ความคิดเห็นที่ 1 ยาทาเล็บด้วยนะคะ..ตัวดีเลย.. รวมถึงการเป็นหมันด้วยนะ..มีงานวืจัยหลายชิ้นแล้ว จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:51:27

ความคิดเห็นที่ 2 จะโกรธไหมครับถ้า แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 17:38:06 จากคุณ : Deadlysins เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:54:32

ความคิดเห็นที่ 3 เราก็พอรู้นะค่ะ แต่ก็ไม่รู้ทำไงอ่าา บางอย่างมันหลีกเลี่ยงไม่ได้อ่าค่ะ จากคุณ : องุ่นน้ำมันหอย เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:57:19

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ นะคะ เรื่องใกล้ตัวทั้งนั้นเลยง่ะ...แถมยังเป็นของที่ต้องใช้ทุกวันด้วย เฮ้อ~~~~~~~~~~~ จากคุณ : Debutante เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:58:09

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทั้ง 2 ท่านค่ะ จากคุณ : คนสวยเมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 10:18:40

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณทั้ง จขกท และ คห2 ครับ ของ คุน Deadlysins มันไม่มีซับอ่ะ ฟังไม่ทัน - -" แต่เหมือนจะออกมาให้เหตุผลทับนะ จากคุณ : Guiman เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 10:23:23

ความคิดเห็นที่ 7 ยาทาเล็บด้วยหรอ..... แงๆ ล้างออกตอนนี้จะทันไหมเนี่ย >< จากคุณ : โลกหมุนได้ไม่ใช่เพราะคนๆเดียว เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 10:44:08

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณจขกท.มากค่ะ จากคุณ : มีแต่พัดลม เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 11:04:23

ความคิดเห็นที่ 9 จ๊ากกก น่ากลัวจัง จากคุณ : มะหุ่ย เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 11:10:45

ความคิดเห็นที่ 10 เหตุผลฟังขึ้นทั้งสองคลิปนะคะ แต่เราก็รู้สึกเหมือนกับคลิปที่สองตรงที่ Anne เค้าอออกจะทำให้คนดูคนฟังตระหนกตกใจซะจนเกินเหตุ เพราะในความเป็นจริงแล้วหน่วยงานที่ตรวจสอบอย่าง FDA ก็ต้องมีการวิจัย ตรวจสอบจนมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นปลอดภัยจึงปล่อยให้ออกมาวางขายตามท้องตลาดได้ ส่วนป้า Anne ลึกแล้วต้องการอะไรกันแน่? นั่นแหละที่น่าคิด หุหุ -- แก้ไขคำสะกดผิด แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 12:10:35 จากคุณ : oHLa เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 12:06:42

ความคิดเห็นที่ 11 ฟังหูไว้หู...ถ้ามันอันตรายมากมายขนาดนั้น คงไม่มีการอนุญาตให้มาจำหน่ายในท้องตลาดกลาดเกลื่อน แต่ก็อาจจริงที่สารบางอย่างที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ ผู้ใช้ยากที่จะรู้จัก ถ้ากลัวขนาดต้องพิจารณาทุกตัว ก็คงต้องหันกลับมาพึ่งพาธรรมชาติเหมือนคนสมัยโบราณกันไปเลย ส่วนตัวแล้วคิดว่า การสะสมของสารจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย โดยขบวนการขับถ่ายของร่างกายก็คงสามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นออกมาได้ในระดับหนึ่ง และคงไม่เท่ากับการที่เราทานอะไรเข้าไปโดยตรง โดยที่ไม่พิจารณาสิ่งที่เราทานเลย ตรงนี้น่าจะมีผลต่อการสะสมและเกิดมะเร็งมากกว่า เพราะฉะนั้นเราควรดูแลตนเองด้านการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการดื่มน้ำให้เกิดการชะล้างสารแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย น่าจะช่วยได้ อย่างที่ผู้รู้มาบอกกันมากมายว่า การดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว มันไม่ใช่แค่ทำให้ผิวสวยหรือสุขภาพผิวดีขึ้นเท่านั้น แต่มันยังจะช่วยชำระล้างสารแปลกปลอมเหล่านี้ โดยมีตับและไตเป็นอวัยวะสำคัญในการกำจัดสารพิษได้ เราว่ากลไกของร่างกายของคนเราเนี่ยะสำมะคัน ที่ควรจะให้การเอาใจใส่ เพราะมันยากที่จะหลีกเลี่ยงหรือไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้นะคะ จากคุณ : Jina73 เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 12:18:40

