ความคิดเห็นที่ 1 ข้อมูลทั่วไป..เอามาให้อ่านกันค่ะ คุณค่าที่มากกว่า...ยาคุม  ที่มาข้อมูล : http://www.healthandcuisine.com นอกจากประโยชน์หลักเพื่อการคุมกำเนิดแล้ว ยาคุมยังมีข้อดีมากมาย ทั้งในแง่สุขภาพและความงาม ด้านสุขภาพ -ภาวะประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ผู้หญิงหลายคนเสียเลือดไม่น้อยในแต่ละเดือนด้วยเหตุประจำเดือนมามาก หากนั่นไม่ใช่สาเหตุจากเนื้องอก ทางออกคือการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูก เพื่อให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอในปริมาณที่เหมาะสม -ลดอาการปวดประจำเดือน ผู้หญิงแทบทุกคนต้องเคยเผชิญกับการปวดทรมานระหว่างมีประจำเดือนไม่มากก็น้อย บางรายถึงขั้นปวดจนหมดสติ นั่นเพราะขณะตกไข่จะมีการหลั่งสารที่เพิ่มแรงบีบตัวของมดลูก การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดจะเข้าไปช่วยระงับการตกไข่และลดปริมาณประจำเดือน และ 90 เปอร์เซ็นต์ของคนไข้ พบว่าอาการปวดหายไป ส่วนรายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอาจสันนิษฐานได้ว่ามีความผิดปกติที่โพรงมดลูก หรือมีก้อนเนื้อช็อคโกแลตซีสต์ -รักษาอาการเยื่อบุโพรงมดลูกงอกผิดที่ โดยฮอร์โมนจะเข้าไปทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อ ใช้ได้ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด -รักษากลุ่มอาการก่อนประจำเดือน หงุดหงิด ซึมเศร้า ก้าวร้าว ท้องอืด ขาดสมาธิ อาการบ่งบอกว่าถึงเวลามีประจำเดือนช่างน่ารำคาญ การใช้ยาคุมกำเนิดที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนโปรเจสติน ชื่อโดรสไพร์โนนจะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 53 14:55:35 จากคุณ : เจ้า หญิง ชิน จัง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 14:55:01

ความคิดเห็นที่ 2 ด้านความงาม รักษาสิว ดูแลผิวพรรณ ปัจจุบันมียาคุมกำเนิดหลายยี่ห้อโปรโมทสรรพคุณด้านความงาม นั่นเพราะมีฮอร์โมนโปรเจสตินบางตัวไปออกฤทธิ์ต้านฮอร์โมนแอนโดรเจน ทำให้สิวลดลง ผิวพรรณเนียนเรียบ แลดูผิวสุขภาพดีขึ้น และบางยี่ห้อยังมีสารช่วยขับน้ำ ที่ช่วยลดอาการบวมน้ำและไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มหลังกินยาคุม แต่ข้อผิดพลาดที่ผู้บริโภคมักเข้าใจผิดคือ กินยาคุมเพื่อรักษารูปร่าง ไม่ให้เกิดภาวะอ้วน ซึ่งจริงๆ แล้ว ยาคุมไม่เกี่ยวกับความอ้วนแต่อย่างใด เพราะแทบไม่มีผลต่อน้ำหนักของผู้บริโภคเลย การจะอ้วนขึ้นหรือผอมลงขึ้นอยู่กับการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายมากกว่า ดังนั้น ความเชื่อที่ว่า"ลดสิว ผิวสวย" จึงใช้ได้จริง ส่วนจะอ้วนหรือไม่อ้วนขึ้นอยู่กับคุณไม่ใช่ยาคุม อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักในการใช้ยาคุมคือเพื่อการคุมกำเนิด ส่วนประโยชน์อื่นๆ ร วมทั้งผิวพรรณที่สวยงามขึ้นนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้ การจะใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อบำรุงผิวพรรณ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเท่าไรนัก แม้จะไม่มีผลข้างเคียง แต่อย่าลืมว่ายาคุมไม่ใช่อาหารเสริม ยาคุมกำเนิด เป็นยาที่ต้องใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน มีประโยชน์หลักเพื่อการคุมกำเนิด ส่วนผิวพรรณสวยงามเป็นเพียงผลพลอยได้ และปัจจุบันยังไม่มีข้อกำหนดแน่นอนว่าควรใช้กี่ปีจึงจะปลอดภัย อาจใช้ได้นานถึง 10 ปี แต่เพื่อให้มั่นใจ ผู้ที่ใช้ยาคุมเป็นประจำควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายทุกปี จากคุณ : เจ้า หญิง ชิน จัง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 14:55:52

