ความคิดเห็นที่ 1 วิธีผสม Vitamin C ใช้เองจากบลอคคุณฟีบี้ค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม คือ 1. ขวดแก้วสีเข้ม ขวดเล็กๆ ทำความสะอาดง่าย มีฝาปิดสนิท 2. Vitamin C (เราทำสลับกันระหว่าง MAP กับ AA) 2. โทนเนอร์ที่ชอบ (เลือกตัวที่บำรุงผิวหน่อยจะดีกว่าตัวที่เน้นที่ทำความสะอาดผิว) 3. Glycerin 4. น้ำมันที่ชอบ (เราชอบ squalane มาก) 5. ช้อนขนาดเล็ก สาเหตุ ที่เราใช้โทนเนอร์แทนน้ำเปล่า ก็เพราะว่า โทนเนอร์ดีๆ หลายๆ ตัว มีส่วนผสมที่ดีกับผิวมาอยู่แล้ว ประกอบกับมันมี preservatives ผสมมาพอสมควรอยู่แล้วด้วย ทำให้เราสามารถผสมโน่นนิด นี่หน่อยได้สนุกสนานยิ่งขึ้น แต่ยังไงซะควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว (มากกว่าเน้นทำความสะอาดผิว) จะดีกว่า ... ตอนนี้เราใช้ DDF โทนเนอร์ ใช้ดีเชียวหล่ะ วิธี ทำ 1. เริ่มต้นก็ตักไวตามินซีใส่ขวด สองช้อน (ช้อนเราเล็กมาก) 2. แล้วก็เทโทนเนอร์ใส่ขวด 3. ปิดฝา เขย่าๆๆ ให้ vitamin c ละลายให้หมด 4. พอละลาย ก็ใส่ glycerin หยดเดียว (ใส่มากแล้วจะเหนียวมากๆๆๆ) นิดเดียวก็เกินพอแล้วหล่ะ 5. แล้วก็หยด squalane ลงไปสองสามหยด ... บางที่ก็ใส่ sweet almond oil ลงไปอีกหยดสองหยด เท่านั้นเอง ... การใส่ squalane ลงไปนิดหน่อย ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นมากๆ ... แต่ระวังอย่าใส่เยอะเกินไปเพราะจะทำให้หน้ามันได้ ... เท่านี้ก็เสร็จ หลัง ล้างหน้า เราจะซับหน้าให้แห้งนิดนึง เพราะเจ้า serum ตัวนี้น้ำเยอะมาก ... จากนั้นก็เทใส่อุ้งมือ แล้วก็ละเลงทั้งหน้าไปเลย (แต่ก็อย่าให้เยอะเกินไป ซักนาทีนึงมันจะซึมหายเกือบหมด) ... จากนั้นก็ทา กันแดด เป็นอันเสร็จ เครดิตจากบลอค คุณ Phoebe Buffay นะคะ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=phoebe&month=02-2010&date=12&group=8&gblog=145 จากคุณ : decalock เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 22:36:33

ความคิดเห็นที่ 2 ใคร พอรู้จักร้าน แหล่ง จำหน่าย ราคาถูก น่าเชื่อถือ แนะนำได้นะคะ ส่วนตัว กำลังคิดว่า จะไปซื้อที่ร้าน วิทยาศรม แถวๆ สี่แยกคอกวัว ข้างๆกองสลากค่ะ  เพราะคิดว่า น่าจะได้มาตรฐาน กว่า ดีกว่าพวกร้านค้าออนไลน์ ( เสี่ยงกับของปลอม ไม่ได้มาตรฐาน )  และคิดว่าน่าจะราคาถูกกว่าค่ะ (แต่ไม่รู้ว่า ที่อื่นขายกันเท่าไหร่นะคะ ) ใครมีอะไรเพิ่มเติมได้นะคะ  หรือมีสูตร ผสม แบบอื่นๆก็แนะนำได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : decalock เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 22:45:45