ความคิดเห็นที่ 12 คลิป คคห 2 เหมือนออกมาชี้แจ้ง กับสิ่งที่แอนนี่พูดใน คลิปแรก ในเชิงว่าเกินจริง และไม่มีหลักฐานรองรับ อะไรทำนองนี้ คือต้องใช้วิจารณญาณในการใช้ค่ะ เพราะ อะไรๆ เดี๋ยวนี้มันก็สารเคมี มากไปก็ไม่ดี ส่วนแอนนี่ แอบคิดเหมือนคุณ คคห 10 เอิ๊กๆๆๆ จากคุณ : ไม้ยมก&แหนมมัด เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 12:37:22

ความคิดเห็นที่ 13 งง ฟังไม่ทัน --* จากคุณ : Mu_jumP เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 12:40:02

ความคิดเห็นที่ 14 ถือว่าเป็น listening practice สมัยเด็กละกัน55+ จากคุณ : Deadlysins เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 12:43:16

ความคิดเห็นที่ 15 ใครใจดีแปลให้หน่อยได้ไหมคะ จากคุณ : MY PIDPEE เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 12:49:23

ความคิดเห็นที่ 16 ป้าแปลไม่ออก...ป้าเลยไม่กลัว  แหะๆ จากคุณ : พี่ปูนิ่ม เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 12:58:10

ความคิดเห็นที่ 17 โลกไม่ได้น่าอยู่นักหรอกค่ะ....รีบๆตายไปก็ดีเหมือนกัน 5555 จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 13:06:59

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ยากครับทำตามนี้เลย 1.เปิดลิงค์ จากคุณ : Deadlysins เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 13:10:58

ความคิดเห็นที่ 19 2.เลือก  translate caption แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 13:13:54 จากคุณ : Deadlysins เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 13:12:20

ความคิดเห็นที่ 20 3.เลือก Thai กด OK จากคุณ : Deadlysins เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 13:14:49

ความคิดเห็นที่ 21 cและสุดท้ายก็สะได้ ซับที่ค่อนข้างเห่ย จากคุณ : Deadlysins เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 13:16:19

ความคิดเห็นที่ 22 เี่ีราว่าป้า Anne  เนี่ย  แปลกๆ   เห็นทำวีดีโอออกมาแนวๆนี้  หลายตัวแล้ว   คราวที่แล้วก็มีที่รณรงค์ต่อต้านน้ำแร่ขวด   ว่าความจริงมันก็คือ น้ำก๊อกแหละ แต่มาเคลมว่าใส่ีนั่น นู้น นี่  มีแต่คนไม่รู้แหละที่ซื้อ  ขวดตั้งแพง   แล้วป้าก็ทับว่า  รู้ไหมว่า  ไอ้ขวดพวกนี้สุดท้ายก็เอาไปทิ้งที่สลัมในอินเดีย กลายเป็นขยะเผาไม่ได้ที่ประเทศอื่น   ตอนแรกโห เชื่อมาก  คุยกับแฟน แฟนบอกว่า แล้วเค้าจะลงทุนเสียค่าใช้จ่ายกับการเอาขยะไปทิ้งในประเทศ ที่เดินทางจากอเมริกาไปอินเดียตั้งเกือบ 10 ชม.เหรอ  รวยไปหรือเปล่า เราฟังเสร็จ  ก็  อืม  จริงๆแฮะ  เหมือนวีดีโอทุกตัว  ป้าจะแนะๆว่า รัฐบาลอเมริกาเนี่ยแหละตัวดี  เบื้องหลังความเลวหลายๆอย่าง ส่วนเรื่องวีดีโอคสอ.ตัวนี้  เราเฉยๆ   เพราะเีราเรียนพวกวิทยามา  บางคำพูดของป้า ก็ถูกแต่เรากลับคิดในแง่ว่า  ให้ใช้ตั้งแต่เด็กๆเนี่ยแหละ  ภูมิต้านทานจะได้เยอะๆ เวลาเราตาย  ศพเราคงอยู่ได้อีกนาน  เพราะสารกันบูดคงเต็มตัวเลย    คนจะได้มา ขอหวย   ทำให้ศพเราดูมีราคาดี  เพื่อหาตังค์ให้คนที่อยู่ต่อได้ด้วย ปล. เพราะไม่รู้ว่า ถ้าไม่ใช้ของพวกนี้ แล้วจะไปใช้อะไรน่ะแหละ   แต่ก็ฉลาดเลือก ก่อนที่จะซื้อก็พอ  ศึกษาส่วนประกอบไว้เยอะๆ จากคุณ : sherryone เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 13:24:20

