Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ขอเถอะ...สาวๆอย่าลดความอ้วนด้วยการกินยาเลยนะ  

......แบบว่าเพิ่งกลับจากไปเก็บศพมา


คราวนี้เป็นนักศึกษาปี 3  สาวสวยระดับเป็นเชียร์ลีดเดอร์  นอนตายอยู่ที่บ้านในห้องนอนตัวเอง  ไม่มีบาดแผล  มีแต่ยาลดความอ้วนเต็มไปหมด


ก็ไม่ได้สงสารคนตายหรอก  เพราะน้องเขาไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว  ที่น่าสงสารน่ะคือพ่อแม่พี่น้อง  โดยเฉพาะแม่เขา  ยังรับความจริงไม่ได้  ร้องไห้กอดศพแล้วก็เอาแต่เขย่าปลุกเรียกให้ตื่นจนเราเข้าไปตรวจศพน้องเขาไม่ได้  สุดท้ายก็ต้องให้พี่มูลนิธิช่วยกันตัวออกไป  แต่ที่พีคขึ้นมาวันนี้มันเกิดตอนที่ตรวจศพเสร็จแล้ว  แม่น้องเขาวิ่งมาเขย่าตัวเราแทน

"ตกลงว่า(ชื่อน้อง)เป็นอะไรไปน่ะหมอ  ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น  ขอร้องล่ะ  ฉันไหว้ล่ะ  ช่วยลูกฉันด้วย"

"น้องเขา...ตายแล้วล่ะค่ะ  หมอทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว"  เป็นสิ่งที่เราตอบออกไปหลังจากที่โดนเขย่าจนมึนไปหมด

จากนั้นเราก็กลับ  ภาพสุดท้ายที่เห็นก่อนที่รถพยาบาลจะออกคือภาพที่แม่ของน้องเขานั่งแหมะกับพื้น  กรีดร้องและอาละวาดไม่ต่างอะไรกับคนบ้า  เราก็ได้แต่คิด...  ถ้าน้องเขามีโอกาสได้มาเห็นภาพนี้  เขาจะเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองเลือกทำบ้างรึเปล่านะ??


เห็นสาวๆหลายคนที่กินยาลดความอ้วนชอบบอกว่า  "ตายไม่กลัว  กลัวไม่สวย"  อยากจะบอกว่า  คิดได้ "เห็นแก่ตัว" ดีจัง  มันอันตรายมีเหรอจะไม่รู้  แต่รู้ทั้งรู้ก็ยังขอเสี่ยง  โชคดีก็ "ตัวเองสวย"  โชคร้ายก็.......คงไม่ต้องมารับรู้อะไรแล้ว


เราทำงานมา 4 ปีกว่า  ได้เก็บสาวๆที่โชคร้ายพวกนั้นมาจนนับไม่ถ้วน


ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมยาพวกนี้มันถึงได้ระบาดหนัก  ก็เพราะว่าคุณจะได้เจอแต่คนที่เขาโชคดีไงล่ะ  ถ้างั้นทำไมถึงยังปล่อยให้ขายกันเกร่อแบบนี้  ก็เพราะว่ามันระบุว่าเป็นเหตุตายไม่ได้ยังไงล่ะคะ  ที่ตายๆกันมันเป็นเพราะว่ายาไปกระตุ้นทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นแรงขึ้น  จนหลายๆคนมีอาการใจสั่นกันนั่นแหละ  พอถึงจุดๆนึงที่หัวใจทำงานพลาด  มันก็จะเกิดการเต้นผิดจังหวะและเสียชีวิต  พอตายปุ๊ปหัวใจก็หยุดเต้น  ไม่เหลือหลักฐานอะไรไว้ให้ตรวจอีก  นอกจากยาพวกนี้ในเลือดที่ยังไม่ถึงระดับที่เป็นพิษ  เลยเอามาใช้ระบุเป็นเหตุตายไม่ได้  ฆาตกรก็ลอยนวลทุกครั้ง  ทำได้มากที่สุดแค่ให้เหตุตายเป็น "สันนิษฐานว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ" เท่านั้นเอง  อืม...แต่จะว่าไปก็มีเจอตับวายเยอะพอดูเหมือนกันนะ


