ความคิดเห็นที่ 1 สู้ๆ ค่ะ ถ้าทำในสิ่งที่รัก อายุหรือผลตอบแทนมันได้เป็นตัวกำหนดหรอกค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดคือความสุขมากกว่าค่ะ ต้องขอชื่นชมในความกล้านะคะ ที่กล้าทำในสิ่งที่ตัวเองรัก หลายคนห้ามคนอื่นเพราะไม่กล้าก็เยอะค่ะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : น้ำบุตย์ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 14:46:17

ความคิดเห็นที่ 2 จากคุณ : มะปรางซ่า เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 14:52:11

ความคิดเห็นที่ 3 ดีใจแทนนะคะ ที่อย่างน้อยก็ย้งค้นพบความต้องการของตัวเอง แม้ว่าคนรอบข้างจะไม่เข้าใจแต่เราว่า อย่างน้อยคุณจขกท.ก็มีพลังใจของตัวเองอยู่แล้ว ได้เรียน ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ มีความสุขจะตายไปค่ะ คนบางคน ค้นทั้งชีวิตยังหาตัวตนของตัวเองไม่เจอเลยค่ะ จากคุณ : ปลากัดสีทอง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 14:55:33

ความคิดเห็นที่ 4 ดีมากๆเลยนะคะ ที่ค้นพบว่าตัวเองชอบอะไร ได้ทำงานที่ชอบ มีความสุขจะตายไปคะ ดีใจด้วยจริงๆ สู้ๆนะคะ จากคุณ : PLAYTIMEs เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 14:58:41

ความคิดเห็นที่ 5 โฮๆ อ่านไปน้ำตาซึมเลยค่ะ สาวๆ กำลังเหี่ยวจริงๆ ได้คำพูดและกำลังใจดีๆนี่ มัน...... ช่วยได้มากกกก  ขอบคุณจากใจคนไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะอยู่ไกลบ้านคนนึงจริงๆ จากคุณ : สาวโรงงานในซูริค เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:03:25

ความคิดเห็นที่ 6 แปลกตรงไหนคะ เราก็เป็นอีกคนที่คิดจะเรียนต่อ สาขาที่ไม่เหมือนที่จบมา เพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน ^^ จากคุณ : puddingbu เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:04:29

ความคิดเห็นที่ 7 อย่าไปเครียด อย่าไปเหี่ยวเนอะ ให้กำลังใจตัวเองเยอะค่ะ ได้เปลี่ยนสถานที่  ก็เท่ากับได้เปิดหูเปิดตาในสิ่งแวดล้อมใหม่ ได้เริ่มเรียนสิ่งใหม่ ก็เท่ากับเราได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นอีก ที่สำคัญ ได้สังคมและเพื่อนเพิ่มด้วยค่ะ จากคุณ : ปลากัดสีทอง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:12:02

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่มีคำว่าสาย .... สำหรับการเริ่มต้นค่ะ ^-^ จากคุณ : Discipline เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:12:56

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ใช่เรื่องแปลก..อย่าตั้งกำแพงกับสิ่งที่เราอยากทำ และ อยากลอง สมัยเราเรียน ป.ตรี มีพี่คนหนึ่งอายุมากแล้ว พี่เขาเป็นทหาร แต่มาเรียนเพื่อปรับวุฒิ ช่วงแรกก็รู้สึกแปลกๆ แต่ทุกอย่างก้เป็นไปตามปกติ และ ดีมาก ได้รับประสบการณ์ที่ต่างไปจากพวกวัยเดียวกัน สมัยเราเรียนโท มีเด็กพึ่งจบ และ รุ่นคราวพ่อ ปนๆกันไป เราชอบคบรุ่นใหญ่ๆ ได้อะไรแปลกใหม่ดี ส่วน พวกรุ่นน้องๆ ก้ได้ความสดใส และรู้ว่าวัยรุ่นเขาเป็นอย่างไรกัน จขกท..ยังค้นพบตัวเอง เราเสียอีก เรียนป.ตรี แบบนึง มาเรียนโท อีกสาขานึง  ตอนนี้เรายังพึ่งเรียน ป.ตรี ที่ มสธ. เพราะเราเริ่มรู้สึกว่าเราอยากเป็นทนายความตอนจะแก่นี่แหละค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆๆค่ะ จากคุณ : กาหยู เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:13:05

ความคิดเห็นที่ 10 สู้ๆค่ะ อย่ายอมแพ้นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : NL lonely เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:19:00

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าทำแล้วมีความสุข และไม่เดือดร้อนใคร เรื่องเงินไม่มีปัญหาในกรณีที่ยังหางานตรงที่จะเรียนไม่ได้ ก็เรียนไปเถอะค่ะ จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:20:59

ความคิดเห็นที่ 12 ฉันสวย....ฉันเริ่ด....ฉันมีพร้อมทุกสิ่งอย่าง ฉันเก่ง....และฉันต้องทำให้ได้ ท่องเอาไว้ค่ะ แล้วจะมั่นใจในตัวเอง ^^ จากคุณ : สาวน้อยแสนดื้อ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:28:41