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่แปลกใจละว่าทำไมคนสมัยนี้ถึงเป็นมะเร็งกันเยอะขึ้น ขอบคุณสำหรับการแนะนำข้อมูลดีๆที่มาเป็นคลิปน่ารักๆค่ะ  ดูแล้วตาสว่างขึ้นเยอะเลย ปล. แพนทีน...ใช้อยู่เลย  งานเข้าแล้วมั้ยล่ะ - -" จากคุณ : Milkmoon เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 14:35:40

ความคิดเห็นที่ 24 คราวนี้ป้าแอนนีไ่ด้เงินสนับสนุนและข้อมูลจากพวกขวาจัด ทุกอย่างต้องธรรมชาติล้วน ๆ ครับ (Environmental Working Group)  กลุ่มนี้เขาสร้างความวิตกเกี่ยวกับเรื่องสารก่อมะเร็งมานานแล้ว แต่หลักฐานอ่อนมาก แล้วส่วนใหญ่เอาเรื่องนู้นนี้มายำมั่วครับ ผมเชื่อว่าลึก ๆ คนที่ให้การสนับสนุนกลุ่มพวกนี้ก็คือบริาษัทที่ขายผลิตภัณฑ์ Natural ทั้งหลายที่ต้องการเพิ่มยอดขายด้วยการสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้บริโภคนั่นเอง ล่าสุดคนกลุ่มนี้ออกมาบอกว่า สารกันแดดแบบ Chemical ทุกชนิดนั่นก่อมะเร็ง และวิตามินเอในครีมกันแดดก่อมะเร็งได้  ซึ่งไร้สาระมาก เพราะในความเป็นจริงยังไม่มีหลักฐานที่เอามายืนยันได้คนจะเป็นมะเร็งเพราะทาครีมกันแดดทุกวัน  มีแต่จะเป็นมะเร็งตายเพราะไม่ได้ทาครีมกันแดดมากกว่า... ไร้สาระครับ... จากคุณ : PuPe_so_Sweet เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 14:48:46

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้ามันอันตรายขนาดนั้นจะคิดขึุ้นมาขายกันทำไมน้อ ทุกสิ่งในโลกมีทั้งดี และไม่ดี เราต้องเลือกเอา การมาบอกแบบนี้มันเหมือนแอบแฝงจุดประสงค์บางสิ่ง จากคุณ : แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:02:05

ความคิดเห็นที่ 26 ยืนยันตามคุณ  PuPe_so_Sweet ค่ะ มีอีกหลายอย่างที่ทำเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจนะคะ และยืนยันว่า เรื่องอาหารการกินน่ากลัวกว่า อย่างพวกแม่ค้าที่ทอดอาหารขาย เอาถุงพลาสติคจี่บนกะทะเพื่อให้น้ำมันไหล -*- พวกนี้ตัวก่อมะเร็งของแท้ค่ะ ไนไตรในแหนม และอื่นๆอีกมากมาย จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:38:18

ความคิดเห็นที่ 27 ฟังไว้  แล้วพิจารณาว่าอันไหนจริงเท็จ  โดยดูจากงานวิจัย ป้าแกนี่สงสัยคงต้องเลี้ยงสัตว์ ปลูกผักกินเองบนที่ดินที่ปราศจากสารพิษ  เมล็ดผักก็ต้องไม่ตัดแต่ง  น้ำฝนก็ต้องเลือกแหล่งกักเก็บที่ไม่ใช่เขตเมือง/เขตอุตสาหกรรม น้ำประปาก็ห้ามดื่มเพราะมีคลอรีน  เสื้อผ้าก็คงต้องนุ่งใบตอง  ไม่ก็ทอผ้าจากไหมที่เลี้ยงเอง  ปลูกบ้านไม้ห้ามทาสีเคลือบไม้   ของทุกอย่างที่เรารับเข้าสู่ร่างกาย  สามารถขับออกได้  โดยที่เค้าก็มีมาตรฐานไว้ว่าร่างกายรับได้เท่าไหร่ต่อวัน จากคุณ : pim_c เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 16:00:42