ความคิดเห็นที่ 3 1.รู้สึกจะไม่มีนะครับ 2. -Vitamin C มันเริ่มเสื่อมตั้งแต่โดนน้ำแล้วล่ะครับ แต่เป็นการค่อยๆเสื่อม การใช้น้ำเปล่าอย่างเดียววิตามิน C มันแทบจะไม่ซึมเลยนะครับ ลองสังเกตได้ถ้าทาทิ้งไว้แล้วมันจะมีสีเหลืองค้างไว้ที่จุดที่เราทาไว้ - Glycerin ก็ช่วยนิดหน่อยครับ Propylene Glycol,Butylene glycol ช่วยได้พอสมควร[มีสีเหลืองๆบ้าง] แต่ที่ได้ประสิทธิภาพสุดคือ Ehoxydiglycol ครับรู้สึกจะซึมเข้าผิวเกือบหมดเลย 3.ถูกต้องครับแต่ MAP ก็เหมาะกับเวลารีบๆนะ (ไม่ต้องรอ 20 นาที) กับผิวที่ Sensitiveหรือรักษาสิวอยู่เพราะไม่ได้ไปรบกวนผิวน่ะ [แต่แพ้งแพง] 4.แบบแห้งเก็บได้นานครับเก็บได้หลายปีอยู่ถ้าซื้อที่วิทยาศรมก็จะมีบอกวันหมดอายุครับ แต่ถ้าผสมน้ำแล้วมันมีอายุประมาณ 1 สัปดาห์ลองสังเกตสีดูได้ครับ ถ้าเหลืองอ่อนๆพอได้อยู่ แต่ถ้าเหลืองอ๋อยนี่ก็เททิ้งไปได้เลย การเก็บใส่ตู้เย็นก็จะช่วยยืดอายุได้บ้าง [แต่ถ้าปิดฝาไม่สนิทความชื้นเข้าก็กลายเป็นเสื่อมกว่าเดิมอีก] 5. เสื่อมหรือหมดอายุแล้วมันจะเป็นFree Radical แทนที่จะเป็นAnti-Oxidant กับผิวเราแทนเองครับ 6. ถ้าถูกๆก็วิทยาศรมครับ แต่มันเป็นเกล็ดอะ ซึ่งเท่าที่เคยใช้มันละลายยากมากกกก ลองไปดูที่ Cocktailfromherb ดู มีแบบผงแป้งด้วยน่ะครับ ทำให้เราสามารถผสมแบบความเข้มข้นสูงๆได้ จากคุณ : Gorloth เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 00:30:26

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเกือบพลาดกระทู้นี้ไปซะแล้ว >.< - สูตรที่ว่า ใส่ glycerine หยดเดียวถูกแล้ว อย่าใส่เยอะเด็ดขาด สกินแคร์ถ้าพบว่า glycerine มันลำดับต้นๆแปลว่าห่วยครับ เพราะเขาใส่แค่ 3% อย่างมาก ใส่มากสปอยผิวครับ - ควรเพิ่มสัดส่วนของ squalane ให้มากกว่านี้ครับ นี่ก็ตัวนำสารอีกชนิดนึง - ผมว่านะ สรุปคือ มาใช้วิตซีของ activeserum กันเถอะ (ฮาๆ) เพราะตัดปัญหาเรื่องผสมเองไม่ได้สัดส่วน การละลาย pH เชื้อโรค โอ้ย สารพัด วิตซีของ activeserum นี่ถูกแล้วนะ 350บาท เอง ถ้างบคุณไม่พอ ผมแนะนำให้ตัดงบส่วนอื่นทิ้ง เช่นกันแดด ก็เลือกตัวถูกลงมาหน่อย อะไรแบบนี้อ่ะ จากคุณ : รักพ่อหนุ่มแรมโบ้ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 08:37:28

ความคิดเห็นที่ 5 เพิ่มเติม - map อย่าไปใช้ครับ ห่วยครับ สำหรับวิตซี ต้อง ascorbic acid เท่านั้นนะครับ สมัยก่อนที่ชอบใช้อนุพันกัน เพราะวิตซีแท้มันแพงงงงงง เดี๋ยวนี้มี activeserum ก็สบายหน่อย จำได้ความรู้สึกตอนกัดฟันซื้อ TBS vitc 55 แพงได้อีก - คุณจะผสม ascorbic acid นี่ควรจะมีแถบวัด pH นะครับ คุมให้มันอยู่ในช่วง 2.0-4.0 (อุดมคติคือ 2.5 ตามรายงานฯ) ทำแบบ DIY นี่ผมเห็นท่าจะไม่เวิค ไปๆมาๆค่าโสหุ้ย มันจะไล่ทันเหมือนกับซื้อเอาล่ะสิครับ (ค่าโทนเนอร์ - ค่าภาชนะ - ค่ารถไปซื้อภาชนะ - ค่าแถบวัด pH ) จากคุณ : รักพ่อหนุ่มแรมโบ้ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 08:50:09

