้านี่แหละ ตัวปัญหาเลย
จากคำแนะนำ หลายๆคนบอกว่า Naturalizer เป็นคำตอบของคนต้องการส้นสูง ดำ ไซส์ใหญ่ ราคาสูงถึงสองพัน โอวมายก๊อด เห็นแค่ราคาก็....อึก เอาวะ แหย่เท้าเข้าไปหน่อย ฉึกๆ ไม่ได้ (โล่งอกพิกล)
หน้าของเท้าทรงสวย แต่ว่าไม่สามารถรับเท้าอวบอูมได้
ไปจิ้มจึกรองเท้าหลายที่ เจอร้านที่มีรองเท้าดำ สวย ใส่ได้ถูกใจ ราคาไม่ถึงห้าร้อย แต่ก็ดันเป็นหนังแก้ว โอ๊ย ปวดหัว สุดท้ายเลยต้องกัดฟัน.....นึกถึงรองเท้าคู่เก่าที่เคยตัดไว้ตอนปีสอง
มันเป็นรองเท้าหนังดำส้นสองนิ้วที่ตัดที่ร้านรุ่งโรจน์ ตรอกนคร ท่าพระจันทร์ แป๋มเป็นคนที่มีปัญหาเท้ามากๆ และโดนรองเท้ากัดจนเลือดทะลักมาแล้ว (ทะลักจริงๆค่ะ จนใส่รองเท้านักเรียนไม่ได้เลย กัดในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที ถุงเท้าแดงเลยค่ะ) แต่กับคู่นี้มันไม่เป็นไรแฮะ ใส่สบาย คุ้ยกลับมาสวมก็ใส่ได้ เพียงแต่เมื่อยมากๆ บวกกับกดตรงหน้าเท้าทำให้ปวดขาในเวลาไม่ได้นาน แต่หนังอายุหลายปีนี้ก็ใส่นิ่มสบาย แป๋มเลยตัดสินใจว่า คงต้องตัด
ร้านรุ่งโรจน์นี้หาไม่ยาก แม้แต่กับคนที่นานๆจะเฉียด หรือเดินท่าพระจันทร์ ตามหาร้านก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยวฟรีเข้าไว้ค่ะ นั่นแหละ ตรอกนคร เข้าไปป๊าบ มองหาร้านรุ่งโรจน์เลยค่ะ ติดกับร้านน้องเบนซ์ (ร้านพระ) ตรงข้ามจะขายครุย (จำชื่อร้านไม่ได้)
ช่างเป็นอาแปะวัยกลางคน แกพูดเก่งสุดๆ พ่อของแกตัดรองเท้าสมัยแม่เรารับปริญญาเลยค่ะ (มธ.รุ่นที่วิ่งหนีกระสุน 14 ตุลาเลยค่ะ)
ในร้านมีรองเท้าที่ตัดแล้วให้เลือก ราคาจะถูกกว่ารองเท้าสั่งตัด โดยเขาจะทุบหนังรองเท้าให้นิ่ม ใส่น้ำมันทำให้นิ่ม เราต้องลองๆๆๆๆจนกว่าจะสบายเท้า ไม่ต้องเกรงใจ แกจัดให้ แล้วแกก็ภูมิใจกับงานแฮนด์เมดแต่ละชิ้นมากๆด้วย
มาเรื่องการตัดรองเท้า (ไม่มีรูปเพราะไม่เอากล้องไป เสียดายจัง)
แป๋มไปรับครุย คิวยาวสุดๆเลยไปตัดรองเท้ากับแม่ก่อน โดยที่จะเริ่มจากการตกลงแบบก่อนว่าจะเลือกแบบไหน เขาสามารถตัดให้กระชับเท้าและลดโอกาสการกัดได้ รวมทั้งหนุนหน้าเท้าสูงขึ้นหน่อยทำให้ลดแรงกระแทก ใส่แล้วไม่เจ็บไม่เมื่อยง่ายๆ แน่นอนว่าเราต้องใจเย็นๆในการเลือกสเปครองเท้านะคะ
เราตัดสินใจเลือกเป็นนิ้วครึ่ง ไม่ต้องสูงมากไป ขอให้เดินสบายๆพอ ส้นรองเท้าขอให้เป็นแบบกว้างขึ้น และหนุนหน้า เขาจะลองให้ดูแบบหัวชนิดต่างๆ จนในที่สดก็จะร่างแบบออกมา แล้วก็วัดเท้าเราค่ะ
คู่ของเรา 1800 บาท ค่ะ
ราคาสูงกว่าคู่ละ 199 หรือ 299 แน่นอน แต่เมื่อได้มาใส่แล้วพบว่า
1) นิ่ม...
2) ไม่ปวดนิ้วเท้าและหน้าเท้า อุ้งเท้า
3) ไม่ลื่น
4) หัวบุฟองน้ำนิ่มๆ กระชับเท้าสบาย
รองเท้าจะมีรูปทรงเข้ากับเท้าเรามาก ยิ่งบางคนมีขนาดเท้าที่ไม่สามารถหาไซส์ได้ง่ายๆ น่าจะชอบและใส่สบายกว่ารองเท้าแบบ mass production ที่ทำไซส์เป๊ะๆ
เราเทียบกับรองเท้าใหญ่ๆ ซึ่งคงต้องเลือกอย่างมีแบรนด์ ถึงจะมีขนาดใหญ่พอเราได้(ไซส์ฝรั่งนั่นแหละ) ราคา 2พันขึ้นไป พันแปดนับว่าคุ้มค่า มันไม่กัด ไม่บีบ ไม่ปวด
ร้านนี้เป็นร้านตัดรองเท้าร้านสุดท้ายในย่านนี้ และอาจจะหาร้านตัดเช่นนี้ไม่ได้แล้ว
(ใครชอบบูทส์เท่ๆ เขาก็รับตัด เราเห็นก็กรี๊ด อยากได้ๆ เอาไว้เก็บตังค์ก่อนจะไปสั่งตัด คู่นึงก็หลายตังค์ แต่น่าใส่มากๆ)
เสร็จแล้วเพื่อความชัวร์ เราซื้อหมอนรองส้นเท้า ที่เอาไว้ลดแรงกระแทกลงที่ส้น กับติดกันกัดธรรมดาๆเข้าไป
ที่เจอว่าเจ๋งจริงๆคงเป็นเจ้าตัวลดกระแทกเสียดสีใสๆจากร้านบู๊ทส์ ที่ช่วยให้รองเท้ากระชับขึ้นแบบนิ่มๆ
ก็คงประมาณนี้ค่ะสำหรับเรื่องราวของเรา อวบใหญ่ก็สวยได้
ใครมีอะไรมาแชร์ก็แบ่งปันนะคะ
| จากคุณ |
:
kurika  
|
| เขียนเมื่อ |
:
26 มิ.ย. 53 17:47:19
|
|
|
| 
