 |
เรามาทำความเข้าใจกับ Differin และ Benzac กันนะคับ
|
|
เห็นหลายชีวิตในห้องใช้ ดิฟฟาริน, เบ็นแซค, เอเอชเอ กันเป็นว่าเล่น บางคนถามว่าทาตอนไหน บางคนถามว่าแพ้แล้วทำไงดี มาเคลียให้เลยละกันคับ
ดิฟฟาริน : เป็นอนุพันธุ์ของกรดวิตามิน เอ (เช่นเดียวกับยาที่ชื่อ เรติน-เอ แต่มีความแรงน้อยกว่า ไม่ทำให้ผิวระคายเคืองมาก และไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงเท่าเรติน-เอ) ใช้รักษาสิว โดยไปทำหน้าที่ลดการอุดตันของรูขุมขน ทำให้ความมันบนใบหน้าลดลง ลดการผลิตน้ำมันใต้ผิวคับ ควรทาก่อนนอน หลังจากล้างหน้าแล้ว 20 นาที เพื่อให้มีน้ำมันมาเคลือบผิวก่อนค่อยทา ไม่ควรทาในบริเวณผิวที่บอบบางเช่น รอบดวงตา ริมฝีปาก ขอบจมูกคับ การทาแล้วไม่ให้แพ้คือ เริ่มจากทาน้อยๆกระจายทั่วใบหน้า, ทาคืนเว้นคืน ก่อนเมื่อผิวเราปรับสภาพได้แล้ว ค่อยเพิ่มความเข้มข้นของตัวยา และทาได้ทุกคืนก่อนนอนคับ
Benzac คือยา เบ็นซอยเปอร์ออกไซด์ มีความเข้มข้นหลากหลายตั้งแต่ 2-5% มีสรรพคุณคือ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อสิว ทำให้ป้องกันสิวขึ้น และลดอาการของสิวอักเสบลงได้ ผลข้างเคียงคือ ทำให้ผิวไวต่อแดด, ถ้าใช้ความเข้มข้นสูงไป หรือทามากไปจะทำให้ผิวแพ้ มีผื่นแดง หน้าแห้งลอก (ถ้าเป็นอยู่ควรหยุดยาก่อน แล้วค่อยเริ่มทาเมื่อสภาพผิวเป็นปกติแล้ว) วิธีทายากลุ่มนี้อย่างฉลาดคือ เรื่มทาจากความเข้มข้นต่ำๆก่อน และทาเพียง 1-2 นาที ช่วงเย็นเท่านั้น เมื่อผิวเริ่มชินต่อยา ค่อยทิ้งเวลานานขึ้นตามลำดับ (คนที่ผิวแห้งมากๆควรระวังเป็นพิเศษ ส่วนคนที่ผิวมันจะไม่ค่อยแพ้คับ)
* ยาทั้งสองชนิดไม่ควรทาพร้อมกัน เพราะมีฤทธิ์ในการลอกผิว ทำให้หน้าแห้งมาก ควรเลือกตัวใดตัวหนึ่ง หรืออาจจะทาคนละเวลา
* ยารักษาสิวส่วนมาก จะทำให้ผิวหน้าแห้ง ลอกเป็นขุย ควรทาครีมบำรุงผิวที่เป็นคุณสมบัติ มอยเจอร์ ให้ความชุ่มชื้น อุ้มน้ำสูงเช่น Hyaluronic Acid ทำให้ลดอาการแพ้จากยารักษาสิวได้ดีคับ
* ความเชื่อที่ผิดๆคือ การประโคมยาเยอะๆ ทายาทิ้งไว้นานๆ เป็นสิ่งที่ไม่ดีคับ เพราะถ้าผิวแพ้ยา จะเกิดการตอบสนองคือ มีสิวเห่อขึ้นมากกว่าเดิม คัน เป็นผื่นแดง
* เมื่อหน้าแห้งมากๆจากการใช้ยาทั้งสองชนิด ควรลดความถี่ในการใช้เช่น วันเว้นวัน หรือ 1 อาทิตย์ทา 3 วันเป็นต้นคับ
นั่งพิมพ์จนเหนื่อย อยากให้เพื่อนๆโต้ะเครื่องแป้งได้ใช้ยาให้ถูกวิธี มีความสุขกับผิวสวยๆไปตลอดเน้อ
จากคุณ |
:
minisizeboi
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ก.ย. 53 04:25:52
|
|
|
|  |