ความคิดเห็นที่ 13 ยินดีด้วยนะคะที่พี่ค้นหาตัวเองพบเสียที ดีใจด้วยจริง ๆ ^^ มีคนไม่น้อย ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะทำอะไร หรือกำลังต้องการอะไร ฮุ้นว่าคนแบบนี้เค้ายังไม่ได้ใช้ "ชีวิตของตัวเอง" อย่างเต็มที่จริง ๆ นะคะ เพราะเค้าอาจต้องทำตามหลาย ๆ คนรอบข้าง จน...ไม่ได้ทำตามใจตัวเอง และหลงลืม...ว่าแท้จริงแล้ว ตัวเขาต้องการสิ่งนั้นจริง ๆ หรือเปล่า แค่คนอื่นว่าดี เราก็ทำ คนอื่นว่าไม่ดี เราก็ไม่ทำ แล้วตกลง นี่คือชีวิตเรา หรือชีวิตเค้ากันแน่!? ฮุ้นไม่ได้บอกว่าการที่คนอื่นเป็นห่วงเรา แนะนำทางที่ดีให้เป็นสิ่งไม่ดีนะคะ แต่ว่า...ถ้าเราเจอทางที่เราชอบ และมันดีด้วย จะดีกว่าไหม? win-win กับทุกคนน่ะค่ะ ฮุ้นก็เป็นคนนึงที่อยากเรียนต่อในสายที่ "ไม่ใช่" ทางที่เรียนมาเลย มีแต่คนบอกว่าทำไมถึงอยากเรียนต่อทางนี้ล่ะ มันคนละสายเลยนะ เอามาใช้ในการทำงานได้เหรอ? เรียนจบ "เศรษฐศาสตร์" แต่อยากเรียนต่อ "อักษรศาสตร์" ไม่ปลื้ม "งานการเงินการธนาคาร" แต่อยากเป็น "นักเขียน" (ยังได้แค่อยากนะคะ เพราะยังไม่ใช่นักเขียน แฮะ ๆ) แล้วฮุ้นผิดไหมที่ไม่อยากทำงานตรงสายที่เรียนมา? เรื่องนี้ไม่มีคนผิดหรอกค่ะ คนสมัยนี้จบมาทำงานไม่ตรงสายเยอะแยะไป ถ้าเราไม่ชอบ จะฝืนทนทำไปทำไม ชีวิตมันไม่ใช่แค่มีเงินก็พอนะคะ มันต้องมีความสุขด้วย เหมือนกับพี่ล่ะค่ะ ถึงเพิ่งมาเจอตัวเองตอนนี้ แต่ถ้าพี่มีความสุขในการคิดที่จะทำ อยากลงมือทำและสนุกกับมัน แล้วอะไรคือเหตุผลที่พี่ไม่ควรทำในสิ่งที่ชอบละคะ? ชีวิตเป็นของเราค่ะพี่ เกิดหนเดียวตายหนเดียว ทำในสิ่งที่อยากทำและมันไม่เดือดร้อนคนอื่น...แค่นี้ก็พอแล้ว เป็นกำลังใจให้พี่จริง ๆ นะคะ ฮุ้นเชื่อว่าถ้าพี่ตั้งใจจริง จะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน ถ้าเรารักในสิ่งที่ทำ ผลงานที่ออกมา จะต้องดีกว่าคนที่ฝืนทำเพราะเงินแน่นอน สู้ ๆ นะคะ \(> <)/ จากคุณ : HuNKiZu เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:29:18

ความคิดเห็นที่ 14 สมัยเรียน ป โท มีฝรั่งอายุราวๆ 40 มาเรียนด้วย เค้าออกจากงานมาเรียนเปลี่ยนสายไปเลย เค้าบอกว่าถ้าไม่ได้ทำมันคงติดค้างไปตลอดชีวิต ภรรยาเค้าก็สนับสนุนค่ะ เค้าชอบมานานแค่สมัยก่อนไม่มีโอกาส ทำอะไรทำเถอะค่ะจะได้ไม่ค้างคา จากคุณ : ไม้ยมก&แหนมมัด เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:30:17

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าได้ทำงานในสิ่งที่เรารัก  เราจะตื่นมาพร้อมกับความสดใสในทุกๆ วัน ดีจังค่ะ คุณได้รู้ว่าคุณชอบอะไร ในขณะที่บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าความฝันคืออะไร จากคุณ : ไม้ร่ม เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:30:47

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่มีใครแก่เกินเรียนค่ะ สู้ๆนะคะ ตั้งใจดีแล้ว ทำให้สำเร็จค่ะ จากคุณ : Abijan เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:35:13

ความคิดเห็นที่ 17 อยากทำอะไรทำเลยค่ะ ไม่มีใครแก่เกินเรียน ถ้าเรียนแล้วมีความสุขก็เอาเลยค่ะ เชียร์เต็มที่ คุณลุงเคนตั๊กกี้ยังเริ่มทำธุรกิจ KFC ตอน 60 กว่าเลยค่ะ ถ้าเรามั่นใจว่าเราทำได้ ก็อย่าให้อะไรมาขวาง สู้ๆค่ะ จากคุณ : hAPpY gIrLy & The mONEy bELt เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:47:40

