 |
Filler สิ่งที่ควรรู้เบื้องต้นก่อนฉีด
|
 |
อ่านห้องแป้งมานาน ไม่เคยตอบเลย แต่เห็นเพื่อนๆหลายคนเริ่มสนใจที่จะฉีด Filler กันมากขึ้น เลยอยากเขียนความรู้เล็กน้อย (เท่าที่จะพอมี) ให้เพื่อนๆใช้ในการตัดสินใจฉีดกันครับ
Filler หรือ Hyaluronic acid คือสารที่จริงๆแล้วก็มีอยู่ในร่างกายนี่แหละ มันสามารถที่จะอุ้มน้ำได้มาก เป็นส่วนประกอบของผิวเราเอง พออายุมากกว่า 25 ปี ก็จะเริ่มลดลงทุกปีๆ ทำให้หน้าเราดูหย่อนคล้อยลง
จึงมีการนำสารดังกล่าวมาฉีดกลับเข้าไปที่หน้าใหม่เพื่อเติมเต็มหน้าเราให้เต่งตึงเหมือนเดิม หรือเพื่อเติมล่องลึกบนใบหน้า
ปัจจุบันที่นิยมฉีดกันมากได้แก่ ร่องน้ำตา(tear trough) เสริมจมูก, ร่องแก้ม (nasolabial) แก้มตอบ หรือแม้กระทั่งการยกหน้าให้กระชับ เป็นต้น
ข้อดีก็คือ ไม่ต้องผ่าตัดหรือวางยาสลบ ฉีดแล้วเห็นผลเลย ข้อเสียคือ ไม่ถาวร แพงงงงง
ในตอนนี้ Filler ที่ฉีด สามารถอยู่ได้จริงๆ ประมาณ 1 ปี หรืออาจมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับชนิดของสาร ยิ่งสารโมเลกุลใหญ่ยิ่งอยู่ได้นาน แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย สารนี้จะต้องสลายไปตามกาลเวลา เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้น โครงหน้าจะเปลี่ยนไป ถ้า Filler ที่ฉีดไม่สลายเลย มันจะไหลไปอยู่ที่อื่น ทำให้รูปหน้าแย่กว่าเดิม ก็เหมือนกับการเสริมจมูกด้วยการผ่าตัด เมื่ออายุมากขึ้น ซิลิโคนจมูกจะชัดขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น Filler ที่หมอนำมาฉีดให้เราก็ควรเป็น filler ที่ได้มาตรฐาน อย่าดูที่ราคาถูกอย่างเดียว เพราะ filler บางตัวที่หมอนำมาฉีดให้เรา บางตัวอ้างว่าอยู่ได้นานหลายปี เพราะมีการผสมสารตัวอื่นลงไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ ในระยะยาว เพราะถ้นานเกินไปจะเป็นอันตรายได้ครับ ดังนั้น อย่าเห็นแก่เรื่องราคาอย่างเดียว filler ควรได้มาตรฐานด้วย
ซึ่ง Filler ในไทยที่ได้ อย.แล้วเช่น Restylane , Esthelis ก่อนฉีดต้องถามก่อนว่าใช้ยี่ห้อไหนฉีด และแต่ละยี่ห้อก็มีหลายรุ่นอีก
คือถ้าโมเลกุลใหญ่ ต้องฉีดลึกๆ เช่นร่องแก้ม ถ้าเอาฉีดตื้นๆก็จะเป็นก้อนๆ ที่ผิวเรา
ถ้าโมเลกุลเล็กๆ ต้องฉีดตื้นๆ เช่นรอยย่นเล็กๆ หรือต้องการยกกระชับทั้งหน้า ถ้าเอาไปฉีดที่ร่องแก้ม ยาก็อยู่ไม่นานก็สลายไป
Restylane ก็จะมี Restylane touch (เล็กสุด) - Restylane (R1) - Restylane Perlane
Eshtelis ก็จะมี soft (เล็กสุด), basic , fortelis , Modelis
ก็แล้วแต่หมอจะเลือกตัวไหนให้เหมาะกับตำแหน่งที่จะฉีดบนหน้าของเราครับ ยิ่งโมเลกุลใหญ่ยิ่งอยู่นาน แต่ราคาแพงครับ ซึ่งบางครั้งก็ไม่ได้อยู่นานถึง 1 ปีหรอกครับ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดด้วย
ดังนั้น การเลือกที่จะฉีดนั้น ต้องดูทั้งเรื่องยาที่จะฉีดว่าได้มาตรฐานหรือไม่ แพทย์ที่จะฉีดมีประสบการณ์หรือไม่นะครับ อย่าดูที่ราคาอย่างเดียว
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของความสวยความงาม ไม่ใช่โรคที่เป็นแล้วตายครับ พิจารณาให้ดีก่อนฉีดครับ
และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างครับ
จากคุณ |
:
JFent
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ก.พ. 54 11:07:48
|
|
|
|  |