ความคิดเห็นที่ 28 จขกท เองนะคะ ขอบคุณคุณ deadlysins มากๆนะคะที่เอาข้อมูลมาแชร์เพิ่มกัน ยิ่งข้อมูลเยอะยิ่งดีอะคะ โดยส่วนตัว จขกท แล้วทาครีมหลายตัวมากๆอะคะก่อนจะออกจากบ้านหรือว่าก่อนจะเข้านอนได้ พอมาเจอคลิปนี้เข้าไป มานั่งนึกลดๆมั่งดีกว่ามั้ยเนียะ เผื่อ toxin in มันจะได้น้อยลงไปหน่อย ปล ในฐานะของคนทำงานวิจัยเช่นกันนะคะ อยากบอกว่า บางทีสิ่งที่ได้วิจัยออกมาว่าดี หรือว่าไม่มีอันตรายในตอนนี้ ผลการวิจัยมันอาจจะเปลี่ยนได้นะคะ ถ้าในอนาคตเรามีตัวชี้วัดหรือว่า มีวิธีการตรวจสอบค่า toxic ในแบบใหม่ๆ เอาเป็นว่า ถ้าระวังได้ก็ระวังแล้วกันคะ แต่ไม่ต้องนอยด์มากจนไม่กล้าทาครีมนะคะ :) จากคุณ : มุกไหมมายด์ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 16:04:59

ความคิดเห็นที่ 29 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 17:23:19 จากคุณ : มุกไหมมายด์ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 16:06:26

ความคิดเห็นที่ 30 โลกมาไกลเกินกลัวจะกลับไปสู่จุดสมดุล จากคุณ : ไม่มีใคร เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 16:45:25

ความคิดเห็นที่ 31 Thanks for sharing both of K.มุกไหมมายด์ & K.Deadlysins ka :) จากคุณ : yr_naughty_annie เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 17:14:18

ความคิดเห็นที่ 32 ดูเหมือนโจมตีกันมากไป อาจจะมีส่วนจริงบ้าง แต่ในคลิปดูตื่นตระหนกเกินเหตุไปนะ จากคุณ : Bluedonut เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 17:26:52

ความคิดเห็นที่ 33 หรือนี่จะเป็น conspiracy theory ของป้าแอนน์ กับพวกขวาจัด แต่ animation แกน่ารักดีนะ :)  จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:31:19

ความคิดเห็นที่ 34 ข้อมูลในนั้นก็จริงบ้างไม่จริงบ้างแหละค่ะ ต้องเลือกดู แต่แอบสงสัย... ถ้าป้าแกระแวงขนาดนั้น ทุกวันนี้ป้าเค้าอาบน้ำเปล่ากับบ้วนปากเฉยๆปะอ่ะ? ดูจากในคลิปแล้วป้ายังแต่งหน้าอยู่เลยนะ =w= จากคุณ : fern-eva เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:31:24

ความคิดเห็นที่ 35 นอกจากจะได้ความรู้เพิ่มแล้ว เรารู้สึกว่า เข้ามาอ่านแล้วดีใจ ที่เห็นการactiveไม่ใช่passive คือฟังหูไว้หู จากคุณ : อมราวดี เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:42:37

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นคลิปนี้มานานแล้วเหมือนกัน ตอนแรกเราฟังก็รู้สึก ดีจัง ทำให้เรามองอีกด้าน แต่ดูไปดูมา มันเหมือนเขาทำขึ้นเป็น propaganda ให้หน่วยงานอะไรสักอย่างแน่เลย เพราะเสียดสีรัฐบาลหลายครั้งอยู่นะ ฮ่าๆๆๆ (ความคิดเห็นส่วนตัว) แต่ก็ดีค่ะที่เขาเตือนให้เราระวัง อะไรที่มากเกินไปก็ย่อมไม่ดี จากคุณ : sharpychinny เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 19:39:51