ความคิดเห็นที่ 6 อีกอย่าง แยกให้ออกระหว่างคำว่า "แห้งไปกับผิว" กับ "ซึมเข้าผิวหมด"ให้ออกด้วย อย่างสูตรข้างต้น ที่บอกซึมเข้าผิวหมดน่ะ ผมไม่เชื่อน่ะ - pH เขาได้วัดไหม ? - ไหนตัวนำสาร ? น้อยไปไหม ? - activeserum vc-15 ทำในโรงงาน ใช้ตัวนำสารที่ซึมได้ลึกที่สุดอย่าง exthoxydiglycol คุม pH อย่างถูกต้อง ความเข้มข้นวัดอย่างถูกต้อง ตอนผมทาไอ้เจ้า vc-15 นี่ ยังรู้สึกมันนานกว่า 1 นาทีแน่ๆในการซึมจนแห้งหมดน่ะ ดังนั้น ถ้าบอกซึมหมดใน 1 นาที ผมว่ามันออกจะ "แห้งหมด" มากกว่า "ซึมหมด" นะ (อย่าลืมว่าเขาใช้โทนเนอร์) จากคุณ : รักพ่อหนุ่มแรมโบ้ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 09:01:11

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ คุณ Gorloth และ คุณ รักพ่อหนุ่มแรมโบ้นะคะ ไปดูมาแล้วค่ะ ตัว activeserum  น่าสนใจดีค่ะ ราคาถูกกว่า วิตซียี่ห้ออื่นเยอะ แต่ด้วยความอยากลองทำใช้เอง และ ความอยากได้ความสดใหม่ของ vitamin c เลยกะว่า ลองผสมเอง ลองผิดลองถูกไปก่อนดีกว่าค่ะ   ( ประเมินดูแล้ว ผสมเองถูกกว่า เป็นกอง O_o !!  555+ ด้วยความงก เอ้ย ความประหยัด) ไว้ถ้าผิวหน้าไม่ได้ดีขึ้น หรือไม่เกิดผลใดๆ คิดว่าค่อยไปมองหาตัว activeserum ทีหลังค่ะ จากคุณ : decalock เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:06:29

ความคิดเห็นที่ 8 ว่าแต่ ตัว   Ethoxydiglycol  กับ  squalane   มีขายที่ไหนมั่งคะ วิทยาศรม มีขายไหมคะ ปล.เพิ่มเติม ตัวPropylene Glycol , Butylene Glycol  ด้วยค่ะ หาซื้อได้ที่ไหน  ถ้าหา Ethoxydiglycol  ไม่ได้ ระหว่าง 2 ตัวนี้ ตัวไหน นำสารได้ดีกว่ากันคะ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 53 10:48:48 จากคุณ : decalock เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:45:49

ความคิดเห็นที่ 9 Ethoxydiglycol  , squalane , Butylene Glycol - เท่าที่ไปหามาไม่มีขายปลีกนะครับ ส่วน  Propylene Glycol มีขายที่ร้านฮงฮวด เท่าที่จำได้ราคารู้สึก 1 kg 120 กว่าบากไรเนี่ยแหละครับ บังเอิญผมซื้อเอามาทำCleanser ล้างเลยจำได้ ^^" จากคุณ : Gorloth เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:26:33

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วดีจังค่า รู้สึกว่าได้อาหารสมอง :P จากคุณ : alekay เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 12:08:49

ความคิดเห็นที่ 11 @ Gorloth  -   ขอบคุณค่ะ @  alekay  -  อ่านะคะ สวัสดีค่ะพี่เก๋  แบบว่า กำลังพยายามสวยค่ะ สวยแบบประหยัด(สวยแบบจนๆ)  อิอิ จากคุณ : decalock เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 18:52:02

ความคิดเห็นที่ 12 ตอนนี้ นั่งอ่านไปอ่านมา ก็ เอะใจขึ้นมาได้ว่า ที่คุณ Phoebe Buffay  แนะนำให้ใช้โทนเนอร์ นอกจาก มีสารบำรุงแล้ว  ยังมีพวกสาร ที่ ช่วยทำให้ สารอื่น ดูดกลืนเข้าผิวหน้าได้ดีขึ้น เลยอยากทราบว่า พวก  Propylene Glycol ,Butylene glycol ,Ethoxydiglycol   ที่ผสมอยู่ในโทนเนอร์ แล้ว  มันจะส่งผล ต่อ vitamin c ในการดูดกลืนเข้าผิวหน้าด้วยรึเปล่าคะ จากคุณ : decalock เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 19:59:50