ความคิดเห็นที่ 18 เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสาวๆจ๊ะจ๋า Vielen Dank จริงๆค่ะ ทุกความคิดเห็นเลย ดึงใจเราคืนมาได้ เยอะ มากๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : สาวโรงงานในซูริค เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:53:23

ความคิดเห็นที่ 19 มันไม่สำคัญว่าคุณจะได้งานตรงกับที่คุณจะไปเรียนหรือป่าว มันเป็นเรื่องของอนาคต แต่อย่างน้อยคุณก็ได้ศึกษา ขวนขวายในสิ่งที่คุณรัก สิ่งที่คุณอยากรู้ ถ้าโอากาสอำนวย ก็เรียนเถอะค่ะ ดีกว่าวันข้างหน้ามาเสียใจว่าทำไรเราไม่ทำ ส่วนถ้าเรียนจบ แล้วคุณไม่ได้งานตามที่เรียน อย่างน้อยคุณก็ยังมีงานที่ทำอยูซัพพอร์ตเพราะคุณทำงานไปเรียนไป ถึงคุณต้องทนทำงานที่ไม่ใช่คุณอีกนาน แต่คุณก็มีช่วงเวลาที่ดี ที่ได้เรียนรู้ในสิ่งที่คุณรักนะ ดีกว่าไม่ไปเรียนแล้วปล่อยให้ชีวิตห่อเหี่ยวไปตลอดชีวิต จากคุณ : Mrs-Ginna เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:53:55

ความคิดเห็นที่ 20 ... แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 53 15:56:12 จากคุณ : Mrs-Ginna เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:55:16

ความคิดเห็นที่ 21 ทำในสิ่งที่ใจอยากจะทำ   อนาคตจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าทำไมตอนนั้นไม่ทำ จากคุณ : ไตรบลู เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:59:26

ความคิดเห็นที่ 22 สู้ๆค่ะ และยินดีด้วยที่ได้ค้นพบในสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริงๆ ^^ จากคุณ : สึมิเระสีฟ้า เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 16:18:49

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าคุณได้เรียนในสิ่งที่ชอบ ทุกเช้าคุณตื่นขึ้นมาคุณจะอยากลุกแต่งตัวออกไปโรงเรียน ได้การบ้านมาคุณจะอยากทำ เห็นข้อสอบ แม้คุณจะรู้ว่ามันยาก แต่คุณจะรู้สึกท้าทายและอยากจะเอาชนะมัน และถ้าดีไปกว่านั้น คุณได้ทำงานที่ตรงกับที่เรียนมา คุณจะอยากตื่นเช้าไปสู้รบกับงานและอุปสรรคข้างนอก ตลอดชีวิตการทำงานค่ะ จากคุณ : - (bearjung) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 16:24:05

ความคิดเห็นที่ 24 ยาวนิดนึงนะค่ะ พอดีเคยเขียนไว้ ตอนที่คิดลาออกจากงานเมื่อ 2 ปีก่อนค่ะ ลาออกตอนอายุ 31 ด้วยเงินเดือนตอนนั้น เกือบ 5 หมื่นค่ะ เพื่อออกมาเป็นช่างแต่งหน้าค่ะ คิดว่า น่าจะได้กำลังใจให้สู้ได้นะค่ะ ลาก่อนชีวิตมนุษย์เงินเดือน http://www.ladysquare.com/forum_posts.asp?TID=50059&PN=1&TPN=1 จากคุณ : กรุ๊ฟ (Groof&Jeab) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 16:30:33

ความคิดเห็นที่ 25 แค่ค้นหาตัวเองพบก็โชคดีแล้วค่ะ  บางคนหาทั้งชีวิตก็ไม่เจอ  อนาคตจะดีหรือไม่ดี  แต่วันนี้ได้ทำก็คุ้มค่าแล้วค่ะ  สู้สู้ จากคุณ : bussayayee เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 16:43:57

ความคิดเห็นที่ 26 just do it จากคุณ : น้องเหมียวสีสวาด เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 16:53:39

ความคิดเห็นที่ 27 อายุยังไม่เยอะค่ะ หาเงินได้อีกตั้ง30-40ปี การพัฒนาตัวเองถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก HRDของปัจเจกทำได้ตั้งแต่เกิดจนตาย มีอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลกล่าวกับนักศึกษาว่าถ้าเป็นไปได้อย่าจบ3ปีครึ่งเพราะมันเร็วไป ชีวิตคุณอยู่ในมหาวิทยาลัยเพียง 4ปี ที่เหลือ40-50ปีคือการทำงาน แล้วอย่ากลัวที่จะเข้าไปแข่งกับคนที่จบใหม่เพราะในองค์กรปัจจุบัน(ที่หัวทันสมัย) เขาจะดูคนที่competencyซึ่งอาจจะเกิดกับประสบการณ์ ซึ่งคุณอายุมากกว่าก็ได้เปรียบเพราะความรู้บางอย่างเป็นแบบtacit สอนกันไม่ได้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : อมราวดี เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 16:58:37