ความคิดเห็นที่ 37 เราว่าดีมากๆ เลยนะคะสำหรับวีดีโอทั้ง 2 ชุดนี้....เห็นด้วยที่ว่าเรื่องผลิตภัณคิดว่าฟังหูไว้หูอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป...ค่อยๆ หาข้อมูลในแต่ละอย่างไปทีละหน่อย ไม่จำเป็นต้องเลิกใช้ไปเลย...จากที่เราเคยได้ข้อมูลมาบ้างพวกน้ำยายืดผมนี่สารเคมีแรงและเยอะมากๆ สะสมในร่างกายจำนวนมากกับการใช้แค่ครั้งเดียว หนึ่งอย่างที่ไม่ควรใช้เลยนะคะ...ส่วนอย่างอื่นก็ปกติทั่วไป บางอย่างพอจะเลือกได้ก็เน้นพวกใกล้เคียงธรรมชาติเอาไว้ให้มากที่สุดก็พอแล้วค่ะ... โดยส่วนตัวไปเน้นเรื่องอาหารการกินมากกว่านะคะ เพราะมันเข้าสู่ร่างกายโดยตรง... อยากให้ทุกคนมามองเรื่องจุดประสงค์ของป้าแอนกันดีกว่าว่าทำไมป้าแอนแกถึงมาพูดแบบนี้...(เหมือนบางความเห็นที่อาจจะมองจุดประสงค์ของป้าแอนไปในทางอื่น) ส่วนเราคิดว่าเรื่ององค์กรณ์ส่งเสริมและป้องกันสิ่งแวดล้อมพวกนี้ดีมากๆ เลยนะคะ...ถ้าไม่มีพวกเค้า คงไม่มีใครมาใส่ใจดูแลรักษาโลกร้อนๆ ใบนี้ของเราเพิ่มขึ้นหรอกนะ... แม้ว่าบางกลุ่มจะเอียงเกินไปหน่อย แต่เราก็รับได้นะ...แลกกับที่เราไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มพวกนี้ไง :P เพราะส่วนตัวแล้วแอบเป็นห่วงและเป็นกังวลกับโลกใบนี้เอามากๆ (เราอยู่อเมริกา) เห็นขยะ สิ่งของในแต่ละวันที่เราซื้อของมาแล้วต้องทิ้งแพคเกจไป มันเยอะมากๆ จนน่ากลัว...ซื้อลิปบาล์มแท่งนิดเดียว แพคเกจไรก็ไม่รู้นักหนาเยอะแยะมากมายจนเกินพอดี ซื้อมาแล้วก็ทิ้ง... เดินๆ แถวบ้านเห็นพวกถังขยะใหญ่ๆ มันเต็มเกลื่อนทุกวัน มีแต่ของอะไรก็ไม่รู้เยอะมากๆ ทิ้งกันเข้าไป...บ้านเราเมืองไทยก็คงจะเป็นแบบนี้เหมือนๆ กัน.. อย่างไปร้านกาแฟทีเราเคยไปซื้อแบบเค้าต้องใส่แก้วใหม่ให้ทุกวันนะ พอดื่มเสร็จไม่กี่นานทีทิ้งละ พรุ่งนี้ก็ทำเหมือนเดิม แล้วทำอย่างนั้นทุกวัน ปีนึงไป 200 กว่าวัน ต่อคน คูณเข้าไป มันล้นพ้นจริงๆ นะ...ทุกวันนี้เราเปลี่ยนเป็นเอาแก้วไปให้เค้าใส่ แล้วเอาแก้วกลับมาล้างใช้ได้อีก ลดขยะไปได้เยอะมากๆ เลย ...อีกอันคือถุงพลาสติคที่เค้าใส่ตามร้านให้ ของแค่ 3 อย่างใส่ให้อย่างละ 1 ถุง เราก็เปลี่ยนค่ะ ซื้อถุงผ้าไว้ 5 ใบเลย เอาใส่รถไว้ ซื้อของที่ไหนก็มีถุงผ้าไปตลอดไม่ต้องใส่ถุงพลาสติคเลย.... แอบคิดว่าอีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้า โลกเราจะอยู่ ณ จุดใหน ยังจะมีน้ำให้ใช้กันมั๊ย ...จะมีน้ำมันให้เหลือไว้ใส่รถยนต์ให้เราขับ ให้เราใช้ในอุตสาหกรรมทุกๆ อย่างในโลกนี้กันอีกมั๊ย หากทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมลงจนใกล้จะหมด ง่ายๆ ดูจากน้ำมันนี่แหละอย่างแรก ทีนี้จะเกิดศึกแย่งน้ำมันกันละ สิ่งที่จะตามมาก็คือสงครามนั่นแหละค่ะ ...ไม่อยากจะคิดเลย...ยังแอบอุ่นใจนิดหน่อยที่เรามีลูกยาก เพราะว่าถ้ามีลูกตอนนี้ อนาคตของลูกเราก็คงจะได้อยู่แบบไม่เหมือนที่เราอยู่ ณ ตอนนี้หรอกนะคะ... จุดนึงจากวีดีโอป้าแอนที่อยากจะให้ทุกคนเก็บไปคิดคือการรวมตัวของคนกลุ่มใหญ่ๆ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาสังคม ต่อต้านและแก้ไขด้านมืดของรัฐบาล พวกคนมีเงิน มีอำนาจต่างๆ ตรงนี้มันมีจริงๆ ทุกประเทศ ทุกที่ค่ะ...สามัคคีคือพลัง พอจะช่วยเรื่องการลดอำนาจมืดได้ค่ะ..แล้วก็ช่วยรณรงค์ส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยนะคะ 1 คนช่วยก็ถือว่าได้ช่วยแล้วหล่ะค่ะ คิดตรงนี้กันดีกว่าน๊า ;) ปล. พาออกทะเลซะไกล ต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ :P จากคุณ : ToY (tiny) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 22:03:36

