ความคิดเห็นที่ 1 รู้แต่ว่า ผมดัดใช้ จอยโกะ แล้วดีมาก พอลมิเชลยังสู้ไม่ได้ สำหรับผมของเราน่ะนะ จากคุณ : สายลับ2หน้า เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 23:41:08

ความคิดเห็นที่ 2 เคยใช้ทั้ง 2 อย่างขอตอบตามผลการใช้ของตัวเองนะคะ ลักษณะผมเส้นใหญ่ หยักศก หนา ยาวปานกลาง ดัดดิจิตอลปีละครั้ง ทำสีปีละ 2 ครั้ง ปลายแห้ง เคยใช้ Joico Moisture Intense Hydrator Treatment 500 ml , Kerastase Age Recharge 500 ml. และ  Kerastase Oleo-Curl Intense 500 ml. ร่วมกับแชมพูอื่นๆตามท้องตลาด ไม่ได้ใช้เป็นเซต ใช้วันเว้นวัน หลังสระผมเอาหมวกอาบน้ำครอบทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ความเห็นส่วนตัว ถ้าแก้ปัญหาผมแห้งเสีย ชอบ Kerastase Age Recharge มากกว่าค่ะ เพราะเราดัดผมใช้ Joico แล้วผมไม่พริ้ว ลอนแตก แต่มันดีตรงที่ผมดูเงาๆกว่า Kerastase และแน่นอนว่าถ้าต้องการลอนผมก็ต้องใช้ Kerastase Oleo-Curl Intense มันทำให้เซตลอนง่าย แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องปลายผมแห้งๆของเราสักเท่าไหร่ สุปว่า ณ ตอนนี้เราก็ยังใช้ Kerastase Age Recharge อยู่เหมือนเดิม และยังดัดผม ทำสีอยู่เหมือนเดิม แต่ไม่ได้ใช้ Kerastase Oleo-Curl Intense แล้วค่ะ เพราะได้ลองใช้ Loreal Shine Curl Masque แล้วก็ได้ผลเหมือนกัน ราคาถูกกว่านิดหน่อย จากคุณ : dream2dream เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 00:05:58

ความคิดเห็นที่ 3 เราจะเทียบเป็นรุ่น ๆ ให้เท่าที่เคยใช้มาทั้งสองแบรนด์น่ะค่ะ ตามตัวที่มีคุณสมบัติคล้าย ๆ กันค่ะ ถ้าผมเสียมากแบบปลายแห้งเป็นไม้กวาด แนะนำตัว -Joico K-Pak Deep Penetrating Reconstructor  (8.5 oz $20.19 , 33.8 oz $35.19)ค่ะ ตัวนี้จะช่วยบำรุงผมเสียให้กลับมามีสุขภาพดี แต่ผมจะไม่นุ่มลื่นน่ะค่ะ เราผมเสียจากยืดผม แบบจับแล้วเรียกไม้กวาดเลยค่ะ หมักตัวนี้ไปทีเดียว ผมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด http://www.sleekhair.com/2420.html ราคาตามลิงค์ค่ะ ซึ้งถือว่าถูกมาก เราเลยไม่อยากเอาไปเทียบกับเคราส แต่ผลลัพธ์เราพอใจมากกว่าตัว Kerastase Resistance Age Recharge - Firming Masque for Hair Losing Vitality (6.8 oz$45.59 , 16.9 oz $89.99) อ้างอิงราคาจาก http://www.sleekhair.com/24115.html  ซึ่งราคาต่างกันสี่ห้าเท่าเลยทีเดียว   ซึ่งทั้งสองตัวเน้นเน้นบำรุงผมที่แห้งเสียให้สุขภาพดีจากตัวภายในโครงสร้างเอง หลังใช้จึงไม่ได้ความรู้สึกนุ่มลื่นแบบ hair mask ทั่วไป ตัวเคราสนั้น ต้องใช้ไปนาน ๆ กว่าจะรู้สึกว่าผมดีขึ้น แต่ตัว joico นั้นสำหรับคนที่มีผมเสีย แค่ใช้ครั้งเดียวก็รู้สึกได้ว่าดีขึ้น -Joico K-Pak Intense Hydrator Treatment for dry, damaged hair   (8.5 oz$13.49 , 33.8 oz $28.49)จาก http://www.sleekhair.com/9804.html เทียบกับเคราสตัว Kerastase Nutritive Oleo-Relax Smoothing Mask - for dry & rebellious hair (6.8 oz$54.99 , 16.9 oz $89.99) อ้างอิงราคาจาก  http://www.sleekhair.com/24111.html สองตัวนี้ถือว่าสูสีกันเลยทีเดียวทั้งเรื่องความชุ่มชื่นความนุ่มลื่นหลังใช้ เราให้เต็มสิบทั้งคู่ แต่พอมาเจอราคาที่ต่างกันถึง 4-5 เท่าแล้ว เราเลือก joico อย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ หากใครที่ผมไม่ได้เสียบำรุงผมด้วยตัวนี้ก็เพียงพอ แล้วค่ะ ข้ามตัวแรกมาได้เลยค่ะ -Joico K-Pak Protect & Shine Serum <1.7 oz$12.69> อ้างอิงจาก http://www.sleekhair.com/2421.html ท้าชนกับ Kerastase Nutritive Oleo-Relax Smoothing Controlling Care Serum (4.2 oz$34.99)   อ้างอิงจาก http://www.sleekhair.com/24104.html สองตัวนี้ถือว่าราคาไม่แตกต่างกันมาก คุณสมบัติก็ใกล้เคียงกันคือให้ผมเรียบลื่น ดูสุขภาพดี ผมไม่พันกัน แต่ก็ยังเทใจให้ joico มากกว่าตรงที่ ถึงจะหนักมือขนาดไหนก็ไม่ทำให้ผมมันเยิ้ม แต่เคราสถ้าหนักมือไปผมจะดูมันเยิ้มทันที แต่ชอบกลิ่นของเคราสมากกว่าค่ะ ส่วนแชมพูและครีมนวดในเราใช้ joico k-pak ซึ่งเราว่าสูสีกันกับ Kerastase Resistance   กลิ่นหอมถูกใจเราทั้งคู่ แต่เราชอบกลิ่นเคราสมากกว่า แต่กับราคาที่ต่างกันสี่ห้าเท่าแล้ว joico k-pak จึงชนะขาดไม่ต้องสงสัยค่ะ ส่วนราคาในไทยนั้นสูสีกันทั้งสองยี่ห้อซึ่งเรารับไม่ได้เลยค่ะ joico อัพราคาจนเวอร์ให้ความรู้สึกเหมือนถูกหลอก ซื้อไม่ลงกันเลยทีเดียว ในขณะที่เคราสราคาก็พอสูสีกับที่อเมริกาต่างกันแบบพอรับได้ ตามเวปหิ้ว joico นั้นขนาดใหญ่ ๆ ก็อัพราคาจนเวอร สงสัยจะแข่งกับตัวแทนนำเข้า แต่ขนาดเล็กนั้นราคาก็พอคบได้ ถ้ามีคนรู้จักอยู่อเมริกาสั่งจากเวปไปลงบ้านเค้าแล้วค่อยให้เค้า ship ต่อไปเมืองไทยน่าจะคุ้มสุด ไว้ว่าง ๆ อากาศดีดีแล้วเราจะมารีวิวแบบละเอียดให้อีกทีน่ะค่ะ ช่วงนี้อากาศหนาวไม่อยากทำอะไรเลยทีเดียว จากคุณ : แหม่ม (ม่าม๊ามิกกี๊) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 07:30:46