ความคิดเห็นที่ 28 ทำในสิ่งที่รัก หรือ รักในสิ่งที่ทำ ก็ มีความสุขทั้งสองแบบ จากคุณ : ooh maple เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 16:59:48

ความคิดเห็นที่ 29 เราอยากจะแชร์บทความดีๆ ที่เราได้อ่านมา ซึ่งเราคิดว่ามันดีมากๆ โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า หากเราเลือกที่จะไม่ทำในสิ่งที่ฝัน เราก็จะเสียใจในท้ายที่สุด ว่าเป็นตัวเรานั่นเองที่เลือกที่จะไม่ทำ ลองอ่านดูนะคะ ****************** *สิ่งที่เรามักจะนึกเสียใจก่อนเสียชีวิต* รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย pasu@acc.chula.ac.th กรุงเทพธุรกิจ  วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553 สัปดาห์นี้เปลี่ยนอารมณ์หน่อยนะครับ เพราะพอดีไปเจอบทความเรื่องหนึ่ง โดย Bronnie Ware ซึ่งเป็นนักเขียนอิสระอยู่ที่ออสเตรเลีย โดยนักเขียนผู้นี้เคยทำงานดูแลผู้ป่วยที่รู้ตัวว่าจะเสียชีวิตและกลับไป อยู่ที่บ้านเพื่อรอวันตาย โดยเธอจะอยู่กับผู้ป่วยเหล่านี้ในช่วงสามถึงสิบสองสัปดาห์สุดท้ายก่อนที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิต โดยในช่วงเวลาดังกล่าว เธอได้มีโอกาสพูดคุยและรับฟังความในใจของผู้ป่วยเหล่านี้ เมื่อถามถึงสิ่งที่เสียใจหรือสิ่งใดๆ ก็ตามที่ถ้าทำได้อยากจะย้อนอดีตไปเปลี่ยนแปลงนั้น เธอพบว่ามีอยู่ห้าประเด็นที่มักจะพบในผู้ป่วยที่กำลังใกล้เสียชีวิตเป็นส่วนใหญ่ครับ *ประเด็นแรก* คือ ผู้ป่วยเหล่านี้อยากจะมีความกล้าที่จะใช้ชีวิตตามแบบที่ตนเองอยากหรือต้องการจะเป็น ไม่ใช่ดำรงชีวิตตามความต้องการหรือความคาดหวังของผู้อื่นซึ่งพบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้ป่วยอยากจะเปลี่ยนแปลงมากที่สุดครับเนื่องจากเมื่อผู้ป่วยพบว่าชีวิตตนเองกำลังจะสูญเสียไป และมีโอกาสมองย้อนกลับไปในอดีตนั้น จะพบว่ามีความฝันหลายๆ อย่างที่ยังไม่ได้เริ่มต้นทำหรือยังไม่บรรลุ และเมื่อใกล้จะเสียชีวิตก็จะพบว่าความฝันของตนเองนั้นจะไม่มีวันบรรลุและส่วนใหญ่ก็มักจะมานั่งนึกเสียใจ เพราะสาเหตุที่ไม่สามารถทำตามความฝันได้นั้นเป็นเพราะตัวเองเลือกที่จะไม่ทำเองตัวเองเลือกที่จะทำตามสิ่งที่ผู้อื่นขีดเส้นทางให้เดินถือเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับทุกๆ ท่านนะครับ ที่ในช่วงชีวิตหนึ่ง ถ้ามีโอกาสและเลือกได้ก็ควรจะเดินตามความฝันของตัวท่านเอง เพราะคนเราหนีไม่พ้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย และเมื่อวันนั้นมาถึง เราก็คงจะไม่มีแรงที่จะเดินตามความฝันที่เราต้องการแล้ว การมีสุขภาพที่ดีจะช่วยทำให้ท่านเดินตามความฝันได้ แต่เมื่อใดก็ตาม ที่สุขภาพท่านเริ่มแย่แล้ว อิสระในการเดินตามฝันก็ท่านก็จะลดน้อยลง *ประเด็นที่สอง* คือ ผู้ป่วยใกล้เสียชีวิตเหล่านั้นคิดเสียใจว่าในอดีตจะไม่ได้ทำงานหนักเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้ มักจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยชายเกือบทุกคนเลยครับคุณผู้ชายเหล่านี้มักจะเสียใจว่าในอดีตที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้มีเวลาในการดูแลลูกๆ ของตนเท่าที่ควร รวมทั้งไม่ได้อยู่เป็นคู่ทุกข์คู่ยากภรรยาเท่าที่ควรผู้ป่วยที่เป็นชายเกือบทุกคนจะรู้สึกเสียดายว่าในอดีตใช้ และให้เวลากับงานมากเกินไป ข้อสังเกตนี้ก็น่าคิดนะครับ ว่าในปัจจุบันเราให้ความสำคัญกับการทำงานมากเกินไปหรือไม่เราต้องการแสวงหารายได้ ชื่อเสียง