ความคิดเห็นที่ 38 อยากจะพูดเหมือนกันว่าสารเคมีทุกชนิดย่อมมีระดับความเป็นพิษในตัวเอง หรือระดับที่อาจก่อให้เกิดอาการพิษ หากจะถามว่าสารเคมีที่ใช้ในเครื่องสำอางในปัจจุบันมีความปลอดภัยแค่ไหน ก็คงต้องบอกว่าปลอดภัยในระดับที่ "งานวิจัย,หลักฐานทางวิชาการในขณะนี้ยืนยันหรือยอมรับว่าปลอดภัย" หากแต่ในอนาคต หากมีงานวิจัยใด ๆ หรือมีผลกระทบใด ๆ ที่ไม่อาจคาดเดาได้เกิดขึ้นมา สารเคมีที่ "เคยปลอดภัยในขณะนี้" อาจกลายเป็นสารเคมีที่ก่ออันตรายได้ เหมือนกรณีของยารักษาโรค ก่อนออกวางขายก็ต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยในผู้ป่วย เมื่อปลอดภัยในระดับที่ "ยอมรับได้" ก็จะนำออกวางจำหน่าย แต่หากในอนาคตยานั้นดันก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้คนจำนวนมาก ในรูปแบบที่ "ยอมรับไม่ได้" ยานั้นก็จะต้องถูกถอนทะเบียนออกไป เช่นกัน ทุกอย่างต้องฟังหูไว้หู และคิดตาม เพราะหากสารเคมีที่อยู่ในเครื่องสำอาง มีหลักฐานยืนยันในปัจจุบันว่าก่อมะเร็งได้จริงๆ เค้าต้องห้ามใช้ไปแล้วล่ะครับ แม้บางครั้งมีหลักฐานแต่ไม่เพียงพอ หรือยังสงสัยในความปลอดภัย เค้าก็ยังไม่ได้ห้ามให้ใช้นะครับ ปล.ในคลิปแรก Sodium laureth sulfate ที่ขึ้นมาก่อนเนี่ย จะบอกว่าระคายเคืองน้อยและปลอดภัยมากกว่า sodium lauryl sulfate เสียอีก แต่นำเอามาเป็นประเด็นแรกเลยเนี่ยนะ !!! แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 53 01:05:05 จากคุณ : ตัวแสบ : เจมส์ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 00:59:04

ความคิดเห็นที่ 39 ตามความเห็นส่วนตัว เกรงว่าเรื่องนี้จะคล้าย.. "Global Warming" เวลามีคนตื่นตัวออกมาพูดถึงผิดภัยที่เกิดจากความสะดวกสบายที่มนุษย์สร้างขึ้น ก็มักจะมีอีกฝ่ายออกมาโต้แย้ง ว่ามันไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่แย่ขนาดนั้น ไม่จริงหรอก คนเสนอนี่มีจุดประสงค์ยังไงแน่ ฯลฯ อย่างกรณีนี้ เราเชื่อว่าสารเคมีต่างๆ ที่เราได้รับเข้าไป ทั้งจากอากาศ อาหารการกิน สิ่งอุปโภคอื่นๆ มันมีปริมาณมากเกินกว่าความสามารถที่ร่างกายเราจะกำจัดออกไปได้หมด เมื่อไม่หมด มันก็สะสม ก็แล้วแต่ว่าจะใช้เวลาเป็นสิบปี ยี่สิบปี ถึงจะเห็นผล อันนี้เราไม่อาจทราบได้ เพราะไม่มีงานวิจัยผลิตภัณฑ์ชิ้นใด ที่สามารถประเมินผลกระทบในระยะยาาาววววว ถึงขนาดนั้น อีกแง่หนึ่ง เด็ก หรือว่าผู้ใหญ่วัยหนุ่มวัยสาว สมรรถภาพทางร่างกายที่จะทนต่อโรคภัยต่างๆ ก็ยังมีมากอยู่ กว่าจะเห็นผลก็คงเป็นตอนอายุมากขึ้น ถึงตอนนั้นค่อยกังวลระคนสงสัยว่ามันเกิดจากอะไรกัน ยังไม่รวมถึงผลกระทบจากการใช้สารเคมี บรรจุภัณฑ์ต่างๆ ในกิจการอุตสาหกรรม และการใช้ภายในครัวเรือน ที่มีผลกระทบโดยตรงต่อสภาพแวดล้อม (ซึ่งจะกลายเป็นอีกประเด็นไปจึงขอหยุดไว้เพียงเท่านี้) แต่ปัญหาของการนำเสนอในจุดนี้ คือ ไม่มีวิธีที่เป็นรูปธรรมเห็นชัด จะให้ประชาชนทั่วไปทำยังไง ถ้าไม่ใช้ของพวกนี้แล้วจะไปใช้อะไร ทำให้ต้องรู้สึกไม่สบายใจ เป็นกังวล หรือหวาดกลัวภัยใกล้ตัวมากจนเกินไป เกิดความเครียดในการดำเนินชีวิตประจำวันอันสมควรที่จะเป็นไปอย่างปกติสุข นอกจากนี้ สารเคมีต่างๆ ที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ ก็มีประโยชน์ ในส่วนที่ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต ถ้าเราตัดออกไป ประโยชน์ในจุดนี้ก็จะลดลง เช่น สารกันเสียก็ทำให้เราไม่ต้องซื้อของใหม่บ่อยๆ ใช้ได้นาน ทินเนอร์ในยาทาเล็บก็เป็นตัวทำละลาย ทำให้สามารถเก็บยาทาเล็บไว้ได้ ทาง่ายขึ้น ฯลฯ คล้ายๆ กับที่บอกว่า ช่วยลดโลกร้อนต้องลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ อะไรแบบนี้ มันยากแก่การปฏิบัติเพราะมันไม่สะดวก ไม่สบาย นั่นเอง เราคิดว่าวิดีโอนี้ทำเพื่อให้เราระแวดระวังภัยที่เกิดขึ้นใกล้ตัว ที่ถ้าขยายออกไปในวงกว้างทางสังคมมากพอ ก็จะทำให้เกิดแรงผลักดันที่จะแก้ไขจากต้นเหตุ คือ ที่การผลิต ซึ่งก็จะทำให้เรามีผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อร่างกายเราในระยะยาวไว้ใช้ ขอบคุณ จขกท ที่นำมาแบ่งปันกันค่ะ จากคุณ : an-expert-lover เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 07:50:04