ความคิดเห็นที่ 3 ยาคุมที่เคลมเรื่องสิวเป็นแบบกินนะค่ะ ส่วนแบบฉีด แบบแปะ เนี่ยเค้าไม่ได้เคลมเรื่องสิวนะค่ะ ยาคุมทุกตัวจะมี Estrogen เหมือนกันหมดค่ะ แต่ปริมาณจะต่างกันไปเพื่อลดผลข้างเคียงค่ะ แต่ยาคุมจะต่างกันก็ตรง Progestogen ส่วน Progestogen หรือ progestin เนี่ยแหละที่เค้าจะเคลมว่าลดสิว ลดมัน ต้องดูที่ generation จ้า ยาคุมที่เคลมว่าลดสิวลดมันในท้องตลาดก็เหมือนจะมี Oilezz, Yaz, Yasmin, Diane 35 ยังไงสอบถามเภสัชกรนะจ๊ะ ^^ อ่อ ยาคุมที่เคลมว่าลดความอ้วน หุ่นดีไรงี้ มันเป็น Progestin ที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะคะ เลยลดน้ำ ลดบวม แต่ไม่ได้ลดความอ้วนนะจ๊ะ ^^ จากคุณ : jairm เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 18:00:29

ความคิดเห็นที่ 4 ของเราหมอสั่งให้กิน เพราะประจำเดือนมาไม่ปกติ ขาดที 7 เดือน กินเพื่อปรับระดับฮอร์โมนให้ปกติและลดฮอร์โมนเพศชาย ผลพลอยได้ก็สิวหาย มีน้ำมีนวลขึ้น ไม่ปวดประจำเดือน กิน 6 เดือน เว้น 1 เดือน  เราถูกกะยี่ห้อไดแอนไม่มีอาการข้างเคียง จากคุณ : เทราปตี เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 19:02:37

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องดูส่วนประกอบในตัวยาแต่ละเม็ดด้วยนะคะ ยาคุมไม่ได้มีแบบเดียว  มีฮอรโมนสูงต่ำ อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด บางคนแพ้อันนั้น ถูกกันอันนี้  กว่าจะค้นหาตัวที่ได้ผลก็ใช้เวลานานอยู่น๊า บางคน กินแล้วสิวหาย แต่ฝ้าบังเกิด ซวยกว่าเดิมอีกง่ะเราว่า จากคุณ : มิสพรหล้า เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 19:19:41

ความคิดเห็นที่ 6 คือไม่อยากได้ประเด็นหายจากสิวนะค่ะ.. แค่อยากแชร์ว่าผลลัพธ์จากการทานยาคุมกำเนิดมันเป็นยังไง และต้องการวิธีการคุมกำเนิดในอนาคตค่ะ.. จากคุณ : เจ้า หญิง ชิน จัง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 19:53:07

ความคิดเห็นที่ 7 หมอไม่เคยแนะนำให้ทานยาคุมเพื่อรักษาสิวเหมือนกัน เหตุผลก็ตามที่คุณว่า มันไม่ได้รักษาอย่างแท้จริง (แค่เป็นการ "กด" ฮอร์โมน ซึ่งพอเลิกกินก็เหมือนปล่อยผีกลับมาเหมือนเดิม) จากคุณ : ณ พิชา เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 20:23:40

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าใช้ยาคุมมานานแล้วเลิกทานจะมีลูกยากคะ  แนะนำให้ใส่ถุงยาง แต่ถ้าคุณแฟนไม่ชอบใส่ก็คงต้องทานยาคุมละคะ คุมเขาไม่ได้ก็ต้องคุมเราละคะ   แต่ไม่แนะนำยาคุมแบบฉุกเฉิน   นอกนั้นก็อย่างข้อมูลที่จขกท.มีละคะ จากคุณ : madamnoir เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:42:00

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเสริมคห.8นะคะ เคยถามคุณหมอเรื่องว่าจะมีบุตรยากหรือเปล่า คุณหมอบอกว่าไม่เกี่ยวนะคะ อันนี้ได้ยินมาหลายหมอแล้วด้วย คิดว่าน่าจะเป็นที่ตัวบุคคลมากกว่า พอเลิกกินเพราะต้องการมีบุตร ก็อาจจะต้องรอให้ร่างกายปรับตัวสักนิด ยกตัวอย่างเช่น คนที่หยุดยาคุมแล้วประจำเดือนไม่มานั่นแหละคะ (อันนี้คหสต.) ส่วนตัวกินยาคุมเพื่อต้องการรักษาสิวคะ รายละเอียดคุณ เจ้า หญิง ชิน จัง ได้ให้ไว้เยอะมาก แล้วก็เห็นด้วยคะ จากคุณ : b.rabbitz เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 17:14:38

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ตห.8 เลิกทานปุ๊บมาปั๊บเลยค่ะ ไวกว่าขี่จรวจอีก ฮี่ๆๆ จากคุณ : มิสพรหล้า เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 18:46:01