เกียรติยศมากเกินไปหรือไม่สุดท้ายเมื่อเราใกล้ตายเราจะสำนึกเสียใจว่าเราได้พลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตที่ไม่มีวันหวนกลับมาหรือไม่ การมีรายได้ที่พอเพียงอาจจะเป็นทางออกสำหรับทุกท่านนะครับอีกทั้งการมีที่ว่างในตารางเวลาและชีวิต ที่ไม่ใช่เรื่องของการทำงานเพียงอย่างเดียว จะทำให้เรามีความสุขขึ้น และเมื่อเราใกล้เสียชีวิต จะไม่มานั่งย้อนนึกเสียใจในสิ่งที่เราพลาดไป *ประเด็นที่สาม* คือ ผู้ป่วยอยากจะกล้าที่จะแสดงอารมณ์และความรู้สึกที่แท้จริงของตน เนื่องจากคนจำนวนมากจะปิดกั้นอารมณ์และความรู้สึกที่แท้จริงของตน เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสงบและสันติ ทำให้สุดท้ายแต่ละคนรู้สึกว่าอารมณ์ของตนเองถูกเก็บกด และไม่สามารถเป็นตัวตนที่แท้จริง *ประเด็นที่สี่* คือ ผู้ป่วยที่ใกล้เสียชีวิตนั้นมักจะเสียใจที่ไม่ได้ติดต่อเพื่อนฝูงเก่าๆ เนื่องจากเรามักจะไม่ค่อยเห็นถึงคุณค่าของเพื่อนเก่าๆ จนกระทั่งใกล้เสียชีวิต คนจำนวนมากจะมัวแต่ยุ่งและวุ่นวายกับชีวิตประจำวัน จนละเลยต่อความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนฝูง ทำให้เรามักจะไม่ค่อยให้ความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงต่างๆ จนกระทั่งใกล้จะเสียชีวิต ก็จะเริ่มนึกถึงเพื่อนฝูงขึ้นมา ดูเหมือนว่าเมื่อคนใกล้จะเสียชีวิต เกียรติยศ เงินทอง หรือสถานะทางสังคมต่างๆ กลับดูไปจะด้อยหรือไร้ความหมายนะครับ สุดท้ายดูเหมือนว่า  เรื่องของความรักความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลจะกลายเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยที่กำลังใกล้ตายนึกถึง *ประเด็นสุดท้าย* ซึ่งค่อนข้างน่าแปลกใจ คือผู้ป่วยเหล่านี้กลับสำนึกเสียใจว่าไม่ได้ทำให้ชีวิตที่ผ่านมาของตนเองมีความสุขเท่าที่ควร ผู้ป่วยหลายคนจะไม่เคยนึกถึงมาก่อนนะครับว่าตนเองสามารถที่จะเลือกที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขได้ คนจำนวนมากเลือกที่จะอยู่และปฏิบัติในสิ่งที่คุ้นเคย ความกลัวต่อการเปลี่ยนแปลง ทำให้คนเรามักจะหลอกตนเองว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นมีความสุข ซึ่งจริงๆ แล้วกลับไม่ใช้ ท่านผู้อ่านจะเห็นได้นะครับว่าเมื่อคนเราใกล้จะตายนั้น เรามักจะนึกย้อนกลับไปถึงอดีต และเริ่มสำนึกเสียใจในสิ่งที่ได้ทำหรือไม่ได้ทำมาในอดีต และเราจะพบว่าเมื่อเราใกล้ตายแล้ว เงินทอง ชื่อเสียง สถานะ  เกียรติยศต่างๆ กลับไม่มีความหมาย สิ่งที่มีความหมายเมื่อใกล้ตาย คือ เรื่องของความรักและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งหลายครั้งกลับกลายเป็นสิ่งที่เราละเลยหรือไม่สนใจในขณะที่เรามีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ เมื่อใกล้ตายคนเราจะพบว่าชีวิตในอดีตที่ผ่านมานั้นเรามีสิทธิที่จะเลือกแต่เราดันเลือกในสิ่งที่ไม่ได้ทำให้เรามีความสุข หรือเลือกในสิ่งที่ทำให้เราต้องมาย้อนสำนึกเสียใจ เมื่อเราใกล้ตาย ดังนั้น ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่และยังแข็งแรง เราจะต้องเลือกอย่างมีสติ  เลือกอย่างฉลาด เลือกในสิ่งที่ถูก และเลือกในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขนะครับ ********************** เป็นกำลังใจให้ จขกท นะคะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 53 17:08:30 จากคุณ : น้องเหมียวสีสวาด เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 17:04:52