ความคิดเห็นที่ 40 รู้มากก็อยู่ยากเนอะ ไอ้นั่นก็มะเร็งไอ้นี่ก็มะเร็ง  ^ ^ จากคุณ : The Best In Me เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 08:07:19

ความคิดเห็นที่ 41 พวกเราชาว ห้องแป้ง เถียงอย่างมี  เหตุผล ไม่เอา มาม่า จากคุณ : Deadlysins เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 08:16:25

ความคิดเห็นที่ 42 จากที่ดูแล้ว ป้าแกค่อนข้างจะโจมตี แบรนด์ใหญ่ๆ อยู่นะ แล้วการที่แบรนด์ใดๆ จะผลิตสินค้าออกมายังไงก็ต้องผ่านมาตรฐานการผลิต และการตรวจสอบ สารพิษต่างๆ ไม่ให้มีปริมาณมากขนาดที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิต (ไมได้บอกว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะไม่มีสารที่อาจจะมีแนวโน้มดังกล่าว หากมี ก็ต้องอยู่ในระดับที่ต่ำมากๆ กว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้) อย่างไรก็ดีผู้บริโภคอย่างเราๆ เนี่ยแหละ ที่จะต้องใช้วิจารณญาณอย่างมากๆ ก่อนที่จะเชื่อ ไม่ใช่เชื่อตั้งแต่แรกที่ฟัง ขอบคุณ จขกท และ คุณ Deadlysins สำหรับทั้ง 2 คลิปที่มาหักล้างกันค่ะ จากคุณ : ชฎาแหลม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 15:08:56

ความคิดเห็นที่ 43 ก็น่าจะจริงบ้างบางส่วน เพราะไอ้ส่วนผสมที่ใส่ลงไปมันก็เป็นสารเคมีทั้งสิ้น มันอาจจะเป็นสารก่อมะเร็งแต่ก็คงเป็นปริมาณที่น้อยมาก ๆ สงสัยอย่างหนึ่งว่า พวกนักเภสัชเคมีหรือนักวิจัยที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้โดยตรง เค้าจะใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้กันมั้ยนะ แล้วจะเลี่ยงกันได้รึเปล่า เพราะดูเหมือนว่ามันจะเลี่ยงไม่ใช้ไม่ได้เลยเพราะส่วนใหญ่ก็เป็นของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันแทบทั้งนั้น จากคุณ : Nivi เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 15:25:27

ความคิดเห็นที่ 44 สงสัยต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเองน่ะ แบบคนโบราณ จากคุณ : FUNKY BUNNY เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 15:36:52