ความคิดเห็นที่ 13 Neutrogena : Fine Fairness Toner Ingredients : Water, Butylene Glycol, PEG-4, Sodium PCA, PPG-5-Ceteth-20, Soybean (Glycine Soja) Sterols, Dipalmitoylethyl Dimonium Chloride, Glyceryl Disterate, Strareth-10, Camelia Sinensis Leaf Extract, Saxifraga Sarmentosa Extract, Vitis Vinifera (Grape) Fruit Extract, Morus Bombycis Root Extract, Scutellaria Baicalensis Root Extract, Glycine Soja (Soybean) Seed Extract, Ascorbyl Glucoside, Phenoxyethanol, Methylparaben, Ethylparaben, Butylparaben, Propylparaben, Isobutylparaben, Disodium EDTA, Sodium Citrate, Fragrance. เห็น ตัวนี้มี Butylene Glycol  อันดับ 2 รองจาก น้ำเลยค่ะ เลย คิดว่า ถ้า มันช่วยกันได้ จะได้ไม่ต้องเปลือง ออกไปหาหลายสิ่งหลายอย่างค่ะ จากคุณ : decalock เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 20:12:34

ความคิดเห็นที่ 14 ผมไม่ค่อยแน่ใจว่ามันจะมีประมาณมากพอที่จะผลักเข้าผิวหมดหรือเปล่านะครับ ยังไงก็ลองซื้อมาใช้ดูก็ได้ ถ้าไม่พอก็ลองหยด Glycerin เพิ่มเข้าไป ปล. ไลน์ Fine Fairness นี่น้ำหอมยังไงไม่รู้สิ  ฉุนชะมัด =_=" [บ่นเฉยๆน่ะครับ ไม่มีไรหรอก] แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 53 21:56:37 จากคุณ : Gorloth เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 21:55:49

ความคิดเห็นที่ 15 @Gorloth  -  ใช่เลยค่ะ กลิ่นรุนแรงมาก ตอนแรก ซื้อมาทำทิชชู่มาส์กค่ะ กระหน่ำใส่ลงไปซะเยอะเชียว มาส์กเสร็จ เวียนหัวไป 5 ชั่วโมงได้  แต่ใช้แบบปกติ กลิ่นก็ไม่ค่อยฉุนอะไรเท่าไหร่คะ ปลื้ม ราคาและคุณภาพค่ะ จากคุณ : decalock เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 00:51:19

ความคิดเห็นที่ 16 พอดีว่างๆ(แต่การบ้านยังไม่ได้ทำ)  ก็เลย Search หาอะไรเรื่อยเปื่อยในคลังกระทู้เก่าค่ะ เห็นหลายกระทู้เลยนะคะ เกี่ยวกับ vitamin c  แบบผสมพอกหน้าเอง บางกระทู้ อ่านแล้วก็ฮาค่ะ  แทบจะตีกันตายในกระทู้ เช่น กระทู้นี้ค่ะ http://topicstock.pantip.com/woman/topicstock/2008/01/Q6265235/Q6265235.html ฮาได้อีก http://topicstock.pantip.com/woman/topicstock/2008/11/Q7217017/Q7217017.html อันนี้เป็นแบบเม็ด มาบด ค่ะ http://topicstock.pantip.com/woman/topicstock/2008/09/Q6998331/Q6998331.html เผื่อสำหรับใครที่อยากอ่านเล่นนะคะ ถ้า search เจอเพิ่มเติมแล้วจะเอามาฝากค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 05:43:53 จากคุณ : decalock เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 05:13:02

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาศึกษา เผื่ออนาคต จากคุณ : AuSi เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 08:12:31