ความคิดเห็นที่ 30 ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่ มันจะไปจบที่ตรงไหน แต่จะยังไงก็ต้องไปให้ถึง ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำว่าครั้งนึงเคยก้าวไป แค่คนที่เชื่อในความฝัน จะเหน็ดจะเหนื่อยก็ยังต้องเดินต่อไป จากคุณ : เทเลทับขี้ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 17:05:25

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าค้นพบว่าตัวเองชอบอะไรก็เรียนเถอะค่ะ เรียนจบมาแล้วจะได้ทำงานในสิ่งที่เรียนมาหรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง อย่างน้อย ครั้งหนึ่งในชีวิต เราก็ได้เข้าไปสัมผัสกับสิ่งที่เรารักและใฝ่ฝัน ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ยังดีกว่าเราไม่ได้แตะมันเลย ได้แต่เฝ้ามอง ถ้าเรียนจบมาแล้วยังได้ทำงานในสิ่งที่รักด้วย คิดดูสิค่ะว่ามันจะวิเศษแค่ไหน ถ้าเราไม่เรียนเลยสิ เราอาจจะต้องมานั่งคาใจไปทั้งชีวิต สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^ จากคุณ : NongBua เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 17:18:59

ความคิดเห็นที่ 32 "การใช้ชีวิตบนโลกใบนี้เป็นเรื่องยาก แต่อย่างน้อย เราก็ได้เดินทางรอบดวงอาทิตย์ฟรี ๆ เป็นของแถม" จากคุณ : oops_lunla เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 17:38:05

ความคิดเห็นที่ 33 คนเราได้ค้นพบตัวเอง ไม่ว่าอายุเท่าไรก้อไม่สายเกินไปหรอกค่ะ   เราซะอีกจนป่านนี้ยังไม่รู้ว่าใจจริง ๆ อยากทำอะไรกันแน่ เห็นมั้ยคะ คุณ สาวโรงงานในซูริค โชคดีกว่าเรามาก   ถ้าเรารู้ว่าเราชอบอะไร  เราไม่มีทางแพ้คนอื่นแน่นอน อย่าไปกลัวค่ะ สู้ ๆ จากคุณ : soonja เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 17:38:15

ความคิดเห็นที่ 34 ดีซะอีก อย่างน้อยก็ได้ทำในสิ่งที่ชอบ เราซะอีก ยังไม่รู้เลย ว่าอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร ยินดีด้วยนะค่ะ จากคุณ : bubbubz25 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 18:00:10

ความคิดเห็นที่ 35 คห 32  แบบว่าโดน!!! จากคุณ : ดีแอน เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 18:14:51

ความคิดเห็นที่ 36 มาเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ เราคิดว่าความรู้สึกของการได้อยู่กับสิ่งที่ใช่ตัวตนของเรา ความสุขมันไม่อาจเทียบได้เป็นเงินทองค่ะ การที่จะได้ไปเรียนในสิ่งที่ชอบ ก็นับว่าเป็นการเปิดประตูโอกาสแล้วหละค่ะ ถ้าเรามีความปรารถนาอย่างแท้จริงว่าจะทำงานนั้น ใจเราจะนำเราไปสู่งานนั้นเองค่ะ จากคุณ : IndefiniteLearner เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 19:42:46

ความคิดเห็นที่ 37 Mark Twain มาให้กำลังใจค่ะ... Twenty years from now you will be more disappointed by the things that you didn't do than by the ones you did do. So throw off the bowlines. Sail away from the safe harbor. Catch the trade winds in your sails. Explore. Dream. Discover. Mark Twain (1835-1910) จากคุณ : @TarakoTappuri@ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 20:16:34

ความคิดเห็นที่ 38 ได้ทำสิ่งที่เราอยากทำคือสิ่งที่ดีที่สุดคะ ^ ^ เป็นกำลังใจให้ค่ะ เพราะเราตอนนี้ก็เรียนเพื่อเปลี่ยนสายงาน ตอนอายุสามสิบเช่นกัน จากคุณ : grapepink เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 20:18:24

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้ารู้ตัวว่าชอบอะไร อยากลองอะไร ก็ลองเหอะค่ะ ถ้าเรื่องเงินมันไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไร ก็ลองทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามันจะใช่ดีกว่า เผื่อ backup plan ไว้ด้วยก็ดีค่ะ มันจะมีเวลาแค่บางช่วงเท่านั้น ที่เราจะทำสิ่งที่เราคิดได้ ถ้ามีตัวแปรอื่นๆ เช่นแฟน สามี ลูก ด้วยแล้ว มันจะลดอิสระในชีวิตลงพอควรเลยค่ะ การที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร เป็นเรื่องที่ดีนะคะ เราคนนึงละที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ทุกวันนี้ก็ทำในสิ่งที่ทำไปได้ ทำมันไปเรื่อยๆ เพราะไม่อยากมีปัญหาเรื่องเงิน เราเคยลองแล้วค่ะ ลองทำอะไรที่ชอบค่ะ ... แค่คิดว่าชอบ แต่ไม่ได้คิดไกล ผลสุดท้ายก็กลับมาตายรังกับงานเดิมๆของเรา แต่อย่างน้อยเราก็มีความสุขที่ได้ลองค่ะ จากคุณ : caramelfrappe เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 20:22:07