ความคิดเห็นที่ 45 โลกเรา ณ วันนี้ มีหรือที่จะพ้นได้? พอลลูชั่นแวดล้อมไป อยู่ที่ใดก็ต้องเจอ.... หลีกลี้ให้หลุดพ้น มีเพียงหนทางเดียวเสนอ สิ้นลมนั่นแหละเธอ ที่ไม่เจอสารเคมี.... ป้ามีนร้อยกรอง(ท่ามกลางควันพิษกลางเมืองและสารเคมีในบ้าน) จากคุณ : meenna เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 02:16:50

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณมากนะคะ ได้ฝึกทักษะการฟังด้วย ปล.ป้าแอนพูดเหมือนกล่าวสุนทรพจน์เลย จากคุณ : Jumboja เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 03:13:12

ความคิดเห็นที่ 47 "they dont even require all of the ingredients be listed on the label" ในนาทีที่ 5.50 ฟังแล้วอึ้งไปเลยอ่ะ แล้วผู้ผลิตจะทำจริงๆหรอ กับการดึงเอาสารเคมีออกจากผลิตภัณท์แล้วเขียนระบุไปตามตรง จากคุณ : Adenin เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 09:41:17

ความคิดเห็นที่ 48 อนิเมชั่นน่ารักดี... ถ้าอิป้านี่บอกว่าเครื่องสำอางมีสารเคมี... อิป้าจะแต่งหน้าทำไมจ๊ะ!! จากคุณ : Maneki-Maple เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 10:34:06

ความคิดเห็นที่ 49 เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบนั่งอ่านส่วนผสมหลังขวด/กล่อง เครื่องสำอาง แล้วก็พบว่า แทบจะทุกๆ ชนิดจากทุกๆ แบรนด์ที่บำรุงทั้งหลายทั้งแหล่ ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า มีส่วนประกอบคล้ายๆ กันหมด ถ้าเชื่อวีดีโอนี้ก็อย่าได้ทาแม้กระทั่งแป้งเด็กเลย -*- ไปเอาแป้งมันสำปะหลังมาทาหน้าซะ จากคุณ : Vivace' Petit Lapine เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 18:54:10

ความคิดเห็นที่ 50 ดูวิดิโอแรกของแอนนี่จบแล้ว คิดเหมือนวิดิโอที่สอง(ตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดดู)เลยค่ะ มีแต่พูดคำที่น่ากลัวๆๆๆ ออกมาแต่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยอมรับเลย เหมือนขู่ให้กลัวมากกว่า แต่ไม่มีเหตุผล ชอบคำนี้ของวิดิโอที่ออกมาแย้งมาก "inform people with FACTS, not FEARS" อดคิดไม่ได้ว่าคงรับเงินจากพวกผลิตภัณฑ์ฝั่งกรีนมาโจมตีแหงๆ (p&g, estee โดนไปเต็มๆ) จากคุณ : ถ้วยน้ำชา กับเทวดาตัวจิ๋ว เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 10:31:19

ความคิดเห็นที่ 51 ตอนแรกเราก็ตกใจนะ เพราะออกมาก็ แพนทีน เลย ( ใช้อยู่ ชอบมาก ) อ่านจบแอบกลัว แต่พออ่านทุกความเห็น ของเพื่อนในห้องแป้งแล้ว รู้สึกว่า ถ้ามันจะเป็นมะเร็งหรืออะไร ก็ถือว่าเป็นกรรม เป็นเวรแล้วกันค่ะ ให้เลิกใช้คงไม่ได้ เพราะอาจจะลงแดงตายก่อน ถ้าไม่ได้ใช้เครื่องสำอางค์ จากคุณ : ช่างมัน...เถิด (ดอกหญ้า กลางป่าฝน) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 19:48:10

ความคิดเห็นที่ 52 Happy Birth Day  to ...Vivace' Petit Lapine ... สุขสันต์วันเกิดนะคะ ....ขอให้ทุกวันมีแต่ความสุข นะคะ จากคุณ : อยากให้ทุกคนมีแต่ความสุข (ดอกหญ้า กลางป่าฝน) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 19:55:08

ความคิดเห็นที่ 53 ขออนุญาตแตกกระทู้นะคะ จากคุณ : KiChiKo เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 17:59:44

ความคิดเห็นที่ 54 ถ้าเครื่องสำอางมันไม่ดีขนาดนั้น...แล้วเ้ค้าแต่งหน้ามาออกรายการทำไมอ่ะ - -" จากคุณ : stacynarak เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 23:44:46