ความคิดเห็นที่ 4 โอ้ว อยากจะขอบคุณคุณแหม่ม (ม่าม๊ามิกกี้) ด้วยคน ตอบละเอียดมากมาก ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : ส้มจุกคลุกน้ำปลา เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 08:58:29

ความคิดเห็นที่ 5 ค่ะ คุณส้มจุกคลุกน้ำปลา  พอดีเราใช้แล้วชอบมากเลยอยากแชร์หน่ะค่ะ ตัวสุดท้ายน่ะค่ะ -Joico K-Pak Smoothing Balm (6.8 oz $14.19) อ้างอิงจาก http://www.sleekhair.com/2422.html  เทียบกับตัว Kerastase Resistance Ciment Thermique - Heat-Activated Reconstructor Milk for weakened hair (4.8 oz$35.99) คู่นี้ราคาต่างกันเกือบสี่เท่าตัวเลยทีเดียว ใช้สำหรับบำรุงผมในขั้นตอนที่ใช้ความร้อน ใส่ก่อนไดร์ผม หรือ หนีบผมก็ได้ค่ะ  ตัว joico นั้นใช้แล้วหนีบผมตามได้ความรู้สึกที่ดีมาก ๆ ผมทั้งนุ่มลื่นชุ่มชื้น หลงรักผมตัวเองทันทีเลยค่ะ แถมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ติดผมไปทั้งวันด้วย ส่วนเคราสนั้น ใช้กับไม่ใช้ไม่รู้สึกต่างกันเท่าไหร่ ไม่รู้บำรุงแต่ข้างในรึเปล่า แต่เราก็ไม่รู้สึกว่าผมดีขึ้นน่ะ แต่กลิ่นมันหอมดี หอมอ่อน ๆ แบบผมสะอาด ใช้ให้รู้สึกว่าได้บำรุงเท่านั้นเอง แถมราคา joico ถูกซะขนาดนี้เลยไม่ทันไปแลเคราสอีกเลยค่ะ ตอนนี้เอาแอบสนใจอยากลองของ mibon มากค่ะ แต่ราคาก็เอาเรื่องอยู่ รอjoico หมดสต๊อกคงต้องสอยมาลอง ตัว mibon นี่รู้สึกจะดังมากทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลี แต่เป็นของญี่ปุ่นน่ะค่ะ ตอนไปที่ร้านเกาหลีพนักงานก็แนะนำของ mibon ให้ แต่ตอนนั้นสอย joico มาแทนซะงั้น พอมาอ่านรีวิวตามในเวปทีหลัง เลยสนใจอยากลองขึ้นมา ไว้ได้ลองแล้วจะมารีวิวเทียบทั้งสามตัวให้น่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 11:46:06 จากคุณ : แหม่ม (ม่าม๊ามิกกี๊) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:43:55

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณ คุณแหม่มด้วยคนค่ะ  ข้อมูลแน่นจริงๆ  พอดีตอนนี้เราใช้ตัวบำรุงผมของ Kerastase อยู่ค่ะ  อยากลองใช้ Joico บ้าง ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ :) จากคุณ : ใจดีจัง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 13:17:19

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกคนมากนะคะ โดยเฉพาะคุณ แหม่ม (ม่าม๊ามิกกี๊) ได้ข้อมูลเพียบเลย ขอบคุณมาก ๆ นะคะ จากคุณ : ปลายใบ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 20:35:12