ความคิดเห็นที่ 40 เราจะสามสิบอยู่แล้ว กำลังจะไปสอบป.ตรีใหม่ในสายที่อยากเรียน โดยเอาวุฒิเทียบได้แค่ปีเดียว รู้ว่ามันเรียนยาก แถมเคมี ชีวะ ฟิสิกส์ เราก็เก็บเข้ากรุหมดแล้ว คิดว่าสอบไม่ผ่านหรอก เพราะคงสู้เด็ก ๆ ที่เขาเพิ่งเรียนกันมาไม่ได้ แต่ถ้าติดก็คิดมากเหมือนกันว่าต้องทิ้งเวลาห้าปีไปเรียนต่อ แล้วถ้าเรียนไม่จบล่ะ ทำไง คิดหลาย ๆ อย่าง แต่ก็อยากลองดู ถ้าไม่ได้ จะได้บอกตัวเองว่าพยายามแล้ว จากคุณ : นางสาวจันทร์เจ้ากับนายเท้าปุย เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 20:46:42

ความคิดเห็นที่ 41 เชื่อไม๊คะ  ว่าวันที่ฉันไปเรียนมหาวิทยาลัยวันแรก มีลุงท่านหนึ่ง แต่งตัวดี เข้ามานั่งเรียนด้วย คือมันเด่นมากเพราะนั่งท่ามกลางหมู่นักศึกษา และลุงตั้งใจเรียนมาก เห็นลุงจดตลอด และตั้งใจฟังอาจารย์สอนมากกว่าพวกนักศึกษาซะอีก เราประทับใจลุงท่านนั้นมาก ขอให้จขกท ได้เรียน และได้ทำงานในสิ่งที่รักนะคะ ตัวเราเองก็ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเก่า เพื่อมาเรียนในสิ่งที่รักเหมือนกัน ถึงจะช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันไปสามปี แต่สามปีที่เสียไป ทำให้อีกสิบๆปีข้างหน้าของเรามีความสุขเพราะเราได้เรียนในสิ่งที่รัก   เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : lady gale gale เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 21:37:30

ความคิดเห็นที่ 42 ทำในสิ่งที่รัก...แล้วเราจะรักในสิ่งที่ทำ :'))))))))) จากคุณ : Merci infiniment เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 23:25:07

ความคิดเห็นที่ 43 โลกนี้มีสิ่งที่เราควรจะทำอยู่2อย่าง      1.สิ่งที่เราต้องทำ      2.ส่งที่เราอยากทำ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่คุณจะไม่ทำค่ะ คุณอาจจะคิดว่ามันช้า แล้วถ้าได้งานนั้นตอนอายุ35ล่ะ 40ล่ะ แต่พอถึงวันนั้นคุณจะมีความสุขกับมัน แต่ถ้าคุณปล่อยผ่านไปวันที่คุณอายุ35หรือ40คุณจะมานั่งเสียดายมันแน่นอน จากคุณ : ไม่เห็นจะยากเลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 23:46:02

ความคิดเห็นที่ 44 มีคนรู้จักคนนึงมัวแต่คิด สุดท้ายก็ไม่ได้เรียน แล้วเวลาก็ผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากคุณ : weirdbird เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 00:16:05

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่มีใครแก่เกินเรียนค่ะ ^^ จากคุณ : ที่รักของพระอาทิตย์ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 00:27:23

ความคิดเห็นที่ 46 ถูกต้อง ไม่มีใครแก่เกินเรียน เกิดมาครั้งเดียวเท่านั้น ได้ทำสิ่งที่ชอบ มีความสุขที่สุดแล้วค่ะ จากคุณ : ฉันชอบของที่มีตำหนิ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 01:21:20

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นด้วยค่ะ ไม่มีใครแก่เกินเรียน แฟนเราเพิ่งจบปริญญาตรีตอนอายุ 46 ซึ่งปัจจุบันก็ได้ทำงานที่ตัวเองรัก เราเองจบบัญชี แต่ทำงานการตลาดและภาษา ซึ่งตอนนี้เราทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง ย้ายมาอยู่กับแฟนที่ต่างประเทศ มาเริ่มเรียนภาษาใหม่อีก งานการก็ยังไม่ได้ทำ .. ตั้งใจว่าอยากเรียนเสริมสวยแต่งหน้า ตามที่ตัวเองชอบ อายุสามสิบเหมือนกันค่ะ ชีวิต.. จะมีซักกี่คนที่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก เมื่อโอกาสมาถึงก็คว้าไว้นะคะ สู้ๆ ค่ะ เราเป็นกำลังใจให้ จากคุณ : mojikojung เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 02:41:24

ความคิดเห็นที่ 48 ยินดีด้วยนะคะ ที่ได้ทำในสิ่งที่รัก ตัวเราเองตอนนี้เราคิดว่าติดปัญหาหลายอย่างทำให้ไม่กล้าก้าวออกจากสิ่งที่ทำอยู่ แต่เราจะพยายามเพื่อสักวันนึงเราจะได้ชีวิตของเราคืนมา จากคุณ : ทานตะวันสีฟ้า เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 09:20:43