ความคิดเห็นที่ 18 ลองๆ search ต่อ ก็ไปเจอ ส่วนผสม เป็นสูตรผสมนะคะ  ในบลอคของคุณปูเป้ค่ะ   http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=pupesosweet&month=20-03-2009&group=5&gblog=13 ขออนุญาต copy มาแปะ ไว้ให้เพื่อนๆอ่านนะคะ  ถ้าคุณปูเป้ หรือเพื่อนๆเห็นว่าไม่สมควร ก็ กดลบได้เลยค่ะ ---------------------------------------------------------------------------------- ประสบการณ์1ปีในการDIY ทำให้ได้เรียนรู้อะไรต่างๆมากมายเลย ล้มเหลวหลายครั้ง แต่ที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือ Vit C serum โดยทำให้เหมือนกับ ของ Vivier 15% โดยมี Ingredients คือ Ethoxydiglycol, Propylene Glycol, Water, L-Ascorbic Acid, Citrus Grandis (Grapefruit) Extract, Fragrance ค้นเจอ patent พบว่าใช้% ดังนี้ water 15%; L-ascorbic acid 15% ethoxydiglycol 46.8% propylene glycol 22% anti-oxidant plant extract 0.9% fragrance material 0.3% เราผสมตามแบบของVivier เลย โดยตัดส่วนผสม 2 ตัวหลังออกเพราะไม่จำเป็น เมื่อเปรียบเทียบกับ การผสม 3 รูปแบบ คือ 1. vit c 15% ผสมกับ DI และ Glycerin อย่างละครึ่ง เป็น 100% 2. vit c 15% ผสมกับ DI และ Propelyne Glycol อย่างละครึ่ง เป็น 100% 3. vit c 15% ตามสูตรของ Vivier พบว่าแบบที่ 3 มีประสิทธิภาพสูงที่สุด และเสื่อมสภาพ (เป็นสีเหลือง)ช้าที่สุด โดยสังเกตุจากการใช้ตามสูตรของ Vivier เพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น ก็พบความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเลย คือ ขาวใสชึ้นอย่างมาก ถ้าใครมีโอกาสได้ลอง อยากให้ลองมากๆ หรือไม่ก็หาซื้อมาใช้เพราะมีประสิทธิภาพมากๆๆๆๆๆๆๆ สรุปว่า ethoxydiglycol มีส่วนช่วยในการดูดซึมได้ดีมาก (แต่อาจมีข้อโต้แย้งเรื่องความปลอดภัยในการใช้สารตัวนี้) อย่างไรก็ ตามการใช้ Vit c ของเราอยู่บนพื้นฐานที่ว่า หลังจากทาvit c แล้วต้องทิ้งระยะไว้ครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อยจึงจะทาบำรุงตัวอื่นๆ เพื่อดูดซึมได้สูงสุด (จริงๆเราใช้vit c แค่ตอนเช้า เสร็จแล้ว รอครึ่งชั่วโมงเพื่อโป๊ะ กันแดด ของ Sunique รุ่น fluid spf 40 ซึ่งมี Vit E ปริมาณมาก สรุปว่าตอนเช้าใช้แค่นี้ไม่ทำให้หน้ามันเท่าไรเลย เพราะถือว่าน้อยมาก) นี่แหละ HG ของเราในตอนเช้า (สำหรับส่วนผสม ทั้งหมดเราหาซื้อจากร้านเคมี และร้านจำหน่ายส่วนผสมต่างๆนี่แหละ ยกเว้น ethoxydiglycol เรา สั่งจากต่างประเทศ ไม่รู้ว่าที่ไทยมีหรือไม่) --------------------------------------------------------------------------------------------- โดย: narusu  วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:16:07:16 น. จากคุณ : decalock เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 20:21:21

ความคิดเห็นที่ 19 Vit c ควรมีสภาพเป็นกรด และเราก็ไม่ได้ปรับค่าpH เพราะอยากให้มันเป็นกรดมากๆ จะได้มีประสิทธิภาพ ถ้าจะปรับก็ใช้ Triethanolamine และจากประสบการณ์(อ่านBoard ต่างประเทศ) พบว่า ไม่ควรใช้ VitB3 ในสภาพที่เป็นกรดเพราะมันจะแตกตัวต่างเป็นอย่างอื่น (ซึ่งอาจมีข้อเสียได้) ดังนั้นเราจึงไม่ผสมมันลงไปใน Vit c "แล้ว ถ้าใช้ propylene glycol ละลายแทนน้ำ แล้วจำเป็นต้องใส่สารกันบูดมั้ยอ่ะครับ" คือ ใช้ผสมกับvit c ใช่ไหม เราไม่ได้ผสมมันแทนน้ำทั้งหมดเพราะกลัวว่าจะมากเกินไป จริงๆเห็นแนะนำกันว่า propylene glycol ไม่ควรใช้เกิน 5% แต่สำหรับการผสมในvit c serum เราก็เห็นผสมกันมากๆเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้vit c มันเสถียรมากขึ้น และช่วยให้vit c ดูดซึมได้ดีขึ้น ดังนั้นแม้เราจะไม่ได้ใช้แทนน้ำตรงๆแต่ก็ไม่ได้ใส่กันบูดลงไปในvit c เพราะส่วนใหญ่จะเสือมซะก่อนจะบูด และอีกอย่างตอนนี้เราผสมตามสูตร Vivier ซึ่งไมได้ใส้กันบูดเพราะมีน้ำน้อยมาก ----------------------------------------------------------------------------------------- โดย: narusu  วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:16:13:28 น. จากคุณ : decalock เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 20:24:55