ความคิดเห็นที่ 11 สำหรับตัวเอง ทานยาคุมเพื่อคุมกำเนิดค่ะ ทานติดต่อกันมาได้ เกือบ6ปีค่ะ หลังคลอดลูก ช่วงหลังคลอดลูกใหม่ๆ ไม่ได้ซีเรียสกับยี่ห้อยาคุมฯเท่ารัยค่ะ เพราะเราเน้นการคุมกำเนิดเป็นหลัก เลยเลือกซื้อชนิดที่ถูกๆ ยิ่งถูกยิ่งดี   แต่พอทานไปได้สักพัก หน้าเริ่มมัน หนังศีรษะก้อมัน และผมก้อร่วง และรุ้สึกว่าหน้าตาดูโทรมๆ ไม่สดใสค่ะ และปรึกษาน้องสาวที่เป็นเภสัชฯว่ามีอาการแบบนี้มันเกี่ยวกับอะไร น้องสาวก้อบอกว่าให้ลองเปลี่ยนยาคุมดีกว่า เพราะที่ทานอยู่ มันมีฮอร์โมนเพศชายสูง ซึ่งน่าจะไม่เหมาะกับร่างกายของเรา จึงมีผลข้างเคียงแบบนี้  ก้อเลยแนะนะ ยาสมิน ค่ะ เลยเปลี่ยนมาทานยาสมิน  ผลคือ ดีขึ้นค่ะ แต่ไม่ถึงกับดีที่สุดนะค๊ะ ทานมาได้สักพัก (ไม่ถึงปี) น้องสาวก้อบอกว่ามียาคุมออกมาใหม่ อีกตัวมาตีกับยาสมิน ชื่อว่า ออยเลส  มีสรรพคุณช่วยลดหน้ามัน ผิวสวย ไม่อ้วน  และเปลี่ยนมาทานตั้งแต่นั้นมาค่ะ และทานติดต่อกัน มาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปีกว่าค่ะ  ผลที่ตามมีคือ ผิวใส ผมสวย คิดว่าเราน่าจะถูกกับยาคุม ออยเลสมากที่สุดค่ะ   แต่พอหลังจากนั้น ผ่านมา 3 กว่าเกือบ4ปี เภสัชก้อแนะนะให้ลองทาน ยาคุมยี่ห้อ มินิดอซ ดูค่ะ บอกว่าทานแล้ว ผิวสวย ผมสวย และที่สำคัญถูกกว่าด้วยค่ะ แผงหนึ่งประมาณ ร้อยกว่าบาท ซึ่งเทียบกับออยเลสตกแผงหนึ่ สามร้อยกว่าบาท  เลยเปลี่ยนมาทาน มินิดอซ ค่ะ  (ไม่น่าเล๊ยยยย) ผลที่ตามมา คือ  หลังจากทานแผงแรก ปกติค่ะ พอแพงที่2 ระหว่างทานยา มีเลือดออกกระปริบกระปรอย ตอนแรกก้อสงสัยว่าเราลืมทานยาวันไหนหรือป่าว ก้อป่าวลืมนะเพราะดูที่แผงยาแล้วก้อทานครบทุกเม็ดไม่ลืมเลย และเริ่มมีอาการหน้ามัน ผมร่วงมากกกกกกกกกกก แต่ก้อยังคงทานยาต่อในแผงที่3 เพราะเราก้อไม่ทราบสาเหตุว่า มาจากยาคุม จึงซื้อทานต่อ   พอทานหมดแผงที่3 ไม่ไหวแล้วค่ะ เพราะระหว่างที่ทานยังมีรอบเดือนออกกระปริบประปรอยเหมือนเดิม หน้าก้อมันมาก ผมร่วงสุดๆๆๆๆๆ พอหมดแผงที่3 จึงตัดสินใจหยุดทานยาค่ะ  และไปพบหมอสูติฯ เพื่อปรึกษาและเช็คเลือดว่าเราเปนอะไร ทำไมผมร่วงมากขนาดนี้ ตอนนั้นคิดในใจว่าน่าจะเกี่ยวกับยาคุมมินิดอซที่ทาน แต่พอเช็คผลเลือดออกมาปกติดีค่ะ  เลยปรึกษาคุณหมอเรื่องยาคุม คุณหมอบอกว่าการทานยาคุมกำเนิด ถ้าเราถูกกับยี่ห้อไหนแล้ว ก้อไม่ต้องเปลี่ยนค่ะ  เราอาจจะถูกกับยาคุมที่มีฮอร์โมนเพศญสูง เช่น ออยเลส หรือยาสมิน  แต่ไม่ถูกกับ มินิดอซ  ซึ่งเป็นยาคุมฯ ที่มีฮอร์โมนเพศญต่ำมากๆ  จึงทำให้มีผลข้างเคียงดังกล่าวค่ะ ณ ตอนนี้จึงกลับมาทานออยเลสอีกครั้ง ทานมาได้แผงที่2แล้วค่ะ ผลเป็นที่น่าพอใจมากกกกกก พอหน้าไม่มันแล้ว ส่วนอาการผมร่วง ก้อดีขึ้นมากค่ะ คงจะทานต่อไปเรื่อยๆ สักพักหนึ่งเลย จากคุณ : LOVELYview เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 11:13:24

ความคิดเห็นที่ 12 งั้นแสดงว่าขึ้นอยู่กับแต่ละคนแล้วคะ เพราะเท่าที่ประสบพบมาจากหลายๆ ถ้ากินนาน(เกิน5ปี)จะยากค่ะ ถ้าป็นแบบนั้นอาจขึ้นอยู่กับแต่ละคนเนอะ จากคุณ : madamnoir เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 04:53:19

ความคิดเห็นที่ 13 ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 04:54:33 จากคุณ : madamnoir เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 04:53:54