ความคิดเห็นที่ 49 ค้นพบตัวเองแล้วได้ทำตามความฝัน เราว่าเป็นเรื่องที่มีความสุขมากเลยนะคะ ส่วนเราค้นพบตัวเองตั้งแต่เด็กแล้วว่าอยากเรียนอะไร แต่ที่บ้านไม่ให้เรียน ไม่ให้ทำเป็นอาชีพ เราก็เลยงงๆ กับชีวิต  เรียนอะไรก็ไม่รู้ไปเรื่อยเปื่อย เรียนจบมาได้ใช้วิชาที่เรียนไม่ถึงปี ก็ไม่ได้ใช้ที่เรียนมาแล้ว ตอนนี้ก็มาทำงานในสายที่ไม่เคยได้เรียนเลย แต่ก็ดีคะ สนุกดี ได้ลองอะไรใหม่ๆ จากคุณ : แมวฟ้า (piak_love) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 11:14:46

ความคิดเห็นที่ 50 ลุยโลดดดดดดดดดดดดดดดดเลยค่า คนพบตัวเอง และมีโอกาสที่จะได้ทำ หาไม่ได้ง่ายนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : always_student เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 14:56:25

ความคิดเห็นที่ 51 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 53 17:39:47 จากคุณ : สาวโรงงานในซูริค เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 17:37:14

ความคิดเห็นที่ 52  ขอบคุณมากมายจริงๆสำหรับแรงกระตุ้น ความคิดเห็นดีดี และกำลังใจค่ะ เมื่อวานไปทำงาน ลั่นล้า มาก โฮะโฮะ วันนี้ จ่ายเงินมัดจำค่าเรียนแล้ว แต่ค่าตั๋ว เมื่ออาทิตย์ก่อนยังถูกอยู่เลย นี่รอๆไปมา ขึ้นราคามาแล้วตั้งเกือบร้อยฟรังค์ เดี๋ยวรอดูพรุ่งนี้ถ้าราคาเก่าไม่โชว์เราจะรีบซื้อตั๋วเลย กลัวราคาจะไปมากกว่านี้ โห่ ฮิ้ว ดีใจ มั่นใจ และร่าเริงสุดๆ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : สาวโรงงานในซูริค เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 17:37:28

ความคิดเห็นที่ 53 คุณรู้ไหม ว่ามีคนอีกเท่าไรที่ค้นไม่พบในสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเอง คุณเป็นคนที่โชคดีมากนะครับ ที่สามารถพบสิ่งที่ตัวเองชอบและกล้าที่จะตัดสินใจทำ แล้วเวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตคุณจะมีแต่ความสุข เพราะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ขอให้โชคดีกับการตัดสินใจครั้งนี้ครับ จากคุณ : pokemon-x เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 10:41:05

ความคิดเห็นที่ 54 ถ้าเป็นเส้นทางที่ได้เลือกด้วยตัวเอง แน่นอนว่าถ้าได้ทำก็ต้องมีความสุขแน่ๆค่ะ ทุกคนมีสิทธิ์เลือกชีวิตตัวเอง มีสิทธิที่จะทำ และเรียนรู้ประสบการณ์ ทั้งความเจ็บปวด และความรู้สึกดีใจที่ได้รับจากการที่ได้ลงมือทำ เคยอ่านเจอมาว่า คนที่ทำงานที่ยากจนคนอื่นไม่คิดว่าจะทำสำเร็จ แต่เขาทำสำเร็จ เพราะเขาไม่รู้ว่ามันไม่มีทางสำเร็จ ยังไงก็ต้องมั่นใจว่าจะต้องทำสำเร็จ หรือออกมาดีแน่ๆเข้าไว้นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ให้เต็มที่!!! จากคุณ : Un claire de la lune เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 21:26:23

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาให้กำลังใจนะคะ ดีใจด้วยที่ค้นพบในสิ่งที่คุณอยากทำ ถ้ามีโอกาสแล้วทำเลยดีกว่าค่ะ จะได้ไม่มาเสียดายทีหลัง อย่างน้อยการเรียนจบcourseที่คุณตั้งใจไว้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปหนึ่งขั้นแล้วค่ะ เรื่องจบมาแล้วได้งานตรงสายหรือไม่ เป็นเรื่องในอนาคตที่ต้องมาลุ้นกันต่อไปค่ะ เรื่องอายุไม่เป็นปัญหาหรอกค่ะ สู้ๆนะคะ จากคุณ : Voici_Grace เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 23:28:07

ความคิดเห็นที่ 56 ทำเลย เราก็กำลังเรียนภาษาที่ 3 เพิ่ม กะว่าจะเปลี่ยนงานถ้าเรียนสำเร็จอ่ะนะ ถ้ายังไม่สำเร็จก็ใช้เป็นตัวเสริมกับงานที่ทำอยู่ได้น่ะ จากคุณ : taekwondo (taekwondo) เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 23:53:49

ความคิดเห็นที่ 57 อายุเป็นเพียงตัวเลขคะ  ชอบอะไรแล้วก็ลุยเลย  ชีวิตคนเราอีกยาว  โอกาสยังมีอีกมาก  ชอบจริงๆยังไงก็ต้องมีหนทางคะ ดีกว่าทำอย่างเก่าต่อไปอีก 50-60  ปีนะคะ จากคุณ : Madam Rockin เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 00:51:52