ที่ตั้งกระทู้นี้มาเพราะว่าหวังดีและอยากจะเตือนจริงๆค่ะ  บอกตามตรงว่ามันอันตรายมากจริงๆ  เราเก็บสาวๆกลุ่มที่โชคร้ายมามากจนเกินพอแล้ว  และถ้าเป็นไปได้เราก็ไม่อยากจะออกไปเก็บเพิ่มอีกเลยแม้แต่คนเดียว......


-----------------------------------------------------------------------------------


เพิ่มเติมค่ะ  เมื่อวานงานยุ่งมากเลยเพิ่งกลับมาดูวันนี้เอง

ก่อนอื่นก็ขอบคุณที่โหวตให้ค่ะ  ที่เราตั้งกระทู้เพราะวันนั้นมันพีคขึ้นมา  มาดูอีกทีขึ้นแนะนำเฉยเลย  แต่ก็ดีใจค่ะที่เรา+คนโหวตอาจจะสามารถช่วยกันเตือนสติสาวๆได้ในจำนวนที่มากขึ้น  แต่ยังไงเราก็คงจะไปควบคุมการตัดสินใจของใครไม่ได้หรอกค่ะ


เห็นมีถามกันมามากก็เลยมาเพิ่มเติมข้อมูลน่ะค่ะ

"แล้วยาคลีนิค  ยาโรงพยาบาลที่หมอจ่ายจะปลอดภัยกว่ายาที่วางขายกันไหม?"

อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ  โดยทั่วไปยาพวกนี้โดยตัวเดี่ยวๆมันก็เรียกได้ว่าอันตรายแล้ว  พอจับเอามารวมกันเป็นค็อกเทลสำหรับลดความอ้วนแล้วมันก็ยิ่งอันตรายสุดๆ  จะเป็นที่ไหนก็น่าจะขายชุดเดียวกันค่ะ  ผลเลือดจากศพที่ตรวจเจอประจำก็จะมีเป็นชุดหลัก "ยาเร่งเผาผลาญ + ยาไม่ให้หิว + ยาถ่าย" ประมาณนี้


พวกเร่งเผาผลาญก็จะเป็นพวกตระกูลไทรอยด์ฮอร์โมน  พวกไม่ให้หิวก็จะเป็นกลุ่มอนุพันธ์ของยาบ้า  พวกแรกจะทำให้มีอาการใจสั่น  มือสั่น  เหนื่อยไม่มีเรี่ยวแรง  กลุ่มหลังจะทำให้ใจสั่น  หงุดหงิดกระวนกระวาย  เบลอหรือหลอนประสาท


ปัญหาใหญ่คือมันจะยิ่งมาเสริมฤทธิ์กันเองจนเป็นเรื่องขึ้นมา  พวกที่ซื้อยากินเองน่ะตายเยอะกว่าแน่  เพราะพวกคลีนิกจะพยายามแบ่งยาให้เป็นระดับๆและต้องให้หมอคอยควบคุมใกล้ชิดไงคะ  ค่อยๆให้เริ่มที่ระดับต่ำๆก่อน  พอมีอาการเมื่อไหร่ก็รีบสั่งหยุด  ถ้ามันไม่อันตรายจริงล่ะก็เขาก็ต้องให้กินเต็มที่ได้เลยสิ  


คุณเคยเห็นหมอสั่งให้เริ่มกินวิตามินทีละเสี้ยวแล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้นบ้างไหมล่ะ??

แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 53 22:33:00

แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 16:34:44

แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 16:31:24

จากคุณ : vinv
เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 20:47:33

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com